ตอนที่ 16 : The series 3 : Slaughter-Love-Debt love ฆ่า-รัก-หนี้รัก (3) [B59F]
Slaughter-Love-Debt love ฆ่า-รัก-หนี้รัก (1) [B59F]
Slaughter-Love-Debt love ฆ่า-รัก-หนี้รัก (2) [B59F] ความเดิมตอนที่แล้ว ใครจำไม่ได้ ไปรื้อเอาใหม่ได้นะคะ 555+ จิ้มได้เลยจ๊ะ :'>
“ทำไมชั้นจะต้องนอนเตียงเดียวกับแกด้วย เจ้าเบลฟากอล!!”
โกคุเดระร้องแว้ดโวยวายออกมาอย่างไม่พอใจในสิ่งที่เจ้าของห้องพูดออกมาอย่างหน้าตายเหมือนจงใจให้นอนด้วยกันอย่างนั้นแหละ
“ชิชิชิชิชิ ห้องว่างมีไม่พอนินา ไดนาไมท์จัง”
เบลยังคงยืนฉีกยิ้มพร้อมหัวเราะเหมือนเดิมราวกับว่า เหยื่อติดกับเรียบร้อยตามแผน ทำให้ชายผู้มาเยือนอย่างจำใจต้องยอมจำนนแต่โดยดี โกคุเดระจึงเดินเข้าไปในห้องเพื่อสำรวจสภาพแวดล้อม?ก่อน ส่วนเบลและฟรานที่ยืนดูอยู่หน้าประตูก็มองท่าทีของว่าที่มือขวาวองโกเล่แล้วเดินตามเข้าไปประกบหลัง จนในที่สุดการสำรวจรอบห้องของร่างบางก็เสร็จสิ้น...
“เออๆๆ งั้นชั้นจะนอนพื้นห้องแกนี่แหละ”
ว่าแล้วโกคุเดระก็เหวี่ยงกระเป๋าลงกับพื้นห้องอย่างหมดอารมณ์แล้วล้มตัวลงไปนอนกองกับพื้นห้องอย่างไม่แคร์สายตาของชายทั้งสองคน เบลจึงรีบปิดประตูห้องพร้อมกับล็อคประตูห้องทันที(!?) ส่วนฟรานก็เดินเข้ามาใกล้ๆ โกคุเดระและนั่งยองๆ แล้วมองดูชายที่นอนเบื่อหน่ายซังกะตาย(?) ชายผมสีเขียวคลี่ยิ้มเล็กยิ้มน้อยพร้อมกับพูดประชดทางอ้อมเพื่อเรียกร้องความสนใจ(?)
“โห....ทั้งที่เป็นแขกแท้ๆ แต่กลับมานอนพื้นนี่ น่าสงสารจังเลยนะครับ”
“หนวกหูน่า เจ้ากบหัวโตเอ๊ย!! ทำไมวาเรียมีแต่สวนสัตว์ล่ะฟ๊ะ!! แล้วทำไมชั้นจะต้องมาซวยอะไรแบบนี้ด้วย!! โธ่เว้ยยยย!!”
นัยน์ตามรกตคู่สวยหันไปจ้องเขม่งอย่างอารมณ์ฉุนเฉียวจนหัวเสีย พร้อมกับลุกขึ้นพรวดพราดชี้หน้าฟรานที่นั่งยองๆ มองดูพฤติกรรมของตนอย่างหงุดหงิดจนสติใกล้จะหลุด แต่หารู้ไม่ว่าชายที่เขากำลังชี้หน้านั้นกลับเลิกคิ้วด้วยความสงสัยในประโยคของโกคุเดระมากกว่า
“เอ๋? สวนสัตว์หรอครับ”
“เออออ!! มีทั้งไอ้เจ้าสิงโตหน้าแก่ (แซนซัส) ฉลามจอมโวยวาย (สคอวโล่) แล้วก็นกยูงกระเทยล่ำ (ลุสซูเรีย) ไหนจะกอลิล่าหน้ามืด (เลวี่) กบหน้าเงิน (มาม่อน) แล้วก็แก กบหัวโตแอ๊บแบ๊ว (ฟราน) สุดท้ายก็เจ้าบ้านั่น แมลงสาปหน้าปลวก(?)ที่ถึกโคตรๆ (เบลฟากอล) เฮอะ!! สวนสัตว์นรกชัดๆ”
เ มื่อชายเรือนผมสีเงินโวยวายแหกปากจบก็ล้มตัวลงไปนอนทับกระเป๋าเป้ตัวเองอีกครั้งอย่างไม่สบอารมณ์ จนเบลที่นั่งฟังอยู่บนเตียงของตนเองได้ซักพัก ก็ลุกขึ้นแล้วสาวเท้าเดินเข้าไปหาร่างบางที่ปั้นหน้ามุ่ยตลอดพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างและหัวเราะอย่างพอใจ
“แมลงสาปหน้าปลวกหรอ ชิชิชิชิชิ ระวังให้ดีแล้วกันนะไดนาไมท์จัง เพราะแมลงสาปหน้าปลวกจะไล่แทะปลาหมึกหน้าซึน (โกคุเดระ) ในไม่ช้านี้แหละ”
ไม่เพียงแค่พูดเฉยๆ ชายบ้าเลือดคุกเข่าลงพร้อมกับคลานเข้าไปหาโกคุเดระที่นอนหงายเหยียดตรงอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างบางถูกคร่อมและกลายเป็นว่าโดนล็อคแขนทั้งสองข้างไปอย่างง่ายดาย
“////// ก แก!! ปล่อยเดี๋ยวนี้!! ชั้นจะนอน!!”
เสียงหวานเริ่มเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับดิ้นขลุกขลิกไปมาแต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะมือหนาที่ล็อคแขนทั้งสองข้างทั้งแน่นและไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยเลยด้วยซ้ำ
“ชิชิชิชิชิชิ ไม่ปล่อย”
ชายซาดิสม์แสยะยิ้มขึ้นมาพร้อมกับโน้มหน้าลงไปประชดปลายจมูกแล้วค่อยๆ ไล่จูบที่ริมฝีปากเล็กที่บ่นอุบอิบตลอด แต่เพราะมีมือที่สาม(?)เข้ามาขัดแทรกกลางคันในเวลาอันลาบปาก(?)
“นี่ๆ รุ่นพี่เบลครับ ให้คุณไดนาไมท์จังนอนสบายๆ เถอะ รุ่งเช้าเค้าจะต้องเอาของไปให้บอสนะครับ”
โครงหน้าคมต้องหยุดกระทำตามใจ แล้วเงยหน้าหันไปเถียงกับรุ่นน้องของตนที่นั่งมองและพูดแขวะอย่างหน้าตาย
“ชิ ขัดใจชั้นจริงๆ เลยนะแก เจ้ากบหัวเน่า!”
“ไม่ได้นะครับ รุ่นพี่เบล ปล่อยให้คุณไดนาไมท์จังเค้าผ่อนคลายบ้างสิ เพราะตั้งแต่มานี่ เค้าก็โดนรุ่นพี่เบลทารุณกรรมตลอดทางเลยนะครับ”
“ชิชิชิชิ นั่นเค้าเรียกว่า นั่งคุยกันเฉยๆ”
สิ้นประโยคของเบล โกคุเดระถึงกับพูดเถียงแทรกขึ้นมาอย่างไม่พอใจและยังคงดิ้นเพื่อต้องการหลุดจากพันธนาการตรงหน้า
“เฉยๆ กับผีสิแก!!”
...ว่าแล้วก็ต้องเล่าก่อนล่ะนะ ว่าก่อนหน้านั้นโกคุเดระไปประสบกับอะไรบ้าง...
ย้อนไปเมื่อตั้งแต่เริ่มต้นออกรถ
ในระหว่างการเดินทางอันแสนทรหดสำหรับโกคุเดระ ฮายาโตะ ที่ต้องมาพบกับเหตุการณ์อันเลวร้ายในสภาพที่เรียกว่า โดนกดขี่ทางร่างกายและจิตใจนั้น มันยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็นซะอีก
“เจ้าหญิงชอบดิ้นจังเลยนะ ชิชิชิชิ”
ชายบ้าเลือดหัวเราะลั่นดังทั่วทั้งรถอย่างพอใจในขณะที่กำลังกอดร่างบางแสนจะควบคุมยากบนหน้าตักตัวเองอย่างมีความสุข แต่ในทางตรงกันข้าม ฝ่ายที่ถูกกอดบนหน้าตักกับพยายามถีบ ดิ้น สะบัด กำลังมีความทุกข์เสียมากกว่า
“ไม่ได้ชอบดิ้นเฟ้ย!! แต่ไม่ชอบนั่งบนตักแกต่างหากเล่า!! ปล่อยเดี๋ยวนี้”
“ไม่ปล่อยหรอก ถ้าขืนปล่อยไป เดี๋ยวเจ้ากบหัวโตนั่นจะคาบไปซะก่อน”
ว่าแล้วชายที่โดนพาดพิงก็หันมามีส่วนร่วมในการสนทนาด้วย
“อย่าแขวะกันสิครับ รุ่นพี่ ผมนั่งอยู่เฉยๆ ก็พยายามหาเรื่องให้ผมผิดตลอดนะครับ”
“ชิชิชิชิ ก็จริงมั้ยล่ะ แกเอาแต่จ้องเจ้าหญิงของชั้นไม่เลิก ชั้นเห็นนะ เจ้าบ้า!!”
“ผมก็แค่สงสารเจ้าหญิงที่รุ่นพี่รังแกอยู่เท่านั้นเองนะครับ”
สิ้นประโยคของฟราน ทำให้เบลฉีกยิ้มนึกคึกบางอย่างขึ้นมา
“ชิ ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ ไอ้เจ้าคนขับ ปิดกระจกขั้นกลางทีเซ่ะ!! ชั้นอยากอยู่ส่วนตัว”
“ทราบแล้วครับ”
“ด เดี๋ยวสิเฟ้ยยยย!!”
เสียงหวานร้องออกมาอย่างดังทันทีที่เห็นกระจกขั้นกลางรถเลื่อนขึ้นมาเพื่อจะปิดไม่ให้คนที่อยู่ข้างหน้ารับรู้สิ่งต่างๆ จากด้านหลัง
ครืนนนนนนน
และแล้วกระจกก็ปิดกั้นเรียบร้อย กลายเป็นว่าโกคุเดระถูกขังในรถปิดตายสมบูรณ์แบบ
“ว้า รุ่นพี่เบลชอบทำอะไรตามใจอยู่เรื่อย ผมล่ะอิจฉาชะมัด”
ชายผมสีเขียวได้แต่บ่นอิดๆ ออดๆ ทำได้แค่รอให้รถแล่นไปถึงที่หมายเร็วๆ แค่นั้น ส่วนทางด้านหลังที่กำลังจะมีเรื่องสนุก(?)เกิดขึ้น
“เอาล่ะ ไดนาไมท์จัง เราได้อยู่ส่วนตัวสองต่อสองกันแล้วนะ ชิชิชิ”
ร่างสูงฉีกยิ้มร่าพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเรื่อยๆ ร่างบางที่โดนสวมกอดจึงขึ้นเสียงใส่อย่างเบื่อหน่ายและหมดความอดทน
“จะอะไรก็ช่าง ปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้!! เบล!!”
สิ้นประโยคคำสั่งเชิงขอร้อง(?)ของโกคุเดระ ชายบ้าเลือดจึงคลายแขนทั้งสองข้างออกจากเอวบางตามที่ร่างบางพูดมา...แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำอย่างอื่นไม่ได้
“ชิชิชิชิชิ โอเค”
ทันทีที่ร่างสูงปล่อยตัวโกคุเดระ ก็เรียกว่าเข้าทางเรียบร้อย มือหนาที่เพิ่งคลายพันธนาการไม่นานก็จับตัวร่างบางเหวี่ยงลงที่นั่งข้างๆ แล้วรีบคร่อมเหยื่อที่ติดกับทันที
ผลักกกก ตุบบบบ!!
“ปล่อยแล้วนะ”
ร่างสูงพูดไปยิ้มไปอย่างเจ้าเล่ห์ มันยิ่งทำให้โกคุเดระรู้ตัวเองเลยว่าคิดผิดสุดๆ ในเมื่อเขาปล่อยเราให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ก็ทำได้แค่อย่างเดียวคือโวยวายและหาทางเอาชีวิตรอดเท่านั้น
“นี่เรียกว่าปล่อยเรอะ!! แกช่วยเลิกคร่อมชั้นซักทีจะได้มั้ย! แล้วก็เลิกหัวเราะเสียงบ้าๆ แบบนั้นซักที ชั้นหนวกหู!!”
“ชิชิชิชิชิ เจ้าชายว่ามันฟังแล้วคึกครื้นดีออกนาาา”
“คึกไปคนเดียวเถอ...ก แก จะทำอะไรน่ะ!!!”
ยังโวยวายไม่หนำใจ ชายซาดิสม์ก็เริ่มโน้มหน้าลงเข้าใกล้ชายที่โวยวายจนในที่สุดเสียงแหกปากหวานๆ (?) อันแสนจะหนวกหูก็จบลง กลายเป็นเสียงครวญครางในลำคอแทน
“อุ๊ อื้อออ”
ริมฝีปากเล็กถูกบดขยี้ด้วยริมฝีปากหนาที่ร้อนระอุ ปลายลิ้นเบลเริ่มรุกร้ำแทรกเข้าช่องปากที่ชื้นหวานพร้อมกับค่อยๆ โต้ปลายลิ้นเล็กที่พยายามเลี่ยงหนีแต่ก็กลายเป็นทำให้เรื่องราวในการบรรเลงจูบสนุกกว่าเดิม และแล้วความชำนาญของผู้มีประสบการณ์เหนือกว่ามันทำให้ว่าที่มือขวาหลงระเริงไปตามเกมส์ มือบางทั้งสองโอบตัวร่างสูงไปอย่างไม่รู้ตัว พร้อมกับจูบตอบกลับและพยายามเล่นลิ้นสู้กับเบล แต่ความพอใจของร่างสูงมันยังไม่จบลงแค่นั้น มือหนาค่อยๆ ถลำคลานใต้เสื้อของร่างบางพร้อมกับกระชากเสื้อทันที ร่างสูงจึงถอนจูบที่ละเลงลิ้นอย่างพอใจจนน้ำใสๆ ไหลยืดออกมาและค่อยๆ ไหลตามข้างมุมปากเล็ก ไม่เพียงแค่นี้ เบลไม่ยอมหยุดการกระทำเพราะมันเพิ่งจะเริ่มต้น เขาโน้มหน้าลงไปไล่เลียเม็ดชมพูบนยอดเนินอกขาวสวยแล้วดูดพร้อมกับขบเบาๆ จนโกคุเดระครางออกมาอย่างเก็บเสียงไม่ได้
“อ อ๊าาาา!! พ พอเถอะ”
“ชิชิชิชิ ยังหรอกน่า”
มือหนาทั้งสองต่างเค้นบีบคลึงเม็ดสีชมพูนวลสวยจนตัวร่างบางเริ่มสั่นสะท้านไปทั่วร่าง โครงหน้าเข้มค่อยๆ เลื้อยไปสร้างคิสมาร์คข้างซอกคอขาวอย่างไม่ปล่อยโอกาส
“อื้อออออ....อ้าาาห์....”
“โหยหวนน่ารักจังเลยน๊าา”
เบลฉีกยิ้มกว้างอย่างพอใจเพราะตอนนี้โกคุเดระทั้งหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากอ้อยอิ่งและเต็มไปด้วยน้ำใสๆ ปนเปื้อนตามมุมปากที่ไหลออกมา นัยน์ตามรกตสีเขียวที่กลมโตปรือตาทั้งน้ำใสๆ ของดวงตาที่คลอเต็มเบ้า เรือนร่างสีขาวนวลสวยที่ถูกมือดีเล่นจี้จุดเม็ดสีชมพูสีอ่อนสวย ตอนนี้เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ และเหมือนจะเล่นกับสัมผัสของเบล ไม่รอช้าแค่นั้น เมื่อร่างบางได้พักหายใจขึ้นมาหน่อย ไม่ทันไรเกมส์ก็เริ่มต่อ มือหนาเริ่มปลดกางเกงของโกคุเดระที่ไร้เรี่ยวแรงในการต่อต้าน แต่ว่า...
“รุ่นพี่คร๊าบ! ถึงแล้วนะคร๊าบ!”
เสียงอันขัดขวางก้างขัดคอก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน ทำให้เรื่องราวที่กำลังได้ที่จบลงไปอย่างดื้อๆ แน่นอนล่ะว่าร่างสูงที่กำลังจะลงไม้ลงมือตะโกนด่าสวนกลับไปอย่างรำคาญ
“ชิ กบหัวโตมันน่าเฉือนทิ้งจริงๆ เจ้าฟราน!”
“เมื่อกี้รุ่นพี่พูดอะไรนะครับ ผมได้ยินไม่ชัด งั้นเอาล่ะ”
เมื่อฟรานพูดจบ เขาก็ใช้แขนทั้งสองข้างคล้องเข้าที่ใต้รักแร้ของร่างบางแล้วดึงลากพรวดออกมาจากเบาะที่นั่งด้านหลังในขณะที่เบลยังอยู่ในท่าคร่อม ทำให้โกคุเดระที่อ่อนเปลี้ยจากการข่มขืนใจ(?) หลุดออกมาจากพันธนาการที่ทำให้ตัวเองเกือบเสียตัว
พรืดดดดดดดด....
“งั้นผมจะพาเจ้าหญิงไปที่ห้องก่อนนะครับ รุ่นพี่ก็อย่าลืมของที่บอสฝากไว้นะครับ ผมเดินไปหยิบไม่ได้เพราะผมพยุงเจ้าหญิงอยู่นะคร๊าบ”
และแล้วชายผมสีเขียวแสนเจ้าเล่ห์ไม่น้อยก็ค่อยๆ พาร่างบางเดินไปที่ห้องของตน ทางด้านของเบลที่กำลังได้อารมณ์...
“ชิชิชิชิ ไอ้เจ้ากบเน่า แกกล้ามากที่บังอาจพาตัวเจ้าหญิงของชั้นไปน่ะ หนอยยย!!”
มือหนาจึงรีบลุกขึ้นแล้วเอื้อมไปคว้ากล่องพอดีมือที่หน้ารถ และเร่งออกจากตัวรถพร้อมกับเดินตามหลังไปด้วยอารมณ์ค้าง(?)และฉุนเฉียว
....มาต่อในเหตุการณ์ปัจจุบันที่โกคุเดระกำลังถูกเบลคร่อมกลางพื้นห้องของตนเองโดยมีฟรานนั่งยองๆ มองดูหน้าตายอยู่ข้างๆ....
กลับเข้าสู่สภาพปกติในห้องรกๆ ของสัตว์ร้ายแห่งวาเรีย(?)
“นี่ถ้าแกไม่คิดจะปล่อยล่ะก็ ชั้นจะระเบิดห้องนี้ให้กระจุย!”
เสียงหวานยังคงขู่ฟอดๆ ไม่หยุดเสียงแม้จะเห็นท่าทีของเบลและฟรานที่กำลังทะเลาะเถียงกันเองอยู่ก็ตาม เบลจึงเลิกสนทนากับชายผมสีเขียวที่จ้องจะหาโอกาสแล้วเปลี่ยนมาจ้องมองชายที่กำลังถูกคร่อมที่ดิ้นไปเถียงไปไม่หยุดแทน
“ชิชิชิชิ ระเบิดสิ เจ้าชายจะได้ช่วยสงเคราะห์ด้วย”
‘นี่มันแฟมิลี่แกนะเฟร้ย! อะไรของเจ้าพวกนี้กันห๊ะ!!’
ชายสวมหมวกใบใหญ่รูปกบแอ๊บแบ๊วนั่งมองพร้อมกับพูดแทรกขัดคอชายบ้ามีดตลอดเวลาจนทำให้โกคุเดระรอดพ้นจากร่างสูงที่กำลังจะก้มลงจูบร่างบางพอดี
“รุ่นพี่เบล เตียงก็มีนะครับ เจ้าหญิงอุตส่าห์สละตัวเองนอนพื้นแล้วนะครับ รีบๆ นอนดีกว่า ถ้าขืนพรุ่งนี้ตื่นสายจะเจออะไรบ้างผมไม่รู้ด้วยนะครับ”
ในทางตรงกันข้าม เบลกลับหงุดหงิดจัดจนต้องยอมปล่อยพันธนาการนี่อย่างไม่สบอารมณ์
“เออๆๆ นอนก็นอน เจ้ากบปากเน่าน่ารำคาญ”
สิ้นประโยค ชายซาดิสม์ยอมปล่อยแขนบางทั้งสองข้างแต่โดยดีแล้วยันตังลุกขึ้นไปที่เตียงของตนเอง แต่ก่อนที่เบลจะล้มตัวนอน
ฉัวะ!
มีดสลักลายสีเงินเล่มสวยปักเข้าที่กลางหมวกรูปกบตาโตทันที
“อีกแล้วนะครับ รุ่นพี่”
ฟรานเองก็ค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่เตียงนอนของตนเองในสภาพมีดเสียบคากลางหมวกรูปกบใบใหญ่
“ชิชิชิชิชิ”
และแล้วเมื่อชายออทิสติก(?)ทั้งสองนอนหลับกันที่เตียงนอน ไฟในห้องมืดลง ร่างบางที่เหมือนจะรอดผ่านไปพ้นได้ด้วยดีก็นอนขดตัวกับพื้นแล้วเอาแต่คร่ำครวญโหยหวนในใจเพราะนอนไม่หลับ
‘กว่าพวกมันจะเข้านอนกัน บ้าเอ๊ย! ชั้นล่ะอยากกลับไปหารุ่นที่ 10 ใจจะขาดแล้วนะว๊อยย! รุ่นที่ 10 คร๊าบบ...’
ในที่สุด ทุกคนในห้องต่างก็เข้าสู่ห้วงนิทรา เรื่องราจึงสงบลงได้อย่างมหัศจรรย์ แต่ไม่นานนัก ประมาณตี 2 กว่าๆ....
เรื่องราวมันก็สานต่อ
“อือออ นุ่มจัง...”
เสียงหวานปรือขึ้นมาเพราะตนเองพลิกตัวกลับไปกลับมาอยู่บนเตียง
“น่ารักจังเลยนะครับ”
ใช่แล้ว เตียงของกบเจ้าเล่ห์ที่ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน ฟรานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้วก็นอนท้าวคางมองร่างบางที่หลับตาปรือและขดตัวใต้ผ้าห่ม
“อืมมม...เสียงนี้มัน ทำไมดังข้างๆ หูนะ”
โกคุเดระเหมือนจะมีเซ้นส์บ้าง ประสาทของเขายังคงทำงานอยู่ทำให้มรกตคู่สวยลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ พร้อมกับขยี้ตาไปมา
“ก็นอนเตียงผมอยู่นะครับ”
ชายผมสีเขียวยิ้มรับและจ้องมองร่างบางที่ทำท่าจะตื่น และทันทีที่ฟรานพูดจบ โกคุเดระเองก็ลืมตาขึ้นมาพอดีทำให้เสียงหวานร้องออกมาอย่างไม่ตั้งใจด้วยความตกใจ
“จ เจ้ากบหัว...อุ๊!!”
มือหนารีบเอื้อมไปปิดปากว่าที่มือขวาวองโกเล่ทันทีก่อนที่คนร่วมห้องจะได้ยิน
“เบาๆ สิครับ เดี๋ยวรุ่นพี่เบลตื่นนะครับ”
โกคุเดระจึงหรี่เสียงลงและพูดอย่างแผ่วๆ
“แล้วทำไมถึง...”
“ก็เล่นนอนขดกับพื้นห้องซะขนาดนั้น กลางคืนมันหนาวนิ ก็เลยตัดสินใจลงไปอุ้มคุณให้มานอนเตียงผมแทน อุ่นใช่มั้ยครับ”
แม้ฟรานจะพูดจาเหมือนเป็นมิตรแต่เพราะเป็นโกคุเดระที่ขี้ระแวง เขาจึงยันตัวลุกขึ้นจากเตียงแล้วหันไปคุยต่อรองกับเจ้าของเตียงนอน
“ล แล้วชั้นจะไว้ใจแกได้ยังไง!”
“ผมไม่ใช่รุ่นพี่เบลนะครับ”
โกคุเดระนั่งนิ่งชะงักไปชั่วครู่เพื่อครุ่นคิดในสิ่งที่ชายผมสีเขียวพูด มรกตเขียวสว่างกรอกตาและมองหน้าของฟรานไปมาเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของตนเอง จนในที่สุดร่างบางก็ตัดสินใจ...
“.....เออๆ งั้นชั้นไม่เกรงใจล่ะ”
สิ้นเสียงของว่าที่มือขวาวองโกเล่ เขาก็รีบล้มตัวนอนลงกับฟูกสีขาวและหันหลังให้กับเจ้าของเตียงที่หวังดีทันที ส่วนฟรานที่นอนท้าวคางมองก็ยิ้มรับแล้วค่อยๆ ล้มตัวนอนมองแผ่นหลังบางที่ดึงผ้าห่มมาห่มทั้งตัว
“คร๊าบๆ ฝันดีนะครับ”
“ขอบใจนะ แกก็รีบๆ นอนได้แล้ว ฟราน”
“ค ครับ”
และแล้วร่างบางก็หลับลงไปในไม่ช้า ปล่อยให้ชายที่หวังดีนอนตาแป๋วเพราะความตกใจกับความอ่อนโยนที่ไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยไป ซึ่งไม่แปลกที่ฟรานจะเขิน
‘อาาา...เรียกชื่อเราด้วยแฮะ ชักจะชอบเรื่อยๆ แล้วสิ’
“คุณเจ้าหญิงครับ ถ้าไม่ว่าอะไร คืนนี้ขอผมนอนกอดนะครับ...”
ไร้เสียงตอบกลับมา ไม่มีวี่แววที่โกคุเดระจะตอบกลับมา ทำให้กบหัวโตนอนมองอยู่ข้างๆ เฉยๆ
‘ไม่ตอบแฮะ หลับแล้วหรอ เอ๊ะ...พลิกตัวกลับมาแล้ว?’
โกคุเดระหลับในสภาพที่เรียกว่ามองดูยังไงก็น่ารัก เพราะดวงตากลมโตที่หลับใหลช่างชวนมองไม่รู้จักเบื่อ เรือนผมสีเงินสีเป็นประกายยาวประบ่าได้รูปสวย แก้มอมชมพูระเรื่อแบบคนมีเลือดฝาดบนใบหน้า แถมยังนอนหันหน้าเข้าหาชายผมสีเขียวที่นอนมองอยู่อีก มีหรือที่เขาจะไม่มอง และมีหรือที่เขาจะหลับลง
‘ปากเล็กจัง ตัวก็บาง ผิวก็ขาว...’
ไม่ทันไรความเผลอใจของฟรานก็ทำให้ตัวเองยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนสัมผัสไออุ่นจากจมูกเล็กที่โด่งได้รูป ริมฝีปากหนาจึงได้รับรสสัมผัสสิ่งที่หอมหวานจากโพรงปากเล็ก ลิ้นหนาจึงไม่รอช้าค่อยๆ สอดลิ้นเข้าไปอย่างระมัดระวังเพราะกลัวคนที่หลับจะตื่นเพราะตนเองกำลังลักหลับ
“อือออ....อืมมมม”
เสียงหวานครวญออกมาจากลำคอเบาๆ จนทำให้ชายผมสีเขียวรีบผละจากจูบอันนุ่มนวลเสียก่อน ตอนนี้ร่างกายของตนดันทำตามใจมากเกินไป เขากำลังคร่อมร่างบางที่หลับไม่รู้ตัว
‘ย แย่ล่ะ เผลอคร่อมตัวซะแล้วสิ หลับลึกเหมือนกันแฮะ จูบต่ออีกหน่อยก็แล้วกัน’
ริมฝีปากหนาจึงเริ่มลงไปประกบริมฝีปากเล็กช้าๆ ลิ้นหนาเริ่มแทรกเข้าโพรงปากชื้นช้าๆ แล้วค่อยๆ จูบลงไปตามหลังอย่างถนอม ร่างสูงที่เกร็งร่างกายมานานก็ถูกมือบางกดตัวลงมาให้แนบประชิดกันอย่างไม่รู้ตัว ฟรานจึงปล่อยให้อารมณ์คุมเกมส์ไปทุกอย่าง ส่วนโกคุเดระก็จูบไปอย่างลืมตัวทั้งๆ ที่กำลังนอนอยู่ ทั้งสองคนต่างจูบกันอย่างลืมเวลา ทั้งกอดทั้งไซร้ซอกคอ ทั้งมือเลื้อยเล่นใต้เสื้อร่างบางเพื่อจะหยอกเย้าแหย่ยอดเนินอกสีชมพูเม็ดน่ารัก ทั้งเสียงครวญครางที่ดังอย่างแผ่วๆ เป็นระยะๆ จะฟรานต้องดึงสติตัวเองกลับมาอีกครั้ง เพราะโกคุเดระเริ่มร้องคร่ำครวญดังเรื่อยๆ และกลัวคนร่วมห้องที่นอนคนละเตียงจะตื่น
“เสียดายจังแฮะ กำลังได้ทีเลยนะครับ ติดอยู่ที่นี่เป็นห้องรวมกับรุ่นพี่เบล ไม่งั้นคืนนี้...คุณไม่รอดแล้วครับ”
ก่อนที่เขาจะปล่อยร่างบางแสนน่ารักให้หลับสบายๆ ริมฝีปากหนาจึงค่อยๆ ขบต้นคอขาวกลายเป็นรอยแดงได้รูปสวย แล้วจึงค่อยล้มตัวนอนกอดโกคุเดระ ข้างๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ชอบเบลอ่ะ เชียร์ฟรานแล้วกันค่ะ เอ๊ะยังไงนะ 55555
ขำตรงที่โกคุจังบอกว่า วาเรียมีแต่สวนสัตว์ แล้ววิจารณ์อ่ะ ตลกมาก ขำเลยแหละ
สองคนจัดหนักไปเลย กดโกคุจังให้จงได้ เย้!
ยิ้มไม่หยุดเลย มันสุดยอดมากค่ะพี่เรกิ อ่านแล้วเขิน 55555 เขินทางท่าของหนูก๊กที่เคะมากๆ
รอตอนต่อไป ตกลงก๊กจะเสียตัวหรือไม่? 55555
เมื่อไหร่จะได้กดกันซะทีหล่ะค้าาาา รอตอนที่4ค่าา>//<
แต่ก็เชียร์ฟรานแบบลึกๆ เลือกไม่ถูกแฮะ >,,<
รีบอ่านดีกว่า เวลามีน้อย Y^Y
สนุกมากกกกกกกกกก เลยค่ะ อ่านไปยิ้มไป นั่งกรี๊ดอยู่หน้าคอม
หนูฟรานเนี่ยแอบลักหลับก๊กจังด้วย อันตรายนะเนี่ย(ต่อหัวใจคนอ่าน)
น่ารักสุดๆเลย เจ้าชายก็มือไว๊ไว ไม่ทันไรก็จูบก๊กจังซะละ ก่อนฟรานอีกแหนะ
เป็นเรื่องที่สนุกมากๆ จะรอตอนต่อไปนะคะ