ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - - - - - - -- - -

    ลำดับตอนที่ #22 : - ตอนที่15 เข้าค่าย3 150%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 697
      2
      16 มี.ค. 55



    ยูซู : แอบเคียงกันดี (ไม่คิดจะสนใจชาวบ้าน ชาวช่องเขา)
    ชางมิน : ผมจะแต่งงานกับอาหาร!!!
    ยุนแจ : มองลูกรักด้วยสายตาเวทนา
    ค.จ.จ : ลูกสะใภ้ของเราคืออาหารเหรอพ่อหมี TT
    ช.ย.ฮ. : ทำใจไว้สักครึ่งนึงก็ดีนะแจจุงที่รัก ♥

    หลังจากเข้าค่ายจำนวนสามฐานเสร็จ ผู้คุมฐานสุดท้ายก็ได้ปล่อยพวกผมให้ไปอาบน้ำ (กลุ่มห้องผมได้ไปอาบน้ำเป็นกลุ่มแรก)

    เหนียวตัวทั้งวัน

    ได้เวลาชำระร่างกายให้สะอาดเสียที..

     

    ผมทำการเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ตรงหน้าห้องน้ำอย่างไม่เกรงใจใคร

    ผู้ชายเหมือนกัน...จะไปกลัวอะไร

    จริงไหมครับ?

     

    เสื้อไปแล้ว กางเกงไปตาม ชั้นในไปเป็นสิ่งสุดท้าย เหลือเพียงตัวเปล่า...

    กับผ้าขนหนูปกปิดส่วนล่างอย่างเดียว

    (แอบคิดถึงตอนผมถอดอยู่ล่ะซี่ ฮ่าๆๆ)

     

    ห้องอาบน้ำที่พวกผมต้องอาบ คือห้องอาบน้ำรวม ที่มีนักเรียนชายห้องผมรวมเกือบยี่สิบกว่าชีวิตกำลังปาสบู่ใส่กันบ้าง หยอกเพื่อนข้างๆบ้าง

    บ้างก็กำลังแก้ผ้าอาบน้ำอยู่ก็มี!!!

    โอย~อันเล็ก อันน้อย อันใหญ่ อันโต มาหมดดดดดดด~

     

    หุ่นดีเหมือนกันนะเพื่อน จุนซูที่โผล่มาจากมุมไหนของโลกก็ไม่ทราบ หันมายิ้มกว้างให้ผมเสียแล้ว

     

    อืม นายก็เหมือนกันนั่นแหล่ะ ผมยิ้มให้จุนซูกลับ ก่อนจะยกขันมาราดตัวต่อ

     

    เออ ว่าแต่ นายเห็นยูชอนกับชางมินหรือปล่าว พอดีฉันคิดว่าถ้าอาบน้ำเสร็จ เราก็จะเริ่มแผนกันเลย

    มาถามก็ถามถึงยูชอนคนแรกเลยนะ~

    คุณจุนซู..

     

    ฉันว่าชางมินน่าจะอาบเสร็จแล้วนะ สงสัยคงจะแต่งตัวอยู่ ส่วนยูชอนก็... ผมยังพูดไม่ทันจบ เสียงทุ้มของคนที่กำลังพูดถึงก็ดังขึ้นอยู่ข้างหลังเสียแล้ว

     

    วีดวี๊ว~วันนี้โชคดีจัง ได้เห็นหัวนมพวกนายเป็นครั้งแรกของชีวิต..”

    และก็จะได้เป็นครั้งสุดท้ายของชีวิตด้วยเช่นกัน..

     

    ดูดีกว่านายใช่ไหมล่ะ ว่าเสร็จจุนซูก็ยกขันตักน้ำขึ้นมา แล้วอาบบ้าง

     

    อืม ดูดีกว่าที่ฉันคิด...จริงๆ ยูชอนมองจุนซูด้วยสายตาเหมือนไก่ที่ไม่ได้กินอะไรมาสิบชาติเศษพลางยิ้มแบบมีเลศนัย

    เจอสายตาหื่นกระจุยของยูชอนเข้าไป

    ใครมันจะไม่ระแวงบ้างล่ะครับ

     

    ฮึ้ย! พูดบ้าอะไรของนายเนี่ย สยอง!” จุนซูลูบแขนเปลือยเปล่าของตัวเองอย่างแรง เพื่อยืนยันว่ามันคือเรื่องจริง

    ถ้าผมขอสยองเพื่อนตัวเองอีกคน

    จะได้หรือปล่าวอ่า?

     

    ฉันว่า...เดี๋ยวฉันถูหลังให้นายดีกว่า นายจะได้สบายไง จุนซูกำลังจะอ้าปากด่ายูชอน แต่แล้วมือหนากลับลากจุนซูไปในที่ลับตาคนเสียก่อน ผมมองคู่นั้นพลางส่ายหน้ารัว

    หวังว่าจุนซูคงจะสุขสบายดีจนถึงวันเลิกค่ายนะ...

     

    ผมละสายตาจากคู่นั้น ก่อนจะหันมาชำระร่างกายของตนเองต่อ

    ทันใดนั้นเอง...

     

    อาบคนเดียว...ไม่เหงาหรือไง?” ผมมองไปทางต้นเสียงทุ้มที่ดังขึ้นอยู่ด้านข้างผม แต่สิ่งแรกที่ผมมองกลับไม่ใช่หน้าตาเขาน่ะสิ

    กล้ามท้องแน่น ที่ด้านล่างมีผ้าขนหนูผืนเดียวปกปิดอยู่เช่นเดียวกับผม

    มองไปมองมา...ก็อยากมีหุ่นแบบนี้มั่งจัง

     

    อ๋อ ก็...ก็ นิดหน่อยครับ ผมตอบไปเสียงสั่น สงสัยน้ำคงจะเย็นมาก เสียงผมเลยสั่นถึงขนาดนี้

     

    ทำไม น้ำมันเย็นมากเลยเหรอ?” เหมือนร่างสูงจะดูออกมาว่าผมกำลังสั่นอยู่ ผมพยักหน้าหงึกหงักให้

    นอกจากหนาวแล้ว...ทำไมใจมันยังสั่นอีกด้วยฟะ?

     

    เอาแบบนี้ ถ้าน้ำมันเย็น...เดี๋ยวอาจารย์จะช่วยอาบให้ เอามั้ย?” อะ...อาบให้งั้นเหรอ!?!

    ขืนผมให้อาจารย์อาบให้..

    มีหวังสั่นมากกว่าเดิมเป็นแน่

     

    เอ่อ...ไม่ดีกว่าครับอาจารย์ พอดีว่าผมอยากเลิกอาบแล้ว ว่าเสร็จผมก็กำลังจะเตรียมเดินออกไปเพื่อจะไปเปลี่ยนชุด

    แต่มือหนาก็กลับจับข้อมือผมไว้เสียก่อน

     

    นายกำลัง...กลัวฉันอยู่เหรอ?” อาจารย์ยุนโฮยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม ใบหน้าผมกับใบหน้าคมตอนนี้ อยู่กันห่างไม่ถึงคืบ!

    ไอ้พวกบ้านี่ก็แกล้งกันอยู่ได้!

    ช่วยผมทีเส้ะ!!!

     

    ปะ...ปล่าวนี่ครับ ผมส่ายหัว

     

    ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าให้ฉันอาบได้ แล้วใช่ไหม?” อาจารย์ยุนโฮยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม

    ถามแบบนี้ คงย้อนไปตอบว่าไม่ได้ ไม่ทันแล้วใช่ไหมครับ

     

    ในที่สุดผมก็(จำใจ)ยอมให้อาจารย์ยุนโฮเป็นฝ่ายอาบน้ำให้ อาจารย์ยุนโฮตักน้ำขึ้นจากขันสองถึงสามครั้ง ก่อนจะถูสบู่ให้ผมอย่างนิ่มนวล

    จากใบหน้าไปต้นคอ

    จากต้นคอไปตรง...

    หัวนม!!!

     

    เอ่อ...อะ...อาจารย์ครับ... มือหนาที่กำลังจะลูบไล้ไปบนแผงอกผมชะงัก ก่อนจะหันมามองผมด้วยสายตาสงสัย

     

    อะ...อาจารย์ จะทำความสะอาด...ตรง...เอ่อ... ผมชักพูดติดขัด อาจารย์ยุนโฮยิ้มให้ผม ก่อนจะตอบออกมาว่า

     

    ก็ต้องถูให้หมดทั้งตัวนั้นแหล่ะ...มันจะได้สะอาด ไม่รอช้า มือหนา(ที่มีสบู่คอยปกป้องผมอยู่)ก็เริ่มถูบริเวณแผงอกช้าๆวนไปวนมา

    รู้สึกจิตปั่นป่วนบอกไม่ถูกแล้วสิ

     

    อะ...อา... ผมครางออกมาไม่เป็นภาษา รู้สึกได้ถึงปฏิกิริยาแปลกๆบางอย่างชอบกล

    ผมคงอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ล่ะมั้ง

     

    รู้สึกดีล่ะสิ อาจารย์ยุนโฮยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม ก่อนจะเริ่มถูลงไปที่หน้าท้องแบนราบที่มีกล้ามโผล่ขึ้นบ้างแล้วเล็กน้อยของผม

     

    ฮะ...อึก...อะ...อาจารย์... ผมรู้สึกชาไปหมดทั้งตัว ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างกำลังเกิดขึ้นกับผม

    บางสิ่งบางอย่างที่ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะหยุดยั้งมันได้

    แถมยังรู้สึกสยิวแปลกๆอีกด้วย

    นี่ผมเป็นอะไรไปเนี่ยยยยยยย!!!

     

    เป็นอะไรไป รู้สึกดีจน...พูดออกมาไม่เป็นประสาเลยเหรอไง?”

     

    เอ่อ... ผมพยายามจะตอบปฏิเสธอาจารย์ยุนโฮไป แต่แล้วเสียงแหลมบางอย่างก็ดังขึ้น

     

    กรี๊งงงงง!!!

     

    หมดเวลาอาบน้ำแล้วครับนักศึกษาทั้งหลาย ขอให้มารวมตัวกันที่จุดxxx ณ เวลานี้ด้วยครับ เสียงทุ้มของใครบางคนดังขึ้นหลังจากที่กริ่งหน้าห้องอาบน้ำดังขึ้น ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงกริ่งที่กำลังดังลั่นอยู่ อาจารย์ยุนโฮก็ชะงักค้างไม่แพ้ผม

     

    อาจารย์ยุนโฮมองหน้าผมสักพัก ก่อนจะบอกอะไรบางสิ่งบางอย่างให้ผม

     

    รีบไปเถอะ เดี๋ยวผู้คุมฐานจะว่าเอา ผมพยักหน้ารัวให้อาจารย์ยุนโฮ ก่อนจะวิ่งไปหยิบเสื้อผ้าที่แขวนไว้ตรงราวตากผ้า ก่อนจะวิ่งเข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำส่วนตัว

     

    ปัง!

     

    ...

     

    กว่าจะผ่านศึกหนักของปาร์ค ยูชอนมาได้

    ผมก็แทบคลั่ง!!!

     

    หลายๆท่านอาจจะเข้าใจผมผิดไปกันใหญ่แล้ว

    ไอ้ที่ผมบอกว่าคลั่งเนี่ย...

    คลั่งจนจะเป็นบ้าต่างหากครับ!

    ไม่ใช่คลั่งแบบเรื่องพวกนั้นเสียหน่อย

     

    ก็ยูชอนน่ะ แกล้งผมสารพัดเลย ตอนแรกก็พาผมพรากจากแจจุงอย่างไม่มีทางให้อภัยได้ (แต่ที่ผมยอมให้อภัยก็เพราะเป็นแผนที่จะทำให้แจจุงอยู่สวีทกับพี่ยุนโฮสองต่อสอง) และแล้วมันก็เป็นอย่างที่ยูชอนพูดเป้ะ

     

    เมื่อผมเห็นร่างสูงกำยำที่ทั้งตัวเหลือแต่ผ้าขนหนูปกปิดสิ่งแปลกปลอมด้านล่างซึ่งไม่แตกต่างจากแจจุงนัก กำลังมุ่งตรงไปทางห้องน้ำรวม

    ฮะๆๆ เขินแทนแจจุงจัง ฮ่า~

     

    แต่สิ่งที่ผมสมควรจะทำตอนนี้ไม่ใช่การที่จะมาเขินแทนแจจุง

    แต่กลับเป็นการแกะมือไอ้ห้อยนี่ออกต่างหาก!

     

    ปล่อยฉันนะเว้ย บอกให้ปล่อยไง!” ผมตะคอกลั่น แต่แทนที่ร่างสูงจะปล่อยผม ยูชอนกลับหันมามองที่ผมเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจลากไปที่ห้องน้ำรวมอีกทีหนึ่งแทน

     

    อยากไปเป็นก้างขวางคอคู่นั้นหรือไง เออ จริงด้วยสิ แต่อันที่จริงยูชอนไม่เห็นจำเป็นต้องลากผมมาด้วยนี่ แค่สะกิดผมก็พอจะรู้งานแล้ว

     

    ปล่าว

     

    ถ้าปล่าวก็มากับฉัน สิ้นเสียงทุ้ม มือหนาก็เพิ่มแรงลากผมขึ้น ทำร่างบางที่ไม่ทันตั้งตัว ถึงกับตีหน้ามุ่ยทันที

    ผมอะไร ชอบใช้กำลัง ฮึ้ย!

     

     

    จากที่เดินตามยูชอนมา สถานที่ที่เขาพาผมมากลับไม่ใช่ห้องน้ำรวม

    แต่มันคือห้องน้ำส่วนตัวต่างหาก

     

    นายอาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ?” ยูชอนพยักหน้าให้ผม

    ถ้าผมไม่ถามเขา ผมก็คงจะนึกว่าเขาจะหมักให้กลายเป็นไก่ดองเน่าเสียอีก - -

     

    ฉันอาบเสร็จก่อนนายกับแจจุงด้วยซ้ำ เพียงแต่ฉันเพิ่งจะเข้าไปหาพวกนายเท่านั้นเอง อ๋อ ผมว่านะ ที่ยูชอนอาบเสร็จไว คงเป็นเพราะราดน้ำแค่สอง-สามครั้งก็ถือว่าเสร็จแล้วมากกว่า

    ฟังแล้วดูสกปรกยังไงไม่รู้เนอะ

     

    เอิ่ม...ยูชอน ฉันอยากเปลี่ยนชุดน่ะ ผมเริ่มรู้สึกได้ถึงลมเย็นหวิวอยู่ใกล้ๆ ทั้งเนื้อ ทั้งตัวผมก็เหลือแต่ผ้าขนหนูที่ใช้ปกปิดส่วนล่างเท่านั้น

    ก็ลมมันเย็นอ่า~

     

    นี่เสื้อผ้านายใช่มั้ย?” ว่าเสร็จ ยูชอนก็ยื่นเสื้อผ้าที่ผมตากไว้ตรงราวตากผ้ามาให้ ผมเบิกตาโพลงก่อนจะหันไปมองหน้ายูชอนอย่างเอาเรื่อง

     

    นี่นาย…”

     

    ฉันคิดว่านายน่าจะลืม...เลยเอามาให้น่ะ ยูชอนฉีกยิ้มหวานที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ให้ผม

    เขาเดาใจผมถูกเลยล่ะ

    ว่าผมต้องลืม

     

    เอาน่า ผู้ชายเหมือนกัน...เห็นของกันก็คงไม่แปลก สิ้นเสียงยูชอน ผมก็แทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองตายเสียให้ได้

    เห็นของกัน...คงไม่แปลกงั้นเหรอ!?

    ลองให้ฉันเห็นของนายดูบ้างไหมล่ะ!!!

     

    ฉะ...ฉัน ฉันไม่คุยกับนายแล้ว ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่า ว่าเสร็จผมก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

    ไอ้ยูชอน ไอ้ลามก ไอ้โรคจิต!!!

     

    ปัง!!!

     

    ร่างสูงได้แต่ยืนงงปนขำให้กับพฤติกรรมของร่างบาง แต่ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

    นี่คือครั้งแรก...

    ที่ผมได้ล่วงล้ำ(ของใช้ส่วนตัว)ของจุนซูครับ ฮะๆๆ

    ...

               

     

    20.00น.

     

    ขณะนี้ ได้เวลาที่พวกเราจะต้องเข้าฐานสุดท้ายของวันนี้แล้วครับ นั่นก็คือฐานรวมใจน้อง-พี่นั่นเอง ผม ยูชอน จุนซู และชางมินแวะมาดักรอริคกี้ที่ฐานของน้องๆปีหนึ่ง

    (ถึงหน้าจะไม่ให้ แต่ก็ขอทำตัวเนียนสักวันเหอะ)

     

    ฐานนี้จะไม่มีการเช็คชื่อครับ พวกเราทั้งสี่คนเลยสบายหน่อย สามารถเดินลั่นล้าได้อย่างเต็มที ในระหว่างที่เรากำลังเดินลั่นล้าบวกตามหาริคกี้กันอยู่นั้น

    เสียงหวานที่แสนคุ้นก็ดังขึ้น

     

    นี่ซองมิน ฉันเดินจนเหนื่อยแล้วนะ ฉันว่าเรานั่งพักตรงนี้กันเถอะ

     

    อืม ก็ดีเหมือนกัน ว่าเสร็จร่างบางทั้งสองร่างก็นั่งลงตรงโต๊ะม้าหินอ่อน ที่ไม่ทราบว่าทางมหาลัยมาตั้งไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ดูคร่าวๆแล้วน่าจะสักประมาณร้อยกว่าตัวได้

     

    นั่นริคกี้นี่ ยูชอนหันมาบอกพวกผม ผมใช้ไฟฉายที่พกติดตัวมา ส่องไปที่ร่างบางทั้งสองที่กำลังนั่งคุยกันอยู่

    ริคกี้จริงๆด้วย!

     

    ฉันว่าพวกเราเข้าไปหาริคกี้เลยเถอะ จุนซูกำลังจะก้าวไปทางโต๊ะม้าหินอ่อนนั้น แต่ก็โดนผมกันไว้เสียก่อน

     

    ฉันว่า งานนี้...พ่อฮาร์ดคอของเราต้องบุกเดี่ยวแล้วล่ะ ว่าเสร็จ ทั้งยูชอนและจุนซูก็ต่างโห่ให้ชางมินได้เขินกันเล่นๆ

    และแล้วมันก็เป็นผลเสียด้วยสิ

     

    ชางมินได้แต่แอบยิ้มน้อยๆแต่ใบหน้ากลับขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด

    ชางมินของพวกเรากำลังเขินอยู่ครับ!

     

    ว่าไง จะบุกเลยไหม?”

     

    ฉันขอดูราดราวก่อนดีกว่า ชางมินตอบมาด้วยน้ำเสียงใจเย็น ดูท่าชางมินคงจะยังไม่กล้าเสียเท่าไหร่

    ไม่เป็นไร ถ้านายไม่กล้า...

    ฉันส่งเสริมให้เอง

     

    ชางมิน นายมายืนอยู่ตรงนี้แปปนึงสิ ชางมินทำหน้าสงสัยอยู่สักพัก ก่อนจะมายืนแทนที่ผม

     

    ถือไฟฉายไว้ด้วย ผมยื่นไฟฉายให้ชางมิน ชางมินทำหน้าสงสัยอีกครั้ง แต่ก็ยอมรับมันไว้แต่โดยดี

     

    พวกฉันเป็นกำลังใจให้นาย สู้ๆนะเพื่อน ว่าเสร็จ ทั้งผม จุนซู และยูชอนก็ทำการผลักไสชางมิน โดยใช้เบื้องล่างทั้งสามของพวกผม ยันชางมินออกไป

    โชคดีนะเพื่อนรัก~

     

    ตุบ!

     

    เหมือนชางมินจะเพิ่งรู้ตัวมาถูกยัน(โดยเบื้องล่าง)ออกมา ชางมินหันมามองพวกผมทั้งสามคนด้วยสายตาเอาเรื่อง แต่แล้วก็ต้องเจอเสียงหวานเรียกชื่อของตนขึ้นมาเสียก่อน

     

    รุ่นพี่!” ริคกี้เบิกตากว้าง เมื่อได้พบบุคคลที่ตนกำลังคิดถึง มาหาถึงที่

     

    อ่ะ...เอ่อ...คือ... ชางมินทำท่าเลิกลั่ก ก่อนจะหันมามองทางพวกผม

    ขอโทษไปดิเฟ้ย ขอโทษน่ะ พูดเป็นมั้ย!

     

    ฉันว่า ฉันอยากนั่งน่ะ โถ่เอ้ย~ผม จุนซู และยูชอนต่างสะบทออกมาพร้อมกัน

    อุตส่าห์วางแผนไว้ตั้งนาน อย่าทำให้มันเสียแผนนะเว้ย!

     

    ร่างบางทำหน้าเข้าใจก่อนจะพยักหน้าให้ชางมิน

     

    งั้นไปนั่งกับผมแล้วก็ซองมินก่อนนะครับ ว่าเสร็จ ริคกี้ก็พาชางมินไปที่ยังโต๊ะหินอ่อนที่ตนนั่งทันที

    พวกผมทั้งสามคนละสายตาออกมาจากคู่ริคกี้กับชางมิน ก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก

    แผนนี้จะสำเร็จได้ ก็คงต้องพึ่งตัวของชางมินด้วยสินะ

     

    นายว่าแผนนี้จะสำเร็จไหม?” จุนซูถามออกมาด้วยสีหน้ากังวล ก็พวกผมทั้งสามอุตส่าห์วางแผนกันดิบดีขนาดนี้แล้ว ถ้ามันไม่สำเร็จก็ชักกระไรอยู่

     

    คงต้องพึ่งตัวของชางมินนั่นแหล่ะ

     

    ...

     

    หลังจากที่พวกผมทั้งสามแอบสังเกตการณ์อยู่สักพัก ก็ได้ตกลงปลงใจกันว่า

    เรื่องนี้เกิดจากชางมิน คนที่จะต้องแก้ไข...ก็ต้องคือตัวชางมินเอง

    พวกผมก็ทำได้เพียงให้กำลังใจเพื่อนรักของตนเท่านั้น

    (พูดเหมือนจะไปรบที่ไหน)

     

    จริงสิ แจจุง... จุนซูทำหน้าเหมือนจะนึกอะไรได้ ก่อนจะควานหาบางสิ่งบางอย่างจากกระเป๋ากางเกงของตน

     

    นี่ของนาย จุนซูยื่นไฟฉายอันสีเหลืองอ๋อยมาให้ผม ผมมองมันอย่างงงๆก่อนจะรับไว้

     

    พวกนายจะไปไหนกันเหรอ?”

     

    ปล่าวหรอก ฉันให้นายพกติดตัวไว้...เผื่อมันจะเอาไว้ใช้ประโยชน์อะไรได้ จุนซูยิ้มกว้างให้ผม ผมจึงได้แต่ยิ้มตอบกลับไปแบบงงๆ

     

    พอดีจุนซูบอกว่าจะใช้อันเดียวกับฉันน่ะ และแล้วยูชอนก็ไขข้อข้องใจให้ผม

    จะใช้อันเดียวกันนี่เอง

    ทำไมแค่นี้ผมยังเดาไม่ออกอีกน้อ~

     

    เออ จริงสิ พอดีฉันลืมกระเป๋าตังไว้ที่เต้นท์น่ะ ในเมื่อผมรู้ว่าผมกำลังเป็นก้างขวางคอของคู่นี้อยู่ เลยขอแยกตัวไปเดินเล่นมองแสงจันทร์อยู่คนเดียวเสียดีกว่า

     

    ให้ฉันไปด้วยไหม?” เหมือนจุนซูจะอยากไปเป็นเพื่อนผมจนถนัดตา ผมส่งสายตาให้ยูชอนเป็นเชิงว่าให้พาจุนซูออกไปเดินเล่นตามสบาย

     

    ไม่ต้องหรอกจุนซู ฉันว่าไปรอแจจุงอยู่ตรงนั้นดีกว่า เดี๋ยวแจจุงก็มา

     

    แต่...

     

    เถอะนะจุนซู ฉันไปไม่นานหรอก... อาจจะเจอกันอีกทีก็พรุ่งนี้เลยก็ได้

     

    ก็ได้ ในที่สุดจุนซูก็ตอบเสียงอ่อยออกมา ผมยิ้มกว้างก่อนจะส่งสายตาให้ยูชอนอีกครั้ง

     

    งั้นไปกันเถอะ ว่าเสร็จยูชอนก็ลากจุนซูไปที่ไหนสักแห่ง(ที่น่าจะลับสายตาผู้คน) ผมโบกมือลาจุนซูพลางส่งสัญญาณผ่านทางจิตว่า

    ขอให้อยู่รอดปลอดภัย ผ่านคืนนี้ให้ได้นะจุนซู

     

    ...

     

    นี่สินะ...ชีวิตของคนโสด...

    ไม่น่าเกิดมาไร้คู่เลยผม~

     

    หลังจากผ่านฉากมินริค ยูซู แล้ว ผมก็ต้องมาเดินตัวเปลี่ยวเป็นศาลเจ้าพ่อคิมแจกลางเกาหลีอยู่(เวอร์โครตๆ) บรรยากาศมีเพียงดวงจันทร์และหมู่ดาวอยู่เป็นเพื่อนผมเท่านั้น อ้อ! แถมยังมีผู้คนนับร้อยกำลังเดินกันให้ว่อน

    (ล้วนเป็นพวกหลบการเข้าฐานนี้ทั้งนั้น)

    ซึ่งมันก็รวมถึงผมด้วย!

     

    แต่ที่ผมหลบเพราะผมต้องมีภารกิจที่ต้องมาทำนี่ครับ ภารกิจเรื่องให้ทุกคู่สมหวังเนี่ยผมถนัด

    แต่ตัวผมเอง...ยักกะไม่สมหวังกับเขาบ้าง

    ช่างน่าเศร้าจิต

     

    แต่ช่างเถอะ

    ถึงผมจะโสด

    แต่ความมีเสน่ห์(?)ของผม ก็ยังไม่เสื่อมคลายนะครับ

    ฮิ้ว~

     

    ผมตัดสินใจกลับมาที่เต้นท์ตามที่บอกจุนซูไว้ ไม่ใช่ว่าผมลืมกระเป๋าสตางค์หรอกนะครับ

    ผมเพียงแค่เหนื่อยกับการที่จะต้องเดินคนเดียวแล้วก็เท่านั้นเอง

     

    แต่แทนที่ผมจะเข้าไปในเต้นท์ ผมกลับต้องชะงัก

    เมื่อได้ยินเสียงหวานที่คุ้นๆดังอยู่ใกล้ๆ

     

    ยุนคะ ซูยองหนาว

     

    เอ่อ...คือ...

     

    หนาวจัง~” ว่าเสร็จหญิงสาวก็ลูบแขนตัวเองปอยๆพร้อมกับส่งสายตายั่วยวนให้ชายหนุ่มที่กำลังนั่งแข็งทื่อด้วยความกลัว

    เอ้ย! ด้วยความหนาว

     

    งั้นเดี๋ยวผมเข้าไปเอาผ้าห่มในเต้นท์ให้นะครับ ชายหนุ่มกำลังจะลุกขึ้น แต่มือบางของหญิงสาวกลับยื้อแขนของชายหนุ่มไว้เสียก่อน

     

    ซูไม่ต้องผ้าห่มหรอกค่ะ ซูต้องการแค่...

     

    “…”

     

    แค่ต้องการให้ยุนกอดน่ะค่ะ ชายหนุ่มเบิกตาโพลงเมื่อเจอคำพูดที่ปนด้วยความเขินอาย(ที่ไม่น่าจะมี)ของหญิงสาวไป

    ถ้าหนาวนัก ก็ให้ผมกอดให้แทนก็ได้นะครับอาจารย์ซูยอง

    กอดฟรี ไม่คิดตังด้วยล่ะ!

     

    นะคะยุน หญิงสาวส่งสายตาหวานเยิ้มไปให้ชายหนุ่มพลางกระพริบตาปิ้งๆให้

    ผมล่ะ อดจะสยองแทนอาจารย์ยุนโฮไม่ได้

     

    มัน...ไม่ดีมั้งครับ น้องซู ปากบอกว่าไม่ดี แต่ใจจริงอาจจะอยากกอดแทบตาย ใครจะไปรู้~

     

    ไม่ดีอะไรกันคะ เด็กๆก็เข้าฐานกันไปหมดแล้ว ไม่มีใครเห็นหรอกค่ะ ผมเนี่ยแหล่ะที่เห็น!

     

    แต่ว่า...

     

    นะคะยุน

     

    เอ่อ... ร่างสูงทำสีหน้าเลิกลั่กอย่างเห็นได้ชัด

    อาจารย์คงจะแอบใจเต้น จนทำอะไรไม่ถูกล่ะมั้ง

     

    ถ้ายุนไม่กอดซู...ซูกอดเองก็ได้ค่ะ!” สิ้นเสียงหวาน หญิงสาวก็โผกอดร่างสูงเข้าเต็มเป้า จนร่างสูงถึงกับเสียหลัก นอนแอ้งแม้งพร้อมกับหญิงสาวลงทันที

     

    แหม เกิดอารมณ์ตอนนี้...ก็ไม่บอกนะคะยุน หญิงสาวหัวเราะร่า เมื่อนึกว่าที่ร่างสูงลงมานอนแอ้งแม้งอยู่แบบนี้

    คือการให้ท่าเธอ!

     

    เอาไงดีวะไอ้แจ! อีกใจนึงก็อยากจะเข้าไปช่วย

    แต่อีกใจนึงก็อยากให้อาจารย์ซูยองมีความสุข

    เอาไงดีฟะเนี่ย!

     

    อะ...นะ...น้องซูครับ...ยะ... ร่างสูงพูดเสียงสั่นด้วยความตกใจและกลัว

    แทนที่อาจารย์ยุนโฮจะยิ้มรับอย่างมีความสุข

    แต่ไหงกลับทำหน้าตื่นขนาดนั้นล่ะ?

    อ๋อ...

    สงสัยคงจะกำลังใกล้ตื่นสินะ...

     

    ยุนคะ ใจเย็นๆนะคะ...เดี๋ยวทางนี้ ซูจัดการเอง สิ้นเสียงหวาน หญิงสาวก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อของชายหนุ่มที่ทำหน้าตาเป็นหมีตื่นอยู่(?)

    สงสัยคงจะชอบจัด เลยทำหน้าตาไม่ถูก

     

    อะ...นะ...น้องซู ครับ... เริ่มสิ้นฤทธิ์แล้วสินะอาจารย์ยุนโฮ

    ผมได้แต่ภาวนาให้อาจารย์ยุนโฮตกเป็นสามีที่ถูกต้องของอาจารย์ป้าซูหยอง เอ้ย! ซูยอง

     

    นี่แจจุง! ทำไมนายยังไม่เข้าไปช่วยอาจารย์ยุนโฮอีกล่ะ นายเป็นบ้าแล้วหรือไง!’

    นายน่ะไม่ต้องเข้าไปช่วยหรอก ปล่อยให้สองคนนั้นเขามีความสุขกันไปดีกว่า

    ไม่ได้นะ! แบบนี้อาจารย์ยุนโฮก็แย่สิ

    แย่อะไรล่ะ หน้าตาออกจะมีความสุขขนาดนั้น

    มีความสุขบ้านญาติแกเร้อะ!?! แว๊ดๆๆๆๆ

    แว๊ดๆๆๆ

     

    ราวกับมีเจ้าตัวประหลาดสองตัวกำลังทะเลาะกันอยู่ภายในจิตใจของผม อีกตัวหนึ่งบอกให้ผมไปช่วยอาจารย์ยุนโฮ ส่วนอีกตัวก็บอกว่าไม่ต้องเข้าไปช่วย

    แล้วผมจะเชื่อใครดีล่ะ!

     

    เชื่อใจของนายเองสิ เจ้าตัวที่บอกให้ผมไปช่วยอาจารย์ยุนโฮพูดขึ้น

    เชื่อใจ...ของผมเองงั้นเหรอ?

     

    นะ...น้องซู!”

     

    หยุดนะ!!!” ผมส่องไฟฉายไปที่ชายหนุ่มที่นอนเปลือยกายท่อนบนอยู่ กับหญิงสาวที่มือบางกำลังจะจับซิบกางเกงของชายหนุ่มที่หมายว่าจะถอดมันออกอยู่

    ชายหนุ่มและหญิงสาวต่างมองผมอยู่นาน ก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดขึ้น

     

    จะ...แจจุง!” ร่างสูงพูดด้วยสีหน้าตกใจ

    ทำไม ผมเข้าไปขัดขวางความสุขของอาจารย์งั้นเหรอครับ?

     

    ผมแค่จะมาบอกว่าผู้คุมฐานกำลังเรียกพบอาจารย์ซูยองอยู่ ผมแถออกเมือง ออกทะเล

     

    อ่ะ...อ๋อ จ้ะๆ งั้นเดี๋ยวซูไปก่อนนะคะพี่ยุน...วันหลังมาต่อกันใหม่นะคะ หญิงสาวยิ้มร่าให้ร่างสูง ก่อนจะรีบวิ่งออกไปทันที

     

    ในเมื่อหมดหน้าที่ผมแล้ว ผมจะอยู่ให้ได้อะไรขึ้นมาล่ะ

    ผมกำลังจะหันหลังกลับ แต่แล้วเสียงทุ้มก็กลับเรียกผมขึ้นไว้เสียก่อน

     

    เดี๋ยวแจจุง!” ผมชะงัก ก่อนจะหันไปมองทางร่างสูง

     

    ขอบใจนะ ที่มาช่วย

     

    อันที่จริงผมก็แค่เผลอมาเห็นอาจารย์ซูยองกำลังจะ...ก็เลยมาช่วยน่ะครับ ผมเว้นวรรคคำไว้ ขนาดในป่ายังไม่เว้น

    แล้วถ้าในเต้นท์ล่ะ?

    ไม่เหลือเลยหรือไง

     

    มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะแจจุง คือว่า...

     

    ผมไม่อยากจะฟังอะไรทั้งนั้นแหล่ะครับอาจารย์ ผมเชื่อ...ในสิ่งที่ผมเห็น ว่าเสร็จผมก็หันหลังกลับอย่างไม่ใยดีร่างสูงที่กำลังจะตั้งใจอธิบาย

    หรือแก้ตัว...

    ในเรื่องที่มันเกิดขึ้นเมื่อกี้

     

    ต่อแต่นี้ไป

    บางเรื่อง

    ผมก็ไม่ควรจะเชื่อใจเขาอีกแล้วล่ะ...

    _______________________________

    แวะมาอัพตอนที่เหลือให้แล้วนะคะ อัพให้เยอะจุใจ จุจิต
    (งั้นก็หวังว่าหลายๆคนคงจะชอบนะเคอะ)
    แล้วก็อย่าลืมเม้นท์ให้ไรท์ด้วยเน้อ ♥

    ป.ล เจอกันตอนหน้านะค้าบ >3


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×