คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [นิยายโรแมนติกคอมเมดี้ประชดละครไทย] Venge แค้นสเน่หา : บทนำ
Venge แค้นสเน่หา : บทนำ
##########
เรื่องย่อ(เช็คแล้วว่าไม่เกินสองร้อยตัวอักษร55)
รวิพล : พี่ชายเธอฟันน้องฉันแล้วทิ้ง ฉันจะย่ำยีเธอบ้างไอ้เลวนั่นจะได้รู้ว่าฉันรู้สึกยังไง เฮ้ย..เดี๋ยว...นี่เธอถอดเสื้อทำไม
หยกมณี : อ้าว? ก็เราจะมีเซ็กซ์กันไม่ใช่หรอ
รวิพล : ......
คำเตือน กรุณาอย่าโดนชื่อเรื่องหลอก 5555
###########
หยกมณี ถูกลักพาตัว....
ขณะกำลังเดินเตร่อยู่ข้างถนนพร้อมไอศครีมโคนในมือขวา หญิงสาวก็ถูกฉุดขึ้นรถตู้สีดำพร้อมโดนโป๊ะยาสลบอย่างรวดเร็ว รู้สึกตัวอีกทีก็มานอนอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ในห้องที่ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ในฐานะคนที่ทำงานเกี่ยวกับงานศิลป์ต้องขอบอกว่าเจ้าของห้องนี้รสนิยมดีใช่ได้ แต่ไอ้ภาพวาดปราสาทสีน้ำมันที่ติดอยู่บนหัวเตียงสมควรถูกเอาเก็บเป็นอย่างยิ่งในข้อหาโบราณจนเกินเหตุและแตกแยกไปจากทุกอย่างในห้องนี้อย่างชัดเจน
นอกเรื่องไปไกล กลับมาที่ถูกลักพาตัวต่อ หญิงสาวก้มลงสำรวจตัวเอง เสื้อผ้ายังอยู่ดีและร่างกายไม่มีรอยฟกช้ำ ไม่มีแผลถูกกรีดเอาตับไตขายอย่างที่เรื่องเล่าในเน็ตเคยว่าไว้ เรียกได้ว่าภาพเธอเหมือนเดิมเกือบทุกอย่างยกเว้นถูกล่ามโซ่ไว้ที่ข้อเท้าปลายโซ่ถูกโยงยึดไว้กับขาเตียง
“โห วิตถารใช้ได้เลยแหะ” หยกมณีเปรยอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อนก่อนจะตบมือไปตามกระเป๋ากางเกงยีนส์สีซีดจางที่ขาดเป็นริ้วๆ แน่นอนว่ามือถือต้องถูกริบไปอยู่แล้วรวมทั้งกระเป๋าตังด้วย ดีนะที่ข้างในเหลือเงินอยู่ไม่ถึงร้อยเพราะเพิ่งซื้อไอศครีมกินไป ถ้าเหลือเยอะกว่านี้ศิลปินผู้กินแกลบอย่างเธอคงต้องหลั่งน้ำสายเป็นสายเลือดด้วยความเสียใจแน่ๆ
หญิงสาวดึงกิ๊บติดผมออกมาจากศีรษะ ผมสีดำขลับที่มัดไว้เป็นมวยร่วงลงมาปอยหนึ่งซึ่งเธอเพียงทัดมันเข้ากับใบหูอย่างลวกๆแล้วตั้งหน้าตั้งตาดัดกิ๊บให้เป็นรูปร่างเพื่อไขล็อคโซ่ที่ข้อเท้า
เกือบทำสำเร็จแล้วถ้าไม่ใช่เพราะประตูห้องเปิดออกซะก่อน
หยกมณีซ่อนกุญแจดัดแปลงไว้บนมวยผมเหมือนเดิมก่อนจะทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วสำรวจคนมาใหม่
ชายหนุ่มเดินมานั่งที่เก้าอี้นวมซึ่งถูกจัดวางให้หันหน้ามาทางเตียงอยู่แล้ว ดวงตาสีน้ำตาลคมกริบที่มีคิ้วดกหนาพาดเฉียงอยู่จึงหันมาสบตากับหยกมณีอย่างจงใจ ผมของเขาเป็นสีน้ำตาลถูกเซตเป็นทรงตามสมัยนิยม ผิวสีออกแทนแต่ดูสะอาดสะอ้านรวมถึงรูปหน้าที่คมคายน่าจะทำให้ชายหนุ่มเป็นดาราได้อย่างสบายๆถ้าไม่ใช่เพราะสีหน้าบูดบึ้งเหมือนโกรธใครมาซักสิบชาติเช่นนี้ แต่ดูๆไปเขาก็คุ้นๆอยู่เหมือนกันแหะ
หยกมณีเดาว่าเขาน่าจะอายุพอๆกับเธอไม่ก็มากกว่านิดหน่อย รูปร่างของเขาค่อนข้างผอมก็จริงแต่หญิงสาวบอกได้เลยว่าใต้เสื้อยืดคอวีและกางเกงยีนส์ที่เขาสวมใส่อยู่ซ่อนกล้ามเนื้อสวยชวนมองไว้แน่ๆ ถ้าเจอกันในสถานการณ์อื่นหยกมณีคงไม่รอช้ารีบฉุดลากอีกฝ่ายมาเป็นนายแบบให้งานสเก็ตซ์ภาพของเธอแน่ๆ
แต่จากสถานการณ์นี้ดูเหมือนเขาจะลักพาตัวเธอมาแหะ
“เธอรู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร”
ชายหนุ่มถาม หญิงสาวส่ายหน้า
“รู้จักชื่อ ‘รณพีร์’ มั้ย” เขาถามอีกครั้ง
หยกมณีเกือบหลุดย้อนถามไปแล้ว ใช่คุณชายจุฑาเทพ ป่ะ แต่ดีที่ยั้งปากไว้ทัน เธอคิดอีกหน่อย พยายามเขี่ยตารางสินค้าลดราคากับงานออกแบบที่ค้างอยู่ให้ออกไปจากสมองเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการพิจารณาให้มากขึ้น ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่า
“แฟนใหม่พี่เพชรป่ะ เห็นว่าชื่อพีอะไรซักอย่างนี่แหละ”
เพชรน้ำหนึ่ง คือชื่อพี่ชายของหยกมณี ป๊าประกาศตัดเธอออกจากกองมรดกแล้วก็จริงแต่ม๊ากับพี่ก็ยังแอบติดต่อและแวะเวียนมาหาเธออยู่เสมอ โดยเฉพาะรายหลังที่โทรมาเกือบทุกวันและมาเยี่ยมเธอถึงห้องเช่ารูหนูเกือบทุกอาทิตย์ แม้จะเป็นพี่ชายที่แสนดีแต่พี่เพชรเป็นคนเจ้าชู้มากแถมยังประกาศตัวว่าเป็นเสือไบอย่างชัดเจน ฟันได้ทั้งหญิงและชายอย่างไม่เลือกหน้า ถ้าป๊ารู้เข้าสงสัยมีหวังถูกตัดออกจากกองมรดกอีกคนแน่ๆ
และถ้าจำไม่ผิด ดูเหมือนว่าแฟนหนุ่มคนล่าสุดของพี่เพชรจะชื่อเดียวกับคนที่ลักพาตัวเธอพูดมา
อ่า...นึกออกแล้วว่าทำไมอิตานี่หน้าคุ้นๆ
“นายเป็นญาติน้องพีหรอ” หยกมณีเอียงคอถาม พอคิดได้แล้วอีกฝ่ายหน้าเหมือนน้องพีจริงๆด้วย
“ฉันเป็นพี่ชายของพีร์ ชื่อรวิพล”
“อ่อ อือ ฉันชื่อ....”
“เธอชื่อหยกมณี เป็นน้องสาวสุดรักสุดหวงของเพชรน้ำหนึ่ง ถูกไล่ออกจากบ้านและโดนตัดขาดความสัมพันธ์เพราะไม่คิดสืบทอดกิจการครอบครัวเมื่อหกเดือนที่แล้ว ตอนนี้อาศัยเช่าบ้านเขาอยู่ อาชีพรับจ้างออกแบบหรือไม่ก็ทำงานทุกอย่างที่เงินดี”
ชายหนุ่มแทรกคำพูดของหญิงสาวด้วยท่าทีสุดแสนจะโอ้อวดพร้อมยกมือขึ้นกอดอกไปด้วยคล้ายจะถามกลายๆว่าฉันพูดถูกมั้ย ซึ่งแน่นอนว่าถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ แปลว่าก่อนจะจับตัวเธอมาเขาคงสืบเรื่องเธอมาเป็นอย่างดี
“แล้ว...ฉันมาทำอะไรที่นี่” หยกมณีตัดสินใจถามไปตามตรง ที่แน่ๆคือเรื่องนี้คงเกี่ยวกับพี่เพชร
ชายหนุ่มเหยียดยิ้มก่อนจะเดินตรงเข้ามาเธอด้วยท่าทีคุกคาม เขาวางมือลงบนเตียงคร่อมกักร่างเล็กบางของหยกมณีซึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่พลางโน้มใบหน้าคมคายลงมา
“พี่ชายเธอฟันน้องฉันแล้วทิ้ง”
เริ่มมาประโยคแรกก็บ่งบอกนิสัยแบบสัตว์เลื้อยคลานของพี่เพชรได้เป็นอย่างดี
“พีร์ไม่ยอมกินไม่ยอมนอนเอาแต่ร้องไห้เสียใจที่ถูกทิ้ง ฉันไปคุยกับพี่ชายเธอมาแล้วถึงกับลงทุนอ้อนวอนให้มันกลับมาหาพีร์ แต่รู้มั้ยมันพูดว่ายังไง มันบอกว่าเบื่อน้องฉันแล้วไม่อยากกลับไปคบด้วย”
โอ้โห เลวบัดซบสมกับเป็นพี่ชายที่เธอรู้จักจริงๆ
“เพระฉะนั้นตาต่อตา ฟันต่อฟันหยกมณี”
มือแกร่งยกขึ้นมาเชยคางเธอแล้วออกแรงบีบอย่างไม่ปราณี ดวงตาสีน้ำตาลวาวโรจน์ราวกับเพลิงแค้นลุกไหม้อยู่ในนั้น ก่อนเสียงทุ้มต่ำจะเอื้อนเอ่ยแผนการณ์ในใจสำหรับการล้างแค้น
“ฉันจะย่ำยีเธอบ้างไอ้เลวนั่นจะได้รู้ว่าฉันรู้สึกยังไง”
รวิพลหัวเราะในลำคอ ดวงตากวาดมองร่างกายของหญิงสาวอย่างจาบจ้วงและโลมเลีย ก่อนจะพบว่า....
“เฮ้ย เดี๋ยว นี่เธอถอดเสื้อทำไม”
มือเล็กบางกำลังแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของตนเองอยู่ ซึ่งปลดไปถึงเม็ดที่สามแล้วด้วย เนินอกขาวๆและขอบบราลายลูกไม้จึงโผล่ขึ้นมาให้เห็น คนตัวสูงเป็นฝ่ายหน้าแดงแปร๊ดซะเองแล้วผงะถอยออกมาขณะที่หญิงสาวถามกลับหน้าตาเฉย
“อ้าว? ก็เราจะมีเซ็กซ์กันไม่ใช่หรอ”
“ห๊ะ” ชายหนุ่มอุทานอย่างคนตั้งตัวไม่ทัน
“จะมีอะไรกันก็ต้องถอดเสื้อผ้าก่อนสิ หรือนายอยากจะเป็นคนถอดให้ฉันเอง”
“ไม่ใช่โว้ยยยยย” รวิพลตะโกนลั่น มาดเคร่งขรึมที่เก๊กมาตั้งแต่แรกหายไปสิ้น “ฉันจะข่มขืนเธอนะยัยบ้า ฉันจะแก้แค้นที่พี่ชายเธอทำกับน้องฉัน ตอนนี้เธอควรต้องนอนร้องไห้กระซิกๆแล้วพูดว่า ‘อย่าทำฉัน ได้โปรด’ ไม่ก็ ‘คนสารเลวคนใจร้าย’ แล้วไม่ใช่เรอะ”
หยกมณีมองดูอีกฝ่ายที่ดัดเสียงและทำท่าทางให้ดูเหมือนนางเอกสาวผู้น่าสงสารที่ถูกกระทำย่ำยีจากพระเอกในละครหลังข่าว เธอเกาแก้มตนเองพลางเสมองไปทางอื่นอย่างครุ่นคิดก่อนจะสรุปกับตนเองใหม่ว่า
“อ่อ นายอยากเล่นแบบบทบาทสมมุติสินะ จำพวกนางพยาบาลหรือเลขาอะไรเทือกนี้” หญิงสาวติดกระดุมเสื้อคืนตามเดิมเพื่อความสมบทบาท ที่จริงแล้วเธอค่อนข้างชอบแบบธรรมดาๆมากกว่าแต่นานๆทีลองเปลี่ยนแนวดูบ้างก็น่าสนุกดีเหมือนกัน “นายจะกระชากเสื้อฉันแบบละครเรื่อง ‘ทาสรักคนเถื่อน’ ก็ได้นะ แต่ต้องซื้อใช้คืนทีหลังด้วยนะ”
“.....”
“.....”
“นี่เธอ...ไม่คิดจะกลัวฉันบ้างหรือไง” รวิพลถามและได้รับคำตอบเป็นการส่ายหน้า เขาอยากจะตบหน้าตัวเองแรงๆซักทีเผื่อว่านี่อาจจะเป็นความฝัน แผนการแก้แค้นของเขาล้มครืนไม่เป็นท่า จริงๆแล้วเขาไม่ได้คิดจะข่มขืนหยกมณีจริงๆหรอก แค่อยากจะขู่ให้เธอกลัวเพื่อเป็นการแก้แค้นเพชรน้ำหนึ่งเท่านั้น มันจะได้รู้บ้างว่าเขารู้สึกยังไง แต่กลายเป็นว่านอกจากจะไม่กลัวเขาแล้ว เขายังเป็นฝ่ายต้องกลัวเธอแทนอีกต่างหาก
“ฉันจะข่มขืนเธอนะเว้ย” ชายหนุ่มขู่ฝ่อไปอีกครั้งหวังให้ใบหน้าหวานๆนั้นมีสีหน้าตืนตระหนักซักนิดก็ยังดีเพื่อความสาแก่ใจของเขา
“ไม่เป็นไร ฉันสมยอม” หยกมณีเอ่ยตรงไปตรงมาด้วยใบหน้าไม่เปลี่ยนสีทำเอาคนตัวสูงถึงกับสะอึกและหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆตามความยาวของประโยคที่ผ่านออกมาจากปากหญิงสาว “โตๆกันแล้วมีไรก็พูดมาตามตรงดีกว่า ฉันว่านายก็หล่อดีนะถึงจะไม่ใช่สเปคฉันเท่าไหร่แต่ก็พอแก้ขัดไปได้ แบบ One night stand ไง ฉันอนุญาตให้นายเอาไปเยาะเย้ยพี่เพชรได้ว่าเคยได้ฉันแล้วแค่นั้นพี่เพชรก็คงใกล้อกแตกตายแล้วแหละ แต่อย่าพูดว่าฟันแล้วทิ้งนะเพราะเราต่างคนต่างแยกย้ายกันต่างหาก ที่นี่นายก็ได้แก้แค้นส่วนฉันได้มีเซ็กซ์กับหนุ่มหล่อ วินวินกันทั้งคู่ โอเคมั้ย?”
มือเล็กบางยื่นมาข้างหน้าพร้อมรอยยิ้มสว่างไสวคาดหวังให้เขายื่นมือมาเช่นกันเพื่อปิดดีล
แต่ว่า...
“มันไม่โอเคโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
###########
Talk : เราเชื่อว่าทุกท่านน่าจะเคยดูละครไม่ก็อ่านนิยายประเภท ฉันแค้นพ่อเธอ/พี่เธอดังนั้นฉันจะมีอะไรกับเธอเป็นการแก้แค้น(ห๊ะ ตรรกะอัลไล= =) แนวเรื่องก็จะเหมือนๆกันหมดค่ะคือพระเอกหล่อล่ำและเถื่อน นางเอกได้แต่นอนร้องไห้กระซิกๆให้พระเอกทำร้ายแต่ไปๆมาๆก็หลงไปกับสัมผัสของพระเอก แล้วอิตาพระเอกก็ดันรักนางเอกในที่สุดเช่นกัน(ขอถามอีกรอบ ตรรกะอัลไล= =)
เรื่องนี้ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากตรงนั้นแหละค่ะ แต่เราเพิ่มดีกรีความประชดเสียดสีเข้าไปจนกลายมาเป็นนางเอกเสนอตัวให้เองอย่างที่เห็น ส่วนพระเอกเก่งแต่ปากขู่ไปงั้นแต่ที่จริงตัวเองยังเวอร์จิ้นค่ะ อุ๊ฟฟฟ 555
ความคิดเห็น