Part 1
"ได้โปรดคบฉันเป็นเพื่อนเถอะนะคะ"
"เอ๋"
เสียงอ่อนหวานของหญิงสาวผู้น่ารักพูดพร้อมกับยิ้มอย่างผูกสัมพันธ์มิตรภาพเธอยืนตรงในท่ากุมมือไว้ข้างหน้าและก้มหน้าเล็กน้อยซึ่งทำให้
ผู้หญิงอีกคนในชุดนักเรียนที่ยืนตรงหน้าเธอเอ่ยคำออกมาพร้อมกับสีหน้าสงสัย
"ฉันติดตามเธอมานานแล้วฉันอยากรู้จักเธอมากกว่านี้ค่ะ ฉันอยากจะ...อยู่ข้างๆเธอคอยให้คำปรึกษาและคอยให้กำลังใจ อืม...ขอความ
กรุณาคบฉันเป็นเพื่อนได้มั้ยคะ"
เด็กสาวผู้น่ารักในชุดแสคสีแดงพยายามอธิบายกึ่งเป็นการระบายสิ่งที่อยู่ในใจ
"..."
หญิงสาวอีกคนหนึ่งไม่ได้ตอบโต้อะไรเพียงแต่เดินสำรวจรอบๆตัวหญิงสาวผู้น่ารักก่อนจะไปนั่งที่ม้านั่งด้านหลังของเธอคนนั้น
"นี่!"
เมื่อเธอเอ่ยทักหญิงสาวผู้น่ารักก็รีบหันหลังไปทางเธอทันที
"คะ?"
"เอ่อ.."
เธอพูดพลางคิดอะไรอยู่ในใจแต่ก็ไม่พูดออกมาสักที
"..."
หญิงสาวผู้น่ารักกำลังจ้องมองเธอด้วยอาการที่ลุ้นตัวเกรง
"สิ่งเธอพูดมามัน...มัน ไม่ใช่การขอความรักใช่มั้ย อ๊า!กว่าฉันจะพูดออกมาได้"
เธอพูดระบายตามหลังทันที ก่อนที่หญิงสาวชุดแดงจะหัวเราะเบาๆแล้วรีบมานั่งข้างๆทันที
"แน่นอนฉันไม่ใช่ดี้น๊าส่วนเธอก็ไม่ใช่ทอมซะหน่อย"
เธอพูดด้วยความร่าเริงสดใสจนผู้หญิงอีกคนยังเผลอจ้องมองเธอ
"แล้วเธอ"
"อ๋อ!ที่ฉันมาขอร้องเธอใช่มั้ยล่ะ"
หญิงสาวชุดแดงรีบพูดทันทีโดยไม่รีรอเพราะอยากให้เธออีกคนเข้าใจไวๆก่อนจะพูดต่อ
"มีแต่คนมองว่าฉันเป็นลูกคุณหนูร่ำรวยและเพรียบพร้อมไปซะทุกอย่างคนที่มาตีสนิทกับฉันมักจะเห็นแก่ผลประโยนช์ของตัวเอง
ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่พวกเค้าไม่จริงใจกับฉันเลยฉันล่ะเบื่อจริงๆ"
หญิงสาวผู้น่ารักเปลี่ยนการอธิบายเป็นการระบายทันทีเธอใส่อารมณ์ในการพูดจนหญิงสาวในชุดนักเรียนครางหัวเราะออกมาเบาๆ
"O_o"
หญิงสาวชุดแดงหันหน้ามามองก่อนจะยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้น
"ฉันรู้ว่าฉันเปิ่นขนาดไหนแต่มันแก้ไม่หายสักที"
เธอในชุดนักเรียนส่งสายตามองไปข้างหน้าก่อนจะพูดด้วยประดยคที่ทำให้หยิงสาวประทับใจ
"เป็นแบบที่เธอเป็นนั่นแหล่ะมันดีที่สุดแล้ว"
หลังจากที่เธอพูดจบก็ก้มลงไปเห็นนาฬิกาที่ข้อมือของเธอแล้วสะดุ้งขึ้น
"โอะ!ฉันต้องไปแล้วไว้เจอกันใหม่ไปล่ะ"
แล้วเธอก็รีบวิ่งไปไปที่แห่งใดแห่งหนึ่ง
"แล้วเจอกันใหม่นะค๊าลีฮยอนกี"
เธอวิ่งมาที่ผับแห่งหนึ่งที่มีวันรุ่นจอแจกันอยู่เต็มร้านเธอรีบแทรกเบียดเสียดเข้าไปเพื่อไปยังห้องๆหนึ่งที่อยู่ด้านในของผับ
"ปั้ง!"
เสียงปิดประตูดังเมื่อเธอเข้ามาในห้องเรียบร้อยแล้ว
"เธอมาสายนะสาวน้อย"
เป็นเสียงเอ่ยทักของผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในชุดหนุ่มร็อคเขาสูงโปร่งและมีหน้าตาซึ่งสามารถต้องสะกดแด่สาวๆทั้งหลายได้สบายเขาชื่อว่าคีอา
"รู้แล้วน่า"
เธอเอ่ยพร้อมกับเดินไปที่โซฟาสีแดงแล้วถอดเสื้อนักเรียนตัวนอกออกแล้วผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่บนโซฟาโยนเสื้อโค๊ดหนังสีดำให้เธอแล้วค่อย
หยิบกัต้าออกมาและถือมันไปที่ประตู
"พร้อมแล้วใช่มั้ย"
ผู้ชายคนเมื่อกี๊พูดขึ้นเขามีดวงตาที่คมและเป็นผู้ชายที่ทั้งหล่อและเท่ห์มากเชียวล่ะเขามีชื่อว่าบันซา
"ไปกันได้แล้วฉันอยากตีกลองเต็มที"
ผู้ชายอีกคนที่มีดวงตากลมโตผิวขาวอมชมพูผมสีน้ำตาลอ่อนเขาเป็นคนที่ร่าเริงและน่ารักเอาสะมากๆเขาชื่อว่าวอนลี
แล้วพวกเค้าทั้งสี่คนก็เดินออกไปจากห้องและขึ้นไปบนเวทีที่ตั้งอยู่ส่วนกลางของผับวัยรุ่นในผับส่งเสียงและกรีดร้องอย่างชอบใจ
"วันนี้ขึ้นช้าไปหน่อยคงไม่เป็นไรใช่มั้ยคับถ้างั้นเราจะแถมให้อีกเพลงokมั้ย"
คีอาพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่กินใจสาวๆจนบางคนคลั่งขนาดที่ตามไปถึงคอนโดเพื่อจะได้เห็นหน้าเค้าให้ใกล้ๆ ฮยอนกีเหลือบมามองคีอาด้วย
สายตาเย็นชาแล้วก็หันไปพยักหน้ากับวอนลี
"1 2 3 4"
วอนลีเอาไม้กลองนับจังหวะและเริ่มเล่นทันทีฮยอนกีมีหน้าที่เป็นนักร้องนำพร้อมทั้งเล่นกีต้าประสานกับบันซาส่วนคีอาเล่นเบส
วอนลีก็คงรู้กันแล้ว พวกเขาเล่นเพลงร็อคหรืออาจจะร้องเพลงแนวอื่นด้วยที่แต่งขึ้นกันเองและเล่นเป็นประจำอยู่ที่นี่ทำให้เจ้าของผับติดใจเพราะ
ลูกค้าเต็มแน่นทุกวัน ปกติพวกเขาจะเล่นห้าเพลงแต่วันนี้ฮยอนกีมาสายเธอเลยต้องร้องเพิ่มอีกหนึ่งเพลงตามที่คีอาได้บอกแฟนๆไปแล้ว
"เออวันนี้ขอโทษด้วยที่มาสายจะร้องให้อีกหนึ่งเพลงนะ"
ฮยอนกีเริ่มร้องอีกหนึ่งเพลงหลังจากที่จบเพลงการแสดงก็จบลงเธอเหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งดูพวกเธอแสดงอยู่ที่โต๊ะเขาจ้องมองเธอจน
เธอรู้สึกได้
"เอาล่ะวันนี้เราไปก่อนนะครับแล้วเจอกันใหม่นะจ๊ะสาวๆ"
คีอาพูดทิ้งท้ายแล้วเสียงกรี๊ดก็ตามมา
"คีอานายนี่จะเกินหน้าเกินตากันไปแล้วนะคอยดูพรุ่งนี้ฉันจะเรียกคะแนนจากสาวๆคืน"
บันซาพูดหยอกล้อเพื่อนก่อนที่ฮยอนกีจะถอดเสื้อโค๊ดออกและหยิบเสื้อนักเรียนมาพาดแขนแล้วนำกีต้ามาสะพายหลัง
"จะไปแล้วหรอฮยอนกี"
วอนลีพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนจะน่ารักฮยอนกีหันมาพยักหน้า
"อือ!หนวกหูเสียงกรี๊ดเต็มที"
แล้วฮยอนกีก็เปิดประตูออกไป
"นี่เดี๋ยวก่อนสิ"
วอนลีตะโกนเรียกแล้วหันมาบีายบายให้คีอากับบันซา
"ไปก่อนนะแล้วเจอกัน"
"ฝากบอกยัยหอยแคลงด้วยพรุ่งนี้ห้ามมาสายอีกล่ะ"
คีอาตะโกนตามหลังวอนลีแล้วหันไปหัวเราะกับบันซา
"นายเนี่ยนีาชอบแกล้งยัยฮยอนกีอยู่เรื่อยแล้วเมื่อกี๊เรียกเธอว่ารัยนะ"
บันซาถามแล้วหันไปเก็บเบสมาสะพายหลัง
"ยัยหอยแคลงไงช้านคิดได้ไงเนี่ยฮ่าๆ"
คีอาพูพร้อมกับหัวเราะจนบันซาเหล่มองและคิดในใจ 'ประสาท'
"ตามช้านมาทำไมเล่า"
ฮยอนกีพึมพำขณะที่วอนลีเดินอยู่ข้างๆ
"ช้านไม่อยากเดินกลับบ้านคนเดียวนี่นา"
วอนลีมองไปรอบๆทางเดินที่มีหิมะกำลังตกอยู่
"ฮึ!นายโตรึยังเนี่ย"
ฮยอนกีเดินล้วงกระเป๋าเสื้อเพราะอากาศหนาว
"ทำไมไม่ใส่เสื้อคลุมเล่ามันหนาวนะ"
วอนลีก้มมองเสื้อนักเรียนตัวนอกที่พาดแขนฮยอนกีอยู่
"เรื่องของช้านน่ะช่วยเดินเงียบๆหน่อยได้มะ"
ฮยอนกีพูดตะคอกเสียงดังแล้วเร่งฝีเท้าให้ออกห่างวอนลี
"ทำไมต้องดุด้วยเล่า"
วอนลีบ่นพึมพำแล้ววิ่งมาเดินข้างๆฮยอนกีวอนลีดึงผ้าพันคอที่คอตัวเองออกแล้วยื่นให้ฮยอนกี ฮยอนกีหันมามองแวบหนึ่งแล้วเบินหน้าหนี
"ทำไมเล่า!ถ้าพรุ่งนี้เธอร้องเพลงไม่ได้คีอาเอาเธอตายเลยนะ"
ฮยอนกีหยิบเสื้อที่พาดแขนอยู่มาใส่แล้วเดินต่ออย่างไม่พูดอะไรวอนลีแอบยิ้มนิดๆ
"..."
"ยัยหอยแคลงเอ๊ย"
วอนลีเผลอพูดตามคีอาเข้าฮยอนกีเลยหยุดและหันมาจ้องจนวอนลีตกใจไปชั่วขณะ
"นายพูดว่ารัยน๊ะ"
ฮยอนกีทำเสียงกวนเต็มที่
"ช้านแค่พูดตามเจ้าคีอามันน่ะอย่าเครียดเซ่"
ฮยอนกีทำท่าจะต่อยวอนลีเลยรีบเดินต่อฮยอนกีกำลังจะเดินตามแต่ก็รู้สึกว่ามีใครจ้องมองเธออยู่จึงหันไปมองข้างหลังมีกลุ่มผู้ชายสี่ห้าคน
กำลังเดินมาฮยอนกีสังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่มองเธอเป็นคนเดียวกับในผับ ฮยอนกีหยุดดูอยู่นานจนวอนลีหันมาตะโกนถาม
"ฮยอนกีมีอะไรหรอ"
เมื่อฮยอนกีได้ยินเสียงวอนลีตะโกนก็เลยเดินตามไปจนไปถึงคอนโดแห่งหนึ่งเธอกับวอนลีเดินไปที่ลิฟท์แล้วกดชั้นสิบพวกเค้าพักอยู่ที่เดียว
กันทั้งสี่คนเพียงแต่คีอากับบันซาต้องอยู่เล่นดนตรีต่อ ฮยอนกีกับวอนลีต่างเดินไปที่ห้องของตัวเองแล้วพักผ่อนนอน
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น