"ไปเหอะน่าซีวอน ชั้นอยากดูหนังนายจะตายอยู่แล้ว"
"ไม่เอา ถ้านายอยากไปนะอีทึก เดี๋ยวผมขับรถไปส่ง แล้วดูเส็ดมารับ"
"ไม่ได้ นายเป็นอะไรของนาย ชั้นก้อแค่...." คนหน้าสวยละประโยคหลังเอาไว้ ช้อนตามองคนตรงหน้าอย่างอ้อนๆ
"ไม่ต้องมาทำหน้าอ้อนเลย ยังงัยก้อไม่ไปเด็ดขาด"
เสียงสนทนาที่ไม่ค่อยจะเบานัก ปลุกสมาชิกบางคนที่วันนี้ตั้งใจจะหลับฉลองคริสมาสกันซะหน่อย ต้องลุกขึ้นมาห้ามทัพก่อนที่ทั้งสองคนจะงอนจนเดือดร้อนสมาชิกไปมากกว่านี้
"โอ้ยยย จะทะเลาะกันไปถึงไหน นอนฟังมานานแล้วนะเว้ย หนวกหู" คังอินที่เดินหน้าเบลอๆ มาแต่ไกล พร้อมใครอีกคนที่ออกมาพร้อมกัน
"อื้อ...ง่วง เมื่อคืนกว่าจะได้กลับมาเดินซะขาลากเลย แล้วยังต้องมาเจอพวกนายทะเลากันอีกเนี่ยนะ" ฮยอกแจเดินขยี้ตาตามออกมาจากห้องนอนคังอิน
แล้วใครหลายๆ คนก้อต่างลากสังขารที่ค่อยข้างโทรม เพราะเมื่อคืนฉลองหนักไปหน่อย(?) ออกมาจากห้องของตัวเอง เพื่อมาดูว่าหัวหน้าวงทะเลาะกับไอ่หน้าหล่อเรื่องอะไรกันอีก
"คราวนี้ทะเลาะเรื่องไรอีกล่ะ" เสียงฮีชอลที่ดูไม่ค่อยง่วงเท่าไหร่ คงเพราะหลับสนิทเพราะมีใครบางคนดูแลอย่างดีจนเช้า
"ก้อซีวอนอะดิ ชวนไปดู A BATTLE OF WITS ก้อไม่ยอมไป" อิทึกตอบอย่างงอนๆ คนรักของตัวเอง
"แล้วทำไมนายไม่ไปวะซีวอน" เพื่อนสนิทอย่างฮันคยองถามออกมา
"ก้อ...." ซีวอนหยุดคิดซักพัก
"ไม่ไปแล้ว วันนี้จะออกไปซื้อของคนเดียว" อีทึกพูดจบก้อเดินเข้าห้องไป โดยไม่สนใจซีวอนเลยแม้แต่น้อย
ปล่อยให้สมาชิกคนอื่นๆ ที่ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเจ้าตัวต่างมองหน้ากันงงๆ ว่าวันนี้หัวหน้าวงคนสวยเป็นอะไรไป
"เฮ้อ...." ซีวอนเดินไปง้อคนรักของตัวเองทันทีเมื่อถูกสายตาสมาชิกทั้ง 11 คนที่ส่งมาทิ้มแทง อย่างจะบอกว่า ...มึงผิด ไปง้อเดี๋ยวนี้....
"อีทึก ไปดูหนังกัน" ซีวอนที่พยายามเคาะประตูง้อขอคืนดีคนรักด้วยการชวนไปดูหนัง
"ไม่!!"
"ไม่อยากดูผมเล่นแล้วหรอ"
"ไม่!!"
"งั้นผมไปกับฮีชอลแทนละกัน ฮันมันอนุญาติละด้วย" พูดเส็ดทำท่าจะเดินออกไปจากหน้าห้องทันที แต่แล้ว...
"เอ๊ะ..." เสียงอุทานเล็กๆ บวกกับบานประตูที่ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าสีชมพูระเรื่อกับเสียงหอบน้อยๆ ที่ดูเหมือนจะเพิ่งวิ่งออกมาจากห้องน้ำ เพราะเรือนผมสีอ่อนที่เปียกน้ำน้อยๆ กับชุดคลุมอาบน้ำที่ไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าที่ควร ในสายตาของซีวอนตอนนี้คนตรงหน้าช่างเซ็กซี่ และเย้ายวนสุดๆ พยายามข่มใจไม่หั้ยทำเรื่องที่ไม่ดีเอาไว้อย่างสุดๆ
"อาบน้ำอยู่หรอ"
"อื้อ"
"ขอเข้าไปหน่อยได้มั้ย" ซีวอนไม่รอคำตอบ เดินเข้ามาอย่างถือวิสาสะ
อีทึกเดินตามเข้ามาอย่างเงียบๆ ไม่คิดจะเปิดปากพูดอะไรทั้งนั้น เพราะคำพูดสุดท้ายที่เป็นต้นเหตุให้เค้าวิ่งหน้าตาตื่นมาเปิดประตู เพราะกลัวคนตรงหน้าจะทำตามอย่างที่พูดจริงๆ
"มีอะไรก้อว่ามา ชั้นจะได้ไปอาบน้ำต่อ" คำพูดที่พยายามเก็บกดอารมณ์ที่ภายในมันคุกรุ่นเต็มที
"ก้อไปอาบสิ ผมไม่ได้ห้ามผมไม่ได้ห้ามไม่ให้ไปนี่" น้ำเสียงอารมณ์ดี ยังถูกส่งออกมาจากปากพร้อมกับรอยยิ้มที่เจ้าตัวมั่นใจว่า คนตรงหน้าต้องยิ้มตามเค้าเหมือนแต่ก่อนแน่ๆ
แต่ป่าวเลย มันกลับทำให้คนตรงหน้าต้องระเบิดอารมณ์ออกมาในที่สุด
"ออก...ปะ"
"นายว่าอะไรนะ" ซีวอนเดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อที่จะฟังคนรักของตัวเองพูดให้ชัดๆ
"ชั้นบอกให้ออกไปงัยหล่ะ นายจะไปดูหนังกับใครที่ไหนก้อไป ออกไปเดี๋ยวนี้" อีทึกตะโกนออกมาพร้อมๆกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่หยุด
ความไม่มั่นใจที่มันเกิดขึ้นตั้งแต่ที่ซีวอนเลิกกับฮีชอล แล้วหันมาคบกับเค้า มันทำให้ตัวเค้ารู้สึกเหมือนทำผิดต่อเพื่อนที่สนิทที่สุด ถึงแม้จะรู้ว่าฮีชอลไม่ได้คิดติดใจอะไร แต่มันก้ออดคิดไม่ได้ไม่ใช่หรอ ว่าถ้าวันนึงทั้งสองคนเกิดมีเยื่อใยต่อกันขึ้นมาเค้าจะทำยังงัย เค้าจะอยู่ได้มั้ยถ้าขาดซึ่งคนๆนี้ไป
ซีวอนที่ดูจะอึ้งๆ ที่คนตรงหน้าตะโกนออกมาอย่างที่ไม่ค่อยจะได้เห็นกันมาก่อน แถมยังร้องไห้ไม่หยุดจนซีวอนทำอะไรไม่ถูก พยายามจะดึงตัวคนตรงหน้าเข้ามากอดปลอบ แต่กลับโดนปาข้าวของใส่ จนต้องหลบออกมาตั้งตัวอยู่ห่างๆ และเหมือนจะแค่พริบตาเดียวที่ร่างบางๆ ของอีทึกกำลังจะล้มลงต่อหน้า ถ้าซีวอนวิ่งเข้าไปช้ากว่านี้ ร่างของอีทึกคงได้ลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นแล้ว
......เป็นไข้........ความคิดแรกที่โผล่ขึ้นมาในความคิดของซีอน และถ้าเดาไม่ผิดไอ่อารมณ์ขึ้นๆ ลงเนี่ยมันคงมาจากอาการตัวร้อนนี่แน่ๆ
ซีวอนค่อยๆ บรรจงช้อนตัวอีทึกขึ้นมาอย่างทะนุถนอม กลัวว่าร่างบางจะตื่น และบรรจงวางให้เบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้
ซีวอนเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น หน้าตาแสดงออกถึงความไม่สบายใจแบบสุดๆ แต่ดูเหมือนฮีชอลจะไม่สนใจมันเลยแม้แต่น้อย
"พวกนายทะเลาะอะไรกัน ดังจนชั้นนอนต่อไม่หลับแล้วนะ"
"อืม...โทดที แต่ตอนนี้นายช่วยไปเช็ดตัวหั้ยอีทึกหน่อยสิ"
"เอ๋" ฮีชอลส่งสีหน้างงๆ ไปหั้ยซีวอน
"เค้าไม่สบาย"
"แล้วทำไมนายไม่เช็ดเอง" ในเมื่อมันไม่ใช่หน้าที่เค้าสักหน่อย ทำไมเค้าต้องทำด้วย
"เถอะน่า ถือว่าผมขอร้อง" ซีวอนส่งสายตาอ้อนวอนอย่างที่ฮีชอลไม่อาจปฏิเสธได้ สายตาแบบที่ไม่เคยจะเอาชนะได้เลยตลอดเวลาที่คบกัน และถึงแม้ว่าจะเลิกลากันไปแล้ว สายตาแบบนี้มันก้อยังคงมีอิทธิพลอยู่พอที่จะทำให้ฮีชอลยอมแพ้ต่อสายตาคู่นี้
แล้วฮีชอลจะรู้มั้ยว่าทุกๆ การกระทำ ถูกใครบางคนเห็นจนหมด ตั้งแต่เริ่มบทสนทนา กับฮีชอลที่ชะงักไปกับสายตาคู่นั้น จนกระทั่งฮีชอลที่ลุกออกไปเพื่อทำตามที่ซีวอนขอร้องนั่นละ สายตาถึงได้หยุดลง และหลับลงอย่างช้าๆ เพื่อข่มความรู้สึกสับสน ต่อเหตุการณ์ที่ตัวเองเห็น ถึงแม้จะเริ่มมั่นใจแล้วว่ายังงัยฮีชอลก้อคงรับรู้ถึงความรู้สึกที่เค้ามีให้ และอย่างน้อยฮีชอลก้อน่าจะมีความรูสึกแบบเดียวกับเค้า
ฮีชอลเดินเข้ามาในห้องอีทึกที่ตอนนี้มีสภาพไม่ต่างกับสนามรบ ข้าวของกระจัดกระจาย ฮีชอลส่ายหน้าเบาๆ กับสภาพห้องที่เห็น เค้ารู้ว่าอีทึกเป็นคนที่เก็บความรู้สึกได้ดีขนาดไหน แล้วไอ่ความรู้สึกที่ต้องทำให้คนรอบๆข้างไม่สบายใจไปด้วยแล้ว เจ้าตัวจะยิ่งไม่บอกใครเลย กลัวคนอื่นเค้าจะเป็นห่วง ทั้งๆที่ตัวเองเป็นโรคกลัวที่จะอยู่คนเดียว เวลาที่ตัวเองอ่อนแอที่สุด อย่างเวลาไม่สบายเนี่ยแหละตัวดี อีทึกจะไม่บอกเด็ดขาด แล้วนี่อะไร ไอ่สภาพห้องนี้มันอะไรวะ!! คนที่ไม่สบายเค้าลุกขึ้นมาอาละวาดแบบนี้รึงัย
ฮีชอลลงมือเช็ดตัวให้อีทึกจนเส็ด กำลังจะลุกขึ้นเพื่อไปเก็บกะละมังใส่น้ำ มือร้อนๆ ของคนที่เป็นไข้ก้อคว้าเอาข้อมือสวยเอาไว้แน่น เหมือนกลัวว่าจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว เจ้าตัวมองไปที่คนป่วย ที่ดูเหมือนตอนนี้กำลังจะเพ้อเพราะพิษไข้อย่างเอ็นดู มือสวยบรรจงลูบลงบนเรือนผมหนุ่มอย่างเบา ก้มลงกระซิบลงที่ข้างหู
"ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวชั้นก้อกลับมา" นั่นละ มือร้อนๆ ถึงปล่อยข้อมือของฮีชอลเป็นอิสระ
ฮีชอลเดินออกมาหาซีวอนที่เดินมารออยู่หน้าห้อง
"นายน่าจะรู้นะว่าตอนนี้นายควรทำอะไรที่สุด" ฮีชอลพูดแค่นั้นแล้วเดินจากไปปล่อยให้ซีวอนคิดเอาเองว่าควรทำอะไร
ซีวอนที่เดินเข้าไปนั่งข้างๆเตียง มองไปยังใบหน้าที่แดงระเรื่อเพราะพิษไข้ ความทรงจำหลายๆอย่างถูกฉายขึ้นมาในความคิด
........นานเท่าไหร่แล้วนะที่เกิดความรู้สึกรักและอยากที่จะครอบครองคนคนนี้.....
เพราะรอยยิ้มที่มอบให้กันช่วงที่เค้าเริ่มไม่มั่นใจกับความรักของเค้ากับฮีชอล หรือจะเป็นความห่วงใยที่อีทึกมีให้กับทุกๆคน แต่ดูเหมือนจะเฉพาะเค้าที่ได้มากกว่าคนอื่น แต่ไม่ว่ามันจะเพราะอะไร มันก้อทำให้เค้าหลงรักคนคนนี้โดยไม่รู้ตัวไปซะแล้ว
.........นานเท่าไหร่ที่ไม่สามารถละสายตาไปจากคนคนนี้.........
เพราะช่วงเวลาตั้งแต่เริ่มคบกันมา อีทึกไม่เคยหายไปจากสายตาของเค้าเลย ถึงแม้จะห่างกันช่วงเวลาที่ต่างคนต่างไปทำงาน แต่เวลาว่างทั้งหมดที่มี เราทั้งสองคนก้อใช้มันอย่างคุ้มค่าที่สุด ใช้เวลาที่มีอยู่เพียงน้อยนิดนั่งคุยกัน เล่าเรื่องราวต่างๆที่ต่างคนต่างไปเจอมา
นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่นั่งจ้องอยู่อย่างนี้ จนกระทั่งคำบางคำหลุดออกมาจากปากซ๊วอน คำที่เค้าไม่เคยพูดเลย หรือถ้าพูดมันก้อนานจนกระทั่งเค้าจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่พูดน่ะเมื่อไหร่
"ผมรักคุณ" สัมผัสอุ่นที่ทาบลงบนหน้าผากร้อน เลื่อนมาที่เปลือกตา และจบลงที่ริ้มฝีปากนุ่ม
ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่รับรู้ถึงคำพูด และการกระทำ แต่เค้าสัญญาว่าต่อจากนี้และต่อๆไป เค้าจะพูดคำนี้จนกว่าอีกฝ่ายจะจากกันไปจนไม่สามารถจะได้ยินคำๆ นี้แล้ว
"ผมรักคุณ" ประธานฮีชอลคลับ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น