ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เชลยรักเจ้าสาวทะเลทราย วางแผงแล้ว สนพ ธราธร

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1...100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.47K
      15
      17 ธ.ค. 54

    ตอนที่ 1

     

                    ท่ามกลางฝูงชนพลุกพล่านกลางใจเมืองกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายของคนเมืองในยามเช้า ซึ่งกำลังเดินทางไปด้วยจุดหมายต่างๆ กัน แต่หนึ่งในนั้นมีร่างเพรียวสูงกำลังก้าวลงจากรถเมล์ ผมยาวสวยดำขลับถูกมัดไว้ไม่ให้รุงรัง ใบหน้าไทยแท้ปราศจากเครื่องสำอางดูมีสีสันขึ้นเมื่อได้พักผ่อนมากกว่า 3 ชั่วโมงเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ คิ้วเข้มตวัดคมราวกับพู่กันวาด รับกับดวงตาเรียวทว่ากลมโตสีดำสนิทและจมูกโด่งอย่างบ่งบอกความดื้อรั้น หญิงสาวเดินเข้าไปในซอยเรื่อยๆ เพื่อไปสู่สำนักงานของหนังสือชั้นนำของประเทศที่มีชื่อว่า ‘People’ ซึ่งนำเสนอข่าวในวงการธุรกิจและวงการบันเทิงในเล่มเดียวกันเป็นรายสัปดาห์

                    อรอุมามองป้ายขนาดใหญ่ของสำนักงานตึกพาณิชย์สูง 7 ชั้นด้วยความภาคภูมิใจเพราะตั้งแต่เรียนจบมา เธอก็เริ่มงานที่ People เป็นที่แรกจนผ่านมา 4 ปีแล้ว อาชีพนักข่าวสายธุรกิจดูเหมือนจะเหมาะสมกับเธอที่สุด ภาษิต..รุ่นพี่และเจ้านายลูกชายเจ้าของ People ที่พ่วงตำแหน่งหัวหน้ากองบรรณาธิการเคยบอกเธออย่างนั้น แล้ววันนี้ก็เหมือนกับทุกวันที่หญิงสาวยื่นบัตรให้เครื่องสแกนด์ ก่อนจะเดินเข้าไปในตึกโดยส่วนของงานข่าวด้านธุรกิจจะอยู่ชั้นที่ 3 และ 4 ส่วนงานข่าวบันเทิงจะอยู่ชั้นที่ 5 และ 6  ชั้น 7 เป็นชั้นของผู้บริหาร ส่วนชั้น  1 จะเป็นส่วนของโรงพิมพ์ ทำให้หลังจากสรุปเนื้อหาในนิตยสารเสร็จเรียบร้อยก็สามารถนำเข้าสู่โรงพิมพ์ได้ทันที

                    กระเป๋าเป้ใบเล็กถูกแขวนไว้กับฉากกั้นโต๊ะทำงานของแต่ละคนเพื่อให้เกิดสมาธิในการทำงาน แต่หลายคนบอกว่าเอาไว้ให้แอบอู้ เล่นเฟสบุ๊ค ทวิสเตอร์ได้ แต่ระวังเจ้านายให้ดีเป็นพอ แล็ปท็อปถูกเปิด ในขณะที่เจ้าของโต๊ะเดินไปชงกาแฟให้ตัวเองตื่น เนื่องจากเพิ่งมีการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลใหม่ แม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับข่าวธุรกิจโดยตรง แต่นักการเมืองก็ส่งผลต่อธุรกิจในทางอ้อมเหมือนกัน ทำให้อรอุมาแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว แต่ข่าวที่พร้อมจะส่งให้กองบรรณาธิการตรวจเพื่อนำไปตีพิมพ์ก็เสร็จเรียบร้อยทั้งบทความและภาพ เสร็จไปอีกงานล่ะ

                    อรอุมาเดินกลับมาที่โต๊ะด้วยใบหน้าหายง่วงเกือบตื่นขึ้นมานิดหนึ่ง หญิงสาวเสียบแฟลชไดฟ์แล้วคัดลอกบทความลงเครื่อง ก่อนจะแชร์ไปยังส่วนของกองบรรณาธิการ ตอนนี้ก็เหลือแต่แต่งรูปให้งดงามก่อนจะส่งรูปประกอบตามไปอีกทีก็เป็นอันเรียบร้อย เคลียร์งานเก่า รองานใหม่ซึ่งก็ลอยมาตามลมเมื่อภาษิตเรียกให้เธอไปพบในตอนเกือบเที่ยง ดีเหมือนกันจะได้ไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน ไม่เจอหน้าเจอตากันมาร่วมเดือนได้แล้วกระมัง

                                    นักข่าวสาวขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 7 ตอนเกือบ 11 โมงครึ่ง เธอเดาว่าป่านนี้ภาษิตคงอยู่ในห้องทำงานของเขาแล้ว เพียงเคาะประตูครั้งเดียว เจ้าของห้องก็เอ่ยปากอนุญาตทันที พอเปิดประตูเข้าไปเรียวปากบางไร้ลิปติกก็ยิ้มให้ผู้ชายใบหน้าลูกครึ่งไทย-จีน           ดวงตาตี่ๆ ถูกครอบด้วยแว่นตาบางใส หน้าตาผิวพรรณขาวผ่องเสียยิ่งกว่าผู้หญิงจนอรอุมานึกอิจฉาอยู่เหมือนกัน แต่ที่เธอไม่นึกอิจฉาก็คือความสูง 192 เซนติเมตรของเขา ถ้าเธอสูงขนาดนั้นไปสมัครเป็นนักวอลเล่ย์บอลดีกว่า                         เอาแฟ้มนี้ไป นี่เป็นงานใหม่ของแกนะไอ้อรภาษิตกล่าวพลางส่งเอกสารในซองพลาสติกใสให้

                    ความที่อรอุมาเป็นคนลุยๆ ไม่เรียบร้อยเหมือนผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และไม่เรื่องมาก ทำให้ใครต่อใครมักจะพูดกับเธอเหมือนหนุ่มๆ คุยกันจนชินหูกันไป บางทียังถูกแซวว่าถ้าไม่เห็นว่ายังมีหน้าอกกับผมยาวๆ หน้าหวานๆ คงนึกว่าเป็นไอ้หนุ่มหน้าหล่อมากกว่านักข่าวผู้หญิง

                    อรอุมาดึงเอกสารขึ้นมาดูแต่แล้วก็ขมวดคิ้วมุ่นมองรุ่นพี่ที่เป็นเจ้านายด้วยความแปลกใจหรือว่าจะตกใจดีที่จู่ๆ จะถูกให้ทำงานนี้ นี่มันข่าวบันเทิงชัดๆ

                    พี่ษิตไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย?”

                 อรอุมาชักไม่ไว้ใจ เผื่อจะมามุกแกล้งหลอกให้ไม่อยากแล้วจากไป เธอชอบทำข่าวธุรกิจที่พ่วงการเมืองหน่อยๆ มากกว่าข่าวบันเทิง แค่คิดก็สยอง เอ หรือว่าข่าวนี้จะเป็นธุรกิจในเมื่อเหล่าไฮโซก็ทำธุรกิจเหมือนกัน

                    ที่ถามนี่ดีใจหรือเสียใจไม่อยากทำวะ ไอ้อรหนุ่มหน้าตี๋ถามกลั้วหัวเราะ

                    ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ แต่ไม่ไว้ใจพี่ษิตมากกว่า ร้อยวันพันปีไม่เห็นเคยให้ไปทำข่าวไฮซ้อ ไฮโซ วันนี้นึกยังไงขึ้นมาคะคุณพี่

                    ก็มันแปลกไหมล่ะ ทุกทีไม่เห็นส่งไปทำข่าวแบบนี้ ถ้าอะไรที่ต้องบุก ต้องลุย นั่นแหละงานจะเดินมาหาเธอเองหลังจากโยนกันไปโยนกันมา

                    เดี๋ยวน้องอรก็ลองไปทำข่าวนี้ดูแล้วกัน แล้วจะรู้ว่าคนที่จะทำข่าวนี้ได้ต้องเป็นน้องอร...สู้ว้อย เท่านั้นภาษิตปะเหลาะเอาใจรุ่นน้อง ไม่อยากบอกเลยว่าตอนแรกเขาก็ไม่นึกว่ามันจะยากขนาดนี้หรอก

                    ตาข้างขวากับตาข้างซ้ายของอรอุมากระตุกพร้อมกันวาบๆ ลองมาเรียก น้องอรแบบนี้คงมีเรื่องหนักหนาไม่ใช่น้อย มันจะอะไรกันนักเชียวก็แค่ไฮโซ เจ้าของธุรกิจอะโรมาติก ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของโอมานได้รับการโหวตจากเหล่าเซเลบ นางแบบและดาราให้เป็นหนุ่มโสดในฝันของปีนี้ อ้อ ปีก่อนด้วย ดูก็รู้ว่าอยากเป็นข่าวอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องมาถึงมือเธอเลยนอกจาก...

                    แสดงว่าก่อนหน้านี้เคยส่งคนอื่นไปทำข่าวนี้มาแล้ว แต่เหลวล่ะสินักข่าวสาวเอ่ยอย่างรู้ทัน

                    ภาษิตแทบสำลักน้ำที่กำลังจ่อปาก ใครสั่งใครสอนให้อรอุมารู้ทันเขาอย่างนี้(วะ) แต่เรื่องอะไรจะบอก แค่ที่เขาแบกหน้าขอให้บรรดาน้องๆ นักข่าวไปทำข่าวของนายรังสิมันต์ แล้วหน้าแห้งกลับมาก็ยิ่งกว่าอกหักแล้ว

                    อย่ารู้เลย เดี๋ยวจะเครียดเสียเปล่าๆ ขอข่าวนี้ภายใน 3 วัน ถ้าอรทำได้ พี่ขึ้นเงินเดือนให้เลย 10%”

                    อรอุมาห่อปากตาโต เชื่อแล้วล่ะว่างานนี้คงสำคัญและหินไม่น้อย ก็ขนาดขึ้นเงินเดือนกลางปี ไม่ใช่ธรรมดาเสียแล้ว สงสัยต้องไปสืบข่าวว่าใครถูกใบสั่งให้ไปทำข่าวนี้มาก่อนบ้าง

                    สัญญาแล้วนะ

                    อือ ฮึ

                    ไม่รู้ล่ะ People ต้องได้บทสัมภาษณ์ของผู้ชายคนนั้นเป็นเล่มแรก ภาษิตหมายมั่นในใจ เนื่องจากรังสิมันต์ไม่เคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือเล่มไหนมาก่อน นั่นแหละยิ่งลึกลับก็ยิ่งน่าค้นหา ถ้าได้บทสัมภาษณ์มายอดขายคงถล่มทลาย

                    เดี๋ยวอรจัดให้  ใครจะยอมพลาดได้ อรอุมารับปากมั่นเหมาะ ไม่เสียหายอะไรนี่นาเพราะในพจนานุกรมของเธอไม่มีคำว่า...คว้าน้ำเหลว

                    ภาษิตแทบกระโดด แต่ต้องรักษาอาการไว้เดี๋ยวอรอุมาที่มักรู้ทันเขาทั้งที่เป็นรุ่นน้องตั้ง 3 ปี แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เจ้าตัวแสบจะไม่รู้ทัน งานนี้เขาเปไม่อั้นเพื่อให้ได้บทสัมภาษณ์ของรังสิมันต์มา ว่าแต่เขาควรจะห่วงแหล่งข่าวหรือว่าอรอุมากันแน่ เรื่องนี้ฟันธงลำบากแฮะ

     

                    บ่ายวันนั้นอรอุมาไม่รอช้ารีบขึ้นรถเมล์คันแรกที่วิ่งผ่านบริษัทอะโรมาติก รถเมล์บึ่งตามอัตราความเร็วของพนักงานขับรถประจำทางไปหาแหล่งข่าวทันที ระหว่างที่นั่งรถกินลมแบบชิวๆ หญิงสาวก็หยิบเอกสารประวัติของรังสิมันต์ ธนกิจกมล ขึ้นมาอ่านด้วยความสนใจ ไม่ใช่เพราะหน้าตาที่ดู...โอเค หล่อ แต่เพราะภาษิตอยากได้บทสัมภาษณ์จากผู้ชายคนนี้มากต่างหาก

                    รังสิมันต์ ธนกิจกมล เป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวอารัญ ธนกิจกมล ผู้กว้างขวางในธุรกิจยานยนต์ แต่ว่าลูกชายคนเดียวจากภรรยาคนแรกและคนเดียว ซึ่งก็คือแหล่งข่าวของเธอนั้นกลับไปเอาดีทางด้านปิโตรเลียมด้วยการเปิดบริษัทอะโรมาติก(Aromatic) ขึ้นมาโดยเป็นการลงทุนด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับโอมาน และถ้านับตามอายุ รังสิมันต์อาจจะเป็น CEO (กรรมการบริหาร) ที่อายุน้อยที่สุดซึ่งมีทรัพย์สินเกิน 1,000 ล้านบาทจากผลประกอบการในปีนี้

                    ในเรื่องของครอบครัว ประวัติของเขาค่อนข้างน้อยมีเพียงว่าเขาเป็นลูกชายคนเดียวจากภรรยาคนแรกที่มีสัญชาติโอมาน พ่อแม่แยกทางกันเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ เหตุผลการหย่าร้างไม่ได้ระบุ แต่ที่แน่ๆ รังสิมันต์ก็ได้ชื่อว่าเป็นไฮโซคนหนึ่ง แต่เขากลับไม่สนใจเข้างานสังคม ทว่าคู่ควงของเขาแต่ละคนก็ไม่ใช่ระดับธรรมดา บางคนเป็นนางเอกดาวรุ่งวิกมากสี หรือนายร้ายวิกน้อยสี บางทีก็นางแบบที่กำลังฮอตในหมู่ดีไซเนอร์ก็มี

                    ใช้เวลาไม่นานนักร่างเพรียวในชุดเสื้อเชิ้ตพอดีตัวสีขาวกับกางเกงยีนสีดำก็มาถึงตึกอะโรมาติก ซึ่งเป็นสำนักงานในกรุงเทพฯ โดยที่โรงกลั่นน้ำมันอยู่ที่ระยอง อรอุมาคิดว่าคงต้องติดต่อรังสิมันต์ผ่านเลขาของเขาก่อน ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าจะถูกปฏิเสธ  ก็ถ้ามันง่ายแค่ติดต่อผ่านเลขา ภาษิตคงไม่นึกถึงเธอหรอก แล้วคำตอบจากเลขาหน้าจิ้มลิ้มก็ไม่เกินจากที่คาดหมาย

                    เสียใจด้วยนะคะคุณอรอุมา คุณรังสิมันต์ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ค่ะ

                    ถ้างั้นคุณรังสิมันต์อยู่ที่นี่หรือเปล่าคะอรอุมาถามต่อไหนๆ ก็มาแล้ว เชื่อขนมกินได้เลยว่าถึงเจ้านายของเลขาหน้าจิ้มลิ้มอยู่ก็คงไม่ได้คำตอบอะไร

                    คุณรังสิมันต์ไม่อยู่ค่ะ

                    ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ

                    อรอุมาไม่ติดใจสงสัยอะไร ไม่ใช่เชื่อว่ารังสิมันต์ไม่อยู่ งานนี้ถ้าเป็นนักข่าวถึงผู้ชายคนนั้นนั่งเล่นเกม Barn Buddy (เกมปลูกผัก ใน Web Facebook) ในห้องทำงาน เลขาที่ดีก็ต้องบอกว่าไม่อยู่ตามที่เจ้านายสั่งนั่นล่ะ โอเค ขั้นแรกผ่านไปตามความคาดหมาย นั่นคือเป้าหมายปฏิเสธการติดต่อ ถ้างั้นก็ขั้นต่อไป

                

                    2 ชั่วโมงผ่านไป อรอุมายังคงรอรังสิมันต์อย่างใจเย็นที่หน้าตึกฝั่งตรงข้ามกับตึกอะโรมาติก แต่ไม่ใช่ว่าเธอจะนั่งรอเฉยๆ หรอกนะ หญิงสาวทำงานอดิเรกอีกอย่างนั้นคือการเขียนนวนิยาย ซึ่งไม่เข้ากับมาดห้าวๆ แมนๆ ดูไร้ต่อมโรแมนติก แต่ใครๆ ที่รู้จักอรอุมาย่อมรู้ดีว่าหญิงสาวมีอารมณ์ที่อ่อนไหวมาก ถึงได้ต้องอำพรางจุดอ่อนด้วยท่าทางเหมือนเพื่อนผู้ชายมากกว่าเพื่อนผู้หญิง

                    อรอุมายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูอีกรอบ ตอนนี้เกือบ 5 โมงเย็นแล้ว พนักงานที่นี่เลิกงานตั้งแต่ 4 โมงครึ่ง ทำให้พอมองไปอีกที ตึกที่เคยมีคนพลุกพล่านก็เริ่มจะบางตา

                    ทำไมไม่มาสักทีว้าหญิงสาวบ่นพึมพอดีกับโทรศัพท์ก็ส่งเสียงกรีดร้อง

                    อ้อ คุณมารตี แม่สุดที่รักของเธอเอง หญิงสาวใจหายวาบเมื่อนึกว่าลืมนัดใครไปหรือเปล่า เพราะการทำงานอย่างเอาเป็นเอาตายนี่แหละทำให้เธอถูกตามจิกเป็นประจำ เรื่องงานไม่เคยลืม แต่นัดของแม่และเพื่อนฝูงมีแวววืด ถ้าไม่โทรมาเตือนล่วงหน้า แต่ว่าวันนี้ไม่มีนัดของใครนี่หว่า

                    อรหรือลูก

                    ค่ะ แม่หญิงสาวยิ้มขัน วันหลังจะลองบอกว่าไม่ใช่ดู แม่คงเหวอน่าดูเชียว

                    มารตีเป็นผู้หญิงที่เป็นแบบฉบับของกุลสตรี ไม่ใช่ผู้หญิงที่ละไว้ซึ่งความเป็นสตรีอย่างอรอุมา นางเลี้ยงลูกมาแบบให้ดูแลและคิดตัดสินใจด้วยตัวเอง เนื่องจากเลิกรากับสามีตั้งแต่ลูกสาวยังเรียนแค่มัธยมต้น เหตุผลก็เหมือนที่เกิดกับครอบครัวอื่นๆ นั่นคือ ผู้ชายมักไม่รู้จักพอ แต่นางก็ทำงานเลี้ยงลูกมาเพียงลำพังส่งลูกเรียนจนจบปริญญาตรีได้ด้วยอาชีพครูโรงเรียนรัฐบาล

                    วันนี้จะกลับกี่โมง เมื่อเช้าทิพกับปราบมาบอกแม่ว่าวันนี้จะมาฉลอง ไม่รู้เหมือนกันว่าฉลองอะไร

                    เอ สงสัยยัยทิพจะได้เลื่อนขั้น หรือไม่นายปราบจีบสาวติดแล้วมั้งอรอุมาเดาเอา แต่ก็มีความเป็นไปได้เพราะทิพยานั้นเป็นสาวทำงานเกินร้อย ส่วนปราบดา เรื่องที่น่ายินดีที่สุดสำหรับเขาก็น่าจะเป็นมีแฟนเป็นตัวเป็นตนไม่ใช่ลอยเป็นพ่อพวงมาลัยไปเรื่อยๆ

                    แล้วอรจะกลับมากี่โมง ไม่ใช่สองทุ่มเที่ยงคืนอีกนะมารตีพูดดักลูกสาวไว้

                    ไม่หรอกค่ะ วันนี้ไม่เกิน 1 ทุ่มตรง อรถึงบ้านแน่นอนหญิงสาวรับปากมั่นเหมาะ คราวนี้ไม่มีการไปช้าอยู่แล้ว ก็เป้าหมายของเธอไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้

                    ให้มันจริงเถอะคราวก่อนบอกว่าจะรีบกลับ โน่นเกือบตี 2 ไม่รู้ทำงานอะไรดึกๆ ดื่นๆ แทบจะเป็น รปภ ของตึกเองกระมัง

                    จริงสิคะแม่

                    นั่นล่ะคุณมารตีถึงได้โล่งอกโล่งใจวางสายไป แต่อรอุมาเริ่มหมดอารมณ์ใช้จินตนาการ ดวงตาของหญิงสาวจับจ้องไปที่ประตูเข้าออกของตึก แต่ก็ไม่เห็นมีใครที่จะเป็นแหล่งข่าวที่หาตัวยากของเธอได้ เธอพยายามไม่คิดอะไรเพราะน้องๆ นักข่าวที่อกหักกลับไปคงเจอสภาพเดียวกัน แล้วเธอจะยอมกลับไปมือเปล่าเรอะ

                    ไม่มีทาง!

                    ให้เวลาอีกครึ่งชั่วโมง ถ้าไม่มาฉันก็จะกลับแล้ว

                    จนเวลาผ่านไปเกือบ 6 โมงเย็นก็ยังไร้วี่แววของรังสิมันต์ แต่หญิงสาวก็ยังไปด้อมๆ มองๆ แถวลานจอดรถปากทางขึ้นจากชั้นใต้ดิน เยี่ยม! ไม่มีรถอยู่สักคัน สายตาเบื่อๆ เซ็งๆ เหลือบไปเห็นกระป๋องน้ำอัดลมกลิ้งอยู่ที่ปลายเท้า ไม่ทันคิดอะไรทั้งนั้น หญิงสาวเตะซัลโวเข้าไปเต็มแรง กระป๋องน้ำอัดลมปลิวหวือไปยังทางเข้าลานจอดรถชั้นใต้ดิน

                    โอ้ย!?!”

                    เสียงใครบางคนร้องอุทานลั่นด้วยไม่นึกว่าจะซวยแจกโล่ขนาดนี้ คนก่อเหตุยกมือปิดปากไม่ได้คิดหนี เรื่องแค่นี้เธอจัดการได้ แต่จะบอกเจ้าของเสียงที่คงเจ็บไม่น้อยว่าอย่างไรดี แล้วยังไม่ทันที่เธอจะนึกอะไรทัน ร่างสูงใหญ่ ใบหน้าถูกปิดบังไปกว่าครึ่งด้วยหมวกแก็ปและแว่นตาอันใหญ่ก็เดินกุมหน้าผากมาพร้อมกับหลักฐาน

                 คุณใช่ไหมที่ทำให้กระป๋องน้ำอัดลมมันกระเด็นมาโดนหัวผม?” คนดวงซวยถามเสียงโหดสุดๆ ดวงตาคมหลังแว่นมองเขม็งมายังร่างเพรียวที่ยิ้มระเหี่ย ไม่ปฏิเสธสักคำ

                 อรอุมาหัวเราะเฮอะๆ ในลำคอ วันนี้เป็นวันอะไรของเธอเนี่ย หาแหล่งข่าวไม่เจอ แล้วยังมาก่อเรื่องให้ผู้ชายตัวโตมากๆ อยากจับทุ่มลงพื้นอีก แต่นี่มันเลิกงานแล้วและข้างล่างก็เป็นลานจอดรถชั้นได้ดิน ใครจะไปคิดเล่าว่ามีคนอยู่

                 เอ่อ ก็ทำนองนั้น แล้วคุณมาเดินอะไรแถวนี้

                 ผมต่างหากที่ต้องถามคุณว่าไม่มีอะไรทำหรือไงถึงได้มาเตะกระป๋องเล่นในที่สาธารณะเขาถามเสียงยังคงดีกรีความดุเอาไว้พลางยกมือคลึงหน้าผาก ส่วนกระป๋องน้ำอัดลมถูกโยนฟิ้วเดียวลงถังขยะเหมาะเหม็ง

                 พอเห็นมือหนาคลึงหน้าผากที่เริ่มบวมขึ้นเป็นลูกมะนาว อรอุมาก็ชักรู้สึกผิด จะปฏิเสธไปไยในเมื่อผิดจริง ก็ถ้าเธอไม่เตะกระป๋องน้ำอัดลมไปเขาคงไม่เสียหล่อ

                 โอเค ขอโทษค่ะ ฉันผิดจริงๆ นั่นแหละ ขอดูแผลที่หน้าผากได้ไหมคะ

                 มือบางยื่นไปยังลูกมะนาวบนหน้าผากของคนดวงซวย แต่เขากลับก้าวถอยหลังไปเหมือนเธอจะเข้าไปลวนลามอย่างนั้นแหละ ทั้งๆ ที่เธอควรไม่ไว้ใจเขาต่างหาก

                 ไม่จำเป็น ผมไม่ตายเพราะความเลินเล่อของใครง่ายๆ แค่นี้หรอก

                 อ้อ เข้าใจล่ะ อรอุมาเขียนนวนิยายมาหลายเรื่องและเคยอ่านอีกหลายร้อยเรื่อง นางเอกที่ดีก็คงต้องขอโทษขอโพยต่อให้พระเอกยอมให้อภัย แต่เธอไม่ใช่นางเอก และนายสุดแสนจะหวงตัวคงไม่ใช่พระเอก เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ชวนเลี่ยนจึงไม่เกิดขึ้นในตอนนี้แน่นอน

                 งั้นก็แล้วแต่คุณค่ะ ฉันทำในสิ่งที่ควรทำแล้ว ลาล่ะค่ะ

                 หญิงสาวดึงมือกลับมาไว้ที่เดิม ใครอยากจะถูกเนื้อต้องตัวผู้ชายแปลกหน้ากัน ก็แค่ความรู้สึกผิดที่ดันมาใช้ผิดเวลาก็เท่านั้น ถ้าอย่างนั้นเธอจะไม่ทำอะไรในเมื่อได้พูดขอโทษด้วยความรู้สึกผิดอย่างจริงใจไปแล้ว ร่างเพรียวเดินออกเรียกแท็กซี่ไม่มีอารมณ์นั่งรถเมล์มองวิวแล้ว

                 ร่างสูงมองร่างเพรียวที่เพิ่งชิ่งไปพลางส่ายหน้าไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเดินไปยังลิฟต์ด้านหลังเพื่อขึ้นไปชั้นบนสุดของตึกนี้ ระหว่างนั้นก็บ่นพึมไปตลอด...อย่าให้เจออีกนะ ยัยกระป๋องน้ำอัดลม

     

                 ภาษิตเหมือนมีองค์จริงๆ พออรอุมาขึ้นรถแท็กซี่ปั๊บเขาก็โทรมาหารุ่นน้องนักข่าวหัวเห็ดทันที หญิงสาวมองชื่อคนโทรหาแล้วก็ยิ้มกริ่มกำลังอยากคุยให้หายข้องใจอยู่พอดี วันนี้ก็ดันรีบเลยไม่ได้ไปถามเรื่องของนายรังสิมันต์ถึงวีรกรรมสกัดนักข่าว

                 ไงไอ้อร ได้สัมภาษณ์คุณรังสิมันต์แล้วหรือยังภาษิตถามเสียงมีความหวังเต็มเปี่ยม

                 อรอุมาแยกเขี้ยวใส่โทรศัพท์อย่างหมั่นเขี้ยว นอกจากไม่ได้สัมภาษณ์แล้วยังพลาดอีกต่างหาก สงสัยถ้าเธอทำงานนี้ไม่สำเร็จมีหวังโดนล้อตาย

                 ถามหน่อยเถอะ พี่ษิตให้เพื่อนของอรมาทำข่าวของพ่อยอดชายรังสิมันต์กี่คนแล้วเนี่ย งานดูเหมือนจะง่ายถึงโยนตุ้บมาให้อรได้

                 “ 3 คนแล้ว พี่ก็เลยต้องส่งตัวจริงอย่างอรไปไง ไง? ไปเจออะไรเข้าล่ะความจริงที่ปิดๆ เอาไว้เริ่มแพลมมาที่ละหน่อย

                 ...ว่าแล้วเชียว อรอุมาไม่แปลกใจที่ได้รู้เท่าไหร่ แต่คุณพี่จะไม่บอกคุณน้องให้มากกว่านี้หน่อยหรือไง

                 ก็เซ็งที่ไม่เจอคนที่อยากสัมภาษณ์น่ะสิ

                 ถ้าอรอุมาจะใช้โทรศัพท์ที่ไฮเทคโนโลยีเห็นภาพได้ระหว่างคุยกันคงเห็นคิ้วของภาษิตกำลังผูกโบว์ด้วยความประหลาดใจ

                 เอ มาแปลก ทุกทีแทบจับนักข่าวโยนออกมา

                 อะไรนะ! โหย พี่ษิตทำไมไม่บอกอรอุมาโวยวายลั่นรถ เธอว่าแล้วเคสนี้มันทะแม่งๆ อยู่ ถึงขนาดโยนนักข่าวออกมา แต่ไม่เตือนเธอสักคำ...ไอ้พี่เวร!

                 ถ้าบอก อรก็ไม่ไปน่ะสิ น่า...ช่วยทำงานชิ้นนี้ให้พี่ชื่นใจหน่อยเถอะนะภาษิตยังปะเหลาะต่อ ถ้าไม่ถูกโยนออกมาก็น่าจะเป็นข่าวดีล่ะน่า

                 ขอคิดดูก่อน พรุ่งนี้จะบอกว่าจะทำให้ต่อหรือเปล่า

                 ขอเล่นตัวหน่อยเถอะ โทษฐานไม่เตือนกันล่วงหน้า เห็นเธอเคยฝ่าดงกระสุนตอนไปกับทีมตำรวจตอนที่จับนักธุรกิจใหญ่ที่ค้าไม้เถื่อนเข้าหน่อย เลยคิดว่าเธอจะเป็นศรีทนได้ใช่ไหม

                 เฮ้ย อย่าทำกับรุ่นพี่อย่างนี้สิว้า

                 รุ่นน้องได้ยินเสียงรุ่นพี่ร้องเสียงหลงก็สะใจสถานเดียว ความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องขอพักไว้ก่อน

                 ผลัดกัน ทีพี่ษิตยังไม่บอกอรเรื่องของนายรังสิมันต์ให้อรรู้เลยนี่นา แค่นี้นะคะพูดจบอรอุมาก็ตัดสายวางไปทันที

                 ไม่เท่าไหร่หรอกที่ถูกปล่อยให้รอเป็นนานสองนาน ถ้าเจ้ารุ่นน้องร่วมสายอาชีพ 3 คนก่อนหน้านี้โดนโยนออกมาจากตึก แล้วเธอที่ไม่ได้มีชะตากรรมแบบนั้นคงคิดได้สถานเดียวว่าวันนี้นายรังสิมันต์คงไม่อยู่จริงๆ แหมน่าจะอยู่ อยากรู้จักตัวเป็นๆ ของแหล่งเสียหน่อย

     

                 มารตีแทบจะตีกะทะให้ชาวตรอกซอกซอยได้เห็นว่าวันนี้อรอุมากลับมาถึงบ้านตรงเวลาที่บอกไว้เป๊ะ แถมสภาพที่กลับมาก็ดูดีเป็นลูกสาวไม่ใช่ลูกชายเสียด้วย ผู้เป็นแม่ถอนใจโล่งอกเบาๆ นางห่วงลูกเสมอ แม้ว่าบางช่วงของการทำงานลูกสาวมักจะหักโหมทุ่มเทนั่นเพราะเรามีกันอยู่แค่สองแม่ลูก อรอุมาจึงคิดว่าต้องเป็นเสาหลักให้กับตัวเองและแม่ให้ได้ เนื่องจากปมในใจที่มาจากผู้ชายกลายที่เป็นอดีตพ่อ นี่แหละลูกสาวที่เป็นแก้วตาดวงใจของนาง

                 อรอุมากอดแม่เหมือนที่ทำทุกวัน ก่อนจะเดินทำจมูกร่อนเข้าไปในครัวซึ่งมีแม่ครัวเอกอย่างทิพยากำลังทำทอดมันกุ้ง ส่วนที่อยู่ในหม้อใบเล็กนั่นเป็นเต้าหู้ทรงเครื่อง

                 โหย หอมจัง วันนี้ทำอะไรกินกันบ้างเนี่ย

                 สาธุ ของที่บนไว้ลูกช้างจะไปแก้บนให้พรุ่งนี้นะเจ้าคะทิพยาพนมมืออีกต่างหาก

                 ท่าทางของสาวอารมณ์ดีหน้าตาน่ารักพอๆ กับรูปร่างที่หากยืนเทียบกันแล้ว ทิพยาสูงเพียงใหล่ของอรอุมาเท่านั้น ทว่านักข่าวสาวกลับอยากตัวเล็กๆ น่ารักอย่างเพื่อนบ้าง คงน่าทะนุถนอมดีเหมือนกัน

                 อะไรของเธอนะยัยทิพ?”

                 พอคุณป้ามารตีบอกว่าวันนี้อรจะกลับมาเร็ว ทิพก็บนไว้นะสิว่า เผื่อไว้เร่งทางโทรศัพท์ไม่ได้ก็ต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจอรอีกแรงน่ะสิทิพยาว่ายิ้มๆ

                 อย่าได้คิดเชียวว่าไม่จริง เพราะจากประสบการณ์หลังจากเป็นเพื่อนกันมา 8 ปีเต็มๆ เธอรู้ว่าเพื่อนบ้างานยิ่งกว่าอะไร ถ้าแบ่งเรื่องบ้างานไปสนใจหนุ่มๆ บ้างก็คงจะดี ไปๆ มาๆ เธอกับเพื่อนจะกลายเป็นสาวขึ้นคาน เวลาเดินไปไหนด้วยกันใครต่อใครพากันนึกว่าเป็นคู่รักข้ามเพศ

                 เวอร์มาก

                 ใครเวอร์หรือสาวๆเสียงหุ้มห้าวลอยมาเตะหูสองสาว ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเข้ามาถึงในครัวเสียอีก

                 อรอุมาจำเสียงได้รีบออกไปต้อนรับเสบียงหาใช่เพื่อนไม่ ถ้าปราบดามาก็หมายความว่าอาหารจะยิ่งอุดมสมบูรณ์ แล้วยิ่งวันนี้สองมือของเพื่อนชายมีถุงหูหิ้วไม่น้อยกว่า 3 ถุง สงสัยเรื่องที่คิดๆ เอาไว้คงถูกสักเรื่องล่ะน่า

                 โอ้โห สงสัยจะมีข่าวดีจริงๆ แฮะ นายปราบหิ้วอะไรมาพะรุงพะรัง

                 ก็ของที่คุณทิพยาสั่งให้ซื้อมาทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องมามองเฉยๆ มาช่วยกันเลยคุณอรอุมาปราบดากวักมือเรียกทั้งที่มือก็ไม่ค่อยจะว่าง

                 อรอุมามองเพื่อนๆ แล้วก็ยิ้มมีความสุข สังคมของเธอไม่ใหญ่อะไรหรอก ก็มีแค่แม่ เพื่อนสนิทอีกสองคน แล้วก็เพื่อนร่วมงานที่สนิทอีกไม่กี่คนเท่านั้นเอง อาหารจากในครัวทยอยลำเลียงออกมา ส่วนอาหารสำเร็จกำลังเทลงจานหน้าตาชวนให้หิวขึ้นมาทันที เมื่ออาหารพร้อม อาวุธพร้อม ทุกคนก็เข้าประจำที่โต๊ะอาหาร

                 บอกได้หรือยังว่ามีเรื่องอะไรมาฉลอง ยัยทิพได้เลื่อนขั้นหรือว่านายปราบจีบหญิงติดอรอุมาได้ฤกษ์ถามเสียที

                 รู้ได้ไง เป็นหมอดูหรือไงยัยอรทิพยาถามยิ้มๆ พยักพเยิดกับปราบดา

                 อรอุมาสบตามารตีเหมือนจะบอกว่า...เห็นไหมคะแม่ อรเดาถูก พลางตักอาหารให้แม่ ซึ่งเป็นมุมเล็กๆ ที่ทำให้มาดห้าวๆ แมนๆ ดูอ่อนลงเหมือนลูกสาวที่ยังไม่ละความเป็นสตรีไป

                 ไม่ต้องหมอดูหรอก คนตั้งใจทำงานอย่างทิพ ถ้าเจ้านายไม่เห็นคุณค่าก็คงแปลกล่ะ ไม่เหมือนเจ้านายของอรเล้ย
                 ทำไมล่ะ พี่ษิตหางานยากๆ มาให้ทำอีกแล้วหรือไงปราบดาก็เป็นรุ่นน้องของภาษิตเหมือนกัน ต่างกันแต่ว่าเรียนคนละคณะ แต่มหาวิทยาลัยเดียวกัน

                 อรอุมากับภาษิตเรียนสื่อสารมวลชน ปราบดาเรียนวิศวโยธา ส่วนทิพยาเรียนด้านการบัญชี แต่ก็มาสนิทสนมกันได้ก็เพราะเป็นคนชอบทำกิจกรรมเหมือนกัน

                 ไม่รู้ว่ายากไหม ให้อรไปสัมภาษณ์คุณรังสิมันต์ ธนกิจกมล อรน่ะไม่ค่อยสนใจเรื่องข่าวบันเทิงก็เลยไม่รู้ว่าอีตานี่กำลังดังเวอร์

                 ทิพยาฟังเพื่อนแล้วแทบกรี้ด อรอุมาปรายตามองเพื่อนไม่อยากเชื่อว่าแฟนคลับของรังสิมันต์ก็นั่งอยู่ในบ้านของเธออยู่คนหนึ่ง

                 จริงหรือยัยอร ฝากถ่ายรูปแล้วก็ขอลายเซ็นมาให้ด้วย

                 หือ ทิพรู้จักเขาด้วยหรือ?” สงสัยอีตานี่คงดังจริงๆ นั่นล่ะ อรอุมาแอบคิดในใจ ขนาดทิพยายังคลั่งไคล้ แล้วเธอไปมุดอะไรอยู่เนี่ยถึงไม่ได้รู้จักผู้ชายคนนั้นสักกะผีกจนเมื่อตอนเกือบเที่ยงได้อ่านประวัตินั่นแหละ

                 โห ไม่รู้จักสิแปลก คืนนี้ไปหาข้อมูลของเขาดูแล้วจะรู้ว่าสาวๆ กรี้ดเขาทั้งเมืองทิพยาแนะนำ

                 อรอุมาก็คิดว่าคงต้องเริ่มทำแบบนั้นดู นี่เธอไปทำอะไรอยู่ใต้หล้าประเทศไทย ทำไมรังสิมันต์ถึงได้ดังขนาดไม่เคยให้นักข่าวสัมภาษณ์ เอาล่ะ คืนนี้จะลองหาดูว่าความดังของผู้ชายคนนี้มาจากอะไร

                 อรต้องสัมภาษณ์เขาให้ได้หรือลูก?” มารตีฟังมานานถามขึ้นบ้าง แอบโล่งใจนิดๆ ที่คราวนี้ไม่ต้องไปทำข่าวนักธุรกิจที่เบื้องหลังทุจริตวิ่งหนีกระสุนอีก

                 ค่ะแม่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหาทางสัมภาษณ์ได้ยังไงเหมือนกัน หาตัวยากมาก วันนี้ไปรอพ่อสุดหล่อที่บริษัทมาตั้งครึ่งวันยังไม่เจอตัวเลย

                 ถ้ายากก็ไม่ต้องไปทำมันก็ได้นี่ ให้พี่ษิตเต้นสักพักเดี๋ยวก็หาคนทำงานนี้แทนอรเองนั่นแหละปราบดาที่ฟังอยู่เงียบๆ มานานแนะนำ ด้วยเขาเองก็ไม่อยากให้อรอุมาได้ไปใกล้ชิดกับผู้ชายคนนั้น ถึงไม่ได้อยู่ในวงการธุรกิจ แต่ก็ได้ยินข่าวมาบ้าง

                 ก็คิดอย่างนั้นอยู่เหมือนกัน แต่ขอลองทำเรื่องยากๆ สักตั้งก่อน แล้วได้ไม่ได้ค่อยว่ากันอรอุมาไม่ได้ปักใจนักว่าจะสัมภาษณ์รังสิมันต์ได้ แต่ก็ไม่อยากยอมแพ้ทั้งที่เพิ่งเริ่มพยายาม

                 ถ้าไม่เจอตัวที่บริษัทก็ไปดักที่บ้านสิยัยอร เห็นพวกแฟนคลับดารานักร้องก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้นทิพยาเอ่ยลอยๆ ขึ้นมา

                 อรอุมาแทบสำลักข้าวมองเพื่อนตาโต ทำไมเธอคิดไม่ได้นะ เรื่องง่ายแค่นี้เอง

                 โหย ทิพเพื่อนรัก ฉลาดที่สุดเลย

                 ทิพยายักไหล่แบบชิวๆ สงสัยอรอุมาคงทำข่าวยากๆ มาเยอะ พอเจอเรื่องง่ายก็เลยลืมวิธีง่ายๆ ไปเสียแล้ว ในขณะที่ปราบดาอยากจับเพื่อนเขย่าโทษฐานไปแนะนำแบบนั้นได้ยังไง ถ้าอรอุมาตกหลุมเสน่ห์ของผู้ชายที่มีคู่ควงไม่ซ้ำหน้าล่ะ เขาจะทำอย่างไร ช่างไม่รู้ใจเพื่อนเลยยัยทิพ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×