ตอนที่ 3 : The series 1 : นายคือ...คนไร้หัวใจ (3) [1859]
ไม่แปลก ที่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ตัวผมซักนิด ถ้าหากไม่จำเป็นจริงๆ
แค่คิดกัน เจ้าพวกนั้นก็กลัวจนตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้าสิง
ทุกๆ วัน เวลามันหมุนไปเรื่อยๆ ไม่หยุดพัก และไม่รู้จักเหนื่อย
มีแต่เรื่องเดิมๆ และความจำเจที่ผุดขึ้นมาเป็นกิจวัตรจนทำให้รู้สึก ‘รำคาญ’
แต่แล้ว เขาก็โผล่มาท่ามกลางโดยเป็นนักเรียนในนามิโมริ
‘โกคุเดระ ฮายาโตะ’
เขา คือคนที่ผมต้องการ เพราะผมรู้โดยสัญชาตญาณเอง
และที่มันแปลกกว่าใครจนเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจผมคือ.....
คนบ้าอะไร จะกล้าต่อร้องต่อเถียงคำไม่ตกฟาก แถมยังพูดมากจนบางครั้งผมก็แทบจะเอือมและยอมแพ้เพราะคำอันยืดยาว
คนนิสัยอะไร จะบ้าระห่ำดุเดือดต่อกรปะทะกับผมอย่างตรงๆ และไม่ยอมหยุดง่ายๆ จนกว่าแรงจะหมดไปเอง
คนอะไร จะทำให้ผมรู้สึก....สนใจได้มากขนาดนี้ ผมไม่เคยรู้สึก รำคาญ หรือ เบื่อหน่าย เขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ถ้าเป็นคนแบบเจ้าพวกนั้น ป่านนี้คงจะวิ่งหนีผมอย่างหัวซุกหัวซุนไปนานแล้ว
แต่เจ้านี่กลับยืนจ้องหน้าผมอย่างหน้าตาเฉยทุกครั้ง ไม่วิ่งหนีไป แถมยังจะพูดจาวางท่าโอ้อวดพร้อมที่จะซัดกับผมได้ทุกวินาทีที่เจอกัน
มันทำให้ผม...ประหลาดใจจนถอนตัวไม่ขึ้น และเมื่อมารู้ตัวอีกที
‘ก็ลงโทษเจ้านั่นไปพร้อมกับความที่ผมต้องการเขาอย่างพลั้งมือไม่ได้’
...ต่อให้แหกกฏเหล็กอันทรงเกียรติของผมกี่ครั้ง
...ต่อให้พูดมากว่าความยืดยาวแค่ไหนก็ตาม
...ต่อให้บ้าคลั่งดั่งวายุที่พัดโหมกระหน่ำลูกใหญ่ขนาดเท่าไหร่
‘ผมจะเป็นคนหยุดเขาด้วยตัวของผมเอง’
เพราะผม.......รัก โกคุเดระ ฮายาโตะ เข้าไปเต็มๆ อย่างไม่มีคำแก้ตัวใดๆ
....แม้จะไม่รู้ว่าเกิดขึ้นตอนไหน แต่ตอนนี้ผมกลับเข้าใจอย่างชัดเจน
“อีก 5 นาที หึ!”
เสียงทุ้มเย็นชามองนาฬิกาตัวใหญ่ที่ประดับไว้หน้านามิโมริ เขายืนกอดอกรอคนที่ชอบมาเลทอยู่ที่เสาหน้าประตูทุกครั้ง เพราะมันได้เวลาไล่จับคนมาสายที่ทำผิดระเบียบตามแบบฉบับของฮิบาริ เคียวยะ
ตึก ตัก ตึก ตัก ตึก ตัก
เสียงฝีเท้าของโกคุเดระที่วิ่งพุ่งมาอย่างร้อนรนใจ เขามาสายเพราะมัวแต่รนรานหาเอกสารที่รีบอร์นเพิ่งฝากเขาไว้เย็นเมื่อวานนี้เอง จนกว่าจะเจอก็อยู่ในกระเป๋าที่เขาจัดเตรียมไว้แต่แรกแล้ว ทำให้ร่างบางออกมาจากห้องสายอย่างช่วยไม่ได้ด้วยความสะเพร่าและความขี้ลืมอย่างมีเวลาเป็นตัวบีบคั้นทุกสิ่ง
“แฮกๆๆ อีกไม่ถึง 2 นาที งานเข้าแล้ว งานเข้า!”
เข้าเขตรั้วโรงเรียนที่ที่คุ้นตา เขาต้องมานั่งเรียนอย่างเบื่อหน่ายแล้ว ว่าที่มือขวาวิ่งอย่างสุดแรงเกิดที่มีแม้จะเหนื่อยจนหอบแต่เขาก็ต้องไปให้ทันเพราะชะตากรรมที่รอตรงหน้า ‘ไม่ต้องคิดก็รู้’ ขายาวก็รีบสาวเท้าด้วยความเร็วสูงจนขาโกคุเดระต้องเบรกอย่างกระทันหันก็เพราะ...
“สาย! เจ้าสัตว์กินพืช”
ฮิบาริที่ยืนรอด้วยสีหน้าที่จริงจัง เขารอคอยจะขย้ำร่างบางก็เอ่ยปากพูดสั้นๆ ห้วนๆ แต่กลับทำให้ชายเรือนผมสีเงินพริ้วปรอทแตกทันที
เอาอีกแล้ว....
เสื้อไม่ติดกระดุม เสื้อไม่ไว้ในใต้กางเกง เนคไทน์ไม่เคยคิดจะผูก แถมยัง....
กล้าดียังไงสูบบุหรี่มาโรงเรียน และยังไม่ยอมดับมันอีก....
.....เหลืออดแล้วนะ โกคุเดระ ฮายาโตะ
ชั้นจะอดทนไม่ไหวกับความมีอิสระของแกแบบนี้ มันทำให้ชั้น....หลงใหล
“ชิ แค่ 1 นาทีเศษๆ เอง อย่ามาเคร่งนักสิฟ่ะ รีบๆ ถอยออกไปเลย ชั้นจะไปหารุ่นที่ 10 เฟ้ยยย!”
ร่างบางไม่สนใจกับเหล็กทั้งสองท่อนที่ถูกถือไว้ด้วยมือทั้งสองข้างของหัวหน้ากรรมการคุมกฏนามิโมริแม้แต่นิดเดียว เขาปัดทอนฟาที่ฮิบาริชักขึ้นมาอย่างไม่ใยดี และรีบเดินสวนเข้าไปในประตูทางเข้าอย่างไม่ให้เสียเวลา แต่ครั้งนี้ก็ถูกสยบด้วยเสียงพร้อมกลับชักทอนฟาอีกข้างมาจ่อแผ่นหลังเขาทันทีพร้อมที่จะลงไม้ลงมือได้อย่างไม่ลังเล และจะไม่ปล่อยให้เป็นเหมือนเมื่อวานอีกครั้ง
สายลม
.....รั้งก็ไม่ได้
.....ถ่วงก็ไม่ได้
.....แค่คิดก็เสียเปรียบเต็มๆ
ใครๆ ก็สามารถขโมยสายลมไปใช้งานได้อย่างอิสระจนรู้สึก....หวงขึ้นมา
“โทษแกมันยังไม่หมดตั้งแต่เมื่อวาน และตอนนี้แกก็เป็นคนเพิ่มโทษมันเองด้วยนะ”
ฮิบาริแสยะยิ้มออกมาได้รูปพร้อมกับเก็บทอนฟาจากมือข้างหนึ่งไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ยังคงจับทอนฟากระชับมือและกระทุ้งเข้าใส่แผ่นหลังสวยแรงพอประมาณเพื่อให้เขาเดินไปตามทิศทางที่ต้องการจะให้ไป
“ว ว่ายังไงนะ!! ฮิบาริ!! อย่ามาบังคับกันสิเว้ย!”
“เดินไปซะ แล้วก็หุบปาก ถ้าไม่อยากโดนชั้นขย้ำแกเป็นผุยผง!”
“เออ!!”
สิ้นเสียงแกร่งที่โต้คารมกับมือขวาวองโกเล่ของหัวหน้ากรรมการคุมกฏนามิโมริ ร่างบางที่จนตรอกก็ต้องยอมแต่โดยดีแม้ว่าเขาจะไม่ได้พึงปรารถนาที่จะยอมทำตามคำสั่ง แต่ร่างกายของโกคุเดระมันขยับไปเองทั้งๆ ที่ฮิบาริเลิกเอาทอนฟามาจ่อหลังแล้วแท้ๆ แถมยังเดินอยู่ข้างๆ ด้วยกันเหมือนคนปกติได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเขาไม่คิดจะเดินข้างๆ ใครง่ายๆ
ทำไมถึงเจอในสภาพทุเรศๆ แบบนี้อีกแล้ว
เจอกันแบบปกติเหมือนคนทั่วไปไม่ได้หรือไง
คำก็กฏ สองคำก็กฏ หายใจเข้า-ออกมันก็คงเป็นกฏด้วยใช่มั้ย??
แล้วทำไม....ชั้นต้องทำตามไอ้เจ้าบ้านี่ด้วยล่ะฟ่ะ!!
ไม่! เราต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่ในหัวเอาแต่คิดอะไรก็ไม่รู้!
ชั้นกำลังคิดถึงอะไรกันแน่นะ?
เมื่อชายทั้งสองคนมาถึงหน้าห้องกรรมการคุมกฏนามิโมริของชายที่ได้ชื่อว่าเจ้าระเบียบที่สุด โกคุเดระยืนนิ่งเฉยและยังคงดูดบุหรี่เขามาในอาคารตั้งแต่หน้าประตูจนถึงบัดนี้โดยไม่เกรงใจฮิบาริซักนิด เขายังคงยืนดูดบุหรี่จนทำให้ร่างสูงชักแท่งเหล็กออหมาข้างหนึ่งแล้วกระทุ้งไปที่แผ่นหลังพอถนอมมือเพื่อสะกิด?และสั่งให้เขาเปิดประตู
“เอ้า เปิดประตูสิ ยืนทื่อเซ่อซ่าอะไรของแก เจ้าสัตว์สมองนิ่ม”
“ฟู่.......เออๆๆ”
เขาพ่นควันบุหรี่ออกมาพร้อมกับค่อยๆ เปิดประตูตามที่เจ้าของห้องสั่งอย่างเคร่งครัด และเมื่อโกคุเดระสาวเท้าเข้ามาภายในห้องของฮิบาริแล้วก็มุ่งไปที่หน้าต่างทันที เขาต้องการสูดอากาศข้างนอกเพื่อรับลม ส่วนหัวหน้ากรรมการคุมกฏที่เดิมตามหลังก็ค่อยๆ ปิดประตูอย่างเบามือแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาของตนเอง
อะไรกัน....
ทั้งที่สั่งห้ามสูบบุหรี่ภายในโรงเรียนแท้ๆ แต่กลับให้แก....เดินสูบเข้ามาอย่างสบายใจ
ทั้งที่สั่งเรื่องการแต่งกายให้สมควรแต่งอย่างถูกต้องแต่ก็ให้แก....ใส่มันเข้ามาทุกครั้งแม้จะทำโทษไปบ้างก็ตาม
นี่เรา....หลวมระเบียบของตัวเองทำไม?
แล้วแก จะรู้บ้างมั้ยว่าที่ชั้นทำไปเพราะอะไร....
“ชั้นถามอะไรหน่อยจะได้มั้ย? ฮิบาริ”
เสียงหวานที่ยืนนั่งอยู่ที่ขอบหน้าต่างบานใหญ่ในห้องของฮิบาริก็ค่อยๆ เปรยคำถามอย่างเสียงนุ่มนวล หรือเพราะพิษที่เขากำลังเสพติดมันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายกับความคิดและร่างกาย
“อะไร”
นัยน์ตาสีดำรัตติกาลที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวโปรดก็เหลือบหางตาไปหาร่างบางพร้อมกับพูดห้วนๆ กลับไปตามภาษา
“แกน่ะ....เคยมีหัวใจบ้างมั้ย?”
โกคุเดระจ้องมองฮิบาริอย่างจริงจังและพูดอย่างไม่ล้อเล่น เพราะทั้งสีหน้าที่เขาแสดงออกตรงไปตรงมา และดวงตามรกตที่ไม่เคยปกปิดใครมันบ่งบอกถึงความบริสุทธิ์ ร่างสูงที่นั่งฟังและได้ยินคำถามของร่างบางที่ชวนให้อดฉุกคิดไม่ได้จนเขาหลุดขำออกมาจากลำคอเบาๆ ด้วยความรู้สึกที่แปลกใจ
“หึหึหึ”
“อะไร แกขำอะไรฮิบาริ”
“เปล่านิ คำถามที่แกถามน่ะ ชั้นเคยตอบไปแล้วนะ”
เสียงทุ้มลดโทนเสียงให้อ่อนจนฟังแล้วลื่นใบหูอย่างไม่น่าเชื่อ เขาพูดไปพลางอมยิ้มบางๆ ไปแต่หารู้ไม่ว่าว่าที่มือขวาวองโกเล่กลับไม่ได้สนใจฮิบาริเท่าไหร่นอกจากบุหรี่ที่เขากำลังสูบอีกครั้ง
“ฟู่.......ไม่มี ใช่มั้ยล่ะ”
บุหรี่ที่โกคุเดระคาบไว้ในปากก็ถูกคีบออกมาแล้วหนีบไว้ด้วยนิ้วมือเรียวขาวสวย ริมฝีปากบางค่อยๆ พ่นเม่าควันสีขาวขุ่นออกมาช้าๆ
คงจะใช่ เพราะคนอย่างแก...อ่านไม่ออกเลยด้วยซ้ำไป ฮิบาริ
“แล้วเคยรู้เปล่าว่า....หัวใจชั้นหายไปไหน?”
คำถามอันสุดเซอร์ไพรซ์ได้หลุดออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ ร่างบางถึงกับเบิกดวงตามรกตกว้างอย่างประหลาดใจกับสิ่งที่หูเขาได้ยินเสียง จนต้องถามกลับไปด้วยความมึนงงและไม่เข้าใจอะไรของชายที่มีชื่อว่า ฮิบาริ เคียวยะ
“แกหมายความว่ายังไง”
“หึ สัตว์กินพืชนี่ยังไงก็ไม่ฉลาดเลยนะ”
หัวหน้ากรรมการนักเรียนยังคงนั่งเอามือพาดแขนโต๊ะพร้อมกับค่อยๆ ยืดขาออกไปเพื่อบิดขี้เกียจเมื่อเขาพูดจบ ทางด้านโกคุเดระที่เอาแต่มองอย่างทำอะไรไม่ได้ก็ทำได้เพียงแค่พูดอย่างน้อยใจในสิ่งที่เขา ‘อยากให้มันเกิดขึ้นมา’ เพราะครั้งนี้คือครั้งที่ 100 ที่เขาได้อยู่ด้วยกันโดยไม่ต้องมีเรื่องชกต่อย หรือไม่ก็โต้เถียงไม่รู้จักจบสิ้น และมันอาจจะเป็นครั้งแรกที่เขา ‘ไม่ทะเลาะและไม่สู้กันเลย’ ก็ได้
“...ชั้นกำลังคิดว่า อยากจะนั่งคุยกับแกแบบไม่มีปากเสียงหรือไม่ซัดกันซักครั้งบ้างน่ะ”
“มานี่สิ”
มือหนาชูขึ้นมาพร้อมกับขวักมือเพื่อส่งสัญญาณเรียกชายที่ปากกำลังคาบบุหรี่พอดี โกคุเดระว่าง่ายๆ เขายันตัวลุกจากขอบหน้าต่างแล้วค่อยๆ สาวเท้าเดินมุ่งไปหาชายที่กำลังเรียกเขา และเมื่อร่างบางมาถึงโซฟาตัวโปรดของหัวหน้ากรรมการคุมกฏนามิโมริ มือบางถูกฉวยโอกาสจากมือหนาที่จับมือเขาและกระชากให้ลงมานั่งคร่อมทับเขาลงไปอย่างทรงตัวไม่ทัน และเมื่อโกคุเดระได้สติอีกทีเขาก็รีบดิ้นไปดิ้นมาและเด้งเพื่อให้หลุดจากพันธนาการนี้ทันที แต่แขนยาวของฮิบารินั้นถ่วงรั้งเอวบางของเขาไว้จึงทำให้ร่างบางโดนรวบตัวไปกอดข้างๆ ทันที ทำให้ชายธาตุวายุที่ตกในสภาวะตกใจถึงกับแหกปากออกมาทันทีไม่รอช้า
“ทำไมชั้นจะต้องนั่งชิดแกด้วยฟ๊ะ ฮิบาริ!”
“แกอยากจะรู้ใช่มั้ย ว่าหัวใจชั้นหายไปไหนน่ะ”
จากที่เขาดิ้นครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่ยอมหยุด ร่างสูงที่เล็งเห็นว่าหากไม่มีเรื่องไว้ดึงดูดเพื่อโน้มใจของโกคุเดระล่ะก็....เรื่องนี้คงไม่น่ามีทางยุติลงได้ง่ายๆ ชายเรือนผมสีเงินสวยที่ได้ยินประโยคอันอึ้งๆ นั้นก็ทำตาใสแป๋วเหมือนแมวที่อยากได้ของเล่นทันที เขาสงบนิ่งราวกับถูกคำสั่งควบคุม โครงหน้าหวานเบี่ยงหน้าตัวเองออกห่างไปไกลเพื่อไม่ให้ฮิบาริที่นั่งข้างๆ ได้รับสารพิษที่เขากำลังพ่นปล่อยออกไปแม้จะห้ามตัวเองได้หรือไม่ก็ตาม แต่บุหรี่...เขาเสพติดมันมานานเกินจนเป็นอะไรที่แก้ไขไม่ได้แล้ว...
“ฟู่.........อ อือ”
“หัวใจชั้นน่ะ....”
ฮิบาริเว้นวรรคประโยคลงไปอย่างดื้อๆ กลางคันแล้วโน้มโครงหน้าคมหล่อเข้ามาใกล้ๆ ร่างที่บางถูกมือหนารั้งแผ่นหลังไว้เมื่อเขาลามไล่ขึ้นมาจากเอวบาง เขาพยายามผลักให้โกคุเดระเผชิญหน้ากับฮิบาริ ทั้งๆ ที่มือขวาวองโกเล่พยายามดิ้นและต้องการหลุดพ้นจากพันธนาการที่โดนโอบกอดอย่างหนาแน่นจนไม่สามารถเลี่ยงหนีไปได้ แก้มหวานของชายธาตุวายุถึงกับแดงระเรื่อเพราะถูกพิษเขินที่ร่างสูงกระทำอย่างจงใจ
“อุ๊.....อื้อออออ!!”
ริมฝีปากบางถูกบดขยี้อย่างนุ่มนวล ลิ้นหนาเริ่มสอดแทรกเข้าโพรงปากชื้นที่ไร้ประสบการณ์เต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่ของชายธาตุวายุทั้งนั้น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้หัวหน้ากรรมการคุมกฏรังเกียจแต่อย่างใด เขาเริ่มโต้ปลายลิ้นและรุกเข้าไปเรื่อยๆ อย่างโหยหา จนทำให้โกคุเดระถึงกับหอบอย่างยั้งไม่ได้ มือบางพยายามทุบที่แผ่นหลังหนาเพื่อเรียกร้องอิสระ เขากำลังจะขาดอากาศแล้ว แต่สิ่งที่ฮิบาริทำมันก็คล้ายเป็นสิ่งเสพติดชนิดหนึ่ง ถึงแม้ร่างกายอยากได้อ๊อกซิเจนแต่เขาก็พยายามจูบอย่างไม่ยอมแพ้แต่ก็ถูกผละออกมาเสียก่อนจนน้ำใสๆ ไหลออกมาจากมุมปากเล็กน้องของชายเรือนผมสีเงิน ชายที่เพิ่งรุกเขาถึงกับฉีกยิ้มอย่างพอใจ มือหนาขยี้ผมสีเงินเบาๆ อย่างอ่อนโยนพร้อมกับพูดคำตอบของเขา
“แกไง...โกคุเดระ ฮายาโตะ”
ใบหน้าที่อมชมพูกลายเป็นสีแดงขึ้นเรื่อยๆ อย่างยับยั้งไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เมื่อเขาหลุดพ้นจากพันธนาการที่ให้ความรู้สึกถึงความต้องการ โหยหา อบอุ่น...และรัก
หัวใจที่เขาบอกว่าหายไป
....แต่มันกลับมาอยู่ที่ชั้น?
หมายความว่ายังไง ทำไมใจเต้นแรงไม่เป็นสุขแบบนี้
เรา....สนใจคำพูดของเจ้าบ้านี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ฮิบาริ เคียวยะ...
เมื่อร่างบางเป็นอิสระได้ไม่นาน มือบางรีบคว้าบุหรี่อีกหนึ่งมวนออกมาพร้อมกับไฟแช็คตัวโปรด แต่ยังไม่ทันจะได้จุดบุหรี่ ฮิบาริรีบคว้าสิ่งที่เขาไม่ชอบออกจากมือบางทั้งสองข้างพร้อมกับเหวี่ยงลงถังขยะในห้องอย่างแม่นยำพอดี
“...อ อ๊ะ ! เห้ยยย...”
“บุหรี่เลิกสูบได้มั้ย ผ่อนลงบ้างสิ แกจะแย่เอา ที่ชั้นไม่ชอบก็มีแต่พวกคนโง่เอาแต่สูบเท่านั้น”
ร่างสูงสาวตัวเขาใกล้โกคุเดระที่นั่งชิดมุมโซฟาแล้วคล่อมเขาลงแนบกับเบาะโซฟาอย่างเจาะจงใจจนทำให้ร่างบางนอนแนบกับโซฟาตัวโปรดของฮิบาริไปอย่างขัดขืนต่อแรงที่มีเหนือกว่าไม่ได้ เขาได้แต่สบตาแล้วสนทนาเช่นเคย
“...จะบอกว่าชั้นโง่ใช่มั้ย?”
“เปล่า เพราะแกไม่ใช่คนโง่ ถึงไม่อยากให้สูบบุหรี่”
นัยน์ตาสีดำรัตติกาลจดจ้องโครงหน้าหวานของร่างบางที่ยังคงแดงขึ้นไม่ยอมลดลงเลย แถมยังเบี่ยงหน้าหนีเพื่อปัดสีหน้าความเขินอายเข้าหาตัวโซฟาทันที เพราะเขาไม่อยากให้ใครพบเจออารมณ์แบบนี้เท่าไหร่นัก ฮิบาริยิ้มบางๆ พร้อมกับโน้มใบหน้าลงไปทันทีเพื่อจะจูบอีกครั้ง แต่เพราะเจ้าก้อนขนปุยสีเหลืองบินลอดเข้ามาจากทางหน้าต่างพร้อมกับพูดชื่อนายของตนอย่างสดใส ทำให้ร่างสูงลุกออกจากท่าคล่อมแล้วเปลี่ยนเป็นมานั่งที่ปลายเท้าโกคุเดระแทน
“ฮิบาริ ฮิบาริ ฮิบาริ รัก รัก รัก”
“...ชู่วว แกพูดมากจริงๆ เลยนะ ฮิเบิร์ด”
นิ้วขี้ค่อยๆ ยีขนฮิเบิร์ดวนไปวนมาเพื่อเอ็นดูสัตว์เลี้ยงของตนเองพร้อมกับพูดอย่างแขวะนกน้อยของตนที่ดันเป็นนกพิเศษมีความสารมารถกว่านกทั่วไป ทางด้านโกคุเดระที่พยุงตัวลุกขึ้นจากโซฟาก็เห็นท่าทางของฮิบาริที่แสดงสีหน้าอ่อนโยน มันเป็นภาพที่ยิ่งกว่าหายากซะอีก ร่างบางค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้ๆ เพื่อต้องการเห็นใบหน้าที่แท้จริงของฮิบาริ เคียวยะ
‘นี่ใช่คนที่เรารู้จักแน่ๆ รึเปล่าฟ่ะ หรือนี่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเขา’
แบบนี้ที่ชั้นรู้สึกว่ามัน...อบอุ่นอย่างเอ่อล้น
ที่เขาทั้งตักเตือน สั่งสอน และอาจจะใช้ความรุนแรงแทนคำพูดดีๆ นั้น
....มันอาจจะเป็นเพียงแค่ ความเป็นห่วงในรูปแบบที่เขาแสดงออกมาได้ตามนิสัยใช่มั้ยนะ
ฮิบาริ เคียวยะ
“อะไร”
นัยน์ตามรกตที่เพ่งเขานานนั้นก็รีบใช้หางตาไปสบตาพร้อมกับพูดห้วนๆ แข็งทื่อใส่ทันทีเพื่อกลบเกลื่อนสีหน้าเมื่อซักครู่ เพราะเขาดันปล่อยสภาพจิตใจไม่คงที่เมื่อเขาอยู่กับคนที่เขา...รัก
ชั้นไม่อยากให้แกเห็นใบหน้าที่มันดูอ่อนแอแบบนี้เลย ประหม่าแกจริงๆ เจ้าสัตว์กินพืช
“อ เปล่าๆ”
ว่าที่มือขวาวองโกเล่ที่ถูกสวนกลับด้วยคำพูดเย็นชาเช่นเดิมก็ถึงกับสะดุ้งจนทำให้เขาแอบอมยิ้มไม่ได้
แก...เขินใช่มั้ย? ชั้นไม่ได้ตาฝาดแน่ๆ เมื่อกี้เขาหน้าแดง!?
.....ฟุบบบ
หัวหน้ากรรมการคุมกฏที่เห็นพฤติกรรมของชายธาตุวายุที่เหมือนจะเริ่มคุ้นเคยตัวเขาแล้วนั้น ฮิบาริก็เอนศีรษะไปซบที่บ่าเล็กๆ อย่างรอคอยเวลาแบบนี้มานาน ทำให้โกคุเดระตัวแข็งทื่อยิ่งกว่าทำอะไรไม่ถูก ได้แต่อุทานชื่อเขาอย่างตกใจเท่านั้น
“ห เห้ยยย...ฮ ฮิบาริ!?”
“หลับ หลับ หลับ หลับ หลับ”
ก้อนขนปุยสีเหลืองก็บินมาเกาะที่หน้าตักของร่างบางที่กำลังนั่งเกร็งๆ เพื่อไม่ให้ชายที่ซบไหล่เขาตื่น ซึ่งโกคุเดระก็ต้องนั่งทรงตัวให้ดีเป็นอย่างมากเพื่อประคองให้ชายที่หลับไม่รู้สึกตัว ว่าที่มือขวายังยิ้มหวานพร้อมกับเอ็ดนกแสนรู้ที่ปากเป็น จส.ร้อยที่พูดอย่างชำนาญและไม่น่าเชื่อ
“เออ ชั้นรู้แล้วล่ะ แกเงียบหน่อยสิ...เจ้าขนปุยสีเหลือง”
“ฮายาโตะ ฮายา....โตะ ฟี ฟี”
‘คราวนี้ก็มาหลับบนหน้าตักเรา ทั้งแกและเจ้านายแกนี่เหลือเกินนะ...เฮ้ออออ’
เขาชอบมองผู้คนจากบนที่สูงๆ และลับสายตาคน เพื่อไว้ตรวจตราความเรียบร้อยภายในโรงเรียน
เขาชอบสิ่งที่ยึดมั่น คือ กฏเหล็กที่ตั้งใจก่อสร้างรากฐานไว้ให้กับนามิโมริที่เขารัก
เขาชอบอยู่คนเดียวเพียงลำพังอย่างเงียบๆ และเป็นส่วนตัว ซึ่งไม่แคบจะดีที่สุด
เขาชอบสัตว์ตัวเล็กๆ อย่าง ฮิเบิร์ด ที่ตัวเล็กและถูกเลี้ยงดูอย่างชาญฉลาดแสนรู้ยิ่งกว่าสุนัข
เขาชอบทำตัวเย็นชา ทั้งคำพูด การกระทำ สายตา ใบหน้า ทุกสรีระและพฤติกรรมที่ดูเหหมือนหยิ่งยโสโอหัง
แต่เขาก็ทำให้หัวใจผม....เต้นแรง...โดยบังคับมันไม่ได้อีกแล้ว เหมือนจะหลุดทะลักออกมาจากหน้าอกเลย...
ชั้นคิดถึงแต่ฮิบาริ เคียวยะ?
บ้า! เจ้ากรรมการงี่เง่านี่มันชอบทำโทษชั้นทุกๆ ครั้งที่เจอกัน ถึงจะไม่เท่ากัน แต่ทุกๆ วัน....เขา....เขา......
....นั่นสินะ เพราะแบบนี้สินะ ผมถึงเพิ่งจะเริ่มเข้าใจ
ว่าที่เขาทำไปตั้งแต่ครั้งแรกที่เราพบกัน.....มันเพราะอะไร
ทำไม....ฉันถึงได้ไม่ฉลาดในเรื่องพวกนี้กันนะ
....เขาเป็นห่วงเรามากสินะ....
“เป็นห่วงให้มันน่ารักกว่านี้หน่อยสิ ชั้นขอโทษนะที่ทำให้แกลำบาก ฮิบาริ”
เสียงหวานพูดอย่างรู้สึกตัวทีหลังเมื่อเขาได้มาสัมผัสตัวตนที่แท้จริงของชายสุดเนี๊ยบในนามิโมริ มือบางค่อยๆ ลูบเรือนผมสีดำรัตติกาลอย่างช้าๆ ค่อยๆ และผ่อนแรงเพื่อไม่ให้เป็นการปลุกร่างสูง
“จะดีกว่านี้นะถ้าไม่แสดงตัวเองอย่างเย็นชาน่ะ บางทีก็เดาใจแกไม่ออกนะเฟ่ย รู้มั้ย?”
โกคุเดระยังคงพูดต่อไปเพราะคิดว่าฮิบาริต้องหลับลงไปแล้วแน่ๆ ความในใจเขาพูดออกมาอย่างหมดเปลือก นี่...อาจจะเป็นความรู้สึกลึกๆ ในใจของตัวเขาก็ได้นะ
บรรยากาศที่เย็นสบายก็พาเอาชายทั้งสองคนนอนหลับในสภาพนั่งหลับต่างฝ่ายต่างซบเข้าหากันเพื่อต้องการไออุ่นที่ถูกกำแพงจิตใจกั้นไว้มานานแสนนาน โกคุเดระที่เผลอหลับไปหลังจากที่เอาแต่ลูบผมของฮิบาริไปมาจนหมดสติไปในห้วงนิทรา
เวลาเดินไปเรื่อยๆ เกือบจะใกล้พักเที่ยงแล้ว แต่ยังไม่มีใครตื่นขึ้นมาเลยซักคน จนกระทั่งฮิบาริเริ่มรู้สึกถึงอะไรที่มีน้ำหนักทับอยู่บนศีรษะของตนเองจึงพยายามใช้มือประคองสิ่งที่ทับเขาหรือโครงหน้าของร่างบางนั่นเอง เมื่อเขาได้สติก็ค่อยๆ ให้ชายธาตุวายุล้มตัวหลับลงบนหน้าตักหนาของเขาพร้อมกับบ่นไปอมยิ้มไป ส่วนฮิเบิร์ดที่อยู่บนหน้าตักก็กลิ้งมานอนบนโซฟาไปๆ มาๆ อยู่ไม่สุขเป็นประจำ
“อะไรของแก...หลับแทนชั้นแบบนี้ได้ยังไงกัน...”
ผมชอบ...สัตว์กินพืชที่เป็นตัวของตัวเองที่ไม่เคยประหม่าศักดิ์ศรีใดๆ เปิดเผยและมุ่งมั่น
....แม้ว่า มันอาจจะผิดหลักเพราะเขาอาจจะอยู่ผิดที่ อย่างนามิโมริที่ผมสร้างกฏระเบียบนี้ขึ้นมา
เพราะผม....อยากให้เขาเข้าใจในสิ่งที่ผมกลายเป็นคนแบบนี้ และอยากให้เขายึดในสิ่งที่เขาเป็นอย่างถูกต้องมากกว่านี้ จนอาจจะต้องบังคับกันบ้างแม้เขาจะไม่อยากทำก็ตาม
....แต่แบบนี้ ผมก็ไม่ขัดข้องอะไรที่จะชอบ และรัก
เพียงแต่....
‘ระเบียบมันคือสายเลือดไปเสียแล้ว’
“โกคุเดระ ฮายาโตะ ชั้นรักแกนะ”
นัยน์ตาสีดำรัตติกาลจ้องมองชายเรือนผมสีเงินสวยที่อยู่ในภวังค์บนหน้าตักตนเอง นิ้วชี้ค่อยๆ จิ้มไปที่ริมฝีปากบางๆ แล้วค่อยๆ บดขยี้ วนไปวนมาเบาๆ
นี่ชั้นพูดความในใจออกมา แกจะได้ยินมั้ย เจ้าสัตว์กินพืชโกคุเดระ ฮายาโตะ
“อือออ รู้แล้วล่ะน่า คนไร้หัวใจ เคียวยะ”
เสียงหวานอุทานอย่างแผ่วเบาและพูดโต้กลับเพื่อแขวะคนตรงหน้าที่เอาแต่มองเขาอยู่ตลอด
“แกตื่นอยู่หรอ....หึ เดี๋ยวนี้กล้าย้อนมากขึ้นนะ จะได้ใจมากไปแล้วนะ ถ้าแกยังขืนสูบบุหรี่อีกล่ะก็....”
พรูฟฟฟฟฟฟ
เจ้าก้อนกลมขนฟูนุ่มนิ่มบินมาเกาะบนใบหน้าเนียนขาวและลงจดที่ริมฝีปากอันอวบอิ่มอมชมพูของโกคุเดระเหมือนจงใจ ฮิบาริที่กำลังโน้มหน้าลงมาก็ดันจูบที่หัวฟูฟ้องเหลืองสว่างแทนริมฝีปากที่เขาอยากจะบดขยี้และดูดกลืน และเมื่อร่างสูงถอนจูบออกมาเขาก็เอ็ดฮิเบิร์ดทันทีอย่างไม่สบอารมณ์ แต่เหมือนเจ้านกขนปุยกลมเหลืองกลับกลิ้งไปมาอยู่บนใบหน้าว่าที่มือขวาวองโกเล่ทำให้โกคุเดระพูดอะไรไม่ได้ศัพท์ดี
“แก.....ขัดอีกแล้วนะ”
“รัก รัก รัก ฮายาโตะ น่ารัก ฮิบาริ รัก รัก”
“อั้ย อ๊ก อ๊า เอ๊ย อา อิ๊ง ไอ อึ๋ง อั๋ย อ๊ะ?” (ไอ้นกบ้าเอ๊ย จะกลิ้งไปถึงไหนฟ๊ะ?)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

โอ๊ยยยยย ฟินแตกกกก
น่ารักมากกกกกก>///<
//โดนท่านฮิตบตี
หวานแบบซึนๆนะคู่นี้ เราชอบ
เราหลงรักฮิเบิร์ด ('w')
1859 จริงๆ ด้วยสินะ แล้วยามะผู้น่าสงสารล่ะ T T
ฮิเบิร์ดน่ารักจังเลย
สงสารยามะ แต่ว่า.. all59 banzaiii><
1859 น่ารักจัง
แต่ถ้าก๊กเคะ อะไรก็ยอมมมมม
ปล. ยามะไว้เรื่องหน้านะ
ตอนนี้อ่านแล้วเบาหวานต้องขึ้นมากแน่ ๆ เลย
แต่ถ้าเบาหวานแบบนี้ เราชอบนะ
สุดยอดจ้า