ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] .:::THE MELODY OF LOVE:::. BY SOULINA

    ลำดับตอนที่ #19 : [KAI X SUHO] "HAPPY BIRTHDAY" [END]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 718
      1
      22 พ.ค. 56




    HAPPY BIRTHDAY OUR SUHO 
    KAIHO SHORT FICTION BY SOLINA







    NOTE ::: 
    ลงฉากที่หายไปหมดแล้วนะคะ เพราะมีคนบอกว่าโหลดไม่ได้ T - T 
    มันนิดหน่อยคงไม่เป็นไรเนอะ ?? 

     

     

     


    Thank you for all the love you always give to me

    I love U.. 






    ♥♥♥♥




     


    วันเกิด...

     

     
    บางคนอาจจะอยากได้ของดีมีราคา...
    แต่สำหรับผม... ไม่ว่าเขาจะให้อะไร...

     
    มันก็มีค่าสำหรับผมเสมอ

     

     

     

     

    ร่างบางในเสื้อเชิ้ตสีอ่อนตัดกับกางเกงสีดำแสนดูดีนั้นกำลังแย้มยิ้มให้กับผู้คนมากมาย... แสงสปอร์ตไลท์สาดส่องมายังเจ้าตัว ทำให้คนที่อยู่ใต้ไฟนี้ยิ่งเปล่งประกายมากขึ้น ดวงตากลมโตสีดำสนิทนั้นพราวระยับอย่างดีใจ มือบางข้างหนึ่งถือไมค์พร้อมกับโอบกอดช่อกุหลาบหลากสีไว้แน่น ในขณะที่อีกมือหนึ่งยกขึ้นโบกไปมาอย่างร่าเริง...

     

     

    “ขอบคุณมากเลยนะครับที่มาดูการแสดงของผมในวันนี้ ขอบคุณจริงๆ ผมดีใจมากที่มีพวกคุณในวันนี้ ขอบคุณมากจริงๆครับ รักทุกคนนะครับ” ดาราหนุ่มเอ่ยอีกครั้งก่อนจะโค้งตัวให้กับแฟนคลับมากมายตรงหน้าเขา รอยยิ้มบางที่ประดับอยู่บนดวงหน้าขาวที่ถูกห้อมล้อมด้วยเส้นไหมสีแดงเข้มที่ถูกช่างทำผมนั้นจัดทรงให้อย่างดีนั้นเป็นที่รักใคร่ของแฟนคลับทั้งหลาย รวมไปถึงทีมงานทั้งหลายรวมถึงนักร้องคนอื่นที่เขาได้ร่วมงานด้วย

     

     

    เพราะซูโฮเป็นคนมีความรับผิดชอบ นิสัยน่ารัก และรู้จักสัมมาคารวะ จึงทำให้ทุกคนที่ได้ทำงานร่วมกับคนนี้ต่างปลื้มไปตามกัน... รอยยิ้มที่จะมีบนใบหน้านั้นเสมอยามเจอแฟนๆก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เป็นที่รักมากขนาดนี้

     

     

    เรือนร่างบางนั้นเดินลงจากเวทีพร้อมรอยยิ้มที่ฉายชัดว่ากำลังรู้สึกอย่างไร... หัวทุยก้มลงโค้งให้ทีมงานเบื้องหลังทั้งหลายพร้อมเอ่ยขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนผู้จัดการคนเก่งต้องยกมือแตะไหล่บางเป็นเชิงบอกว่าพอแล้ว จึงได้รอยยิ้มกว้างแสนสดใสนั้นไปอีกครั้งพร้อมกับคำขอโทษเบาๆ

     

     

    “พี่เคลียร์งานพรุ่งนี้เช้าให้เรียบร้อยแล้วนะ... คืนนี้ฉลองให้สนุกละ”

     

     

    “ขอบคุณฮะ...” น้ำเสียงที่เบาลงกับรอยยิ้มที่เจื่อนลงนั้นทำให้ผู้จัดการที่อยู่ด้วยกันมานานเดาได้เลยว่าคงมีอะไรบ้างอย่าง... แต่เขาก็เชื่อว่าซูโฮแยกแยะมันได้...

     

     

    “มีอะไรรึเปล่า”

     

     

    ซูโฮเงยหน้าขึ้นมองเพดานเพื่อไม่ให้น้ำใสไหลออกมาให้ใครเห็น ก่อนที่จะส่งยิ้มให้กับบรรดาสต๊าฟที่กำลังเดินเข้ามาหาเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร... ดาราหนุ่มหันไปกระซิบบอกผู้จัดการส่วนตัว ก่อนจะส่งยิ้มให้กับทุกคนและเดินไปหยิบกระเป๋าของตน และเดินออกไปจากห้องแต่งตัวนี้

     

     

    “ทำแบบนี้จะดีเหรอ... ไม่ไปอาฟเตอร์ปาร์ตี้น่ะ” ทันทีที่ผู้จัดการส่วนตัวเคลียร์นั้นก้าวขึ้นรถในตำแหน่งคนขับก็ถามขึ้นทันที...

     

     

    “อื้อ.. วันนี้วันเกิดผมนะ”

     

     

    “แล้ว ?”

     

     

    “เด็กบ้าไม่ยอมมา... อุตส่าห์ให้บัตรไปแล้ว ก็ยังไม่มา... น่าเจ็บใจชะมัด....” เสียงหวานหยุดลงพร้อมกับเสียงสะอื้นที่ดังขึ้น... ผู้จัดการส่วนตัวถอนหายใจแรงๆก่อนเหลือบคนตัวบางผ่านกระจกรถเป็นระยะ...

     

     

    ...วันนี้จุนมยอนตั้งใจจะแสดงให้เด็กคนนั้นดูนี่นา...

     

     

    “เขาอาจจะติดธุระก็ได้นะ... แล้วเราน่ะเปิดโทรศัพท์รึยัง” จุนมยอนส่ายหน้ารัวก่อนจะเอนพิงเบาะนั่งแล้วยกมือก่ายหน้าผาก... หรือเขาควรจะเปิดโทรศัพท์ดูอย่างที่พี่คริสบอก... มือบางควานหามือถือเครื่องบางในกระเป๋าแล้วเปิดเครื่อง....

     

     

    ...ไม่มีมิสคอลจากใครบางคน....

    ...ไม่มีแม้กระทั่งข้อความจากโปรแกรมสนทนาที่ใช้คุยกันประจำ...

     

    แบบนี้มันน่าน้อยใจไหมหื้ม....

     

     

     

    มือบางโยนมือถือเครื่องลงกระเป๋าถือ ก่อนจะนั่งเอามือก่ายหน้าผากอีกครั้ง จนผู้จัดการที่ทำหน้าที่สารถีอยู่นั้นอดเป็นห่วงไม่ได้... เด็กคนนั้นไม่เคยทำให้ศิลปินในความดูแลของเขาเป็นอย่างนี้เลย... ถึงอายุจะห่างกันแต่ความเอาใจใส่ในร่างบางนี้ไม่เคยขาดตกบกพร่องเลยสักนิด... หรือว่า....

     

     

    รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าของผู้จัดการหนุ่มก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อตัวรถนั้นเลี้ยวเข้าสู่บริเวณคอนโดของจุนมยอน... รถจอดสนิทอยู่ที่หน้าทางขึ้นคอนโดเป็นเวลานาน จนกว่าคนที่นั่งอยู่ข้างหลังจะรู้สึกตัว...

     

     

    “ถึงแล้วทำไมพี่คริสไม่บอกผมละ... นั่งรอทำไม” น้ำเสียงแสนสั่นเทานั้นทำให้คนที่ขับรถมาส่งอดเอี้ยวตัวไปใช้หลังมือปาดน้ำตาเม็ดโตจากแก้มนั้นไม่ได้...

     

     

    “จุนมยอน... บางทีเขาอาจจะรออยู่ก็ได้นะ”

     

     

    “ไม่หรอกฮะ... ผมไปก่อนนะ ขอบคุณสำหรับวันนี้ฮะ” พยายามพูดด้วยน้ำเสียงปกติที่สุด แต่มันช่างยากเหลือเกิน... เขากลืนก้อนสะอื้นลงคอไปก่อนจะคว้ากระเป๋าและเปิดประตูลงไปจากรถพร้อมรอยยิ้มกว้างเหมือนกับเมื่อกี้เขาไม่ได้ร้องไห้...

     

     

     

     

    การอยู่ในวงการสอนให้เขารู้ว่าที่ไหนร้องไห้ได้ หรือที่ไหนไม่ควรร้องไห้... ตอนที่เพิ่งเข้าวงการแรกๆเขาร้องไห้ก่อนขึ้นงานแทบทุกครั้งเพราะความเครียดและความกดดัน.... เมื่อผลงานมีมากขึ้นความเป็นที่รู้จักก็มากขึ้นตามมาทำให้เขาต้องระมัดระวังเกี่ยวกับอารมณ์และเรื่องส่วนตัวมากขึ้น...

     

     

     

    เรียวขาภายใต้กางเกงยีนส์ที่ขาดวิ่นตามแฟชั่นนิยมนั้นค่อยๆก้าวไปรอลิฟต์อย่างเหม่อลอย... ในหัวของเขาตอนนี้มีแต่คำว่า ทำไม ซ้ำๆไปหมด... ทำไมคนคนนั้นถึงไม่ยอมไปงาน ทั้งๆที่เขาอยากได้กำลังใจจากคนนั้นมากที่สุด...

     

     

    ทำไมถึงไม่มานะ...

    ติดเรียน มีงานด่วน อาจารย์เรียกก็บอกกันก็ได้...

    ทำไมต้องหายไปเงียบๆ แล้วทำเหมือนไม่ใช่คนสำคัญกันแบบนี้

    ทำไมละ....ไค

     

     

     

    เสียงเตือนจากลิฟต์ปลุกให้หลุดจากห้วงความน้อยใจ ก่อนที่เขาจะถอนหายใจหนักๆและเดินเข้าลิฟต์ไป... ร่างบางเดินตามทางอย่างเหนื่อยล้าจนมาถึงหน้าห้องของตน มือบางหยิบการ์ดขึ้นรูดและเปิดเข้าไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ลืมล็อกประตูห้องให้เรียบร้อย

     

     

    จุนมยอนถอดรองเท้าและมาโยนกระเป๋าทิ้งไว้บนโซฟาอย่างแม่นยำ ทั้งๆที่ไม่ได้เปิดไฟสักดวง... ก่อนที่จะก้าวเข้าไปในครัวเพื่อหาน้ำดื่มให้หายคอแห้ง

     

     

     
     

    ♥♥♥♥

     

     

     

     

     

    แต่แสงไฟสีส้มจากเทียนที่ปักอยู่บนเค้กนั้นทำให้คนตัวบางชะงักไปทันที.... เค้กก้อนโตที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะพร้อมกับกล่องของขวัญใบเล็กๆทำให้รอยยิ้มกว้างที่หายไปหลังจากลงจากเวทีนั้นกลับมาอีกครั้ง...

     

     

     

     

    สัมผัสอบอุ่นจากอ้อมแขนแกร่งที่โอบรัดรอบเอวบางจากด้านหลังพร้อมกับคางของเจ้าของแขนที่วางเกยไว้บนไหล่เขาเบาๆ เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบถ้อยคำหวานหูก่อนจะกดจมูกลงข้างแก้มอย่างแสนรัก

     

     

     

    “สุขสันต์วันเกิดนะครับ... ซูโฮของผม”

     

     

     

     

    เสียงสะอื้นที่ดังไม่หยุดนั้นทำให้ร่างสูงหมุนตัวดาราหนุ่มให้หันมาเผชิญหน้า... ริมฝีปากหนากดจูบลงบนหางตาอย่างอ่อนโยนครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะกดปากลงบนริมฝีปากแดงสดอย่างช้า...ซูโฮหลับตาพริ้มรับสัมผัสอ่อนหวานที่แสนคิดถึงนั้นในขณะที่เรียวแขนเล็กยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งอย่างลืมตัว...

     

     

    เพราะความดีใจ...

    เพราะความสุข...

    เพราะความรัก...

    หรือเพราะอะไรเขาก็ไม่รู้

    เขารู้เพียงแต่เขาคิดถึงและโหยหาสัมผัสของคนตรงหน้ามากๆ คิดถึงอยากเห็นหน้า อยากพูดคุยอยากพบปะ... ไม่ว่าจะห่างกันไปเพียงแค่วันสองวัน หรือครึ่งวัน...

    คิมจุนมยอนก็คิดถึงคนคนนี้อยู่ดี

     

     

    ร่างสูงถอนจูบออกก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากมนอย่างรักใคร่แล้วเลื่อนใบหน้าลงมาอยู่ระดับเดียวกับดวงหน้าหวานที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา... ดวงตาคู่โตนั้นแดงช้ำและยังคงมีน้ำสีใสไหลออกมาไม่หยุด... ไคใช้นิ้วโป้งปาดมันออกไปก่อนจะยกยิ้มกว้างส่งให้

     

     

    “ขอโทษที่ไม่ได้ไปที่งานนะครับ”

     

     

    “ม...ไม่เป็นไร... พี่เข้าใจ” จุนมยอนส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มกว้าง... ก่อนจะซุกใบหน้าลงกับอ้อมอกกว้างของคนอายุน้อยกว่า...

     

     

     

    คิมจงอิน หรือที่เขาเรียกว่าไคนั้นเป็นเด็กข้างบ้านที่เขาเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ จนเมื่อความผูกพันนั้นเปลี่ยนไปเป็นความรัก... หลังจากที่เขาเข้าวงการเวลาของพวกเราก็น้อยลง... และไคที่เรียนอยู่คณะวิศวะนั้นก็ยุ่งเกินกว่าจะมาหาเขาได้ตามกองถ่ายละคร หรืองานอีเว้นต่างๆ

     

     

    แต่ทั้งหมดนั้นมันไม่ใช่ปัญหา.... เพราะเราเข้าใจกันเสมอว่า ต่างคนต่างมีหน้าที่

     

     

     

    “พี่โกรธ... พี่น้อยใจ... พี่ร้องไห้อยู่นี่ก็เพราะผม... ยังบอกว่าเข้าใจอีกเหรอ?” เสียงทุ้มเอ่ยด้วยความเป็นห่วงจริงๆ ก่อนที่มือหนานั้นจะค่อยๆลูบกลุ่มผมนุ่มมือเบาๆอย่างปลอบประโลม...

     

     

    “แค่ตอนแรก... แต่ตอนนี้พี่มีความสุขนะ”

     

     

    “เป่าเทียนก่อนนะ.... แล้วผมจะให้พี่ทำโทษ...” ไครับคำในลำคอก่อนจะดันไหล่บางให้ออกห่างแล้วยกยิ้มกว้างให้... ดวงหน้าหวานพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม และยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหล่ออกมา แล้วเดินไปยืนหน้าเค้ก...

     

     

    สองมือยกขึ้นประสานกันในระดับอกก่อนที่เปลือกตาบางจะปิดลงพร้อมกับใบหน้าที่ก้มลงเล็กน้อย.... ภาพที่คนตัวบางกำลังอธิษฐานนั้นช่างไม่ต่างจากเทวดาตัวน้อยที่กำลังขอพรเลยสักนิด...

     

     

    ขายาวภายใต้กางเกงยีนส์สีซีดก้าวเบาๆไปยืนด้านหลังของดาราหนุ่ม เมื่อเห็นว่าร่างบางอธิษฐานเสร็จแล้วจึงรวบเอวบางมากอดแน่น และกดจูบที่ข้างแก้มซ้ำๆ จนคนโดนซ้อมดิ้นไปมาด้วยความจั้กกะจี้

     

     

    ไคยอมปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระ ก่อนจะเดินไปเปิดไฟแล้วเดินกลับมา ในขณะที่ดวงตากลมโตนั้นมองใบหน้าหล่อเหลาของคนอายุน้อยกว่าที่พยายามหลบสายตาเหมือนมีอะไรบ้างอย่าง

     

     

    ใบหน้าหล่อเหลาคมคายนั้นระเรื่อขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยอมมองด้วยตากลมโตของเขา พร้อมเสียทุ้มที่ดังขึ้น

     

     

    “พี่จุนมยอน... ผมมีอะไรจะบอก... อย่าหัวเราะได้ไหม?”  

     

     

    “หื้ม ? ทำไมพี่ต้องหัวเราะละ ??”

     

     

    “เค้ก... คือ... ไม่ต้องกินก็ได้นะครับ” จุนมยอนขมวดคิ้วจนแทบจะผูกกันเป็นโบว์ก่อนจะก้มลงมองเค้กขนาดสองปอนด์ที่ไม่เห็นจะมีอะไรผิดปกติ เค้กที่ถูกปาด้วยครีมสีขาวนั้นถูกแต่งแต้มด้วยสตรอเบอร์รี่ลูกโตที่เขาแสนชื่นชอบ... มันก็ดูสวยงามดีไม่เห็นมีอะไรผิดปกติเลย แล้วทำไมไคถึงจะไม่ให้เขากินละ...

     

     

    “ทำไมละ?” เมื่อถามกลับไป คนที่จ้องตาเขาอยู่เมื่อกี้ก็เสมองไปทางอื่นเสียแล้ว... เมื่อเห็นแบบนั้นร่างบางจึงเดินไปเปิดลิ้นชักแล้วหยิบช้อนขึ้นมาทันที... แต่ก่อนที่จะได้ตักเค้กเข้าปากก็ถูกมือหนารั้งไว้เสียก่อน... เขามองดวงตาที่เสมองไปทางอื่นอย่างเขินอายนั้นด้วยสายตาไม่เข้าใจ ก่อนจะลดมือลงตามที่ไคต้องการ...

     

     

    “ค...คือ... ผม...”

     

     

    “ว่าไง... พี่หิวนะไค หลังงานมีทเมื่อกี้พี่ยังไม่ได้กินไรเลย เพราะเอาแต่น้อยใจไคนะ พอพี่จะกินเค้กก็ไม่ให้พี่กินอีก ทำไมเป็นแบบนี้ละ...” เสียงหวานเอ่ยเร่งอย่างน้อยใจปนหงุดหงิด ผิดกับคนที่ร้องไห้ฟูมฟายเมื่อครู่ลิบลับนั้นทำให้ไคยิ้มออกมาน้อย ก่อนจะถอนหายใจหนักๆ และเสมองไปทางอื่น... มือหนาคลำท้ายทอยปอยๆอย่างเขินอาย ในขณะที่ใบหน้าคมคายนั้นยุ่งเหยิงอย่างที่ไม่ได้เห็นมานาน...

     

     

     

     

    “ผม...ทำมันเอง”

     

     

     

     

    สิ้นคำพูดเสียงเบานั้นช้อนเงินด้ามงามก็ตรงเข้าตักเค้กขึ้นมาชิมอย่างไม่สนใจเสียงห้ามสักนิด...

     

     

     

    ไคทำเค้กให้เขา.... เจ้าเด็กบ้านี่ที่เกลียดการทำอาหารและขนมหวานเข้าไส้ทำเค้กให้เขา... แล้วเขาจะไม่ชิมเลยได้ยังไงจริงไหม

     

     

     

    ทันทีที่เค้กคำโตเอาปากไป ดวงตาคมของคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามนั้นฉายชัดถึงความตื่นเต้นเหมือนเด็กน้อยที่รอลุ้นผลคะแนนนั้นทำให้ซูโฮอดยิ้มไม่ได้... มือบางวางช้อนลงบนจาน และยิ้มกว้างออกมา ดาราหนุ่มเดินไปสวมกอดคนตัวสูงกว่าในขณะที่คนถูกกอดนั้นยังคงตื่นเต้นไม่หาย...

     

     

     

    “อร่อยมาก...อร่อยจริงๆ ขอบคุณนะ...ทั้งๆที่ไคไม่ชอบของหวานแท้ๆ ทั้งๆที่ไคไม่ชอบทำขนมแท้ๆ ฮึก....” ไม่รู้ทำไมอยู่ๆบ่อน้ำตาก็แตกซะงั้น... เขาเผลอร้องไห้ออกมาทั้งๆที่ตอนแรกตั้งใจจะขอบคุณเด็กคนนี้ด้วยรอยยิ้มกว้างๆ ไคกอดเขาแน่นก่อนจะลูบหัวเบาๆอย่างปลอบประโลม...

     

     

     

    “อะไรกัน... พี่ซูโฮคนหล่อของแฟนคลับเป็นคนขี้แยแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร”

     

     

     

    “...บ้า... อย่ามาล้อกันแบบนี้นะ ก็คนมันซึ้งนี่....” เสียงงุ้งงิ้งดังขึ้นโต้กลับทันที... มันงุ้งงิ้งเพราะดวงหน้าหวานนั้นซุกอยู่กับอกกว้างต่างหาก... เขาไม่ได้งุ้งงิ้งใส่เจ้าเด็กนี่หรอกนะ...

     

     

     

    “ขอโทษที่ไม่ได้ไปนะครับ... อุตส่าห์ให้บัตรมาแท้ๆ แต่บัตรที่พี่ให้มาผมก็ไม่ได้ปล่อยมันไว้ให้เสียเปล่าหรอกนะ” เสียงทุ้มว่าเรื่อยเปื่อยเพื่อให้คนในอ้อมแขนนั้นค่อยๆกลับมาร่าเริงอีกครั้ง... และเมื่อได้ยินว่าบัตรที่ตนให้ไปนั้นเหมือนจะตกไปอยู่กับใครคนอื่น คนตัวบางก็ดันตัวเองออกจากอ้อมกอดทันที

     

     

     

    “หมายความว่าไง ? อย่าบอกว่าเอาไปขายนะ ถ้าเอาไปขาย พี่โกรธจริงๆด้วย”

     

     

     

    “ไม่เชิงขาย...”

     

     

     

    “คิมจงอิน!!!!!” รอยยิ้มกวนประสาทที่ลอยเด่นหราอยู่นั้นยิ่งทำให้คนที่อุตส่าห์วิ่งหาบัตรที่นั่งดีๆเพื่อให้อีกคนนั้นเริ่มเหวี่ยงขึ้นมา...

     

     

     

    “ใจเย็นๆสิครับ... ผมเอาไปจ่ายค่าสอนทำเค้ก” ดวงตากลมโตเบิกกว้างเล็กน้อยก่อนจะนึกย้อนไปเมื่อสองสามชั่วโมงก่อนที่ที่นั่งที่หวังจะให้เด็กคนนี้นั่งกลับเป็น....

     

     

     

    คิมคีย์บอม...

     

     

     

    “ผมให้แฟนพี่รหัสผมทำเค้ก... แล้วเผอิญพี่คีย์เขาเป็นแฟนคลับของพี่ ผมเลยให้พี่เขาไป... ขอโทษนะครับ” คำขอโทษถูกเอ่ยซ้ำอีกครั้ง ทำให้คนที่ตั้งท่าจะงอนนั้นหายงอนทันที...

     

     

     

    คิมจงอินเอ่ยคำขอโทษมากี่ครั้งแล้วหนา...

     

     

     

    “ไม่ต้องมาทำตัวเป็นคนดีเลย... ปล่อยๆ พี่จะนอน” เขาสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนของเด็กข้างบ้านก่อนจะเดินนำลิ่วเข้าในห้องนอนหวังจะอาบน้ำแล้วนอนพักผ่อนให้เต็มที่เพราะพรุ่งนี้ยังมีตารางงานช่วงบ่ายต่อ...

     

     

     

    หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้เก็บเค้กที่เด็กบางคนทำไว้ให้เลย... ว่าแต่ว่า...

     

     

     

    ...ไอ้เด็กนั่นมันอยู่ไหนนะ!!!!...

     

     

     

    ตากลมกวาดตามองซ้ายขวาอย่างระแวดระวังก่อนจะเดินไปหยิบจานเค้กขึ้นแล้วเอาไปใส่ตู้เย็น แต่เมื่อหลังหน้ากลับมาก็ต้องชะงักค้างเมื่อใบหน้าหล่อเหลานั้นห่างไปไม่ถึงสิบเซ็นด้วยซ้ำ!!!

     

     

     

    มือหนาสองข้างยกขึ้นวางทาบกับตู้เย็นเพื่อปิดทางหนีของเขา... แผ่นหลังบางถอยหนีชิดติดตู้เย็น ในขณะที่ดวงตากลมช้อนขึ้นมองคนตัวสูงกว่าอย่างเอาเรื่อง ก่อนที่มือบางสองข้างจะยกขึ้นพยายามดันแผ่นอกกว้างนั้นให้ออกห่างเพื่อจะได้ไปนอนเสียที เพราะหลังจากโล่งอกเรื่องของไคแล้ว ความเหนื่อยล้าจากตารางงานในวันนี้ก็ทำให้เขาเหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไรต่อมิอะไรแล้ว...

     

     

     

    “จงอิน!!! ไม่เล่นนะ...” ดวงตาคู่คมจ้องเขานิ่งนั้นไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด... มือหนาข้างหนึ่งเลื่อนมารั้งใบหน้าของเขาไว้ก่อนที่ริมฝีปากหนานั้นจะกดจูบลงมาอย่างอ่อนโยน... และเนิ่นนาน...กว่าจะผละออก

     

     

     

    แต่มันเป็นจูบที่ไม่จาบจ้วง... และแสนจะอ่อนหวาน...

     

     

     

    “ไม่ได้เล่น... แต่ผมพยายามขนาดนั้น... พี่จะไม่ให้รางวัลเลยเหรอ?” ดวงตากลมเบิกกว้างอย่างตกใจก่อนที่ใบหน้าขาวนั้นจะขึ้นสีระเรื่อและก้มลงหลบสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการนั้นอย่างเขินอาย...

     

     

     

    เด็กบ้า...

     

     

     

    “ระ...รางวัลอะไรละ... เดี๋ยวพรุ่งนี้...................อื้อ” ปากหนาฉกฉวยแย่งชิงความหอมหวานจากริมฝีปากของเขาอีกครั้งก่อนที่มือหนานั้นจะกดหัวไหล่ของเขาไว้กับตู้เย็นและก้มลงซุกไซร้ซอกคออย่างแสนคิดถึง...

     

     

     

    “วันนี้...นะครับ” เสียงแหบพร่าเอ่ยกระซิบชิดใบหูก่อนจะงับเบาๆ จนคนตัวบางต้องหลับตาปี๋เพราะความวาบหวามที่เพิ่มขึ้น...

     

     

     

    “อื้ม...” เสียงอนุญาตแผ่วเบาในลำคอนั้นทำให้จงอินยกยิ้มกว้างก่อนจะโอบอุ้มคนตัวบางขึ้น... ขาเรียวเล็กสองข้างนั้นเกี่ยวล็อกสะโพกหนาอย่างกลัวตกในขณะที่จุนมยอนโผเข้ากอดคอจงอินอย่างลืมตัว...

     



     

     กลิ่นหอมจากสบู่และแชมพูที่ดาราหนุ่มใช้เป็นประจำนั้นทำให้จงอินไม่สามารถหยุดตัวเองได้... เด็กหนุ่มโอบอุ้มคนตัวบางเดินเข้าห้องนอนไปวางลงบนเตียงแล้วกดจูบลงบนกลีบปากนุ่มอีกครั้งอย่าง

     

     

     

     

    มือหนาปัดป่ายไปทั่วเรือนร่างขาวที่สวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำอย่างแสนคิดถึง... ปากร้อนผ่าวกดจูบไปทั่วร่างลำคอระหงส์หากแต่ไม่ได้ทิ้งรอยเอาไว้ เพราะเกรงว่ามันจะไม่เป็นผลดีกับคนตัวบาง... ดวงตากลมหวานเชื่อมเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาที่ค่อยๆเลื่อนต่ำลงก่อนจะเสมองไปทางอื่นเพราะด้วยตาคู่คมนั้นมองกลับมา...

     

     

    จุนมยอนไม่รู้ว่าเสื้อคลุมอาบน้ำของเขาถูกดึงออกไปตอนไหน... ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองปลดกระดุมชุดนักศึกษาของจงอินออกไปอย่างรวดเร็วเพียงใด... รู้ตัวอีกที...ผิวสีน้ำผึ้งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อนั้นก็ลอยเด่นอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว...

     

     

    ดวงหน้าหวานเสมองไปทางอื่นอีกครั้งด้วยความเขินอายก่อนจะต้องหลับตาพริ้มและเผลอกัดปากตัวเองเมื่อมือร้อนสัมผัสเข้ากับส่วนกลางลำตัวของตน

     

     

    จงอินปลุกเร้าเขาด้วยฝ่ามือร้อนในขณะที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นเลื่อนขึ้นมาบดจูบที่ปากแดงซ้ำแล้วซ้ำเล่า... เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันอย่างไม่มีใครยอมใครก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะผละออกแล้วฉุดให้เขาลุกขึ้นนั่ง กลุ่มผมสีแดงเอนพิงหัวไหล่หนาก่อนจะบิดไปมาอย่างเสียวซ่านเมื่อเรียวนิ้วนั้นชำแรกแทรกผ่านเข้ามาในร่างอย่างช้า...

     

     

    ดวงหน้าหวานขาวระเรื่อขึ้นอย่างแสนน่ารัก...ทำให้จงอินอดใจไม่ไหวต้องขโมยลมหายใจของจุนมยอนไปอีกครั้ง... ในขณะที่มือหนึ่งนั้นกำลังขยับอย่างช้าๆอีกนั้นก็หยอกล้อเล่นกับส่วนหน้า

     

     

    กางเกงสแล็คสีดำถูกเจ้าของมันโยนทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ก่อนที่จงอินค่อยๆขยับตัวแทรกผ่านเข้าไปในร่างกายของคนรักอย่างช้าๆ... จมูกโด่งกดลงแก้มนิ่มซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างปลอบประโลม ในขณะที่มือหนาขย้ำก้อนเนื้อนิ่มเพื่อให้คนตัวบางนั้นหายเกร็ง...

     

     

    “อย่างนั้น... อย่าเกร็ง... ใช่ฮะ... สุดยอดเลยพี่จุนมยอน...” เสียงกระเส่าเอยชิดใบหูขาวทำให้ดวงตาปิดแน่นและเสใบหน้าหนีจมูกโด่งนั้นอย่างเขินอาย... จังหวะสม่ำเสมอถูกมอบให้ก่อนที่มือหนาจะประคองสะโพกเล็กให้ขยับเข้าออกอย่างรวดเร็ว...

     

     

    ทุกสัมผัสที่จงอินมอบให้อย่างอ่อนโยนนั้นทำให้หัวใจดวงน้อยนั้นเต้นระส่ำ... คำรักที่ถูกเอื้อนเอ่ยกระซิบซ้ำๆที่ข้างหูนั้นทำให้คนตัวบางแทบเป็นบ้า....

     

     

    จงอินร้อนแรงเสมอ... เขาไม่อยากยอมรับเลยว่าคิดถึงสัมผัสของจงอิน ไม่ว่าจะส่วนไหนของร่างกาย มันเรียกร้องหาแต่เด็กคนนี้... ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปขนาดไหน เขาก็ยังรักคนคนนี้เพียงคนเดียว...

     

     

    อ้อมแขนแกร่งโอบอุ้มคนตัวบางที่เปลือยเปล่าให้นอนลงบนเตียงอย่างเบามือ ให้ขณะที่เจ้าของมันนั้นกำลังแย้มยิ้มกับเรือนร่างสวยงามตรงหน้า.... จมูกโด่งกดลงบนผิวเนื้อนิ่มอีกครั้งอย่างห้ามตัวเองไม่ได้...

     

     

    “อื้อ... ไม่เอาแล้วนะ...” เสียงหวานเอ่ยขึ้นทำให้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้น ก่อนที่ปากร้อนผ่าวจะพรมจูบไปทั่วแผ่นหลังนั้นอย่างซุกซน...

     

     

    “จงอิน.... พรุ่งนี้พี่มีงานนะ...”

     

     

    “ช่วงเย็น... ใช่ฮะ ผมรู้ พี่คริสส่งไลน์มาบอกเรียบร้อยแล้ว” ไม่หยุดไม่ว่า ถามยังเอ่ยอย่างเข้าใจอย่างดี... แล้วในเมื่อเข้าใจแล้วทำไมไม่หยุดละ!!

     

     

    จุนมยอนพลิกตัวหันกลับมาหาคนที่ยังไม่เลิกซน ก่อนที่ใบหน้าหวานจะระเรื่อขึ้นอีกครั้งเมื่อใบหน้าของเขาทั้งคู่นั้นห่างกันไม่มาก....

     

     

    “มาอายอะไรตอนนี้ละ... เมื่อกี้ไม่เห็นจะอายเลย... โอ๊ย!! ตีผมทำไมละพี่จุนมยอน” มือหนารวบข้อมือบางไว้ก่อนที่จะดึงคนตัวบางเข้ามากอด แล้วดึงผ้าห่มที่ปลายเตียงขึ้นมาถึงหน้าอก มือหนาวางลงบนกลุ่มผมนุ่มเบาๆก่อนจะหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย....

     

     

    “จงอิน... เป็นอะไรรึเปล่า?” เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นคนรักเงียบไป... ดวงตากลมเงยขึ้นมองคางก่อนจะก้มหน้าลงเมื่อเดิมเมื่อได้คำตอบ...












     

    “เปล่า... ผมแค่อยากกอดพี่เฉยๆอย่างนี้... สุขสันต์วันเกิดนะครับ... พี่จุนมยอน

     

     

    เปลือกตาบางปิดลงพร้อมกับรับคำในลำคออีกครั้ง... ถึงของขวัญที่จงอินให้จะไม่ได้มีราคามากมาย แต่มันก็เต็มไปด้วยความมั่นใจที่เด็กคนนี้ตั้งใจทำให้เขา...

     

    ...แค่นี้ก็มันก็มีค่ามากกว่าของขวัญราคาแพงที่มากลาดเกลื่อนแล้วหรือเปล่า ??...

     

     

    ♥♥♥♥






    ลงฉากที่หายไปหมดแล้วนะคะ เพราะมีคนบอกว่าโหลดไม่ได้ T - T 
    มันนิดหน่อยคงไม่เป็นไรเนอะ ?? 




    โปรดอย่าถาม... ว่าฟิควันเกิดพี่จุนมยอนมาได้อย่างไร... มันมาจากอินเนอร์ข้างใน... ด้วยความแน่นอก.... เลยยกออกมาเป็นฟิคเรื่องนี้ .////.

    อนึ่ง.... โบ้ไม่ได้ติ่งพี่จุนมยอนนะ ไม่ได้หลง ไม่ได้รัก ไม่ได้อะไรทั้งนั้นโอเคนะ - ////////////////////// - 

    ตอนแรกคิดว่าจะปั่นฟิคเรื่องนี้ไม่ทัน... เพราะเมื่อตอนตีหนึ่งของวันนี้ ฉากที่หายไปยังไม่จบเลย = ___ = 
    คือไม่คิดว่าจะเขียนจบแน่ๆง่ะ พอวันนี้สองทุ่มเข้าจุดสตาร์ท(?)ปุ๊บ นิ้วมันรัวแป้นไม่หยุด มันหลั่งไหลออกมาอย่างไม่หยุ๊ดดด จนกระทั่ง... โอเคค่ะ จบแล้ว... จบบริบูรณ์... 

    คือจริงๆตอนแรกคุยกับ @DoGuardian ว่า ฟิคเราใสใสนะ.... พอทีเซอร์รูปออกเท่านั้นแหละ หัวไหล่มันล่อมันยั่ว เลยให้น้องอินกินเลย -O-'' หนูไม่ได้หื่นแต่พี่เขายั่ว โอเคนะคะะะ 555555555555555555555 


    วันเกิดพี่จุนมยอน.... ก็ขอให้พี่มีความสุขมากๆ ประสบความสำเร็จกับทางสายนี้ แม้มันจะเต็มไปด้วยเหวลึกสองข้างที่่ถ้าหากว่าเผลอเมื่อไรก็อาจร่วงหล่นลงไปได้เสมอ... แม้จะน้อยนิด... แต่ก็ขอให้พี่มีความสุขกับมัน... รักมั้งคะ(?) - ///// - 


    โอเค... เป็นทอล์คที่ยาวมหาศาลมาก = [ ] =!! แค่นี้แหละค่ะ ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้นะคะ *กอดเรียงคน* 




    ขอบคุณธีมสวยๆจาก  G Minor!


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×