ตอนที่ 15 : ตอนที่ 15 นางฟ้าน้อย
เมื่อเห็นว่าเจ้าของพลังเสียงทำลายโสตประสาทนั้นเงียบลงแล้ว เขาจึงปล่อยเธอให้เป็นอิสระ ก่อนจะแสร้งทำเป็นพูดยั่วโมโหอีกฝ่ายเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเอง
“แล้วนี่ตกลงคุณเข้ามาทำอะไรในห้องผมมิทราบครับ เอ๊ะ! หรือว่า คุณจะมาขืนใจผม อย่าเข้ามาใกล้นะ ผมกลัว”
ท่าทางที่กระโดดถอยไปด้านหลัง พลางยกสองมือขึ้นมาปิดบังแผ่นอกแกร่งของตัวเองเอาไว้ บวกกับหน้าตาที่แกล้งทำเป็นตกใจและน้ำเสียงที่สุดแสนกวนอารมณ์นั้น ทำให้อรุสายิ่งฉุนเข้าไปใหญ่ พลางสวนตอบกลับไปทันทีด้วยใบหน้ามุ่ย
“เฮอะ...ฉันสิต้องกลัวนาย ตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ปักหลั่นขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้จิ้งจกตุ๊กแกอะไรนั่น ฉันคงไม่หลงเชื่อตามนายมาถึงนี่หรอก”
“อ้าว อย่างนั้นเองเหรอครับเนี่ย แหมผมก็หวั่นใจนึกว่าจะถูกคุณผู้หญิงข่มเหงเอาซะอีก”
ใบหน้าทะเล้นชวนให้โมโหนั้น ทำเอาสาวชาวกรุงนึกอยากหยิบข้าวของที่วางอยู่ใกล้มือเขวี้ยงใส่เสียให้เข็ด แต่ก็ทำได้เพียงแค่คิด เพราะไม่อยากจะอยู่ในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียวพันร่างกายเช่นนี้นานๆ ก่อนจะเริ่มบอกจุดประสงค์ที่ตัวเองมาบุกรุกห้องของคนอื่นอย่างไม่อ้อมค้อม
“เลิกทำเป็นเล่นสักทีเหอะน่า ฉันก็แค่จะมาขอยืมเสื้อจากคุณป้าของนายเท่านั้นแหละ ก็อีกห้องมันล็อกอยู่ แล้วห้องนี้ก็ดูจะใหญ่กว่าห้องนั้นด้วย ใครจะไปคิดว่านายอยู่คนเดียวในห้องนอนใหญ่ขนาดนี้เล่า”
“จริงด้วย ลืมเรื่องเสื้อไปเลย เอ่อ แต่ผมไม่มีกุญแจห้องรับ...เอ่อ...ห้องคุณลุงคุณป้าหรอกนะ เอาอย่างนี้ใส่เสื้อผ้าผมไปก่อนแล้วกัน”
ธมกรทำท่าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ เขาเผลอมองสำรวจร่างกายหญิงสาวอีกครั้งพลางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ก่อนจะเบนสายตาไปทางอื่น แล้วเอ่ยขึ้น แต่กลับได้ยินเสียงอีกฝ่ายสวนกลับมาในทันที
“อะไรนะ! ไม่มีทาง ฉันไม่ยอมใส่เสื้อของคนบ้าลามกอย่างนายหรอก ถามจริงๆ เถอะ นายไม่มีเสื้อผ้าผู้หญิงคนอื่นแล้วรึไง ของพี่สาวน้องสาวหรือว่า เอ่อ ของแฟนเก่านายก็ได้”
อรุสาโต้กลับทันควัน หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรเธอก็ไม่มีวันยอมใส่ชุดของชายหนุ่มแน่นอน แต่คำพูดปฏิเสธประโยคนั้นกลับเรียกเสียงหัวเราะน้อยๆ จากร่างสูงใหญ่ขึ้นมาทันที
“ผมเป็นลูกคนเดียว เมียก็ยังไม่มี แต่ถ้าคุณไม่รังเกียจผมจะยอมยกฐานะนั้นให้ก็ได้ ถึงจะหุ่นกะโปโลไปหน่อย แต่ผิวขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะแบบนี้ผมก็ไม่เกี่ยงนะ”
หนุ่มผิวเข้มเอ่ยพลางแกล้งทำเป็นแลบลิ้นเลียริมฝีปากมองเรือนร่างเกือบเปลือยของหญิงสาวด้วยแววตาหื่นกระหาย เล่นเอาคนถูกมองต้องรีบคว้าผ้าห่มบนเตียงมาคลุมห่อตัวเอาไว้เพื่อเลี่ยงให้พ้นจากสายตาโลมเลียนั้นพร้อมกับโวยวายออกมาชุดใหญ่
“ว้าย! ตาบ้าลามกโรคจิต คนทุเรศ ไอ้หื่น ไอ้...”
“โว้ย! พอๆ เลิกโวยวายสักทีน่า อยู่ในห้องกับผู้ชายแค่สองต่อสองในสภาพอย่างนี้ยังมีสิทธิ์เลือกอีกเหรอไง เอ้านี่ ใส่ซะถ้าไม่อยากถูกผมจับทำเมียเสียคืนนี้เลย หรือถ้าอยากเปลี่ยนใจก็บอกแล้วกัน ผมรอข้างนอกนะ”
คำพูดก่นด่ายาวเหยียดกับท่าทางที่มองมาเหมือนรังเกียจเดียดฉันท์เขาอย่างกับเป็นจิ้งจกตุ๊กแกหรือสัตว์โลกที่ไม่น่าพิสมัยนั้น ทำให้ชายหนุ่มเจ้าของห้องชักเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีกระลอก เขาทำหน้านิ่วคิ้วขมวดกับความเอาแต่ใจตัวเองของหญิงสาวก่อนจะเดินกลับเข้าไปในซอกเล็กๆ ตรงข้างเตียงพลางหยิบชุดนอนออกมาโยนใส่คนที่เอาผ้าห่มผืนหนาห่อตัวเป็นดักแด้นั่งอยู่บนเตียงชุดหนึ่ง อีกชุดพาดบ่าเอาไว้แล้วออกไปจากห้องตามมาด้วยเสียงปิดประตูดังโครม ท่ามกลางท่าทีตื่นตระหนกของอรุสา
“ตาบ้านั่นน่ากลัวที่สุดเลย อาเกื้อนะอาเกื้อทำไมต้องปล่อยหลานสาวตัวเล็กๆ น่ารักมาผจญกับคนลามกโรคจิตอย่างนี้ด้วยนะ ฮือๆ คอยดูนะจะฟ้องคุณนพให้เข็ดเลย”
เสียงรำพึงรำพันอย่างโอดครวญของอรุสาที่ดังออกมาภายนอก ทำให้คนที่ยืนพิงแผ่นหลังกับประตูข้างนอกห้องได้แต่ก้มหน้ามองพื้นอย่างผิดหวังลึกๆ เมื่อการพบกันครั้งแรกระหว่างเขาและเธอไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด แถมดูท่าทางว่าจะสร้างความสัมพันธ์อันดีงามกับหญิงสาวได้ยากขึ้นเสียด้วย ธมกรอดรู้สึกโมโหตัวเองไม่ได้ ไม่รู้ทำไมพออยู่ต่อหน้าอีกฝ่ายเขาถึงรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลยสักที แถมยังทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นพวกหื่นกามไปแล้วด้วย
“นางฟ้าน้อย เธอลืมฉันไปแล้วจริงๆ ใช่ไหม?”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองเบาๆ เอ่ยกับตัวเองอย่างคนสิ้นหวัง พลางถอนหายใจยาว ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างเงียบเชียบ
โปรดติดตามตอนต่อไปเร็วๆ นี้ค่ะ >>>
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รอไรเตอร์มา up ต่อ