ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ คลังเก็บความเพ้อเจ้อ ]

    ลำดับตอนที่ #6 : [นิยายแฟนตาซีไทยๆ] ๑๐๐ ฉบับ(ชื่อชั่วคราว)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 486
      14
      28 ก.พ. 58

     

     ๑๐๐ ฉบับ : บทนำ
     

    Note : นิยายไทยๆ โลกสมมติ บ้านเรือนเป็นบ้านทรงไทย แต่มีเทคโนโลยีตะวันตกเล็กน้อย(เดี๋ยวคิดอีกที) ชุดนักเรียนเป็นแบบร.5

     

    ############

     

    ลักษ์นารา เป็นเด็กสาวอายุสิบหกที่ตัวเล็กกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน เธอสูงแค่ร้อยห้าสิบเซน ผมสีน้ำตาลยาวประบ่า ดวงตาโตๆสีน้ำตาลอ่อนที่ล้อมกรอบด้วยขนตายาวหนาทำให้เพื่อนๆลงความเห็นว่าเธอดูน่ารักน่าแกล้งเหมือนกระรอกหรือหนูตะเภา ยิ่งเมื่อรวมกับความจริงที่ว่าเธอไม่ค่อยตอบโต้ก็ทำให้ถูกหยอกแกล้งได้ง่ายยิ่งขึ้น

     

     

    และเรื่องที่ถูกแกล้งบ่อยที่สุดก็คงไม่พ้น

     

     

    "นั่นภาคินทร์!!!!"

     

     

    พิมาย เพื่อนสาวตัวสูงของเธอเอ่ยด้วยเสียงที่ไม่เบานัก และปฏิกริยาแรกที่ลักษ์นาราทำคือการไปซ่อนตัวหลังเสาพร้อมยกหนังสือเรียนในมือขึ้นมาปิดหน้าไว้ทันทีทันใด

     

     

    พิมายหัวเราะลั่นอย่างไม่คิดปิดบัง ลักษ์นาราค้อนเพื่อนวงโตด้วยใบหน้าสีแดงก่ำ ไม่รู้ว่าเพราะกำลังโกรธหรือเพราะเขินที่ได้ยินชื่อ 'ภาคินทร์' กันแน่

     

     

    "มายแกล้งเราอีกแล้ว" ลักษ์นารายังไม่เลิกค้อน

     

     

    "ไม่ได้แกล้ง หมอนั่นอยู่ตรงนั้นจริงๆ" คนตัวสูงชี้

     

     

    ในทิศทางที่ชี้ไปนั่น คือลานกว้างที่เหล่านักเรียนชายกำลังฝึกซ้อมดาบไม้กันอยู่ และในบรรดานักเรียนเหล่านั้นภาคินทร์คือคนที่โดดเด่นที่สุดในสายตาลักษ์นารา เด็กหนุ่มผิวขาวร่างสูงโปร่ง ใบหน้าคมคายแสดงสีหน้าเคร่งเครียดขณะโถมกำลังเข้าโจมตีคู่ซ้อม ผมสีดำยาวระต้นคอชื้นไปด้วยเหงื่อ ดูเผินๆเด็กหนุ่มก็ไม่ได้ต่างจากคนทั่วไปนัก 

     

     

    ทว่าเหมือนลักษ์นารา...ดวงตาของภาคินทร์คือสิ่งที่โดดเด่นที่สุด สีฟ้าปนเขียวราวกับมีเกลียวคลื่นต้องแสงตะวันกำลังหมุนวนอยู่ในนั้น มันเด่นชัดมากจนผลักดันให้ใครหลายๆคนจดจำเขาได้ในฐานะหนึ่งในห้าขมังเวทย์ของโรงเรียนสัตยาบรรณ

     

     

    ############

     

     

    ในประเทศของลักษ์นารา มีผู้คนจำนวนหนึ่งที่สามารถติดต่อกับวิญญาณแห่งธรรมชาติได้ เพื่อร้องขอและหยิบยืมในพลัง พวกเขาถูกเรียกว่าเหล่าจอมเวทย์ ซึ่งถือเป็นจำนวนน้อยนิดไม่ถึงหยิบมือเมื่อเทียบกับประชากรทั้งหมด ด้วยข้อเท็จจริงนั่นทำให้พวกเขากลายเป็นทรัพยากรที่มีค่ายิ่งของประเทศ 

     

     

    ภาคินทร์เป็นจอมเวทย์ ผู้ชายที่คนเดินดินธรรมดาอย่างเธอแอบชอบมาสี่ปีเป็นคนพิเศษที่ไกลเกินเอื้อมแบบนั้นแหละ

     

     

    "เมื่อไหร่แกจะสารภาพกับเขา" พิมายโพล่งถามขึ้นมาในวันหนึ่ง

     

     

    ลักษ์นาราส่ายหน้าขณะพวงแก้มซับสีเลือดอย่างห้ามไม่ได้

     

     

    "แกจะไม่สารภาพ?"

     

     

    ลักษ์นาราพยักหน้า

     

     

    พิมายอยากจะจับเพื่อนตัวเล็กโขกหัวเข้ากับกำแพงให้หายบื้อ "แล้วแกจะแอบชอบเขาไปเรื่อยๆงี้นี่นะ"

     

     

    "ไม่เห็นเป็นไรเลย" เด็กสาวเอ่ยเสียงแผ่ว เธอยิ้มน้อยๆราวกับจะบอกว่าความรู้สึกอันน้อยนิดที่ไม่ได้รับอะไรตอบแทนเลยในแต่ละวันก็เพียงพอแล้วที่จะให้เธอชอบอีกฝ่ายต่อไปเรื่อยๆได้

     

     

    ลักษ์นาราคิดเช่นนั้นจริงๆ เธออาจจะใสซื่อเกินไปหรือไม่ก็อ่อนต่อโลกมากไป แต่เธอพอใจแล้วกับทุกวันที่เป็นอยู่ เขาเป็นคนพิเศษสำหรับโลกแต่พิเศษยิ่งกว่าในหัวใจเธอ เท่านั้นก็พอแล้ว เด็กสาวไม่หวังให้มันมากไปกว่านี้หรอก

     

     

    เธอคิดเช่นนั้นแหละ...จนกระทั่งจดหมายเหล่านั้นมาถึง

     

     

    ############

     

     

    ฤดูร้อนเป็นสีเหลืองสะพรั่งเมื่อดอกคูณเบ่งบาน ตอนนั้นเป็นเวลาเที่ยงวันที่พัศดุกล่องใหญ่ถูกส่งมาถึง

     

     

    จ่าหน้าถึงเธอ แต่กลับไม่มีชื่อผู้ส่ง มันเป็นกล่องสีน้ำตาลขนาดใหญ่เกินกว่าแขนของเธอจะโอบรอบได้

     

     

    ลักษ์นารารีบเปิดดูอย่างอยากรู้อยากเห็น ภายในมีซองจดหมายสีขาวมากมายอัดแน่นกันอย่างเป็นระเบียบ เด็กสาวลองหยิบขึ้นมาดูหนึ่งฉบับ เธอพบหมายเลข ๔๓ เขียนอยู่มุมขวา ที่จริงแล้วทุกฉบับมีเลขกำกับอยู่ หนึ่งถึงหนึ่งร้อย ไม่มากไปกว่านั้น

     

     

    เด็กสาวเอียงคอด้วยความสงสัย ก่อนจะสังเกตเห็นว่าที่ฝากล่องพัสดุด้านในมีจดหมายสีขาวอีกฉบับถูกแปะยึดไว้ด้วยเทปใสอยู่ตรงนั้น มุมขวาเขียนไว้ชัดเจนว่าเป็นเลขศูนย์ เธอจึงหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่านเป็นฉบับแรก

     

     

     

    'ถึงลักษ์นารา ชื่อของฉันคือภาคินทร์ เป็นจอมเวทย์สายวารี แต่ฉันคิดว่าเธอคงรู้เรื่องนั้นอยู่แล้ว'

     

     

     

    เด็กสาวหน้าแดงก่ำอย่างห้ามไม่ได้อีกครั้ง เธอหยิบกล่องพัสดุพลิกดูซ้ายขวาว่านี้เป็นการกลั้นแกล้งจากเพื่อนคนไหนหรือไม่ แม้จะเป็นการแกล้งที่ดูลงทุนเกินไปหน่อยก็ตาม เมื่อไม่เห็นอะไรให้จับผิดได้ลักษ์นาราจึงอ่านจดหมายต่อด้วยหัวใจที่เต้นระรัวมากกว่าเดิม

     

     

     

    'ความจริงที่ทุกคนไม่เคยรู้คือฉันเป็นจอมเวทย์กาลเวลาด้วย เป็นพลังที่ทั้งหายากและน่าปวดหัวเกินจะเอ่ยเชียวแหละ แต่ในวันนี้ฉันคงต้องขอบคุณพลังนั้นเหลือเกินที่ทำให้ฉันสามารถเขียนจดหมายมาหาเธอได้เช่นนี้ และได้โปรด...อย่านำข้อความในจดหมายไปถามฉัน เจ้าบ้าในช่วงเวลานั้นคงเด็กเกินกว่าจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันกำลังทำได้

     

     

    ในกล่องนี้คือจดหมายหนึ่งร้อยฉบับ ฉันอยากให้เธอเปิดอ่านเพียงวันละหนึ่งฉบับเท่านั้นและทำตามสิ่งที่ฉันเขียนไว้อย่างละเอียด 

     

     

    บางเรื่องในนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ยากและฝืนใจจนเกินไป แต่ฉันเชื่อและรู้ว่าเธอทำได้ เธอทำได้มากกว่าที่เธอคิดนะนารา เธอเองก็เป็นคนพิเศษเช่นกันฉันอยากให้เธอตระหนักไว้

     

     

    จดหมายเหล่านี้อาจฟังดูเอาแต่ใจและเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจที่ฉกฉวยความรู้สึกที่เธอมีให้ฉันมาใช้งานเช่นนี้ ใช่...ฉันรู้ รู้และหวาดกลัวเหลือเกินว่าเมื่อจดหมายฉบับที่หนึ่งร้อยสิ้นสุดลงความรู้สึกของเธอจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป 

     

     

    แต่ฉันอยากให้รู้ไว้ ว่าเมื่อจดหมายทั้งหมดถูกเปิดอ่าน ฉันจะรักเธอจนหมดหัวใจ

     

     

    ลงชื่อ ภาคินทร์'

     

    ############

    Talk : นิยายไทยๆอีกเรื่องที่อยากแต่ง นางเอกจีบพระเอกก่อนโดยมีตัวช่วยคือจดหมายที่พระเอกจากอนาคตเป็นคนส่งมาให้ โหยแบรบบบบบ แค่่คิดก็ฟินนนนนนนนนน 5555

    แต่ปัญหาคือในเมื่อมีกลิ่นอายความเป็นแฟนตาซีไทยๆผสมซะขนาดนี้ โลกของนิยายเรื่องนี้้ต้องเป็นอะไรที่ยุ่งยากรายละเอียดยุบยับยากแก่การแต่งมากแน่ๆ (//แทะจอคอมด้วยความไม่พอใจ) แปะไว้กันลืม เรื่องนี้เป็นม้ามืดที่ 'น่าจะ' แต่งต่อจากมังกรมากๆค่ะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×