ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Loka ดินแดนเหนือจินตนาการ

    ลำดับตอนที่ #1 : ก้าวแรกในเมืองกรุง

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ค. 61


     


         ผม นายจรัญ จันทร์หอม เพื่อนๆเรียก รัญ อายุ 19 ปี พึ่งจบมัธยมมาดๆ ได้ทุนการศึกษาด้านการพัฒนาเทคโนโลยีชีวะมวลสาร ผมได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขั้นการวิจัยและพัฒนาธรรมชาติมวลสารโดยในปี ค.ศ.2560 นี้ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการคิดค้นของมนุษย์เรานั้นได้ก้าวข้ามขีดจำกัดทางธรรมชาติไปอย่างใหญ่หลวง เมื่อการติดต่อสื่อสารเป็นเพี้้ยงแค่คิด โดยตอนอายุ 3 ขวบนั้นมนุยษ์ทุกคนจะได้รับนาโนเซลล์ที่จะคอยทำงานเป็นเหมือนกับบัตรประชาชนของแต่ละคนในการยื่นยันตัวตนซึ่งไม่ต้องห่วงเรื่องการปลอมแปลงตัวตนหรือแม้กระทั้งการโคลนนิ่งขึ้นมาใหม่ ไม่เพียงแค่นั้นนาโนชิปตัวนี้ยังสามารถจดจำข้อมูลต่างๆรวมไปถึงบุคคลที่คุณรู้จัก  หากคุณต้องการติดต่อกับใครก่แค่คิดถึงบุคคลนั้นเท่านั้นเอง และในยุคสมัยที่การเดินทางข้ามจังหวัดหรือประเทศเป็นเพียงแค่การเดินผ่าน GATE หรือ ประตูมิติ เท่านั้นคุณก็สามารถไปทุกที่ในโลกได้  และยังมีการก่อตั้งอานานิคมในอวกาศอีกสองแห่งที่ ดาวพุธ  กับ ดาวอังคาร


         นั้นยอมต้องมีการแลกเปลี่ยนและสิ่งที่พวกต้องจ่ายไปนั้นก็คือระบบนิเวศและธรรมชาติ จำนวนผื่นป่าที่ควรอยู่สัตว์ป่าที่เคยมีก็เป็นเพีงภาพฝันแค่นั้น ปัจจุบรรณประเทศไทยเหลือพื้นป่าเพียงแค่แห่งเดียวคือศูนย์อนุรักษ์สมบัติแห่งชาติ "ดงพญาเย็น"เพียงเท่านั้น โดยต้นไม้ที่พวกผมเห็นอยู่ตามถนนนั้นมาจากการฉายภาพโฮโลแกรมสามมิติจำลองสภาพการเท่านั้น  แน่นอนปัญหาที่ตามมาคือความสมดุลของธรรมชาติ โดยเราต้องพบเจอกับภัยพิบัติทางธรรมชาติแทบจะทุกอาทิตย์เลยทีเดียว แต่ก็ใช่ว่ารัฐบาลจะนิ่งเฉย รัฐบาลได้สร้างเครื่องกำเนิดอะตอมขึ้นสำหรับสร้างบาเรียคลุมจังหวัดต่างๆ เพื่อป้องกันปรากฏการต่างที่เป็นผลร้ายของธรรมชาติแต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่สามารถจะป้องกันได้หมดอยู่นั้นเอง ทำให้ในแต่ละเดือนมีประชากรกว่า สี่หมื่นห้าพันคน ที่ต้องเสียไปกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ และต้นไม้ก็เป็นปัจจัยสำคัญในการคงอยู่ของธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้จึงได้เกิดสาขาการศึกษาทางชีวะมวสารเกิดขึ้นเพื่อให้เราศึกษาและแก้ไขปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมและผมก็ชนะในสาขานั้น

    "ยินดีต้อนรับสู่กรุงเทพ กรุณาตรวจสอบสำภาระของท่านด้วยค่ะ ขอบคุณค๋ะ"  เสียงตอบรับพร้อมร้อยยิ้มสดใสดังมาทางด้านขวาของผมในขณะที่ผมก้าวพ้น เกท ออกมา ต้องย้อมรับรับว่ามันทำให้ผมอึ้งไปกับความสาวและสวยของแอนดรอยต้อนรับนี้ได้ทุกครั้งขณะที่ผมเดินทางจริงๆ 

         เมื่อผมก้าวพ้นจาก ่เขตการเดินทางมาผมก็ตรงดิ่งไปที่ศูนเช่าพาหนะทันที โดยไม่ปล่อยให้พวกแท็กชี่มาตะล้อมหรือดึงตัวไปเป็นผู้โดยสารได้เด็ดขาดโดยผมยังจำครั้งแรกที่ติดกับดักนี้ได้ครั้งนั้นผมเสียเงินไปเกือบ ห้าพันเหรีญเลยทีเดี่ยว ซึ่งมันต่างกันมากกับการเช่าพาหนะที่สงนราคาที่ ห้าร้อยเหรีญเท่านั้น ผมเลือกสปีดบอลมาหนึ่งเครื่อง ผมเข้าไปนั่งประทับรอยนิ้วมือและเลือกจุดหมายการเดินทางก็เป็นอันเสร็จพิธี


    *speedball
        
          เมื่อผมมาถึงหอพักที่ผมได้ทำการจองไว้เป็นที่เรียบร้อย ไอ้เจ้าสปีดบอลก็กลิ้งกลับไป ส่วนตัวผมก็เดินตรงดิ่งไปที่หน้าเค้าเตอร์เพื่อรับกุญแจห้องของผม โดยกุญแจที่ผมได้รับบมานั้นมีด้วยกันสองดอกดอกแรกไว้เปิดประตูห้องส่วนอีกดอกนั้น ไว้เปิดประตูลิปโดยประตูลิปนี้จะไปส่งถึงหน้าห้องของแต่ละห้องเองอัตโนมัติ หรือใครจะเลือกเดินไปที่ห้องตนโดยตรงก็ไม่ว่าแตห้องผมมันอยู่ชั้น ห้าร้อยกว่าจะให้มาเดินไปวันนี้ทั้งวันผมก็ไม่รู้ว่าจะถึงรึเปล่า ผมยืนต่อคิวเพียงไม่นานก็เปิดประตูก่าวสู่ห้องของผมอย่างที่ตังใจไว้  ในห้องของผมนี้มีเพียงตู้เสื้อผ้า โต๊ะ เตียง กับเครื่องฟอกอากาศแค่นั้นก็เป็นธรรมดาเพราะมันเป็นห้องที่ราคาถูกเลยได้อยู่ชั้นสูงๆ ถึงจะหายใจไม่ค่อยสะดวกนิดหน่อยก็เหอะ ผมลงมือจัดข้าวของสักพักเสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้น

    ปิ๊ป  ปิ๊ป

    " ครับแม่ แป๊ปนะครับ โฮโลแกรม "
    ภาพของคุณนาย ่สมสมัย ่ แม่ผู้แสนใจดีของผมก็ปรากฎขึ้้นตรงหน้าในลักสณะท่าทางสมจริง เล่นเอาเผลอตกใจไปเหมือนกัน

    " ว่าไงลูก ถึงรึยัง เรียบร้อยดีใหม เจอสาวๆสวยๆบ้างใหม กินข้าวรึยัง หาสะไภ้มาฝากแม่บ้างนะ "

    " เอิ่ม ผมพึ่งออกจากบ้านแค่ครึ่งวันเองนะครับแม่ ส่วนคำถามแรกถึงแล้วครับ และไอ้ที่ว่าเจอสาวๆใหมเจอตรับ แต่เป็นแอนดรอยแม่จะเอาใหม ส่วนลุกสะพงสะไภ้นะผมมาเรียนนะแม่ไม่ได้มาหาเมีย โถ่ว....."

    " แล้วทุกอย่างเรียบร้อยดีนะลูก ไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย "

    " ครับเรียบร้อยดี ผมว่าจะจัดของสักพักแล้ค่อยแวะไปเดินเล่นแถวมหาลัยนะครับ ดูลู้ทางไว้ เผื่อโดนไล่กระทืบจะได้มีทางหนี "

    " เออดี ส่งไปเรียนเมียไม่หาอยากจะหาตี_ ก็ตามใจ คุณแม่ลมเสีย เชอะ "
     
    หลังจากที่เหย้าแหย่คุณนายสมสมัยอีกนิดหน่อยผมก็ว่างสายไปและหันไปจัดห้องให้เรียบร้อย

    " สำลี "

    ภาพของเด็กหญิงตัวเล็กก็ปรากฎตัวขึ้นมา สำลีเธอเป็นระบบเอไอส่วนตัวของผมแหละคับจะว่าไปคงเหมือนกับโทรศัพท์หรือคอมพิมเตอร์พกพานั้นแหละ ความสามารถนั้นจะขึ้นอยู่กับรุ้นและราคา ใครที่มีงปหน่อยก่ได้ความสามารถเอะขึ้นตามไปด้วยอย่างลุ้นล่าสุดนี้ถึงขั้นมีระบบอัติโนมัติในการจำลองหรือสร้างสภาวะอารมณ์ที่สามารถตอบโต้อกับผู้ใช้กันเลย ส่วนสำลีนั้นเธอเป็นเพียงรุ่นธรรมดาทั่วไปเท่านั้น มีหน้าที่ในการจัดการข้อมูลอิเล็กทรอนิกเพียงเท่านั้น

    "ค่ะ มาสเตอร์"

    "เตรียมเอกสารการลงทะเบียนเข้าเรียนของชั้นให้เรียบร้อย เดียวฉันจะเข้ามหาลัย"

    "ค่ะ มาสเตอร์"

    เมือตรวจดูความเรีบยร้อยทุกอย่างเสร็จสิ้น ผมก็ลงมาหน้าเค้าเตอร์เพื่อไปยังสถานที่ที่ผมจะต้องใช้ชีวิตไปอีกสี่ปีข้างหน้า พอก้าวพ้นจากเขตหอพักเท่านั้นผมก็ได้ตระหนักถึงปัญหาในทันที มันเป็นปัญหาที่ผมไม่เคยคาดฝันมาก่อนเลย

    "แล้วผมจะเดินทางไปมหาลัยยังง่าาาาาาายย....."






    *รีใหม่วางเรื่องใหม่ทำใหม่ (แต่ทำไมไม่แต่งเรื่องใหม่)T.T

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×