รักของจันทรา

ถ้าไม่เรียกว่าซวยจะเรียกว่าอะไร ในเมื่อศศิกานต์ถูกจับให้เป็นดินคณะ หรือตัวตลกในสายตาคนอื่นเพียงเพราะเธออัปลักษณ์และตัวสูงใหญ่กว่านางแบบอย่างสุปรีย์  พร้อมฉายาที่ตั้งขึ้นใหม่  กอริลล่า

แถมยังถูกกลั่นแกล้งจากคนทั้งคณะ แทนที่ต่อสู้ศศิกานต์กลับหลบสายตา ทำให้สุปรีย์หรือดาวคณะต้องออกมาปกป้อง 

“เห็นอย่างนี้แล้วหงุดหงิดจริงๆ ทำไมไม่ตอบกลับไปบ้าง ยอมให้เขาแกล้งอยู่ฝ่ายเดียวทำไม“  สุปรีย์ใส่  “เนี่ยถ้าเขาตะคอกใส่แบบนี้  ก็ตอบกลับมาบ้างสิ ตะโกนกลับมา“

ศศิกานต์น้ำตาคลอ ทั้งเคยโดนบูลลี่มาตั้งแต่เด็กๆ แถมคนที่แกล้งเธอนั้น ไม่ใช่แค่คอนสองคน แต่เป็นคนทั้งคณะ  เธอจะเอาอะไรไปตอบโต้

เมื่อโชคชะตาทำให้ทั้งคู่ใกล้ชิดกัน ก็สามารถจับแยกพวกเธอไปคนละซีกโลก แต่ศศิกานต์ไม่ย้อมแพ้ บินไปทำศัลกรรม  และลดน้ำหนัก  จนกลายเป็นดารา  และได้แสดงละครคู่กับสุปรีย์ 

สุปรีย์บังเอิญเช่าบ้านศศิกานต์อยู่ พร้อมคนอื่นอีกสองคน สุปรีย์ถูกตั้งคำถามก่อนเข้าพัก ที่ศศิกานต์ไม่คิดจะถามคนอื่น

“ชอบดอกไม้อะไรคะ”

“คะ? ดอกมะลิค่ะ หอมดี”

“แปลว่าเวลาจีบ ต้องเอาพวงมาลัยมาให้” พี่สาวคนสนิทเอ่ย หัวเราะคิกคัก แต่ศศิกานต์สติหลุดไปอีกรอบ เพราะเข้าใจว่าเรื่องจริง

คู่จิ้นคู่ใหม่บังเกิดในวงการ และถูกผู้ใหญ่เข้าใจว่าศศิกานต์บริหารเสน่ห์  จนต้องแก้ข่าวเรื่องคนนู่นทีคนนี่ที  แต่ในใจมีเพียงรักสุปรีย์คนเดียวเท่านั้น

ทั้งแม่ศศิกานต์ก็กลับมาหาลูกสาวเพราะผลประโยชน์  และเกลที่ชอบคนสวยตัวโต  พยายามยั่วยวนทุกกระบวนท่า  จนต้องต้องอาศัยคนอื่นให้ปลอบโยน  ที่ไหนมีรัก ที่นั่นมีน้ำตา  ที่ไหนมีน้ำตา  ที่นั่นอาจมีการสละคืนความทุกข์  หากไม่เคยอกหักแรงแปลว่าไม่เคยรักใครหมดใจ มาตัดใจเรื่องความรักไปพร้อมเกลกัน

สุดท้าย เมื่อแม่ไม่ปลื้ม แม่ผู้ให้ชีวิต ก็คิดว่าตัวเองมีสิทธิริบคืน เหตุการณ์จะจบลงด้วยดีหรือไม่ 

ความรักของทุกคนยังคงหมุนเวียน เปลี่ยนไปเรื่อยๆ    เหมือสายน้ำ  เราไม่อาจรู้ได้ว่าใครจะสมหวังหรือไม่  แต่รู้ได้ว่า ความรักจะประทับตราในใจของเรา  ตราบเท่าที่เรายังหายใจ

ติดตามอ่านในเล่ม