ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF KAIBAEK] Imagination with KaiBaek

    ลำดับตอนที่ #2 :  [SF] Make me blind , make me cry. (2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.3K
      9
      29 เม.ย. 56





    [SF] Make me blind , make me cry.


     

    Pairing : Kai x Baekhyun
    Rate : PG-13
    Author : Gornhai (gorn_dbsk)












    - Part 2 -

     

     

     

     

     

    ยามเช้าที่ยังเหน็บหนาวไร้ซึ่งแสงแดดอันแสนอบอุ่น ดั่งใจดวงนี้ที่อบอุ่นได้เพียงแค่ข้ามคืน กับคนที่ไม่ใช่ของตัวเอง มันก็ได้แค่นี้ล่ะนะ


    พยอนแพคฮยอนลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าที่ยังไม่สว่างดีเท่าไหร่นัก ที่นอนข้างกายยังอุ่นอยู่แต่ความว่างเปล่าตรงนั้นกลับทำให้รู้สึกหนาว


    เค้าไปแล้วสินะ


    จงอินคงออกไปนานแล้ว เป็นธรรมดาที่ได้ระบายก็จากไป ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องอยู่ต่อ แพคฮยอนลุกขึ้นนั่งอยู่บนเตียงไม่ขยับไปไหน ร่างขาวเนียนกำลังนั่งหน้าเศร้าท่ามกลางผ้าห่มที่พาดอยู่เพียงแค่ลำตัว เรียวขาขาวถดเข้าหาร่างกายเหมือนจะปลอบใจตัวเองในยามที่ต้องอยู่คนเดียว


    แต่แล้วเสียงประตูห้องน้ำที่ผลักออกมาของใครบางคนก็ทำให้เขาต้องหันไปมอง แพคฮยอนสะดุ้งเบาๆเพราะไม่นึกว่าจงอินจะยังอยู่


    ตกใจอะไรเสียงทุ้มเอ่ยถาม ทั้งที่ยังอยู่ในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียวที่ปกปิดส่วนล่างเอาไว้ คนที่มองอยู่พร้อมด้วยน้ำตาปริ่มๆเลยรีบเบือนหน้าหนี

    ผม .. คิดว่าคุณไปแล้วซะอีก

    หึ อยากให้ไปมากก็บอกก่อนสิ วันหลังจะได้รีบกลับว่าแล้วจงอินก็ตรงไปยังตู้เสื้อผ้าที่มีเสื้อผ้าของเขาอยู่ส่วนหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เป็นอย่างนี้ เพราะปกติถ้ามาค้างหรือเมาไม่รู้เรื่อง หรือแม้แต่อยากแวะมา เขาก็สามารถจัดการตัวเองที่ได้ตามต้องการ


    แพคฮยอนมองอีกฝ่ายแต่งตัวไปโดยไม่พูดอะไร บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าสภาพแบบนี้หากว่าไม่ใช่เขากับจงอิน หากว่าเป็นคนอื่น หากว่าเป็นไปได้


    แบบนี้มันเหมือนกับ ...

    .. บ้าไปแล้ว แพคฮยอนคงกำลังฝันกลางวันมากกว่า


    แม้มันจะคล้าย หากแต่ความจริงกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะในความเป็นจริง เขาต่างหากล่ะที่กำลังคบอยู่กับคนรักของคนอื่น



    ร่างสูงของจงอินในชุดทำงานที่กำลังยืนจัดปกเสื้อของตัวเองอยู่หน้ากระจกนั้นรู้ตัวดีว่าถูกสายตาของใครอีก
    คนจ้องมองอยู่ แพคฮยอนมองเขาอยู่เงียบๆขณะที่ตัวเองยังไม่ลุกไปไหนเลย ใบหน้าขาวใสต้องได้ขึ้นสีเพราะคนที่เขามองอยู่กลับเงยหน้าสบตากันในกระจกอย่างไม่ให้ตั้งตัว

    ทำไม มองอยู่นั่นแหละ หรือว่าอยากต่ออีกรอบ

    เอาอีกแล้วสิ ผู้ชายคนนี้มีดีแค่พูดให้เขาอยากจะร้องไห้ ทั้งที่แพคฮยอนทำหน้าไม่ถูก แต่จงอินกลับยิ้มอย่างพอใจ ใบหน้าคมหันกลับมามองกันตรงๆโดยที่มือข้างหนึ่งยังขยับจับเนกไทด์ของตัวเองไปมาอยู่อย่างเดิม


    สายตาเจ้าเล่ห์มองไล่ไปตามเรียวขาที่โผล่พ้นผ้าห่มผืนหนาออกมา ทำเอาเจ้าของมันต้องรีบดึงขาตัวเองมาหลบใต้ผ้าห่มให้พ้นสายตานั่น แพคฮยอนไม่ค่อยพอใจนักที่ตัวเองจะต้องถูกลวนลามได้ทุกเวลาแม้แต่ด้วยสายตาก็ตามที

    ไม่ไปอาบน้ำล่ะเจ้าหมาน้อย หรือว่าอยากจะ....

    เปล่าครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละได้ผลทันตาเห็น ความเศร้าสร้อยหายไปแล้วแทนที่ด้วยสายตาหวาดระแวง จงอินยกยิ้มมุมปากอย่างเคยเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังรีบคว้าเอาเสื้อคลุมที่วางอยู่ข้างๆขึ้นมาใส่อย่างก
    ลัวเหลือเกินว่าเขาจะเห็นอะไร


    โธ่เอ๋ย .. ก็เห็นกันมาหมดแล้วนี่พยอนแพคฮยอน






    ไม่ทันที่แพคฮยอนจะวิ่งพรวดพราดเข้าห้องน้ำไป จู่ๆเสียงออดในบ้านก็ดังขึ้น ร่างเล็กของเจ้าของบ้านเลยได้แต่ขมวดคิ้ว ก่อนจะชะโงกหน้าลงไปดูว่าใครกันที่มากดกริ่งแต่เช้า


    ชานยอล...แพคฮยอนครางชื่อของอีกฝ่ายออกมาเบาๆจนคนที่มองอยู่ชักสงสัย

    ใครจงอินถามคำเดียวตรงๆ และนั่นก็ไม่ต่างกับคำสั่งที่บังคับว่าต้องตอบ

    เพื่อนสมัยเรียนน่ะครับ บ้านเค้าอยู่แถวนี้

    งั้นเหรอ

    ครับ .. งั้นเดี๋ยวขอเวลาสักครู่นะครับ

    ฉันให้ห้านาที อย่าให้ต้องรอล่ะจงอินสั่งตรงๆ แล้วแพคฮยอนก็วิ่งลงบันไดไปยังหน้าบ้านทันที







    ร่างเล็กดึงประตูรั้วให้เปิดออกครึ่งหนึ่งเพื่อจะได้พบกับอีกคนที่ยืนอยู่ด้านนอก ปาร์คชานยอลคุณชายของบ้านหลังใหญ่ที่ถัดไปไม่ไกลนักส่งยิ้มมาให้พร้อมกับถุงขนมลายน่ารักในมือ

    วันนี้ไม่ไปทำงานรึไงคุณพยอนแพคฮยอนชายหนุ่มยกยิ้มอย่างเอาแต่ใจ ทั้งที่คำถามนั้นก็รู้คำตอบดี ร่างสูงโปร่งไล่สายตาไปกับคนตัวเล็กในชุดคลุมนั่นแค่นิดหน่อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพูดตามปกติ

    ว่าไงล่ะ โดดงานรึไง

    ใครว่าล่ะ ไม่ไปก็คงถูกไล่ออกน่ะสิว่าแล้วก็รับถุงขนมนั้นมาถือเอาไว้ ชานยอลไม่ว่าอะไรกับคำพูดยียวนกลับมา เพราะเขาเองที่เริ่มก่อน ใบหน้าหล่อเหลาชะงักไปเมื่อชะเง้อไปเจอกับรถคันที่เขาไม่คุ้น ซึ่งใช่ว่าจะจำไม่ได้

    รถใครน่ะ เห็นมาบ่อยๆ

    หืม .. อ๋อ รถเจ้านายฉันเอง ก็เรื่อยๆน่ะ

    เรื่อยๆอะไร มาบ่อยจะตายไปจู่ๆชานยอลก็ทำหน้าและน้ำเสียงไม่ค่อยจะพอใจขึ้นมา แพคฮยอนเลยก้มหน้ากลบเกลื่อนไปอย่างเคย เขาไม่อยากให้คนอื่นมาถามเรื่องอย่างนี้นักหรอก

    ก็มาเรื่องงาน ประจำแหละ

    “’งั้นเหรอ .. งานอะไรจะยุ่งนักหนา กับแค่เลขาต้องมาดึกดื่นทุกวันเลยรึไง

    อะไรเล่าชานยอล!! คุณจงอินเค้าไม่ได้มาทุกวันซะหน่อย

    แล้วทำไมต้องขึ้นเสียง ฉันยังไม่ได้ว่าอะไร ร้อนตัวจริงนะ


    เอาแล้วไง คุณชายปาร์คชานยอลคนนี้ไม่มีความอดทนแล้วสินะ แต่อย่างน้อยเขาก็ยังอดทนกับความรู้สึกของตัวเองได้ อุตส่าห์เก็บไว้เสียเนิ่นนาน จู่ๆพอจะมีคนตัดหน้าไป ใครล่ะจะยังอารมณ์ดี




    ภาพของคนทั้งคู่ที่ยืนคุยกันนั้นกำลังอยู่ในสายตาของใครอีกคนซึ่งยืนมองลงมาจากระเบียงห้องนอน จงอินถอนหายใจแรงๆอย่างขัดใจขึ้นมา เขายืนกอดอกรอเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะรีบกลับขึ้นมา ไม่นึกว่าจะกล้าขัดคำสั่งของเขาแล้วยังไปยืนยิ้มกับผู้ชายคนนั้นให้มากเรื่องอีก

    หึ .. วุ่นวายจริงนะพยอนแพคฮยอน

    ว่าแล้วร่างสูงก็หันกลับออกไปจากห้องนอนห้องนี้แทบจะในทันที


    อะไรอีกล่ะชานยอล ฉันต้องรีบไปทำงานนะแพคฮยอนพยายามจะขอตัวเมื่อคนตรงหน้าเริ่มจะหาเรื่องให้เขารู้สึกอึดอัด ซึ่งอันที่จริงแล้วชานยอลแค่หงุดหงิดใจต่างหาก

    แล้วจะให้ฉันคิดยังไงล่ะ เจ้านายที่ไหนมาหาดึกดื่นตั้งหลายครั้งหลายหน แล้วยังอยู่ถึงเช้าอีก

    ก็ .. ก็ บอกแล้วไงว่างานแพคฮยอนเริ่มไม่กล้าจะสบตาชานยอล ใบหน้าของคนโกหกเลยได้แต่ก้มมองพื้นอย่างทำอะไรไม่ถูก

    งานอะไรล่ะ คิดว่าฉันไม่รู้รึไงจู่ๆชานยอลก็ตรงเข้าจับที่แขนของแพคฮยอนอย่างคนจะเอาคำตอบให้ได้ ร่างเล็กเซถอยหลังไปอย่างไม่ได้ตั้งตัว

    ปล่อยฉันนะ นายจะเอาอะไรล่ะ บอกว่างานก็งานสิ

    ก็ถ้ามันไม่ใช่ล่ะ

    ก็ถ้าไม่ใช่แล้วนายจะทำไมเล่าแพคฮยอนทนไม่ไหวเลยถามออกไปตรงๆบ้าง ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะทำหน้าให้เขากลับต้องรู้สึกผิด ชานยอลยังไม่ยอมปล่อย เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้และกำลังจะพูดอะไรออกมาอีก แต่เสียงที่ได้ยินกลับเป็นของใครอีกคน




    นั่นน่ะสิ ถ้าไม่ใช่แล้วคุณมีปัญหาอะไรรึเปล่า



    เสียงทุ้มต่ำที่ดังขึ้นขัดทำให้ทั้งสองต้องหันไปมองร่างสูงที่เดินออกมาช้าๆอย่างไม่รีบร้อนอะไร จงอินทำราวกับอารมณ์ดีทั้งที่ในใจกำลังเดือดอย่างที่เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเท่าไหร่นัก

    คุณจงอิน...แพคฮยอนเอ่ยเบาๆ ก่อนที่อีกฝ่ายจะตรงเข้ามาหา ชานยอลที่ยังไม่ยอมปล่อยมือทำให้จงอินตัดสินใจรั้งร่างของคนตัวเล็กให้หลุดออกมาอยู่ในวงแขนของเขาแทน คนที่เป็นฝ่ายเงียบในฐานะคนกลางแล้วจึงได้เพียงแค่มองคนทั้งสองสลับกันไปมา สายตาของจงอินมันนิ่งมากจนแพคฮยอนกลัว

    เอ่อ .. คุณจงอินครับ นี่ชานยอลเพื่อนผม ส่วนนี่.. แพคฮยอนยังไม่ทันจะได้พูดสิ่งที่ตั้งใจจบก็ถูกจงอินยกมือขึ้นห้ามเสียแล้ว ทั้งที่เขาพยายามจะทำให้บรรยากาศดีขึ้นแล้วแท้ๆเชียว แต่ในสายตาคนทั้งคู่มันคงแค่เรื่องเล็ก

    คุณสินะเจ้านายแพคฮยอน.. อย่าใช้งานเค้าจนเหนื่อยล่ะชานยอลเอ่ยขึ้นมาก่อน

    อย่าห่วงเลย ผมไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอกน่ะ ..เพราะเพื่อนคุณเค้าไม่เคยบ่นซักคำว่าเหนื่อยประโยคธรรมดาหากแต่คนฟังกลับได้แต่ยืนกำมือ สายตาท้าทายของคนพูดนั้นแทนความหมายอะไรหลายอย่างได้ดี


    จงอินรั้งแขนดึงให้แพคฮยอนเข้ามาใกล้กว่าเดิมเพื่อกระซิบอะไรบางอย่าง


    ฉันเลทให้มากแล้วนะ อย่าให้ต้องเสียอารมณ์ไปมากกว่านี้ว่าแล้วจงอินก็ปล่อยมือจากแพคฮยอนแล้วเดินเข้าบ้านไปโดยไม่แคร์เรื่องมารยาทแม้แต่นิด เขาปล่อยให้เจ้าของบ้านยืนเก้อๆอยู่กับใครอีกคนที่เอาแต่มองด้วยความไม่พอใจ


    แล้วจงอินก็คิดไม่ผิด แค่เขาก้าวมาได้ไม่กี่ก้าวอีกฝ่ายก็วิ่งตามหลังมาเสียแล้ว
    พยอนแพคฮยอนคนนี้ก็แบบนี้ล่ะนะ เจ้าตัวก็รู้ดี แต่ก็เต็มใจทำ


    .. ผมก็ทำตามที่คุณต้องการได้ตลอดอยู่แล้วนี่ ต่อให้ไม่มีความหมายอะไรก็ช่าง





    -----------





    ตั้งแต่ออกจากบ้านมาอยู่ที่ทำงาน ตั้งแต่ตอนนั้นจงอินก็ไม่ค่อยพูดอะไรกับแพคฮยอนอีก ทำให้หัวใจดวงน้อยเริ่มห่อเหี่ยวอย่างไม่มีเหตุผล ไม่สิ .. นี่ล่ะเหตุผล คิมจงอินคือเหตุผลทั้งหมดของพยอนแพคฮยอน


    ภายในห้องทำงานยามสายที่ความวุ่นวายเพิ่งหายไปได้ไม่นาน คนเป็นเลขาทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีไม่มีบกพร่อง แพคฮยอนหอบแฟ้มขนาดใหญ่เข้าออกห้องของจงอินหลายรอบได้แล้วตั้งแต่เช้า ร่างเล็กไม่มีท่าทีเหนื่อยหน่ายอะไรนอกจากหอบน้อยๆเพราะความล้าเป็นบางครั้ง แม้ในใจกำลังว้าวุ่นแต่เขาก็ไม่ได้แสดงอะไรออกไปให้คนเป็นเจ้านายรำคาญใจแม้แต่นิด


    หารู้ไม่ว่าทุกอย่างที่ตัวเองทำไปนั้นล้วนแต่อยู่ในสายตาของคนที่นั่งมองอยู่ตลอดเวลา


    จงอินลุกขึ้นยืนทำให้แพคฮยอนเงยหน้าจากแฟ้มหนึ่งที่วางบนโต๊ะขึ้นมามองอย่างสงสัย ไม่ทันจะได้ถามอะไรออกไปตัวเองก็กลายเป็นเป้าหมายของอีกฝ่ายเสียแล้ว

    จะทำอะไรน่ะ คุณ ...แพคฮยอนไม่ทันจะได้ตั้งตัวอีกแล้วสิ จงอินเข้ามายืนตรงหน้าแพคฮยอนเสียจนชิด ดวงตานิ่งๆคู่เดิมทอดมองลงมาสบตากันอย่างไม่ได้นึกเลยว่าคนถูกจ้องจะรู้สึกอะไรยังไง

    คุณจงอิน .. มีอะไรรึเปล่า คุณโกรธผมเรื่องอะไรก็บอกมาสิแพคฮยอนเริ่มจะทนไม่ไหวเลยเริ่มจะถามออกไปบ้าง สองขาที่หยัดยืนไม่ยอมถอยออกมากำลังสั่นอย่างยากจะปิดบัง เห็นอย่างนั้นจงอินก็ยิ่งได้ใจ ร่างสูงก้าวให้ร่างชิดกันจนแพคฮยอนต้องเปลี่ยนใจก้าวถอยไปหนึ่งก้าว

    อ่ะ เอ่อคุณจงอินแพคฮยอนทำตัวไม่ถูกเมื่อถุกรุกไล่เข้ามาอย่างนี้ ถ้าตามปกติแล้วเขาก็พอเข้าใจ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ จงอินไม่ได้กำลังต้องการร่างกายของเขาอย่างที่เคยทำ

    แพคฮยอน.. ต่อไปอย่าไปคุยกับมันอีกนะ

    ว่าไงนะครับ คุณหมายถึง

    หมอนั่นไงเล่า แค่นี้ไม่รู้รึไงพูดจบมือข้างหนึ่งก็ถือคว้าเข้าที่เรียวแขนคนตรงหน้า แพคฮยอนรู้สึกเจ็บแต่ก็ไม่คิดจะพูดอะไรอีกตามเคย เขารู้ว่าจงอินอารมณ์ไม่ดี เพราะงั้นเงียบไว้คงดีที่สุด

    ผม ผมขอโทษ ถ้าทำอะไรไม่ถูกใจคุณ ต่อไปผมจะพยายามไม่ทำอีกแพคฮยอนละล่ำละลักพูดออกไปอย่างที่ใจคิด เขาไม่รู้หรอกว่าจงอินไม่พอใจอะไร อย่างมากก็คงแค่อารมณ์ของคนหวงของ


    คิดถึงตรงนี้ความเจ็บก็แล่นปราดเข้ามาในใจอีกอย่างไม่รู้จักชินเสียที


    .. แค่ของเล่นที่ไม่อยากแบ่งให้ใครก็เท่านั้น






    --------------------

     

     

    ดีมาก ต่อไปก็อย่าทำอีกจงอินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆพลางสบตากับแพคฮยอนอยู่พักใหญ่ ดวงตากลมที่จ้องกลับมานั้นเอ่ยไปด้วยน้ำตาจนคนมองต้องเบือนหน้าหนี เขาจึงรีบปล่อยมือออกจากแขนนั่น

    คุณ...แพคฮยอนอยากจะถาม แต่ก็ได้แต่เงียบอย่างเก่า

    ทำไม สงสัยอะไรนักรึไงพยอนแพคฮยอน

    เปล่าครับ ไม่มีอะไรไม่ทันแล้ว ปากปฏิเสธไปก่อนทั้งที่น้ำตามันร่วงลงมาอย่างห้ามไม่ทัน ใบหน้าหมองเศร้ารีบฝืนยิ้มก่อนที่จะก้มลงเช็ดน้ำตาออกจากแก้มเพื่อไม่ให้คนตรงหน้าอารมณ์เสียไปกว่าเก่า แต่สำหรับคนที่มองอยู่แล้ว มันกลับตรงข้าม .. อย่างเคย คิมจงอินที่ยังคงอารมณ์ไม่ดีก็ทำได้แค่อย่างเดิม เขามองตัวต้นเหตุของความหงุดหงิดก่อนจะเข้าไปประชิดร่างอีกครั้ง



    จะให้บอกหรืออย่างไร ว่าผู้ชายคนนั้นมันก็แค่ส่วนหนึ่ง แต่ทั้งหมดที่เขากำลังคิดมากอีกฝ่ายคงไม่รู้เลยแม้แต่นิด


    เลิกร้องได้แล้วเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเสียแผ่วเบาห่างกับใบหูเพียงนิด และนั่นก็ทำให้คนที่ร้องไห้พยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ แต่ยิ่งกลั้นก็ยิ่งร้องไปใหญ่ แพคฮยอนทรมานเหลือเกินที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ น่ารำคาญอย่างนี้ไม่นานก็คงถูกทิ้งเข้าสักวัน

    เงียบได้แล้ว

    ฮึก...



    จงอินถอนหายใจหนักกว่าเดิม ก่อนจะคว้าเอาร่างตรงหน้ามากอดไว้ เขาไม่พูดอะไรกับเรื่องพวกนี้ที่ไม่มีเหตุผลนัก จงอินยืนกอดแพคฮยอนเอาไว้อย่างนั้น ปล่อยให้เวลาผ่านไปไม่นานคนในอ้อมกอดก็เริ่มนิ่งแล้ว แก้มขาวๆที่แนบอยู่กับปลายจมูกของเขาก็ทำให้อารมณ์เดิมเริ่มกลับมาอีก


    ถ้าฉันหอมนายที่แก้มตรงนี้ ก็ห้ามให้ใครมาหอมอีก

    “...........”

    เข้าใจมั้ยที่บอก

    ขะ เข้าใจครับแพคฮยอนรีบพยักหน้าอยู่ในอ้อมอกของจงอินราวกับลูกนกตัวน้อยที่ไม่ประสาอะไร เห็นอย่างนั้นคนเอาแต่ใจเลยอมยิ้มออกมา เรือนผมนุ่มหอมเสียจนจงอินอดจะก้มลงสูดดมไม่ได้ ใบหน้าคมซุกไซร้ลงมาตามแก้มเนียนและถูกดึงให้ติดกับจนถอนตัวไม่ขึ้น


    แรงทุบเบาๆเพราะไม่ต้องการนั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาสนใจอะไร


    รู้เพียงแค่ต้องการ เขากำลังต้องการคนๆนี้ ร่างกายที่ครอบครองเอาไว้คนเดียวอาจจะยังไม่พอ หัวใจด้วยที่จงอินต้องการ ..และไม่ยอมยกให้ใครเด็ดขาด

    หยุดเถอะครับคุณจงอิน

    อือ .. อย่าดิ้นน่ะ

    ขณะที่ร่างสูงกำลังกอดจูบระรานร่างกายนี้เสียจนเสื้อผ้าที่ใส่อยู่เริ่มจะแยกออกจากกัน หารู้ไม่ว่าหัวใจคนที่ถูกกระทำกลับรู้สึกบอบช้ำอย่างสุดจะบรรยาย


    แพคฮยอนน้ำตาตกในทุกทีที่ต้องยอมรับกับสภาพของตัวเอง เขารู้ดีว่าก็แค่ที่ระบาย แค่ที่ต้องการทางร่างกาย ไม่เคยได้ความรักอย่างตัวจริงที่จงอินมีอยู่แล้ว

    ใจดวงนี้กำลังร้องไห้ให้กับตัวเอง กับร่างกายที่ถูกใช้เป็นที่รองรับอารมณ์ใคร่อย่างทุกครั้งไป





    ก๊อก ก๊อก !!



    จงอิน อยู่รึเปล่าเนี่ย



    เสียงหวานใสจากด้านนอกห้องทำงานขัดให้ทุกอย่างภายในห้องต้องหยุดชะงักไปจนหมดสิ้น เจ้าของชื่อเมื่อได้ยินก็นิ่งไปก่อนที่จะรีบผละออกจากร่างเล็กที่ดันตัวเองออกเช่นกัน ทั้งสองตกใจจนไม่ทันได้ตั้งตัว แพคฮยอนรีบก้มหน้าดึงปกเสื้อตัวเองให้เข้าที่เข้าทางอย่างรีบร้อน ต่างกับจงอินที่เพียงแค่ดึงคอเสื้อตัวเองให้เข้าที่นิดๆหน่อยๆอย่างไม่ได้ตกใจอะไรมากมายนัก


    แล้วลูฮานก็ผลักประตูเข้ามาทันทีกับที่ทั้งสองยืนหันหน้าออกมา ร่างบางยิ้มกว้างให้แพคฮยอนที่ยิ้มกลับก่อนจะก้มหน้าก้มตาเก็บเอาแฟ้มงานบนโต๊ะจงอินออกมาเพื่อความสะดวกที่จะได้นั่งคุยกับคุณลูฮาน


    ไม่เป็นไรหรอกแพคฮยอน ไว้ตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันก็ไปแล้ว

    แต่ว่า..

    เอาน่า เชื่อสิลูฮานทำหน้าเป็นเชิงว่าไม่อยากให้ลำบาก แต่เจ้านายตัวจริงกลับตรงกันข้าม

    ไปเอาน้ำมาให้คุณลูฮานด้วยนะ

    ครับแพคฮยอนก้มหน้ารับคำสั่ง แม้มันจะดูเย็นชาต่างจากก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์คิดอะไร

    คุณมีอะไรล่ะ มาไม่บอกก่อนเลยนะลูฮาน

    แหม ..จะอะไรซะอีกล่ะ เมื่อคืนนายลืมโทรศัพท์ไว้น่ะสิ ไม่รีบเอามาให้เดี๋ยวก็เสียงานการแย่

    นั่นสิ .. นี่ผมลืมได้ไงเนี่ย ขอบคุณมากนะลูฮาน ไม่ได้คุณคงแย่

    ไม่เป็นไร ฉันกับนายก็คบกันมานาน เรื่องแค่นี้ฉันไม่ช่วยแล้วใครจะช่วย


    แพคฮยอนได้ยินที่ทั้งสองคุยกันก่อนจะออกจากห้องไป ยิ่งเห็นคนรักอยู่ด้วยกันก็ยิ่งช้ำใจ เห็นความห่วงใยพวกนั้นก็ยิ่งย้ำให้รู้ว่าเขาก็แค่ตัวสำรอง ไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งเท่าตัวจริงของเค้าอยู่แล้ว






    ผ่านไปไม่นานนัก ลูฮานก็ออกมาจากห้องของจงอิน ชายหนุ่มหยุดยืนข้างกับแพคฮยอนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานของตัวเอง

    จะกลับแล้วเหรอครับคุณลูฮาน

    อื้ม .. ว่าแต่ว่าคุณเจ้านายคนนี้คงเอาแต่ใจมากเลยสินะ

    ว่าไงนะครับ

    ฉันหมายถึงว่า เจ้านายของนายเนี่ย หน้าบูดจริงนะ ไงก็ฝากดูแลด้วยล่ะ คุณเลขาคนเก่งคงทำได้แน่ว่าแล้วก็ยิ้มกว้างมาให้ เล่นเอาแพคฮยอนรู้สึกกระตุกวูบลงไปที่ใจ เขายิ้มกลับพลางพยักหน้าตามคำของคู่หมั้นเจ้านาย

    ขอบใจนะแพคฮยอน ฉันไปล่ะ


    คุณลูฮานที่แสนดีและมาพร้อมกับร้อยยิ้มกำลังเดินจากเขาไปพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจเช่นเคย แต่เขาคงไม่มีทางรู้หรอกว่ารอยยิ้มที่ให้มามันจะแลกกับความรู้สึกผิดที่แพคฮยอนมีอยู่เต็มอก

    คุณลูฮานอุตส่าห์ไว้ใจให้ดูแล แต่สิ่งที่เขาทำนี่สิ มันผิดมหันต์เหลือเกิน


    .. สมแล้วกับสิ่งที่ได้กลับมา พยอนแพคฮยอนคนนี้เลยต้องทุกข์ทรมานเพราะบาปกรรมที่ทำเอาไว้ ต้องเป็นคนในมุมที่ปิดซ่อน ไม่มีวันได้เป็นตัวจริง ไม่มีทางได้ความรักของแท้จริงจากหัวใจ


    ไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็กลับเข้าไปในห้องของจงอินพร้อมกับกาแฟหนึ่งถ้วยตามที่คุณลูฮานอยากจะให้ใส่ใจ



    วางไว้ตรงนั้นแหละ

    เสียงทุ้มเอ่ยอย่างปกติทั้งที่ก้มหน้าก้มตาจัดการกับงานของตัวเองอยู่ แพคฮยอนชะงักไปเล็กน้อย แต่เขาก็เก็บเอาไว้อย่างคนไม่มีสิทธิ์เช่นเดิม ไม่ได้อยากจะให้มาสานต่อจากก่อนหน้านี้หรอกนะ แค่มันน้อยใจที่อีกฝ่ายอยากยุ่งด้วยก็มา อยากจะเฉยใส่กันก็ทำ เหมือนกับเขามันไม่มีหัวใจเสียเลย

    ขณะที่สองขาก้าวมายังประตูห้อง ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น จงอินรับสายอย่างปกติ


    ว่าไงลูฮาน ... คุณขับรถอยู่เหรอร่างสูงลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานพลางเดินไปยังหน้าต่างบานกว้างเพื่อมองออกไปยังด้านนอกตัวตึก


    ไม่เห็นว่าใครบางคนกำลังหันมองมาที่เขาด้วยแววตาเศร้าๆ แพคฮยอนถอนหายใจแผ่วเบาเหมือนคนกำลังหายใจไม่ออก ถ้วยกาแฟที่ตั้งใจชงไม่นานมันก็คงเย็นชืดอยู่อย่างนั้น และรสชาติจืดสนิทก็คงจะเทียบไม่ได้เลยกับความหอมหวานของความรักที่พวกเขามีให้กัน


    ใบหน้ายิ้มแย้มกับท่าทางกระตือรือร้นของจงอิน ยิ่งเห็นก็ยิ่งตอกย้ำเป็นอย่างดีว่าที่ตัวเองได้ก็แค่ชั่วคราว ไม่ใช่ของจริง ไม่มีทางเป็นจริง


    ไม่อยากเห็น แพคฮยอนเดินออกมาด้วยหัวใจที่แหลกละเอียดกับหนทางที่ตัวเองเป็นฝ่ายเลือกเองอย่างทุกครั้ง




    ---------------




    สามวันผ่านไปแล้วกับการที่จงอินไม่อยู่ ครั้งนี้แพคฮยอนไม่ได้เดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศด้วยกัน อีกฝ่ายไปคนเดียวโดยที่เขาเองต้องอยู่ที่นี่คนเดียว ซึ่งไม่กี่วันจงอินก็จะกลับมาแล้ว แต่นั่นก็เหมือนเคย ถึงมันไม่มีความหมายอะไรแต่แพคฮยอนก็ยอมแลกความเจ็บกับการเป็นสุขที่ได้อยู่ใกล้จงอิน



    นั่นมัน....ขณะที่กำลังเดินปล่อยอารมณ์ไปกับบรรยากาศรอบข้างของย่านการค้าตอนพลบค่ำในวันหนึ่ง ความเหงาที่มีกระเจิงหายไปหมดเมื่อความสนใจของแพคฮยอนวิ่งมารวมกันอยู่ที่ภาพตรงหน้าของเขา


    ห่างออกไปไม่ไกลแต่เห็นได้ชัดเจน เขาจำได้ดีว่านี่ไม่ผิดแน่ถ้าจะเป็นคู่หมั้นของเจ้านายตัวเอง แพคฮยอนเห็นลูฮานไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ที่มักแปลกเพราะเขาดูออกน่ะสิ อีกฝ่ายไม่ได้อยู่คนเดียวแต่กำลังเดินจับมืออยู่กับใครอีกคน ผู้ชายร่างสูงโปร่งใบหน้าหล่อเหลาที่มองเผินๆราวกับนายแบบที่หลุดออกมาจากนิตยสารหรือหน้าจอโทรทัศน์


    ให้ตายสิ คนเป็นเพื่อนกันคงไม่ทำอะไรที่แพคฮยอนคิดว่ามันเกินเลยกว่านั้นหรอก คนทั้งสองไม่ได้รู้หรอกว่าเขากำลังมองอยู่ ในสายตาเหมือนจะมีกันและกันจนไม่ได้สนใจคนภายนอกเลย ก็ไม่ผิดหรอกนะ เหมือนคนรักกันอยู่ด้วยกันปกตินั่นแหละ


    และหากจะผิด .. คุณลูฮานทำแบบนี้ได้ยังไง


    ร่างของแพคฮยอนหลบออกมาอีกทางเมื่อเห็นว่าคนทั้งสองกำลังเดินผ่านเข้ามาใกล้ เขาเร่งฝีเท้าเดินห่างออกไปให้ไกลกว่าเก่าและพยายามไม่ให้เป็นที่สังเกตของลูฮาน

    สมองที่มีอยู่เริ่มประมวลเหตุการณ์เพียงแค่ฉากเดียวที่เขาได้เห็น แต่ไม่ว่ายังไงมันก็คือเรื่องจริง แพคฮยอนรู้สึกว่าหัวใจมันกระตุกวูบทันทีเมื่อนึกถึงใบหน้าของใครอีกคน

    จงอินจะรู้สึกยังไงนะถ้ารู้เรื่องนี้ เขาจะคิดมาก จะร้องไห้ จะเสียใจมากแค่ไหนถ้ารู้ว่าคนรักของตัวเองกำลังนอกใจ แพคฮยอนเจ็บขึ้นมาที่อกอย่างไม่มีเหตุผล เพียงแค่นึกว่าจงอินจะต้องเจ็บปวดและเสียใจ เขาก็แทบจะทนไม่ได้


    ทำแบบนี้กับคุณจงอินได้ยังไงกันคุณลูฮาน





    จากวันนั้นมาแพคฮยอนก็เก็บเรื่องนี้มาครุ่นคิดจนบางทีเขาแทบนอนไม่หลับ สำหรับคนอื่นแล้วน่าจะต้องดีใจหากว่าทั้งสองจะต้องเลิกกัน แต่นี่มันไม่ใช่ แพคฮยอนไม่เคยคิดเข้าข้างตัวเองสักนิด เพราะเรื่องที่ทำจิตใจมันว้าวุ่นก็คงหนีไม่พ้นความรู้สึกของใครบางคนที่เขานึกถึงขึ้นมาเป็นอันดับแรก


    แพคฮยอนไม่รู้ว่าจงอินรู้หรือไม่ เขาไม่แน่ใจว่านี่มันเรื่องอะไรกัน


    แล้วผมต้องทำยังไง ถึงคุณกลับมาแล้วผมจะบอกยังไงว่าแล้วก็ถอนหายใจอยู่กับตัวเองอย่างหมดทาง แพคฮยอนจะบอกก็บอกไม่ได้ จะปิดไว้ก็กลัวว่าสักวันคนที่เจ็บจะเป็นคนที่ถูกนอกใจ






    ต่อให้สวรรค์คิดจะลงโทษคิมจงอินให้ได้รับผลกับสิ่งที่ตัวเองทำยังไง
    แต่พยอนแพคฮยอนคนนี้ที่ยกหัวใจให้หมดก็ยังคงเลือกที่จะเข้าข้างอยู่ดี











    .

    .



    Tbc. Part 3










    สวัสดีค่ะ^^

    เกือบลืมมาลงซะเลยนะเนี่ย
    ชีวิตวุ่นวายมาก เรื่องนี้เป็นฟิครีเวอร์ชันไคแบค เคยลงที่บ้านใหญ่ไปแล้วด้วยน่ะนะคะ
    คาแร็คเตอร์ไม่ใช่แบคลูกเลย (หม่ามี้ขอโทษ = A =) เรื่องหน้าละกันนะ หุหุ
    มีคอมเมนท์เล็กๆน้อยๆให้ชื่นใจด้วย ขอบคุณนะคะที่ติดตาม

    เจอกันพาร์ทหน้าค่ะ ^^V

     

     

    ปล.ขอโปรโมทนิดๆ ใครที่เมนพยอนแพค ลองอ่านเรื่องนี้ดูนะคะ
    [
    SF] Choose ... (Baekhyun x Chanyeol x D.O.)
    http://writer.dek-d.com/gorn-dbsk/writer/view.php?id=873301



     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×