ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Karpe Diem, เมื่อรัก | Finland

    ลำดับตอนที่ #7 : Kape Diem ♡ | Unaware heart racing...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 189
      0
      28 พ.ค. 57

    - 5 -
    Unaware heart racing...

     

             “นะ นาย..ฉันเบิกตากว้างอย่างตกใจ แต่ในทางกลับกันคนตรงหน้ากลับยิ้มให้ฉันบางๆ อย่างไม่รู้สึกทุกข์ร้อน..แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกแทบจะยืนไม่ไหว ร้อนไปหมดทั้งตัว พนันได้ว่าหน้าฉันตอนนี้ต้องแดงแน่ๆ พอนึกแบบนั้นฉันก็ยกมือจับแก้มเอง..

             “แก้มเธอแดงรู้ตัวหรือเปล่า

             “มะ ไม่รู้ว่าแล้วหันหน้าหนีจากดวงตาวิวับที่เต็มไปด้วยเลศนัยของคนตรงหน้า นะนี่นายรู้หรือเปล่าว่าเป็นฉันฉันหรี่ตามองเขาอย่างไม่ไว้ใจ

             “ฉันจะรู้ได้ยังไงเฮลซินกิว่าแล้วหยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ

             เขาจูบฉันนะ! แต่ทำไมหมอนั่นยังทำตัวได้ปกติแบบนี้ ทำไมฉันต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่เรื่อย และ..นี่คงจะทำแบบนี้กับใครหลายครั้งแน่เลย ให้ตายเถอะ ฉันลืมไปเลยว่าเขาเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ! แล้วนี่ฉันยังมาหลงกลกับความเจ้าชู้ของเขา พอหันกลับไป สายตาของคนตรงหน้าก็ยังขยันมองมาและนั้นทำให้จังหวะหัวใจฉันเต้นรัวขึ้น และรัวขึ้น...

             “มองอะไรหนักนาฉันโวยวายแต่ทว่าสายตาคู่นั้นก็ยังไม่หยุดจ้องสักที นี่

             “เธอทำอย่างกับว่าไม่เคยโดนจูบแบบนั้นเขาว่าแล้วเลิกคิ้วขึ้นกวน

             จะมากไปแล้วนะ ทำไมฉันจะไม่เคยจูบ!

             “ทำไมฉันต้องตอบนายด้วยฉันว่าแล้วกระแทกเท้าเดินหนีเขา ทว่าเฮลซินกิจับแขนฉันไว้ก่อน

             “ใจเย็นสิ เอ.. หรือวาสเธอไม่เคยโดน...จูบ

             “ทำไมฉันจะไม่เคย ก็แค่จูบ!ฉันโผลงใส่เขาอย่างโมโห

             ทำไมหมอนี่ต้องมาเล่นลิ้นด้วย มันหน่าหงุดหงิดจิงๆ

             “แล้วทำไมเธอต้องทำท่าทางโมโหแบบนี้เขาว่าเดินมาขวางอยู่ตรงหน้า แล้วค่อยๆเขยิบใบหน้ากวนประสาทนั้นเลื่อนเข้ามาหาฉัน

     

             “ก็เพราะว่ามันเป็นนายไง!”  ฉันมองใบหน้าคนตรงหน้าด้วยใบหน้าไม่มีร้อยยิ้มอะไร ถึงแม้ว่าใบหน้าและดวงตาของเขามองลึกเข้ามา ถ้ามันทะลุตัวฉันได้มันก็คงจะทะลุไปแล้ว  คนบ้า!

             “นี่ออกไปนะฉันว่าพร้อมใช้มือดันคนตรงหน้า

             “เป็นอะไรเนี่ย โกรธแบบไม่มีเหตุผลเลยไม่พอเขายังใช้นิ้วเรียวยาวจิ้มที่แก้มของฉันอีก

             โอ้ย ไอ้บ้า! เลิกแกล้งฉันสักที ฉันจะทนไม่ไหวแล้วนะ!

             “ปล่อย แล้วเลิกเล่นสักที ฉันไม่ได้โกรธ ฉันจะบอกให้โอเคมั้ย จูบนายมันไม่มีค่าอะไรเลย!พูดจบฉันก็กระทืบเท้าแรงใส่นายเฮลซินกิแล้วเดินหนี แต่ทว่ายังไม่ทันที่จะไปไหนเขาก็เข้ามาคว้าแขนฉันไว้ก่อน

             “นี่เธอดูถูกฉันงั้นเหรอ

             “อืมทำไมยะฉันว่าแล้วเชิดหน้าตอบ ก็จูบนายมันไร้รสชาติสิ้นดี!ยั่วโมโหฉันดีนัก ฉันชักจะทนไม่ไหวกับเขาแล้วนะ

             “เหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เธอคงไม่เคลิ้มขนาดนั้นหรอกเคลิ้มเหรอ..อยู่ๆ อุณหภมิในร่างกายฉันก็ร้อนขึ้นมาดื้อๆ

             “คะ ใคร เคลิ้มยะ! จูบนายนะเหรอ อย่างหลงตัวเองได้มะฉันโต้ขึ้นมาทันควัน พร้อมเบะปากใส่เขา

             “งั้นมาลองดูอีกที ว่าจูบจริงๆ เขาทำยังไง!พอเขาพูดจบ เฮลซินกิก็กระชากฉันเข้าไปอยู่ระยะประชิดอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็พันธนาการฉันไว้ด้วยอ้อมแขนที่โอบรอบตัวฉันและดึงฉันมาใกล้จนหน้าผาดเราแทบจะชนกัน

             “เฮลซินกิ ปล่อยนะฉันพยามขยับตัวออก ทว่าขากอดฉันแน่นจนไม่สามาถขยับไปไหนได้ แววตาคู่นั้นมองฉันอย่างนิ่งๆ นี่เขาโกรธฉันเหรอ

             คนตรงหน้าเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ และประกบริมฝีปากบางช้าๆ และหนักหน่วง ริมฝีปากร้อนบดขยี้ฉันแรงขึ้นและแรงขึ้น อุณภูมิในร่างกายตอนนี้เหมือนมันสูงขึงอย่ารวมเร็ว ใบหน้าร้อนผ่าว ร่างกายไร้เรี้ยวแรง มือปล่อยมือจากเอวขึ้นมาโอบกอดอยู่ที่ใบหน้า หัวใจฉันเต้นอย่างแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  เฮลซินกินจูบฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า พอเถอะ ฉันเริ่มจะไม่ไหวแล้วนะ ใบหน้าและจมูกโด่งที่คลอเคลียอยู่ทำให้ฉันตอนนี้แถบจะหยุดหายใจ.. นี่เขากะจะฆ่าฉันใช่มั้ย..        

     

             ณ คอนโดโรสเบล

     

             “เขามันร้ายกาจ ฉันเตือนเธอแล้วนะคีช่าเพื่อนสาวที่นอนข้างๆ โพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

             “อย่าพูดถึงเรื่องวันนั้นได้ไหมฉันว่าแล้วหันไปจ้องเพื่อนสาว

             “แล้วหลังจากนั้นมันเกิดอะไรขึ้นคีช่ายื่นหน้ามาอย่างสงสัย

             หลังจากเมื่อวาน ฉันพยายามจำทำตัวเป็นปกติที่สุด เพราะจูบนั่นของเขามันทำให้ฉันหมดสติไป โอเค เพราะว่าฉันไม่ได้กินอะไรด้วยต่างหากเมื่อวาน ไม่ใช่เพราะจูบเขา! พอฉันตื่นขึ้นมาก็อยู่ในนอนเรียบร้อยแล้ว ฉันเลยเรียกให้เนลมารับที่นั่น โดยไม่ล่ำล่าใครในนั้นสักคน ฉันคงทนไม่ได้ที่จะเจอเขา และมันก็เป็นเรื่องน่าอายสิ้นดีที่ฉันเป็นลมไปเพราะจูบของหมอนั่น เฮ้อ

             “ฉันไม่อยากพูดถึง น่าอายสิ้นดีฉันกรอกตาและปฏิเสธที่จะเล่าอะไรให้คีช่าฟัง

             “ไม่แน่ เขาอาจะชอบเธอขึ้นมาก็ได้นะโรสคีช่ามองฉันด้วยสายตากรุ้มกริ่ม

             “เป็นไปไม่ได้ เขาทำแบบนั้นก็เพราะ..เขาจะทำไปทำไมนะ

             “นั้นไงยะ เธอยังไม่รู้!คีช่าว่าแล้วตบมือราวกับเรื่องนี้เป็นไปอย่างที่เธอคิด

             “เพราะ .. เพราะว่าเขาอยากเอาชนะไง

             “เหรอ จริงจังเนอะคีช่าลากเสียงยาวเหมือนล้อเลียนฉัน

             “นี่ยัยคีชฉันหันไปถลึงตาใส่คีช่าที่ยังล้อฉันไม่เลิก ยัยนั่นหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นปฏิกิริยาฉันแบบนี้ เป็นเพราะเขาคนเดียว!

             ยัยนั่นไม่สนใจและพลิกตัวไปพลิกมาอยู่บนเตียง นึกถึงเรื่องเมื่อคืนทีไร หน้าเขาก็ลอยมันทันที ไม่ใช่เพราะความพิศวาดหรืออะไรทั้งสิ้น ตอนนี้ฉันเกลียดหมอนั่นมากกว่าเดิมเป็นร้อยเป็นพันเท่า ลืมเรื่องการแข่งขันไปเลย เขาทำมันพัง ความสำพันธ์ของเราไม่มีทางดีขึ้นมาแน่ๆ เพราะฉันเกลียดเขาสุดๆ!

             ตึ่ง ตึ้ง!

             เสียงเตือนจากแอปในไอโฟนทำให้ฉันไปมอง และนั่นทำให้ฉันแทบร้องกรี้ดขึ้นมา

             Berlyin is now on YouNow!

             โอ-มาย-ก็อด ยูทูปเบอร์ขวัญใจของฉันเองล่ะ! ไม่ต้องแปลกใจ ฉันก็เป็นคนธรรมดาที่จะมี Youtuber Crush เขาแปลกและเป็นผู้ชายที่ประหลาดที่สุดที่ฉันเคยพบเจอในโลกโซเชียลเน็คเวิร์ค Berylyn’s daily เป็น Youtuber ของคนหนึ่งๆ ที่ไม่เคยเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของตัวเองบนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ค ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร และนั่นยิ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างและเสน่ห์ของเขา เพราะเขาได้รับความสนใจจากวัยรุ่นมากมายเพราะยอดคนติดตามหลายล้านกกว่าคน ด้วยใบหน้าที่คลุมด้วยถุงกระดาษสีน้ำตาล ที่วาด ตา ปาก จมูก และนั่นทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร

             อีกประกาณหนึ่งเขาร้องเพลเพราะสุดๆ เพราะเขามักจะโชว์ใบหน้าที่เป็นถุงกระดาษที่เป็นเอกลักษณ์ จากนั้นก็ส่ายหัวไปมาซึ่งฉันคิดว่าเขาน่ารักสุดๆ ฉันไม่รอช้าแล้วตามเข้าเว็บ Younow ทันที ฉันเรียกเขาว่า เบอร์ลี่ ผู้ลึกลับเสียงจากบอร์ดแคสทำให้ฉันตื่นเต้น ฉันพึ่งจะเข้าใจอาการบ้าดาราอะไรนั่น เพราะฉันคลั่งเบอร์ลี่ผู้ลึกลับมาก ถึงขั้นอยากรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน จนกระทั่งจอยส์ให้ไอดีสไกป์ของเขามา ฉันไม่รู้ว่าหมอนั่นเอามาจากไหน หรือเอาของปลอมมาแกล้งฉัน ฉันเข้าไปล็อกอินสไกป์ไม่นานก็เห็นไปดีที่จอยซ์อ้างว่าเป็นเบอร์ลี่ผู้ลึกลับกำลังออนไลน์!!

             “พระเจ้าช่วย!

              คีช่าว่าหันมามองอย่างสงน ทว่าฉันไม่สนใจและกำลังจดจ่อกับหน้าจอแลบท็อบอย่างตื่นเต้น ฉันกดคอลไปหาเขา แต่ทว่าไม่มีใครตอบ
     

             “คุณ!

             ฉันร้องอย่างตกใจเพราะ เมื่อปลายทางกดรับ

             (เธอได้ไอดีฉันไม่ได้ไงเนี่ย) คนปลายสายถามด้วยน้ำเสียงฉงน

             “คุณคือ Berlyin’s Daily จริง ใช่มั้ย เจ้าบ้าจอยซ์ไม่หรอกฉันเล่นหรอกนะ

             (ใช่อะดิ เธอรู้มั้ยเธอทำให้สัญณาณฉันพัง แฟนคลับฉันบนยูนาวรู้สึกยังไงน่ะ )

             อึ้ง! โอมายก็อด นี่เขาจริงๆ ด้วย

             (ฉันล้อเล่นหน่า อย่าเงียบสิโรสมินตี้)

             !!!!!! เขารู้จักฉัน ????

    .         “นายรู้จักฉันงั้นเหรอฉันโพร่งถามและเปลี่ยนสรรพนามเขาเรียบร้อย

             (ทำไมฉันจะไม่รู้จักเธออะ ฉันกดไลค์วีดิโอของเธอทุกอันเลยนะ แล้วไอจอยซ์ก็เป็นเพื่อนฉัน) คนในสายหัวเราะขึ้นมา นี่เขาคงคิดว่าฉันถามคำถามโง่ๆ สินะ

             “ฉันไม่น่าหลงเป็นแฟนคลับนายเลย

             (ทำไมอ่ะ เป็นแฟนคลับผมมันไม่ดีตรงไหนครับ)

             “ฉันอยากเห็นหน้านายอ่ะฉันโผล่งขึ้น

             (คุยกันครั้งแรก ก็จะให้เห็นหน้าเลยเหรอ ง่ายไปหรือเปล่าครับคุณ)

             “ก็นายเป็นเพื่อนจอยซ์ ฉันก็เป็นเพื่อนเขา เพาะฉะนั้นเปิดหน้าดูซะดีๆ

             (แล้วฉันบอกว่าไม่ล่ะ)

             ทันใดนั้นหน้าเจอคอมก็ดับไปอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ให้ถายเถอะ ฉันกำลังคุยกับเขาอยู่เลย!

             “ไม่นะ!

             พรึบ! ไม่ทันจะพูดจบภายในห้องก็มืดสนิดตามทันที ไม่ใช่แบตหมดหรืออะไร แต่ตอนี้ไฟดับมันดับทั้งห้อง

             “อย่าบอกว่าแกลืมจ่ายค่าไฟคีช่าว่าบางใช้เท้าเขี่ยฉันที่อยู่ข้างๆ

             “ฮือออ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเชียว ฉันไม่รู้ไม่ชี้ทั้งนั้นฉันว่าพลางปล่อยเสียงโฮ

            

     

             วันรุ่งขึ้น

             ‘ฉันจะจูบเธอแล้วนะคนตรงหน้าว่าพลางทำปากจู๋มองมาทางฉัน

             ‘นายว่าไงนะ!ฉันโพล่งออกไปอย่างตกกะใจ

             ‘มามะ โรสเบลที่รัก มาจูจุ้บกันทีไม่รอช้าคนตรงเข้าวิ่งโร่เข้ามาหาฉันพร้อมกับ ประกบริมฝีปากลงอย่างดูดดื่ม~

             ไม่นะ~ ม่ายยยยยยยยยยยย

             “เฮือก!ฉันกระพริบตาถี่ๆ และลุกนั่งพิงหัวเตียง  นี่มันห้องฉัน... ไม่รอช้าฉันจับริมฝีปากตัวเองอย่างรวดเร็วเมื่อนึงถึงฝันเมื่อกี้ ความรู้สึกอุ่นตรงนั้นยังไม่จางหาย อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้ ฉันฝันถึงหมอนั้น ทำไมต้องมาหอลกมาหลอนกันด้วยเนี่ ฉันถึ้งหัวเองแรงๆ เพื่อไล่ความรู้สึกที่ค้างมาจากความผัน

             ฉันพาตัวเองลุก และมองออกไปรอบๆ ยัยคีช่าไม่อยู่ และพลันเจอกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งเขียนติดไว้ที่บนหัวเตียง

             ‘เจอกันที่สนามเสก็ต แกต้องมเชียร์ที่รักฉันนะ!

             เฮ้อ นี่ฉันต้องไปจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย!

            

             ณ สนามแข่งเสก็ต

             ตอนนี้เป็นรอบแข่งขันรอบสุดท้ายของทรอย ฉันมองป้ายที่ติดแถวๆ นั้นว่าเป็นรอบไฟนอลหรืออะไรสักอย่าง เป็นเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมคีช่าต้องมาสินะ

             “ระวัง!

             !!!!!

             อัก อัก!

             ฉันหลับตาปี้ขณะที่เห็นแสงไฟจากรถสิบล้อสาดเข้ามาใกล้ ความกลัวทำให้ฉันแถบขยับขาออกไปไหนไม่ได้และคิดว่าคงต้องตายแน่ๆ แต่ทว่าพอลืมตาขึ้นมา มันไม่ใช่สวรรค์ หรือนรก แต่ฉันอยู่ในอ้อมกอดของใครไม่รู้

             “ยัยบ้า! ทำไมไม่ระวังบ้างเลยวะเจ้าเสียงผู้ช่วยชีวิดฉันสบทอย่างหัวเสีย 

             “ขอโทษนะคะ..ฉันขอโทษขอโพยเขา อย่างน้อยฉันก็ต้องพูดจากับผู้ช่วยชีวิต และในขณะที่หันหน้าไป

             “เฮลซินกิ!

             “ใช่ ฉันเอง! เป็นบ้าอะไรของเธอวะ ยืนอยู่กลางถนนให้รถวิ่งเขามาชนฉันขมวดคิ้วมองเขา ฉันคงตั้งหรอกนะ

             “ฉันไม่ทันระวัง ยังไงซะก็ขอบคุณ!ฉันว่าแล้วผลักเขาจากการเกาะกุม พอเห็นใบหน้าหมอนี่ มันก็ทำให้อยากฉันเอาใบหน้าถูกับแผ่นดินแรงๆ เพื่อนลบสัมผัสของเขาพอนึกถึงเรื่องเมื่อวันก่อนตอนนี้นี้เราอยู่ในสภาพนอนอยู่กับพื้นโดยที่เขาอยู่ด้านล่างแล้วฉันก็นอนทับ

             “ปล่อยนะฉันว่าพลางขยับตัวไปมา ทว่าท่อนแขนที่รัดเอวอยู่ดันไม่ยอมปล่อย

             เฮลซินกินไม่พูดอะไร จากนั้นก็ค่อยๆ ขยับตัวและมือที่กอดอยู่ตรงเอว

             “นายจะทำอะไรฉันว่าแล้วพยายามดันเขาออก

             “ก็ลุกน่ะสิเขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย พลางพยายามที่จะดึงฉันขึ้นมาด้วย และมันเป็นท่านั่งที่พิเรนที่สุดในโลก เพราะฉันที่อยู่บนตัวเขาค่อยๆ ถูกอ้อมแขนแกร่งดึงให้ลุกขึ้นตามแรงยก จนกระทั่งยืนชึ้น ตอนนี้ร่างกายฉันถูกวางอยู่บนหน้าตักเขา

             “นะนี่ ปล่อยฉัน!

             “จนกว่าฉันจะดูให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร

             “นี่! ฉันไม่เป็นอะไร ปล่อยเถอะ ฉันอายคนอื่นถึงแม้จะไม่มีคนมาก แต่ว่าก็มีคนบางส่วนที่เดินผ่านมองเรา

             “เงียบหน่า เธอไม่เจ็บหรือไงเขาดุเบาๆ แล้วจ้องมองไปที่หัวเข่าสีเต็มไปด้วยเลือดสีแดงไหลโชกยาวจนไปถึงข้อเท้า มันต้องเป็นตอนที่พวกเราล้มกระแทกลงบนพื้นซีเมน แต่ทำไมฉันกลับไม่รู้สึกสาอะไรเลย

             “โอ้ย..ทว่าพอได้เห็นความเลือดที่ไหลอาบที่ขา ความรู้สึกก็พรั่งพรูขึ้นมาทันที

             “เจ็บเหรอ..เฮลซินกิว่าแล้วก้อมมองแผลที่หัวเข่าฉัน จนทำใบหน้าเขาที่อยู่ด้านหลัง สัมผัสกันโดยไม่ได้ตั้งใจ และกระแสไฟฟ้าสถิตทำให้เราต้องผลักออกอย่างเร็ว

             ตึก ตัก ตึก ตัก

             ความรู้สึกกระอักกระอ่วนแบบนี้อีกแล้วสิ

             ใบหน้าเขาที่อยู่ใกล้ ทำให้หัวใจฉันเต้นแรงขึ้น และอยู่หน้าก็ร้อยผ่าวขึ้นมา ทำไมเจอหมอนี่ทีไร อากาศมันถึงร้อนทุกทีเลย        

             “ระ..ร้อน ปล่อยฉันได้แล้วฉันว่าละเบือนหน้าไปทางอื่น

             เฮลซินกิไม่พูดอะไรและปล่อยฉันจากอ้อมแขน เขาค่อยๆ ยืนขึ้นและจับแขนพยุงฉันขึ้นมา

             “ฉันโอเค ปล่อยฉันเถอะฉันว่าแล้วหันไปบอกเขา

             ตึก ตัก ตึก ตัก

             เสียงดังจากหัวใจมันเต้นแรง จนฉันกลัวว่าเขาจะได้ยินมัน ให้ตายสิ หยุดเต้นสักที!

             “นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่งนะว่าแล้วจ้องฉันเขม่งด้วยสายตาผู้ใหญ่ที่ดุเด็กดื้อ

             “ชิ ปล่อยฉัน ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนายฉันยืนกรานจากนั้นก็พยายามสะบัดมือเขาออก แต่ทว่า

             ”พนันได้เลย ถ้าฉันปล่อยมือเธอตอนนี้ เธอได้ลงไปนอนกลิ้งเป็นซากโคอาล่ามัชแน่เฮลซินว่าและหรี่ตามอง

             “เอ๊ะ นายฟังไม่รู้เรื่องหรือไงฉันมองหน้าเขาอย่างมีน้ำโห แต่เฮลซินกิกลับมองฉันกลับด้วยสายตาเรียบเฉย

             “คนบ้าอะไร โคตรดื้อเลยวะเขาบ่นพึมพัม ทว่าฉันได้ยินอย่างชัดเจน

             “ฉันได้ยินนะ! เลิกยุ่งกับฉันสักทีฉันสะบัดแขนออก

             “เลิกทะเลาะกันเหอะ ฉันกลัวเธอตายว่ะ

             “ว่าไงนะ!ไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ เฮลซินกิก็ถือวิสาสะ และอุ้มฉันไปอยู่ในอ้อมแขน และครั้งนี้ไม่มีท่าทีว่าฉันจะหนีจากเขาไปได้

             “กอดคอฉันเขาปรายตามองฉันที่อยู่ต่ำกว่า และพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งคำสั่ง

             “ไม่!ฉันสะบัดหน้าและทำหน้าบึ้ง

             “เออ ระวังหล่นแล้วจะว่าไม่เตือน

             “ว๊าย!เฮลซินกิทำท่าเหมือนจะปล่อยฉันตกพื้น ทำให้มือทั้งสองข้างต้องไปกอดคอเขาด้วยอย่างรวมเร็ว

             “หึเขาว่าแล้วยิ้มอย่างพอใจ

     

             ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

             ฉันถูกพยาบาลสองคนทำให้แผลให้ตั้งแต่ตัวจรดเท้า ไม่ว่าจะเป็นแผลเล็กหรือ แผลใหญ่ กลิ่นของแอลกอฮอล์ทำให้ฉันรู้สึกมึนหัวนิดหน่อย ส่วนนายเฮลซินกิ ก็เหมือนจะพอใจที่ฉันถูกทำแผลและถูกพันผ้าเสมือยมกับผีซอมบี้

             “มองอะไรฉันว่าแล้วตวัดสายตามองคนข้างๆ อย่างไม่สบอารมณ์

             “เปล่า แต่เธอน่ะ ทำแบบนี้แล้วเหมาะดีเขาว่าพลางมองผ้าพันแผลนับสิบที่อยู่บนตัวฉัน แล้วยิ้มขำๆ

             “นี่ นาย!ฉันร้องเสียงดัง จนลืมไปว่าเราอยู่โรงพยาบาล

             “เฮ้ นี่โรงพยาบาล ใจเย็นสิพอเห็นฉันหยุดพูด เฮลซินกิก็ฉีกยิ้มราวกับเขาเป็นผู้ชนะ ฉันกรอกตาพลางทำท่าล้อเลียนเขา แลเขาก็เคลื่อนรถเข็นไปรอยังเคาน์เตอร์จ่ายเงิน

             “เธอกินอะไรบ้างหรือเปล่าช่วงนี้เฮลซินกิย่อตัวลงมานั่งข้างๆ แล้วถามฉันที่นั่งอยู่บนวิวแชร์ด้วยความสงสัย

             “ทำไมยะ ฉันอ้วนหรือยังไง

             “ตัวเบาเป็นนุ่นอย่างเธอเนี่ย ฉันสงสัยจริงว่าไขมัน มันไปอยู่ส่วนไหนหมดเขาว่าแล้วไล่สายตามเลือนร่างฉัน

             ผ่าง!        

             ทำไมหน้าถึงรู้สึกร้อนๆ อีกแล้ว

             “อ้อ ฉันรู้แล้วว่ามันไปอยู่ที่ไหนหมดเฮลซินกิกระตุกมุมปากด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ จากนั้นสายตาเขาก็มาเลื่อนมาอยู่ตรงหน้าอกฉัน

             “อะ ไอ้บ้า! นายมันไอ้ทุเรศ หื่น กาม ลามก โรคจิต!ฉันไขว่มือปิดหน้าอกอย่างเร็ว

             “ล้อเล่นหน่าเขาว่าแล้วหัวเราะขึ้นมา มันตลกตงไหนยะ

             (ตึ่ง ตึง ตึ้ง ขอเชิญคุณโรสเบล ลีน ไปรับยาที่เคาน์เตอร์ 7 ด้วยค่ะ)

             เอลซินกิเดินออกไปรับยา ส่วนฉันที่นั่งรอก็กดข้อความบอกคีช่าไปพลางๆ หวังว่ายัยนั่นคงไม่เหงาเท่าไรหรอกเพราะฉันคงจะไม่ลากสังขารตัวเองไปในสภาพนี้ คีช่าตอบกลับมาพร้อมอิโมติคอนหน้าบึ้ง สักพักเฮลซินกิก็เดินกลับมาพร้อมกับถุงใบเบ้อเร่อ จากนั้นเขาพาฉันไปส่งที่คอนโดอย่าง ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์มาต่อล้อต่อเถียงเลย ขอยกธงขาวชั่วคราว

             “พอแค่นี้แหล่ะฉันว่าแล้วขยับตัวออกห่างจากเขา

             “อย่าลืมกินยาล่ะเขาว่าแล้วมองมายังถุงยาที่ฉันถือ

             “รู้แล้วหน่าฉันกรอกตาแล้วตอบไปอย่างส่งๆ เพราะยังไงฉันก็ไม่มีทางกินยานี่แน่นอน พอไขประตูเขาก็ดึงมือฉันไว้ก่อน

              อะไรเขาเนี่ย..

             “อ่า อย่าลืมกินยาเขาว่าพลางจ้องหน้าฉันอีกที สักพักภาพจากงานวันเกิดมอร์แกนก็ไหลเข้ามาในหัวฉัน ทั้งสัมผัส หน้าเขาตอนนั้น หลายๆ อย่าง ทำให้ฉันตอนนี้รู้สึกอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ สายตาเขาตอนนี้ดูอ่อนโยนอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน มันทำให้ฉันแถบจะยืนไม่ไหว

             “ฉันไปนะ

             ฉันมองตามแผ่นหลังที่เดินออกไป ทำไมใจมันเต้นแรงแบบนี้ วันนี้นายนั่นทำให้หัวใจฉันทำงานหนักไปมากเกินไปแล้วนะ

             “นี่ฉัน...เป็นอะไรไปเนี่ย

    ▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂

    คุยกัน
    รีไรท์ตอนสุดท้่ายเสร็จแล้ว ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก 
    ชอบหรือไม่ชอบยังไงบอกด้วยน้า อยากอ่านก็มาคอมเม้นหน่อย อิอิ
    ขอบคุณค่า


     

     


      :) 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×