ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Switch สลับขั้วมาลุ้นรัก

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 12 : ความจริงที่ฉันเสียใจ [100%]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 334
      1
      21 ต.ค. 55

    :)  Shalunla


    ตอนที่ 12

    พาร์ทคิม

    แสงนั่นอีกแล้ว แสงสว่างวาบเหมือนวันนั้น วันที่ฉันกับจุนสลับร่างกัน อะไรนะ? หรือว่าใกล้หมดเวลาแล้ว?

    ฉันนอนพลิกไปพลิกมาเมื่อแสงที่ฉันเห็นกำลังตามมารบกวนฉันในความฝัน จนต้องลืมตาตื่นขึ้นมารับความมืดในโลกแห่งความเป็นจริง

    ก่อนที่จะคิดไปถึงเรื่องเมื่อหลายวันก่อน เรื่องที่ยอลสารภาพรัก คิดแล้วก็ปวดหัวและสับสน เขาชอบจุน เขากำลังสารภาพรักกับจุนซึ่งมีร่างฉันสิงสถิตอยู่ ฉันควรจะทำยังไงดี? 

    Tumblr-girl-black-and-white-shirt_large
     

    เพราะเรื่องราวต่างๆที่ประดังประดาเข้ามาเต็มไปหมดทำให้เมื่อคืนฉันนอนไม่หลับอีกเลยหลังจากสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก ก่อนจะออกไปโรงเรียนแต่เช้าด้วยสภาพเหมือนคนอดหลับอดนอน เพลียเหลือเกิน

    เพราะเวลายังเหลืออีกมากกว่าโรงเรียนจะเข้าฉันเลยใช้การเดินไปที่ป้ายรถเมล์แทนที่จะนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างพลางคิดอะไรไปเรื่อยจนมาสะดุดกับเสียงของยายคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ที่ปากซอยติดถนนใหญ่

    “บางสิ่งที่เราคิดอาจไม่ถูกต้องเสมอไปก็ได้นะ...อย่าใช้สมองแต่จงใช้หัวใจคิด”

    ฉันหันกลับไปตามเสียงเดิมกับคำพูดที่ทำให้ฉันชะงักไป

    “ยายพูดกับผมหรอครับ?” ฉันถามออกไป

    “คนเราจะมีโอกาสอีกสักกี่ครั้งในชีวิตกัน...จงใช้หัวใจนำทางไปเถอะ” ยายคนเดิมพูดต่อโดยไม่ตอบคำถามฉัน ฉันนิ่งคิดตามคำพูดของยาย ก่อนที่ฉันจะเดินต่อไปเพราะยายแกเหลือไว้เพียงความเงียบให้ฉัน

    “ใช้หัวใจหรอ?” ฉันถามตัวเองในใจ




    “มิยอง!” เสียงเรียกของยอลดังขึ้นเมื่อเห็นมิยองเดินเข้ามากับจุน

    “เรียกฉันก็ได้นะไอ้ยอล!” จุนพูดเนือยๆ

    “ฉันบอกเขาไปแล้วน่ะ” มิยองรีบบอก ยอลไม่ได้ว่าอะไรก่อนจะเข้าประเด็น

    “ฉันมีเรื่องด่วนน่ะ...ฉันอยากจะคุยกับคิมตามลำพังหลังเลิกเรียนนี้น่ะ พวกนายช่วยฉันหน่อยสิ” ยอลบอกเสียงเศร้าๆ

    “เรื่องอะไรหรอ?” มิยองถามเมื่อจับสังเกตได้

    “ฉันคงต้องบินไปอเมริกาด่วนน่ะ...เย็นนี้”

    “เย็นนี้? เร็วอย่างนั้นเลยหรอ?” มิยองถามเสียงหลง

    “ย่าฉันอาการไม่ค่อยดีน่ะ เลยตั้งใจจะบินไปหา” ยอลอธิบายเสริม

    “ฉันไม่รู้ว่าจะกลับมาอีกเมื่อไหร่ ฉันเลยอยากคุยกับคิมให้เข้าใจน่ะ” ยอลพูดเป็นนัยๆ

    “ทำไมพูดเหมือนจะไม่ได้กลับมาอย่างนั้นแหละ” จุนพูดลอยๆ ยอลยิ้มหน้าเศร้าๆ

    “เดี๋ยวฉันจัดการให้...นายอยากไปไหนล่ะ?” มิยองถาม

     

    หลังจากรับปากจะช่วยยอลแล้วทั้งมิยองและจุนก็เริ่มแผนการทันที

    “คิม...วันนี้เธอว่างรึเปล่า?” มิยองแกล้งถามฉัน

    “ว่าง...ทำไมหรอ?” ฉันถาม

    “คือว่าฉันอยากให้เธอช่วยไปถ่ายรูปให้พวกเราหน่อยน่ะ” มิยองบอกอย่างเขินๆ

    “รูปหรอ? รูปอะไรล่ะ?”

    “เธอคงยังไม่รู้ว่าฉันกับมิยอง...เราคบกันแล้ว” จุนบอกอย่างดีใจ แทนที่ฉันจะโกรธหรือตกใจ ฉันกับรู้สึกยินดีกับพวกเขา คงเป็นเพราะฉันเปิดใจยอมรีบจุนเขาแล้วล่ะมั้ง

    “ดีใจด้วยนะ...ได้สิ ฉันจะไปให้” ฉันรับปากอย่างเต็มใจ

    “ขอบใจนะ” มิยองยิ้มน้อยๆตามสไตล์ของเธอ

    โดยฉันเองไม่รู้เลยว่าเป็นแผนการล่อฉันให้มาพบกับเขา...คนที่ทำให้ฉันนอนไม่หลับอยู่หลายวัน


     


     มิยองและจุนพาฉันมาที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง มันสวยมากดูสงบและดรแมนติก พวกเขาช่างเลือกสถานที่ดีนะ ฉันคิดในใจ

    “คือว่าฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ ฉันไม่อยากถ่ายรูปทั้งเครื่องแบบนักเรียนแบบนี้หรอก” มิยองบอก ฉันพยักหน้าตกลง

    “รออยู่นี่ล่ะเข้าใจมั้ย?” จุนสำทับ ฉันเลยกวักมือไล่เขาไปทันที ก่อนที่ทั้งสองจะเดินห่างออกไป

    ฉันนั่งรอที่ม้านั่งนั้น ก่อนที่จะมีคนมานั่งข้างๆฉัน...

    “ฉันดีใจที่นายมา” จู่ๆเสียงยอลก็ดังขึ้น ฉันจึงหันขวับไปมองเขาอย่างตกใจ ก่อนจะเข้าใจอะไรหลายๆอย่าง นี่สองคนนั้นหลอกฉันให้มาพบเขาสินะ พอรู้ความจริงฉันจึงจะลุกหนีแต่ยอลคว้าข้อมือขอฉันไว้

    “เดี๋ยวก่อนสิ ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับนายนะ”

    “แต่ฉันคิดว่าไม่มี” ฉันบอกปัด

    “ฉันไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้พูดกับนายอีกหรือเปล่า...ช่วยฟังที่ฉันจะพูดหน่อยเถอะ” เขาขอร้อง จนฉันนิ่งแต่ฉันก็ยังไม่ยอมหันหน้ามาสบตาเขา

    “ตลอดเวลาที่ฉันรู้จักนายมันทำให้ชีวิตฉันมีความสุขมากนะ ฉันหัวเราะ ฉันสนุก ฉันมีเรื่องราวดีๆ มีหลายๆอย่างที่ประทับใจ โลกดูสดใสมาก...เมื่อฉันได้รู้จักกับนาย” ฉันใจเต้นหนักเมื่อได้ยินคำพรรณนาของเขา

    ฉันหันกลับไปหาเขาก่อนจะบอกเสียงเรียบ

    “ฉันรู้ว่านายชอบฉันแต่ว่านายชอบฉันไม่ได้ ฉันไม่ใช่คนที่นายจะชอบ” ฉันระบายออกมา

    “ไม่ ฉันรู้ว่าฉันชอบใครแล้วฉันก็ไม่ได้สับสนด้วย ฉันชอบนาย ชอบนายในตอนนี้ ชอบที่นายเป็นนาย” ยอลพยายามบอกแต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจ

    “ยอล! หยุดพูดสักที...ฉันไม่ได้ชอบนาย...ฉันชอบนายไม่ได้” ตราบใดที่ฉันยังอยู่ในร่างนี้ ตราบใดที่ฉันยังกลับร่างเดิมไม่ได้ ฉันชอบนายไม่ได้

    เพราะคำพูดของฉันทำให้เขาหยุดชะงัก ก่อนจะยิ้มเหมือนยอมรับความจริง เขากำลังเข้าใจผิด เขากำลังเข้าใจว่าฉัน(ที่เป็นฉัน)ไม่ชอบเขา

    “เข้าใจแล้วล่ะ” เขาบอกเบาๆก่อนจะหยิบกล่องของขวัญมาให้ฉันแล้วยื่นมาให้

    “ฉันขอแค่ครั้งสุดท้ายช่วยรับนี่ไปหน่อย” เขาบอกเสียงเศร้าจนฉันสะท้านน้ำตารื้น

    ฉันรับมาก่อนจะสบตาเขาเพื่อบอกความเป็นจริงทั้งหมดที่ฉันไม่สามารถพูดออกไปได้

    “ยังไงฉันก็ดีใจที่ได้รู้จักนาย...ดูแลตัวเองด้วย ลาก่อน” เขาพูดตัดบทก่อนจะเดินคอตกออกไป อะไรกันนะ? คำพูดแบบนั้น? ทำไมเขาพูดเหมือนว่าเราจะไม่ได้พบกันอีก แค่คิดใจฉันก็สะท้าน เจ็บลึกไปข้างใน ก่อนที่ฉันจะทรุดตัวนั่งลงที่ม้านั่งตัวเดิมแล้วน้ำตาที่เอ่อก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว


     

    ทางด้านยอลซึ่งก็เจ็บไปแพ้กันก็พยายามข่มใจไม่ให้น้ำตาไหลออกมา

    “เป็นยังไงบ้างเข้าใจกันรึยัง?” จุนปรี่เข้ามาหาเมื่อเห็นยอลออกมา

    “อืม เข้าใจแล้วล่ะ...ขอบใจที่ช่วยนะ” ยอลพยายามพูดให้เสียงเรียบเป็นธรรมชาติที่สุด

    “คิมว่ายังไงบ้าง?” มิยองถามขึ้น ยอลยิ้มบางๆให้ก่อนจะตัดบทว่า

    “ดูแลตัวเองด้วยนะ ฉันไปล่ะ” ก่อนที่เขาจะเดินจากไปโดยมิยองตะขิดตะขวงใจยังไงชอบกลจึงตัดสินใจกลับไปหาคิมเพื่อนถามเพื่อนรักของเธอโดยไม่ฟังคำคัดค้านของจุนที่ไม่อยากเข้าไปกลัวโดนคิมเล่นงานโทษฐานที่หลอกเธอมาเจอยอล



    คิมนั่งเหม่อน้ำตาไหล โดยมิยองเข้ามากับจุนเห็นว่าฉันกำลังร้องไห้อยู่เลยไม่กล้าถามอะไรมาก ปล่อยให้ฉันร้องไห้ไปสักพัก

    “ฉันควรจะบอกความจริงกับเขาไปตั้งแต่ต้น” ฉันบอกเสียงสะอื้น

    “นี่เขายังไม่รู้เรื่องเธออีกหรอ? ไม่สิ...เธอยังไม่รู้อีกหรอว่าเขารู้แล้วน่ะ” มิยองถาม ฉันชะงักก่อนจะหันไปจับแขนมิยองเบาๆก่อนจะถามอีกครั้ง

    “อะไรนะ? เขารู้แล้วหรอ?”

    “ใช่! เขารู้แล้ว รู้มาพักหนึ่งแล้ว...ฉันขอโทษนะที่ไม่ได้บอกเธอ เขาขอฉันไว้...ฉันนึกว่าเขาจะบอกเธอแล้ว...แล้วทำไม...” มิยองบอกอย่างตื่นตระหนกปนรู้สึกผิด

    “เขาไม่ได้บอกฉัน...ฉันบอกเขาไปว่า ฉันไม่ได้ชอบเขาและชอบเขาไม่ได้แล้วเขาก็ไป...ฉันพูดอะไรลงไปเนี่ย!” ฉันมารู้ความจริงก็ร้องไห้หนักอย่างเสียใจ มิยองเศร้าไปด้วย กอดปลอบใจฉัน

    “เธอยังมีเวลานะ รีบไปสนามบินน่าจะยังทัน” จุนบอกทำให้ฉันตกใจรอบสอง

    “สนามบินหรอ?”

    “นี่มันก็ไม่ได้บอกเธอหรอเนี่ย! ไหนว่าเรียบร้อยแล้วไง...มันจะบินไปอเมริกาเย็นนี้” จุนสบถอย่างหัวเสีย

    “อเมริกา? เขาจะไปทำไม?” ฉันถามเสียงตื่น ใจสั่นไปหมด

    “เห็นว่าไปเยี่ยมย่าน่ะ ย่าไม่สบายหนัก”

    “เดี๋ยวนะ...ที่เขาบอกพวกเรามันเหมือนว่าเขาจะไม่กลับ...” มิยองไม่กลาพูดต่อเมื่อเห็นว่าฉันใจคอไม่ดี

    ฉันจึงนึกขึ้นได้ถึงกล่องของขวัญที่เขาให้มา ก่อนจะรีบเปิดดู
     

    กรุณากดเพื่อเข้าถึงอารมณ์ของตัวละคร

     

    จดหมายและนาฬิกาล็อกเก็ต...

    ขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกเธอตั้งแต่แรก...ความจริงฉันรู้เรื่องเธอกับจุนแล้วล่ะ ตั้งแต่ที่โรงพยาบาลวันนั้น ฉันคิดว่ามันคงไม่เป็นไรหากไม่ได้บอกเธอ...แต่ฉันคิดว่าฉันคิดผิด ฉันควรจะบอกเธอไปตั้งนานแล้วและเรื่องราวคงไม่วุ่นวายแบบนี้...ฉันดีใจที่ได้ชอบเธอและก็เสียใจกับเรื่องทั้งหมดด้วย...ดูแลตัวเองด้วยนะ ฉันไม่รู้จะกลับมาอีกเมื่อไหร่...ฉันชอบเธอนะ...คิม

    ทันทีที่อ่านจดหมายจบ จดหมายก็ล่วงลงทันที ฉันโง่มาก! โง่ที่สุด เขาชอบฉัน ยอลชอบฉัน...ชอบคิม!!! ฉันกำลังจากเขาไป เขาจะไม่กลับมา ฉันควรทำยังไงดี...ฮือ ฮือ....


    “รีบไปสิตอนนี้อาจยังทัน” จุนบอกเสียงดังก่อนจะจับมือฉันไปเรียกแท็กซี่ไปสนามบินทันที โดยมีจุนและมิยองตามไปด้วย

    ในรถ ฉันก็ยังคงรองไห้หนักเมื่อที่ผ่านมาฉันโง่มากแค่ไหน ฉันทำให้เขาเสียใจ ฉันทำให้ใจของฉันเจ็บ

    ฉันเปิดกล่องของขวัญอีกครั้งเพื่อหยิบนาฬิกาล็อกเก็ตออกมาดู ก่อนจะกำมันอย่างเสียใจ ในใจภาวนาขอให้ไปทัน...ขอให้ได้บอกความจริงให้เขาฟังก่อน...ก่อนที่ฉันกับเขาจะไม่ได้เจอกัน

    ทันที่ที่รถจอดเทียบที่สนามบินฉันก็วิ่งนำไปหาเขาทันที มือข้างหนึ่งก็ถือกล่องของขวัญอีกข้างก็กดโทรศัพท์หาเขาแต่ว่า...เขาปิดเครื่องไปแล้ว...ไม่นะ! อย่าบอกว่าเขาขึ้นเครื่องไปแล้วนะ

    ฉันจึงเข้าไปถามเคาน์เตอร์

    “ขอโทษนะคะเที่ยวบินที่ไปอเมริกาตอนประมาณนี้ออกไปรึยังคะ?”

    “ออกไปแล้วล่ะค่ะ เมื่อสิบนาทีก่อนนี่เอง” พนักงานบอกเสียงแจ้ว ฉันใจตกไปถึงตาตุ่ม

    “ขอโทษนะคะ มันอาจจะมีเที่ยวบินอื่นอีกก็ได้ ช่วยเช็คให้ทีนะคะ” ฉันไม่ยอมแพ้

    “ขอโทษด้วยค่ะ...เที่ยวบินไปอเมริกาของวันนี้เป็นเที่ยวบินสุดท้ายแล้วนะคะ จะมีอีกทีก็เช้ามืดวันรุ่งขึ้นแล้วล่ะค่ะ” พนักงานสาวยืนยัน ฉันตัวชาทรุดลงทันที มิยองเข้ามาประคองไว้

    “เขาไปแล้วมิยอง เขาไปแล้วอ่ะ...ฮือ ฮือ...”

    “คิม” มิยองเองก็พูดไม่ออกได้แต่กอดปลอบใจ

     

    ฉันเดินไปที่ลานจอดเครื่องบินรอบนอกก่อนจะมองไปบนฟ้าใกล้ที่มีแสงสว่างของดวงอาทิตย์รำไร น้ำตาที่เหือดแห้งไม่ได้ทำให้ฉันหายเสียใจ ฉันเสียใจและรู้สึกผิด

    “กลับกันเถอะ” มิยองเรียกเบาๆ ฉันพยักหน้าอย่างคนหมดแรงก่อนจะเดินตามเขาไป

    แต่เพราะฉันไม่ทันเห็น รถกระบะก็พุ่งตรงมาที่ฉันอย่างรวดเร็ว และเท่าที่สติฉันยังอยู่คือจุนกำลังเข้ามาจะดึงฉันออกไปให้พ้นวิถีรถ แล้วฉันก็สลบไป...
     


    ............................................................................................

    ตอนต่อไปก็จบแล้วนะคะ
    ขอบคุณที่ติดตามมาโดยตลอดนะคะ

     

       ช่วยทำโพลกันหน่อยนะคะ -/\-   

    โพล139657

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×