ณ สุวรรณภูมิ (มี E-Book, มีภาคต่อ)

เล่ม ๑ 

พิพพาอุตส่าห์คิดว่าตนโชคดีที่ได้มีชีวิตใหม่ในดินแดนไทยโบราณที่ตนใฝ่ฝันแลวาดฝันถึงชีวิตใหม่ที่สุขสบายของตน แต่โชคชะตามันเล่นตลก กลับกลายเป็นว่าเธอต้องกลับมาสอบเข้าโรงเรียนสุดหฤโหดอีกครั้ง 

การใช้ชีวิตในโรงเรียนหลวงซึ่งเป็นโรงเรียนประจำในแต่ละวันก็ช่างโหดร้าย คนที่ทำเป็นแค่คิดเลขอย่างเธอจะสามารถเอาตัวรอดในโรงเรียนที่เกือบจะเป็นชายล้วนแล้วนิยมชมชอบตีรันฟังแทงกันได้เยี่ยงไร เพื่อนๆ แต่ละคนก็ดีๆ ทั้งนั้น 

สุดท้ายเพื่อพิชิตภารกิจสำคัญที่ชีวิตก่อนยังทำไม่สำเร็จ นั่นคือการหาคู่แล้วไซ้ ต่อให้ต้องลำบากตรากตรำแค่ไหน เธอก็จะต้องทำให้สำเร็จให้จงได้.. แต่ไยเนื้อคู่ของเธอถึงได้ดูดุขนาดนั้น ดีที่หล่อ (มาก) เธอจะทำเป็นมองข้ามความดุนี้ไปก็แล้วกัน

​​เล่ม ๒

พิพพาอุตส่าห์มีคนรักทั้งทีก็คิดว่าชีวิตจักหวานชื่นกุ๊กกิ๊กตามประสาวัยรุ่น แต่เรื่องกลับไม่ง่ายอย่างนั้นเมื่อคนรักของเธอดันเป็นทายาทสายตรงของตระกูลจตุรเทพที่มีคนจ้องจะเล่นงานอยู่ตลอดเวลา แล้วคราวซวยก็มาตกที่เธอเพราะดันเป็นจุดอ่อนที่เล่นงานง่ายที่สุด พิพพาจะสามารถรักษาชีวิตน้อยๆ ของเธอไว้ได้หรือไม่ ร่วมเอาใจช่วยเธอได้ ณ ดินแดนสุวรรณภูมิ

เล่ม ๓

เมื่อวาระการเลือกเจ้าหลวงองค์ใหม่เวียนมาถึง เหล่าทายาทสายตรงของจตุรเทพแต่ละคนต่างได้รับจดหมายจากที่บ้านให้ระวังตนไว้ให้ดี อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจใครในช่วงนี้ พวกเขาต่างภาวนาเพียงแค่ว่าเมื่อถึงเวลานั้นแล้วพวกเราอย่าได้หันดาบเข้าหากันเลย แต่หากจำเป็นต้องเลือก ใครเล่าจักกล้าตอบว่าเพลานั้นจักเลือกมิตรภาพที่เพิ่งพานพบมากกว่าตระกูลที่ฟูมฟักมาแต่อ้อนแต่ออก

ขออย่าให้พวกตนต้องเลือกเลย... แต่จักเป็นไปได้เยี่ยงไรในเมื่อสุดท้ายผู้ชนะมีเพียงหนึ่ง แลเส้นทางสายนี้มิอาจมาบรรจบกันได้ พิพพาเองก็มิเคยคิดเลยว่าหากวันหนึ่งต้องยืนอยู่กันคนละฝั่ง ถึงเพลานั้นเธอจักทำเยี่ยงไร จักกล้าหันดาบมาทำร้ายคนที่ตัวเองรักได้จริงๆ ฤาไม่

เล่ม ๔

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เธอขอเก็บเกี่ยวความทรงจำในโรงเรียนหลวงที่มีค่านี้ไว้ตลอดไป แลหากจบไปแล้วเธอคงคิดถึงเพื่อนๆ น่าดู ก็พวกเราผ่านอะไรด้วยกันมาตั้งมากมายตลอด ๔ ปี ยามที่เรียนจบไปแล้วทุกคนก็ต้องแยกย้ายกันไปตามทางของตนเอง

ตัวเธอเองก็ต้องเตรียมตัวแต่งงาน แม้ว่่าลึกๆ ในใจเธอกลับอยากออกไปใช้ชีวิตของตนเองก่อน แต่จผะเป็นไปได้เยี่ยงไรในเมื่อวันแต่งถูกกำหนดไว้แล้ว สุดท้ายเธอก็ต้องไปเป็นนกน้อยในกรงทอง ถูกพันธนาการด้วยความรักตราบนานเท่านาน

---

ดินแดนสุวรรณภูมิ (https://vt.tiktok.com/ZSFhuhKKK/)

ดินแดนสีทอง ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ท่าเรือคับคั่งไปด้วยพ่อค้าและผู้คนมากมายมาจับจ่ายใช้สอย มีบ้านเรือนไม้เรียงราย เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง สร้างเรียงกันเป็นระเบียบ ผู้คนล้วนยิ้มแย้มมีมิตรไมตรีต่อกัน ไหนจะวัดวาอารามที่มีผู้คนแวะเวียนกันมาทำบุญทำทานมิได้ขาด ปราสาทหลังใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเมืองดูมีมนต์ขลังทอประกายแสงสีทอง เมื่อมองแล้วรู้สึกร่มเย็นและถูกปกป้องคุ้มภัย สวยอย่างกับแดนฟ้าแดนสวรรค์

ดินแดนสุวรรณภูมิก่อตั้งจาก ๔ พี่น้องที่อพยพครอบครัวและไพร่พลหนีภัยพิบัติมาพักอยู่ใต้ต้นจามจุรีขนาดใหญ่ ตกดึกคืนนั้นก็ฝันเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาบอกว่าให้สร้างเมืองตรงนี้โดยให้ยึดต้นไม้นี้เป็นศูนย์กลางเมืองแล้วขยายเมืองออกไป แลบอกให้ไปอัญเชิญพระพุทธรูปใต้ต้นโพธิ์มาประดิษฐานเป็นพระประจำเมือง และพี่ชายคนโตนามว่า ‘ศิขริน’ ขึ้นเป็นเจ้าหลวงผู้ปกครองเมืององค์แรก และน้องชายอีก ๓ คนแยกกันตั้งเป็นตระกูลของตน เพื่อคานอำนาจกันในการปกครองบ้านเมืองให้สงบร่มเย็นสืบไป

โรงเรียนหลวง (https://vt.tiktok.com/ZSFrHhDeQ/)

โรงเรียนอันดับหนึ่งในดินแดนสุวรรณภูมิ ทุกปีจะมีลูกท่านหลานเธอมากมายเข้ามาเรียน โดยรับนักเรียนเพียงปีละ ๔๐ คนเท่านั้น การเรียนการสอนจะมีทั้งหมด ๔ วิชาหลักและวิชาพิเศษที่แตกต่างกันไปในแต่ละชั้นปี อีก ๑ วิชา ได้แก่ 

วิชาหลัก: ภาคทฤษฎี ได้แก่ ๑) วิชาการปกครอง (สอนประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์) ๒) วิชาการพาณิชย์ (สอนการค้า การเงิน การบัญชี การภาษี) และภาคปฏิบัติ ได้แก่ ๑) วิชาการต่อสู้ (การต่อสู้ระยะไกล การต่อสู้ระยะประชิด) ๒) วิชาการแพทย์ (สมุนไพร การต้มยา การรักษาโรค)

 วิชาพิเศษ: วิชาการเข้าสังคมสอนตอนปี ๑, วิชาการแกษตรสอนตอนปี ๒, วิชาการพยากรณ์สอนตอนปี ๓ และวิชาการประดิษฐ์สอนตอนปี ๔ 

ตระกูลจตุรเทพ (https://vt.tiktok.com/ZSFkJY9qh/)

องค์เจ้าหลวงของดินแดนสุวรรณภูมิจะได้รับการคัดเลือกและแต่งตั้งจากตัวแทนตระกูลแค่เพียง ๔ ตระกูลที่ต้นตระกูลเป็นผู้ก่อตั้งเมืองมาเท่านั้น ซึ่งชาวเมืองต่างเรียกพวกเขาว่า ‘จตุรเทพ’ ได้แก่ ตระกูลศิขริน ตระกูลชโลทร ตระกูลมารุตมาศ และตระกูลเดชเดโช 

ตามเรื่องเล่าขานมาแต่โบราณเหล่าตระกูลจ‍ตุ‍ร‍เทพแต่ละตระกูลล้วนมีความรู้และพรสวรรค์ในแต่ละด้านติดตัวมาตั้งแต่เกิดแลสืบทอดลักษณะเด่นนี้ต่อกันมาเป็นร้อยๆ ปี 

ตระกูลศิ‍ข‍รินหนักแน่นดั่งพื้นปฐพีมีพรสวรรค์ในด้านการปกครอง บริหารจัดการเก่งทั้งสินทรัพย์และคน เป็นตระกูลที่มีอดีตองค์เจ้า‍หลวงมากที่สุดในบรรดาจ‍ตุ‍ร‍เทพ และเป็นตระกูลที่ถือครองที่ดินมากที่สุดในดินแดนนี้

ตระกูลช‍โล‍ทรอ่อนโยนดุจสายน้ำมีพรสวรรค์ในด้านการแพทย์ รักษาคนได้ทุกโรคจากที่ตั้งเมืองมาเป็นหลายร้อยปีก็ยังไม่มีโรคใดที่คนตระกูลนี้ยังรักษาไม่ได้ จึงเป็นตระกูลที่มีหมอมากที่สุดในบรรดาจ‍ตุ‍ร‍เทพ และเป็นตระกูลที่ถือครองสมุนไพรล้ำค่าและตำราการแพทย์โบราณมากที่สุดในดินแดนนี้

ตระกูลมา‍รุต‍มาศพลิ้วไหวดุจสายลมมีพรสวรรค์ในด้านการค้าและการพาณิชย์ทุกแขนงจึงเป็นตระกูลที่ร่ำรวยมากที่สุดในบรรดาจ‍ตุ‍ร‍เทพ และเป็นตระกูลที่ถือครองร้านค้าและเรือสำเภามากที่สุดในดินแดนนี้

ตระกูลเดช‍เด‍โชดุดันดั่งไฟเพลิงมีพรสวรรค์ในด้านการต่อสู้ ลูกหลานตระกูลนี้ล้วนจับดาบกันตั้งแต่อายุไม่กี่ขวบปี เป็นตระกูลที่มีอดีตแม่‍ทัพมากที่สุดในบรรดาจ‍ตุ‍ร‍เทพ และเป็นตระกูลที่ถือครองเหมืองเหล็กมากที่สุดในดินแดนนี้

---

**นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ยาว มีทั้งหมด ๔ เล่มนะคะ โดยเป็นการเล่าถึงเรื่องราวการเติบโตของนางเอกที่ยึดเส้นเรื่องตามชั้นปีในโรงเรียนหลวงซึ่งเป็นโรงเรียนประจำสไตล์ไทยโบราณตั้งแต่ปี ๑ จนถึงปี ๔ ว่าต้องเผชิญกับอะไรบ้างทั้งเรื่องเรียน เพื่อน รุ่นพี่รุ่นน้อง ความรัก ครอบครัว หรือแม้กระทั่งบ้านเมือง พวกเขาและเธอรอให้ไปร่วมเดินทางและเติบโตในดินแดนแห่งนี้ด้วยกัน หวังว่าจะพบกัน ณ สุวรรณภูมิ

-----------------------------------

สามารถส่งกำลังใจให้นักเขียนใหม่คนนี้ได้โดยการกดหัวใจ เพิ่มเข้าชั้น หรือแสดงความเห็นได้ทุกรูปแบบ นักเขียนเข้ามาดูทุกวันนะคะ หากใครมีข้อสงสัยตรงไหนเพิ่มเติมสามารถพูดคุยกันได้ที่ Twitter: @SPhongphatchara นะคะ

ด้วยรัก

พงศ์พัชรา