ตอนที่ 5 : The series 2 : อยู่ต่อเลย....ได้ไหม (1) [D5927]
เวลา 12.59 น.
“แย่ล่ะสิ ดันตื่นสายซะได้ โรมาริโอ้ไม่น่าไปดื่มกับพวกคุณคุซาคาเบะเลยนะครับ พลอยเอาผมสายไปด้วยอีกคนน่ะ”
บอสคาบัคโรเน่ที่นั่งอยู่ในรถเก๋งคันหรูก็บ่นอุทานอย่างเป็นกังวลใจและอยู่ไม่สุขเท่าไหร่ เขาบ่นใส่กับลูกน้องคู่ขาเขาอย่างสบายๆ ที่ไม่ได้ใส่ใจจะโกรธอะไรมากนัก
“ขอโทษนะครับ เพราะนานๆ เขาจะมาที่อิตาลี่ที เดี๋ยวผมจะรีบบึ่งรถให้เร็วเลยครับคุณดีโน่”
ทางลูกน้องมือประจำก็เหยียบคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วของรถทันที เพราะต้องการให้ทันเวลาที่เขานัดประชุมไว้และไม่อยากให้ชายที่กำลังรอเขารอตนเองไปนานมากกว่านี้ โรมาริโอ้ขับรถอย่างร้อนใจไม่แพ้กับบอสที่นั่งเหงื่อตกอยู่ด้านหลัง แม้แอร์จะเปิดแรงและเย็นแค่ไหนแต่เพราะความกังวลทำให้เขาร้อนอย่างช่วยไม่ได้
“ชั้นไปสายน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ชั้นไม่อยากจะโดนแบบนั้นน่ะสิ”
“แบบนั้น? อ๋อ เด็กคนนั้นหรอครับ”
“อ่า ใช่ๆ ติดอยู่แค่โหดไม่คนามือก็เท่านั้นแหละน๊าาา”
ดีโน่พูดไปพลางยิ้มและพยักหน้ารับไป เขาสองคนกำลังคุยกันอย่างเป็นกันเองแม้ต่างคนก็ต่างรู้ตัวว่ามันเลทมากแค่ไหนแล้วก็ตาม แต่ทั้งบอสและลูกน้องคู่ประจำก็ยังคงคุยได้หน้าตาระรื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
“แต่คุณดีโน่ก็ยอมให้เด็กคนนั้นลงมือทำแบบนั้นทุกทีเลยนิครับ”
“ก็นะ...เอาเป็นว่าเร่งมือหน่อยดีกว่า เดี๋ยวจะสายหนักกว่าเก่านะ”
“ทราบแล้วครับ”
กี่ปีกันแล้วนะที่เราได้พบกัน....
ผมเจอเขาครั้งแรกที่อิตาลี่ ในชุมชนที่มีแต่ผู้คนอดอยากและฆ่ากันอย่างโหดเหี้ยม
‘โกคุเดระ ฮายาโตะ’
เป็นคนที่ไม่น่าจะใช่คนที่มีฐานะต่ำต้อยอะไรเลย
เพราะผมมองเพียงแค่แว๊บเดียวก็พอจะเดาได้ รูปร่างหน้าตาเขา มันบ่งบอกว่า...ไม่ใช่
แต่เพราะเขาถูกครอบครัวทิ้ง
เนื่องจากสงครามระหว่างประเทศที่ทำให้เกิดการสูญเสีย
ครอบครัวของเขาจึงโดนพรากไปหมดเหลือเพียงตัวคนเดียวที่อาศัยในเมืองอันน่ารังเกลียดอย่างลำพัง
ผมเองก็ไม่รู้ว่าเขามีชีวิตรอดมาได้ยังไงหรอก
แต่เขาก็มาปรากฏท่ามกลางคืนจันทร์เต็มดวงพอดี เพราะผมจำได้แม่นไม่เคยลืมและไม่คิดที่จะลืมมันด้วยซ้ำ
แววตาสีเขียวมรกตที่สว่างสวย ทอดลงสู่แม่น้ำที่อยู่ใต้สะพานเก่าๆ แห่งหนึ่ง
เพื่อมองพระจันทร์เต็มดวงในแม่น้ำที่ใส จนเห็นก้อนกรวด สาหร่ายน้ำ และลูกปลาตัวเล็กๆ ได้
สีหน้าเขาที่ดูเข้มแข็งนั้น ผมแอบเฝ้ามองเขาตลอดอยู่นาน
และมันเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเด็กผู้ชายกำลัง....ร้องไห้
ผมไม่ได้ยินที่เขาบ่นออกมาเป็นประโยคเท่าไหร่นัก รู้เพียงแค่
....เขาเสียใจมาก.....
และตอนนั้น ผมแค่ต้องการจะเข้าไปปลอบเขาที่กำลังเสียใจ แต่สิ่งที่ผมต้องประหลาดใจคือ
แววตาที่กำลังเศร้าสร้อยมันหายไปเป็นปลิดทิ้งแถมยังถือไดนาไมท์เต็มมือพร้อมขู่เพื่อให้ผมออกไปจากที่นี่
.....ด้วยความที่เขา สั่นสู้ แม้จะทำเป็นอวดเก่งเหมือนไม่มีความรู้สึกอะไรเลย
ผมก็ยอมให้เขาเขวี้ยงระเบิดจำนวนมากใส่ผม แต่เพราะวุฒิภาวะด้วยล่ะมั้ง
ผมกลับหลบมันได้มันทุกแท่ง และเมื่อมีช่องโหว่ผมก็วิ่งเขาไปโอบกอดเขาที่กำลัง
....หวาดกลัวกับการอยู่คนเดียวในโลกที่น่าเวทนาใบนี้....
กว่าจะยอมหยุดปากแข็ง เขาก็ล้มลงไปในอ้อมแขนของผม เพราะความที่อดอาหารมาเป็นเวลานานพอสมควร
และเมื่อมารู้ตัวอีกที ผมก็คอยดูแลเขาอยู่ห่างๆ ไปเรียบร้อยแล้ว
ผ่านไปไม่นานนัก รีบอร์น อดีตครูพิเศษผมก็มาตามหาผู้พิทักษ์ในวองโกเล่ แฟมิลี่ ที่เหมาะสมจนกระทั่งเจอ
‘โกคุเดระ ฮายาโตะ’
และรีบอร์นก็ส่งเขาไปอยู่กับพวกสึนะในฐานะผู้พิทักษ์วายุ
เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจริงๆ เมื่อเจอสึนะ บอสของวองโกเล่ เดชิโม่ รุ่นที่ 10
วายุที่เคยโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งนั้น
บัดนี้ถูกนภาผืนใหม่โอบกอดและคอยหนุนให้พัดพาไปตามกระแสลมใหม่ตามทิศทางที่เขาไปอยู่
บางครั้ง ก็แอบอิจฉารุ่นน้องตัวเอง หรือสึนะนั่นแหละ
ใจผมเองก็อยากให้โกคุเดระอยู่ในแฟมิลี่ของผม
แต่เพราะว่าผมเป็นนภาที่มีอาณัติมากเกินกว่าจะมีผู้พิทักษ์เพิ่ม
จึงทำได้แค่......
‘รอคอยเวลาให้วายุพัดหวนกลับมาหานภาผืนเก่าที่เคยโอบอุ้มมาก่อนเท่านั้น’
“เอาล่ะ ถ้าเจ้าบอสงี่เง่านั่นยังจะมาสายอีกล่ะก็ เราไปกันก่อนเลยดีมั้ยครับ รุ่นที่ 10”
เสียงหวานที่ยืนอยู่ข้างๆ บอสของตนมาเป็นเวลานานพอสมควรก็พูดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดกับพฤติกรรมของชายที่พวกเขาสองคนกำลังยืนรอคอย
“ไม่เอาน่า โกคุเดระคุง คุณดีโน่เค้าอาจจะมีธุระจริงๆ ก็ได้นะ”
บอสวองโกเล่ที่เริ่มเห็นอาการของว่าที่มือขวาในอนาคตเตรียมไดนาไมท์ออกมาเป็นกำทั้งสองข้างก็รีบเดินเข้าไปรั้งแขนไว้ก่อน ทำให้โกคุเดระยับยั้งมือลง
“ขอให้มันมีธุระจริงๆ นะครับ...”
ว่าแล้วเขาก็ยัดแท่งระเบิดอันมากมายที่สามารถซ่อนไว้ทั่วตัวได้อย่างแนบเนียบลงแล้วเปลี่ยนมาจุดไฟแช็คและดูดสารพิษที่เขาชื่นชอบแทน และไม่นานนักเสียงยางล้อรถที่เสียดสีกับพื้นคอนกรีดก็ดังขึ้นพร้อมกับชายผมสีเหลืองวิ่งลงจากรถมาหาอย่างกระสับกระส่าย
เอี๊ยดดดดดดด.... ตึก ตัก ตึก ตัก ตึก ตัก
“แฮกๆ ขอโทษนะสึนะที่ชั้นมาช้ามากเลยน่ะ”
บอสคาบัคโลเน่รีบวิ่งมาทันทีเมื่อรถเก๋งสุดหรูจอดอย่างแรง พร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษด้วยความผิดหลายครั้งที่เขาเคยทำให้สึนะมารอนานแบบนี้
“ม ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณดีโน่ทำไมมาสายได้ขนาดนี้ล่ะครับ”
บอสวองโกเล่เดชิโม่ก็ยิ้มแห้งๆ พร้อมกับพูดให้ดีโน่ที่กำลังหอบหายใจช้าลงเพื่อปรับให้เข้ากับจังหวะชีพจรปกติ แต่หารู้ไม่ว่าชายที่ออกไปยืนสูบบุหรี่นั้นชักระเบิดออกมาพร้อมที่จะจุดและหว่านใส่ชายร่างสูงที่ยืนหายใจอย่างไม่เป็นจังหวะ
“เกือบ 1 ชั่วโมงนะเฟ้ย!! ไอ้ม้าพยศ!! แก...ปล่อยให้รุ่นที่ 10 ต้องยืนรอนานแบบนี้อีกแล้ว คราวนี้แกไม่รอดแน่ เอาไปกินซะ!!”
ร่างบางที่ปรอทความอดทนแตกก็วิ่งพุ่งใส่ชายที่มาสายพร้อมกับเตรียมเหวี่ยงมือเพื่อขว้างไดนาไมท์ออกไป แต่แล้วร่างกายเขาก็ชะงักลงเมื่อสึนะมากอดรั้งเขาจากด้านหลังเหมือนทุกทีที่คอยห้ามปรามโกคุเดระเสมอๆ
“อ๋าาา!! จ ใจเย็นๆ ก่อนนะ โกคุเดระคุง คุณดีโน่ก็มาแล้ว เราไปประชุมกันเถอะนะ”
“ฟู่....ก็ได้ครับ ถ้ารุ่นที่ 10 ขอมาล่ะก็ แกรอดอีกแล้วนะ ไอ้เจ้าม้างั่ง ชิ!!”
ร่างบางยอมแต่โดยดีพร้อมกับเก็บแท่งอันตรายอีกครั้งอย่างไม่สบอารมณ์แล้วเดินเลี่ยงออกไปเพื่อสูบบุหรี่อีกมวนอย่างไม่ค่อยพอใจ
“อาาาา...สึนะ ขอบใจมากเลยนะ”
ดีโน่ที่รอดตายอีกครั้งก็หันมายิ้มแหยๆ ให้ เขาต้องเป็นหนี้ศิษย์รุ่นน้องอีกครั้งที่ทำให้พ้นจากไดนาไมท์ของโกคุเดระที่เขาภาคภูมิ ทางสึนะเองก็ไม่ได้เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่โตอะไรเพราะแลดูจะเป็นเรื่องที่เขาต้องห้ามว่าที่มือขวาแบบปกติไปเสียแล้ว
“ไม่เป็นไรครับ คราวหลังถ้ามีประชุมก็อย่ามาสายจะดีกว่านะ โชคดีที่มันมีแค่ปีละครั้ง ว่ามั้ยครับคุณดีโน่”
ว่าแล้วบอสวองโกเล่ก็พูดไปพร้อมกับเดินตามหลังชายธาตุวายุที่ดูดแท่งสารพิษเล็กอย่างไม่ยอมหยุดไปทันทีเพราะเขาก็เป็นห่วงมือขวาในอนาคตไม่น้อย
“ฮ่าๆ นั่นสินะ แค่ปีละครั้ง”
ร่างสูงได้แต่ยิ้มรับอย่างจำใจ เพราะประโยคที่สึนะพูดมันช่างทิ่มแทงขั้วหัวใจเขาเอามากๆ แต่ดีโน่ก็ไม่ได้แสดงอาการให้เห็นแต่อย่างใด เพียงแค่เดินตามหลังทั้งสองคนไปพร้อมกับเก็บมาคิดเพียงคนเดียว
นานจัง...ชั้นไม่ค่อยได้มีโอกาสสัมผัสกับร่างกายที่เคยโอบกอดเลย
แม้แต่จะพบเจอกัน ยังแทบจะหาเวลายากจริงๆ
ทำไมรู้สึกอิจฉารุ่นน้องตัวเองแบบนี้นะ
.....แย่ชะมัด
ทั้งๆ ที่ คิดถึงใจจะขาด แต่เขากลับ
ไม่ได้สนใจผมที่เคยดูแลเขาเลย....แม้แต่น้อย
ห้องประชุม
“ตกลงตามนี้ เข้าใจกันนะ เอาล่ะ สึนะ เที่ยวบินคืนนี้ 1 ทุ่มตรง กลับพร้อมชั้นเข้าใจมั้ย เจ้าห่วยสึนะ”
ครูพิเศษตัวน้อยพูดปิดท้ายการประชุมที่กินเวลาได้ถึง 5 ชั่วโมงเต็ม จนเวลาบัดนี้ก็ประมาณ 6 โมงเย็นกว่าๆ และฟ้าก็ค่อนข้างมืดแล้วด้วย สึนะที่ต้องบินกลับไปบ้านเกิดตนเองก็หันไปพูดกับว่าที่มือขวาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
“โกคุเดระคุง อยู่อิตาลี่ 1 เดือน พอไหวใช่มั้ย”
“ครับ ผมทำได้อยู่แล้ว เรื่องกระจอกๆ แบบนี้ สบายใจได้ครับ”
ชายธาตุวายุที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาก็ยิ้มร่าเหมือนปกติที่เขากระทำทุกๆ ครั้งให้แก่บอสที่กำลังรู้สึกแย่ที่ทำให้ต้องแยกจากกัน แม้เวลาอาจจะสั้นก็ตาม แต่สำหรับเขามันก็นานไม่น้อย สึนะยิ้มตอบแล้วพูดอย่างตักเตือนเพราะเขาจะไม่มีโอกาสได้ห้ามปรามบ่อยๆ อีกแล้ว
“พยายามช่วยคาบัคโลเน่ แฟมิลี่หน่อยนะ แล้วก็ห้ามทำอะไรเกินตัวด้วย เข้าใจนะ”
“คร้าบ!! ผมจะตั้งใจเพื่อรุ่นที่ 10 ที่ผมเคารพครับ!!”
โกคุเดระฉีกยิ้มหวานอย่างน่ารักให้กับสึนะที่ทำหน้าตายิ้มอย่างฝืนๆ แล้วลุกขึ้นเพื่อไปคุยกับชายที่เขาต้องฝากตัวมือขวาไว้ชั่วคราวอย่างจำใจ
“คุณดีโน่ ผมฝากโกคุเดระคุงด้วยนะครับ”
“วางใจได้สึนะ สโมกกิ้งบอมเคยอยู่กับชั้นมาก่อนนะ ไม่ต้องเป็นห่วงมากก็ได้”
ทางด้านร่างสูงที่ได้ยินแผนการก็แอบดีใจไม่น้อย และรับปากบอสเดชิโม่ วองโกเล่อย่างเต็มเสียงด้วยความมั่นใจ แต่หารู้ไม่ว่าความมั่นใจที่ดีโน่แสดงออกมามันทำให้สึนะรู้สึกได้ถึงความโหยหาที่เขารอมานานแสนนานจนเกิดอาการหึงหวงขึ้นมา
“อ่า...ที่ผมเป็นห่วงน่ะ....”
....คือคุณดีโน่ต่างหากล่ะครับ
“หือ อะไรหรอ?”
บอสคาบัคโลเน่มองหน้าสึนะอย่าง งงๆ แล้วถามคำถามโดยไม่ได้ใส่ใจกับสีหน้าแบบนั้นเท่าไหร่นักเพราะเขากำลังดีใจที่โกคุเดระจะต้องมาอยู่ในแฟมิลี่เขาชั่วคราว ชายผมสีน้ำตาลจึงรีบส่ายหน้าและปัดมืออย่างไม่มีอะไรพร้อมกับหันไปคุยกับโกคุเดระอีกครั้ง
“อ๋อๆ เปล่าครับๆ งั้นโกคุเดระคุง พยายามเข้านะ ถ้าว่างก็ติดต่อมาบ้างล่ะ”
“แน่นอนครับ ผมไม่มีทางลืมรุ่นที่ 10 ได้เป็นอันขาดเลยครับ!”
“อื้อ ชั้นต้องไปสนามบินแล้วล่ะ”
“ให้ผมไปส่งมั้ยครับ”
“โกคุเดระพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวชั้นจะจัดการเจ้าสึนะจอมห่วยนี่เอง ถือว่าเป็นการฝึกด้วย”
เสียงอาจารย์ตัวน้อยขัดขึ้นมาเพราะไม่อยากให้ผู้พิทักษ์วายุต้องลำบากเพื่อคอยช่วยเหลือลูกศิษย์ของตนเองอยู่เสมอ จึงรีบเร่งให้บอสวองโกเล่รีบออกเดินทางแม้ใจของสึนะนั้นรู้สึกเสียดายแต่เขาก็ไม่สามารถขัดใจครูพิเศษของตนเองได้แม้แต่นิด
“ร รีบอร์นล่ะก็...”
ใจก็อยากให้โกคุเดระคุงไปส่งนะ
แต่ก็เอาเถอะ ให้เขาพักบ้าง เราเองก็พึ่งเขามาเยอะแล้วนิ
....อย่าลืมชั้นนะ โกคุเดระคุง
‘เพราะนภาผืนเก่ากำลังรอคอยวายุเปลี่ยนกระแสไปหานภาผืนเก่าอยู่’
ทุกคนในห้องประชุมต่างพากันกระจายแยกย้ายกลับไปตามแฟมิลี่ของตนและบ้านเกิดตัวเองเมื่อรีบอร์นเป็นคนออกจากห้องประชุมไปคนแรก และเมื่อถึงหน้ารถสีขาวคันสวยหรูที่รอรับให้บอสเดชิโม่ วองโกเล่กลับประเทศญี่ปุ่น โกคุเดระที่เดินตามมาส่งเท่าที่จะทำได้ก็ยืนมองพร้อมฉีกยิ้มระรื่นและพูดส่งท้ายด้วยความเชื่อมั่น
“รุ่นที่ 10 คร้าบ พยายามเข้านะครับ!!”
“ขอบใจนะ โกคุเดระคุง”
สึนะที่กำลังจะขึ้นรถไปนั้นก็เดินมาลูบเรือนผมสีเงินอย่างถนอมมือพร้อมกับพูดในสิ่งที่เขาไม่สามารถแสดงออกมาได้อย่างตรงๆ เขายิ้มอย่างเสียดายแต่ก็จำใจ ทำให้โกคุเดระถึงกับหน้าแดงเพราะการกระทำและคำพูดของคนที่เขาเคารพรักที่สุด
“อ๊ะ...รุ่นที่ 10”
“ไปนะ มือขวาของชั้น”
“รุ่นที่ 10....”
เมื่อการร่ำลาอาลัยของบอสวองโกเล่และมือขวาวองโกเล่จบลง นัยน์ตามรกตคู่สวยเอาแต่มองรถสีขาวสวยหรูที่มารับสึนะไปจนกระทั่งหายไปจากถนน เขาเอาแต่พูดชื่อสึนะอย่างแผ่วเบาครั้งแล้วครั้งเล่า จนดีโน่ที่ยืนมองอยู่นานก็เข้ามาแขวะก่อกวนให้เขาสนใจตัวเองแทน
“น่าๆๆ สึนะก็แค่กลับบ้าน นายเองก็กลับบ้านเหมือนกันไม่ใช่รึไง สโมกกิ้งบอม”
มือหนาเดินมาโอบบ่าเล็กที่กำลังคิดถึงบอสของตนเองและพูดด้วยน้ำเสียงตีสนิททำให้โกคุเดระหันหน้าแล้วมองค้อนอย่างเสียอารมณ์พร้อมกับผลักตัวดีโน่และเค้นเสียงใส่ แล้วเดินนำหน้าไปที่รถคันสีดำที่รอรับพวกเขาอยู่
“ชิ อย่ามาแตะตัวชั้นน่ะ ชั้นไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะเฟ่ยยย รีบกลับกันได้แล้ว”
“จ้าๆๆๆ”
บอสคาบัคโลเน่ที่โดนร่างบางดันตัวออกห่างก็รีบเดินตามหลังไป แม้จะรู้สึกเสียใจแต่เขาก็ยังคงไม่สามารถตัดใจจากชายธาตุวายุคนนี้ได้เลย จึงทำได้แค่คอยประคองอย่างเดียว
ใช่....นายไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ชั้นถึงยิ่งอยากจะสัมผัส
และนายก็ถูกนภาผืนใหม่เปลี่ยนกระแสไปหมดแล้ว
รู้สึกเจ็บใจแต่กลับทำอะไรไม่ได้
.....เหมือนราวกับ
‘โดนวายุที่กลายเป็นกระแสใหม่พัดผ่านนภาผืนเก่าไปอย่างไม่รู้จักกัน’
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เอ๊ยยย เนื้อหา
ใจนึงก็สงสารสึนะ อีกใจก็สงสารโน่ โฮ
เรามันหลายใจ T^T
ใจเชียร์พ่อม้านะ เร้าใจกว่าาา 555 ทูน่าจะออกแนวน่ารักดาร์กๆ? รอดูดีกว่า
ปล.เขินเหมือนกันน่าา
ส่วนตัวเชียร์พ่อม้านะ อิอิ
ปล. เค้ารู้นะ ว่าพูดถึงเค้ากับคุณผู้ชอบ 59 อยู่ เขิลนะเนี่ย