ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] Play Boy's GAME (Chanyeol x Baekhyun) | END.

    ลำดับตอนที่ #20 : CHAPTER 17

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.54K
      14
      3 ก.พ. 56

    CHAPTER  17
    3.2.13

     

     

     

     

     

    “คุณแบคฮยอนอย่าวิ่งสิคะ! เดี๋ยวก็หัวร้างข้างแตกกันพอดี”เสียงของหญิงวัยกลางคนเอ่ยห้ามปรามคุณหนูของบ้านที่วิ่งทั่กๆลงบันไดมาอย่างไม่กลัวหน้าทิ่ม

     

    “ไม่เป็นไรครับนม”แบคฮยอนเอ่ยตอบใบหน้าสวยว่งยิ้มหวานมาให้ผู้ที่เปรียบเสมือนแม่อย่างออดอ้อน

     

    “วันนี้มีแข่งใช่มั๊ยแบคฮยอน”เสียงทุ้มทรงอำนาจที่เอ่ยขึ้นเรียกให้ขาเรียวที่กำลังจะก้าวออกจากประตูหน้าบ้านต้องหยุดชะงัก  ใบหน้าสวยค่อยๆเบือนมาสบผู้เป็นพ่อก่อนจะฉีกยิ้มกว้างส่งมาให้

     

    “ครับ”

     

    “ให้พ่อไปดูมั๊ย?”

     

    “อ...เอ่อ...”แบคฮยอนได้แต่อ้ำอึ้งเพราะคำถามของผู้เป็นพ่อที่ดูจะเกินความคาดหมายเกินไปเสียหน่อย  ถึงแม้เขาจะรู้สึกแปลกๆกับคำถามเมื่อครู่ของผู้เป็นพ่อ  แต่คนตัวเล็กก็ทำได้แค่เก็บไว้ในใจเท่านั้น  ใบหน้าสวยส่ายไปมาน้อยๆด้วยรอยยิ้มก่อนจะเอ่ยเสียงใส

     

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ...งานพ่อก็เยอะแล้ว  ยังไงลูกพ่อก็ต้องเอาเหรียญทองกลับมาอยู่ดี  ไปนะครับ!”พูดจบก็วิ่งออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็วจนแม่นมได้แต่ห้ามปรามไล่หลังไป

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    สนามแข่งประจำภูมิภาคที่บัดนี้คราคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย  ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาหรือเหล่าผู้ชมที่ต่างพากันมาเชียร์ลูกหลานในการแข่งขันครั้งนี้

     

    “เอาล่ะนี่คือรายชื่อเรียงลำดับการแข่งที่ฉันจัดไว้ตามฝีมือ...เซฮุนมือสาม  ซิ่วหมินมือสอง  แล้วก็แบคฮยอนมือหนึ่ง...ไม่คัดค้านใช่มั๊ย”หวงจื่อเทาประธานชมรมฮับคิโด้เอ่ยถามสมาชิกทีมบีที่เขาส่งลงแข่งเพื่อถามความเห็น  แต่ทุกคนก็ส่ายหน้าหวือทำให้เขาเบาใจลงไปได้อีกหน่อย

     

    “แบคฮยอน...มือหนึ่ง...ไหวใช่มั๊ย?”จื่อเทาหันใบถามร่างบางในชุดแข่งขันที่กำลังยืนยิ้มบางๆมาให้เขาด้วยสายตาเป็นห่วง

     

    “ไม่เป็นไร”แบคฮยอนยิ้มบางๆให้อีกคนอย่างต้องการให้สบายใจ  แต่ดูเหมือนมันจะไม่ค่อยช่วยให้คนอื่นๆที่รู้ที่มาที่ไปสบายใจขึ้นเลยแม้แต่น้อย

     

    ...เพราะมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ...

     

    ไม่นานหลังจากที่เหล่านักกีฬารายงานตัวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วการแข่งขันก็เริ่มขึ้น  หลากหลายสนามภายในโรงยิมกว้าง  แบคฮยอนจ้องมองการแข่งขังของเซฮุนและคู่ต่อสู้นิ่งจนชานยอลที่อาสามาเป็นเด็กยกน้ำในวันนี้อดที่จะเหลือบมองไม่ได้

     

    หลังจากการแข่งขันที่เซฮุนเป็นฝ่ายชนะได้อย่างไม่ยากเย็นนักก็เป็นคราวของซิ่มหมินรุ่นพี่ตัวกลมที่มีฝีมือไม่ธรรมดา  ชานยอลขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นว่าคนข้างๆมีอาการแปลกไป  มือเรียวทั้งสองข้างประสานกันแน่นจนเห็นเม็ดเหงื่อที่ซึมชื้นเต็มฝ่ามือ  คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันและฟันคมที่ขบริมฝีปากอิ่มโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว

     

    “แบคฮยอน”ชานยอลเอ่ยเรียกอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง  แต่ไร้การตอบโต้จากอีกคน  คิ้วหนาขมวดมุ่นด้วยความกังวล  มือหนาค่อยๆเอื้อมไปสัมผัสฝ่ามือขางทั้งสองที่กำกันแน่นนั่นช้าๆ

     

    “แบคฮยอน...เป็นอะไรรึเปล่า?”

     

    “ห๊ะ? อ...เอ่อ...ไม่เป็นไร...”คนตัวเล็กสะดุ้งโหยงก่อนจะหันมาตอบชานยอลเบาๆ  ใบหน้าสวยยังคงมีความกังวลฉายชัดในดวงตา

     

    “นายแน่ใจนะ...”ชานยอลเอ่ยถาม  เขายังไม่คลายความกังวลลงแม้แต่น้อย  ยิ่งเห็นว่าอีกคนหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัด

     

    “อ...อือ...ไม่เป็นไร...”แบคฮยอนยิ้มบางๆให้อีกคนเพื่อคลายกังวล เป็นเวลาเดียวกับคู่ที่สองที่จบลงแล้วเช่นกัน  ซิ่วหมินเป็นฝ่ายชนะไปตามคาด  ต่อไปก็เป็นคราวของเขาที่ต้องทำให้ทีมชนะ...  เพราะหากมือหนึ่งแพ้ก็หมายความว่าทีมแพ้ในการแข่งแบบทีมนี้...

     

    แบคฮยอนละสายตาจากชานยอลก่อนจะเดินขึ้นไปที่เวทีประลอง  มือบางกระชับสายคาดสีดำที่รอบเอวให้แน่นขึ้นเพื่อให้เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว

     

    หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายทำความเคารพกันแล้ว  กรรมการก็ให้สัญญาณเริ่มการแข่งขัน  ถึงแม้ระดับสากลจะมีการใส่อุปกรณ์เพื่อกันการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้นแล้ว  แต่ที่เกาหลีนั้นยังใช้แบบโบราณคือไม่มีอุปกรณ์ใดๆทั้งสิ้น นอกจากอาวุธที่เป็นของปลอม

     

    “เป็นอะไรล่ะ”ซิ่วหมินทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ยาวข้างสนามหลังจากที่เขาไปล้างหน้าล้างตามาแล้ว  ใบหน้ากลมหันไปสบกับใบหน้าหล่อเหลาของรุ่นน้องต่างชมรมที่มาเป็นกองเชียร์และผู้จัดการทั่วไปชั่วคราวให้พวกเขาในวันนี้  เพราะลู่หานขอลาโดยที่เจ้าตัวบอกว่าป่วย  ซึ่งก็ไม่มีใครคัดค้าน

     

    “...แบคฮยอนเค้าเก่งมากเหรอครับ”เสียงทุ้มที่เอ่ยถามขึ้นเรียกให้รุ่นพี่หน้ากลมต้องหันไปเลิกคิ้วใส่อย่างอึ้งๆ

     

    “เก่งสิ!  มือหนึ่งชมรมเรานะ....นี่นายได้รู้อะไรบ้างมั๊ยเนี่ย?”ซิ่วหมินอดที่จะขำกับใบหน้าเหวอๆของรุ่นน้องข้างๆตนไม่ได้

     

    “...อ่าครับ...เมื่อกี้ผมเห็นเขาอาการไม่ดีเลยก่อนแข่ง  พี่พอจะรู้เรื่องมั๊ยครับ?”

     

    “ก็นิดหน่อยอ่ะนะ...”ซิ่วหมินเอ่ยตอบ  มือขาวยกขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากอย่างใช้ความคิด

     

    “เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วล่ะนะ...ตอนนั้นแบคฮยอนยังไม่ได้เข้าเรียนที่นี่  แต่เหมือนเจ้าตัวจะเคยบอกว่า ม.ต้น เคยไปทำใครเค้าบาดเจ็บไว้สักคนนี่แหละ...”

     

    “อ๋อใช่!  ตอนนั้นมันก็ซนๆแบบเด็กผู้ชายล่ะนะ  จับเขาทุ่มแล้วใส่แรงมากไปหน่อยคนนั้นเลยบาดเจ็บสาหัด...รู้สึกว่าหมดอนาคตกับฮัปคิโดไปเลยนะ  แบคฮยอนคงจะช็อคมากเข้าชมรมมาได้ไม่กี่เดือนก็ออกไปเพราะเวลาแข่ง...แบคฮยอนทุ่มไม่ได้...”ซิ่วหมินเล่าเรื่องที่เขาพอรู้มาให้ชานยอลฟัง  ประโยคสุดท้ายแผ่วเบาลงด้วยความสงสาร

     

    ...แบคฮยอนเป็นคนที่เก่ง  แต่อ่อนไหวไปหน่อย...

     

    ...คงจะคิดว่าที่เพื่อนคนนั้นหมดอนาคตกับฮัปคิโดเป็นความผิดของตัวเองแน่ๆ...

     

    “ฉันว่ารอบแรกยังไงแบคฮยอนก็ชนะได้โดยไม่ต้องทุ่ม ท่านั้นแต่รอบต่อๆไปก็รับประกันไม่ได้หรอกว่าจะไม่ต้องใช้...นายสนิทกับแบคกี้ใช่มั๊ยล่ะ  ยังไงก็ฝากด้วยนะ!”รุ่นพี่ตัวเล็กยิ้มกว้างมาให้อย่างเป็นมิตร  มือขาวก็เอื้อมออกมาตบบ่ารุ่นน้องปุๆอย่างฝากฝัง

     

    ชานยอลส่งยิ้มบางๆไปให้ซิ่วหมินคล้ายการรับคำก่อนจะเบือนหน้าไปสนใจการข่งขันตรงหน้าต่อ  เป็นอย่างที่ซิ่วหมินพูดไว้ไม่มีผิด  แบคฮยอนใช้เพียงแค่เตะและบิดเท่านั้น  เจ้าตัวไม่ได้ทุ่มเลยสักครั้ง  จนดูขัดๆไปในบางท่าที่ต้องทุ่ม  แบคฮยอนก็จะฝืนใช้บิดแทนอยู่ดี

     

    ผลการแข่งขันในรอบแรกเป็นไปตามคาดชมรมฮัปคิโดชนะรวดสามครั้งติดจนได้ขึ้นชื่อเป็นหนึ่งในตัวเต็งของการแข่งครั้งนี้  แบคฮยอนเดินลงมาจากสนามแข่งด้วยใบหน้าที่ไม่ได้มีความสุขเลยสักนิด  ถึงแม้เขาจะชนะได้อย่างสวยงามก็ตาม  แต่ใบหน้าสวยนั่นกลับเอาแต่ขมวดคิ้วมุ่นราวกับคนที่คิดไม่ตก

     

    “เหนื่อยมั๊ยล่ะ”เสียงทุ้มเอ่ยทักทันทีที่แบคฮยอนทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ยาวข้างๆเขา  มือหนาก็จัดการโยนผ้าขนหนูใส่หน้าอีกคนอย่างไม่แรงนัก

     

    “อือ...”เสียงหวานเอ่ยตอบสั้นๆ  มือเรียวคว้าผ้าขนหนูออกจากจากใบหน้าก่อนจะค่อยๆซับใหยาดเหงื่อที่ผุดพรายขึ้นทั่วใบหน้าสวย

     

    ไม่มีใครพูดอะไรต่อจากนั้น  ทั้งสองปล่อยให้มีแต่ความเงียบระหว่างคนทั้งคู่  ต่างคนต่างมีเรื่องที่อยู่ในห้วงความคิด...

     

    ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปยังเวทีประลองอีกครั้ง  ตอนนี้การแข่งขันรอบสองของพวกเขาได้เริ่มขึ้นแล้ว  โอเซฮุนกำลังต่อสู้กับอีกฝ่ายอย่างดุเดือด  ความจริงแล้วเซฮุนจัดว่าเป็นคนเก่งเลยทีเดียว  เด็กหนุ่มถนัดการบิดมากกว่าใครทั้งหมดในชมรม...

     

    ...ยิ่งเห็นเวลาที่เซฮุนใช้เริ่มเพิ่มมากขึ้นยิ่งทำให้เขารู้ตัว...

     

    ...แบคฮยอนรู้ตัวว่าจนถึงที่สุดแล้วถ้าหากต้องเอาชนะให้ได้  มันก็คงไม่มีทางที่เขาจะหลีกเลี่ยง ท่านั้นไปได้...

     

    ยิ่งการแข่งขันดำเนินไปเรื่อยๆจนใกล้ถึงรอบของเขาเมื่อไหร่แบคฮยอนยิ่งรู้สึกแปลกๆที่ท้อง  อาการหน่วงๆที่กระเพาะทำให้คนตัวเล็กต้องยกมือขึ้นมากุมหน้าท้องไว้อย่างไม่รู้ตัว  แต่อาการนั้นกลับฉายชัดในสายตาของชานยอล  ยิ่งเห็นใบหน้าที่ซีดเผือดของอีกคนเขายิ่งใจไม่ดี

     

    มือหนาวางทับฝ่ามือบางที่ทก้าอี้อยู่อย่างแผ่วเบา  ใบหน้าสวยที่แทบไร้สีเบือนกลับมาสบกับชายหนุ่ม  ไม่มีคำพูดใดๆที่เอ่ยออกไป  ชานยอลทำเพียงแค่ยกยิ้มน้อยๆที่มุมปากเท่านั้น...

     

    ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านผ่านหลังมือเข้ามาทำให้แบคฮยอนรู้สึกว่าหัวใจของเขาที่เคยห่อเหี่ยวคล้ายพืชขาดน้ำกลับถูกหล่อเลี้ยงให้ชุ่มชื้นขึ้นกว่าเดิม...ถึงแม้จะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่เขาก็คิดว่าเขาสามารถส่งยิ้มบางๆไปให้อีกคนได้แล้ว

     

    “...ฉันรู้ว่านายทำได้”เสียงทุ้มเอ่ยออกมาเบาๆพอให้ได้ยินกันสองคนก่อนจะค่อยๆถอนมือกลับไป  เป็นเวลาเดียวกับที่การแข่งขันรอบสองของเขากำลังจะเริ่มต้นขึ้น...

     

    ขาเรียวก้าวพาร่างบางของเจ้าของไปยืนประจันหน้ากับคู่ต่อสู่รอบต่อมา  แบคฮยอนทำความเคารพอีกฝ่ายอย่างที่ทำเป็นประจำ

     

    ...ฉันรู้ว่านายทำได้...

     

    เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งที่ดังก้องภายในหัวพาเอากำลังใจไหลทะลักเข้ามาได้มากโข  แบคฮยอนสูดหายใจลึกๆก่อนจะตั้งการ์ดในท่าเตรียม

     

    “เริ่ม!”สิ้นเสียงกรรมการที่ประกาศเริ่มการแข่งขันร่างสูงของคุ่ต่อสู้ก็พุงตัวเข้ามาหาเขาทันที  ขายาวตวัดเฉียดแผ่นอกบางไปเพียงนิดเดียวก่อนจะมือหนาจะคว้าข้อมือบางเพื่อบิดให้อีกคนล้มลงกับพื้น  แบคฮยอนยอมปล่อยให้อีกคนบิดข้อมือ  คนตัวเล็กเอี้ยวตัวตามก่อนจะใช้ขาตวัดขายาวนั้นจนคู่ต่อสู้เสียหลักล้มลง

     

    ปรี๊ด!

     

    เสียงนกหวีดนับแต้มดังขึ้นก่อนเสียงปรบมือเกรียวกราวจังตามมา  แบคฮยอนละออกจากร่างสูงของอีกคนช้าๆ  คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาแรงๆ  โชคดีที่เขาไม่จำเป็นต้องจับอีกคนทุ่ม...

     

    “เริ่ม!”เสียงกรรมการที่เอ่ยประกาศอีกครั้งทำให้แบคฮยอนกลับเข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นจริง  รอบนี้อีกฝ่ายไม่พุ่งเข้ามาเหมือนในครั้งแรก  เขาค่อยๆขเยิบเข้ามาใกล้ทีละนิดๆอย่างต้องการหยั่งเชิง  แบคฮยอนเองก็เช่นกัน  ดวงตาคู่สวยสอดส่องมองหาช่องว่างก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปทันทีที่เห็นช่องว่างทางด้านซ้ายของอีกคน  แขนเรียวตวัดไปที่ด้านข้างใบหน้าของคู่ต่อสู้แต่อีกฝ่ายก็ตั้งการ์ดกันไว้ได้ทัน  แขนแกร่งทั้งสองข้างกันและบิดแขนเล็กที่ปะทะเข้ามาได้อย่างชำนาญ  ออกแรงเพียงไม่มากก็สามารถทุ่มร่างบางนั้นลงกับเบาะนวมได้ทันที

     

    ปรี๊ด!

     

    เสียงนกหวีดดังบอกคะแนนอีกครั้งแต่เสียงปรบมือคราวนี้กลับมาจากกองเชียร์ของอีกฝั่ง  แบคฮยอนยันตัวลุกขึ้นช้าๆ  อาการปวดนิดๆที่แผ่นหลังทำให้เขารู้ว่าเมื่อครู่นี้ตนเองลงไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก  ไม่นานนักทั้งสองก็เริ่มเข้าท่าเตรียมอีกครั้ง

     

    การแข่งขันรอบนี้ดำเนินไปด้วยความดุเดือด  ทั้งคู่ไม่มีใครยอมล้มก่อนใครจนในที่สุดแบคฮยอนที่ตัวเบากว่ามากก็เสียท่าถูกอีกคนทุ่มลงเบาะได้เป็นผลสำเร็จ  แต้มตอนนี้เขาเป็นรองอยู่ 2-1  หากอีกฝ่ายชนะอีกเพียงครั้งเดียว  ทีมของเขาจะหมดสิทธิ์แข่งต่อในทัวนาเมนต์นี้ทันที...

     

    ใบหน้าสวยเบือนไปสบเข้ากับใบหน้าหล่อเหลาของคนที่กำลังนั่งลุ้นอยู่ข้างสนาม  สายตาคมของอีกคนกำลังจ้องมองมาที่เขานิ่ง

     

    ...ฉันรู้ว่านายทำได้...

     

    ปาร์คชานยอลส่งมันผ่านสายตาไปให้อีกคน...  แบคฮยอนกำหมัดแน่นอย่างให้กำลังใจตัวเองก่อนจะหันกลับมาให้ความสนใจกับการแข่งขันต่อ  คนตัวเล็กสูดหายใจเข้าลึกๆจนเต็มปอดพร้อมกับเปลือกตาบางที่ปิดลงอย่างใช้สมาธิ...

     

    ...เป็นหนึ่งเดียวกับคู่ต่อสู้...

     

    เปลือกตาบางค่อยๆลืมขึ้น  ดวงตาคู่สวยฉายแววเฉียบคมอย่างที่ไม่ได้เห็นมานาน...  เมื่อก่อนอาจารย์ที่สอนเขามักจะสอนวิธีทำสมาธิก่อนการแข่งขันให้เขาเสมอ  ไม่มีมิตร  ไม่มีศัตรู  ทุกอย่างเป็นหนึ่งเดียวกัน...แรงของคู่ต่อสู้คือแรงของเรา  แขนของเขาคือแขนของเรา  เขาคือเรา...  การทำตามคำแนะนำนั่นมันทำให้เขาสามารถแสดงความสามารถออกมาได้อย่างเต็มที่เสมอ...

     

    “แบคฮยอน...”เสียงของรุ่นพี่ตัวเล็กข้างๆตนที่เอ่ยเรียกชื่อคนที่ยืนอยู่กลางสนามแข่งเบาๆเรียกให้ชานยอลต้องหันไปให้ความสนใจ  ซิ่วหมินจ้องมองรุ่นน้องก่อนจะยิ้มบางๆอย่างถูกใจ...

     

    ...ดูท่าเขาจะได้เห็นฝีมือจริงๆของแบคฮยอนเสียที...

     

    “เริ่ม!”สิ้นเสียงคู่ต่อสู้ของแบคฮยอนก็ไม่รีรอที่จะยืนหยั่งเชิงต่อไป  เขาพุ่งตัวเข้ามาหาแบคฮยอนทันที  ขายาวตวัดใส่คนตัวเล็กอย่างแรงแต่แบคฮยอนเอี้ยวตัวหลบเพียงเล็กน้อยก็พ้นไป  ขาเรียวกวาดออกเป็นวงกว้างเพื่อเกี่ยวขาของอรกคนให้ล้มลง  คู่ต่อสู้เสียหลักหงายไปด้านหลังแต่เขาก็ไวพอที่จะใช้มือทั้งสองข้างยันตัวแล้วตีลังกากลับมายืนได้ทันก่อนจะถูกตัดแต้ม

     

    เขาตัดสินใจพุ่งตัวเขาหาร่างเล็กตรงหน้าอีกครั้ง  ชายหนุ่มโถมแรงใส่อีกคนเต็มที่พร้อมกับแขนหนาที่ใช้สันมือกันไว้ด้านหน้า  แบคฮยอนยกการ์ดขึ้นกันแต่แรงของเขาก็ไม่สามารถสู้แรงของอีกฝ่ายได้...

     

    ...เขาไม่มีทางเลือก...

     

    ...หากตอนนี้เขาไม่ใช้ท่านั้น...เขาต้องเสียหลักล้มลงและพ่ายแพ้ไปในที่สุด...

     

    ...ฉันรู้ว่านายทำได้...

     

    คำพูดของชานยอลดังเข้ามาในโสตประสาทอีกครั้ง  ฟันคมขบกัดกันแน่นจนปวดหนึบไปทั่วช่องปาก  แบคฮยอนสูดหานใจเข้าลึกๆจนเต็มปอด

     

    ...เขาต้องทำได้...

     

    สิ้นความคิดแบคฮยอนก็ผ่อนแรงทิ้งตัวลงไปบนเบาะโดยไม่ให้อีกฝ่ายได้มีเวลาตั้งตัว  เมื่อแผ่นหลังบางสัมผัสกับเบาะนิ่มแล้วขาเรียวก็ยกขึ้นดันท้องของคนที่อยู่เหนือร่างให้กระเด็นเลยศีรษะของตนออกไปก่อนจะม้วนตัวกลัวมานั่งชันเข่าได้อย่างสวยงาม

     

    ...ลมหายใจของแบคฮยอนหอบถี่...ท่านี้ค่อนข้างอันตรายเพราะหากลงไม่ดีคงได้มีกระดูกเคลื่อนจากการกระแทกเป็นแน่เพราะมันเป็นท่าที่ฝ่ายเสียท่าจะต้องหลุดออกไปนอกเบาะอย่างแน่นอน...

     

    ปรี๊ด!

     

    เสียงนกหวีดเรียกแต้มดังขึ้นพร้อมกับเสียงปรบมือของทุกคน  แบคฮยอนรีบยันตัวลุกขึ้นก่อนจะหันหลังกลับไปมองร่างของอีกคนที่นอนนิ่งอยู่ข้างสนาม  ใบหน้าสวยซีดเผือดเมื่อเห็นว่าร่างนั้นยังคงนอนอยู่ที่เดิม  ขาเรียวรีบพาร่างของตนเองเข้าไปดูอาการอีกฝ่ายทันที

     

    “นาย...ป...เป็นอะไรรึเปล่า”เสียงหวานเอ่ยถามออกมาอย่างร้อนรน  เขายิ่งใจเสียเมื่ออีกฝ่ายไม่มีการตอบรับ...

     

    แต่ทิ้งให้ใจแป้วอยู่ได้ไม่นานเมื่ออีกคนเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆจนแบคฮยอนได้แต่มองอีกฝ่ายตาปริบๆด้วยความงุนงง

     

    “ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอกน่า...ฉันไม่เป็นอะไร  นานๆทีจะเจอคนเล่นท่านี้...ไม่คิดว่าตัวเล็กๆอย่างนายจะกล้าเล่น  ถ้าพลาดนี่ขานายหักได้เลยนะ  ฮ่าๆ”แล้วเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นเรียกเอารอยยิ้มบางๆจากคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี  แบคฮยอนอดดีใจไม่ได้ที่เขาได้กลับมาใช้ท่าถนัดอีกครั้งโดยที่ไม่มีใครบาดเจ็บ...

     

    ...ดีใจจริงๆ...

     

    “อูย...แต่ต้องยอมรับว่าลูกถีบนายแรงมาก...บยอนแบคฮยอนใช่มั๊ย?  ฉันจะจำนายไว้ในฐานะที่มีลูกถีบแรงไม่เข้ากับตัว...”พูดจบมือหนานั่นก็เอื้อมมาคว้ามือบางที่ยื่นออกมาด้านหน้าอย่างต้องการช่วยเหลือ

     

    “ขอบคุณที่ชมเรื่องแรงฉันนะ...ฉันจะทำเป็นว่าไม่ได้ยินนายติเรื่องขนาดตัวฉัน...”แบคฮยอนหัวเราะสดใสเสียจนคนที่มองอยู่ห่างๆอย่างชานยอลยังอดที่จะยิ้มตามไปด้วยไม่ได้

     

    แบคฮยอนพยุงให้อีกคนเดินมาที่สนามแข่งเหมือนเดิม  ใบหน้าหวานหันไปสบกับใบหน้าหล่อเหลาของใครอีกคนที่ยืนเฮอยู่ข้างสนาม  ดวงตาทั้งสองคนประสานกันอย่างตั้งใจก่อนทั้งคู่จะส่งยิ้มกว้างให้กัน...

     

    ...คงต้องขอบคุณกำลังใจจากปาร์คชานยอล...

     

    “อะแฮ่ม!”เสียงทุ้มกระแอมไอก่อนดวงตาคมจะเหลือบมองไปยังแขนแกร่งของคู่ต่อสู้ตัวสูงที่กำลังโอบอยู่รอบคอของแบคฮยอน  ดูเหมือนว่าเจ้าของแขนจะรู้ตัวจึงได้ผละออกจากร่างบางที่กำลังยืนงงๆอยู่

     

    การแข่งขันยกสุดท้ายดำเนินต่อไปเรื่อยอย่างดุเดือดเพราะต่างคนต่างไม่ยอมกัน  แบคฮยอนที่เริ่มใช้ท่าทุ่มมากขึ้นทำให้ฝีมือดูเก่งกาจขึ้นผิดหูผิดตา  การแข่งขันรอบสองจบลงด้วยชัยชนะของบยอนแบคฮยอน  มือหนึ่งของทีมบีที่สามารถพาทีมเข้าสู่รอบต่อไปได้ตามทีมเอของชมรมมาติดๆ

     

    ...งานนี้คงต้องยกความดีความชอบให้กองเชียร์ล่ะมั้ง...

     

    “เอาล่ะทุกคน...พวกนายทำดีมากเหลือแค่สเปเชี่ยลแมตช์พรุ่งนี้เท่านั้น...หากเราชนะอีกครั้งเดียวชมรมเราก็จะได้ไปท้าพวกทีมมาสเตอร์แล้ว...”เสียงของหวงจื่อเทาเอ่ยขึ้นเรียกเสียงฮือฮาอย่างพึงพอใจจากเหล่าสมาชิกร่วมทีมได้เป็นอย่างดี

     

    หลังจากการแข่งรอบสองที่เรียกความมั่นใจของแบคฮยอนกลับมาได้มากโข  พวกเขาก็ชนะกันมาได้เรื่อยๆจนเข้ามาถึงรอบหนึ่งในสี่เพื่อชิงแขมป์ระดับภูมิภาค

     

    “เอาล่ะทุกคนกลับบ้านไปพักผ่อนให้เต็มที่ซะพรุ่งนี้เรามีการแข่งสำคัญนะ!

     

    “คร้าบ!”เสียงขานรับอย่างพร้อมเพรียงก่อนทุกคนจะพากันแยกย้ายกลับบ้านไปพักผ่อนเพราะเหนื่อยล้ามาทั้งวันแล้ว

     

     

     

     

     

     

    ชานยอลเดินมาส่งแบคฮยอนที่บ้านเช่นเคยหลังจากที่รถบัสของชมรมมาส่งพวกเขาที่โรงเรียน  แต่วันนี้ชานยอลไม่คิดจะตอแยร่างบางสักเท่าไหร่  เพราะเขามั่นใจว่าแบคฮยอนคงต้องการพักผ่อนมากกว่าอะไรทั้งหมด...

     

    “แบคฮยอน...แข่งเป็นไงบ้าง”เสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อที่เอ่ยทักขึ้นเรียกให้แบคฮยอนที่เดินลากสังขารตัวเองมาถึงห้องนั่งเล่นต้องหันไปให้ความสนใจ

     

    “อ่าก็...เข้าสี่ทีมสุดท้ายครับ...พรุ่งนี้มีแข่งต่อ”แบคฮยอนยิ้มกว้างให้ผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่ที่โซฟาหรูกลางห้องรับแขกก่อนจะวางสัมภาระแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผู้เป็นพ่อ

     

    “แล้วเมื่อกี้ใครมาส่ง...”เสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อที่เอ่ยถามขึ้นทำเอาคนโดนถามยิ้มค้าง

     

    “พ...เพื่อนน่ะครับพ่อ...”แบคฮยอนส่งยิ้มแหยๆไปขัดตาทัพก่อนเมื่อเห็นว่าใบหน้าที่มีเค้าความหล่อเหลาในอดีตกำลังตึงเครียด

     

    “ชื่ออะไร?”ผู้เป็นพ่อยังคงเอ่ยถามต่อไป  ใบหน้าสวยของลูกชายได้แต่ส่งสายตาปริบๆมาให้ผู้เป็นพ่อด้วยความงุนงง

     

    ...ปกติก็ไม่เห็นจะสนใจอะไรเพื่อนเขาขนาดนี้...

     

    “พ่อ...มีอะไรรึเปล่าครับ?”เสียงหวานตัดสินใจกลั้นใจถามออกไปในที่สุด

     

    “เขาชื่ออะไรแบคฮยอน”ผู้เป็นพ่อไม่ตอบแต่เลือกที่จะถามย้ำในคำถามเดิมแทน

     

    “อ...เอ่อ...”แบคฮยอนอ้ำอึ้ง

     

    ...เขาควรจะบอกมั๊ยว่าเพื่อนชื่อชานยอล...

     

     

     

     

    “ปาร์คชานยอลใช่มั๊ย?”เสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นเรียกเอาแบคฮยอนหายใจติดขัด

     

    ...พ่อของเขารู้เรื่องของชานยอลได้ยังไง...

     

    “อ่าครับ...”แบคฮยอนตอบรับ  ดวงตาคู่สวยมองใบหน้านิ่งเฉยของผู้เป็นพ่อด้วยความกังวล

     

    “วันหลังก็ชวนเขาเข้ามากินข้าวที่บ้านสิ...พ่อก็อยากเจอเขา”พูดจบผู้เป็นพ่อก็ยิ้มบางๆให้กับใบหน้าสวยของลูกชายที่กำลังเหรอหรอกับคำแนะนำของผู้เป็นพ่อ

     

    “ไว้ผมจะชวนเขามาครับ...”

     

    “ปีใหม่นี้เป็นไง...เพราะอีกเดี๋ยวจะไม่ได้เจอกันนานเลยนะแบคฮยอน...”คำพูดของผู้เป็นพ่อเหมือนจะเป็นตัวจุดชนวนเรื่องบางเรื่องที่เขาลืมไปแล้ว

     

    “ไฟลท์ไปแคนาดาวันที่ 1 ตอนห้าทุ่มนะ...พ่อเอารายละเอียดวางไว้ในห้องลูกแล้ว...”ผู้เป็นพ่อเอ่ยก่อนจะหันมาสนใจกับหนังสือพิมพ์ในมือต่อ

     

    “ครับ...งั้นไว้วันปีใหม่ผมจะชวนเขามานะครับ...”เสียงหวานเอ่ยตอบแผ่วเบา  แบคฮยอนบอกลาผู้เป็นพ่อก่อนจะขอตัวขึ้นไปพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้เขามีแข่งนัดพิเศษ

     

    ...ถึงแม้ว่าพ่อเขาจะเป็นคนแนะนำให้ชวนชานยอลมาทานข้าวที่บ้าน...แต่เรื่องที่พ่อเขารู้จักชานยอลก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกกังวลน้อยลงเลยแม้แต่น้อย...

     

    ...เขามีความรู้สึกว่า อะไรๆมันคงไม่ลงตัวแบบนี้แน่นอน...

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    แบคฮยอนตื่นเช้ามาอย่างไม่ค่อยสดใสนัก  เพราะคำพูดประหลาดๆของผู้เป็นพ่อยังคงดังก้องอยู่ในหัว  เขาไม่ได้หลงตัวเองแต่เขารู้ว่าพ่อค่อนข้างที่จะหวงเขามากกว่าที่เห็น  แต่คำพูดที่บอกให้พาชานยอลมากินข้าวเมื่อวานมันแปลกๆขัดกับนิสัยปกติของผู้เป็นพ่อ...

     

    ...แต่หากไม่คิดอะไรมันก็ดูเหมือนการที่ชวนเพื่อนของลูกชายมาทานข้าวด้วยกันเท่านั้น...

     

    ...อาจเป็นเพราะว่าพวกเขามีชนักติดหลังอยู่มันเลยทำให้รับเจตนาของพ่อผิดไปก็เป็นได้...

     

    ...พ่อเขาอาจจะไม่คิดอะไรจริงๆ...

     

    “เฮ้อออออ”แบคฮยอนถอนหายใจยาวออกมาเป็นรอบที่ร้อยจนชานยอลที่นั่งอยู่ข้างๆต้องหันมาให้ความสนใจ

     

    “เป็นอะไร  ถอนหายใจบ่อยๆระวังจมูกบานนะ”พูดไปมือหนาก็เอื้อมมาบีบปลายจมูกโด่งรั้นของคนตัวเล็กส่ายไปมาด้วยความหมั่นเขี้ยว

     

    “อะไรเล่า!”เสียงหวานแหวเข้าให้ก่อนมือเรียวจะคว้ามือหนาออกจากใบหน้าตัวเอง  คนตัวเล็กยู่หน้าลงอย่างขัดใจ  แต่เพราะปลายจมูกที่ติดจะแดงนั้นมันยิ่งทำให้อากับกริยานั้นดูตลกเข้าไปใหญ่จนชานยอลอดที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้

     

    “ขำอะไร!”แบคฮยอนโวยวายก่อนมือบางข้างหนึ่งจะรีบยกขึ้นกุมปลายจมูกที่แดงเถือกของตน  อีกมือก็ต่อยไปที่แขนแกร่งแรงๆด้วยความหมั่นไส้

     

    “รู้มั๊ยตอนนี้หน้านายฮามากน่ะแบคฮยอน  ฮ่าๆๆๆๆ”ชานยอลระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นคนตัวเล็กยู่ปากลงไปอีก

     

    “เฮอะ  อารมณ์ดีจริงนะ...รู้มั๊ยเนี่ยว่าเครียดเรื่องใครอยู่...”ริมฝีปากอิ่มขยับขึ้นลงเล็กน้อยเพื่อบ่นให้ตัวเองได้ยินเพียงคนเดียว  แต่สำหรับชานยอลที่สนใจร่างบางข้างๆตนเสมอมันก็ดังพอที่จะให้เขาพอเดาได้

     

    “เครียดเรื่องอะไรอยู่แบคฮยอน...”ชายหนุ่มหยุดหัวเราะก่อนความจริงจังจะเข้ามาแทนที่  มือหนาเอื้อมไปลูบหัวอีกคนเบาๆด้วยความเอ็นดู  ความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาจากฝ่ามือหนาทำให้แบคฮยอนไม่คิดที่จะปฏิเสธมัน

     

    “ไม่มีอะไรหรอก...ก็เรื่องทั่วๆไปน่ะ  นี่ก็จะแข่งอยู่แล้วฉันยังไม่รู้เลยว่าแข่งกับใคร...”แบคฮยอนโกหกคำโตแต่รอยยิ้มหวานที่ถูกส่งมาให้ก็ทำให้ชานยอลตัดสินใจที่จะเลิกเซ้าซี้

     

    “เป็นไงมั่ง?”ไม่นานนักจื่อเทาผู้เป็นหัวหน้าชมรมก็เดินกลับมาที่ที่พักของทีมตนหลังจากที่เป้นตัวแทนไปจับสลากการแข่งขันรอบพิเศษ

     

    “พี่ต้องไม่ดีใจแน่ซิ่วหมิน...”รุ่นน้องตัวสูงเอ่ยบอกกับคนถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่สู้ดีนัก

     

    “ทำไมล่ะ”เป็นแบคฮยอนที่เอ่ยถามไปเมื่อเห็นใบหน้าคมนั้นราบเรีนบอย่างที่ไม่เคยเป็น  จื่อเทาไม่ตอบแต่กลับส่งกระดาษในมือมาให้เขาแทน

     

    มือเรียวเอื้อมไปหยิบมาก่อนดวงตาคู่สวยจกวาดมองไปทั่วเพื่อหาชื่อตัวเอง  การแข่งขันนัดพิเศษที่ว่านี่ก็คือการเปิดโอกาสให้คนที่ไม่ได้สังกัดชมรมหรือสโมสรไหนได้ลงแข่ง  โดยฝ่ายชมรมหรือสโมสรเองก็สามารถลงได้ไม่จำกัดเพราะลงในฐานะนักกีฬาเดี่ยวไม่ใช่ทีม  ซึ่งชมรมเขาก็ลงกันเกือบสิบคน

     

    แบคฮยอนกวาดสายตาไปเรื่อยๆก่อนจะหยุดลงเมื่อเจอชื่อของตัวเอง  มือเรียวที่ถือกระดาษอยู่สั่นเล็กน้อยเมื่อมองเห็นชื่อของคู่แข่งของตน

     

    ...ลู่หาน...

     

    ชานยอลเห็นอาการแปลกๆของคนตัวเล็ก  ยิ่งใบหน้าสวยที่ซีดลงอย่างเห็นได้ชัดนั่นยิ่งทำให้เขาอดที่จะสงสัยไม่ได้  ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเอื้มมือมาคว้ากระดาษจากคนตัวเล็กไปดูเอง  ดวงตาคมเบิกกว้างก่อนจะหันมามองแบคฮยอนที่มองเขากลับมาด้วยสายตาเป็นกังวล

     

    “นายไม่แข่งได้มั๊ย...”เสียงทุ้มเอ่ยถาม  แบคฮยอนส่ายหน้าเบาๆ

     

    “ถ้าฉันไม่ชนะรอบนี้...ฉันจะไม่ได้เข้าแข่งรอบสุดท้ายนะ...”แบคฮยอนส่งยิ้มบางๆไปให้ชานยอลหวังให้ชายหนุ่มคลายกังวล

     

    ...ชานยอลรู้ว่าแบคฮยอนกำลังรู้สึกแย่...

     

    มือหนาแอบคว้ามือบางมากอบกุมไว้ไม่ให้คนอื่นเห็น  บีบเบาๆเพื่อส่งผ่านกำลังใจไปให้อีกคน

     

    “ขอบคุณ”เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบาแต่ชานยอลก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน

     

    ...ชายหนุ่มได้แต่หวังว่าการแข่งวันนี้จะไม่เกิดอะไรขึ้นกับทั้งแบคฮยอนและลู่หาน...

     

     

     

     

    การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นโดยที่ยังไม่ถึงรอบของชมรมเขาสักคน  แบคฮยอนพยายามไม่คิดให้เสียสมาธิก่อนแข่ง  ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม...

     

    ...นี่อยู่ในการแข่ง  ลู่หานไม่มีทางนอกกติกาแน่...

     

    “ฉันไปก่อนนะ  อวยพรให้ด้วย...”เสียงของซิ่วหมินซึ่งเป็นคนแรกในชมรมที่ต้องลงแข่งเอ่ยขึ้นเรียกให้แบคฮยอนหลุดจากภวังค์

     

    “ไฟติ้งครับ!”แบคฮยอนยกกำปั้นขึ้นเป็นการให้กำลังใจอีกคน  ซิ่วหมินฉีกยิ้มกว้างส่งมาให้ก่อนจะเดินขึ้นไปบนเวที

     

    แบคฮยอนมองดูการแข่งขันหลายรอบที่ผ่านไปด้วยความกังวล  ยิ่งใกล้ถึงรอบของเขาเท่าไหร่ความกังวลยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น  เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไรแต่มันอึดอัดไปหมด...

     

    ...ยิ่งมองเห็นชานยอลมีสีหน้ากังวลไม่แพ้กันมันยิ่งอึดอัด...

     

    ...ทำไมกันนะ...

     

    การแข่งขันดำเนินมาเรื่อยๆ  ตอนนี้คนที่ยืนอยู่บนเวทีคือเซฮุน...ซึ่งรอบต่อไปก็คือเขา...  ดวงตาคมทอดมองใบหน้าสวยที่กำลังตึงเครียดด้วยความเป็นห่วง  รอมฝีปากอิ่มที่เขาหลงใหลกำลังเม้มแน่อย่างที่ตัวชอบทำเวลาเครียดโดยไม่รู้ตัว

     

    “ถ้าไม่ไหว...ฉันว่านายอย่าลงแข่งเลยแบคฮยอน...”หลังจากที่ปล่อยให้มีแต่ความเงียบมานานในที่สุดชานยอลก็ตัดสินใจที่จะเอ่ยสิ่งที่อยู่ในใจออกไป

     

    “อย่าทำหน้าเหมือนแบกโลกไว้แบบนั้นแบคฮยอน...”มือหนาทาบทับลงบนมือบางเบาๆ  ชานยอลจ้องมองอีกคนด้วยสายตาคล้ายอ้อนวอน

     

    “ฉันไม่เป็นไรชานยอล...”แบคฮยอนเอ่ยก่อนรอยยิ้มบางๆจะถูกส่งไปให้อีกครั้ง  แต่ชานยอลคิดว่าดวงตาของแบคฮยอนไม่ได้ยิ้มไปด้วยเลยสักนิดเดียว  มือบางค่อยๆชักมือออกจากการกอบกุมของอีกคนก่อนจะวางทาบทับลงไปบนมือหนา  นิ้วเรียวสอดประสานเข้ากับนิ้วยาวของอีกฝ่ายช้าๆ  แบคฮยอนออกแรงบีบเบาๆเพื่อให้อีกคนคลายกังวล

     

    ...ชานยอลไม่ควรมาเครียดกับเขา...

     

    ดวงตาของแบคฮยอนจ้องมองไปยังฝั่งตรงข้ามของเวที  ดวงตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองมาที่เขาอย่างเรียบเฉย  ลู่หานจ้องมองมาที่เขาและชานยอลนิ่ง  ไม่ยอมถอนสายตาไปไหน...

     

    “ฉันไปก่อนนะ...”แบคฮยอนละมือออกจากมือของอีกคนก่อนจะยิ้มให้อีกครั้ง  ชานยอลทำได้เพียงแค่ยิ้มบางๆแล้วปล่อยให้อีกคนเดินขึ้นไปบนเวทีเท่านั้น

     

    “สวัสดีแบคฮยอน...”ลู่หานเอ่ยทักทายทันทีที่ขาเรียวก้าวขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีแข่งขัน

     

    “สวัสดีครับ...”แบคฮยอนเองก็ทักทายกลับไปนิ่งๆเช่นกัน

     

    “เริ่ม!”เสียงกรรมการประกาศให้เริ่มแข่งขัน  แต่ทั้งสองคนก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม  ไม่มีแม้แต่การตั้งการ์ดเสียด้วยซ้ำ

     

    “นายดูมีความสุขนะแบคฮยอน”ลู่หานเอ่ยเรียบๆ  ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังใบหน้าสวยที่พยายามปรับให้นิ่งเฉยของแบคฮยอน

     

    “เริ่มเลยเถอะครับ...”แบคฮยอนเอ่ยขึ้น  เขาไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวมายุ่งกับการแข่ง  แขนเรียวยกขึ้นตั้งการ์ดอย่างที่ตนถนัด  ลู่หานเองก็เช่นกัน

     

    ร่างเพรียวบางของลู่หานพุ่งเข้ามาประชิดกับแบคฮยอน  แขนบางตวัดเข้าที่ใบหน้าสวย แต่แบคฮยอนก็กันไว้ได้อย่างหวุดวิด  แบคฮยอนใช้แขนล็อคแขนของอีกคนไว้ก่อนจะบิดไขว้หลังอย่างที่ถนัด  แต่ลู่หานก็บิดตัวหลุดจากการล็อคนั้นได้อย่างไม่ยากเย็น

     

    ...แบคฮยอนไม่แปลกใจเพราะลู่หานเฝ้ามองเขาตลอดมา...

     

    ...คอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือเขาเสมอ  ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน...

     

    ภาพวันเก่าๆไหลย้อนเข้ามาโดยที่เขาไม่ตั้งใจ  ถึงปากจะบอกว่าไม่เอาเรื่องส่วนตัวมายุ่งกับการแข่ง  แต่ความจริงแล้วมันไม่ง่ายเลยที่จะแยกทั้งสองเรื่องออกจากกันโดยเฉพาะในเวลานี้...

     

    ลู่หานพุ่งตัวเข้าไปประชิดอีกครั้งก่อนที่จะเริ่มหาช่องโหว่ของอีกคน  เพราะขาของเขาไม่สามารถใช้งานหนักได้จึงเสียเปรียบเรื่องการเตะของแบคฮยอนอยู่มาก  แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคมากเท่าไร...เพราะเขาจะไม่คิดว่าตัวเองด้อยกว่าใคร

     

    ...โดยเฉพาะคนตรงหน้านี่!

     

    แบคฮยอนไม่ได้เป็นฝ่ายรุกกลับเลยแม้แต่น้อย  เขาทำเพียงแค่หลบหลีกและป้องกันตัวเองเท่านั้น  ความคิดบางอย่างที่ผุดขึ้นมาในหัวมันทำให้แขนขาเริ่มรู้สึกไร้เรี่ยวแรง

     

    ...เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะทำให้ลู่หานเจ็บอีกแล้ว...

     

    ...เพราะเขาทำให้พี่ที่แสนดีคนหนึ่งกลายเป็นคนใจร้ายอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน...

     

    ยิ่งเห็นแบคฮยอนไม่ตอบโต้อะไรมันยิ่งทำให้ลู่หานหงุดหงิด ดวงตากลมโตจ้องมองอีกคนอย่างเอาเรื่อง  อารมณ์โมโหเริ่มเข้ากอบกุมจนหัวสมองขาวโพลนไปหมด

     

    “ทำไมนายถึงไม่ตอบโต้แบคฮยอน!”ลู่หานเพิ่มแรงเข้าไปอีกจนแขนบางของแบคฮยอนที่ยกขึ้นตั้งการ์ดสั่นระริก

     

    “นายมีความสุขมากมั๊ยที่ทำให้ฉันดูเหมือนตัวร้าย! นายได้ทุกอย่างในขณะที่ฉันเสียทุกอย่างแม้แต่ความเป็นตัวเองน่ะ!”เสียงหวานของลู่หานตะโกนใส่  แรงที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ความเจ็บปวดแล่นริ้วไปตามแขนบางจงในที่สุดแบคฮยอนก็ไม่สามารถต้านไว้ได้อีกต่อไป  หมัดของลู่หานถึงได้พุ่งเข้าไปประทะที่แก้มขาวอย่างจังจนร่างทั้งร่างล้มลงไปกองที่พื้น

     

    ปรี๊ด!

     

    เสียงนกหวีดสั่งหยุดของกรรมการทำให้ลู่หานรั้งมือไว้ได้ทันก่อนที่ความโมโหจะทำให้เขาเข้าไปซ้ำใบหน้าสวยนั่นอีกรอบ

     

    “ไม่เป็นไรครับ...”แบคฮยอนยกมือห้ามแพทย์สนามที่กำลังวิ่งขึ้นมาเพื่อดูอาการ  ก่อนแขนเรียวจะยันตัวลุกขึ้นด้วยตนเองเพื่อให้รู้ว่าเขายังไหว

     

    ดวงตาคู่สวยทอดมองใบหน้าที่โทรมลงอย่างเห็นได้ชัดของลู่หานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำขอโทษ  เขารู้ว่าเขามีส่วนที่ทำให้ลู่หานต้องมาเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้  ยิ่งคำพูดที่พูดออกมาจากใจของลู่หานเมื่อครู่มันยิ่งตอกย้ำว่าใครที่ต้องรับความเจ็บปวดจากเรื่องนี้

     

    ...เขามีความสุขอยู่กับชานยอลในขณะที่ลู่หานไม่มีใคร...

     

    ...เขาเข้าใจความรู้สึกนั้นดี...

     

    ...ก่อนหน้านี้มันเป็นเขาเองที่ได้รับ...เขารู้ว่ามันทรมาณขนาดไหน...

     

    คิดได้แค่นั้นหยาดน้ำใสๆก็รื้นขึ้นที่ดวงตา  ขอบตาของเขาร้อนผ่าวอย่างช่วยไม่ได้  ลู่หานเสียชานยอลไปไม่ได้...

     

    ...แต่เขาเองก็เสียชานยอลไปไม่ได้เช่นกัน...

     

    “เราสองคนไม่ต่างกันเลยพี่ลู่หาน...”แบคฮยอนเอ่ยเสียงเบา  ไม่รู้ว่าคนที่กำลังจ้องมองมาด้วยความคับแค้นนั่นจะรับรู้หรือมั๊ย

     

    ลู่หานพุ่งตัวเข้ามาทันทีที่กรรมการให้สัญญาณเริ่มแข่ง  แบคฮยอนที่อยู่ในท่าตั้งการ์ดยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่  ดวงตาคู่สวยเบือนไปสบกับใบหน้าหล่อเหลาที่ตื่นตระหนกของชานยอลก่อนจะหันมาสบกับอีกคนบนเวที  ขาเรียวของลู่หานที่ไม่มีใครคิดว่าจะสามารถใช้การได้ตวัดขึ้นตรงมายังใบหน้าสวยที่กำลังตั้งการ์ดอยู่

     

    ภาพทั้งหมดเคลื่อนผ่านสายตาของแบคฮยอนราวกับภาพสโลว์  แขนบางค่อยๆลดการ์ดลงช้าๆ  ริมฝีปากอิ่มก็เอื้อนเอ่ยคำพูดอะไรบางอย่างออกมาที่ได้ยินเพียงแค่เขาและลู่หานเท่านั้น

     

    “ผมจะยอมให้ครั้งนี้เป็นการชดใช้ความผิดที่เคยทำ...แต่หลังจากนี้ผมจะไม่รู้สึกผิดกับเรื่องนี้อีก  เพราะผมก็ไม่ยอมยกชานยอลให้ใครเหมือนกัน”

     

    ผลัวะ!

     

    ลูกเตะเต็มแรงของลู่หานตวัดเข้าที่ใบหน้าสวยที่ไร้การป้องกันจากแขนบางอย่างที่มันควรจะเป็น  ร่างบางร่วงลงไปกองกับพื้นทันที  สติดับวูบไปท่ามกลางความตกใจของทุกคนรวมทั้งลู่หานเอง

     

    “แบคฮยอน!”เสียงตะโกนเรียกที่คุ้นเคยนั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขารับรู้ได้

     

     

     

     

     

    ...หลังจากนี้เขาจะไม่ยอมยกชานยอลให้ใครเป็นอันขาด  ต่อให้ต้องกลายเป็นตัวร้ายอย่างที่คิมจงอินบอกก็ตาม...

     








    TBC.

    TALK. เอามาลงแล้วค่าาาาาา  บอกว่าเดี๋ยวๆนี่ข้ามวัน 5555555555555  ขอโทษค่ะเพชรเพิ่งกลับจากปัจฉิมแล้วตัวกรอบมากจริงๆ TT  สั่งจองยังสั่งกันได้อยู่นะคะ  คนที่สนใจอย่าลืมจองกันนะคะ  เพราะเพชรคงไม่ทำเผื่อไว้เยอะอ่ะค่ะ (เดี๋ยวขายไม่ออกแล้วขาดทุน) 555555555555555 เลิฟยูค่ะทุกคน ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ ไม่รู้ว่าอาทิตย์หน้าจะได้อัพรึเปล่าเนอะ  มันมีสอบโอเน็ตอ่ะ *0* เอาเป็นว่าถ้าอัพได้จะมาอัพค่า  บ๊ายบายยยยยยยยย ><

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×