เสียงสะท้อนของวันพรุ่งนี้

ในเมือง Veridale ที่พลุกพล่าน ที่ซึ่งตึกระฟ้าสูงตระหง่านบดบังท้องฟ้าและแสงไฟนีออนสาดส่องยามค่ำคืน มีหญิงสาวชื่อ Emily อาศัยอยู่ เธออยู่ในวัยยี่สิบต้น ๆ มีความหลงใหลในการผจญภัยและจิตใจที่อยากรู้อยากเห็นที่แสวงหาสิ่งที่ไม่รู้จักอยู่ตลอดเวลา

เย็นวันหนึ่ง ขณะที่เอมิลี่เดินไปตามถนนที่มีผู้คนพลุกพล่าน เธอสังเกตเห็นร้านหนังสือเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยฝุ่นที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน สัญลักษณ์ของมันซึ่งเกือบจะถูกซ่อนไว้ด้วยเถาวัลย์รก อ่านว่า "หนังสือลึกลับ" กลิ่นหอมอันเย้ายวนใจของกระดาษเก่าและหมึกลอยอยู่ในอากาศ ดึงเธอเข้าไปเหมือนแมลงเม่าเข้าหาเปลวไฟ

ร้านค้าดูเหมือนถูกแช่แข็งด้วยใยแมงมุมที่ประดับประดาบนชั้นวางราวกับลูกไม้ที่สลับซับซ้อน ขณะที่เอมิลี่อ่านชื่อหนังสือ หนังสือโบราณเล่มหนึ่งก็สะดุดตาเธอ หน้าปกเป็นภาพแผนที่ท้องฟ้าพร้อมชื่อเรื่องด้วยตัวอักษรสีทองจางๆ ว่า "The Prophecies of Tomorrow"

เอมิลี่เอื้อมมือไปเปิดหนังสืออย่างเบามือ หน้ากระดาษกระซิบเรื่องราวของดินแดนอันไกลโพ้น สัตว์วิเศษ และนิมิตแห่งอนาคต เมื่อเธอเจาะลึกเข้าไปในข้อเขียน เธอพบว่าหนังสือเล่มนี้มีคำทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันรุ่งขึ้น ซึ่งแม่นยำและเฉพาะเจาะจงอย่างน่าประหลาด

เอมิลี่รู้สึกท่วมท้นและทึ่งจึงตัดสินใจทดสอบความถูกต้องของหนังสือ เธออ่านคำทำนายเกี่ยวกับดาวหางหายากที่จะปรากฏในคืนถัดมา ความตื่นเต้นพลุ่งพล่านในตัวเธอเมื่อเธอตระหนักว่าเธอมองเห็นอนาคต

วันรุ่งขึ้น เอมิลี่ค้นหาท้องฟ้าด้วยความกระตือรือร้น และด้วยความประหลาดใจที่เธอได้เห็นปรากฏการณ์ท้องฟ้าครั้งหนึ่งในชีวิตตามที่หนังสือทำนายไว้ ด้วยความเชื่อมั่นว่าหนังสือเล่มนี้เป็นประตูสู่การทำความเข้าใจสิ่งแปลกปลอม เธอยังคงสำรวจคำพยากรณ์ของหนังสือ การเปิดเผยแต่ละครั้งจุดประกายความรู้สึกพิศวงของเธอ

แต่ในไม่ช้า พลังที่เพิ่งค้นพบของเอมิลี่ก็มาพร้อมกับผลที่ตามมา เธอค้นพบว่าคำพยากรณ์บางคำทำนายถึงเหตุการณ์ที่น่าเศร้า เช่น อุบัติเหตุและความเสียใจ ทำให้เธอรู้สึกหมดหนทาง เธอต่อสู้กับน้ำหนักของความรู้ ขาดระหว่างการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาและการรักษาวิถีชีวิตตามธรรมชาติ

วันเวลาผ่านไป เอมิลีต้องต่อสู้กับประเด็นขัดแย้งทางจริยธรรมและคำถามทางศีลธรรม เธอต้องก้าวก่ายเส้นทางแห่งโชคชะตามากแค่ไหน? และถ้าเธอสามารถเปลี่ยนอนาคตได้ ผลที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ตลอดการเดินทางของเธอ เอมิลี่ได้พบกับคนอื่นๆ ที่รู้เรื่องหนังสืออาถรรพ์เช่นกัน โดยแต่ละคนมีแรงจูงใจและความปรารถนาที่จะได้ความรู้ที่มีในหนังสือเล่มนี้ บางคนพยายามใช้พลังของมันเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ในขณะที่บางคนต้องการปกป้องความลับของมันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือคนชั่ว

ท่ามกลางกระแสแห่งความขัดแย้ง เอมิลี่พบว่าตัวเองกำลังอยู่บนทางแยกแห่งโชคชะตาของเธอเอง เธอตระหนักว่าความมหัศจรรย์ที่แท้จริงของหนังสือไม่ได้อยู่ที่การคาดคะเน แต่อยู่ที่การเลือกที่เธอเลือกจากความรู้นั้น ด้วยพลังจากประสบการณ์ของเธอ เธอตัดสินใจที่จะยอมรับความไม่แน่นอนและปล่อยให้เสียงสะท้อนของวันพรุ่งนี้นำทางเธอไปสู่การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลก

วันเวลาผ่านไป เอมิลี่ยังคงผจญภัยต่อไป แต่เธอไม่ได้พึ่งพาคำทำนายในหนังสือเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เธอกลับเชื่อในสัญชาตญาณและสัญชาตญาณของเธอ โดยเข้าใจว่าความลึกลับของชีวิตนั้นควรได้รับประสบการณ์และไม่ใช่การไขทั้งหมด

ดังนั้น ในเมืองเวอริเดล หญิงสาวคนหนึ่งได้โอบรับจังหวะชีวิตที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เต้นรำไปตามจังหวะของเสียงสะท้อนของวันพรุ่งนี้ ด้วยหัวใจที่เปิดกว้างและความกระหายในการสำรวจ เธอเฝ้ารอวันใหม่ทุกวัน กระตือรือร้นที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับโลก และสร้างอนาคตที่ถูกกำหนดโดยทางเลือกและความฝันของเธอเอง