คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 12 : ความจริงที่ฉันเสียใจ [100%]
ตอนที่ 12
พาร์ทคิม
แสงนั่นอีกแล้ว แสงสว่างวาบเหมือนวันนั้น วันที่ฉันกับจุนสลับร่างกัน อะไรนะ? หรือว่าใกล้หมดเวลาแล้ว?
ฉันนอนพลิกไปพลิกมาเมื่อแสงที่ฉันเห็นกำลังตามมารบกวนฉันในความฝัน จนต้องลืมตาตื่นขึ้นมารับความมืดในโลกแห่งความเป็นจริง
ก่อนที่จะคิดไปถึงเรื่องเมื่อหลายวันก่อน เรื่องที่ยอลสารภาพรัก คิดแล้วก็ปวดหัวและสับสน เขาชอบจุน เขากำลังสารภาพรักกับจุนซึ่งมีร่างฉันสิงสถิตอยู่ ฉันควรจะทำยังไงดี?
เพราะเรื่องราวต่างๆที่ประดังประดาเข้ามาเต็มไปหมดทำให้เมื่อคืนฉันนอนไม่หลับอีกเลยหลังจากสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก ก่อนจะออกไปโรงเรียนแต่เช้าด้วยสภาพเหมือนคนอดหลับอดนอน เพลียเหลือเกิน
เพราะเวลายังเหลืออีกมากกว่าโรงเรียนจะเข้าฉันเลยใช้การเดินไปที่ป้ายรถเมล์แทนที่จะนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างพลางคิดอะไรไปเรื่อยจนมาสะดุดกับเสียงของยายคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ที่ปากซอยติดถนนใหญ่
“บางสิ่งที่เราคิดอาจไม่ถูกต้องเสมอไปก็ได้นะ...อย่าใช้สมองแต่จงใช้หัวใจคิด”
ฉันหันกลับไปตามเสียงเดิมกับคำพูดที่ทำให้ฉันชะงักไป
“ยายพูดกับผมหรอครับ?” ฉันถามออกไป
“คนเราจะมีโอกาสอีกสักกี่ครั้งในชีวิตกัน...จงใช้หัวใจนำทางไปเถอะ” ยายคนเดิมพูดต่อโดยไม่ตอบคำถามฉัน ฉันนิ่งคิดตามคำพูดของยาย ก่อนที่ฉันจะเดินต่อไปเพราะยายแกเหลือไว้เพียงความเงียบให้ฉัน
“ใช้หัวใจหรอ?” ฉันถามตัวเองในใจ
“มิยอง!” เสียงเรียกของยอลดังขึ้นเมื่อเห็นมิยองเดินเข้ามากับจุน
“เรียกฉันก็ได้นะไอ้ยอล!” จุนพูดเนือยๆ
“ฉันบอกเขาไปแล้วน่ะ” มิยองรีบบอก ยอลไม่ได้ว่าอะไรก่อนจะเข้าประเด็น
“ฉันมีเรื่องด่วนน่ะ...ฉันอยากจะคุยกับคิมตามลำพังหลังเลิกเรียนนี้น่ะ พวกนายช่วยฉันหน่อยสิ” ยอลบอกเสียงเศร้าๆ
“เรื่องอะไรหรอ?” มิยองถามเมื่อจับสังเกตได้
“ฉันคงต้องบินไปอเมริกาด่วนน่ะ...เย็นนี้”
“เย็นนี้? เร็วอย่างนั้นเลยหรอ?” มิยองถามเสียงหลง
“ย่าฉันอาการไม่ค่อยดีน่ะ เลยตั้งใจจะบินไปหา” ยอลอธิบายเสริม
“ฉันไม่รู้ว่าจะกลับมาอีกเมื่อไหร่ ฉันเลยอยากคุยกับคิมให้เข้าใจน่ะ” ยอลพูดเป็นนัยๆ
“ทำไมพูดเหมือนจะไม่ได้กลับมาอย่างนั้นแหละ” จุนพูดลอยๆ ยอลยิ้มหน้าเศร้าๆ
“เดี๋ยวฉันจัดการให้...นายอยากไปไหนล่ะ?” มิยองถาม
หลังจากรับปากจะช่วยยอลแล้วทั้งมิยองและจุนก็เริ่มแผนการทันที
“คิม...วันนี้เธอว่างรึเปล่า?” มิยองแกล้งถามฉัน
“ว่าง...ทำไมหรอ?” ฉันถาม
“คือว่าฉันอยากให้เธอช่วยไปถ่ายรูปให้พวกเราหน่อยน่ะ” มิยองบอกอย่างเขินๆ
“รูปหรอ? รูปอะไรล่ะ?”
“เธอคงยังไม่รู้ว่าฉันกับมิยอง...เราคบกันแล้ว” จุนบอกอย่างดีใจ แทนที่ฉันจะโกรธหรือตกใจ ฉันกับรู้สึกยินดีกับพวกเขา คงเป็นเพราะฉันเปิดใจยอมรีบจุนเขาแล้วล่ะมั้ง
“ดีใจด้วยนะ...ได้สิ ฉันจะไปให้” ฉันรับปากอย่างเต็มใจ
“ขอบใจนะ” มิยองยิ้มน้อยๆตามสไตล์ของเธอ
โดยฉันเองไม่รู้เลยว่าเป็นแผนการล่อฉันให้มาพบกับเขา...คนที่ทำให้ฉันนอนไม่หลับอยู่หลายวัน
มิยองและจุนพาฉันมาที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง มันสวยมากดูสงบและดรแมนติก พวกเขาช่างเลือกสถานที่ดีนะ ฉันคิดในใจ
“คือว่าฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ ฉันไม่อยากถ่ายรูปทั้งเครื่องแบบนักเรียนแบบนี้หรอก” มิยองบอก ฉันพยักหน้าตกลง
“รออยู่นี่ล่ะเข้าใจมั้ย?” จุนสำทับ ฉันเลยกวักมือไล่เขาไปทันที ก่อนที่ทั้งสองจะเดินห่างออกไป
ฉันนั่งรอที่ม้านั่งนั้น ก่อนที่จะมีคนมานั่งข้างๆฉัน...
“ฉันดีใจที่นายมา” จู่ๆเสียงยอลก็ดังขึ้น ฉันจึงหันขวับไปมองเขาอย่างตกใจ ก่อนจะเข้าใจอะไรหลายๆอย่าง นี่สองคนนั้นหลอกฉันให้มาพบเขาสินะ พอรู้ความจริงฉันจึงจะลุกหนีแต่ยอลคว้าข้อมือขอฉันไว้
“เดี๋ยวก่อนสิ ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับนายนะ”
“แต่ฉันคิดว่าไม่มี” ฉันบอกปัด
“ฉันไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้พูดกับนายอีกหรือเปล่า...ช่วยฟังที่ฉันจะพูดหน่อยเถอะ” เขาขอร้อง จนฉันนิ่งแต่ฉันก็ยังไม่ยอมหันหน้ามาสบตาเขา
“ตลอดเวลาที่ฉันรู้จักนายมันทำให้ชีวิตฉันมีความสุขมากนะ ฉันหัวเราะ ฉันสนุก ฉันมีเรื่องราวดีๆ มีหลายๆอย่างที่ประทับใจ โลกดูสดใสมาก...เมื่อฉันได้รู้จักกับนาย” ฉันใจเต้นหนักเมื่อได้ยินคำพรรณนาของเขา
ฉันหันกลับไปหาเขาก่อนจะบอกเสียงเรียบ
“ฉันรู้ว่านายชอบฉันแต่ว่านายชอบฉันไม่ได้ ฉันไม่ใช่คนที่นายจะชอบ” ฉันระบายออกมา
“ไม่ ฉันรู้ว่าฉันชอบใครแล้วฉันก็ไม่ได้สับสนด้วย ฉันชอบนาย ชอบนายในตอนนี้ ชอบที่นายเป็นนาย” ยอลพยายามบอกแต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจ
“ยอล! หยุดพูดสักที...ฉันไม่ได้ชอบนาย...ฉันชอบนายไม่ได้” ตราบใดที่ฉันยังอยู่ในร่างนี้ ตราบใดที่ฉันยังกลับร่างเดิมไม่ได้ ฉันชอบนายไม่ได้
เพราะคำพูดของฉันทำให้เขาหยุดชะงัก ก่อนจะยิ้มเหมือนยอมรับความจริง เขากำลังเข้าใจผิด เขากำลังเข้าใจว่าฉัน(ที่เป็นฉัน)ไม่ชอบเขา
“เข้าใจแล้วล่ะ” เขาบอกเบาๆก่อนจะหยิบกล่องของขวัญมาให้ฉันแล้วยื่นมาให้
“ฉันขอแค่ครั้งสุดท้ายช่วยรับนี่ไปหน่อย” เขาบอกเสียงเศร้าจนฉันสะท้านน้ำตารื้น
ฉันรับมาก่อนจะสบตาเขาเพื่อบอกความเป็นจริงทั้งหมดที่ฉันไม่สามารถพูดออกไปได้
“ยังไงฉันก็ดีใจที่ได้รู้จักนาย...ดูแลตัวเองด้วย ลาก่อน” เขาพูดตัดบทก่อนจะเดินคอตกออกไป อะไรกันนะ? คำพูดแบบนั้น? ทำไมเขาพูดเหมือนว่าเราจะไม่ได้พบกันอีก แค่คิดใจฉันก็สะท้าน เจ็บลึกไปข้างใน ก่อนที่ฉันจะทรุดตัวนั่งลงที่ม้านั่งตัวเดิมแล้วน้ำตาที่เอ่อก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
ทางด้านยอลซึ่งก็เจ็บไปแพ้กันก็พยายามข่มใจไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
“เป็นยังไงบ้างเข้าใจกันรึยัง?” จุนปรี่เข้ามาหาเมื่อเห็นยอลออกมา
“อืม เข้าใจแล้วล่ะ...ขอบใจที่ช่วยนะ” ยอลพยายามพูดให้เสียงเรียบเป็นธรรมชาติที่สุด
“คิมว่ายังไงบ้าง?” มิยองถามขึ้น ยอลยิ้มบางๆให้ก่อนจะตัดบทว่า
“ดูแลตัวเองด้วยนะ ฉันไปล่ะ” ก่อนที่เขาจะเดินจากไปโดยมิยองตะขิดตะขวงใจยังไงชอบกลจึงตัดสินใจกลับไปหาคิมเพื่อนถามเพื่อนรักของเธอโดยไม่ฟังคำคัดค้านของจุนที่ไม่อยากเข้าไปกลัวโดนคิมเล่นงานโทษฐานที่หลอกเธอมาเจอยอล
คิมนั่งเหม่อน้ำตาไหล โดยมิยองเข้ามากับจุนเห็นว่าฉันกำลังร้องไห้อยู่เลยไม่กล้าถามอะไรมาก ปล่อยให้ฉันร้องไห้ไปสักพัก
“ฉันควรจะบอกความจริงกับเขาไปตั้งแต่ต้น” ฉันบอกเสียงสะอื้น
“นี่เขายังไม่รู้เรื่องเธออีกหรอ? ไม่สิ...เธอยังไม่รู้อีกหรอว่าเขารู้แล้วน่ะ” มิยองถาม ฉันชะงักก่อนจะหันไปจับแขนมิยองเบาๆก่อนจะถามอีกครั้ง
“อะไรนะ? เขารู้แล้วหรอ?”
“ใช่! เขารู้แล้ว รู้มาพักหนึ่งแล้ว...ฉันขอโทษนะที่ไม่ได้บอกเธอ เขาขอฉันไว้...ฉันนึกว่าเขาจะบอกเธอแล้ว...แล้วทำไม...” มิยองบอกอย่างตื่นตระหนกปนรู้สึกผิด
“เขาไม่ได้บอกฉัน...ฉันบอกเขาไปว่า ฉันไม่ได้ชอบเขาและชอบเขาไม่ได้แล้วเขาก็ไป...ฉันพูดอะไรลงไปเนี่ย!” ฉันมารู้ความจริงก็ร้องไห้หนักอย่างเสียใจ มิยองเศร้าไปด้วย กอดปลอบใจฉัน
“เธอยังมีเวลานะ รีบไปสนามบินน่าจะยังทัน” จุนบอกทำให้ฉันตกใจรอบสอง
“สนามบินหรอ?”
“นี่มันก็ไม่ได้บอกเธอหรอเนี่ย! ไหนว่าเรียบร้อยแล้วไง...มันจะบินไปอเมริกาเย็นนี้” จุนสบถอย่างหัวเสีย
“อเมริกา? เขาจะไปทำไม?” ฉันถามเสียงตื่น ใจสั่นไปหมด
“เห็นว่าไปเยี่ยมย่าน่ะ ย่าไม่สบายหนัก”
“เดี๋ยวนะ...ที่เขาบอกพวกเรามันเหมือนว่าเขาจะไม่กลับ...” มิยองไม่กลาพูดต่อเมื่อเห็นว่าฉันใจคอไม่ดี
ฉันจึงนึกขึ้นได้ถึงกล่องของขวัญที่เขาให้มา ก่อนจะรีบเปิดดู
จดหมายและนาฬิกาล็อกเก็ต...
‘ขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกเธอตั้งแต่แรก...ความจริงฉันรู้เรื่องเธอกับจุนแล้วล่ะ ตั้งแต่ที่โรงพยาบาลวันนั้น ฉันคิดว่ามันคงไม่เป็นไรหากไม่ได้บอกเธอ...แต่ฉันคิดว่าฉันคิดผิด ฉันควรจะบอกเธอไปตั้งนานแล้วและเรื่องราวคงไม่วุ่นวายแบบนี้...ฉันดีใจที่ได้ชอบเธอและก็เสียใจกับเรื่องทั้งหมดด้วย...ดูแลตัวเองด้วยนะ ฉันไม่รู้จะกลับมาอีกเมื่อไหร่...ฉันชอบเธอนะ...คิม’
ทันทีที่อ่านจดหมายจบ จดหมายก็ล่วงลงทันที ฉันโง่มาก! โง่ที่สุด เขาชอบฉัน ยอลชอบฉัน...ชอบคิม!!! ฉันกำลังจากเขาไป เขาจะไม่กลับมา ฉันควรทำยังไงดี...ฮือ ฮือ....
“รีบไปสิตอนนี้อาจยังทัน” จุนบอกเสียงดังก่อนจะจับมือฉันไปเรียกแท็กซี่ไปสนามบินทันที โดยมีจุนและมิยองตามไปด้วย
ในรถ ฉันก็ยังคงรองไห้หนักเมื่อที่ผ่านมาฉันโง่มากแค่ไหน ฉันทำให้เขาเสียใจ ฉันทำให้ใจของฉันเจ็บ
ฉันเปิดกล่องของขวัญอีกครั้งเพื่อหยิบนาฬิกาล็อกเก็ตออกมาดู ก่อนจะกำมันอย่างเสียใจ ในใจภาวนาขอให้ไปทัน...ขอให้ได้บอกความจริงให้เขาฟังก่อน...ก่อนที่ฉันกับเขาจะไม่ได้เจอกัน
ทันที่ที่รถจอดเทียบที่สนามบินฉันก็วิ่งนำไปหาเขาทันที มือข้างหนึ่งก็ถือกล่องของขวัญอีกข้างก็กดโทรศัพท์หาเขาแต่ว่า...เขาปิดเครื่องไปแล้ว...ไม่นะ! อย่าบอกว่าเขาขึ้นเครื่องไปแล้วนะ
ฉันจึงเข้าไปถามเคาน์เตอร์
“ขอโทษนะคะเที่ยวบินที่ไปอเมริกาตอนประมาณนี้ออกไปรึยังคะ?”
“ออกไปแล้วล่ะค่ะ เมื่อสิบนาทีก่อนนี่เอง” พนักงานบอกเสียงแจ้ว ฉันใจตกไปถึงตาตุ่ม
“ขอโทษนะคะ มันอาจจะมีเที่ยวบินอื่นอีกก็ได้ ช่วยเช็คให้ทีนะคะ” ฉันไม่ยอมแพ้
“ขอโทษด้วยค่ะ...เที่ยวบินไปอเมริกาของวันนี้เป็นเที่ยวบินสุดท้ายแล้วนะคะ จะมีอีกทีก็เช้ามืดวันรุ่งขึ้นแล้วล่ะค่ะ” พนักงานสาวยืนยัน ฉันตัวชาทรุดลงทันที มิยองเข้ามาประคองไว้
“เขาไปแล้วมิยอง เขาไปแล้วอ่ะ...ฮือ ฮือ...”
“คิม” มิยองเองก็พูดไม่ออกได้แต่กอดปลอบใจ
ฉันเดินไปที่ลานจอดเครื่องบินรอบนอกก่อนจะมองไปบนฟ้าใกล้ที่มีแสงสว่างของดวงอาทิตย์รำไร น้ำตาที่เหือดแห้งไม่ได้ทำให้ฉันหายเสียใจ ฉันเสียใจและรู้สึกผิด
“กลับกันเถอะ” มิยองเรียกเบาๆ ฉันพยักหน้าอย่างคนหมดแรงก่อนจะเดินตามเขาไป
แต่เพราะฉันไม่ทันเห็น รถกระบะก็พุ่งตรงมาที่ฉันอย่างรวดเร็ว และเท่าที่สติฉันยังอยู่คือจุนกำลังเข้ามาจะดึงฉันออกไปให้พ้นวิถีรถ แล้วฉันก็สลบไป...
............................................................................................
ตอนต่อไปก็จบแล้วนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามมาโดยตลอดนะคะ
ช่วยทำโพลกันหน่อยนะคะ -/\-
ความคิดเห็น