ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องวุ่นๆในอิตาลี่

    ลำดับตอนที่ #1 : 19 - 10 - 2011

    • อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 54





    สิบเก้า เดือนสิบ ปีห้าสี่

    ต้องชูโกรต่ออัลลอฮฺ (ซ.บ.) ที่ได้ทำให้ฉันกับเพื่อนที่แสนดีของฉันอีกคนมีชีวิตรอดมาจนถึงวันนี้ เราได้ใช้ชีวิตที่เมืองนอกมา สิบสี่ วันแล้ว แต่มันเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นเท่านั้น ชีวิตเรายังต้องเจออะไรอีกมาก อินชาอัลลอฮฺ คงผ่านมันไปได้

    หลังจากที่ต้องตรากตรำลากกระเป๋าอันมากมายและหนักหน่วงจากประเทศไทยมายังอิตาลี และหลังจากที่ต้องเสียตังค์ตั้งร้อยยูโรเพื่อคืนแรกของเรา (ตามกำหนดแล้วเราต้องจองที่พักเยาวชนตามที่ทางมหาวิทยาลัยแจ้งไว้ล่วงหน้าก่อนมาที่นี่ แต่ว่า เราจองไม่ได้เลยต้องเปิดห้อง) และคืนที่สองที่โรงแรมเยาวชนสิบเจ็ดยูโร ดีที่มหาลัยเขาจ่ายให้คืนที่สองจนถึงคืนที่ห้าแทนเรา ไม่งั้น คงจนน่าดู แต่ก็นั่นแหละ เราต้องเสียตังค์ค่าแท็กซี่สิบหกยูโรในการเดินทางไปยังที่พักที่สอง เพราะกระเป๋าเรามากเกินไป เพราะงั้น ขาออกเราจึงขึ้นรถบัส ซึ่งถูกกว่ามาก (แต่ก็ยังแพงอ่ะเมื่อเทียบกับไทย)

    ในช่วงที่พักที่ the youth hostel เป็นช่วงที่เราต้องจัดการเรื่องต่างๆ เกียวกับการเข้ามาอยู่ในประเทศเขา ซึ่งก็ต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากอยู่เหมือนกัน ไหนจะเรื่องหาที่พักระยะยาวของเรา การลงทะเบียนเรียน... ไม่สิ การลงเรียนวิชา เรื่องทุน ซึ่งแน่นอน ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราต้องปรับตัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องอากาศ หนาวมากกกกก อ้อ เรื่องอาหารด้วย ทีนี่เรื่องอาหารจ่าจะแพงกว่าสินค้าตัวอื่นๆ แต่บางอย่างกลับถูกกว่าบ้านเราอีก ซึ่งมีน้อยมาก แล้วเรื่องรสชาติ ของบางอย่างอร่อยกว่าที่บ้านเราซะอีก อย่างพวกนมสด แครอท องุ่น แต่ส้ม ไม่ไหวอ่ะ

    เรื่องความใจดีของคนที่นี่สุดยอดค่ะ พวกเขาใจดีแทบทุกคน มักคิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ ถามข่าวคราวกันไปมา โดยเฉพาะคนอายุมาก น่ารักอ่ะ พวกเขาน่ารักนะตอนขึ้นรถบัสหนะ บางคนเราบอกให้มานั่งในที่นั่งของเรา เขากลับบอกว่าไม่ต้องจะขอยืน (ฉันแค่ชี้ไปมาเชิงใบ้บอกให้มานั่งที่ฉัน พูดอิตาลี่ไม่ได้หรอก) พวกเขาแข็งแรงนะ คนแก่หนะ สงสัยชีวิตเขาเดินมาตลอด ตอนอายุเยอะให้มานั่งๆ นอนๆ เหมือนคนแก่บ้านเราคงไม่ไหว บางคนถือไม้ค้ำก็ยังขอเดินได้อีก นับถือๆ ถ้ามาที่เจนัวนะ จะเห็นคนแก่ชายหญิงเดินคู่กันไปมาบนถนนหลายคู่เชียวหละ เดินแบบสั่นๆ ก้าวขาช้าๆ บางคนสามีไม่ไหว ภรรยาที่อายุมากพอกันจะช่วยในการเกินให้ เฮ้อ แปลกตาจริงๆ

    ส่วนคู่รักวัยรุ่น ก็เหมือนฝรั่งทั่วไป คุยกันมองตากันทีไรเป็นต้องมีหอมแก้มกัน จูบหน้าผากจูบตา จูบปากกันก็มี มีให้เห็นตลอดๆ แต่ขอโทษเหอะ แม้จะเห็นมันทุกวันก็ไม่ยักจะชินกับมันสักที จะรักกันไปไหนฟระ

    ความหล่อความสวยที่นี่ มีให้เห็นกันทุกวัน เหมือนกับว่า ฉันได้เจอพระเอกนางเอกหนังทุกวันเลยหละ แต่มีก็เหมือนกันทุกที่บนโลก มีสวยก็ต้องมีไม่สวย อัลลอฮฺสร้างคนไม่สวยได้เก่งจริงๆนะ ทำให้ดูไม่ได้ก็มี ทรงปรีชาญาณอย่างแท้จริง.....

    อ้อ มีเรื่องหนึ่งที่คนที่บ้านมักเป็นห่วง และดูเหมือนจะเป็นห่วงมากก่อนที่จะมาที่นี่ นั่นก็คือ เรื่องอาหารการกิน ขอบอกว่า มุสลิมที่นี่เยอะมาก มีย่านของชาวมุสลิมด้วยนะ มัสยิดก็มีเหมือนกัน แม้จะแตกต่างจากบ้านเราก็เหอะ เราหนะมักจะเป็นที่สนใจของชาวมุสลิมที่นี่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพวกตุรกี อีรัก อีหร่าน ปากี บังกลาเทศ อะไรเทือกนี้ อาจจะเป็นเพราะเราเป็นคนไทยที่หน้าตาไปทางเทือกนั้นด้วย แถมยังเป็นมุสลิมด้วย  แต่ที่น่าเอ็นดูที่สุดก็ตรงที่พูดอิตาลียังไม่ได้ คุยกับแบบมึนๆอ่ะ ไว้เราจะเรียนอิตาลีเพิ่มเติมแล้วเราไว้มาคุยกับบังใหม่นะค่ะ

    ด้วยความที่เจอร้านมุสลิม จากที่ตอนแรกนึกว่าตัวเองจะผอมแห้งตาย ตอนนี้กลับต้องมาเป็นห่วงเรื่องความอ้วน เพราะอารายนั่นหรอ เพราะเรากินมากไงค่ะ เรากินเยอะ จริงๆ นะ ไหนจะอาหารไทยที่พกมา ไหนจะทำเอง ไหนจะเป็นอาหารอิตาลี ไหนเขาชอบทำให้ อิ่มมากค่ะ เนี๊ยะ พุงเริ่มออกมาแล้วเนี๊ยะ ตอนแรกไม่มีครัวไงค่ะ เลยกินแต่ขนมปัง แต่ตอนนี้ ช้อปปิ้งของสดเป็นว่าเล่น เรื่องอาหารเป็นเรื่องทีสนุกที่สุดในอิตาลีในช่วงนี้ค่ะ

    หากพูดถึงเรื่องการเรียน อาจารย์ที่นี่ใจดีมากค่ะ แม้อาจารย์โจนส์เค้าจะดูบ๊องส์แปลกๆไปบ้าง แต่เขาสอนสนุก สอนดี เราหนะ ลงเรียนแค่สองตัวถ้ารวมกับคอร์สภาษาอิตาลี แต่ภาษาอังกฤษตัวเดียวของเขาสอนตั้งสามคน เหมือนเรียนสองสามตัวอย่างน้ันแหละค่ะ แต่เราถือว่าโชคดีมากนะค่ะ เพราะว่าเราเรียนเป็นภาษาอิง ไม่ใช่ว่าเราเก่งอิงหรอกนะค่ะ มีมึนๆ บ้าง แต่ก็ดีกว่าไม่เข้าใจสักตัวละกันค่ะ

    วันนี้เป็นวันแรกของการเรียนคอร์สอิตาลี ห้องฉันมีกันทั้งหมดสิบห้าคนค่ะแต่มากันแค่สิบสามคน อาจารย์พูดอิตาเลียนทั้งคาบ มีงงตลอดค่ะ แต่ก็ไม่งงเท่ากับหนุ่มที่มาจากเช็ค หน้านี่เอ๋อเอามากๆ ฉันก็งง แต่เหมือนจะงงไม่เท่าเขาละกัน จะมีคนหนึ่งน่าจะชื่อพาเวล จากโปแลนด์ คนนี้หล่อดีค่ะ พูดมาก คิดแปลก แต่เก่ง ทำให้ฉันหัวเราะตลอดคาบ อาจารย์ก็น่าจะรู้ว่าฉันกำลังโง่ในสิ่งที่เรียนอยู่ ฮ่าๆ แต่ก็น่าเรียนนะค่ะอาจารย์นิโคเลตต้า

    พูดถึงที่พัก ที่ๆเราอยู่อยู่นอกเมืองค่ะ แล้วก็อยู่บนเขาที่สูงด้วย เราต้องเดินขึ้นเดินลงทุกวันจนน่องนี่เริ่มมีกล้ามเนื้อขึ้นมาหน่อยนึงแล้ว แต่อย่าหวังว่าจะร้อนตัวเหนียวเหนอะหนะเหมือนบ้านเรานะค่ะ เพราะที่นี่หนาวมากๆ ยิ่งหลังอาบน้ำหนะ เหมือนจะไม่สบายให้ได้ ต้ังแต่อยู่มาจะร้อนหน่อยก็ตอนที่โดนแดด แต่พอลมพัดก็เป็นลมหนาวอยู่ดี เอาเป็นว่า อยู่บนที่สูงที่ต้องทนหนาวทั้งวันทั้งคืนเลยค่ะ

    วันๆ นี่ต้องเครียดกับการแต่งตัวค่ะ ไม่ใช่แต่งจัดหรอกนะคะ แต่เป็นเพราะว่าต้องหาผ้าที่เหมาะสมพอที่จะกันหนาวเราได้ค่ะ เรามีกันน้อยเลยต้องใช้เวลานิดหน่อย

    คืนแรกมีสองสาวจากตุรกีเข้ามาข้างที่บ้านเราด้วยค่ะ เพราะว่าพวกเขายังเข้าที่พักของตัวเองไม่ได้ สองสาวรู้จักกันจากที่พักทีเดอะยูธค่ะ เราต้อนรับเขาด้วยการกินอาหารไทยสุดเหม็น อย่างปลาแห้งทอดกับปลาซาดีน พวกนางทำหน้ารับไม่ได้ กินไม่ลง สงสารน้องไลลากับน้องนัสเหลือเกิน ไม่น่าให้กินของแบบนี้เลยอ่ะ จากน้ัน เราก็ให้พวกนางนอนในห้องนอนของเราค่ะ ส่วนเราสองยอมนอนข้างนอก รูมแมทเราอีกคนก็ช่างมัน ไม่อยากพูดถึง..


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×