ด้วยรักและทานตะวัน (Yaoi) - นิยาย ด้วยรักและทานตะวัน (Yaoi) : Dek-D.com - Writer
×

    ด้วยรักและทานตะวัน (Yaoi)

    เรื่องราวการเดินทางของความรัก ของผู้ชายที่มีหัวใจเปรียบดังดอกทานตะวัน เชื่อมั่น มั่นคง และรักเดียว.

    ผู้เข้าชมรวม

    1,479

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    21

    ผู้เข้าชมรวม


    1.47K

    ความคิดเห็น


    9

    คนติดตาม


    34
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  34 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  24 เม.ย. 66 / 15:48 น.
    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ซัน กับ ตะวัน เป็นเพื่อนรักที่ได้รู้จักกันตั้งแต่เมื่อครั้งที่พวกเขายังเรียนอยู่แค่ชั้นม.ปลาย ที่ในอำเภอเล็กๆ อำเภอหนึ่งในจังหวัดสระบุรี

    ซัน ย้ายมาอยู่ที่นี่กับยายหลังจากที่พ่อเขาเสีย เเล้วแม่ของเขาต้องออกไปทำงานนอกบ้านเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว 

    ในขณะที่ ตะวัน อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เขาจำความได้ ถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะมีพื้นเพเป็นคนเชียงใหม่โดยกำเนิดก็ตาม  ตะวัน มีพี่สาวหนึ่งคน ชื่อจันทร์ฉาย ซึ่งเธออายุห่างจากเขาประมาณสิบปีเห็นจะได้ 

    ตะวัน เคยมีครอบครัวที่อบอุ่นและสมบูรณ์ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่คาดฝันขึ้น ทุกๆอย่างที่เคยมีเคยเป็นมันจึงเริ่มแปลเปลี่ยนไป เฉกเช่นเดียวกันกับเรื่องราวในวัยเด็กของเขาที่มันเคยสดใสและสวยงาม ที่มันได้ค่อยๆลดน้อยถอยลงและเลือนหาย จนมันทำให้เขากลายเป็นคนเงียบขรึมและเก็บตัวในที่สุด

    จนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่เขาได้มารู้จักกับเพื่อนใหม่ที่ชื่อ ซัน รอยยิ้มที่สดใสที่เขาเคยแย้มยิ้มอย่างมีความสุข ที่มันเคยเลือนหายจากใบหน้า จนเขาแทบจะลืมรสชาติของความสุขนั้น มันก็ได้กลับเข้ามาเยี่ยมเยือนหัวใจที่มัวหม่นของเขาอีกครั้ง

    ด้วยความที่ ซัน เป็นคนนิสัยดี ขี้เล่น คุยสนุกและรักเพื่อน นั่นจึงทำให้ ตะวัน รักและผูกพันกับ ซัน เป็นอย่างมาก แทบจะพูดได้ว่า ซัน คือเพื่อนเพียงคนเดียวที่ ตะวัน มีเลยก็ว่าได้

    จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง หลังจากที่พวกเขาพากันขี่รถเล่นจนเหนื่อยล้า ตะวัน จึงได้ชวนให้ ซัน พาไปนั่งเล่นยังที่ๆหนึ่ง ที่ๆซึ่งเป็นที่ประจำที่เขามักจะมาหลบอยู่คนเดียวอยู่ที่นั่นบ่อยๆ ไม่ว่าจะในเวลาที่เขามีความสุขหรือว่าทุกข์ใจ  

    นั่นก็คือที่เนินดินเตี้ยๆใต้ต้นไม้ใหญ่อันเงียบสงบ ที่ตั้งอยู่ที่ท้ายไร่ทานตะวันของเขาเอง ที่ๆเพียงแค่มองออกไปจากที่ตรงนั้น ก็จะได้พบเข้ากับผืนฟ้าจรดกับทิวเขา และทุ่งดอกทานตะวันสีเหลืองอร่ามเบ่งบานสะพรั่งรายล้อมไปจนสุดลูกหูลูกตา

     แน่นอนว่าเด็กหนุ่มจากเมืองกรุง ผู้ที่ไม่เคยได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติอย่างเต็มตาในแบบที่เขาไม่เคยได้เห็นจากที่ไหนมาก่อน เกิดความรู้สึกประทับใจและชื่นชอบสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างมากนับตั้งแต่ในครั้งแรกที่เขาได้เห็น 

    แล้วนับตั้งแต่นั้นมา ที่ตรงนั้นก็กลายเป็นเสมือนพื้นที่ส่วนตัวของพวกเขาทั้งสอง ที่มักจะพามานั่งเล่น นอนเล่น หลังจากว่างเว้นจากการเล่าเรียน มานับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาไปโดยปริยาย จนกระทั่งอยู่วันหนึ่ง...

    วันที่ลมหนาวแรกของฤดู ได้พัดพาเอากลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกแวววิเชียรสีม่วงครามลอยฟุ้งมาตามลม..... จนทำให้ ชายหนุ่มทั้งสอง ที่กำลังนั่งชันเข่าคุยกันอยู่ตรงบริเวณนั้น ต้องหยุดนิ่ง แล้วหลับตาเชิดปลายจมูกขึ้นสูดดมกลิ่นหอมนั้น กันอย่างหลงไหล  

    "กลิ่นดอกอะไรเหรอตะวัน หอมจัง..."

    "กลิ่นของดอกแวววิเชียร" 

    คนฟังรีบลืมตา แล้วหันมาทางคนพูดที่ตอนนี้เขายังคงหลับตาพริ้มอยู่ ก่อนที่จะพูดต่อด้วยน้ำเสียงสดใส 

    "โห...ชื่อเพราะจัง นายพาเราไปดูดอกของมันไกล้ๆหน่อยสิ เราอยากรู้ว่าดอกมันเป็นแบบไหน?"

    "ถ้าดูใกล้ๆ นายอาจจะเปลี่ยนใจไม่ชอบมันแล้วก็ได้นะ"

    "อ้าวทำไมล่ะ"

    "ก็มันจะฉุนมากกว่าหอมนะสิ ไม่อย่างนั้นเขาจะเรียกอีกชื่อ ว่าดอก ฟอร์ เกท มี นอท เหรอ?"

    น้ำเสียงใสๆที่หยุดลงอย่างค้างๆคาๆ นั่นยิ่งทำให้เด็กหนุ่มจากกรุงเทพฯ ต้องทำสีหน้างงหนักเข้าไปใหญ่ /เขาคิด

    //ก็ถ้าเรียนอีกชื่อว่า ฟอร์ เกท มี นอท แปลเป็นไทยก็คงเป็น อย่าลืมฉัน แล้วมันจะทำให้ไม่ชอบได้อย่างไง มันจะยิ่งทำให้เราหลงรักเจ้าดอกไม้ชนิดนี้สิไม่ว่า//

    เขานั่งสงสัยในใจอยู่นาน จนคนพูดค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วหันมาอธิบายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หลังจากที่ไอ้เจ้าเพื่อนขี้สงสัยคนนี้มันดูจะเงียบๆไป

    "ดอกแวววิเชียร หรือที่เรียกว่าดอกฟอร์ เกท มี นอท เมืองไทย ในความหมายของดอกไม้ชนิดนี้นั้น มันแปลว่ารักอันเป็นนิรันดร์ แต่มันก็แปลกเหมือนกัน.. ที่ถ้าเราได้มอบดอกไม้ชนิดนี้ให้กับใคร สุดท้ายต่อให้รักกันมากแค่ไหน ก็ต้องมีอันต้องพลัดพรากจากกันไปอยู่ดี เหมือนที่พ่อทิ้งแม่ของเราไป... 

    เมื่อก่อนแม่เราก็เคยชอบดอกไม้ชนิดนี้มาก เพราะกลิ่นมันหอม และออกดอกเป็นช่อสวย อีกทั้งยังความหมายดี จนตัวเขาต้องหามาปลูกเอาไว้จนทั่วบริเวณนี้นี่ล่ะ

    แต่พอพ่อเรามาทิ้งแม่เราไป แปลงดอกไม้นั้นมันก็เลยถูกทิ้งร้างมานับตั้งแต่นั้นมา ความจริงนายก็เคยเห็นมันบ้างแล้วล่ะ เพียงแต่นายยังไม่รู้จักชื่อและความหมายของมันก็แค่นั้นเอง"

    "นี่นายอย่าบอกนะว่านายหมายถึง" เขาพูดขึ้นพรางมองไปรอบๆ

    "ใช่!... มันก็คือเจ้าดอกสีม่วงๆ ที่บานเป็นช่อเป็นกอ แซมอยู่ตามต้นหญ้าทั่วเนินดินตรงที่เรากำลังนั่งอยู่ในตอนนี้นี่ล่ะ" 

    "โห..สวยและก็ความหมายดีมากๆเลยนะตะวัน นายอย่าถางทิ้งนะ ปล่อยให้มันขึ้นอยู่ตรงนี้ไปเรื่อยๆแบบนี้นี่แหละ ถึงใครจะว่าอย่างไงก็ช่าง แต่สำหรับเรา เราว่ามันสวยดีเราชอบ อีกอย่าง มันจะได้เป็นสัญญลักษณ์ของมิตรภาพระหว่างนายกับเราด้วย"

    "สัญลักษณ์?"

    "ก็สัญลักษณ์ที่ว่าพวกเราไม่มีวันลืนกัน เหมือนชื่อดอกไม้ที่ขึ้นอยู่รอบๆตัวเราในตอนนี้อย่างไงล่ะ...แต่ก็แปลกนะ มาที่นี่ก็ตั้งหลายที แต่เราไม่ยักกะเห็นแฮะ... อันที่จริงก็เห็นแหละแต่เรานึกว่ากอหญ้าน่ะ แฮะๆ"

    "ไอ้บ้าเอ้ย! ก็มันยังไม่บานนี่นา...นายจะไปเห็นได้อย่างไงเล่า"

    "เออ... ถือว่าวันนี้เราโชคดีมากเลยนะ ที่มาตรงกับวันที่มันออกดอกพอดี...เอ่อ" ซัน วางเสียงลงที่ตรงนี้ แล้ววางสายตาค้างไว้ ที่ดงดอกแวววิเชียรอยู่นานซักชั่วสามลมหายใจ  ก่อนที่เขาจะหันมา กอดคอเพื่อนรักไว้แน่น

    " อย่าลืมนะว่าที่ตรงนี้และดอกไม้พวกนี้ คือสัญลักษณ์ระหว่างนายกับเรา"

    น้ำเสียงที่ดังชัดพร้อมกับแววตาที่ดูจริงจัง นั่นทำให้ ตะวัน ถึงกลับแปลกใจแกมปลาบปลื้ม จนไม่กล้าที่จะโกหก

           “เออ...รู้แล้วน่า”

           "รู้แล้วก็ สัญญากับเราก่อนสิ.." 

           เขาย้ำเสียงดังฟังชัด พร้อมกับชักมืออีกข้างออกมา ก่อนที่อีกคนจะจับเรียวมือนั้นไว้ พร้อมกับสบตาตอบ...

          "อืม..เราสัญญา"

    .................................................

                       

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น