ยาพิษเช่นนี้.. ข้ากินเอง!
หากดอกไม้ดอกนี้มีพิษท่านยังจะกล้าทะนุถนอมมันอยู่หรือไม่..
ผู้เข้าชมรวม
86,041
ผู้เข้าชมเดือนนี้
30
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เมื่อบุตรสาวบุตรธรรมได้รับความโปรดปรานมากเสียยิ่งกว่าลูกในใส้
ทำให้นางตกอยู่ในห้วงแห่งความอิจฉาริษยา เมื่อความรักใคร่เกือบจะคร่าชีวิตเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่งลง
ถ้าเพียงแค่ความรักนี้มันทำร้ายเด็กคนนี้ เขาก็จะปกป้องเธอถึงที่สุดอย่างที่คนเป็นพ่อคนนึงทำได้..
และนี่คือทางเลือกที่เขาวางไว้ให้นาง
_______________
13
ปีให้หลัง
“องค์หญิง อาหารของท่านมาส่งแล้วขอรับ”
เสียงทุ้มของทหารองครักษ์ดังขึ้นจากทางด้านนอก หญิงสาวนอนแผ่ตนเองอย่างเกียจคร้านในพื้นที่หลังตำหนักขนาดไม่เล็กแต่ก็ไม่ได้ใหญ่พอจะสมเกรียติฐานะองค์หญิง
นางลืมตาขึ้นอาหารที่มาส่งเหมือนดังเช่นทุกวันเป็นเวลาสิบกว่าปี มันทำให้นางเบื่อและอยากจะหนีออกไปให้รู้แล้วรู้รอด
“วางไว้แล้วก็ไสหัวไปซะ” นางกล่าวขึ้น น้ำเสียงยังคงความเยือกเย็นเฉกเช่นเดิม ได้ยินดังนั้นทหารองครักษ์ก็ทำความเคราพก่อนจะหายออกไปตามที่สั่ง นางลุกขึ้นไปยังแปลงดอกไม้ดอกหญ้าเล็กใหญ่ที่ตนปลูกไว้ สีของมันช่างงดงามราวกับร่ายคาถาเสกมันขึ้นมา นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้นางคลายเบื่อได้
ตำหนักของนางถูกปกคลุมไปด้วยความสลัวเมื่อยามค่ำคืนก็มืดจนไม่เห็นอะไรหากแต่เป็นตอนเช้ากับไม่ได้สว่างสไสวอย่างที่ควรจะเป็น ผ้าไหมเบาบางถูกนำมาคลุมทั่วตำหนักทั้งยังทำเป็นม่านกันทุกชั้น ทุกครั้งที่ย่างก้าวไม่มีเลยที่จะไม่เจอผ้าไหมพวกนี้ตำหนักที่เงียบเหงาห่างไกลจากทุกตำหนัก ไม่มีสาวรับใช้ ไม่มีองค์หญิงองค์ชายท่านอื่น มีก็เพียงแต่ทหารองครักษ์คุ้มกันทั่วทั้งตำหนักไม่ให้ใครย่างกรายเข้ามาใกล้ และไม่มีทางที่จะหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ไปได้เลย..
มือเรียวสัมผัสดอกไม้สีแดงสดที่ขึ้นโดนเด่นสวยงาม
หากใครได้พบเห็นก็ยากที่จะอยากสัมผัสมัน ไม่รอช้านางเด็ดมันขึ้นมาพร้อมกับสูดดมตักตวงความหอมที่มาจากดอกไม้งามดอกนี้
ดวงตาคู่งามมองไปยังเครื่องมือสกัดน้ำยาจากดอกไม้ที่อยู่ไม่ไกล
รอยยิ้มเย็นกระตุกขึ้นทันทีนางไม่รอช้าที่จะนำดอกไม้ในมือไปผ่านการสกัด และไม่นานเกินรอหยดน้ำสีแดงสดคล้ายชวนพิศวงก็ค่อย
ๆ ไหลลงขวดหินอ่อนขนาดเล็กที่ตั้งเตรียมไว้ก่อนแล้ว เพียงชั่วครู่น้ำที่สกัดก็หยุดไหลลงมานั้นเป็นสัญญาณว่าเสร็จกระบวนการแล้ว
นางไม่รอช้ายกขวดขึ้นมาก่อนจะปิดจุกและนำไปวางรวมกับขวดหินอ่อนมากมายที่วางเรียนกันอย่างเป็นระเบียบ
“ข้าเบื่อที่เป็นอยู่จริง ๆ” นางกล่าวพึมพำพรางเดินไปจัดการกับอาหารมื้อนี้ของนาง
ถึงจะเบื่อยังไงก็ยังไม่อยากอดตายประชดชีวิตตอนนี้หรอกนะ สักวัน ต้องมีสักวันที่นางออกไปจากที่นี่หลุดออกไปให้พ้น ๆ
เสียงประตูตำหนักที่ไม่ได้ใช้งานมานานดังขึ้น
นางหันไปตามเสียงประตูคิ้วเรียวขมวดขึ้นทันที ร้อยวันพันปีไม่เคยจะมีคนเปิดมันทหารองครักษ์ที่เข้าออกล้วนใช้วิชาตัวเบาปีนขึ้น
ลง เท่านั้นจึงทำให้ไม่ได้ใช้งานประตูตำหนักอีก นางลุกขึ้นเดินไปทางประตูตำหนักมือบางกวัดแกร่งคลี่ผ้าไหมตามชั้นต่าง
ๆที่เดินผ่านออก ไม่นานนางก็มาถึงสวนด้านหน้าตำหนักที่เต็มไปด้วยดอกไม้ใบหญ้า มันได้รับการดูแลจากนางอย่างดีตัดแต่งสวยงามราวกับสวนสรรค์
ด้านหน้ามีขันทีและนางกำนัลน้อยใหญ่ยืนเรียงแถวกันอยู่สีหน้าดูหวาดกลัวอะไรสักอย่าง
จะกลัวอะไรกันตำหนักคนนะไม่ใช่ตำหนักผีสิง!
“คารวะองค์หญิง” เสียงกล่าวคาราวะดังไปทั่วตำหนัก นานแล้วสินะที่ข้าไม่ได้ยินคำพวกนี้
นางกล่าวในใจคิ้วเรียวที่ยังไม่ครายปมยิ่งขมวดไปมากขึ้นเมื่อสังเกตเห็นในมือขันทีที่ถือของบางอย่างรูปร่างของมันละม้ายคล้ายกับ
ราชโองการ..
“ตามสบาย” เสียงเย็นกดต่ำความรู้สึกไม่ดีเริ่มประทุเข้ามาในใจ
เธอเผลอแผ่รัศมีความเย็นยะเยือกออกไปโดยไม่รู้ตัว ขันทีนางในต่างก็ขนลุกซู่อย่างหาสาเหตุไม่ได้บวกกับบรรยากาศของตำหนักแห่งนี้
ช่างน่าพิศวงยิ่งหากไม่มีองค์หญิงอยู่ก็เหมือนกับตำหนักเย็นที่ถูกปล่อยร้างมาหลายสิบปีดีๆนี่เอง
“ขอบพระทัยพะยะคะองค์หญิง.. องค์หญิงรับราชโองการ” ขันทีอาวุโสกล่าวขึ้นพลางถือม้วนผ้าสีทองดูสูงส่งมายืนด้านหน้านาง
ดวงตาคู่งามจับจ้องของในมือไม่วางตา จังหวะการเต้นของหัวใจเดิมเงียบราวกับผิวน้ำที่ไม่ไหวติงบัดนี้จู่
ๆใจของนางก็เต้นไม่เป็นจังหวะ ถึงจะมีความลังเลสงสัยเพียงใดนางก็ทำได้เพียงคุกเข่าลงรับราชโองการนั้น
มือเหี่ยว ๆ ของขันทีคลี่ราชโองการและอ่านออกเสียงดังฟังชัด ทุก ๆคำกระแทกเข้าแกนจิตใจของนางอย่างจัง ใบหน้าภายใต้ผ้าคลุมซีดลงเรื่อย ๆ จนกลายเป็นขาวในที่่สุด
“.. บัดนี้ฮวากงจู่เติบโตขึ้นพร้อมกับความสง่างามที่พรั่งพรู่ ด้วยความห่วงพระทัยองค์ฮองเต้จึงได้จัดการอภิเสกสมรสขึ้นกับแคว้นใหญ่ทั้งยังเป็นการเชื่อมสัมพันธมิตรอันดีงาม..”
“ข้าไม่รับ” ขันทีอาวุโสยังกล่าวราขโอการไม่จบ นางก็ขัดขึ้นมาพร้อมกับลุกขึ้นอย่างสามหาว
สายตาที่ราวกับจะฆ่าฟันจ้องเขม่งไปยังราขโองการ สิบสามปี นางถูกจองจำให้อยู่ที่นี่มาสิบสามปีไม่มีวันไหนเลยที่นางจะกินอิ่มนอนหลับ
เขาไม่เคย ไม่เคยแม้แต่จะย่างกรายเข้ามาดูความเป็นไปของนาง บัดนี้กลับจะส่งตัวนางไปอภิเษกสมรส!!
กลับจะใช้นางเป็นเครื่องมือเพื่อยุติสงครามที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นี่มันไม่เกินไปหน่อยหรือ!!
โทสะที่กำลังประทุของนางทำให้นางกำนันขันทีต่างก็พากันก้าวถอยหลังไปคนละก้าวสองก้าว
___________________________________________________________
** นิยายเรื่องนี้ไม่ได้มีการอ้างอิงถึงประวัติศาสตร์และบุคคลในประวัติศาสตร์ใดๆทั้งสิ้นเพื่อให้ได้อรรถรสในการอ่านโปรดละทิ้งความจริงไปให้หมด555
**ขอบคุณธีมสวยๆจาก BERLIN
ผลงานอื่นๆ ของ รินเล่า ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ รินเล่า
ความคิดเห็น