ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] Play Boy's GAME (Chanyeol x Baekhyun) | END.

    ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.29K
      23
      23 ก.ย. 55

     CHAPTER  3

    23.9.12

     

     

     

     

    ปัง!

     

    เสียงปิดประตูดังก้องไปทั่วโสตประสาทของปาร์คชานยอล  และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก!

     

    บยอนแบคฮยอนปิดประตูชมรมใส่หน้าเขาวันละสามร้อยรอบมาได้ติดต่อกันสามวันแล้ว!

     

    “ที่บ้านไม่สอนมารยาทนายบ้างรึไงไอ้หมาน้อย!”เสียงทุ้มตะโกนข้ามบานประตูไปเพื่อให้อีกคนได้ยิน  มือก็พยายามง้างเปิดประตูชมรมออกมาให้ได้  แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกคนเอาแรงมากมายมาจากไหน  ไอ้เจ้าประตูจอมปัญหานี่ถึงได้ไม่ขยับสักกะมิลเดียว!

     

    “สอนเว้ย!  แต่ไม่จำเป็นต้องใช้กับนายไอ้เสาไฟฟ้าหน้าเอ๋อ!”เสียงด่าตอบโต้กลับมาทำให้ปาร์คชานยอลมั่นใจว่าแรงวัวแรงความอย่างนี้เป็นของบยอนแบคฮยอนจริงๆ

     

    เขาล่ะสงสัยนัก...ตัวแค่นั้นไปเอาแรงมาจากไหนเยอะแยะ!

     

    “แบคกี้มายืนขวางประตูทำไม?”

     

    “เฮ้ย!

     

    ครืดดดดดดดดดด~

     

    โครม!

     

    เสียงหวานๆของนางฟ้าประจำใจดังขึ้นเรียกให้แบคฮยอนที่กำลังดึงประตูอย่างสุดฤทธิ์สะดุ้งตัวโยน  มือเรียวเผลอปล่อยให้บานประตูได้เลื่อนไปยังทิศทางที่มีแรงมากระทำอย่างที่มันควรจะเป็น  ส่งผลให้คนกระทำล้มตึงลงไปกองกับพื้นตามแรงที่ตัวเองใส่ไปเต็มที่ทันที

     

    ชานยอลรีบลุกขึ้นยืนปัดฝุ่นดินตามตัวแล้วส่งยิ้มหวานกลับมาให้ผู้มาใหม่ทันที

     

    “อ้าวชานยอล...มีอะไรเหรอ?”ลู่หานแอบขำน้อยๆกับเด็กหนุ่มตัวสูงที่กำลังยืนมองเขาด้วยใบหน้าเขินอายกับเหตุการณ์เมื่อครู่นี้

     

    “คือพรุ่งนี้วันหยุดพี่ลู่หานว่างมั๊ยครับ?”บยอนแบคฮยอนหูผึ่งทันทีที่ไอ้เสาไฟฟ้าเริ่มเปิดประเด็น

     

    “พรุ่งนี้เหรอ?  ก็ว่างนะ...ทำไมเหรอ?”คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเล็กน้อยอย่างคนใช้ความคิด  ก่อนที่เสียงหวานจะเอ่ยตอบพร้อมกับรอยยิ้มหวานเรียกคะแนนความชอบจากชานยอลได้อีกมากโข

     

    “มีร้านไอศกรีมเปิดใหม่ใกล้สถานนีรถไฟ...พี่อยากไปกินสักหน่อยมั๊ยครับ?”เสียงทุ้มเอ่ยถาม  ใบหน้าหล่อเหลาบรรจงส่งรอยยิ้มหวานมาให้ลู่หานอย่างออดอ้อน

     

    “พี่ลู่หาน  ผมอยากกินไอติมอ่ะ  ไปกันเหอะ...ยังไงไอ้...เอ๊ย! ชานยอลก็เลี้ยงอยู่แล้วล่ะ!”บยอนแบคฮยอนตีหน้าใสซื่อทำเสียงไร้เดียงสาก่อนจะพูดกับนางฟ้าคนงามเหมือนเด็กที่อยากกินไอติม(ซึ่งมันอยากกินจริงๆ)

     

    “ชานยอลจะเลี้ยงงั้นเหรอ?  งั้นดีเลย  ไปกันหลายๆคนจะได้สนุก!”ลู่หานพูดก่อนริมฝีปากบางจะฉีกยิ้มกว้างอย่างถูกใจ

     

    “ครับ”ชานยอลรับคำก่อนจะแอบชำเลืองมองไปยังร่างบางของอีกคนที่กำลังยืนส่งยิ้มเยาะเย้ยมาให้เขาอย่างหน้าหมั่นไส้

     

    ...ร้ายนักนะบยอนแบคฮยอน...

     

    ...ข้อควรระวังอีกข้อที่ปาร์คชานยอลพึงระวัง...

     

    ...อย่าชวนใครออกเดตเมื่อมีบยอนแบคฮยอนอยู่แถวนั้นเด็ดขาด! ไม่งั้นจะมีหมาฝาก(?)ติดไปด้วยแน่ๆ!...

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

     

    “นายจะแต่งมาเต็มยศทำไม?”เสียงหวานๆที่แสนจะยียวนกวนประสาทสำหรับปาร์คชานยอลดังขึ้นทันทีที่เขาเดินเข้ามาถึงจุดนัดพบ

     

    บยอนแบคฮยอนในชุดลำลองดูภูมิฐาน  เสื้อเชิ้ตลายทางสีแดงขาวกางเกงสเลคพับขาสีน้ำตาลอ่อน  ประกอบกับรองเท้าหนังสีน้ำตาลมันวาบ  แล้วไหนจะแว่นกันแดดแบรนด์เนมนั่นอีก...

     

    ...ยังมีหน้ามาบอกว่าเขาเต็มยศอีกเหรอ?

     

    “ก่อนออกจากบ้านนี่ส่องกระจกบ้างมั๊ย?  มาทานไอติมนะไม่ได้เดินแฟชั่นโชว์”ริมฝีปากบางๆนั่งยังคงเอาแต่พ่นคำเหน็บแนมเขา  ชานยอลได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงๆ  ร่างสูงอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขาเดปสีดำรองเท้าผ้าใบคู่โปรด  ด้านนอกสวมทับด้วยเสื้อโค้ทยาวสีน้ำตาลอ่อนเพื่อป้องกันอากาศที่เริ่มจะเย็นตัวลงบ้างแล้ว

     

    “เกาะคนอื่นเค้ามากินแล้วยังจะบ่นอะไรอีกไอ้เตี้ยหมาตื่น”สรรพนามของบยอนแบคฮยอนที่ถูกเลื่อนขั้นแล้วเรียบร้อยเรียกให้ดวงตาคู่สวยภายใต้แว่นกันแดดราคาแพงต้องตะหวัดมองด้วยความไม่พอใจ

     

    “ใครเตี้ยวะไอ้เสาไฟฟ้าหน้าเอ๋อ!

     

    “พุ่มไม้ข้างๆนายไง...”ตอบหน้าตายเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ

     

    ...ปาร์คชานยอลบรรลุแล้วว่าการที่จะต่อสู้กับบยอนแบคฮยอนต้องเอาหน้าตายเข้าชนเท่านั้น!

     

    “ฉันไม่ได้เตี้ยเว้ย!  ขนาดฉันน่ะมาตรฐานชายเกาหลี...แกมันสูงเกินไปตะหาก!”เสียงหวานแหวออกมาอีกชุดใหญ่โดยไม่ได้สนใจเลยว่าจะมีผู้คนหันมามองพวกเขาหรือไม่

     

    ...ทำหน้าตายใส่  เดี๋ยวบยอนแบคฮยอนมันก็ร้อนตัวยอมรับเองนั่นแหละ!

     

    “มาตรฐานลูกหมาใช่มั๊ย?”ถามหน้าตายอีกรอบ

     

    “ไอ้!”หมดคำด่าแล้วจริงๆ  บยอนแบคฮยอนได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันจ้องหน้าเอ๋อๆมึนๆของอีกคนเท่านั้น

     

    “มากันเร็วจัง”เสียงหวานๆที่ดังขึ้นไม่ไกลนัก  หยุดสงครามย่อมๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าได้อย่างชะงัก

     

    “อ้าว....ทำไมพวกนายแต่งตัวดีจังล่ะ  อย่างงี้ฉันดูเหมือนคนใช้ไปเลยสิ”ลู่หานเอ่ยก่อนจะพองลมที่แก้มอย่างน่ารัก

     

    ....ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ปาร์คชานยอลและบยอนมีความคิดเห็นตรงกัน...

     

    ...แต่งยังไงลู่หานก็น่ารักทั้งนั้นแหละ!

     

    “ไม่หรอกครับพี่...ผมว่าพี่แต่งสบายๆแบบนี้ดูน่ารักดีออกครับ  ไม่เหมือนบางคนที่จัดมาซะเต็มแต่ก็งั้นๆ...”พูดเสียงอ่อนเสียงหวานก่อนจะเหลือบไปมองอีกคนที่ว่าด้วยหางตา

     

    “ใช่ครับ...ผมว่าพี่น่ารักจริงๆแหละครับ  ไม่เหมือนใครบางคนที่เหน็บแนมเรื่องการแต่งตัวของคนอื่นแต่ไม่มองตัวเองเลยน่ะครับ...”พูดจบก็ทำเป็นมองต่ำ  เจอเข้ากับดวงตาสวยของคนที่ถูกพาดพิงราวกับมีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่อย่างบ้าคลั่ง

     

    “เอ่อ...พี่เริ่มหิวแล้วล่ะ  เราไปกันเลยดีกว่านะ”เมื่อเห็นเมฆครึ้มแห่งสงครามที่กำลังเคลื่อนคล้อยเข้ามาใกล้  ลู่หานจึงเอ่ยปากเพื่อทำให้บรรยากาศมันดีขึ้นกว่าเดิมอีกสักหน่อย

     

    “ทำหน้าเป็นหมาปวดฉี่เลยนะนาย”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนจะเหลือบมองคนที่นั่งอยู่เก้าอี้ข้างๆตน  ใบหน้าสวยของบยอนแบคฮยอนกำลังย่นยู่ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างที่ปาร์คชานยอลไม่อาจทราบได้

     

    “นายบอกว่าใครเหมือนหมานะไอ้ยีราฟ!”แล้วก็เป็นอนิจจาของโลกที่บยอนแบคฮยอนจะต้องตอบโต้กลับมาด้วยอาการที่เรียกว่าเหวี่ยงเหมือนเดิม

     

    “นั่นสิแบคกี้...นายเป็นอะไรรึเปล่า  หน้าตาไม่ค่อยดีเลยนะ?”ลู่หานที่หันมาสังเกตใบหน้าสวยของรุ่นน้องก็อดที่จะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้

     

    “อ่า...งั้นผมขอตัวแป๊บนึงนะครับพี่  เดี๋ยวกลับมา...”เมื่อเห็นลู่หานพยักหน้าให้เป็นการอนุญาตบยอนแบคฮยอนก็จัดการระเห็จตัวเองพุ่งเข้าห้องน้ำทันที

     

    ที่ทำหน้ายู่ก็เพราะว่าเขาปวดฉี่น่ะสิ!

     

    แต่ลางสังหรณ์มันบอกว่าอย่าละสายตาจากไอ้เสาไฟฟ้าเด็ดขาดไม่งั้นล่ะก็เป็นเรื่องแน่!

     

     

     

     

     

    “พี่ลู่หาน...”เสียงทุ้มเอ่ยเรียกอีกคนทันทีที่เห็นร่างบางของ  กขค. เดินลับสายตาไป

     

    “หือ?”เสียงหวานขานรับ  ดวงตากลมจ้องมองคนเรียกด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย

     

    ฉึก!

     

    ปาร์คชานยอลโดนรังสีโมเอะทิ่มแทง!

     

    “ไปกันเถอะครับ”ชานยอลเอ่ยก่อนเด็กหนุ่มจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง  สร้างความงงงวยให้กับอีกคนที่เพิ่งจะหย่อนตัวนั่งที่เก้าอี้ได้ไม่นานเป็นอย่างมาก

     

    “ไปไหน?”

     

    “เดตครับ!”พูดจบมือหนาก็คว้าข้อมือบางของอีกคนก่อนจะออกแรงยื้อให้อีกคนลุกตามตนเองมา  ซึ่งมันก็ได้ผลเป็นอย่างดี  ลู่หานยอมปล่อยให้อีกคนลากไปตามที่ต้องการ

     

    “แล้วแบคกี้ล่ะ?”

     

    “แบคฮยอนเขาอยากให้เราไปเดตกันครับนี่เป็นแผนของเขา!”พูดเองแหลเองแบบสดๆ  เมื่อเห็นใบหน้าหวานของอีกคนซับสีเรื่อปาร์คชานยอลก็เผยยิ้มกว้างอย่างพออกพอใจ

     

    ...ลุกเสียหมา(?)น่ะเคยได้ยินมั๊ยบยอนแบคฮยอน!!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

    เลวมาก!!!!!

     

    หลังจากที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จบยอนแบคฮยอนก็รีบพาตัวเองกลับมายังโต๊ะของพวกเขาทันที  แต่เมื่อกลับมาถึงไอ้โต๊ะนั่นมันกลับว่างเปล่าน่ะสิ!

     

    ไม่ต้องเดาอะไรให้มากความบยอนแบคฮยอนก็หยั่งรู้ได้ทันที...

     

    ฝีมือปาร์คชานยอลแน่นอน!

     

    คิดว่าจะหนีเขาพ้นงั้นเหรอ?

     

    แค้นนี้ต้องชำระน่ะเคยได้ยินมั๊ยปาร์คชานยอล!!!

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    ย่านการค้าชื่อดังใจกลางเมืองกำลังคลาคล่ำไปด้วยผู้คน  บ้างก็พากันออกมาจับจ่ายซื้อของใช้จำเป็นเข้าบ้าน  บางคนก็ใช้ที่นี่เป็นสถานที่เที่ยวผ่อนคลายกำเพื่อนฝูง  ร่างสูงของใครบางคนกำลังก้าวขายาวๆอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้สนใจคนที่ตนเองลากมาด้วยเลยแม้แต่นิดเดียว

     

    “ชานยอล...เดินช้าๆหน่อยได้มั๊ย?”เสียงหวานปนเสียงหอบเอ่ยขึ้นเบาๆจากด้านหลังทำให้ชานยอลเพิ่งรู้สึกตัว  ขายาวๆของเด็กหนุ่มจึงลดระยะการก้าวลงมากเพื่อให้อีกคนก้าวเท้าตามทันได้อย่างไม่เหนื่อยมากนัก

     

    “โอ๊ะ!”เสียงหวานของคนข้างๆอุทานขึ้นเรียกให้ชานยอลต้องหันไปให้ความสนใจ  ใบหน้าหวานกำลังหันไปให้ความสนใจกับอะไรบางอย่างที่วางขายอยู่ข้างทาง  ดวงตาคู่สวยพราวระยิบด้วยความตื่นตาตื่นใจ

     

    “นี่ๆ...ชานยอลนายดูนี่สิ!”พูดจบมือเล็กก็คว้าสร้อยคอเส้นสวยที่ประดับไปด้วยจี้รูปดาวน่ารักขึ้นมาให้เขาดู

     

    “น่ารักมั๊ย?”ลุ่หานเอ่ยถามเสียงใส  ดวงตากลมจ้องมองเด็กหนุ่มร่างสูงปริบๆอย่างรอคำตอบ  ชานยอลอดที่จะยิ้มไปกับความน่ารักของอีกคนไม่ได้

     

    “ผมว่าก็งั้นๆอ่ะ...”เสียงทุ้มเอ่ยออกมาเรียบๆเรียกให้ใบหน้าหวานงอง้ำลงอย่างเห็นได้ชัด

     

    “...พี่ลู่หานน่ารักกว่าตั้งเยอะ”ชานยอลพูดก่อนมือใหญ่จะเอื้อมไปสัมผัสกับปอยผมด้านข้างขางคนตัวเล็กกว่าอย่างหลงใหล  นัยน์ตาสีนิลสวยจ้องตรงไปยังดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของอีกคนจนเจ้าของต้องเบือนหน้าหนีด้วยความเก้อเขิน

     

    ลู่หานค่อยๆวางสร้อยเส้นนั้นลงที่เดิมก่อนจะเดินก้มหน้าก้มตาออกไปจากตรงนั้นทันที  ชานยอลมองตามแผ่นหลังบางของอีกคนที่ห่างออกไปช้าๆก่อนริมฝีปากได้รูปจะเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู

     

    ...ยิ่งมองเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าลู่หานน่ารักน่าทะนุถนอมไม่เหมือนกับ...

     

    แล้วนี่จะไปคิดถึงใบหน้ากวนๆของไอ้ลูกหมาทำไมเนี่ย!

     

     

    “เท่าไหร่ครับ?”หลังจากที่ตบตีกับความคิดของตัวเองเสร็จแล้วปาร์คชานยอลก็จัดการหันไปถามราคาสร้อยคอเส้นสวยกำแม่ค้าทันที

     

    “...เดตกับพี่ลู่หานนะปาร์คชานยอล”พูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะยิ้มกว้างแล้ววิ่งตามร่างบางของอีกคนไปทันที

     

     

     

     

     

    “ฮะๆๆๆ  เหมาะกับนายมากเลย!”เสียงหวานเอ่ยไปหัวเราะไปอย่างสดใส  มือเรียวเอื้อมมือไปจัดการกับหมวกรูปยีราฟหน้าตาตลกที่อยู่บนหัวของอีกคนให้เข้าที่

     

    ...ผู้ชายที่หน้าเหมือนยีราฟกำลังใส่หมวกยีราฟ...

     

    ฟึ่บ!

     

    “นี่แน่ะ!”ชานยอลจัดการคว้าหมวกรูปหมูสีชมพูน่ารักน่าชังสวมลงบนหัวของคนที่เอาแต่หัวเราะเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย

     

    “อะไรอ่ะ?”เสียงหวานเอ่ยถามก่อนจะคว้าหมวกลงมาดู

     

    “หน้าเหมือนพี่เลย...ฮ่าๆๆๆๆ”ว่าแล้วก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งแต่เสียงหัวเราะก็ต้องหายไปกระทันหันเมื่อมีแรงหนักๆมาเตะเข้าที่หน้าแข้งของเขา

     

    “ชานยอลอ่ะ!”เสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างงอนๆก่อนจะง้างเท้าแตะเข้าไปที่หน้าแข้งอีกข้างของปาร์คชานยอลไม่เบานัก  เล่นเอาเด็กหนุ่มหน้าเขียวไปได้เหมือนกัน

     

    เออ!  เขาลืมไปว่าพี่ลู่หานเป็นอดีตกับตันชมรมฮับคิโด้!

     

    “ว้าว~ นั่นไอติมนี่!”เสียงหวานร้องลั่นก่อนนิ้วเรียวจะชี้ไปยังรถขายไอศกรีมที่กำลังถูกรุมล้อมไปด้วยเด็กตัวเล็กๆ  ชานยอลที่กำลังเดินกะเพลกๆเพราะความเจ็บปวดที่หน้าแข้งยังไม่หายไปเลยได้แต่ส่งยิ้มแหยๆไปให้อีกคน

     

    เป็นเวลานานพอสมควรที่ชานยอลจะฝ่ากลุ่มเด็กตัวเล็กๆเข้าไปได้  ไม่ใช่แทรกไม่ได้นะแต่กลัวเดินเข้าไปตรงๆเข่าจะไปกระแทกหัวเด็กน้อยเข้าสักคนน่ะสิ!

     

    “ช้าจัง....”ลู่หานที่นั่งรอเด็กตัวสูงไปซื้อไอศกรีมพอเห็นร่างโย่งๆเดินกลับมาก็เบะปากบ่นน้อยๆอย่างน่ารัก

     

    “...ขอโทษครับก็คนมันเยอะอ่ะ”ชานยอลเอ่ยขอโทษเบาๆก่อนจะยื่นไอศกรีมในมือให้อีกฝ่าย

     

    “ไม่รู้ล่ะ...ฉันรอนานมากเพราะงั้นต้องโดนทำโทษ!”เสียงหวานเอ่ยเสียงเด็ดขาด  ใบหน้าน่ารักนั้นตีหน้าจริงจังอย่างที่ตนพูด

     

    แต่ปาร์คชานยอลกลับมองว่ามันน่ารัก....

     

    งั่ม!

     

    ริมฝีปากเล็กจัดการขโมยไอศกรีมของอีกคนเข้าปากทันทีที่พูดจบ

     

    “เฮ้ย!!!  พี่เอายอดมันไปเหรอ???”ปาร์คชานยอลร้องลั่นเมื่อเห็นว่าไอศกรีมส่วนที่อยู่ในปากของร่างบางนั้นคือยอดของไอศกรีมที่แสนอร่อยของเขา

     

    โถ่!!  นี่ปาร์คชานยอลเล็งมานานมากเลยนะ

     

    “สม!”พูดจบก็จัดการกินยอดไอศกรีมของตัวเองทันทีป้องกันการถูกขโมยไปโดยอีกฝ่าย

     

    “ร้ายนักนะพี่ลู่หาน!”ชานยอลเอ่ยขึ้นก่อนจะอ้าปากงับเอาไอศกรีมของคนตัวเล็กหายไปเกือบครึ่ง!  ดวงตาสวยเบิกกว้างก่อนริมฝีปากบางจะเบะออกเล็กน้อยอย่างไม่พอใจ

     

    “ชานยอลนั่นแบคฮยอนรึเปล่าน่ะ!”เสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างตกใจ  นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังด้านหลังของเขา

     

    เมื่อมีชื่อของมารความรักของเขาดังขึ้นจากอีกคนปาร์คชานยอลก็หันไปสนใจอย่างเสียไม่ได้  แต่เมื่อหันไปก็พบเพียงความว่างเปล่า...  หรือว่า!!?

     

    งั่ม!

     

    ไอศกรีมของปาร์คชานยอลหายไปอีกกว่าครึ่งด้วยฝีมือของคนสวยที่มาด้วยกัน  ใบหน้าสวยแสดงออกมาว่าไอศกรีมนั้นอร่อยนักหนาเพื่อเป็นการเยาะเย้ยอีกฝ่าย

     

    “เล่นอย่างนี้ใช่มั๊ยพี่ลุ่หาน!”และแล้วทั้งสองก็แย่งไอศกรีมของอีกคนกินกันอย่างสนุกสนานโดยไม่สนใจเลยว่าผู้คนที่สวนสาธารณะนั้นจะมองพวกเขายังไง

     

    ปาร์คชานยอลแค่คิดว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เขามีความสุข...เท่านั้นแหละ

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    อยู่ไหนวะ?!

     

    อย่าให้เจอนะ!  การเดตโง่ๆต้องโดนทำลายแน่นอน!

     

    บยอนแบคฮยอนรับประกันเลย!

     

    ถ้าใครเดินผ่านย่านการค้าชื่อดังใจกลางเมืองล่ะก็จะพบกับสิ่งมีชีวิตประหลาดที่กำลังเดินบ่นคนเดียวเหมือนลูกหมาหิวนม(?)

     

    บยอนแบคฮยอนกำลังหงุดหงิดงุ่นง่านระยะสุดท้าย...

     

    เพราะอะไรน่ะเหรอ?

     

    ก็ไอ้เสาไฟฟ้าหน้าโง่มันพาพี่ลู่หานคนงามของเขาหนีหายไปไหนก็ไม่รู้น่ะสิ!

     

    ตั้งแต่เช้าเขาก็เดินตามหาสองคนนั้นทั่วไปหมด  ร้อนก็ร้อน  เมื่อยก็เมื่อย  ตอนนี้แถมให้อีกอย่างคือหิว!

     

    โว๊ย!!!!  รู้มั๊ยว่าเรื่องกินน่ะมันเรื่องใหญ่ของบยอนแบคฮยอนเลยนะเว้ย!

     

    ใจก็อยากจะตามหาพวกนั้นนะ...อยากจะไปขัดขวางความสุขของปาร์คชานยอลจริงๆ!

     

    แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง!

     

    ก็เหมือนบยอนแบคฮยอนที่ถือคติว่าอิ่มท้องก่อนอย่างอื่นที่หลัง!

     

    คิดจบดวงตาคู่สวยภายใต้แว่นกันแดดราคาแพงก็กวาดสายตาไปทั่วเพื่อสอดส่องหาร้านอาหารที่ต้องตาต้องใจและถูกปากทันที

     

    พลันสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับร้านอาหารอิตาลี่หรูหราที่บรรยากาศน่านั่ง...

     

    ไม่รอช้าขาเรียวพาร่างตัวเองเดินตรงไปทันที

     

    แบคฮยอนกวาดสายตาไปรอบๆเพื่อหาที่นั่ง  แต่แล้วก็ต้องชะงักกึกเมื่อหันไปเห็นคนสองคนที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่ที่โต๊ะที่อยู่มุมร้าน...

     

    ปาร์คชานยอลและพี่ลุ่หาน!!!

     

    หึหึ...แกเสร็จแน่ไอ้เสาไฟฟ้าหน้าเอ๋อ!

     

    บยอนแบคฮยอนหัวเราะหึหึในลำคออย่างชั่วร้ายจนคนแถวนั้นเริ่มพากันถอยห่าง  ร่างบางทิ้งตัวลงนั่นที่โต๊ะไม่ไกลจากโต๊ะของเป้าหมายมากนัก

     

    “น้องครับ...ไอ้เอ๊ย!  คุณผู้ชายโต๊ะนั้นสั่งเครื่องดื่มอะไรครับ?”เสียงหวานเอ่ยถามบริกรหนุ่มที่เดินมารับออเดอร์

     

    “น้ำพันซ์ครับ...”บริกรหนุ่มเอ่ยตอบอย่างงงๆ

     

    “งั้นขอน้ำพันซ์แก้วนึงครับ”บริกรหนุ่มรับออเดอร์ก่อนจะเดินหายเข้าไปภายในร้าน  มือเรียวคว้ากระดาษทิชชู่บนโต๊ะและปากกาจากกล่องส่งความคิดเห็นมาก่อนจะเริ่มเขียนอะไรบางอย่างลงไป  เขียนไปหัวเราะไปจนลูกค้าโต๊ะอื่นเริ่มลุกหนีอย่างหวาดผวา

     

    ไม่นานนักเครื่องดื่มที่เขาสั่งก็มาถึง  บริการหนุ่มโค้งให้เขาหนึ่งครั้งก่อนจะขอตัวออกไป  บยอนแบคฮยอนมองแก้วน้ำพันซ์สีสวยแล้วริมฝีปากสวยก็แย้มรอยยิ้มถูกใจ

     

    “เสร็จแน่ไอ้เอ๋อ...”บ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะคว้าบรรดาเครื่องปรุงและเครื่องโรยหน้าต่างๆที่วางไว้บนโต๊ะมาประโคมใส่แก้วน้ำพันซ์สีสวยตรงหน้าทันที

     

    “น้องๆ...”เสียงหวานเอ่ยเรียกบริกรหนุ่มที่อยู่ใกล้ๆก่อนจะยื่นกระดาษทิชชู่สองแผ่นที่ตนเขียนไว้ให้กับบริการคนนั้น

     

    “รบกวนเอาน้ำพันซ์นี่ไปให้คุณผู้ชายโต๊ะนั้นนะ...แล้วน้องก็พูดตามนี้...ส่วนใบนี้ส่งให้คุณผู้ชายคนนั้นนะครับ  ขอบคุณครับ”พูดจบมือเรียวก็ควักเอาธนบัตรออกมาสองสามใบ  บริกรหนุ่มที่ตอนแรกดูจะงงๆรีบรับปากทันที

     

    ดวงตาคู่สวยภายใต้แว่นกันแดดราคาแพงจ้องมองแผ่นหลังของบริกรหนุ่มที่เดินห่างจากเขาไปเรื่อยๆด้วยความเบิกบานใจ...

     

    ที่เหลือก็รอดูผลงานละ!

     

     

     

    “ขอโทษครับ...”เสียงเอ่ยจากบริกรหนุ่มดังขึ้นเรียกให้สองคนที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานต้องหันไปให้ความสนใจ

     

    “...ทางร้านมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคู่รักครับ...ซื้อน้ำพันซ์หนึ่งแก้วแถมฟรีหนึ่งแก้วครับ...”บริกรหนุ่มค่อยๆวางแก้วน้ำพันซ์สีสวยลงบนโต๊ะก่อนจะขอตัวออกมา

     

    “...เค้าว่าเราเป็นคู่รักกันน่ะครับ”ชานยอลเอ่ยก่อนจะเผยรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบทุกซี่

     

    “...เค้าแค่เข้าใจผิดไปเองนั่นแหละ!”ลู่หานเอ่ยแก้ก่อนใบหน้าหวานจะเสมองไปทางอื่นเมื่อเจอกับรอยยิ้มทะแล้นของอีกคน

     

    “แต่ผมอยากเป็นจริงๆนะ...จะได้กินน้ำพันซ์ฟรีบ่อยๆ”พูดแล้วก็ยกแก้วน้ำพันซ์ฟรีขึ้นมากระดกอย่างถูกใจ

     

    “...นายนี่มัน...”

     

    ปูดดดดดด!!!!

     

    ยังไม่ทันที่จะเอ่ยได้จบประโยคก็เป็นอันต้องหยุดชะงัก  เพราะน้ำพันซ์มันพุ่งเข้าเต็มหน้า...

     

    จากปากของปาร์คชานยอลน่ะนะ!!

     

    “พี่ลู่หาน!!!”ชานยอลร้องเสียงหลงเมื่อพบว่าตัวเองทำอะไรลงไป  กำลังจะเอื้อมไปหยิบทิชชู่มาเช็ดหน้าให้อีกคนแต่ลู่หานก็ยกมือห้ามเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร  เด็กหนุ่มเลยจัดการคว้าทิชชู่ใกล้ๆมาหมายจะเช็ดปากตัวเอง  แต่แล้วก็ต้องชะงักกึกกับอะไรบางอย่างที่อยู่บนทิชชู่นั้น...

     

     

    น้ำพันซ์ออริกาโน่ซอสมะเขือเทศและเครื่องปรุงตะวันตกสูตรใหม่สำหรับนายอร่อยมั๊ยปาร์คชานยอล

     

     

    ชานยอลรีบหยิบทิชชู่อันใหม่มาเช็ดปากให้เรียบร้อยก่อนดวงตาคมจะสอดส่องไปทั่วร้านด้วยสายตาเกรี้ยวกราด

     

    พลันสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับโต๊ะหนึ่งทึ่อยู่ไม่ห่างมากนัก  บยอนแบคฮยอนกำลังลังส่งยิ้มหวานจ๋อยจนคนทั้งร้านพากันหลงไหลมาให้เขา  มือเรียวยกขึ้นโบกไปมาเป็นเชิงทักทาย  ริมฝีปากบางสวยขยับไร้เสียงซึ่งเขาพอจับใจความได้ว่า

     

     

    ไฮ~ น้ำพันซ์อร่อยมั๊ย?

     

     

    ไม่ต้องถามก็รู้ว่าคนต้นคิดน่ะเป็นใคร  ชานยอลทำท่าเหมือนจะเดินเข้าไปอย่างหาเรื่อง  แต่นิ้วเรียวกลับชี้มาที่โต๊ะเขาแล้วทำหน้าตาล้อเลียน  ชานยอลหันกลับไปก็พบว่าลู่หานกำลังมองเขาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยจนน่ากลัว

     

     

     

    ตายห่า...

     

    หันกลับไปอีกคนบยอนแบคฮยอนก็เดินยิ้มหวานออกนอกร้านไปแล้ว  แต่ยังไม่วายหันมาโบกไม้โบกมือลาแถมด้วยการส่งจูบกลับมาให้อีกต่างหาก!  เรียกเอาคิ้วและตีนของปาร์คชานยอลกระตุกยิกๆเลยทีเดียว

     

    “ผมขอโทษสำหรับทุกอย่างวันนี้ด้วยนะครับ...วันหลังผมขอโอกาสแก้ตัวใหม่นะครับ...พอดีวันนี้ผมมีเรื่องจำเป็นต้องไปก่อนพี่ลู่หานกลับเองได้ใช่มั๊ยครับ?”พูดจบก็ไม่รอให้อีกคนได้ตอบมือหนาควักเงินมาวางไว้บนโต๊ะแล้ววิ่งออกจากร้านไปทันที  ทิ้งไว้แต่ลู่หานที่ได้แต่นั่งงงอยู่คนเดียวเท่านั้น

     

    บยอนแบคฮยอนครั้งนี้มันจะเกินไปแล้ว!

     

    สงสัยต้องสั่งสอนซะบ้างแล้วว่าลิมิตมันอยู่ตรงไหน!!!

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    บยอนแบคฮยอนกำลังเดินกลับด้วยใบหน้าเบิกบานเป็นที่สุด  การได้แก้แค้นปาร์คชานยอลเล็กๆน้อยๆมันทำให้ชีวิตของเขาช่างสดใสเสียจริง  ป่านนี้ปาร์คชานยอลต้องกำลังก้มหัวขอโทษพี่ลู่หานเป็นการใหญ่แน่ๆ!

     

    หมับ!

     

    บยอนแบคฮยอนที่กำลังเดินผิวปากสบายใจสะดุ้งสุดตัวทันทีเมื่อมีอะไรบางอย่างมาฉุดข้อมือบางของเขาเอาไว้

     

    “...ไอ้เอ๋อ!”เสียงหวานเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ  เพราะเมื่อเขาหันกลับมาดูว่าใครที่ดึงข้อมือของเขาเอาไว้  ดันกลับมาเจอใบหน้าเอ๋อๆของไอ้เสาไฟฟ้าคู่ปรับเสียอย่างนั้น

     

    “จะไปไหน...”เสียงทุ้มเอ่ยออกมารอดไรฟันอย่างเก็บอารมณ์เมื่อคนตัวเล็กที่โดนเขาฉุดรั้งไว้กำลังพยายามสะบัดแขนออกจากการกอบกุมอย่างเอาเป็นเอาตาย  ขาเรียวก็พยายามลากร่างตัวเองออกให้ห่างๆเขาทันที

     

    “...จะกลับบ้านแล้ว....”เสียงหวานเอ่ยอุบอิบก่อนมือเรียวอีกข้างที่ว่างอยู่จะพยายามแกะมือเขาออกจากข้อมือของตน

     

    “จะรีบไปไหน...ไปคุยกันก่อนสิ...”เสียงทุ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแกมสั่ง  มือหนาคว้าข้อมืออีกข้างของแบคฮยอนที่พยายามช่วยแกะมือเขามาจับไว้แน่น  ก่อนจะออกแรงลากให้อีกคนตามมา  ซึ่งมันก็ง่ายดายเหลือเกิน...

     

    ตลอดทางบยอนแบคฮยอนก็เอาแต่ขัดขืนปาร์คชานยอลก็เอาแต่ลาก  จนในที่สุดทั้งคู่ก็มาหยุดอยู่ที่โรงแรมหรูใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง

     

    ร...โรงแรม!!!!

     

    “...มาที่นี่ทำไม?!”บยอนแบคฮยอนตะโกนถามอีกฝ่ายตาโตจนลูกตาแทบถลน

     

    “ก็หาที่คุยไงบยอนแบคฮยอน...”ชานยอลเอ่ยเสียงเหี้ยมเรียกเอาคนตัวเล็กเสียวสันหลังวาบพยายามดิ้นออกจากการกอบกุมของอีกฝ่ายแต่มันก็ยังไม่ได้ผลอยู่ดี

     

    ชานยอลลากแบคฮยอนไปยังห้องพักที่เขาเพิ่งจองไว้เมื่อครู่ทันทีโดยมีการขัดขืนและโหวกเวกโวยวายของอีกคนเป็นแบกกราวน์มิวสิค(?)

     

    “โอ๊ย!”ทันทีที่เข้าห้องชานยอลก็เหวี่ยงคนตัวเล็กลงบนเตียงจัดการล็อกประตูห้องให้เรียบร้อย  มือหนาจัดการปลดกระดุมเสื้อโค้ตตัวยาวของตนออกเพราะอุณหภูมิภายในห้องนั้นอุ่นกว่าด้านนอก

     

    “...ชานยอล?”แบคฮยอนเอ่ยเรียกชื่ออีกคนด้วยน้ำเสียงที่เริ่มไม่นิ่งเมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังเดินก้าวฉับๆเข้ามาหาตัวเองที่แอ้งแม้งอยู่บนเตียง  ใบหน้าหล่อเหลานั้นเรียบเฉยอย่างที่ไม่สามารถเดาอารมณ์ได้เลย

     

    แบคฮยอนรีบยันตัวขึ้นและลงจากที่นอนแต่ก็ไม่ทันอีกคน  เพราะมือหนาเอื้อมมาคว้าข้อเท้าของเขาไว้ก่อนจะลากเขากลับมาบนเตียงได้อย่างง่ายดาย  เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผลดวงตาคู่สวยก็เริ่มกวาดสายตาไปทั่วห้องเพื่อหาทางหนีทีไล่ทันที

     

    “ไม่ต้องคิดจะหนีหรอกนะ...นายหนีไม่พ้นหรอก...”เสียงทุ้มเอ่ยขู่

     

    “...ก...ก็ลองดูเด่ะ!”แต่บยอนแบคฮยอนก็ยังเป็นบยอนแบคฮยอน  ขอให้ได้ปากเก่ง  สถานการณ์ไหนก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น

     

    “...คราวนี้ฉันเอาจริง...”เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างมั่นคงไม่ได้มีกระแสล้อเล่นแต่อย่างใด

     

    ตอนนี้ในหัวของบยอนแบคฮยอนมีแต่ตัวอักษรวิ่งไปมา...จับใจความได้ว่า...

     

    ชิบหายยยยยยยยยย!!!!

     

     






     

     

     TBC.
    TALK.
    สวัสดีคนอ่านทุกท่านอีกครั้ง *โค้งอย่างสวยงาม* ความจริงแล้วพรุ่งนี้เค้าสอบไฟนอลล่ะ แต่แบบ...มันเฟลตกค้างจากสอบ มศว. เมื่อวาน! Orz ตอนนี้ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรทั้งสิ้น TT ขอส่องผู้ชายดามใจเถิด!!!! อยู่ว่างๆ คือไหนๆก็ไม่ได้อ่านหนังสือแล้วก็เลยเอาฟิคมาลงแล้วกัน  -   -  เรื่องนี้เอามาลงเด็กดีแล้วผลตอบรับไม่ค่อยดีเลยแฮะ เพราะเคยอ่านกันจากบอร์ดเอ็กโซ่หมดแล้วรึเปล่า? หรือเพราะเค้าไม่ได้เอาแบนเนอร์ไปขอแลกกับเรื่องอื่น? สรุปว่าเค้าค่อนข้างเฟลหนัก... ขอดูผลตอบรับอีกสักนิด  แล้วค่อยคิดว่าเค้าควรจะทำยังไง -..- รักคนอ่านทุกคน แล้วก็ขอบคุณมากที่ติดตามเรื่องนี้นะ TT *ซึ้ง*

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×