ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] .:::THE MELODY OF LOVE:::. BY SOULINA

    ลำดับตอนที่ #37 : [Kris x Suho] แอบชอบ เดอะ ซีรี่ย์ - Another case - II -

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 472
      3
      17 ต.ค. 56

     

    ๒.

     

    ความฝันยามเด็ก... ช่างเป็นอะไรที่สวยงาม

    ภาพของเด็กตัวสูงที่กำลังแกล้งเขาสารพัดช่างพร่ามัว...

     

     

    ...อยู่ที่ไหนกันนะ...

    คนคนนั้นที่แสนดี...

     



     

    เปลือกตาบางเปิดออกขึ้นก่อนที่หยาดน้ำตาเม็ดโตจะไหลออกจากหางตา... เรื่องราววัยเด็กที่แสนสวยงามนั้นกลับมาย้ำเตือนเขาอีกครั้ง... ว่าในปัจจุบันนี้ไม่มีอีกแล้วคนใจดีคนนั้น..



    จุนมยอนปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด... ความเหนื่อยล้าจากเหตุการณ์เมื่อวานยังคงไม่หายไป ร่องรอยความเหนื่อยอ่อนนั้นยังคงฉายชัดบนใบหน้าหวานขาวนี้... เขาทิ้งตัวลงกับหมอนนุ่มอีกครั้งก่อนจะปิดเปลือกตาลงอีกหน...



    ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาร้องไห้แล้วตื่นมากลางดึกอย่างนี้...

    อย่างน้อยๆ ในรอบสามเดือนหลังจากที่คริสขอร้องเขามันก็เป็นรอบที่สามแล้ว...

     

    คริส... อู๋อี้ฟานแสนใจดีคนนั้นหายไปไหนเหรอ...

    เขาคนนั้นไม่เคยแม้แต่จะว่าฉันด้วยซ้ำ...

    ...นายทำคนคนนั้นหายไปไหนแล้วเหรอ...

     

     

    เรือนร่างเล็กในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวรับเข้ากับกางเกงสแล็คสีดำนั้นกำลังเดินออกจากคอนโดอย่างเร่งรีบ... เพราะว่าการตื่นขึ้นมากลางดึกนั่นแหละทำให้เขาตื่นสายในตอนเช้าอย่างไม่เคยเป็น... ดวงตากลมโตเสมองนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง พร้อมกับเร่งฝีเท้ายิ่งกว่าเดิม แต่กลับมีมือปริศนาคว้าท่อนแขนของเขาไว้เสียอย่างนั้น



    “ขึ้นรถ” เสียงทุ้มของคนที่ฝันถึงเมื่อคืนดังนั้น พร้อมกับแรงกระชากที่บังคับให้เดินตาม... จุนมยอนมองเลยไปยังรถคันหรูของคริส ก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้งอย่างเหนื่อยใจ...



    ..ก็คงจะมีอะไรฝากไปให้กับอี้ชิงอีกนั่นแหละ...



    หลังจากที่เขายอมขึ้นรถไปกับคริสดีๆ คนตัวสูงก็ไม่ได้พูดอะไรเลยนอกจากส่งถุงที่ใส่ขนมปังกับนมไว้มาให้เขา อย่างที่จุนมยอนคิดไว้ไม่มีผิดเลยสักนิด...



    ถ้าไม่ใช่เพราะจะฝากของไปให้อี้ชิงละก็... คงไม่ยอมใจดีให้เขาติดรถไปลงที่มหาลัยด้วยหรอก...



    พอคิดได้ดังนั้นความน้อยเนื้อต่ำใจก็ถาโถมเข้าสู่หัวใจดวงน้อยที่เริ่มบอบช้ำ... ริมฝีปากสีสวยนั้นขบเม้มแน่นแทบจะเป็นเส้นตรงอย่างอดกลั้น พยายามเหลือบตาขึ้นข้างบนหลายครั้งเพื่อที่จะไม่ให้น้ำตาเม็ดโตไหลรินลงมาให้คริสเห็น...



    แต่ทำไม... มันยากแบบนี้นะ...

    แล้วความปวดหนึบในอกนี้มันคืออะไรกัน...

     

     จุนมยอนไม่รู้หรอกว่า คริสจอดรถตั้งแต่เมื่อไร ไม่รู้หรอกว่ามือหนานั้นเอื้อมมาดึงเขาเข้าไปกอดตั้งแต่ตอนไหน จุนมยอนรู้แค่ว่า ความอ่อนโยนที่คริสพยายามแสดงออกมานี้ ยิ่งทำมากเท่าไร มันก็ยิ่งทำให้เขาเจ็บปวดมากเท่านั้น... ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่เขาเป็นเพื่อนกับอี้ชิง... คนที่คริสแอบชอบอยู่...

     

     

    ...นี่คริส... ถ้าวันนั้นฉันกล้าที่จะบอกนายไป...

    นายจะยังมาขอร้องฉันอยู่อีกไหม...

     

     

     

    “ทำไมต้องร้องไห้ด้วย...ไม่เข้าใจเลย...” เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบ พร้อมกับมือหนาที่ลูบกลุ่มผมนุ่มของจุนมยอนเบาๆ คนตัวเล็กปิดเปลือกตาแน่น ปฏิเสธทุกเหตุผลที่บอกว่า คริสกำลังเป็นห่วงตนอยู่ มันจะเป็นไปได้ยังไง ให้เมื่อคริสกลายเป็นคนใจร้ายไปแล้ว...



    ...ใจร้ายมากๆเลยด้วย...



    เปลือกตาบางปิดลงปล่อยให้น้ำตาเม็ดโตนั้นไหลลงอาบแก้ม... มือเล็กแสนสั่นเทายกขึ้นดันหัวไหล่หนาให้ออกห่างก่อนจะยกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ ตากลมมองออกไปนอกรถ เมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนแล้ว มือเล็กก็ก้าวลงจากรถไปพร้อมกับเอ่ยรับปากกับเพื่อนสมัยเด็กทันที



    “ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เดี๋ยวเราเอาไปให้อี้ชิงให้ คริสไปเรียนเถอะ เดี๋ยวสาย”

     



     

    ตาคมมองตามแผ่นหลังเล็กที่เดินลงไปนั้นด้วยสายตาที่อ่านยาก... จุนมยอนเปลี่ยนไปมาก... มากเสียจนบางครั้งเขารู้สึกว่าไม่รู้จักคนคนนี้เลยสักนิด... จุนมยอนที่เคยอ่อนโยนและยิ้มแย้ม...



    หายไปไหนกันนะ...

     


     

    “คริสฝากมาให้” เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับถุงขนมปังกับนมที่ได้รับมานั้นวางลงบนโต๊ะของเพื่อนชาวจีนที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเตรียมบทเรียนอยู่... ดวงหน้าเรียวหวานเงยขึ้นมองสบตาเขา เป็นจุนมยอนที่เบือนหน้าหลบสายตาที่มองมาก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆแล้วฟุ่บหน้าลงกับท่อนแขนอย่างหมดแรง



    “จุนมายอน... เป็นอะไร?” คนข้างๆเอ่ยชื่อเขายานๆพร้อมกับเรียวนิ้วที่สะกิดที่ต้นแขน... เขาทำได้แค่เพียงส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร แต่น้ำตาเม็ดโตกลับไหลไม่หยุดซะอย่างนั้น...



    อี้ชิงมองเพื่อนสนิทตัวเองที่ยังคงฟุ่บหน้าลงกับแขนแล้วสะอื้นจนตัวโยนอย่างทำอะไรไม่ถูก ก่อนที่สายตาคู่สวยจะเหลือบไปเห็นเพื่อนชาวจีนอีกคนที่เดินเข้ามาในห้อง



    “ลู่หานนนนนน~ จุนมยอนเป็นอะไรก็ไม่รู้ ช่วยหน่อยสิ” เมื่อได้ยินชื่อคนที่กำลังแอบชอบอยู่ ลู่หานก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาเพื่อนชาวจีนทันที... มือหนาวางมือลงบนไหล่เล็กของคนที่กำลังฟุ่บอยู่กับโต๊ะ ก่อนจะดึงคนที่น้ำตานองหน้าขึ้นแล้วลากออกไปนอกห้อง



    ระหว่างทางเดินนั้น ข้อมือเล็กถูกเกาะกุมด้วยมือใหญ่ของลู่หานอยู่ไม่ตลอด... ตากลมมองไล่ไปถึงใบหน้าเจ้าของมือนั้นแล้วก็ต้องหลุดยิ้มออกมาอย่างไร้สาเหตุ... ลู่หานเป็นห่วงเขามากกว่าคนที่ทำให้เป็นแบบนี้ด้วยซ้ำ...



    ใช่ว่าจุนมยอนไม่รู้ว่าลู่หานคิดยังไงกับตน... เพราะอี้ชิงนั้นทั้งเชียร์ทั้งชงสารพัด

    แต่ก็เป็นเขา... ที่ยังทำเป็นไม่สนใจ

     

    ...เพราะถ้าหากไม่ได้ชอบก็ไม่ควรให้ความหวังอะไรกันไม่ใช่เหรอ...



    “ขอบคุณ...” หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เสียงหวานก็เอ่ยขอบคุณขึ้น จนทำให้คนที่พามานั้นมีสีหน้าที่กังวลน้อยลง... มือหนาของคนที่ยืนพิงเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเอื้อมมาแนบแก้มของเขา ก่อนที่นิ้วเรียวจะป้ายเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาอีกครั้ง



    “เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า..”



    “เปล่า... ลู่หานไม่เหนื่อยเหรอ?” จุนมยอนไม่ตอบคำถามนั้น... ซ้ำยังถามกลับ มือบางเย็นเฉียบยกขึ้นกุมมือหนาที่แนบแก้มของตนไว้หลวมๆ พร้อมกับจ้องมองไปที่ดวงตาคู่คมที่มองมา...



    ลู่หานส่ายหน้า พร้อมกับขยับเดินเข้าใกล้เขามากกว่าเดิม... ก่อนจะโอบกอดร่างกายของเขาไว้หลวมๆ “ไม่เหนื่อยหรอก... เพราะฉันชอบจุนมยอนจริงๆ แต่การที่จุนมยอนร้องไห้เพราะอะไรไม่รู้แบบนี้ ทำให้ฉันเหนื่อยคิดมากกว่านะ...”




    “ขอโทษ...” ลู่หานส่ายหน้ากับคำขอโทษนั้นก่อนจะกอดร่างเล็กนั้นแน่นกว่าเดิม... ขอแค่เป็นคนปลอบยามที่ร้องไห้อยู่แบบนี้เขาก็พอใจแล้ว...



    “อย่าขอโทษเลย... ฉันยังไม่ถือว่าจุนมยอนปฏิเสธหรอกนะ ฉันรอจุนมยอนเสมอ”

     

    ...ขอโทษนะลู่หาน...

     

     

    หลังจากร้องไห้จนพอใจแล้ว จุนมยอนก็เดินกลับไปที่ห้องบรรยายพร้อมกับลู่หาน มือหนาของเพื่อนชาวจีนของอี้ชิงนั้นยังคงไม่ปล่อยจากมือเขาเลยสักนิด และจุนมยอนก็ไม่ได้ท้วงหรืออะไรด้วย...



    แต่แล้วดวงตาคู่โตก็เหลือบไปเห็น...

     

     

    คนคนนั้นกำลังนั่งอยู่หน้าห้องแลกเชอร์ที่เขากำลังจะเข้าไปเรียน... เหมือนลู่หานจะรู้ว่าใครเป็นต้นเหตุทำให้เขาเป็นแบบนี้มือหนากระชับมือของเขาแน่น และทั้งทีที่เห็นจุนมยอน คริสก็ลุกขึ้นหมายจะเดินเข้ามาหา แต่เมื่อมองเห็นมือบางที่เกาะกุมอยู่กับอีกคน ก็ต้องชะงัก... ดวงตาคู่คมที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงนั้นหายไปทันที...



    จุนมยอนเบือนหน้าหนีแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นคนตัวสูงก่อนจะเดินผ่านไป เหมือนคนไม่รู้จักกัน...

     

    ...เหนื่อยมามากพอแล้วกับคนคนนี้...

    ...เหนื่อยเกินจะทนต่อไปไหว...

     

    แต่คริสคงไม่ได้ตั้งใจจะมาหาเขาหรอก...เชื่อสิ



    “จุนมยอน...” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเขา ก่อนที่เรียวขาเล็กจะหยุดก้าวพร้อมกับดวงหน้าหวานที่แสนซีดเซียวนั้นหันกลับไปมองคนเรียก... ดวงตาคู่สวยที่เคยเปล่งประกายนั้นหม่นแสงเสียจนคนที่เป็นต้นเหตุนั้นต้องใจหาย...



    “มีอะไรจะฝากให้อี้ชิงเหรอคริส?” เสียงหวานเอ่ยสวนขึ้นทันทีที่คริสก้าวเข้ามาใกล้... มือบางข้างหนึ่งนั้นจับมือหนาของลู่หานที่ยืนอยู่ข้างๆแน่นอย่าหาที่พึ่ง...



    คนถูกถามชะงักไปทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น... ไม่มีอยู่แล้วจริงๆเหรอ จุนมยอนที่เขารู้จัก...



    “กลางวันฉันว่าจะชวนไปกินข้าวน่ะ...” เสียงทุ้มเอ่ยออกไปพร้อมกับรอยยิ้มบางๆของเจ้าตัวเหมือนทุกครั้ง จุนมยอนพยายามเหยียดยิ้มให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนจะพยักหน้ารับ แล้วตอบออกไป



    “เดี๋ยวเราบอกอี้ชิงให้” ร่างเล็กหันกลับแล้วออกเดินนำลู่หานที่ยังคงยืนจ้องคริสด้วยใบหน้าที่เขาสัมผัสได้ถึงความน่ากลัว เมื่อคนตัวสูงกว่ายังไม่ยอมก้าวเดินตาม จุนมยอนจึงหยุดเดินแล้วหันกลับมาหาคนทั้งคู่



    “นายเปลี่ยนไปมากนะ” ลู่หานเลือกใช้ภาษาจีนในการสื่อสารกับคนตรงหน้า ถึงเขาจะรู้ว่าจุนมยอนจะเคยเรียนภาษาจีนมาอยู่บ้าง แต่มันก็เมื่อหลายปีมาแล้ว ตอนนี้ก็ไม่น่าจะจำได้เท่าไร...



    “คิดอย่างนั้นเหรอ...” คริสถามกลับแล้วมองเลยไปยังคนตัวเล็กที่อยู่หลังลู่หานที่มีท่าทางไม่เข้าใจอย่างเห็นได้ชัด แล้วจึงเอ่ยต่อ “แต่กับเขาฉันยังไม่เหมือนเดิม”



    “หึ...อย่างนั้นเหรอ” ลู่หานยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะหมุนกายหันไปส่งยิ้มให้กับจุนมยอนแล้วแล้วเดินเข้าห้องเรียนไป โดยที่ฝ่ามือหนาคู่นั้นยังคงกอบกุมมือบางของจุนมยอนอยู่ไม่ปล่อย...

     

    ...แค่ได้ปลอบประโลมจุนมยอนยามร้องไห้...

    ...เขาก็พอใจแล้วจริงๆ...

     


     

    หลังจากเดินเข้ามาในห้องเรียนแล้ว จุนมยอนก็ส่งยิ้มให้แหยๆให้กับอี้ชิงที่ใบหน้านั้นแฝงไปด้วยความกังวลอย่างปกปิดไม่มิด...ก่อนจะต้องรีบปล่อยมือออกเมื่อดวงตาของเพื่อนสนิทชาวจีนนั้นมองที่มือของเขาที่ยังคงกอบกุมกับลู่หานอยู่...



    “เอ่อ... อี้ชิง... คริสชวนไปกินข้าวกลางวันด้วยน่ะ” เสียงเอ่ยพร้อมกับนั่งลงข้างๆ ด้วยใบหน้าฝืนยิ้ม...



    “อีกแล้วเหรอ... ขอบคุณนะจุนมยอน” จุนมยอนยกยิ้มบางๆให้ ก่อนจะหันไปสนใจอาจารย์ประจำวิชาที่เดินเข้าห้องมาพอดี ก่อนจะต้องสะดุ้งเมื่อมือหนาของคนข้างๆนั้นวางลงที่ไหล่ของตน จุนมยอนหันไปยิ้มให้เป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไรจริงๆ ก่อนจะหันไปสนใจอาจารย์ประจำวิชาที่เริ่มสอนแล้ว...

     

    ...เพราะความสุขของคนที่รัก....

    ก็คือความสุขของเขาเหมือนกัน...

     

    ...แต่คนคนนั้นใจร้ายขนาดนั้น...

    ความสุขของคนคนนั้น...กลับกลายเป็นความทุกข์ของเขาสินะ...

     

     

    ....คริส....

    คนใจร้าย...

     

     

     

    หลังเลิกเรียนจุนมยอนก็ขอตัวแยกกับอี้ชิงและลู่หานเพื่อไปหาหนังสือทำรายงานที่ห้องสมุดคนเดียวทันที... จุนมยอนไม่อยากรบกวนลู่หานมากไปกว่านี้ เพราะการรบกวนลู่หานนั้นก็ไม่ต่างจากคริสที่ใจร้ายกับเขาเลยสักนิด...

    ...ไม่มีใจก็อย่าให้ความหวัง...

     

    แต่ดูเหมือนกว่าจะหาหนังสือได้เวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบสี่โมงแล้ว... คนตัวเล็กยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูก่อนจะถอนหายใจออกมายาวเหยียด... ดูเหมือนวันนี้เขาจะถอนหายใจไปหลายรอบเสียจนแก่ขึ้นไปกี่ปีก็ไม่รู้...


    แต่มาคิดๆดูมันก็เหนื่อยมากเกินไปจริงๆ



    บางทีถ้าเขาไม่เจอคริสอีกครั้ง มันก็คงไม่เหนื่อยขนาดนี้ ถึงจะอยากเจอขนาดไหน แต่พอกลับมาเจอแล้วกลับได้ยินว่าคริสชอบอีกคน มันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก...


    ...ถ้าคริสจะไม่ใจร้ายกับเขา...

    โดยการบอกให้เขาช่วยจีบอี้ชิงด้วยก็ตาม...

     



     

    ร่างเล็กยกยิ้มสมเพชให้กับตัวเองที่อ่อนแออีกครั้ง ก่อนจะหอบหิ้วหนังสือเล่มหนาเดินลงไปยังเคาน์เตอร์ยืม-คืนหนังสือ แล้วเดินออกจากหอสมุดไป...


    ท้องฟ้ายามนี้นั้นเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว... ฟ้าสีส้มแสนโรแมนติกแล้วยิ่งเศษใบไม้ที่ปลิวหลุดลอยจากต้นไม้ทั้งหลายนั้นลอยลิ่วล้อเล่นกับสายลมที่พัดเอื่อยๆนั้นยิ่งทำให้จุนมยอนยิ้มได้มากกว่าเดิม... ธรรมชาติคือสิ่งที่ปลอบประโลมเขาได้เสมอ... ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้สายลมหรือแสงแดด เพราะมีสิ่งเหล่านี้อยู่ โลกมนุษย์เราถึงอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้... ทุกๆอย่างต่างเพิ่งพาและอาศัยซึ่งกันและกันในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ เพราะแบบนั้นมนุษย์เราก็เลยต้องอยู่กันอย่างพึ่งพา...


    ในขณะที่ปล่อยความคิดไปไกลแสนไกล และเดินกลับคอนโดที่อยู่ห่างจากหอสมุดไม่ไกลมากนัก จุนมยอนก็ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ากำลังมีใครอีกคนเดินตามตนมาอย่างเงียบๆ ดวงหน้าหวานนั้นมองไปตามแมกไม้สีน้ำตาลแก่อย่างเป็นสุข และเมื่อมาถึงคอนโดของตนจุนมยอนก็หยิบยกคีย์การ์ดขึ้นแนบกับเซนเซอร์และแทรกตัวระหว่างช่องว่างระหว่างประตูที่เปิดออก... เมื่อหันมาตั้งใจจะปิดประตูก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นร่างสูงของคนที่ไม่อยากเจอที่สุดนั้นกำลังยืนหน้านิ่งอยู่...


    มือบางดึงประตูให้เปิดออกกว้างกว่าเดิม เพื่อให้คริสเดินเข้ามา... ร่างสูงที่ก้าวเข้ามาแล้วก็ไม่พูดอะไรอีกเลย.. เขาทำได้แต่เพียงหันหลังแล้วเดินขึ้นลิฟต์ไปโดยมีคนตัวสูงนั้นเป็นเพื่อนร่วมทางไปด้วย...



    และเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกในชั้นที่เขาอยู่ ขาเรียวก็ก้าวออกไปพร้อมกับส่งยิ้มให้กับคนยืนอยู่ข้างๆ เพราะห้องของคริสอยู่ข้างบน  แต่คนตัวสูงกับก้าวลงจากลิฟต์พร้อมกับเขาเสียอย่างนั้น



    “มาหาคุณป้าเหรอ?” เสียงหวานเอ่ยถามในขณะที่ก้าวเดินไปยังห้องในสุด และเมื่อยังเห็นว่าคนตัวสูงกว่าไม่ตอบอะไร เขาจึงเอ่ยต่อ “แม่ฉันบินไปดูงานต่างประเทศนะ ไม่มีคนอยู่หรอก” ว่าเสร็จก็เดินมาถึงหน้าห้องพอดี มือบางหยิบยกกุญแจขึ้นมาไข ก่อนจะเดินนำคนตัวสูงเข้าไปในบ้าน



    ยังไม่ทันได้เปิดไฟหรือวางกระเป๋าสักนิด... อ้อมแขนแกร่งก็โอบกอดจากด้านหลังบางเบา จนจุนมยอนตกใจ...



    “คริส...” จุนมยอนครางเรียกชื่อคนข้างหลังเบาหวิว ก่อนจะค่อยๆปล่อยกระเป๋าลงกับพื้น มือบางยกขึ้นแกะมือหนาที่อยู่ที่เอว แต่คนตัวสูงกลับยิ่งกระชับอ้อมแขนแน่นกว่าเดิม...


    “ไม่ยอมหรอกนะ...” เสียงทุ้มเอ่ยเสียงเบาพร้อมกับจมูกโด่งได้รูปนั้นกดลงบนลาดไปบาง จุนมยอนดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของคริส ก่อนที่จะถูกบังคับให้หันหน้ามาเผชิญกับคนตัวสูง... คริสดันคนตัวเล็กติดกับประตูห้องก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นจะซุกลงกับไหลเล็ก



    “ยังไงฉันก็ไม่ยอม...ให้จุนมยอนกับใครหรอก...” เสียงทุ้มเอ่ยบางเบาก่อนที่คริสจะเลื่อนใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกันกับดวงหน้าหวานที่ขาวซีดอย่างตกใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น... “จุนมยอนชอบฉันไม่ใช่เหรอ... ฉันไม่ยอมให้จุนมยอนไปชอบคนอื่นหรอกนะ...”



    “...ใจร้าย...”



    “จุนมยอนใจร้ายกว่านะ... จุนมยอนไม่อยากเห็นคนที่จุนมยอนชอบมีความสุขเหรอ... ทำไมจุนมยอนไม่ช่วยฉันกับอี้ชิงละ...” น้ำตาเม็ดโตของคนตัวขาวไหลลงอาบแก้ม... ไร้เสียงสะอื้นใดๆ หากแต่คริสก็ยังไม่ยอมปล่อยคนตัวเล็กให้เป็นอิสระ...



    “หรือจุนมยอนไม่ได้ชอบฉันจริงๆ แต่ชอบไอ้ลู่หานนั่นใช่ไหม...” ร่างบางส่ายหน้าปฏิเสธรัวก่อนที่ข้อมือเล็กจะพยายามบิดออกจากการเกาะกุม ดวงตาคู่สวยที่เคยเปล่งประกายนั้นหม่นแสงและเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา เสียงสะอื้นเล็กๆที่หลุดรอดออกจากริมฝีปากบางนั้นทำให้คริสตกใจไม่น้อยก็จริง แต่ก็ยังคงไม่ยอมปล่อยร่างบางนี้ให้เป็นอิสระ...


    จุนมยอนช้อนตามองคนใจร้ายผ่านม่านน้ำตาก่อนจะเมินสายตาคู่คมที่มองมา...


    “ปล่อยเถอะ... ฉันบอกอี้ชิงแล้ว ถ้าอี้ชิงไม่ไปกินข้าวกับนาย มันก็ไม่เกี่ยวกับฉันไม่ใช่เหรอ” เขาพยายามพูดให้เป็นปกติที่สุด... แต่มันไม่ง่ายเลยสักนิด...


    “งั้นก็แปลว่าจุนมยอนที่น่ารักของฉันต้องพยายามมากกว่านี้ไง...”



    “ปล่อยเถอะ... พอเถอะคริส...ฉะ....” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ปากหนาร้อนรุ่มก็กดแทบทับกลีบปากบางของเขาด้วยความรุนแรงและเรียกร้อง จูบร้อนรุนแรงที่คริสมอบให้นั้นยิ่งทำให้น้ำตาเม็ดโตไหลรินออกจากนัยน์ตาคู่สวยครั้งแล้วครั้งเล่า...

     

     

    คริสถอนจูบออกมาอย่างอ้อยอิงเมื่อคนตัวเล็กนั้นกำสาบเสื้อเขาแน่น ปากชื้นไล่กดจูบไปทั่วใบหน้าขาว และหยุดลงที่เปลือกตาสีมุกทั้งสองข้างแล้วคว้าจุนมยอนเข้ามากอดแน่น...

     

     

    “จุนมยอนเป็นของฉันนะ... ถ้าฉันเห็นว่าจุนมยอนไปยุ่งกะลู่หานอีก... ฉันจะไม่ทำแค่จูบนะ... เข้าใจใช่ไหมคนน่ารักของฉัน”

     

     

    ...คริสคนใจร้าย...

    ...ถ้าหากนายไม่ได้ชอบฉัน... ทำไมถึงไม่ปล่อยให้ฉันไปกับคนอื่นละ...

    ...ฉันไม่เข้าใจนายเลยสักนิด...

     

     

     

     

     
    TBC.




    ***ขอความกรุณาให้ผู้ที่ชื่นชอบฟิคชั่นเรื่องนี้เข้าไปทำแบบสอบถามอันนี้หน่อยนะคะ *จิ้ม****




    มาแล้วค่าาา เอาตอนที่สองมาลงแล้วว TT v TT แต่บั่บบบ แฟร์รี่ยังไม่จบเลยง่ะะ กำลังปั่นๆอยู่นะคะ แงงงง 
    มาพูดถึงตอนนี้กันดีกว่า... 

    เรารู้ว่าแต่ละคนกำลังถีดมือจะไปจ้วงพี่คริสนะะะ แต่ใจเย็นๆกันก่อนนนน ยังมีอะไรที่น่าจ้วงมากกว่านี้อีกค่ะะ ค่อยๆจ้วงไปเนอะ ฮือออ 
    จริงจังว่าติดใจการเขียนดราม่า(ซึ่งไม่รู้ว่าคนอ่านจะดราม่าด้วยไหม) คือโบว์อยากรู้ว่าฟีลตอนอ่านนั้นเป็นอย่างไรอ่าค่ะ ยังไงก็บอกกันได้นะคะ 

    สามารถสครีมในทวิตเตอร์โดยติดแท็ก #แอบชอบKH ได้เหมือนกันเลยน้าา แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ *กอดเรียงคน >< 



     

    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×