ตอนที่ 45 : *Flip Love*: Chapter 40 ซ่อมแซมหัวใจ (100%)
Chapter 40 : ซ่อมแซมหัวใจ
รถยนต์คันหรูที่จอดที่อยู่ที่คอนโดมาหลายวัน ตอนนี้กำลังเคลื่อนเข้าสู่ด้านในของรั้วบ้านตระกูลเชว ร่างสูงหมุนกุญแจดับเครื่องยนต์ลง แล้วถอนหายใจออกมาอีกครั้ง เมื่อคิดถึงสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจทำ แต่เมื่อคิดถึงคนที่เขารักสุดหัวใจ ก็ทำให้มือหนาขยับผ้าพันคอที่คออีกครั้ง หันมาคว้าหนังสือเล่มใหญ่ที่วางอยู่บนเบาะด้านข้างแล้วก้าวเท้าเข้าด้านในตัวบ้านทันที
“ซีวอน เป็นไงบ้างลูก แม่ติดต่อไม่ได้เลย”
ทันทีที่เท้าหนาเหยียบเข้าด้านในบ้าน เสียงร้อนรนของผู้เป็นมารดาก็ดังขึ้น พร้อมกับเจ้าตัวที่ก้าวเร็วๆออกมาจากด้านในของบ้าน เด็กในบ้านคงไปแจ้งให้รู้ตั้งแต่ตอนที่เห็นรถเขาแล้วล่ะท่าทาง
“ขอโทษครับ...ผมไม่เป็นไร” ซีวอนเอ่ยขอโทษแม่เบาๆพร้อมกับก้มลงกอดมารดาให้หายคิดถึงและให้คลายกังวล
“ไม่เป็นไร แต่ทำไมสภาพเป็นแบบนี้ล่ะ หนวดยาว หน้าโทรม เหมือนคนไม่ได้นอน ปิดเทอมแล้วอยู่แต่บนคอนโดรึไง มีอะไรกันแน่หึ บอกแม่ซิซีวอน...” ปลายนิ้วนิ่มของผู้เป็นแม่วางที่แก้มกร้านอย่างห่วงใยพลางถาม
“.....ผม...ฮยอกแจรู้แล้วครับ...เรื่องหนังสือเล่มนี้...” เสียงทุ้มที่ดูแหบแห้งของลูกชายทำให้ซูรีชะงักไป เธอไม่เอ่ยสิ่งใดตอบ แต่พยักหน้ารับพร้อมกับมองนัยน์ตาที่เศร้าโศกนั้นด้วยสายตาเข้าใจ
“...เขาเขียนโน้ตไว้...แต่ผมตื่นมาเห็น...แล้วเขาก็ไปจากผม...” ซีวอนเล่าด้วยความทรมานใจเมื่อนึกถึงช่วงเวลานั้นอีกครั้ง ภาพในคืนที่แสงจันทร์สว่างยังคงติดอยู่ทุกความรู้สึก
“ลูกเลยไม่ได้อธิบายกับฮยอกแจสินะ...” ซีวอนพยักหน้ารับดวงตาคมที่เจือความอ่อนเพลียก้มลงมองมือของมารดาที่อยู่กับมือตนเองแล้วเอ่ยบอกเสียงเบา
“ครับ...แม่...ผมจะไปหาฮยอกแจ...ผมทนอยู่แบบนี้ไม่ได้แล้ว...เขาบอกผมว่าจะกลับมาตอนเปิดเทอม...แต่นี่แค่สัปดาห์เดียวผมก็เหมือน....กำลังจะตาย...”
เสียงของร่างสูงตรงหน้าที่เคยดูแข็งแรงตอนนี้กลับดูอ่อนแอที่สื่อออกมาผ่านน้ำเสียงที่ฟังแล้วราวกับจะขาดใจ...
ซูรีกอดลูกชายแล้วลูบแผ่นหลังกว้างนั้นอย่างปลอบโยน
“จ้ะ...ลูกต้องหาเจอแน่นอน...โทรหาแม่ด้วยนะ แม่เป็นห่วง......”
“...ครับ...แน่นอนครับ...” ซีวอนเอ่ยรับคำและกอดมารดาให้แน่นขึ้น
“แม่จะรอเจอฮยอกแจนะ หาฮยอกแจเจอแล้ว อย่าลืมพามาหาแม่ล่ะ...”
“...แต่ตอนนี้ผมคงต้องเคลียร์เรื่องมิรินก่อน...อยากให้เรื่องนี้มันสิ้นสุดก่อนที่จะไปตามหาฮยอกแจ...”
ซีวอนคิดแล้วว่า ถ้าเขายังไม่จัดการเรื่องนี้ให้สิ้นสุดลง เขาก็จะไม่ไปหาตามฮยอกแจเพราะถ้าตามไปแต่ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง...แบบนี้ฮยอกแจคงผิดหวังในตัวเขามากขึ้นอีกแน่นอน
“....ไปเถอะจ้ะ...คุยกันดีๆนะ...โน่นแหนะ นั่งอยู่ที่ห้องริมสวนน่ะ...”
ซีวอนพยักหน้ารับด้วยสีหน้าเหนื่อยๆ ชเวซูรีก็เอ่ยบอกต่อว่า
“ซีวอนแก้ไขที่ต้นเหตุแล้วก็อย่าลืมแก้ไขที่หัวใจด้วย...”
รอยยิ้มของลูกชายที่ได้กำลังใจจากแม่ ก็เป็นดั่งกำลังใจให้ผู้เป็นแม่ไม่ต่างกัน
ร่างสูงเดินตรงไปยังห้องนั่งเล่นริมสวนเพื่อไปหาหญิงสาวคนที่ต้องการหนังสือในมือเล่มนี้จนไม่สนใจกฏเกณฑ์ใดๆ และเป็นเขาเองด้วยที่ทำให้เรื่องเลวร้ายนี้มันเกิดขึ้น....
มือหนาถือหนังสือที่เขาไม่แม้แต่คิดจะเปิดดู ก้าวตรงไปยังหญิงสาวคนที่มียศเป็นเหมือนญาติกัน
ชเวมิรินนั่งอยู่หน้าโน๊ตบุ้คเครื่องเล็กที่หน้าจอโชว์เป็นโปรแกรมแชทออนไลน์ผ่านเว็บที่คนทั่วไปนิยมใช้กัน สีหน้ามีความสุขอมยิ้มหวานพลางกดปลายนิ้วลงบนแป้นตัวอักษรลงไปตอบโต้กับอีกฝ่าย ที่รูปประจำโพรไฟล์แสดงเป็นหนุ่มหล่อหน้าใสยิ้มให้กล้อง ส่งข้อความเป็นคำหวานมาให้หญิงสาวได้ส่งตอบสลับกันไป
“มิริน....” เสียงทุ้มของซีวอนเอ่ยเรียกนิ่งๆ อย่างไม่ยินดียินร้าย ต่ก็พอทำให้หญิงสาวละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์มาหาได้ไม่ยาก
“ซีวอน!” พลันสายตาเห็นชายหนุ่มร่างสูงไม่เป็นอย่างปกติเป็น กลับมีหนวดเครารุงรัง หมดราศีคุณชาย แต่งตัวธรรมดากับผ้าพันคอที่ดูไม่เตะตาผืนนั้น ทำให้คิ้วเรียวขมวดมุ่น ตามด้วยเสียงแหลมที่ซัดคำถามเป็นชุด
“หายไปไหนมา! มิรินโทรไปก็ไม่รับ! แล้วทำไมสภาพเป็นแบบนี้ล่ะ! โทรมแบบนี้แล้วมิรินจะให้พาไปข้างนอกได้ยังไง! ไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่เลยนะ!”
“.....”
ซีวอนมองหญิงสาวนิ่ง เขาไม่รู้ตัวเลยว่า เขาทำให้เด็กผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นแบบนี้.... เป็นเพราะเขาเองที่ดูแล ตามใจ และทำทุกอย่างให้จนหญิงสาวไม่เหลือจิตใจที่คิดคำนึงถึงคนอื่นเลย
ใบหน้าคมยังคงมีสีหน้านิ่งเฉยจนร่างเพรียวที่ตวัดเสียงสูงใส่เริ่มไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าปกติรึเปล่า
“นะนี่...ทำไมไม่พูดอะไรล่ะ” เสียงแหลมสูงถามสั่นๆด้วยใบหน้าที่ยังแสงความไม่พอใจ
เสียงถอนหายใจดังขึ้นเบาๆยามที่มือหนาพลิกของในมือขึ้นมาวางบนโต๊ะไม้ด้านข้าง หนังสือเล่มสีเขียวเข้มขอบทองที่ทำให้มิรินเห็นแล้วต้องเบิกตากว้าง นัยน์ตาเป็นประกายความพึงพอใจ และรอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นประดับบนใบหน้าทันที
“นี่....ซีวอนได้จากฮยอกแจแล้วเหรอ ว้าววววว” เสียงของหญิงสาวดังขึ้นไม่ขาดสายบ่งบอกความยินดีที่เกิดขึ้น ใบหน้าหวานยิ้มกว้างช่างตรงข้ามกับร่างสูงที่วางหนังสือลงไปแบบที่ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ
มันนิ่งมาก...จนเหมือนน้ำตาจากนัยน์คมคู่นั้นกำลังไหลอยู่ภายใน...
ภาพนี้งั้นเหรอ...ที่ต้องแลกกับความเจ็บปวดของฮยอกแจ...
ตอนที่เขาคิดและเริ่มต้นเรื่องเลวร้ายเรื่องนี้ เขาคิดถึงเพียงแค่หญิงสาวคนนี้คนเดียว อยากให้มีรอยยิ้ม มีความสุข ดีใจเหมือนภาพที่เขากำลังมองอยู่ตอนนี้...เขาควรจะมีความสุข...
...แต่ทำไมมันช่างเจ็บ...เจ็บได้ขนาดนี้...
“ซีวอน ซีวอนเอามาได้ไงน่ะ ฮยอกแจไม่หวงแล้วหรอ.!!...ซะซีวอน....”
ร้องไห้!
น้ำเสียงที่ยังลดความตื่นเต้นลงเอ่ยถามได้ไม่ทันจบ เมื่อหญิงสาวหันหน้ามาหาร่างสูงที่ยืนเยื้องอยู่ด้านหลังก็พบกับใบหน้าคมที่ดูโทรมตอนนี้มีเพียงน้ำตาเท่านั้นที่บ่งบอกความรู้สึกในใจ
“ผมทำให้มิรินตามที่ต้องการแล้ว...ต่อจากนี้...ผมขอมีชีวิตของผมเอง...อย่างที่ผมต้องการ...ผมอยากจะดูแลคนที่ผมรัก...”
“ผมอยากให้เขารู้ว่าเขาสำคัญที่สุดสำหรับผม...ขอโทษด้วยที่รักษาสัญญาไม่ได้...”
“ดะเดี๋ยวซิ!!!ทำไมซีวอนทำแบบนี้ล่ะ!!! อยู่ดีๆมาบอกแบบนี้ได้ไง แล้วต่อไปมิรินจะทำยังไงห้ะ!”
หญิงสาวหงุดหงิดกระฟึดกระฟัดไม่หยุด เท้าเล็กยกกระแทกพื้นระบายอารมณ์ด้วยความไม่พอใจและไม่เข้าใจ หรือเพราะว่าไม่ใส่ใจจะมองเห็นความรู้สึกของคนอื่นก็ไม่รู้ได้
หญิงสาวที่เห็นร่างสูงเดินออกไปจากห้องอย่างไม่สนใจเสียงเรียกของตนก็หันกลับไปคว้าเอาสิ่งที่เธอปราถนามานาน หนังสือในตำนาน... ปลายนิ้วเรียวประดับเล็บสีสดค่อยๆเปิดหนังสือทีละหน้า แต่ทว่า...
ไม่ว่าจะเปิดไปกี่หน้า กี่หน้าเธอก็ไม่เห็นจะมีตัวอักษรใดๆปรากฏให้เห็น ไม่มีแม้แต่รูปหรือรอยขีดอะไรซักอย่าง ยิ่งเปิดเธอก็ยิ่งหงุดหงิดไม่พอใจ เธอเปิดข้ามหน้าหนังสือไปมา ยกขึ้นสะบัด เขย่า พลิกหน้าหลังดู...แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้แต่น้อย
“อะไร...นี่มันอะไรกัน!!!...ฮยอกแจจอมหลอกลวง!!! นี่มันไม่ใช่ของจริงแน่นอน!!! ”
มือเรียวกำจนสั่นด้วยความโมโห ดวงตาประดับอายไลน์เนอร์มองไปยังหนังสือเล่มสีเขียวนั้นด้วยความไม่พอใจ และสุดท้ายก็ทนไม่ไหว ส่งเสียงแหลมร้องกรี้ดปัดหนังสือเล่มสำคัญของมหาวิทยาลัยกระเด็นลงพื้นอย่างไร้ค่า เดินลงส้นแรงๆออกไปจากห้อง เพื่อตามหาร่างสูงคนเดิมหมายจะโวยวายแต่ก็ไร้วี่แวว
“ซีอวนไปไหน!!!” หญิงสาวกระแทกเสียงใส่แม่บ้านรุ่นป้าที่ยืนอยู่ไม่ไกล จนเธอสะดุ้ง จนล่ะล่ำล่ะลักตอบ
“คะคุณซีวอนขับรถออกไปแล้วค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น มือเรียวหยิบโทรศัพท์มาต่อสายหาญาติสนิทคนนี้ทันที...แต่ก็ไม่ต่างจากหลายวันที่ผ่านมา...ไร้สัญญาณตอบรับ มิรินยิ่งโมโหกรีดร้องออกมาอย่างดังและเดินกระแทกเท้ากลับไปยังที่เดิม...
ชเวซูรีที่มองอยู่ตลอดตั้งแต่ลูกชายเธอเข้าไปคุย เธอทำได้แค่ถอนหายใจและคิดว่า คงไม่มีใครทำให้มิรินเปลี่ยนได้นอกจากเธอต้องเจอเหตุการณ์สอนใจด้วยตัวเธอเองแล้วล่ะนะ...มิริน
_.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._.Flip Love._.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._
“แกไม่ต้องมองฉันแบบนั้นเลยนะเว้ย โน้น เมียแกโน้นโทรหาที่รักของฉันเอง”
ในเวลานี้ที่หนุ่มเจ้าของแก้มซาลาเปากำลังยืนโวยวายอย่างไม่เต็มเสียงกับลูกชายเจ้าของร้านเบเกอรี่ที่ยืนมองนิ่งๆด้วย แต่ก็พอดูไอความไม่พอใจที่แผ่ออกมาได้
ก็จะพอใจล่ะ เรียวอุคเล่นมาหาถึงร้าน แถมยังได้ยินเสียงคุยกันอีกว่าจะไปนอนค้างด้วยกัน มีเรื่องนั้นเรื่องนี้อยากจะเม้าท์ให้มันกันทั้งคืนเลย...แล้วใครจะยอมล่ะ...
“แต่เรียวอุคเป็นคนเสนอเรื่องนอนค้างที่บ้านด้วยกัน...”
“ง่า....” เยซองยืนทำหน้าเบ้ด้วยความที่ไม่รู้ว่าเขาควรจะทำอะไรดี ระหว่างเข้าไปโวยวายกับว่าที่เมีย(?) หรือจะไปพูดโน้มน้าวกับซองมินดี จนได้แต่คอยให้สองสาวเขาคุยกันให้พอใจก่อนแล้วค่อยดูท่าทีอีกครั้ง
ส่วนทางเพื่อนสนิทสองคนที่ เพิ่งจะเปิดเทอมไปเกินสัปดาห์มาเพียงวันเดียวก็กำลังพ่น(?)เรื่องราวทั้งหลายที่วินาทีนี้คิดอะไรได้ก็เล่าออกมาให้เพื่อนฟังกันเต็มที่ นี่คงจะเป็นเรื่องปกติแต่ว่าจะเข้าใจได้ถ้าหากว่า สองคนนี้ไม่ได้โทรหากันแทบทุกวันอยู่แล้ว...
ก็...เจอหน้ากันแล้วค่อยเมาท์ มันส์~~กว่าเย้อะนี่เน้าะ
“คิดถึงฮยอกจังเลยอ่ะ ไม่รู้กินอะไรลงรึเปล่า ตัวผอมอยู่แล้ว ยิ่งตัวเล็กลงไปอีกแน่เลย” เรียวอุคนั่งจิ้มหลอดลงในแก้วน้ำผลไม้ปั่นไปมาพลางเอ่ยด้วยสีหน้าที่หม่นลง
“ฉันไม่เข้าใจเลย...อึก...ว่าทำไมเศร้าแล้วต้องกินอะไรไม่ลงด้วยอ่ะ...มันก็น่าจะปวดท้องอยู่ดีนะ”
เสียงกลืนก้อนขนมปังลงขอดังขัดจังหวะการพูดของกระต่ายตัวอวบที่ในมือถือเมเดอลินไซส์พิเศษเอาไว้ (แต่ก็แหว่งไปเกือบครึ่งอันแล้ว) ด้วยฝีมือของ พาทิซิเย่คิบอมที่ไม่รู้อารมณ์ดีมากจากไหน เดินออกมานำเสนอ ขนมที่ทำออกมาน่ารักอย่างกับอาหารในงานแต่งซะขนาดนั้น
“ตอนเศร้าๆมันไม่อยากกินหรอกน่า...แต่ว่านี่...ซองมินว่าซีวอนจะเป็นยังไงบ้างอ่ะ...คยูเล่าให้ฟังแบบนั้น...เป็นงั้นจริงๆรึเปล่าอ่ะ...”
“งือ...คยูบอกไม่ละเอียดแต่คยูไม่เคยโกหกฉันเลยนะ” ริมฝีปากสีชมพูที่เปื้อนขนมที่มุมปากยกยื่นยามนึกถึงคำตอบค่อยๆเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเมื่อนึกถึงชายคนรักที่ไม่เคยโกหกแม้ซักเรื่องเดียว
“งั้นแสดงว่ามีความเป็นไปได้อยู่สองอย่าง...คือซีวอนรู้สึกผิดมากๆแค่นั้น...กับซีวอนรักฮยอกมากๆ....แค่นั้น......”
“...ขอให้เป็นอย่างหลังจริงๆละกัน...”
และในระหว่างที่ทั้งสองค่อยๆเอ่ยเรื่องราวที่กังวลออกมา ทั้งเรื่องที่ติดต่อฮยอกแจไม่ได้ เรื่องที่ฮยอกแจจะกลับมาตอนเปิดเทอม เรื่องที่กังวลความรู้สึกของเพื่อนตัวขาวไปเรื่อยๆ เสียงกระดิ่งหน้าร้าน Vanilla’s story ก็ดังขึ้น
กรุ๊งกริ๊งๆ
ประตูกระจกที่ถูกผลักเข้ามาปรากฏร่างของชายหนุ่มที่อยู่ในบทสนทนาของสองสาวเมื่อสักครู่นี้ ในสภาพที่ไม่ต่างจากคยูฮยอนบอกซักเท่าไหร่
“เห้ยไอ้วอน...แกเป็นหนักจริงด้วยว่ะ” เสียงของเยซองโวยวายขึ้น พลางเดินเข้าไปหาเพื่อนตนเอง เช่นเดียวกับคนอื่นที่เหลือ กรูกันเข้าไปหาชายหนุ่มที่มีหนวดเคราขึ้นรุงรัง จนลูกค้าในร้านเริ่มมองสงสัย ทำให้ลูกชายเจ้าของร้านต้องพากันเข้าไปในส่วนภายในที่เป็นห้องทำงาน
“กินน้ำก่อนนะ ขนมด้วย” เสียงหวานของสะใภ้ร้านเบเกอรี่เอ่ยขึ้นพร้อมกับวางจานขนมและแก้วน้ำเย็นให้ เพราะว่าซองมินเห็นก็รู้เลยว่า ซีวอนซูบลงไปมาก เพื่อนร่างสูงยิ้มเหนื่อยๆตอบไปให้ และเริ่มถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“ซองมิน...เรียวอุค...ผมจะหาฮยอกแจได้ที่ไหน”
“.....”
คำถามที่ตรง ชัดเจน ไม่มีอ้อมค้อมไปเรื่องอื่นทำให้คนทั้งหมดในห้องเงียบไป ซองมินกับเรียวอุคหันมาสบตากับอย่างไม่ได้นัดด้วยสีหน้ากังวล และก็เป็นซองมินที่เอ่ยขึ้นก่อน
“ซีวอน...ขอโทษนะแต่ฉันก็ไม่เคยไปไร่ของคุณตาฮยอกเหมือนกัน...รู้แค่ว่าอยู่ชางวอนน่ะ”
เสียงกระต่ายตัวอวบบอกออกมาอย่างรู้สึกผิด ทำปากยื่นอย่างเสียใจไม่น้อย
เรียวอุคที่เห็นแบบนั้นก็เอ่ยสมทบกับเพื่อน
“อย่างน้อยเราก็รู้นะว่าอยู่ชางวอนนะ...ไม่ใช่ว่าไม่มีความหวังซักหน่อย” ซองมินพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยกับคำพูดของเพื่อนที่เหมือนจะพอเรียกความมั่นใจให้ร่างสูงได้นิดหน่อย
“อืม...อย่างน้อย...”
เยซองทนไม่ไหวเท่าไหร่กับท่าทางไม่มีแรง กำลังฮึดของคนปวดใจ มือหนาที่นิ้วสั้น(?)ตบป้าปเข้าที่ไหล่เพื่อน
“ใช่...อย่างน้อยแกก็มีแม่เยจินอยู่นะเว้ย...คิดจะตามหาลูกทำไมไม่เข้าหาแม่ก่อนล่ะ” สำนวนคำคมแปลกๆจากเพื่อนฟังเป็นความคิดที่ไม่แย่เท่าไหร่
ซีวอนรู้ว่าแม่เยจินคงไม่บอกเขาง่ายๆ หรืออาจจะไม่บอกเลยแต่ว่าต่อให้เขาต้องคุกเข่าลงขอร้องนานเป็นชั่วโมงเพื่อให้แม่เยจินบอก เขาก็จะทำ
ไม่ว่ายังไง...เขาก็จะหาหัวใจของเขา...และรักษาหัวใจของเราสองคนที่มีแต่ความรักซะที...
_.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._.Flip Love._.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._
45%
รถยนต์คันหรูดับเครื่องที่หน้าบ้านหลังเล็กที่เขาคุ้นเคยมาหลายเดือนนี้ ซีวอนเอนศีรษะพยายามมองลอดเข้าไปด้านในตัวบ้านเพื่อหาคนๆเดียวตอนนี้ที่จะช่วยเขาได้
เท้าหนาก้าวมาหยุดนิ่งที่หน้าประตูรั้ว ซีวอนลังเลที่จะกดกริ่งตัวเล็กนั้นเพราะความรู้สึกผิดเข้าโจมตีเขาอีกครั้ง...
แกร๊ก
ไม่ทันที่ปลายนิ้วหนาจะกดน้ำหนักลงบนปุ่มนั้น เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น พร้อมกับร่างเล็กของหญิงวัยกลางคน
“ความกล้าหาญมันหายไปแล้วรึไง”
“......”
ลีเยจินที่ได้ยินเสียงจอดรถที่หน้าบ้านตนเอง ชะเง้อดูเพียงนิดก็เห็นรถคันที่เธอจำได้ดี เธอรอดูปฏิกริยาของชายหนุ่มคนที่มอบสายตาแห่งความรักให้กับลูกชายของเธอว่าจะทำอย่างไร... แต่ยืนรอเฉยๆแล้วก็เหมือนจะไม่ทันใจ...
“ว่าไงล่ะ...”
“....ผม...”
“เธอไม่มีความกล้าพอที่จะบอกฉันเหรอ....ว่ามาที่นี่เพราะอะไร...”
ลีเยจินขยับแว่นแก้วใสที่ใส่ตั้งแต่ตอนเริ่มพิมงานไว้ให้เข้าตำแหน่งบนใบหน้า แล้วถามด้วยเสียงนิ่งๆ ไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆ
ไม่รอให้เยจินเอ่ยต่อ ร่างสูงของซีวอนก็ก้มลงโค้งคำนับให้กับมารดาของคนรัก
“ผมทำผิดกับฮยอกแจ...ทำผิดกับคุณแม่...ทำผิดกับทุกคนที่รักฮยอกแจ...เกินกว่าจะให้อภัย...แต่ผม....”
“.....”
“....ผมอาจจะเป็นคนเห็นแก่ตัว...แต่ผมก็อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีฮยอกแจ...หัวใจของผม...มันมีแต่ฮยอกแจเท่านั้นครับ...”
“.....”
เยจินมองผู้ชายที่ทำให้ลูกของเธอต้องเสียน้ำตาด้วยสีหน้านิ่งเฉย ซีวอนที่ยังคงก้มหน้าโค้งให้กับมารดาคนรักไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นจนกว่าจะได้ยินคำใดจากอีกฝ่าย
“ถ้าเป็นเรา...เราคิดว่าแม่ควรจะทำยังไง”
คนแทนตัวที่เปลี่ยนไปทำให้ร่างสูงเงยหน้าขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่มีความหวัง
“ผม...ถ้าเป็นผมก็คงไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายคนที่เรารักอีกซ้ำสอง...”
“....”
“...แต่ว่าถ้าหากคนๆนั้นรักคนที่เรารักจริงๆ...ผมก็คงให้โอกาสเขา...”
นัยน์ตาคมแสดงความจริงใจออกมาอย่างเต็มที่ เขารู้ว่าอาจจะฟังดูเข้าข้างตัวเอง...แต่เขาไม่ยอมอีกแล้ว...เขาจะทำตามใจต้องการบ้าง ต่อให้ใครจะคิดว่าเขาเป็นคนเห็นแก่ตัวยังไง เขาไม่สน ถ้ามันจะทำให้เขาได้ฮยอกแจกลับคืนมา
“.....”
ฟึ่บ
“ได้โปรดเถอะครับ...”
เมื่อเห็นว่าเยจินยังคงนิ่ง ไม่ตอบอะไร ซีวอนก็โค้งลงต่ำกล่าวคำขอร้องซ้ำ ผู้เป็นมารดาที่เห็นภาพลูกตนเองร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดยามเล่าเรื่องราว ถอนหายใจอย่างคิดไม่ตก เขาควรจะสั่งสอนผู้ชายคนนี้ยังไงให้สมกับน้ำตาของลูกเธอดี...
“....ขอโทษด้วยนะ...แต่แม่ขออยู่ข้างลูกตัวเอง...ฮยอกแจเขากำลังรักษาแผลที่เราเป็นคนทำไว้...ถ้าแม่บอกให้เราตามไปง่ายๆมันก็จะดูเหมือนว่าหัวใจของฮยอกแจไม่มีค่าอะไรเลย...”
ลีเยจินกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงใจ ไม่ได้แฝงน้ำสียงเสียดสี นัยน์ตาคมมองและรู้สึกได้ว่าเธอคิดเช่นนั้นจริงๆ ริมฝีปากเม้มแน่นเมื่อรู้แล้วเขาคงจะไม่ได้เจอฮยอกแจวันนี้พรุ่งนี้แน่นอน
“ผมทราบว่านี่คือสิ่งที่ผมต้องฝ่าฟัน...คุณแม่ทำถูกต้องแล้วล่ะครับ...ความจริงถ้าเป็นผม ผมก็คงไม่บอก...”
ซีวอนยกยิ้มเยาะตัวเองอย่างยอมรับความจริงที่รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นตัวเองก็คงเล่นงานคนที่ทำให้คนรักเสียใจหนักกว่านี้แน่นอน
“ขอบคุณคุณแม่มากนะครับ...ผมจะไปตามหาฮยอกแจที่ชางวอนด้วยตัวเอง...และผมจะทำให้ฮยอกแจกลับมาด้วยรอยยิ้มแน่นอนครับ”
ร่างสูงกล่าวด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น ซีวอนโค้งเคารพมารดาคนรักอีกครั้งและกำลังจะกมุนตัวกลับไปที่รถ ลีเยจินก็เอ่ยขึ้นมา
“...ถ้าเราลองนึกดู...เราอาจจะนึกออกว่าที่นั่นเป็นยังไง...ถ้าเราใส่ใจและจดจำคำพูดของลูกชายแม่บ้างนะ...”
เหมือนกับมีแสงสว่างส่องลอดกลุ่มก้อนเมฆสีเทามายังบนพื้นมืดของเขาอีกครั้ง...ทำไมเขาถึงนึกไม่ออกนะ...
โง่จริงๆ แกมันโง่จริงๆ!!!
....ทุ่งสีเหลืองอร่ามยาวสุดสายตา
....ด้านข้างเป็นไร่องุ่นของพี่ซึงโฮ
เสียงใสที่เล่าเขาฟังในวันนั้นดังก่องขึ้นมาในหัวใจของเขา ในสมองเกิดภาพที่จินตนาการขึ้น ไม่ต้องรออะไรอีกต่อไปแล้ว เขาต้องตามหาฮยอกแจเจอแน่นอน !
_.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._.Flip Love._.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._
“ว้ากกกกกก”
เสียงเล็กร้องโหวกเหวกดังมาจากทางเถาองุ่นที่ห่างออกไปสองแถว แต่ทำให้หลายคนที่ได้ยินพากันยกยิ้มกันได้ทั้งนั้น
“งื้อๆๆๆ ฮยองงงงง หนอนอ่าาาา หนอนนนน” เฮนรี่ในชุดเอี้ยมขาเท่าเข่ากับเสื้อลายสก๊อตสไตล์เดิมวิ่งหน้าตาบูดบึ้งมาหาร่างสูงที่ยืนยิ้มอยู่อย่างรู้ดี ฮยอกแจที่ยืนอยู่ใกล้ๆทำหน้าตาตื่นตอนแรกที่ได้ยินเสียงของน้องชายหมาดๆก็หลุดหัวเราออกมาเมื่อรู้เหตุผล
“หึ ตัวเล็กนิดเดียว กลัวอะไรหืมเรา” ซึงโฮไม่ได้สนใจคนที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่เลย กลับยังคงตั้งหน้าตั้งตาใช้กรรไกรตัดช่อองุ่นสีม่วงพลางแต่งใบไปด้วย
“งือ ก็มันจะมากระดึ้บๆบนแขนผมนี่นา” เฮนรี่ยื่นปากแหลมอย่างงอนๆ ที่ไม่รู้ว่างอนคุณหนอนหรืองอนลูกชายเจ้าของไร่กันแน่
“มันก็ต้องมีอยู่สิ ไร่เราไม่ได้ฉีดยาอะไรหนอนมันก็มาอยู่ได้”
“งือ พี่ฮยอก...พี่ฮยอกไปช่วยผมทางนู้นหน่อยจิ ไปเอาคุณหนอนออกให้หน่อยน้า~ผมไม่กล้าทำต่อเลยน้าาา~น้าาาา~” ใบหน้าน่ารักที่งอนๆอยู่หันมาหาเป้าหมายใหม่หรือก็คือฮยอกแจ แล้วเริ่มปฏิบัติการอ้อนแบบที่ตัวเองถนัด
“หึหึ” ฮยอกแจอมยิ้มและหลุดหัวเราะออกมาอย่างอดเอ็นดูไม่ได้ มือเล็กถอดถุงมือทำสวนออกแล้วลูบผมน้องชายเบาๆ
“อืมๆ พี่ไปช่วยก็ได้ ผมไปช่วยเฮนรี่นะฮะพี่ซึงโฮ” เสียงหวานหันไปบอกเจ้าของไร่ที่กำลังทำหน้าอึ้งอยู่
“อ้าว อะไรกัน มาแย่งฮยอกแจไปเฉยเลย เราไปทำต่อคนเดียวเลย พี่ฮยอกแจของเราสูงพอดีเก็บพวงองุ่นอย่างนี้เหมาะจะช่วยพี่เก็บตรงนี้ดีแล้ว”
“อ่า...พี่ฮยอกแจฮะ ฮยองบอกว่า พี่ฮยอกแจเตี้ยอ่ะ อย่าอยู่กับคนใจร้ายกล้าว่าพี่ฮยอกแจเลยเน้าะ ไปช่วยผมตรงนู้นนนน ดีกว่านะฮะ”
ใส่สีตีไข่เพิ่มลงไปในประโยคจาดพี่ชายเล็กน้อยแล้วก็ดึงฮยอกแจให้ไปทางที่ตัวเองทำงานข้างไว้ทันที ปล่อยให้ลูกชายเจ้าของไร่ ยืนอ้าปากอึ้งในความซุกซนของเจ้าตัวแสบ
..
..
“ดีจังที่โรงเรียนผมปิดเทอมพร้อมกับของพี่ฮยอกแจพอดี ถ้าสอบช้ากว่านี้คงได้อยู่ด้วยกันน้อยลงอีก”
เฮนรี่ที่สบายใจขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเมื่อฮยอกแจจัดการเจ้าสัตว์ที่เขาเกลียดกลัวไปแล้วให้ เสียงหวานก็เจื้อยแจ้วไม่หยุด
“พี่อยู่จนวันลงทะเบียนเรียนโน่นเลยล่ะ หรือไม่ก็วันเปิดเรียนเลย....”
....วันเปิดเทอม คำนี้คิดถึง คำนี้ทีไร หัวใจกย็ยังคงเจ็บแปล็บๆในใจอยู่ตลอดแต่ก็พยายามจะไม่คิดให้มันเศร้าเขาเลือกที่จะปัดมันไปแล้วหันไปหาน้องชายที่สร้างรอยยิ้มให้อยู่เสมอแทน
“ว่าแต่ นี่เฮนรี่จะเข้ามหาวิทยาลัยแล้วใช่มั้ย”
“ใช่ฮะๆ ตื่นเต้นมากเลย เทอมแรกเองแต่เพื่อนๆในห้องนี่อ่านหนังสือยังกับจะสอบพรุ่งนี้ตลอดเวลาเลย” เฮนรี่พูดไปก็ทำหน้าเหมือนงอนเพื่อนในห้องทั้งหมดเลย อย่าทำให้เขาเครียดได้มั้ยเนี่ย -3-
“เพื่อนเราคงกังวลกัน แล้วเราไม่กังวลเหรอ?”
“ไม่ฮะ ผมเชื่อว่าผมตั้งใจแล้วผมก็ต้องทำได้...แต่ที่ไม่อ่านหนังสือตอนนี้เพราะ อ่านตอนนี้เดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็ลืมแระ...ดีไม่ดีพรุ่งนี้ก็ลืม อ่านก่อนสอบซักสามวันคงทันน่ะฮะ คิคิ”
ฮยอกแจยิ้มกว้างให้กับเฮนรี่บอกอย่างร่าเริงไม่มีแววความเครียด ก็ใครจะไปรู้ตัวเองดีไปกว่าตัวเองแหละนะ
..
..
หลังจากที่เลิกงานในไร่ ฮยอกแจก็กลับมาที่บ้าน วันนี้พ่อแทซอกก็โชว์ฝีมือเองเหมือนเดิม เพราะงานในไร่ยังไม่เยอะก็เลยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เฮนรี่ที่ลากซึงโฮมากินข้าวเย็นด้วยทักทายแทซอกเสียงสดใสเป็นค่าอาหารเย็น ซึงโฮดูเกรงใจเล็กน้อยเพราะวันนี้ขโมยฮยอกแจไปที่ไร่ทั้งวันแล้วยังมากินข้าวบ้านเขาอีก เขกหัวเฮนรี่ไปหนึ่งครั้งด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ฮร้า~~ อิ่มจังเลยฮะ” มือเล็กขาวลูบท้องกลมบ่งบอกอาการหลังมื้ออาหาร พลางเดินออกมาที่หน้าระเบียงบ้าน ซึงโฮหันมามองแล้วก็หัวเราะมุมปากแล้วเอ่ยขึ้น
“เติมข้าวสองครั้ง จะไม่อิ่มได้ไงล่ะ”
“ไม่ว่าทำอะไรเราก็ทุ่มเททำให้เต็มที่ซิฮะ”
“( - - ) อย่าเอาคำคมมาใช้กับเรื่องแบบนี้ได้มั้ยเนี่ย ไปกลับบ้านกัน ดึกแล้ว” ซึงโฮคว้าหัวเล็กๆมาขยี้ผมไปมาแล้วลากไปพลางเดินไปพลางหันมาบอกฮยอกแจ โดยมีเสียงโวยวายของเฮนรี่เป็นซาว์นแทรกประกอบ
“ไปก่อนนะฮยอกแจ พรุ่งนี้เจอกันนะ”
“อ้ากกก ฮยองอ่าาา พี่ฮยอกกกกกก”
“ขอบคุณคุณลุงแทซอกด้วยอาหารอร่อยมากเลย”
“ปล่อยน้าาาา พี่ฮยอกแจช่วยด้วยยยย”
“ราตรีสวัสดิ์” ซึงโฮยกมือข้างที่ไม่ได้กอดหัวเฮนรี่ไว้ยกมาบ้ายบายฮยอกแจที่ยืนขำกับเหตุการณ์น่ารักๆ
“คิคิคิ”
มือบางที่ยกขึ้นโบกมือให้ซึงโฮที่หายไปทางไร่แล้ว ลดลงมาล้วงลงในกระเป๋ากางเกงคว้าโทรศัพท์ออกมากดโทรหาคนที่เขาควรต้องคุยด้วยนานแล้ว
“พี่ฮีชอลฮะ”
รอสัญญาณเพียงไม่นาน ปลายสายกับรับด้วยเสียงหวาน
“ฮยอกแจ เป็นยังไงบ้าง?” ฮีชอลเอ่ยทักทายรุ่นน้องนัยน์ตาเศร้า
“พี่ฮะ...ผมมีเรื่องจะขอโทษ...”
“หืม?...ขอโทษพี่งั้นเหรอ...เรื่องอะไรน่ะ” เสียงหวานจากปลายสายดูประหลาดใจไม่น้อย แต่ก็เงียบฟังปล่อยให้รุ่นน้องเอ่ยเล่า
“ผม...ผมขอโทษฮะ ผมทำผิดกฎ...หนังสือในตำนาน...” น้ำตาที่ห่างหายไปหลายวันกลับมาไหลอีกครั้ง เมื่อความรู้สึกผิดที่อีกฝ่ายไว้ใจ แต่เขากลับทำไม่ได้ตามที่หวัง...
เสียงเล่าเรื่องเจือเสียงเศร้าที่ไม่ได้สะอื้น แต่ฮีชอลฟังออกว่ารุ่นน้องร่างเล็กกำลังมีน้ำตาไหลอาบหน้า เขาจึงทำเพียงแค่ฟังเงียบๆจนปลายสายเล่าจบ
“และตอนนี้...หนังสือในตำนาน...อยู่ที่เธอคนนั้นฮะ...”
ฮยอกแจไม่เอ่ยชื่อหญิงสาวต้นเรื่องแม้แต่ครั้งเดียว แต่ฮีชอลรู้ตั้งแต่แรกแล้ว...ในเมื่อคงเป็นใครไปไม่ได้อีกแล้วที่สนิทกับซีวอนไปได้มากกว่า ชเวมิริน คนนั้น
“ผม..ขอโทษจริงๆฮะ...แต่ผม...ผม”
“ฮยอกแจ...”
เสียงสั่นที่เอ่ยขอโทษกับฮีชอลซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้คนที่เงียบฟังมาตลอด เอ่ยเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงปลอบโยน
“เจ็บมากเลยใช่มั้ย...ไม่ต้องรู้สึกผิดนะ...พี่รู้...แค่นี้เราก็เจ็บเพราะเรื่องนี้มาเยอะแล้ว...ไม่ต้องรู้สึกผิดกับพี่หรอกนะ...พี่เข้าใจเรา” เสียงหวานเอ่ยปลอบโยนรุ่นน้องที่เรื่องนี้มันไม่น่าเกินขึ้นเลยจริงๆ...แค่เขาคิดว่าประธานสภาคนรักของเขาทำกับเขาอย่างนั้นหัวใจของเขาก็เหมือนกับจะแหลกสลายให้ได้ แต่นี้มันเกิดขึ้นจริงๆกับรุ่นน้องที่น่ารักคนนี้
“...พี่ฮะ...”
“ถ้าเราอยู่กับพี่ตอนนี้ พี่จะกอดเราแน่นๆให้รู้ว่าพี่เข้าใจ...และอย่าร้องไห้ไปเลยนะ”
“....” ฮยอกแจเม้มริมฝีปากแน่นกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ หัวใจที่เป็นแผลแหว่งหายไปเริ่มกลับมาเติมเสริมจากคำพูดและความรู้สึกจริงใจจากรุ่นพี่คนสวยคนนี้ให้เขา
“ฮยอกแจ...เราเข้มแข็งมากเลยนะ...ทำได้ดีมาก...”
แค่คำเอ่ยชมจากรุ่นพี่ไม่กี่คำก็ทำให้เขายิ้มได้ทั้งน้ำตา
ปลายสายวางไปแล้ว กับความรู้สึกใหม่...กลางแสงจันทร์สว่างสายลมที่พัดเข้าปะทะใบหน้าเป็นจังหวะเดียวกับที่พัดพาเอายอดหญ้าอ่อนสีเขียวหน้าบ้านลู่ไปทางเดียวกัน ไร่กว้างของคุณตาเขาคิดถึงคำที่คุณตาเคยบอกเอาไว้...ความรักมันมีค่าในตัวของมันเอง
ฮยอกแจมองดวงดาวกลมสว่างตรงหน้าแล้วก็คิดสว่าความรักของเขาก็เหมือนพระจันทร์
พระจันทร์ที่คนเราไม่เคยมองหาในเวลากลางวัน ทั้งที่มันอยู่บนท้องฟ้าผืนเดิมเสมอและไม่มองหาพระอาทิตย์เช่นกัน เมื่อมันจ้าเกินกว่าจะมองได้ เรารู้อยู่เสมอว่ามันอยู่ตรงไหนแต่เมื่อพระอาทิตย์ตกเมื่อไหร่ พระจันทร์จึงจะได้ทำหน้าที่ส่องแสงสว่างแทนที่ ความรักที่มีค่าเมื่อจำเป็น....
“ผมจะเป็นพระอาทิตย์ได้มั้ยฮะ คุณตา”
TBC.
_.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._.Flip Love._.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._
อัพฉลองวันคยูมินนนนนนนนนนน อิอิ ทั้งที่ตอนนี้มีคยูมินตี้ดดดดดส์เดียว 55555
แหะๆ หายไป ร่วมชาติหน่อยๆ คือ เพราะงานเหมือนเดิมอ่ะแหละค่ะ ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ = =
ขอบคุณที่ยัง ทวง ถามนะ ดีใจมากเลย หน้าฟิคเริ่มร้างเพราะ ไรเตอร์มันไม่อัพเนี่ยแหละ 555
ตอนนี้ไม่มีอะไรเท่าไหร่ เล่าความเป็นไปของฮยอกกับ วิธีตามหาเมียของวอนนะคะ
ตอนหน้า วอนจะเจอฮยอกมั้ยน้าาาา อิอิ ยังไม่ได้เขียนอีกเหมือนเดิม ฮ่าๆๆๆ
เหมือนจะเล็กๆไปนะ ฮ่าๆๆๆ
## ขอบคุณทุกคนที่ยังเข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้นะคะ ขอบคุณที่คอมเม้นต์ให้กิ้บได้รู่้ว่ายังมีคนอ่านอยู่เป็นกำลังใจที่ดีมากๆเลย >< ขอบคุณนะคะ กิ้บจะสู้ๆ จะพยายามหาเวลาเขียนบ่อยๆนะ >3<
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไม่ได้สนใจสภาพพี่วอนเลยว่าเป็นไงนังเด็กนี่
กว่าจะรู้สึกตัวนะวอน
มาอัพอีกน้า น่าๆๆๆๆๆๆๆ
เป็นกำลังใจให้ไรท์คะ
มาอัพเร็วๆนร้า
เป็นกำลังใจให้ทั้งซีวอนและไรเตอร์นะจ๊ะ จุ๊บ จุ๊บ
สมแล้ววอนที่แกเป็นแบบนี้เพราะแกทำตัวเอง
มิรินนิสัยแย่เกินบรรยาย แต่ก็อย่างที่วอนบอกแหละ วอนเองก็ผิด..
รอดูชีวอนแอนด์เดอะแกงค์ จะสุมหัววางแผนง้อฮยอกแจยังไง
วอนไปตอมฮยอกให้ได้นะ
มิรินคงไม่ทำอะไรอีกใช่มั๊ย
มาอัพเร็วนร้า
เป็นกำลังใจให้นะคะ