ตอนที่ 2 : หญิงสาว ที่มาพร้อม กับ ความวุ่นวาย
ตอนที่ 1
อะไรนะคะป้า ยึดบ้านเหรอคะ?
หน่วยตาสีดำเบิกโต พร้อมกับเสียงที่ตอบกลับไปในโทรศัพท์อย่างตกใจไม่เบาเลยซักนิด ทำเอาบรรดาเพื่อนๆที่เช็กคำตอบหลังสอบวิชาสุดท้ายเสร็จสิ้น พากันเงยหน้าขึ้นมามองทั้งโต๊ะ
ใช่ๆ เขาบอกว่าจะมายึดบ้าน แถมยังเอาประกาศมาติดไว้ที่หน้าประตูบ้านด้วย เสียงระล่ำระลักจากปลายสาย บอกให้รู้ว่าตอนนี้ป้าฟองจันทร์กำลังอกสั่นขวัญแขวนขนาดไหน
ใครจะยึดคะ ศาลหรือ? ถามกลับไปให้ได้ความ พร้อมกับพยายามดึงสติของคู่สนทนาไม่ให้เปิดเปิงไปเสียก่อน
ในใบประกาศนี่มันบอกว่าสำนักทนายความอะไรซักอย่าง โอ๊ย! ตาก็ฝ้าฟาง อ่านหนังสือก็ไม่แตก...แล้วจะไปเป็นหนี้เป็นสินอะไรใครที่ไหนได้..ป้าไม่รู้เรื่องเลยยัยหวาน...แล้วนี่ป้าจะทำยังไงดีล่ะนี่ ถ้าเขามายึดไปจริง จะเอาที่ไหนซุกหัวนอน...โอ๊ย....เวรกรรมของอีฟองจันทร์ เสียงคร่ำครวญของป้าเธอยามนี้ บอกว่ากำลังใกล้จะสติแตกในอีกไม่ช้า
ใจเย็นๆก่อนนะคะป้าฟอง หวานจะไปหาป้าเดี๋ยวนี้แหละค่ะ...อย่าเพิ่งโวยวายนะคะ ตั้งสติไว้ก่อน เธอพยายามปลอบประโลมปลายสาย
เพธา เมษา ลิลลี่และคีตาพลอยตกใจไปกับหน้าตื่นๆของหวานตา เมื่อเห็นเพื่อนสาวที่ขอตัวลุกไปรับโทรศัพท์เดินกลับมาด้วยใบหน้ายุ่งเหยิง
มีเรื่องอะไรเหรอยัยหวาน?
ป้าฟองจันทร์โทร.มาบอกว่ามีคนเอาประกาศยึดบ้านไปติดที่หน้าประตูบ้าน
ยึดบ้านเลยหรือ แกเอาบ้านไปจำนองใครไว้รึเปล่า? เพธาถามหาเหตุ
ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน...ถามอะไรก็ไม่ได้ความ ดูท่ากำลังสติกระเจิงเชียวล่ะ ยังไงฉันขอกลับไปดูป้าก่อนนะ หวานตารีบเก็บข้าวของใส่กระเป๋า แล้วหยิบหนังสือมาหอบไว้รีบเร่งจะไป
เออๆ รีบไปเถอะยัยหวาน เธอเองก็ตั้งสติด้วย อย่ากระเจิงตามป้าไปด้วยล่ะ คีตาเตือน เมื่อเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเพื่อน
จ้าๆ บายนะ...แล้วเจอกัน ร่างสวยในชุดนักศึกษาร้อนรนจากไป โดยมีสายตาของกลุ่มเพื่อนมองตามชั่วขณะ จนเห็นว่าหวานตาเรียกแท็กซี่ได้ ก็กลับมาสนใจกับหนังสือตรงหน้ากันต่อ
สองชั่วโมงต่อมา หวานตากับป้าฟองจันทร์ก็จับมือพากันมายืนจังก้าด้วยใบหน้าพร้อมเอาเรื่องเต็มที่อยู่หน้าอาคารหลังใหญ่โตดูโอ่โถงอลังการไม่น้อยที่ขึ้นป้ายไว้ตัวใหญ่ชัดเจนเห็นไกลตั้งแต่ร้อยเมตรว่า
สำนักงานทนายความเปรมและเพื่อน
ที่นี่แหละค่ะป้า หวานตาเงยหน้ามองป้ายหน้าสำนักงานเทียบกับเอกสารในมือแล้วพยักหน้าให้สัญญาณกับป้าฟองจันทร์ว่ามาไม่ผิดที่แน่ๆ
งั้นก็ลุย นางฟองจันทร์ชูมือ แล้วก้าวอาดๆเดินเข้าไปผลักประตูเข้าไปในสำนักงาน ไอเย็นฉ่ำจากแอร์คอนดิชั่นเนอร์ปะทะกับเข้าใบหน้าของคนที่ก้าวตามเข้ามา ในขณะที่นางฟองจันทร์ประกาศเสียงกร้าว
ใครเป็นคนเอาใบประกาศนี่ไปติดที่หน้าบ้านฉัน
เสียงตวาดถามปานฟ้าผ่าของนางฟองจันทร์ สยบทุกความเคลื่อนไหวในสำนักงานแห่งนั้น ทุกคนต่างหันมามองหญิงร่างท้วมวัยค่อนคนแต่งตัวรุงรังที่ยืนอยู่กลางห้อง
ทุกสรรพเสียงเงียบนิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนใครคนหนึ่งจะเอ่ยถามขึ้น ประกาศอะไรครับป้า?
หวานตากวาดตามองแล้วพบว่า เทรนด์ของผู้ชายในสำนักทนายความแห่งนี้คือผู้ชายหน้าจืดสวมแว่นตา รวมทั้งผู้ชายที่ขันอาสาก้าวเข้ามาหาเพื่อช่วยเหลือ
เฮ้ย! หน้าตาไม่คุ้นว่าเป็นลูกเป็นหลาน อย่ามาทำนับญาติ นางฟองจันทร์ตัดรอนไร้เยื่อใย เพราะคนเดียวเท่านั้นในตอนนี้ที่นางต้องการตัวก็คือ...
ใครชื่อทนายเปรม? หวานตาเป็นคนเอ่ยถามหลังจากกวาดตามองทั้งหมดแล้วก็เดาไม่ออกอยู่ดี ว่าใครคือผู้กล้าดีสั่งให้เอาใบประกาศแผ่นนี้ไปติดหน้าบ้านของป้าเธอ
ทุกสรรพเสียงเงียบนิ่งไปอีกหนึ่งคำรบ หากคราวนี้ยาวนานกว่าครั้งแรก ก่อนที่ประตูกระจกบานหนาจะเปิดออกมา พร้อมร่างสูงใหญ่ของผู้ชายสวมแว่นอีกแล้ว
ผมเองครับ
ดวงตาทุกคู่หันขวับไปมองผู้เป็นเจ้าของเสียงอย่างพร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมาย ไม่เว้นแม้แต่หวานตาด้วย ที่ตั้งท่าจะลุยตามคำพูดปลุกใจของนางฟองจันทร์ แต่แล้วก็ชะงักงันอ้าปากค้างเมื่อเห็นชัดกระจ่างตากับหน้าตาของผู้ชายตรงหน้า
เช่นเดียวกับเปรม ปรัชญานันท์ ที่อึ้งตะลึงมองผู้หญิงหน้าหวานตรงหน้าแล้วคุ้นตาเป็นอันดี แม้จะเพิ่งเจอกันเป็นครั้งที่สอง...แต่เชื่อเถอะว่า ต่อให้ไม่เจอหล่อนอีกเลย เขาก็ไม่มีวันลืม
ดวงตาคู่สวยบนใบหน้าหวานกะพริบปริบๆ ราวกับจะให้ภาพที่เห็นในจอสายตาแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ไม่ใช่ผู้ชายที่ทำให้เธอชาวาบไปทั้งร่าง กล่องเสียงเธอเปล่งคำพูดไม่ออก ลำคอแห้งผากเหือดน้ำลายขึ้นมาเสียดื้อๆ
และเพราะหนุ่มสาวเอาแต่นะจังงัน...มาลันดูแก...มาแลดูกัน น่ารำคาญลูกตานางฟองจันทร์นัก แถมยังเห็นอาการประดักประเดิดผิดปกติ...โดยเฉพาะแม่หลานสาวปากกล้าที่มีอาการตาค้างและพูดไม่ออก ทั้งที่ไอ้หนุ่มตรงหน้าก็ไม่ได้หล่อเหลาอะไรนักหนา....แค่ละม้ายคล้ายนาท ภูวนัย พระเอกในดวงใจของนางสมัยยังรุ่นแตกเนื้อสาวเท่านั้นเอง
แกเองเหรอฮะ...ที่ชื่อทนายเปรม
ครับ คุณป้า เปรมยกมือไหว้จนคนถามตกใจยกมือรับไหว้ไม่ทัน พอเห็นมือไม้อ่อนมีสัมมาคาระวะของคนหนุ่มที่มีคุณวุฒิน่านับหน้าถือตา ก็ทำเอานางฟองจันทร์ใจอ่อนยวบลงทันที ทั้งที่ตั้งท่าว่าจะมาเอาเรื่องเต็มที่ และพอเห็นสายตาจดๆจ้องๆของหลานสาว
ยัยหวาน เรียกหลานสาวที่ยืนอึกอักอ้ำอึ้งจนสะดุ้งโหยง ก่อนจะหันไปมองทนายหนุ่มที่ยิ้มแป้นหน้าเป็น นั่นเพราะเขาได้รู้จักชื่อเธอแล้ว...เธอชื่อ คุณหวาน นั่นเอง มิน่า หน้าตาถึงได้หวานจับใจอย่างนี้
แกก็เหมือนกัน...ไม่ใช่ลูกไม่ใช่หลาน...ไม่ต้องมานับญาติกับฉันเว้ย...ยิ่งพวกหัวหมอ คอทนาย ฉันไม่อยากลดตัวลงไปคบ คนกล่าวนักเลงโตไม่เบา
ฉันไม่เคยไปเป็นหนี้เป็นสินใคร แกกล้าดียังไงเอาประกาศไปติดจะยึดบ้านฉัน นางฟองจันทร์ชี้หน้าถาม
ใจเย็นๆครับ เชิญไปคุยกันในห้องผมดีกว่า เปรมผายมือเชื้อเชิญอย่างให้เกียรติ
เย็นไม่ไหวแล้วโว้ย อยู่ดีๆจะมายึดบ้านกัน ใครที่ไหนจะไปยอม
ยอมหรือไม่ยอมคุณป้าก็ต้องเบาเสียงกว่านี้ ไม่งั้นอาจจะโดนข้อหาบุกรุกเข้ามาสร้างความรำคาญนะครับ เพื่อนทนายเปรมที่ชื่อ ประยุทธ รีบปราม เมื่อเห็นเพื่อนใจเย็นเกินเหตุ
นางฟองจันทร์รีบงับปากสนิทเมื่อถูกข่มขู่ ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบ
ก็ได้ งั้นไปคุยในห้องก็ได้ ว่าพร้อมเดินนำหน้าหวานตาตามเปรมเข้าไปในห้อง ช่วยไม่ได้ที่เธอต้องเดินตามเข้าไปดูแลป้าด้วย
โลกทำไมมันถึงได้กลมดิ๊กยังงี้นะ หวานตาพึมพำเบาๆเหลือกตามองเพดาน เมื่อผิวสัมผัสกับแอร์เย็นเฉียบในห้องของอีตาทนายที่แน่ใจว่าเขาจำเธอได้แน่นอน...ไม่งั้นก็คงไม่จ้องลูกตาวับๆวาวหรอก
แอร์ข้างในเย็นเฉียบ เหมือนมือทั้งสองข้างของเธอตอนนี้ไม่มีผิด สายตาของเขาแวะเวียนมองมาที่เธอบ่อยครั้ง ยืนยันให้หวานตาเชื่อว่าเขาจำได้แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์
รับน้ำอะไรดีครับ? เปรมหันมาถามหญิงสาวอย่างมีน้ำใจ
น้ำเนิ้มอะไรไม่ต้อง ฉันกินมาแล้ว จะมาคุยธุระไม่ได้จะมากินน้ำ และถ้าจะมีให้จริงๆล่ะก็ ขอน้ำใจละกัน นางฟองจันทร์เป็นแฟนพันธุ์แท้ลิเกตัวยง ฉะนั้นเรื่องเจ้าบทเจ้ากลอน สำบัดสำนวนนี่ต้องยกให้เลย
เปรมรีบเม้มปากแน่นกลัวจะกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่ เพราะดูคุณป้าตรงหน้าไม่ได้ร้ายกาจเหมือนที่พยายามแสดงออก แต่กับผู้หญิงข้างๆนั่น เขาซึ้งรสมือของเธอดีทีเดียว...
ยอมรับว่าตอนนั้นเขาโกรธและมึนงงสงสัยไม่หาย...แต่พอเวลาผ่านไปก็เลือนความโกรธ กลายเป็นอยากพบหน้าเธออีกซักครั้งเพื่อถามไถ่ให้หายข้องใจ และก็เหมือนสวรรค์บันดาล...พระเจ้าทรงโปรด เมื่อตอนนี้ เธอมานั่งตัวลีบอยู่ตรงหน้า และไม่กล้าแม้กระทั่งจะสบสายตากับเขา...เชื่อสิ...ว่าเธอเองก็จำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี
อะแฮ่ม...อะแฮ่ม...อะแฮ่ม... ป้าฟองจันทร์เกิดอาการมีอะไรติดคอขึ้นมา เมื่อเห็นคุณทนายเอาแต่เลี้ยวสายตาไปหาหลานสาวที่ก้มหน้างุดๆเกิดขี้อายขึ้นมาปัจจุบันทันด่วนบ่อยครั้ง
เปรมรีบวกสายตากลับมายิ้มให้หญิงวัยค่อนคนตรงหน้า พร้อมนั่งตัวตรงทรงสง่า ปกติเขาเป็นคนที่มีสมาธิสูงจดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ แต่หญิงสาวที่นางฟองจันทร์แนะนำว่าเป็นหลานสาวชื่อ หวานตา กลับทำให้เขาเสียการควบคุมตัวเองอยู่หลายครั้ง อย่างน่าประหลาด...ชีวิตเขาไม่ใช่จะไม่มีสาวสวยแวะเวียนผ่านเข้ามาเลยหรือก็เปล่า แต่กับผู้หญิงตรงหน้า เขาเองก็บอกไม่ถูกเช่นกันว่าเป็นเพราะอะไร
ตามใบประกาศที่คุณป้าเอาให้ผมดูนี่...มันบังคับมาจากสัญญาของลูกความผม เราตรวจสอบพบว่าผู้เอาโฉนดบ้านของคุณป้าไปจำนองชื่อคุณเฉวง และก็มีการปั๊มลายมือยินยอมจากคุณป้าซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและเจ้าของโฉนดถูกต้องเรียบร้อยทุกอย่าง...ดังนั้นสัญญาจำนองฉบับนี้จึงมีผลบังคับตามกฏหมาย เมื่อคุณป้าไม่ยอมชำระหนี้ตามกำหนดที่ตกลงไว้ ทางเจ้าหนี้จึงยื่นเรื่องขอยึดจำนอง
เขายื่นสำเนาเอกสารให้นางฟองจันทร์ซึ่งกำลังตาค้างอย่างช็อกๆ เมื่อระลึกได้ว่าหลายเดือนก่อน เจ้าเฉวงลูกชายคนเดียวของแก ได้เอากระดาษอะไรซักอย่างมาขอปั๊มลายมือ เสร็จแล้วมันก็หายหัวไปเลยจนถึงเดี๋ยวนี้
ใครจะไปคิดได้ ว่าลูกในไส้จะกล้าทำกับแม่ตัวเองอย่างนี้...บ้านและโฉนดที่ดินผืนนั้น คือสมบัติพัสถานทั้งหมดในชีวิตที่นางฟองจันทร์มีอยู่
นางฟองจันทร์ทำตาปริบๆเมื่อจำนนต่อหลักฐานที่พลาดทำลงไป ก่อนจะยกมือขึ้นมาตบอกผางๆ
ไอ้เหวง...ไอ้ลูกเวร...ไอ้คนทรยศอกตัญญูเนรคุณ...ดูสิดู...ดู๊....มันทำกับแม่มันได้... เสียงกรีดร้องลั่นทำให้สองหนุ่มสาวสะดุ้งโหยงทีเดียว
ป้าจ๊ะป้า...ใจเย็นๆก่อนนะจ๊ะ หวานตาจับมือไม้ที่กำลังตีอกชกหัวตัวเองไว้ห้ามปราม เมื่อเห็นว่าป้าของเธอควบคุมสติตัวเองไม่อยู่แล้ว ด้วยความเสียอกเสียใจ แต่ก็สู้แรงร่างอวบอ้วนของนางฟองจันทร์ไม่ไหว
ใจเย็นๆก่อนครับคุณป้า เปรมเป็นอีกคนที่ลุกขึ้นช่วยยื้อยุดฉุดมือป้าฟองจันทร์ที่กำลังทำร้ายตัวเองอยู่
จะให้เย็นยังไงไหวละคู๊ณ...ไอ้คนทำนั่นมันลูกชายชั๊น...ลูกในไส้...ที่เบ่งมันออกมาเอง...มันกินนมชั๊นเป็นปีๆ พ่อมันก็ทิ้งไปตั้งแต่ตัวยังแดงๆ ชั๊นสู้อุตส่าห์ปากกัดตีนถีบทำขนมขายเลี้ยงมันมาจนโต...แล้วดูสิ...ดูมันสนองคุณชั๊นอย่างนี้...จู่ๆจะไม่มีที่ให้ซุกหัวนอน เฮิ๊ก...เฮิ๊ก น้ำหูน้ำตาไหลพราก แล้วป้าฟองจันทร์เกิดอาการหายใจไม่ทัน เพราะลมโมโหตีกระแทกขึ้นมาจุกอก
....ไอ้ลูกเวร...ฮือ....มันทำกับแม่มันได้.... เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นห้อง จนหวานตาหน้าเหลือสองนิ้ว ตอนพามาไม่คิดซักนิดว่าจะต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้ ก็แล้วใครจะไปคิดเล่าว่า...ป้าฟองจันทร์จะสติแตกอาการหนักจนเกินควบคุม เธอรู้สึกอับอายขายหน้าผู้ชายตรงหน้านี่นัก
ป้าจ๊ะป้า...ใจเย็นๆก่อนนะ...อย่าเพิ่งคิดมาก...หายใจเข้าลึกๆ มือรีบฉวยเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาพัดวีพร้อมลูบหลังลูบไหล่ปลอบโยน เกรงป้าจะเป็นลมเป็นแล้งไปเสียก่อน แต่ดูเหมือนว่า จะไม่ทันการณ์เสียแล้ว...เมื่อร่างอวบอ้วนที่ตีอกชกหัวตัวเองเริ่มซวนเซกายก่อนผงะ ตาเหลือลาน
เฮือก...เฮือก.... นางฟองจันทร์เกิดอาการหายใจติดๆขัดๆสองสามเฮือกแล้วหงายหลังล้มตึงตกเก้าอี้ลงไปโดยที่หวานตาตั้งรับไม่ทัน เช่นเดียวกับทนายเปรมที่อึ้งตะลึงงันไปเช่นกัน
ป้าฟอง หวานตาร้องเสียงหลงอย่างตกใจ
ทนายเปรมรีบวิ่งอ้อมโต๊ะทำงานเข้ามาช่วยเธอประคองร่างอวบอ้วนไว้ อังนิ้วที่จมูกก็เห็นว่ายังหายใจอยู่
สงสัยจะเป็นลมน่ะครับ เงยหน้ามาบอกเธอ แล้วรีบกดปุ่มอินเตอร์คอม ใครอยู่ข้างนอก มาช่วยพาคุณป้าไปส่งโรงพยาบาลหน่อยซิ เขาเรียกลูกน้องให้เข้ามาช่วย พร้อมประคองป้าฟองจันทร์ขึ้นช่วยกันพัดวีกับหญิงสาว
เกิดความโกลาหลย่อยๆขึ้นมาในสำนักงานทนายความเปรมและเพื่อน เมื่อทุกคนกรูเข้ามาช่วยเหลือกันปฐมพยาบาลป้าฟองจันทร์กันจ้าละหวั่น ทั้งยาหอม ยาดม ยาหม่อง ถูกส่งมาช่วยเหลือมากมายระหว่างรอรถของโรงพยาบาลจะมาถึง
แม้จะตระหนกตกใจกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่หวานตาก็รู้สึกซาบซึ้งในความมีน้ำใจช่วยเหลือของพวกเขา ทั้งที่เธอตั้งใจจะมาเอาเรื่องแท้ๆ โดยเฉพาะผู้ชายที่ชื่อทนายเปรม ดูร้อนรนห่วงใย ราวกับป้าฟองจันทร์เป็นญาติผู้ใหญ่ของเขาด้วยก็ไม่ปาน
และแล้วความวุ่นวายทั้งหมดในสำนักทนายความเปรมและเพื่อนก็จบลงหลังจากรถแอมบูแลนซ์พาร่างป้าฟองจันทร์ไปส่งโรงพยาบาล โดยมีหวานตาและทนายเปรมติดตามไปด้วย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

15 ความคิดเห็น
-
#3 Praew (จากตอนที่ 2)วันที่ 5 พฤศจิกายน 2554 / 22:57ชื่อสำนักงานนี้ แหมม เปรมและเพื่อน มีต้องกันคล้ายๆ แบบนี้จริงๆ มั๊ยคะ 5555#30