คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : - ตอนที่23 The End...100%
ขอบคุณภาพจากคุณ THEPEPX ณ สยามโซนค่ะ ^_________^
ในที่สุดผมก็ต้องย้ายกลับมาเรียนต่อที่โซลตามระเบียบ ซึ่งคุณแม่กับคุณพ่อของผมนั้นก็เห็นดีเห็นงามด้วย ส่วนงานที่ต่างจังหวัดนั้นพ่อกับแม่ท่านก็ยังสานต่ออย่างไม่มีลดละ ผมจึงให้คำสัญญากับแม่และพ่อไว้ว่าถ้าปิดเทอมเมื่อไหร่จะพาว่าที่ลูกเขยไปช่วย
ฮิ้วววววววววววววววว
จะเป็นลูกเขยตระกูลคิมทั้งที...
มันต้องทั้งหล่อ ทั้งมีน้ำใจครับ
“คิดอะไรอยู่สุดหล่อ…หืม?” ร่างสูงผู้มาใหม่นั่งลงข้างผม ก่อนจะส่งยิ้มหวานมาให้
ชีวิตนี้ผมจะขออะไรจากเขาพวกอย่างเดียว…
ไปโกนหนวดทิ้งเหอะ
“คิดถึงเรื่องของเราไงครับ” ผมบอกไปตามความจริง
ระหว่างผมกับเขาไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังกันแล้วนี่น่า
“อืม คิดถึงตอนไหนล่ะ ตอนแต่งงานไปแล้ว...หรือตอนมีลูก” ร่างสูงพูดติดตลก
“บ้าน่าอาจารย์...คิดไปเรื่อย” ผมตีเข้าไปที่แขนแกร่งอย่างจัง ทำเอาคนที่นั่งยิ้มให้อยู่ถึงกับหลุดขำออกมาด้วยความเจ็บ
นี่เขากลายเป็นพวกชอบความเจ็บไปแล้วหรอกเหรอนี่
“จริงสิแจจุง วันนี้วันเสาร์ทั้งทีแถมตอนนี้จุนซูก็ไม่อยู่ด้วย...ว่างๆเราไปนั่งดำนาแถวพงหญ้ากันมั้ย” นี่ก็ยังยังพูดติดตลกไม่หาย
เดี๋ยวปั้ดจับถอนหนวดให้หายหื่นซะดีไหมนี่
“อาจารย์น่ะ!” ผมหันมาตีหน้าดุใส่อาจารย์ ร่างสูงจึงยอมหยุดความหื่นลง แต่ก็ยังคงขำให้กับท่าทีของผมไม่หาย
“ว่าแต่ จุนซูไปไหนเหรอครับ?” ผมมาหาอาจารย์ยุนโฮที่บ้านตั้งแต่เช้า
แต่กลับไม่เจอจุนซูเลย
“รายนั่นน่ะเหรอ เขาไปกันถึงไหนแล้ว พอหยุดเสาร์-อาทิตย์ทั้งที ก็ชอบควงนายยูชอนไปเดินเอาะแอะอยู่ห้างนู่นน่ะ” ไอ้ควงกันไปเที่ยวผมเข้าใจ
แต่ไอ้เอาะแอะ
ผมงง...
“เออจริงสิ...แจจุง ฉันว่าเราไปที่ห้างกันไหม พอดีเพื่อนอาจารย์มันฝากซื้อของให้แฟนมันน่ะ...ไปด้วยกันนะ” ไม่รอให้ผมถามหรือปฏิเสธอันใด อาจารย์ยุนโฮก็ออกแรงฉุดกระชากลากดึงให้ผมลุกขึ้นโดยเร็ว
ถ้าจะถามผมแบบนี้
วันหลังฉุดไปเลยก็ได้นะครับ
ผมยินดี...
...
ณ ห้างสรรพสินค้า xxx
“อาจารย์กำลังจะพาผมไปไหนครับ”
“เอาน่า เดี๋ยวก็ถึงแล้ว...โอ๊ะ นั่นไง!”
เขาพาผมมาหยุดอยู่หน้าร้านขายแหวนร้านหนึ่งที่ชั้น3ของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง xxx ผมจ้องร่างสูงที่กำลังกวาดสายตามองหาแหวนสักวงอยู่ด้วยสายตางงๆ
ไม่นานนักก็มีพนักงานสาวสวยเดินออกมาต้อนรับ
“จะรับแหวนชุดไหนดีคะ” หญิงสาวยิ้มให้ผมสลับกับอาจารย์ยุนโฮ
อย่ามายิ้มหวานให้แฟนผมมากนะ
เดี๋ยวพ่อจะจับหัวกดน้ำเสียให้เข็ด!
“ขอเป็นแหวนคู่รักน่ะครับ” แหวนคู่รัก?
เขาจะซื้อไปให้เพื่อนเขาเหรอ?
แต่ช่างมันเถอะ
เพราะมันก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับผมนี่น่า
แค่ช่วยเขาเลือกก็คงพอแล้ว...
“งั้นรอสักครู่นะคะ” หญิงสาวยิ้มให้ผมกับอาจารย์ยุนโฮอีกครั้ง ก่อนจะเดินหายเข้าไปด้านใน
“ฉันว่าจะให้นายช่วยฉันเลือกแหวนหน่อยน่ะ…ไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย” นั่นไง ผมเดาแล้วไม่มีผิด
แต่เอาเถอะ
แค่ช่วยเลือกแหวนเท่านั้นก็กลับแล้วใช่มั้ย
…
ไม่นานนักพนักงานสาวก็เดินมาโปรยยิ้มให้เราสองคนอีกรอบ (จะโปรยอะไรนักหนาฟะ เดี๋ยวพอปั้ดสั่งคนเผาร้าน) ก่อนจะวางชุดแหวนนับสิบบนหน้าเราทั้งสอง
โห...
มีแต่แหวนสวยๆทั้งนั้นเลยอา
“แจจุง นายว่าแหวนสองวงนี้สวยไหม” อาจารย์ยุนโฮยื่นแหวนคอลเลคชั่นไหนมาให้อันนี้ผมไม่ทราบ
รู้แต่ว่า...
ดูไปดูมาก็สวยดีเหมือนกันแหะ
“ก็...สวยดีนะครับ” มันสวยมากเลยก็ว่าได้
“งั้นตกลงเอาสองวงนี้แหล่ะครับ” หญิงสาวรับคำก่อนจะโปรยยิ้มรอบที่ล้านให้อีกครั้ง แต่ขอบอกว่าครั้งนี้เจ้แกเล่นโปรยใส่อาจารย์ยุนโฮอย่างจังจนแทบไม่เห็นผมอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
หนอย...โปรยใส่ใครผมไม่ว่า
แต่คนนี้...
มีเมียแล้วเว้ย!!!
…30%
หลังจากที่ช่วยอาจารย์ยุนโฮเลือกแหวนเสร็จแล้ว อาการอย่างหนึ่งของมนุษย์ที่ต้องมีทุกคนนั่นก็คือ...
หิว...
มันก็บังเกิดขึ้นมา
ว่าที่สุดหล่อของผมเลยพามาเดินหาอะไรกินลองท้องที่ชั้นแรก
“เอาแต่จ้องแหวนอยู่นั่นแหล่ะ ไม่คิดจะทานข้าวเลยเหรอครับ” ถึงแหวนมันจะสวยมากก็จริง
แต่ยังไงเรื่องท้องไส้ก็สมควรจะมาก่อนนะครับ
“เดี๋ยวค่อยกินก็ได้ ว่าแต่...นายชอบแหวนวงนี้ไหม” อาจารย์ยุนโฮหมุนแหวนไปมา
อะไรที่เขาชอบ
ผมก็ชอบครับ
“อืม ก็โอเคนะครับ เป็นแหวนคู่ที่สวยมากเลยแหล่ะ” ผมหยุดพูดเพียงแค่นั้น ก่อนจะลงมือตักข้าวในจากกินต่อ
...
หาอะไรลงท้องให้อิ่มบวกกับเดินช้อปปิ้งจนขาลากตั้งแต่ชั้นหนึ่งยันชั้นสิบ (แฟนรวยว่างั้น?) ก็ได้เวลาที่จะต้องกลับบ้าน (แฟน) กันไปตามระเบียบ
บรรยากาศในรถช่างเงียบสงบราวกับว่าผมกำลังนั่งวิปัสนาหรือนั่งสมาธิอะไรทำนองนี้อยู่ ผมแอบเหล่ตามองไปทางคนที่กำลังขับรถอยู่นับสิบครั้งได้ แต่เขาก็กลับไม่คิดจะสนใจหันกลับมามองผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว
หวังว่าเขาคงยังไม่ลืมผมหรอกนะ
แต่ก็...
แต่ช่างเขาเถอะ…
ผมถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะเขกไปที่หัวของเจ้าตุ๊กตาน้องหมีสีน้ำตาลเข้มด้วยความหมั่นไส้(ไอ้หมีที่กำลังเก๊กท่าขับรถอยู่)
สงสัยคงจะแพ้เสน่ห์ที่ปลายจังหวะผม(?)
เลยทำเป็นเก๊กท่าขับรถแบบไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ
อย่างนี้มันน่ากวนให้สมาธิแตกซ่านจริง...
“ที่รัก..” ผมเปลี่ยนสรรพนามจากคำว่า อาจารย์ มาเป็น ที่รัก อย่างไม่ต้องบอกให้คนที่กำลังขับรถรับรู้ล่วงหน้าด้วยซ้ำ
ดูเหมือนเขาจะแอบตกใจด้วยล่ะ
“เปลี่ยนสรรพนามเรียกใหม่แล้วเหรอครับ...คุณเมีย” คุณเมีย?
กร๊าดดดด!ผมไปเป็นเมียของอาจารย์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“ก็แหม เป็นแฟนกันมาตั้งนาน จะไม่ให้เรียกที่รักก็ชักกระไรอยู่...” ไอ้ที่รักน่ะพอไหว
แต่ไอ้ตรงเมียนี่น่ะสิ
ขอบาย...
“มาไม้ไหนอีกละครับ คุณแจจุง” เหมือนอาจารย์จะเดาใจผมออก
ผมก็แค่อยากจะกวนให้ไอ้หน้าเกร็งๆนั่นหายเกร็งก็เท่านั้นเอง
“เราก็เป็นแฟนกันมานานแล้ว ผมว่า...” ผมพูดเสียงอืด(เพื่อให้ดูเซ็กซี่?) ก่อนจะใช้มือบางลูบไล้บริเวณใบหน้าคมที่มีหนวดขึ้นให้เห็นบ้างเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่า ผู้ชายคนนี้น่ะ…
หล่อเพียงไหน
“แจจุง ฉันยังไม่อยากเล่นกับนายนะ เอามือออกไปได้แล้ว” ดูเหมือนว่าสมาธิจะเริ่มแตกซ่านแล้วล่ะ
“โถ่ ที่รัก ผมรักคุณมาตั้งนานแล้วนะครับ เรื่องแค่นี้...หวังว่ามันคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับคุณหรอกนะ” ผมไม่สนใจเสียงถอนหายใจของเขา แต่กลับยิ่งลูบไล้ไปบริเวณแผงอกกว้างที่เผยให้เห็นบ้างเล็กน้อย เนื่องจากเสื้อที่ร่างสูงใส่นั้นเป็นเสื้อเชิร์ตตัวบางสีขาว
เลยทำให้พอเห็นเนื้อ เห็นหนังหน่อย
พอเห็นแล้วเริ่มชักอยากเป็นฝ่ายลุกเสียเองแล้วล่ะ
“ที่รัก ผมกำลังขับรถอยู่นะครับ ได้โปรด หยุดการกระทำของคุณลงก่อน...” ก่อนที่ไอ้นั่นมันจะตื่นใช่ไหมล่ะ
แต่เรื่องอะไรล่ะ ที่ผมจะยอมหยุดง่ายๆ
“ไม่รู้แหล่ะ ถ้าคุณยังไม่จอดรถหรือหาที่เงียบๆจอดล่ะก็...อย่าหวังว่าคุณจะได้แอ้มผมอีกเลย” เพียงเท่านั้น ร่างสูงก็รีบวนรถเข้าไปยังซอยตันซอยหนึ่งที่ดูเปลี่ยวทันที
อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนี้เริ่มมืดเพราะตกเย็นแล้วด้วย
ถึงทำให้ซอยนี้ดูเปลี่ยว
“ที่รัก คุณเป็นคนเริ่มยั่วผมก่อนเองนะ...แล้วอย่ามาบ่นที่หลังนะครับ” ร่างสูงยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเริ่มขยับตัวมาใกล้ผม แล้วบรรจงจูบตั้งแต่ใบหน้าลงไปเรื่อยๆจนถึง...
NC 18+
(เดี๋ยวจะเอาลิ้งค์มาลงให้จ้า)
กว่าศึกหนักจะจบลง ก็แทบทำเอาผมลงแดงตายในรถเสียให้ได้ ผมหอบหายใจแฮ่กๆรัวด้วยความเหนื่อย ผิดกับร่างสูงที่ยิ้มหน้าบานเต็มที่ก่อนจะขับรถออกจากซอยไป
ผมก้มลงมองสภาพตัวเองแล้วก็อดจะเขินอายเสียไม่ได้
แค่จะลองใจหน่อยเดียว
ดันเสียท่าเข้าให้จนได้…
เจ็บใจจริงๆเลย
“เมื่อกี้นายแค่จะลองใจฉันใช่ไหม?” ทั้งที่มือข้างหนึ่งยังจับพวงมาลัยอยู่ แต่มืออีกข้างหนึ่งก็ยังติดกระดุมเสื้อของตนได้อย่างดีแบบที่เรียกว่าไม่ขาดตกบกพร่องเลยก็ว่าได้
“อาจารย์รู้?”
“อืม แล้วเป็นไง...ผลลัพธ์ที่ได้ดีดั่งใจใช่ไหมล่ะ” ร่างสูงหันมามองสบตาผมแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับทางข้างหน้าต่อ
ดีเดินคาดเลยล่ะ…
“อาจารย์น่ะ!” ผมตีไปที่ต้นแขนแกร่งอีกครั้งด้วยความเขิน
“ฮะๆๆ แจจุง อ่ะ นี่ของนาย...” มือที่ไม่ได้บังคับพวงมาลัยรถล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะหยิบแหวนที่ช่วยให้ผมไปเลือกด้วยกันเมื่อตอนเช้า
นี่มันแหวนวงนั้นนี่
“รับไว้สิ ฉันอุตส่าห์ซื้อให้นายเลยนะ” ซื้อให้ผม?
งั้นก็แสดงว่าที่อาจารย์ชวนผมไปเลือกซื้อแหวนวงนี้
ก็เป็นเพราะ...
“เราเป็นแฟนกันแล้ว ฉันก็อยากจะแสดงให้คนอื่นรู้ว่า...เราไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแค่อาจารย์กับลูกศิษย์” เอ่อ ผิดไหม ถ้าผมจะบอกว่า
มันไวเกินไปที่ผมจะตั้งตัวเลยจริงๆนะ
“แต่ว่า...ที่รักน่ะไม่เคยเห็นเหรอ เหมือนพระเอกในหนังน่ะ เวลาเขาจะขอนางเอกแต่งงาน เขาต้องทำยังไง?” ไม่โรแมนติกเลยสามีที่รักของผม
(ออกตัวแรงได้อีก)
“ฉันนั่งคุกเข่าคอนายแต่งงานไม่เป็นหรอก แต่ถ้าเรื่องเมื่อกี้น่ะ...บอกฉันได้ทุกเมื่อ ฉันพอจะถนัดอยู่บ้างน่ะนะ” ร่างสูงหันมายักคิ้วใส่ผมด้วยสีหน้ากวนๆ
ถ้าผมบอกว่าอยากเอาไม้หน้าสามแถวๆนี้ปาใส่หัวเขา
มันจะผิดไหมครับ?
“ไร้สาระ!” ผมตีลงที่แขนแกร่งอีกครั้ง ก่อนจะรับแหวนมาพิจารณาดูหาข้อตกบกพร่องสักอย่างเพื่อจะเอาผิดกับคนซื้อ
จะจับผิดเขาว่างั้น?
“ใส่ได้แล้ว หรืออยากจะให้จับใส่...ด้วยท่าเมื่อกี้…” พูดสองแง่ สามง่าม อีกแล้วนะเออ
เห็นพูดเล่นๆแบบนี้
แต่มันก็น่ากลัวพอๆกับต้องกระโดดตึกสิบชั้นได้เลยนะครับ
“รู้แล้วน่า ที่รักก็...” ผมหันไปทำท่าค้อนใส่ร่างสูงที่ยิ้มแบบกวนๆให้อยู่ ก่อนจะสวมแหวนเข้าไปที่นิ้วนางข้างซ้ายแต่โดยดี
อา~พอมันได้มาอยู่ในนิ้วผมแล้ว
ผมชักรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ
“แล้วที่รักจะไม่ใส่บ้างเหรอ” ผมหันไปถามเขาบ้าง
“ใส่แล้ว...นี่ไง” ร่างสูงเอามือข้างที่ใส่แหวน วางไว้บนตักผม
...รู้สึกตื้นตันยังไงชักบอกไม่ถูก
เหมือนน้ำตามันจะไหลเสียให้ได้
“อ้าว ที่รัก ร้องไห้ทำไม ผมทำอะไรผิดไป!?!” อาจารย์ยุนโฮหันมามองผมด้วยสายตางงๆปนตกใจ ก่อนจะหยิบทิชชู่หน้ารถมาให้
“ก็คุณนั่นแหล่ะ ที่ทำให้ผมร้องไห้”
“ตื้นตันจนบอกไม่ถูกล่ะสิ” ผมพยักหน้าให้ตามความจริง
“ฉันรักนายนะแจจุง”
“ผมก็รักอาจารย์เหมือนกันครับ อาจารย์ยุนโฮ...”
และแล้วความรักระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ก็จบลงด้วยดี...
อายุ สถานะ หรือแม้แต่ เพศ มันไม่สามารถขีดเส้นตายได้หรอกนะ
แต่สิ่งที่ขีดไว้สำหรับคนสองคนนั้น มีเพียงสิ่งเดียวนั่นก็คือ
คำว่า ความรัก ยังไงล่ะ ♥
The End...______________________________
ความคิดเห็น