ตอนที่ 18 : The series 4 : Silky heart หัวใจอันอ่อนนุ่ม (2) [695918]
ความเดิมตอนที่แล้ว....
Silky heart หัวใจอันอ่อนนุ่ม (1) [695918]
“ฮายาโตะ!”
มุคุโร่แทบใจหายเพราะชายที่เขากำลังปลอบประโลมนั้น ล้มพับลงคาอ้อมอกของตนเองอย่างหมดแรงตัวเบาจนร่างสูงต้องรีบรับประคองตัวโกคุเดระอย่างเร็วไว
“...ขอโทษ ชั้นไม่มีแรงแล้วล่ะ”
เสียงหวานเปรยออกมาอย่างแผ่วเบาเพื่อให้คนที่กำลังประคองตัวเองนั้นไม่ต้องคิดระแวงมากมาย และทันทีที่มุคุโร่ได้ยินก็ยิ้มบางๆ พร้อมกับช้อนตัวร่างบางขึ้น
“ถ้างั้น ผมจะอุ้มคุณไปที่เตียงนะครับ”
“ขอโทษนะ แรงชั้นหายไปไหนก็ไม่รู้แล้ว”
“ช่างมันเถอะครับ ผมจะดูแลคุณเอง”
ร่างสูงว่าจบก็ใช้มือตนเองค่อยๆ ประคองศีรษะอย่างระวังและพยายามอุ้มตัวโกคุเดระอย่างถนอม เขาพาชายที่สภาพจิตใจอ่อนแอไปที่เตียงของเขาแม้จะไม่ไกลมากนักก็ตาม
มุคุโร่ค่อยๆ วางตัวโกคุเดระลงบนฟูกนุ่มนิ่มช้าๆ พร้อมกับใช้มือของตนเองวัดไข้เพื่อเช็คร่างกายเบื้องต้นเล็กน้อยก่อนที่จะลงมือเก็บข้าวของที่แตกกระจายไปทั่วพื้น
“ไข้ขึ้นนิ โกคุเดระคุง ทานยาก่อนแล้วกัน ผมจะไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้”
เมื่อเขาลุกขึ้นจากเตียงหลังจากที่นั่งวัดไข้ร่างบางไม่นานก็รีบลุกขึ้นเพื่อเดินไปเตรียมผ้าเช็ดตัวมาปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่มือบางดึงชายเสื้อของชายนัยน์ตาสองสีเพื่อรั้งตัวชั่วครู่และพูดขึ้นเพื่อไม่ให้คนที่มาคอยดูแลเหนื่อยหน่ายกับการกระทำที่ลำบากเพราะเขา....เกรงใจและหวั่นใจ
“ไม่ต้อง แค่ยาก็พอ ขอบใจมาก นายกลับไปได้แล้วล่ะ มุคุโร่”
“แต่....”
ชายนัยน์ตาสองสีที่ถูกรั้งตัวก็ยังคงยืนยันที่จะเดินไปเตรียมผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวคนป่วยที่นอนซมเพราะพิษไข้และพิษความเครียดอยู่ดี เขาวิงวอนด้วยสายตาที่อ้อนวอนจนทำให้โกคุเดระขู่ตะคอกใส่เพื่อให้มุคุโร่กลับไปพักผ่อน
“อยากอายุสั้นใช่มั้ยแก...”
“ฮ่าๆ ก็ได้ครับๆ ดูแลตัวเองให้มากๆ หน่อยล่ะ ถ้ามีอะไรก็ขอให้คิดถึงผมนะ โกคุเดระคุง”
มือหนาลูบเรือนผมสีเงินที่นอนซมเพราะพิษไข้ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นไม่นานนักอย่างถนอมอ่อนโยน จนทำให้ร่างบางต้องเอาผ้าห่มมาคลุมโครงหน้าหวานเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นความเขินอายที่กำลังแดงระเรื่อขึ้นหน้าใสซีดเรื่อยๆ
“พูดมากอยู่ได้ รีบๆ ไปซะที //////”
มุคุโร่ที่เห็นร่างบางทำกิริยาแบบนั้นก็ยิ่งไม่อยากลุกออกไปจากฟูกขาวอันนุ่มนิ่ม เขาจึงเปลี่ยนจากที่จะออกจากห้องเป็นมานั่งชวนคุยเพื่อยืดยื้อให้มีเวลาอยู่กับชายที่เขาได้เอาแต่เฝ้ามองและดูแลแค่เพียงห่างๆ แทน
“นี่...ขอผมถามอะไรคุณก่อนที่ผมจะออกไปได้มั้ย”
“อะไรอีกล่ะ”
โกคุเดระค่อยๆ ดึงผ้าห่มออกจากใบหน้าหวานสวยออกแล้วจ้องมองชายนัยน์ตาสองสีที่เอาแต่ยิ้มไม่หยุดหย่อนและไม่ยอมเบื่อ
“คุณคิดยังไงกับยามาโมโตะ ทาเคชิครับ”
นัยน์ตามรกตเขียวสว่างมองชายผมสีน้ำเงินเข้มไปชั่วครู่หนึ่งแล้วค่อยๆ ตอบคำถามอย่างใจเย็น
“...เคยเป็นคนที่ชั้นรัก แต่ตอนนี้เป็นแค่เพื่อน”
มุคุโร่กระตุกยิ้มมุมปากหลังจากที่ได้ยินคำตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ที่ดูแล้วไม่ได้โกหกหรือหนีความจริงอะไร ร่างสูงจึงไล่ต้อนยิงถามคำถามต่อไปเรื่อยๆ ตามที่อยากรู้
“แล้วฮิบาริ เคียวยะล่ะครับ”
“แฟน......ไม่สิ ไม่ใช่ ตอนนี้ชั้นไม่รู้”
น้ำเสียงของชายเรือนผมสีเงินต่ำลงไปราวกับไม่อยากคิดถึงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งไปประสบมาอย่างไม่คาดฝันมาก่อน ทำให้ชายนัยน์ตาสองสีต้องรีบเปลี่ยนคำถามแต่ก็ยังคงจี้จุดใจดำอยู่ดี เรียกว่า ประชดทางอ้อมซะมากกว่า
“งั้นหรอครับ แล้วบอสของคุณ ซาวาดะ สึนะโยชิ ล่ะ”
“รุ่นที่ 10 คือคนที่ชั้นรักเคารพที่สุด!!”
โกคุเดระตอบอย่างมั่ยใจพร้อมกับลุกพรวดขึ้นมาอย่างกระตือรือร้น
‘ทั้งๆ ที่ชายคนที่คุณเคารพเป็นคนแทงข้างหลังแท้ๆ แต่กลับพูดได้อย่างมั่นใจ คุณนี่...ไม่สมควรจะเป็นของใครเลยนะครับ หึหึ’
“มั่นใจจังเลยนะครับ?”
“ใช่ ต่อให้ชั้นเจ็บปวดแค่ไหน แต่รุ่นที่ 10 คือคนที่ให้แสงสว่างกับชั้น! เพื่อรุ่นที่ 10 แล้วชั้นสามารถยอมได้หมดทุกสิ่งเพราะชั้นไม่อาจจะทรยศได้เด็ดขาด!”
เสียงหวานเริ่มอาละวาดพร้อมกับจ้องนัยน์ตาสองสีที่มองไม่ละสายตาด้วยความระคายคืองใจที่ดันตั้งคำถาม ถามอะไรโง่ๆ ออกไป เพราะยังไงโกคุเดระก็ไม่เคยคิดจะหักหลังผู้เป็นนายที่แสนรักได้แน่นอน เรื่องนี้ ทุกๆ คนในแฟมลี่ต่างก็รู้ดีอยู่แล้ว
ชายธาตุสายหมอกจึงแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วเปลี่ยนจากนั่งข้างๆ เป็นขึ้นไปนั่งบนเตียงของร่างบางพร้อมกับนั่งคร่อมเจ้าของห้องแล้วยิงคำถามต่อ
“คึหึหึหึ ถ้างั้นผมขออีกซักคำถามแล้วกัน”
“อะไรอีก เซ้าซี้จริงนะแก จะมานั่งคร่อมชั้นทำซากอะไร ออกไปสิฟ่ะ!! ////”
มือบางพยายามผลักตัวชายที่กำลังนั่งคร่อมท่อนล่างของตนเองอย่างรุกรี้รุกรนด้วยความเขินอาย แต่ยิ่งผลักมันกลับยิ่งแย่เพราะมือหนาทั้งสองข้างคว้ามือบางที่ดันหน้าอกของตนเองให้กางออกแล้วกดให้ตัวโกคุเดระล้มลงไปนอนกับฟูกอีกครั้งทันที กลายเป็นมุคุโร่ได้คร่อมโกคุเดระอย่างที่รอเวลาและหาช่องโอกาสมานาน เขายังไม่เลิกราและยังคงต้อนให้เจ้าของห้องจนมุมด้วยคำถามที่อยากรู้
“คุณคิดยังไงกับผม โกคุเดระ ฮายาโตะคุง”
เมื่อชายที่คร่อมตัวเขาพูดจบ มรกตคู่สวยต้องเบิกดวงตากว้าง เพราะคำถามนี้เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ยินจากปากของมุคุโร่เองเลยซักครั้ง แทบไม่เคยคิดว่าคนที่เอาแต่ดูแลตัวเขาอยู่ห่างๆ มาถามเรื่องที่มันล้ำเส้นขนาดนี้ ใบหน้าหวานแดงซ่านอีกครั้งอย่างรั้งไม่ได้จนต้องทวนคำถามกลับไปอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“///// แกถามอะไรของแก มุคุโร่”
“ตอบผมหน่อยสิ ผมอยากรู้”
นัยน์ตาสองสีที่ดูเจ้าเล่ห์ บัดนี้กลับดูตรึงเครียดและจริงจังอย่างกับเป็นคนละคน แต่ก็ไม่ได้จะทำให้ร่างบางที่ถูกกดดันทางสายตาจะยอมปริปากตอบคำถามนี้แต่ใดๆ เขาเลี่ยงทุกวิธีในการตอบคำถาม ทั้งดิ้น ทั้งหลบตา ทั้งเบือนหน้าหนี ทำให้ร่างสูงหลุดขำออกมาเพราะกิริยาที่แสดงออกมันดูน่ารักมากกว่าจะรำคาญ
“ฮ่าๆ เปลี่ยนคำถามแล้วกัน ถ้าสมมุติว่าฮิบาริกับบอสวองโกเล่ได้กลับมาคืนดีกันอีกครั้ง คุณจะทำยังไง”
โกคุเดระนิ่งลงทันทีที่หูได้ยินชื่อของสึนะ มรกตคู่สวยจึงเลิกกรอกตาหนีแล้วเปลี่ยนมาเพ่งจ้องมองนัยน์ตาสองสีอย่างจริงจัง
“ก็ไม่ทำยังไงทั้งนั้นล่ะ แค่รุ่นที่ 10 มีความสุขชั้นก็พอใจแล้ว”
“แค่นั้นหรอครับ”
“ใช่”
เมื่อร่างสูงได้ยินคำพูดที่มั่นใจจากตัวร่างบางออกมา ริมฝีปากหนาก็แสยะยิ้มอย่างพอใจแล้วยิงประโยคต่อทันทีด้วยความประชดทางอ้อม
“คึหึหึ นึกว่าจะไปหายามาโมโตะ ทาเคชิ ซะอีกนะครับ”
“อย่ามาพูดบ้าๆ! ชั้นจะไม่ทำให้เจ้าบ้าเบสบอลมาเจ็บซ้ำอีกแล้ว แกรีบๆ กลับไปซะทีเถอะ”
เมื่อโกคุเดระพูดจบก็เริ่มดิ้น เหวี่ยง สะบัด ทำทุกอย่างเพื่อให้หลุดจากพันธนาการอีกครั้ง ทำให้มุคุโร่ต้องวกกลับเข้าเรื่องเดิมก่อนที่ร่างบางจะหัวเสียแล้วไม่ได้คำตอบที่ใจอยากรู้แน่นอน
“กลับเข้าเรื่องเดิมอีกครั้งนะครับ คุณคิดยังไงกับผม โกคุเดระ ฮายาโตะ”
“แก....อย่ามาถามแบบนี้จะได้มั้....”
เสียงหวานยังเอ่ยปากพูดไม่ทันไรก็ต้องชะงักปากพร้อมกับเบิกดวงตากว้างกลมโตอย่างตกใจ เพราะโครงหน้าหล่อคมก้มลงมาเกือบจะประชิดปลายจมูกเพียงไม่กี่เซน เรียกว่าได้ไออุ่นของกันและกันได้ง่ายๆ
“ถ้าคุณไม่ได้รู้สึกอะไร แล้วทำไมถึงกล้าปล่อยให้ผมทำแบบนี้ด้วย..."
สิ้นประโยคของมุคุโร่ เขาก็เริ่มบรรจงประกบริมฝีปากเล็กที่อ่อนนุ่ม ลิ้นหนาเริ่มแทรกเข้าโพรงปากพร้อมกับไล่โต้เลียลิ้นเล็กที่นุ่มนิ่มอ่อนประสบการณ์ ทำให้โกคุเดระครางออกมาในลำคออย่างเผลอตัวกับการคุมเกมส์ของร่างสูงที่ไม่มีท่าทีจะยอมให้พักหายใจ
“อืออออ...อืมม...”
แต่ดูเหมือนลิ้นเล็กจะเริ่มทันเกมส์ เพราะลิ้นหนาที่กำลังละโลมเลียลิ้นเล็กและจูบอย่างดูดดื่มนั้นมันทำให้โกคุเดระหลุดเก็บอาการความรู้สึกไว้อย่างลืมตัว ทำให้มือบางโอบหลังร่างสูงที่คร่อมตัวเข้ามาอย่างไม่ได้ตั้งใจ จนมารู้ตัวอีกทีคือมุคุโร่เป็นฝ่ายถอนจูบออกมาเอง
มรกตคู่สวยเบิกตากว้างอย่างตกใจกับความรู้สึกของตนเองที่ลืมตัวดึงมุคุโร่มากอดในระหว่างที่กำลังจูบ ส่วนตัวร่างสูงเองก็คลี่ยิ้มอย่างพอใจ ทำให้เขาเกทัพในสิ่งที่ถามโกคุเดระไป
“ตกลง...คุณไม่ได้รู้สึกอะไรกับผม ใช่มั้ยครับ”
เขาพูดประชดไปยิ้มไปอย่างพอใจที่ตัวโกคุเดระไม่มีการปฏิเสธใดๆ หรือต่อต้านแย้งคำพูดใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนิ่งเงียบและรีบผลักตัวร่างสูงออกไปให้ไกลหน้าตนเอง เพราะเขาหน้าแดงเรื่อยๆ ไม่หยุด
“ผมรักคุณเสมอ ต่อให้คุณจะไม่สนใจหรือจะเกลียดชังยังไง ผมก็รักคุณนะครับ ฮายาโตะ”
“แกอย่ามาทำแบบนี้นะ ///////”
“แบบนี้? ไม่พอใจหรอครับ”
“เปล่า ไม่ใช่!! ที่ชั้นจะบอกก็คือ แกทำแบบนี้มันทำให้ชั้นหลงความดีที่แกทำเพื่อชั้นตลอดต่างหาก! เจ้าบ้า ชั้นน่ะชอบแก....อ๊ะ!!...”
มือบางรีบปิดป้องปากตนเองทันทีที่ดันปากสว่างหลุดความในใจลึกๆ ออกไปเพราะอารมณ์ร้อนเป็นเหตุ มันกลับกลายทำให้ฝ่ายตรงข้ามต้องอึ้งจนหน้าแดงไม่แพ้กัน เพราะเขาไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ยินเรื่องจริงจากปากของคนที่พูดอะไรในใจออกมายากอย่างโกคุเดระ
“////// พูดจริงหรอครับ”
“เปล่า เมื่อกี้ชั้นโกหก!!”
ร่างบางพูดจบก็รีบสะบัดหน้าหนีไปทันที ทำให้มุคุโร่ที่คร่อมตัวโกคุเดระอยู่นั้นยิ้มกว้างพร้อมกับขำไปอย่างดีใจ
“ถ้าผมเชื่อก็คงจะแย่นะครับ ฮ่าๆ”
“ไม่ตลกเลยนะเฟ้ยยย”
ว่าแล้วร่างบางก็พลิกตัวเองเข้าหาฝาผนังห้องแล้วนอนตะแคงเพื่อไล่ร่างสูงในทางอ้อม แต่หารู้ไม่ว่านั่นมันคือโอกาสทอง เมื่อได้โอกาสทองทั้งที มุคุโร่ก็เริ่มเปิดฉากของความเจ้าเล่ห์ขึ้น เขายังคงไม่เลิกคร่อมโกคุเดระแม้ร่างบางจะทำเป็นไม่สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแล้วก็ตามแต่
“งั้นผมขอเฝ้าไข้คุณก็แล้วกัน เป็นค่าตอบแทนกับคำตอบที่คุณอุตส่าห์ยอมตอบคำถามนะครับ”
โกคุเดระยังคงแสร้งนอนแล้วตอบไปอย่างส่งๆ ขอไปที
“อยากทำอะไรก็ทำ ชั้นจะนอนแล้ว”
“แล้วผมจะนอนที่ไหนดีล่ะครับ”
“ตรงไหนนอนได้ก็นอนไปซะสิ”
สิ้นประโยคของว่าที่มือขวา ก็เข้าทางชายนัยน์ตาสองสี เขาฉีกยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจแล้วพูดออกไปเหมือนทำท่าจะหาที่นอน
“งั้นตรงนี้ก็แล้วกัน”
ว่าแล้วร่างสูงก็ล้มตัวลงกอดโกคุเดระในพื้นที่ที่มีให้แทรกอย่างแนบเนียน
หมับบบบ
ทันทีที่โกคุเดระโดนมือหนาดึงเข้าไปกอด ร่างบางจึงรีบหาทางหนีทุกทาง แต่ว่าแขนทั้งสองข้างเขากลับถูกรวบรัดไปเสียแล้ว แถมใบหน้าหวานก็ถูกดึงให้มาซบหน้าอกหนาอย่างจงใจ ทำให้โกคุเดระได้แต่โวยวายเท่านั้น ส่วนทางมุคุโร่เองกลับไม่สนใจคำประท้วงใดๆ ทั้งสิ้น แถมยังยิ้มหน้าตายจนจะกลายเป็นหน้าของตนเองไปซะแล้ว
“อ ไอ้เจ้าหัวสับปะรดงั่ง!! แกออกไปนะ ชั้นไม่สบายอยู่เห็นมั้ย”
“เค้าว่ากันว่า คนเป็นไข้ต้องห่มผ้าให้อุณหภูมิมันร้อน ไข้จะแตกพล่านได้เร็วนะ คิดซะว่าผมเป็นผ้าห่มก็แล้วกันนะครับ คึหึหึหึ”
ร่างบางนิ่งสนิทตัวแข็งทื่อกับประโยคอันเนียนมหาเนียน ทำให้โครงหน้าหวานแดงระเรื่อไม่หยุด เขาทำได้แค่โต้เถียงออกไปเท่านั้นเพราะร่างกายไม่สบายทำให้ยากต่อการจะขยับตัว แถมแรงของมุคุโร่ก็ไม่ใช่น้อยๆ และมีหรือที่เขาจะยอมปล่อยโอกาสดีๆ ไปง่ายๆ
“/////// ผ้าห่มอะไรของแก มือยังดุ๊กดิ๊กไม่เป็นสุขแบบนี้ ผ้าห่มมันมีที่ไหนกัน!!”
“ถ้าคุณยังไม่ยอมนอน จากร้อนๆ มันจะกลายหนาวสันหลังนะแทนนะครับ”
ปรี้ดดดด...
อุณหภูมิบนใบหน้าของว่าที่มือขวาแดงก่ำจนแทบร้อนระอุ ร่างกายแทบอ่อนระทวยกับคำพูดที่ดูไม่ล้อเล่น ทำให้โกคุเดระต้องยอมจำนนอย่างช่วยไม่ได้ เพราะในตอนนี้เขาก็เหนื่อยล้ามามากพอแล้วกับความรู้สึกที่ต้องมาแบกรับกับความเข้าใจผิดที่ไม่ได้รู้ความจริง
“///////// เลิกพูดมากได้แล้วน่ะ นอนก็นอน!”
“ค่อยเป็นแมวเชื่องหน่อยนะครับ ฝันดีนะ ฮายาโตะคุง”
มุคุโร่จึงผ่อนอ้อมกอดให้พอดีกับตัวร่างบางและคลายพันธนาการให้โกคุเดระนอนทับหมอนใบนุ่มแทนหน้าอกของตน และขยับตัวให้โครงหน้าของตนอยู่ในระดับเดียวกับชายที่กำลังไม่สบายเพราะพิษไข้และความคิดมาก นัยน์ตาสองสีเอาแต่ทอดมองชายเรือนผมสีเงินที่หลับตาปรืออย่างล้า ริมฝีปากหนาจึงเลื่อนไปจูบเบาๆ ที่ดวงตาของร่างบางเบาๆ เพื่อเป็นการบอกว่า รักอย่างทะนุถนอม
จุ๊บบบ...
“คุซาคาเบะ ชั้นฝากเอกสารนี่ไปส่งที”
ตัดมาทางด้านของฮิบาริที่หัวเสียจนทำงานไม่ได้และกลายเป็นว่าใช้รองประธานของตนเองทำงานแทนอย่างไม่เป็นตัวของตัวเองดีจนทำให้คุซาคาเบะแปลกใจ
“แล้วคุณเคียวยะจะไปไหนครับ”
“มีธุระ”
ทันทีที่พูดจบ เอกสารต่างๆ ที่เขายัดไว้ในมือของรองประธานเรียบร้อยนั้น เขาก็สาวเท้าเดินออกจากห้องของตัวเองออกไปอย่างไม่สบอารมณ์ แถมยังระเบิดอารมณ์ใส่กับประตูที่ตนเองจะต้องบรรจงปิดมันอย่างเป็นระเบียบ
ปังงงงง...
หัวหน้ากรรมการนักเรียนเดินออกจากห้องของตนไปอย่างหน้าบอกบุญไม่รับ เขาออกมาอย่างไร้จุดหมายเพราะในสมองแทบขาวโพลนไปหมด เอาแต่คิดถึงชายที่กำลังเข้าใจเรื่องราวผิดไปอย่างช่วยไม่ได้เพราะเหตุการณ์ที่สึนะจงใจสร้างภาพขึ้นมา เมื่อขายาวหนาสาวเท้าเดินผ่านห้องเรียนประจำของโกคุเดระ ขายาวบางก็สะดุดลงพร้อมกับจะเปิดประตูห้องเรียนเข้าไป แต่ทว่า
“ฮิบาริ มานี่เดี๋ยวสิ”
เสียงคุ้นหูกลับเรียกตัวเขาทำให้นัยน์ตาสีดำรัตติกาลเหลือบไปมองอย่างไร้อารมณ์ ฮิบาริจึงหันตัวไปสนทนาด้วยหน้าไร้สีสันของความรู้สึก
“มีธุระอะไร”
“นายจะทำยังไงกับสึนะ”
ไม่แพ้กัน ทางด้านของยามาโมโตะเองกับร้อนรนใจไม่น้อย กลายเป็นฝ่ายเข้าไปหาชายที่เคยเป็นอดีตศัตรูหัวใจ ไม่ใช่ว่าจะมาหาเรื่องใดๆ แต่กลับมาพูดเรื่องว่าที่แฟนของตนทั้งๆ ที่ไม่ได้รักเลยแม้แต่น้อย ทำให้ฮิบาริเริ่มระเบิดออกมาอย่างไม่เกรงใจทีละนิดบ้าง
“หึ ชั้นจะขย้ำมันให้ตาย ถ้าหากทำอะไรเจ้าสัตว์กินพืชของชั้น”
“นายรักโกคุเดระจริงๆ ใช่มั้ย”
“อย่ามาถามอะไรโง่ๆ”
ชายนักกีฬาเบสบอลหลุบตาลงแล้วค่อยๆ สูดอากาศเข้าไปช้าๆ เพราะเขากำลังกลั้นใจที่จะฝืนพูดออกไป ไม่มีการประชด ไม่มีการแข่งขัน แต่เพราะว่ารัก รักโกคุเดระมากจึงต้องพูดออกมาแม้จะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม แน่นอนว่าเขากำลังพยายามทำใจไม่น้อย
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ค่อยวางใจหน่อย เพราะชั้นคงไปไม่ถึงตัวโกคุเดระอีกแล้วล่ะ”
“แล้วยังไง”
“เรื่องของสึนะ นายแน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าจะไม่กลับไปคืนดีอีก”
เมื่อยามาโมโตะพูดจบ แท่งเหล็กคู่งามกลับวิ่งไปจ่อใต้คางรอเสียเสีย ทำให้หนุ่มนักกีฬาเบสบอลตกใจ เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้พราก แค่ถามเพื่อความมั่นใจเท่านั้น แต่ฮิบาริกลับไม่ได้คิดเช่นนั้นจึงไม่แปลกเลยที่เขาจะจ้องอย่างไม่พอใจและเตรียมที่จะขย้ำ
“หรือว่าแกรอชั้นกลับไปคบกับซาวาดะ แล้วจะได้คว้าฮายาโตะไป!”
“ใจเย็นสิ ชั้นก็แค่...กลัวโกคุเดระจะเจ็บอีก”
กลับกัน ยิ่งพูดให้เข้าใจมันกลายเป็นรนหาที่ตายแทน เพราะฮิบาริเลือดขึ้นหน้าเกินกว่าจะควบคุมสติไว้อยู่ ในสมองก็โทษตัวเองมากมายแล้ว ยังจะต้องมาเจอคนตอกย้ำความรู้สึกอีก กลายเป็นว่ายามาโมโตะพูดอะไรก็แทบจะไม่เข้าหูฮิบาริเลย ไม่ว่าจะด้วยประสงค์อะไรก็ตาม
“ชั้นจะไม่ทำอะไรงี่เง่าแบบนั้น! หยุดพล่ามได้แล้ว เจ้าสัตว์กินเนื้อน่ารำคาญ!”
ชายนักกีฬาเบสบอลยังคงไม่กลัวคำพูดตนเอง แม้ทอนฟาจะจ่อใต้คางแต่เขากลับทำหน้าตาเฉยชาแถมไม่มีท่าทีจะเลิกพูด และยังคงพูดต่อไปแม้จะว่าข้างในหัวใจกำลังจะขาดวิ่นๆ เป็นเศษผ้าไปแล้วก็ตาม
“แล้วถ้าเกิดโกคุเดระเข้าใจผิดล่ะ หมอนั่นยิ่งเชื่อฝังใจด้วยนะ ฮิบาริ”
หัวหน้ากรรมการนักเรียนนิ่งสนิทไปชั่วครู่แล้วชักทอนฟากลับมา เขาเริ่มได้สติเพราะคำพูดของยามาโมโตะที่พูดถึงนิสัยของโกคุเดระ ทำให้เขาเริ่มตั้งคำถามขึ้นอย่างใจเย็นลง
“.....แกจะมาเตือนอะไรกันแน่”
“ลืมไปแล้วใช่มั้ยว่าโกคุเดระเป็นคนยังไง ถ้าเกลียดใครก็เกลียดเลย ถ้ายอมใครก็ยอมเลย ถ้ารักใครก็รักเลย และถ้าหากว่ามีใครในใจ...”
ยังไม่ทันได้พูดจบ ยามาโมโตะก็ต้องชะงักคำพูดของตนเองไปทันทีเพราะเสียงที่ดุดันพูดแทรกขึ้นอย่างเดือดประทุ
“เจ้าสัตว์กินพืชนั่นคงไม่มีใครในใจอีกแล้ว! นอกจากแกที่เคยเป็นแฟนเก่าและชั้นที่กำลังคบอยู่ ชั้นมั่นใจว่าฮายาโตะไม่คิดอะไรแบบนั้น เพราะชั้นจะปกป้องด้วยมือของชั้นเอง”
สิ้นประโยคอันแน่วแน่ของหัวหน้ากรรมการคุมกฏ ลูกชายร้านขายซูชิจึงค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมาบางๆ อย่างอ่อนแรง ไม่ใช่ว่าเขาดีใจหรอกที่จะให้ฮิบาริสมหวัง แต่เพราะโกคุเดระรักฮิบาริมากต่างหาก เขาจึงต้องมาพูดจาแบบนี้ เรื่องนี้เขาเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ
“ขอให้เป็นอย่างนั้น ถ้าโกคุเดระไม่มีใครก็ถือว่านายยังโชคดี แต่จะไปรู้ได้ยังไงว่าใจจริงโกคุเดระจะไม่มีใคร เพราะใครหลายคนก็สนิทกับโกคุเดระทั้งนั้นไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็เถอะ”
ยิ่งพูดมากก็ทำให้เรื่องราวมันพันกันจนเริ่มแก้ไม่ได้กลายเป็นวุ่นวายไปหมด ทำให้สมองของฮิบาริมีแต่คำถามมากมายจนล้นทะลักออกมาอย่างไม่มีสันสิ้นสุด
“ทำไม แกคิดว่าจะมีใครมายุ่งกับฮายาโตะอีก”
“เปลาหรอก ชั้นแค่พูดเฉยๆ ตอนนี้ ชั้นอยากให้นายระวังสึนะมาก....”
เพียงแค่พูดชื่ออดีตแฟนของตนเองขึ้นมา เท่านั้นแหละ ยามาโมโตะเกือบจะต้องโดนขยี้ตรงหน้าเพราะทอนฟาของฮิบาริแล่นออกไปที่ตัวเขาทันที โชคดีที่ตนเองเป็นนักกีฬาจึงพอมองการเคลื่อนไหวออกทำให้รอดอย่างหวุดหวิด
“ไม่ต้องมาสั่ง! แล้วก็อย่ามาพูดชื่อนี้ให้ได้ยินอีก! ชั้นรู้ว่าควรจะทำยังไง เรื่องของแกดีกว่ายามาโมโตะ ทำใจได้แล้วรึยังไง ถึงกล้ามาหาแล้วมาพูดจาเป็นมิตรแบบนี้”
แทบจะหมดแรงไม่น้อยกับประโยคอันตัดขั้วหัวใจของยามาโมโตะ ใช่ว่าเขาต้องการให้เรื่องราวกลายเป็นแบบนี้ ใช่ว่าเขาอยากให้ฮิบาริสมหวัง และใช่ว่าเขาอยากปล่อยตัวโกคุเดระไป นักกีฬาเบสบอลจึงปรอทแต่กับความอดทนที่กลั้นใจมานาน
“อย่าคิดว่าชั้นหวังดีกับนาย! ชั้นก็แค่ไม่อยากทำให้โกคุเดระต้องเจ็บอีกแล้วเท่านั้น...ถ้าตอนนั้นชั้นแย้งโกคุเดระซะก่อน ถ้าตอนนั้นชั้นไม่เลือกที่จะตามใจโกคุเดระซะก่อน ถ้าตอนนั้นชั้นไม่ปล่อยให้โกคุเดระเดินจากชั้นไปซะก่อน นายก็คงไม่ได้มีความสุขจนถึงตอนนี้หรอก ฮิบาริ!!”
“หึ นั่นสินะ จะขอบใจแกด้วยดี หรือว่าต้องขอบใจซาวาดะด้วย ที่ทำให้ชั้นตาสว่าง”
“เรื่องนั้นจะเป็นยังไงก็ช่างเถอะ ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ฝากโกคุเดระด้วยล่ะ”
ว่าแล้วหนุ่มนักกีฬาก็สาวเท้ายาวออกไปจากจุดที่โต้แย้งอย่างร้อนแรงทันที ส่วนด้านของฮิบาริที่ยืนมองก็ไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก แม้จะมาหวังดียังไงแต่เพราะเป็นฮิบาริ เขาไม่ชอบให้ใครต่อใครมาพูดจาซ้ำๆ เขารู้จักตัวเองดีพอและรู้จักในสิ่งที่ต้องทำดีกว่าอะไร
“หึ ไม่ต้องสั่งชั้นก็จะดูแลอย่างดี ยามาโมโตะ ทาเคชิ”
ว่าแล้วเขาก็เริ่มเดินตรวจโรงเรียนนามิโมริไปเรื่อยๆ เพื่อให้สมองได้ผ่อนคลายลงจากความตรึงเครียด
และในอีกมุมนึงด้วยกันนั้น...
“ผมบอกคุณแล้วนะครับ ว่าคุณจะไม่มีความสุขไปแน่นอน ถ้าหากคุณไม่คิดที่จะกลับมาหาผม ฮิบาริ เคียวยะ คุณจะต้องเจ็บไปตลอดชีวิต”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไม่อาววววววว 2759 ดีกว่ามั้ย ทูน่าเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ
แต่ฟิคนี้สับปะรดหัวโตเป็นคนดี๊ คนดี จริงๆ ดีเพื่อโกคุจัง
สึนะ อย่าร้ายเลยนะ กลับไปเมะ 2759 เถอะ
ท่านฮิงานงอกแล้วสิเนี่ย ระวังสัปป้านะ ไม่อยากให้เป็นสมการนี้ อยากให้เป็น All59 มากกว่า 5555
ยามะ นายช่างเป็นคนมีเมตตาอะไรแบบนี้ //ซึ้งจนน้ำตาไหลพราก
ท่านฮิเตรียมไปรับก๊กคืนเร็วๆ เลยนะ ส่วนสึนะ นายกลับไปเมะเถอะ นะค๊าาา T T
ยามะนายใจดีมากอะ ของมากที่สุด T^T (ซึ้ง)
ส่วนสึนะ นายร้ายมาก อย่ามาทำให้ก๊กเสียใจไปมากกว่านี้นะ
ไม่งั้น ไม่งั้น.....เอ่อ....จะไม่ยอม 2759 แน่ แต่ All 59 เหมือนเดิม