ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] .:::THE MELODY OF LOVE:::. BY SOULINA

    ลำดับตอนที่ #42 : [Kris x Suho] แอบชอบ เดอะ ซีรี่ย์ - Another case - IV -

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 463
      1
      7 พ.ย. 56




    ๔.

     

    เรื่องราววัยเด็กที่ชัดเจนมากขึ้น...

    มันยิ่งทำให้จุนมยอนไม่อยากเจอหน้าคริสเข้าไปอีก...

     

    เรือนร่างขาวในชุดคลุมของโรงพยาบาลนั้นนั่งนิ่งมองมือข้างซ้ายที่มีสำลีปิดไว้อย่างเหม่อลอย... แผลนี้เขาได้จากการพยายามกระชากสายน้ำเกลือทิ้งไปแล้วครั้งหนึ่ง เป็นพี่คยูฮยอนที่เข้ามาเจอพอดี... และทำให้เขาไม่ตายเพราะเสียเลือดมากไปเสียก่อน... ดวงตากลมเบือนออกไปนอกหน้าตาอีกครั้ง... ก่อนจะถอนหายใจออกมายาวเหยียด...


    เขาไม่อยากเจอใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิททั้งสองอย่างลู่หานและอี้ชิง หรือแม้กระทั่งคริส... ไม่อยากเจอใครทั้งนั้น ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นไอ้จอมโกหกที่โกหกทุกคนมาตลอด...

    ...ความทรงจำที่หายไปที่ได้กลับคืนมา...


    เรื่องราวทั้งหมด... ที่เขาเป็นคนปฏิเสธคริสเมื่อตอนนั้นก่อนที่คริสจะหายไปจากชีวิตเขา แต่เมื่อคริสกลับมาหาเขาอีกครั้ง กลับเป็นเขาที่ไปน้อยใจว่าคริสไม่สนใจ อีกทั้งคำพูดที่พูดทิ้งไว้เมื่อตอนก่อนจะจากกันอีก

    ...คริสไปชอบคนอื่นที่ไม่ใช่เราเถอะนะ... เราสัญญาว่าจะช่วยคริสด้วย...

     


     

    จุนมยอนจำรายละเอียดไม่ได้หรอกว่าตอนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ แต่จำคำพูดในตอนนั้นได้ดี และเมื่อคริสกลับมา คริสก็ทำตามคำพูดนั้นของเขาทุกอย่าง... แต่เป็นเขาเองที่จำไม่ได้... เพราะอย่างนั้นสินะ คริสถึงบอกว่า ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้



    ท้องฟ้าสีครามเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีส้มอ่อน ก่อนที่สายลมเย็นเยียบนั้นจะโบกพัดเข้ามาทางหน้าต่าง เปลือกตาบางเปิดขึ้นอีกครั้ง ท้องฟ้าสีครามที่เขาเห็นก่อนที่จะเผลอหลับไปนั้นถูกบดบังด้วยร่างสูงของผู้มาเยี่ยมไข้ ข้าวของร่างนั้นเหมือนจะรับรู้ว่าเขาตื่นแล้ว จึงหันเสี่ยวหน้ากลับมายิ้มให้บางๆ



    จุนมยอนเบือนหน้าหนีไปอีกทางก่อนที่น้ำตาจะรื้อขึ้นที่นัยน์ตาคู่สวย...ก่อนที่จะไหลลงอาบแก้ม... คนตัวสูงถอนหายใจเสียงดังจนเขาได้ยิน ก่อนที่ฝีเท้าสม่ำเสมอนั้นจะเดินอ้อมเตียงมานั่งลงเบื้องหน้าเขา



    ฝ่ามือหนาไล้ลงไปตามแขนเล็กก่อนจะยกข้อมือบางที่มีลำสีแปะไว้อย่างเบามือ... ดวงตาคู่คมของคริสมองนิ่งอยู่ที่แผลนั้นก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบา



    “เจ็บ...มากไหม?” คนตัวเล็กไม่ตอบ หากแต่ดวงหน้าหวานที่ซีดเซียวนั้นเบือนไปอีกทางอีกครั้ง คริสมองคนตัวเล็กที่ออกอาการเมินใส่กันอย่างชัดเจนนั้นทำให้คริสรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ตอนนี้เพราะจุนมยอนกำลังไม่สบาย ทำให้เขาต้องใจเย็นมากขึ้น...




    “กินข้าวหน่อยไหม... ตัวเล็กมะ...” ดวงหน้าเล็กยื่นหน้าเข้ามากดจูบลงบนปากนิ่มของคนตัวสูงก่อนที่จะโถมตัวใส่ คริสโอบกอดคนตัวเล็กแน่นก่อนจะจูบตอบอย่างไม่ยอมแพ้ และผละออกเมื่อมือเล็กนั้นกำสาบเสื้อของเขาแน่น... มือหนายกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลรินออกจากนัยน์ตาคู่สวยนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า...



    “..ยะ... อย่าเรียก... ว่าตัวเล็ก...นะ” เสียงหวานว่าทั้งๆที่ยังสะอื้น ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ มือบางค่อยๆดันแผ่นอกกว้างของคนที่กำลังกอดแน่นออกแล้วส่ายหน้าไปมา “มะ...ไม่ได้หรอก... ฉันเป็นตัวเล็กของคริสไม่ได้หรอก คริสชอบอี้ชิงไม่ใช่เหรอ...”



    คนตัวสูงคว้าคนตัวเล็กเข้ามากอดแน่น แต่ก็ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรทั้งนั้น ใบหน้าของจุนมยอนที่กำลังเกยไหล่หนานั้นบูดเบี้ยวอย่างเจ็บปวดยิ่งกว่าบาดแผลที่หลังมือเสียอีก ถ้าคริสเอ่ยมันอีกครั้ง... เขาอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้...



    “ตัวเล็ก...” เสียงทุ้มว่าพร้อมกับดันหัวไหล่บางให้ออกห่าง สายตาคู่คมยาวนี้นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดมากมายที่แบกรับ หากแต่จุนมยอนจะเห็นมัน... คนตัวเล็กปิดเปลือกตาลงเพื่อรอรับสัมผัสนิ่มหยุ่นที่ริมฝีปากที่เริ่มขึ้นช้าๆอย่างเนิบนาบก่อนจะรุนแรงขึ้นพร้อมกับมือหนาที่เริ่มดันเสื้อของโรงพยาบาลให้ร่นลงไปอยู่ที่หัวไหล่



    ปากหนาลากไปตามผิวขาวที่เกือบจะซีดเซียวอย่างช้าๆ ก่อนดูดดึงผิวขาวที่ต้นคอนั้นให้เป็นรอยแดงจางๆ มือหนาค่อยๆดึงปมที่ถูกมัดอย่างดีออกที่จะอันๆ จนกระทั่งเขาสามารถมองเห็นผิวขาวนั้นได้อย่างเต็มตา มือหนาลูบไล้ไปทั่วแผ่นอกแบนราบ แล้วก้มลงจูบลงบนไหปลาร้าเบาๆและรุนแรงขึ้นจนะเกิดเสียงดังจ๊วบจ๊าบ จุนมยอนหน้าแดงซ่านเมื่อเบือนขึ้นมาสบตาก่อนที่ร่างสูงนั้นจะผละออก แล้วจัดการยกเหล็กกั้นเตียงนั้นลง และเข้าประกบปากจูบอย่างรุนแรงอีกครั้ง เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันก่อนจะผละออก



    น้ำใสไหลเชื่อมกันก่อนที่คริสจะก้มลงกดจูบที่หัวไหล่มน คริสสร้างรอยสีหวานไว้ทั่วแผ่นอกบางก่อนจะก้มลงดูดดุนติ่งไตสีสวยอย่างรุนแรง... มือเล็กที่อังเตียงไว้นั้นเริ่มสั่นก่อนที่จุนมยอนจะล้มตัวลงใช้ข้อศอกอิงกับเตียงแข็งของโรงพยาบาลแทน คริสจับให้จุนมยอนนั่งห้อยขาลง ก่อนที่จะขบเม้าบริเวณหน้าท้องแล้วเลื่อนต่ำลงมือหนาค่อยๆจัดการร่อนกางเกงผ้านั้นลงก่อนที่จะค่อยๆลูบส่วนสำคัญที่ค่อยๆตื่นขึ้นเล็กน้อย



    “มะ...ไม่นะ” จุนมยอนเอ่ยร้องห้าม ก่อนที่จะพยายามยกมือดันหัวของคนตัวหนาออกแต่มือที่กำลังดันอยู่นั้นกลับกลายเป็นว่าขยุ้มกลุ่มผมสีอ่อนนั้นแทน.... จุนมยอนเม้มปากแน่นสะกดกลั้นเสียงอันน่าอายไว้ ก่อนที่มือเล็กจะท้าวลงกับเตียงอีกครั้ง



    โพรงปากอุ่นดูดดุนส่วนสำคัญนั้นเบาๆ ก่อนจะขยับเข้าออกช้าๆและเร็วขึ้นอย่างชำนาญ จุนมยอนเผลอส่งสะโพกขยับตอบรับสัมผัสนั้นอย่างลืมตัวก่อนที่เรือนร่างขาวจะกระตุกเกร็งและปลดปล่อยออกมาเต็มโพรงปากอุ่นของคริส มือหนาเอื้อมไปหยิบกระดาษทิชชู่ที่หัวเตียง แล้วเช็ดทำความสะอาดให้กับร่างเล็กก่อนจะจับเรียวขาขาวแยกออกจากกัน



    ปากร้อนประทับลงที่โคนขาด้านใน แล้วดูดผิวเนื้อขาวอย่างแรงเพื่อประทับร่องรอยสีหวานไว้ ก่อนที่จะลุกขึ้น แล้วกดจูบลงบนปากอิ่มแดงช้ำนั้นอีกครั้ง มือหนาดึงเสื้อตัวบางที่ลงไปกองอยู่ที่ข้อมือขึ้นมาแล้วผูกเชือกให้เหมือนเดิม มือหนาเอื้อมหยิบกางเกงผ้าที่ลงไปกองอยู่ที่พื้นขึ้นมาสวมใส่ให้ร่างเล็กก่อนจะกดจูบลงบนกลุ่มผมนุ่มนั้นอย่างอ่อนโยน...



    ร่างสูงส่งยิ้มให้ก่อนจะโอบกอดคนตัวเล็กขึ้นวางบนเตียงพร้อมกับดึงผ้าขึ้นผมคลุมช่วงล่างไว้ โดยไม่ลืมที่จะดึงที่กั้นเตียงขึ้นมาให้กับจุนมยอนอีกด้วย...


    ดวงตากลมมองคนที่ทำให้เขาเมื่อคู่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนที่มือบางจะเอื้อมไปจับนิ้วก้อยของคนตัวสูง


    “ทะ...ทำไม... แล้วคริส ?” ก่อนที่คนตัวสูงจะว่าอะไร เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงพยาบาล มือหนาจับมือเล็กให้ออกจากนิ้วก้อน ก่อนจะเดินไปเปิดประตูแล้วเดินออกไปจากห้อง..



    ...โดยไม่หันหลังกลับมามองเขาแม้แต่นิดเดียว...

     



     

    ร่างสูงเดินอย่างเชื่องช้าพร้อมกับความเจ็บปวดที่เผลอฉวยโอกาสคนตัวเล็กนั้นอีกครั้ง... เขาตั้งใจว่าจะไม่ทำอะไรแบบนั้นกับจุนมยอนอีก... แต่เขาก็ทำมันมากกว่าเดิม อีกทั้งจุนมยอนยังเป็นห่วงเขาอีก ในขณะที่กำลังปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปหัวไหล่หนาก็ถูกคว้าให้หันไปอย่างรุนแรง ก่อนที่หมันลุ่มๆ ของคนที่กระชากเขานั้นจะประทะเข้ากับใบหน้าอย่างแรงจนคริสลงไปกองกับพื้น



    ดวงตาคมมองคนที่ต่อยตัวเองอย่างเอาเรื่องแต่เมื่อมองเห็นว่าเป็นใคร จึงยอมสงบลง



    “พะ...พี่คยูฮยอน...” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้าอย่างตกใจ ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นแล้วใช้หลังมือนั้นเช็ดเลือดที่มุมปากช้า



    “ที่จุนมยอนไม่ได้มาหาหมอก็เพราะแกใช่ไหมคริส....” คริสหลบสายตาของคนที่จ้องมาอย่างคาดคั้นก่อนจะตอบออกไปเสียงเบา



    “ผมไม่รู้... แต่ที่เขาเครียด...เป็นเพราะผม” สิ้นคำตอบนั้น คยูฮยอนก็ประเคนหมัดใส่อีกครั้ง... ดีที่ตรงที่พวกเขายืนอยู่นั้นไม่ใช่ห้องโถงหรือบริเวณที่มีคนมากมาย ไม่อย่างนั้นคงมีคนตกใจกับเหตุการณ์ความรุนแรงนี้แน่ๆ คริสยกมือขึ้นกุมแก้มที่โดนชกซ้ำสองไปก่อนจะเช็ดเลือดที่มุมปาก



    “ขอโทษครับ”


    “คำนั้น... ไม่ใช่พี่ที่ควรได้รับมัน”

     

    ใช่.... คำขอโทษของคริส

    มีไว้สำหรับคนเพียงคนเดียวเท่านั้น

     

     



     

    หลังจากที่คุณหมอออกไปแล้ว พยาบาลก็ยกอาหารเย็นเข้ามาในห้อง ดวงตากลมนั้นมองประตูที่เปิดกว้างอย่างมีความหวัง แต่ก็ไม่มีแม้แต่เงาของคนที่เพิ่งจะจากไปสักนิด... การได้ความทรงจำที่หายไปนั้นคืนมาเป็นเรื่องที่ดี แต่มันจะดีกว่านี้ ถ้าเขาไม่ได้สูญเสียมันไปแต่แรก... ดวงตากลมเบือนออกไปนอกหน้าต่างที่มืดสนิทอีกครั้ง...



    ความเจ็บปวดเข้าแทรกซึมในระบบประสาทอีกครั้ง... และครั้งนี้ก็เป็นเหมือนทุกครั้งที่จุนมยอนเอาแต่เก็บมันไว้ ดวงตากลมที่มองทอดออกไปยังท้องฟ้านั้นเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาไม่หยุด...



    “จุนมยอน...” เสียงของพี่ชายดังขึ้นทำให้คนตัวเล็กรีบยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่เอ่อล้น แล้วรีบพลิกกายหันไปหาเจ้าของเสียงอย่างรวดเร็ว ดวงตาแดงที่ยังมีน้ำตาคลออยู่เต็มหน่วยนั้นเป็นหลักฐานได้อย่างดีว่าเมื่อครู่นั้น...เขาร้องไห้



    “กับคริส...น้องจะทำยังไง?” จุนมยอนส่ายหน้าให้กับพี่ชาย ก่อนจะหันไปอีกทาง... จะทำยังไงเหรอ... ตอนนี้เขาทำอะไรได้บ้างดีกว่า ทั้งอี้ชิงที่ไม่รู้ว่าจะชอบคริสไหม....



    “ผม...ควรทำไง?”



    “จุนมยอนต้องถามตัวเองดูนะ... ว่าทางไหนน้องจะมีความสุขที่สุด ปล่อยเขาไปอีกครั้ง หรือจะเลือกอีกทางที่น้องทิ้งไป แต่ตามตรง พี่เชื่อว่าคริสจะไม่ทำให้น้องเสียใจอีกแล้ว...” ดวงตากลมเบือนกลับมาสบนัยน์ตาคู่คมของพี่ชายก่อนจะพยักหน้ารับช้าๆ



    “ผมก็คิดแบบนั้น... แต่ผมก็กลัวมันอยู่ดี...”

     

     

     

    อาการของจุนมยอนที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว และแพทย์เจ้าของไข้ก็ได้อนุญาตให้คนตัวเล็กกลับได้ทันทีหลังจากผ่านคืนที่สองไป... เป็นคริสที่เสนอตัวพาเขากลับบ้าน จุนมยอนคิดว่าพี่ชายของตัวเองจะไม่ยอมให้คริสเขาใกล้เขาเหมือนอย่างเคย แต่เพราะคำพูดของพี่คยูฮยอนในคืนนั้นที่โรงพยาบาลทำให้เขารู้ชะตากรรมเลยว่า ยังไงคริสก็ต้องได้ไปส่งเขาที่บ้าน...



    “ตัวเล็กอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม?” ทันทีที่รถออกจากโรงพยาบาลมาได้สักระยะ คนตัวโตก็เอ่ยถามขึ้นโดยใช้มือข้างที่ไม่ได้จับพวงมาลัยนั้นเอื้อมมาแตะหลังมือเขาเบาๆ มือเล็กหยิบมือหนาออกก่อนจะเหม่อมองออกไปนอกรถพร้อมกับตอบปัดไปว่าไม่อยากกินอะไร...



    ...เขาก็แค่ไม่ชิน...และทำตัวไม่ถูกก็เท่านั้น...

    คริสที่อ่อนโยน....คนเดิม....



    “เรื่องอี้ชิง....”



    “งั้นเป็นเค้กร้านโปรดของจุนมยอนแล้วกันนะ... ไม่ได้ซื้อให้จุนมยอนนานแล้ว” คนตัวสูงที่ทำหน้าที่สารถีนั้นยังคงยกยิ้ม พร้อมกับพูดไปเรื่อยๆ ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าคริสกำลังมีความสุขมาก... ทั้งๆที่ตอนนี้เขาแทบจะเป็นบ้าตายแล้วด้วยซ้ำ



    “เค้กก็ได้...” จุนมยอนตอบออกไปส่งๆ เอาไว้กลับถึงบ้านแล้วซักต่อก็คงไม่สาย



    “แล้วก็... ถ้าเรื่องเพื่อนของจุนมยอนละก็ ฉันว่าจุนมยอนไปถามเพื่อนเองเลยดีว่า คนที่อี้ชิงชอบน่ะเป็นใคร ฉันมั่นใจนะ ว่าไม่ใช่ฉันหรอก” คริสเอ่ยขึ้นก่อนจะหันมายกยิ้มให้ พร้อมกับเลี้ยวรถจอดตรงหน้าร้านเค้กสีขาวเล็กๆ ที่ถูกออกแบบให้คล้ายกับกรงนกขนาดยักษ์ มันเป็นร้านที่พวกเขาทั้งสองคนเคยมานั่งด้วยกันบ่อยๆ ตอนที่ในบ้านนั้นไม่มีคนอยู่



    คริสยังจำได้ดีว่าครั้งแรกที่คนตัวขาวนั้นพามา เขาที่ไม่คิดชอบของหวานเลยสักนิดกลับคิดที่จะกลับมานั่งร้านนี้อีก... ไม่ใช่เพราะบรรยากาศที่แสนดี หรือการตกแต่งร้านที่สวยหรู... หากแต่เป็นเพราะเป็นที่ที่จุนมยอนนั้นชอบมาต่างหาก



    หลังจากที่ได้รับถุงเค้กที่สั่งไว้พร้อมช็อตโกแลตเย็นแล้วคาปูชิโน่ร้อนแล้ว ทั้งคู่ก็ขึ้นรถแล้วตรงสู่บ้านของจุนมยอนทันที...

     






     

    ความเป็นจริงเป็นสิ่งที่ทุกคนรับรู้...

    หากแต่ที่มันผิดพลาดคือ คนเรานั้นเลือกรับรู้เพียงแค่ความเป็นจริงเพียงข้างเดียว

     

    จนกระทั่งมันสายเกินไป...

    เราถึงอยากมารู้เรื่องราวของความจริงทั้งหมด

     

     

    เรือนร่างโปร่งนั่งทอดสายตามองคนคู่หนึ่งที่จูงมือกันมาซื้อเค้กกันในร้านกาแฟที่ถูกตกแต่งอย่างดี... บางครั้งโชคชะตาก็เล่นตลกเกินไป จางอี้ชิงที่คิดถึงเพื่อนสนิทตัวเล็กที่เข้าโรงพยาบาลไปเพราะอาการปวดหัวรุนแรงนั้นจึงเลือกมานั่งในร้านที่จุนมยอนชอบ... แต่มันกลับทำให้เขาได้เห็นอะไรที่ดีกว่านั้น...



    ดวงตาที่เคยเปล่งประกายด้วยความร่าเริงนั้นหมองหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะก้มลงสนใจเพียงแต่เค้กตรงหน้า เพื่อหลบภาพอันแสนทำร้ายจิตใจตรงหน้า...



    ...ทั้งๆที่ตั้งใจว่าหลังจากกินเค้กเสร็จแล้วจะซื้อไปฝากจุนมยอนที่โรงพยาบาลแท้ๆ กลับถูกคนคนนั้นตัดหน้าจนได้...



    “อี้ชิง... เป็นอะไรไปรึเปล่า ?” ลู่หานที่ถูกเขาลากมาเป็นเพื่อนนั้นเอ่ยถามขึ้น เขาเห็นเพื่อนตรงหน้านั่งจิ้มเค้กช็อกโกแลตที่แสนชอบนั้นอย่างกำลังคิดอะไรบางอย่างทั้งๆที่ก่อนหน้านี้กลับตักเค้กก้อนนิ่มนี้อย่างอารมณ์ดีแท้ๆ



    “เปล่า... ฉันไม่ไปโรงพยาบาลแล้วนะ”


    “อ้าว... ไม่ไปเยี่ยมจุนมยอนแล้วเหรอ ? งั้นเดี๋ยว...”


    “พรุ่งนี้ก็คงได้เจอนั่นแหละ...” ยังไม่ทันที่ลู่หานจะพูดจบ จางอี้ชิงก็เอ่ยสวนขึ้นอย่างไม่ที่ไม่เคยเป็น ซึ่งมันทำให้คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามอย่างเขานั้นเดาได้เลยว่า อี้ชิงต้องไปรู้อะไรมา ไวเท่าความคิด ลู่หานนั้นหันกลับไปมองตามสายตาของอี้ชิงทันที


    ภาพของคริสที่กอบกุมมือบางไว้หลวมๆในขณะที่เพื่อนของเขานั้นกำลังก้มหน้าก้มตาเลือกเค้ก ไม่ว่าจะมองอย่างไรมันก็ทำให้เขาเข้าใจว่า ทั้งคู่นั้นเป็นอะไรกัน และดูเหมือนว่าลูกค้ากว่าค่อนร้านนั้นกำลังจับจ้องไปที่จุนมยอนกับคริสที่ยังคงไม่รู้ตัวอะไรเสียด้วย...



    “ถ้าเขาดีกันแล้ว... มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?” ลู่หานเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองประเมินคนตรงหน้า... เขาไม่ได้เห็นด้วยกับอี้ชิงทุกอย่างหรอก แต่เพราะไม่อยากให้จุนมยอนต้องเจ็บปวดกับผู้ชายคนนั้นอีก เขาถึงตกลงและยอมเล่นตามแผนของอี้ชิง...



    เพื่อกันคริสออกไป...

    ...และอี้ชิงที่พยายามจะทำให้จุนมยอนถอยห่างจากคริส...

    ไม่ใช่เพราะว่าชอบคริส...

     

    ...แต่เพราะจางอี้ชิงนั้นชอบคิมจุนมยอน...

     

     

    “ไม่.... จุนมยอนจะคบกับคริสไม่ได้...” คิ้วได้รูปขมวดเข้าหากันอย่างทันที... ความขัดแย้งของนิสัยกับหน้าตาของคนตรงหน้าว่าน่ากลัวแล้ว การที่คนตรงหน้ายืนกรานว่าจะทำอะไรสักอย่างนั้น มันยิ่งน่ากลัวกว่าหลายเท่า... เพราะความดื้อรั้นของอี้ชิงนั่นแหละ...



    “ทำไมละ ? จุนมยอนชอบคริสอยู่แล้ว เรื่องนั้นอี้ชิงก็รู้ แล้วเรื่องที่คริสก็ชอบจุนมยอนมาก อี้ชิงก็รู้ดีไม่ใช่รึไง” มือเรียวจับแก้วชานมแน่นเหมือนเพื่อระบายความเจ็บใจ...



    ใช่...เขารู้ดีเลยละว่าคริสรักจุนมยอนขนาดไหน



    ก็ในเมื่อทุกครั้งที่จุนมยอนทิ้งเขาให้อยู่กับคริสเพียงลำพัง คนตัวสูงนั้นเอาแต่พูดถึงแต่เรื่องของเพื่อนตัวเล็กคนนั้น จนเขาอดอิจฉาไม่ได้... อิจฉา...ที่มาช้าไปหลายปี



    ...และยิ่งอิจฉาเข้าไปใหญ่...

    เมื่อรู้ว่า... จุนมยอนนั้นยอมเจ็บแค่ไหนเพื่อทำตามคำขอที่เห็นแก่ตัวของคนคนนั้น

     
     

    เขาอยากเป็นคนคนนั้นของจุนมยอนมาตลอด... ถ้าเพียงแต่จุนมยอนจะมองเห็นมันสักนิด เขาจะไม่มีวันทำให้จุนมยอนเสียใจเด็ดขาด แต่แล้วทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป เมื่อคนคนนั้นก้าวกลับเข้ามาในชีวิตของจุนมยอน...


    จุนมยอนยังยอมเจ็บปวดแสนสาหัสเพื่อคนคนนั้น...

     

     

    จุนมยอนยังรักคริส...

     

     

    “ลู่หาน... ฉันจะบอกกับเขา ว่าฉันรู้สึกยังไง”

     

    บางที...อาจได้เวลาที่จะสะสางเรื่องราวที่คาราคาซังทั้งหมดนี้แล้วก็เป็นได้

     

     




     

    เรือนร่างเล็กเดินนำเข้าห้องไปด้วยใบหน้าที่อมยิ้มไว้น้อยๆ เมื่อเหลือบมองกล่องเค้กสีขาวในมือ จุนมยอนเอามันไปแช่ตู้เย็นก่อนจะหยิบขวดน้ำออกมาเทรินใส่แก้วใสเนื้อดี ตั้งใจจะเอาไปให้คนที่พาตัวเองออกจากโรงพยาบาลที่น่าจะอยู่ที่ห้องนั่งเล่น แต่คริสกลับยืนอยู่เบื้องหลังเขาเสียได้...



    “ขับรถเหนื่อยๆ กินน้ำก่อนไหม?” มือเล็กยืนแก้วให้คนตรงหน้า คริสรับมันมาแล้วยกดื่มแล้วก็ส่งยิ้มกว้าง


    “ชื่นใจจริงๆ แต่คงจะชื่นใจกว่านี้ ถ้าจุนมยอนหอมแก้มให้เป็นรางวัลนะ” เสียงทุ้มว่าพร้อมกับยื่นแก้มลงมาให้คนตัวเล็ก ดวงหน้าหวานขาวแดงระเรื่อขึ้นทันที ก่อนจะหลับหูหลับตากดจมูกลงบนแก้มนั้นอย่างเอาตัวรอด แต่แทนที่คริสจะถอยไป มือหนาวางแก้มลงบนซิงค์ล้างจานก่อนจะรวบตัวเขาเข้าไปกอดอย่างถือวิสาสะ...



    “ปะ...ปล่อยเลยนะ...” จุนมยอนว่าพร้อมกับพยายามดันคนตัวสูงให้ออกห่าง... แต่มีหรือที่คนตัวเล็กอย่างเขาจะไปสู้คนตัวสูงดีกรีลูกครึ่งอย่างคริสได้ละ ตัวอย่างกับยักษ์...



    “รู้ไหมว่าไม่ได้อยากใจร้ายใส่เลย... แต่จุนมยอนคิดไปเองตลอดเลยนะ ว่าฉันฝากไปให้อี้ชิงน่ะ” จุนมยอนเบี่ยงหน้าหนีสายตาที่มองมาก่อนจะค่อยๆยกแขนขึ้นกอดคนตัวสูงตอบ...


    “ไม่หรอก... คริสไม่ได้ใจร้ายเลย... เราเอง...ที่ใจร้าย” เสียงอู้อี้ดังขึ้นทำให้คริสอดยิ้มไม่ได้... เขาแค่อยากกอด อยากหอม อยากแสดงให้จุนมยอนรู้ว่าเขารักแค่จุนมยอนเท่านั้น แต่ว่าเพราะความทรงจำบางส่วนของจุนมยอนหายไปเพราะอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน ทำให้เขาได้เจอกับจุนมยอนในสภาพที่จำอะไรเกี่ยวกับเรื่องราวก่อนที่เขาจะบินไปจีนไม่ได้เลยสักนิด...


    มันอาจจะเป็นความทรงจำที่สำคัญมาก... คุณหมอบอกแบบนั้น และเขาก็หวังให้มันเป็นแบบนั้น แล้วมันก็สำคัญมากๆสำหรับจุนมยอนจริงๆ



    “ถ้าคราวนี้ฉันขอคบ... จะไล่ฉันให้ไปชอบคนอื่นอีกไหม?” จุนมยอนเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูงก่อนจะส่ายหน้าไปมา ริมฝีปากล่างเชิดขึ้นพร้อมกับเอ่ยขอโทษอีกครั้ง ซึ่งคริสคิดว่ามันดูน่าจูบมากกว่าน่าสงสาร คนตัวสูงโน้นตัวลงตั้งใจจะกดจูบลงบนกลีบปากบางนั้นแต่ก็โดนมือเล็กดันหน้าเสียอย่างนั้น จุนมยอนมองค้อนคนคิดจะฉวยโอกาสอย่างสม่ำเสมอ ก่อนจะปิดเปลือกตาลงแล้วซบลงบนอ้อมอกแกร่งของคริส...



    “ขออยู่แบบนี้สักพักได้ไหม....”



    “ได้สิ...” คริสโอบกอดคนตัวเล็กแน่นกว่าเดิมแล้วอิงหน้ากับศีรษะเล็กอย่างผ่อนคลาย... แค่กอดกัน แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว... แล้วยิ่งจุนมยอนเป็นคนขอให้กอดด้วย... มีเหรอที่เขาจะไม่ให้...



    แต่คนทั้งคู่กอดกันได้ไม่นานก็ต้องผละออกเมื่อเสียงโทรศัพท์ของร่างเล็กนั้นดังขึ้น... ดวงตาคมลอบมองตามร่างเล็กที่เดินไปหยิบโทรศัพท์เครื่องบางในกระเป๋าขึ้นก่อนจะกดรับอย่างอารมณ์ดีแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้... แต่ชื่อของคนที่หลุดออกจากปากของจุนมยอนนี่แหละ ทำให้คริสหน้าเปลี่ยนสีไปทันที...



    “เหมือนรู้ว่าเราออกจากโรงพยาบาลเลยนะ...อี้ชิง

     

    ไม่ใช่ลู่หานที่คริสกลัว... แต่เป็นจางอี้ชิง

     
     

    จุนมยอนเหลือบมองปฏิกิริยาของร่างสูงเป็นระยะ... ใบหน้าหล่อเหลาที่มีแววกังวลอยู่ไม่น้อยนั้นทำให้เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร ว่าทำไมคริสถึงต้องดูกังวลมากขนาดนั้น ในเมื่อเขาคุยกับอี้ชิง... ไม่ใช่ลู่หานซะหน่อย หรือว่าคริสจะกำลังหวงอี้ชิงกันนะ...



    “มีเรื่องจะคุย ? อ่อ...ได้สิ แล้วเจอกันฉันจะรอนะ” จุนมยอนตอบตกลงไปพร้อมกับหันไปมองหน้าคริสแบบตรงๆ รอยยิ้มสวยงามที่เคยมอบให้ก่อนหน้านี้นั้นมลายหายไป พร้อมกับดวงตาคู่สวยนั้นที่หม่นแสนลงอีกครา...


    มือบางกำมือถือเครื่องบางแน่นหลังจากที่วางสายจากเพื่อนสนิทแล้ว แต่ดวงตาคู่สวยนั้นยังคงจับจ้องไปยังใบหน้าหล่อเหลาที่มีความไม่พอใจแฝงอยู่อย่างชัดเจน


    “อี้ชิงบอกว่าอยากคุยด้วย... เรื่องของคริส”


    “.....”


    “ฉันควรจะไปทำให้มันจบลง... ถ้าอี้ชิงชอบคริส คริสก็สมหวังแล้วนะ” เสียงหวานแสนสั่นเทานั้นทำให้คนตัวสูงรู้สึกเหมือนกับมีมือที่มองไม่เห็นนั้นบีบแน่นในอกของเขา... ความสุขเพียงน้อยนิดที่เพิ่งจะได้รับ...


    ...มลายหายลับไปกับตา...


    “จะสมหวังได้ไง... คนที่ฉันชอบมีแต่จุนมยอนมาตลอด... และฉันมั่นใจ ว่าอี้ชิงไม่ได้ชอบฉัน” คนตัวสูงว่าด้วยเสียงหนักแน่นและแสนมั่นใจ ก่อนจะคว้าร่างเล็กนั้นเข้ามากอดแน่นแนบอก...

     

     

     

    ...อะไรบางอย่างกำลังร้องเตือนเขาว่าไม่ควรปล่อยให้จุนมยอนไปคนเดียว...

    เพราะถ้าหากเขาปล่อยจุนมยอนไปคนเดียว... เขาอาจจะเสียใจมากกว่านี้ก็เป็นได้...

     






     

     TBC



    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 

    ***แอบชอบ เดอะ ซีรี่ย์ เปิดจองแล้วนะคะ *3*/ สนใจอ่านรายละเอียดได้ที่ >>>> http://my.dek-d.com/masis/writer/viewlongc.php?id=890873&chapter=41 



    มาแล้วกับตอนที่สี่ค่าาาาา เหลืออีกไม่กี่ตอน เราจะให้เขาหวานกันแล้วนะะะ 5555555555555555 
    คือเขียนนานมากตอนนี้ คือสองอาทิตย์ได้(?) ตอนนี้โบว์เปิดเทอมแล้วค่า งานเยอะมาก อยากอู้มาก 
    แต่ทำไม่ได้เพราะงานกลุ่มหมดเบบ แง้ๆ 

    เออใช่!! มีใครที่จองมาแล้วยังไม่ได้เมลแจ้งวิธีการโอนเงินบ้างไหมคะ?? ถ้ามีเม้นบอกได้เลยนะคะ เดี๋ยวโบว์จะได้อัพบัญชีไว้ที่หน้าวิธีการจองเลยย 

    สำหรับตารางเช็กสถานะการจอง ขอระยะเวลาอีกหน่อยยย ยังไม่ว่าเคลียร์เลย TT

    แล้วก่อน เนื้อเรื่องหลังเราจะลงที่นี่ครบทุกตอนนะคะ แต่ตอนจบอาจจะอิ๊บ(?)ไปลงเล่มก่อน แล้วจิมาอัพให้หลังส่งเล่มแล้ววว 
    อยากให้พิเศษสำหรับคนที่ซื้อนิดนึงง ;3; 

    มีำคำถามอะไร สอบถามได้ที่ทวิตเตอร์ >>> @Rerenela ได้ตลอดเวลานะคะ 

    ขอบคุณค่าา 


    ปล. หากสครีมฟิคเรื่องนี้ในทวิตเตอร์อย่าลืมติดแทก #แอบชอบKH ด้วยนะคะ *O*



     

    Rasp Free Theme dek-d By i'nutberry
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×