ตอนที่ 44 : *Flip Love*: Chapter 39 รั้ง...รอ... (100%)
Chapter 39 : รั้ง...รอ...
แม้ว่าร่างกายจะเหนื่อยด้วยรสรักค่อนคืน แต่คนที่ต้องเตรียมตัวออกจากห้องๆนี้ไปก่อนที่เจ้าของห้องที่นอนอยู่ด้านข้างจะตื่น ก็ต้องปรือรั้งดวงตาให้เปิดขึ้น
แสงจันทร์ที่ส่องสว่างท่ามกลางความเงียบและผืนผ้าไหมสีมืดช่วยส่องแสงให้ฮยอกแจมองเห็นใบหน้าคมที่หลับสนิท แนวกรามคมรับกับสันจมูกที่ตั้งโค้ง คิ้วหนาเหนือดวงตาคู่คมที่เขามองสบมาทั้งคืน
มือเล็กค่อยๆยกขึ้นแนบลงบนใบหน้านั้นอย่างแผ่วเบา เก็บความรู้สึกสัมผัสนั้นไว้ ปลายนิ้วเรียวไล้เบาๆไปตามคิ้วเข้ม สันจมูกโด่ง ริมฝีปากร้อน นัยน?ตาหวานที่ไม่แม้แต่จะกระพริบให้ภสพนั้นต้องขาดตอน
“อือ...อีกห้า...ที...ริน”
เสียงทุ้มดังออกมาจากในลำคอจับใจความแทบไม่ได้...แต่ใครเล่าจะไม่รู้หากคนนั้นเป็นลีฮยอกแจล่ะ...
มือเรียวผละจากใบหน้าคมสั่นจนต้องจับเข้าหากัน กลีบปากสีสดที่ยังบวมช้ำเม้มกันแน่น น้ำตามันไหลอีกแล้ว... ฮยอกแจสูดหายใจเข้าลึกๆเหมือนเรียกพลังให้ตัวเองอีกครั้งและบอกว่า เลิกยื้อได้แล้ว...
มือเล็กที่สั่นเพราะกลั้นสะอื้นเลื่อนลิ้นชักโต๊ะหัวเตียงออกมาเพื่อหยิบเอาหนังสือเล่มหนามาวางไว้ด้านบน...แล้วบรรจงเขียนตัวษรลงบนกระดาษสีครีมใบหนึ่งเพื่อแปะไว้บนนั้น...
หากว่ามือที่สั่นจนตัวอักษรนั่นดูไม่มั่นคงแล้ว กระดาษแผ่นบางที่เริ่มมีผิวที่ไม่ราบเรียบเพราะหยาดน้ำตาก็คงยิ่งทำให้อ่านใจความนั้นได้ยากยิ่งขึ้น...
หนังสือในตำนาน...ฉันยกให้...อาจจะไม่ถูกต้องตามกฏ...
แต่เปิดเทอมแล้ว ฉันจะกลับมาทำพิธีส่งมอบหนังสือให้มิรินนะ...
...ขอโทษที่ทำให้ต้องเสียเวลา...และต้องอดทนสนิทกับฉันขนาดนี...
ฉันขอบคุณที่ซีวอนดีกับฉันมาตลอด...ฉันเข้าใจว่านายทำเพื่อมิริน...
ไม่ต้องกังวลนะ...ฉันรู้สถานะของตัวเองดี...อย่างน้อยก็ขอเป็นเพื่อนต่อไป...
ลีฮยอกแจ
เมื่อจรดตัวอักษรสุดท้ายแล้ว กระดาษสีครีมนั้นก็สอดอยู่ใต้หน้าปกแข็งของหนังสือใต้โคมไฟที่ส่องแสงสะท้อมขอบปกสีทองให้ยิ่งดูเป็นประกาย มือเล็กลูบหนาปกสีเขียวเข้มนั้นอีกครั้งแล้วพูดออกมาเบาๆ
“ผมขอโทษฮะ....ขอโทษจริงๆ” ร่างบางเอ่ยเสียงเบาสลับสะอื้นจบก็ลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าใบที่ตัวเองเพิ่งใส่ของมาวันนี้มาเก็บสิ่งเหล่านั้นเข้าไปที่เดิม
ของที่ไม่ได้มีมากมายเพียงไม่นานก็เรียบร้อย นัยน์ตาฉ่ำน้ำเหลือบมองนาฬิกาผนังที่พอจะมองเห็นเพราะแสงจันทร์บอกเวลาตีสี่สิบเอ็ดนาที...
...พี่ซึงโฮจะมาแล้วรึยังนะ...
ฮยอกแจบอกพี่ซึงโฮแค่ว่าจะออกจากห้องก่อนฟ้าสาง...แต่ไม่แน่ใจว่ากี่โมง แล้วตนเองจะนั่งแท็กซี่ไปหาเอง แต่พี่ชายคนดีก็ยืนยันว่าจะมารับให้ได้เพราะกลัวอันตรายอยู่ดี แต่จะให้เขาโทรตอนนี้ก็กลัวจะไปปลุกเขาเอาได้นี่ซิ
ห้องมืดที่ไม่สนิทจากแสงจันทร์เหมือนโลกที่หยุดหมุน...มันสวยและเศร้า...
ฮยอกแจเดินไปทางห้องครัวที่เขาใช้เวลากับที่นี่เยอะไม่ต่างกับห้องนอน...ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธตัวเอง เพราะยิ่งเห็นก็ยิ่งนึกถึงภาพต่างๆที่เคยเกิดขึ้น...
มือเล็กเช็ดน้ำตาของตัวเองออกก่อนที่จะหมุนตัวกลับเข้าห้องนอน ตัดสินใจแล้วว่าจะโทรหาพี่ซึงโฮแล้วจริงๆ...กลัวเหลือเกินว่าเจ้าของห้องและเจ้าของหัวใจจะตื่นขึ้นมาเสียก่อน...
ครืดดด ครืดดดด
เสียงโทรศัพท์ของฮยอกแจที่ปิดเสียงเอาไว้กระทบกับแผ่นไม้ของโต๊ะหน้ากระจกเป็นจังหวะ
ร่างบางหยิบเครื่องมือสื่อสารเครื่องนั้นแล้วเบี่ยงออกไปด้านนอกห้องนอนทันที เพราะเห็นว่าร่างหนาบนเตียงเริ่มขยับร่างกายแล้ว
ฮยอกแจกดรับโทรศัพท์หลังจากมองชื่อคนที่โทรเข้ามาเวลาแบบนี้แล้วเอ่ยพูดเสียงเบา
“ฮะ พี่ซึงโฮ”
// พี่อยู่ใต้คอนโดแล้วนะ //
“เหรอฮะ...ผมเก็บของอีกแปปเดียวนะฮะ...”
// อยู่ห้องเบอร์อะไรเหรอ...เดี๋ยวพี่ไปช่วยถือของ //
“ไม่ต้องหรอกฮะ...”
// ให้พี่ช่วยเถอะนะ.... //
“....ก็ได้ฮะ...ชั้น 18 ห้อง 10 ฮะ””
// งั้นเดี๋ยวเราเปิดประตูห้องไว้นะ พี่จะได้ไม่ต้องกดกริ่งประตู //
ฮยอกแจยิ้มรับกับคำที่บอกพลางก้าวไปแย้มบานประตูไว้เล็กน้อย อย่างที่ไม่กลัวว่าใครจะเข้ามา เพราะช่วงเวลานี้คงไม่มีใครออกมาเดินไปเดินมาเท่าไหร่นัก
ร่างบางหมุนตัวกลับมาที่หน้าโต๊ะ ล้วงกระเป๋าเสื้อเอาสิ่งที่เขาดีใจแสนดีใจตอนที่ได้มันมา...กุญแจห้อง
มือเรียวมองสิ่งที่ส่งความเย็นเล็กน้อยออกมาในมือนั้นนิ่ง แล้วค่อยๆวางมันลงบนโต๊ะ ในจังหวะที่แผ่นหลังบางสัมผัสกับแรงกอดรัดจากด้านหลัง
หมับ!
“!!!!”
“ฮยอก แจ...ได้โปรด...”
กึก
เสียงทุ้มที่สั่นไม่เท่ากับอ้อมกอดนั้น...
“ฮึก....”
ริมฝีปากสีแดงถูกกัดแน่นเมื่อเห็นแขนหนาที่โอบรอบเอวเขา มือคู่นั้นกำกระดาษโน็ตที่เขาเพิ่งจะจรดปลายปากกาลงไปเมื่อไม่กี่นาทีแน่นจนยับแทบดูไม่ออก
“ฮยอกแจ...” เสียงทุ้มที่เรียกชื่อคนรักแทบจะขาดใจความรู้สึกมากมายหลั่งไหลเข้ามาอย่างที่ไม่อาจห้ามได้ อ้อมกอดที่รัดแน่นเหมือนจะส่งผ่านความรู้สึกทุกอย่างที่เขาอยากบอกออกไป เสียงตนเองที่มันขาดห้วงจนพูดไม่ได้เป็นประโยค
“ได้โปรด...ผม ขอโทษ”
“อึก...” ฮยอกแจยกมือขึ้นปิดริมฝีปากของตัวเองกลั้นเสียงสะอื้นที่ตีขึ้นมา
“ฮะ ฮยอกแจ...อย่าไป...ได้โปรด...”
ซีวอนไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองต้องเอ่พูดคำใดออกมาจากปากบ้าง เขารู้แค่ว่าตอนนี้ทุกอย่างมันสายไปแล้ว สายเกินไปกว่าที่เขาตั้งใจไว้...เขาไม่อยากคิดจริงๆว่าฮยอกแจจะเจ็บปวดมามากมายแค่ไหน...
“ผม...ฮึก..ฮยอกแจ...” ฮยอกแจกลั้นน้ำตาของตนเองไว้ไม่ไหวเมื่อสัมผัสได้ถึงหยาดน้ำตาจากอีกคน
ซีวอนร้องไห้...
เขารู้สึกว่า....เขากำลังเสียฮยอกแจไป...
“ฮึก....ฉะฉัน...” มือเรียวที่สั่นยกขึ้นวางทาบแขนหนาที่ยังรัดเอวบางไว้แน่นเพื่อผลักออก แต่ก็เหมือนจะไม่ส่งผลใดๆ กลับกันแรงรัดจากอ้อมกอดนั้นกลับยิ่งเพิ่มขึ้น
“ปล่อยฮยอกแจซะเถอะครับ...”
เสียงทุ้มจากด้านหลังเอ่ยขึ้นท่ามกลางแสงสว่างจากดวงจันทร์ในห้องที่มีเพียงเสียงสะอื้นบางเบา
ยุนซึงโฮที่ขึ้นมาถึงชั้นบนแล้วเห็นประตูห้องที่แง้มอยู่ก็ค่อยๆเปิดดู และพบว่าคนร่างเล็กที่เขามารับเพื่อเดินทางกลับไปด้วยกันกำลังถูกผู้ชายคนหนึ่งกอดไว้จากทางด้านหลัง ไม่ต้องคิดให้เสียเวลา แม้จไม่เคยเจอ แต่เขามั่นใจว่านั่นคือคนที่ทำให้ฮยอกแจเสียใจมาตลอด
“...ผมให้โอกาสคุณได้อยู่กับฮยอกแจเพียงพอแล้ว...ตอนนี้ผมคงต้องพาฮยอกแจไปจากความเจ็บปวดนี้ซะที...”
“....” ร่างสูงที่ยืนนิ่งไม่เงยหน้ามองเจ้าเสียงพูด แต่เหมือนแรงรัดนั้นจะเพิ่มขึ้นเมื่อซึงโฮพูดจบ
ซึงโฮเดินเข้ามาดึงตัวของฮยอกแจออกจากอ้อมกอดนั้น แต่ก็ดูเหมือนว่าเพียงกระตุกนิดเดียวก็ออกมาอย่างง่ายดาย ต่างกับเมื่อครู่ฟ้ากับเหว
ซีวอนไม่รู้ว่าซึงโฮพูดอะไรอีกบ้าง...เขาจ้องมองเพียงแค่ใบหน้าหวานที่ฉ่ำน้ำตาและเศร้าสร้อยจนเกินทน ฮยอกแจไม่สบตาเขา และเดินตรงไปหาซึงโฮ ภาพที่เห็นมันมัวเพราะมีน้ำใสๆมันบดบัง เสียงในลำคอก็หายไปเหมือนถูกอะไรมาบีบไว้ไม่ให้เสียงมันออกมา ขาที่เหมือนไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะก้าวออกไปซักก้าว และมือที่มีแรงเพียงแค่กำกระดาษแผ่นบางในมือไว้แน่นเหมือนกลัวว่าจะหายไป
“แล้ว....จะกลับมา ตอนเปิดเทอม...ฉันสัญญา”
เสียงหวานขาดห้วงที่ฟังออกว่ากำลังกลั้นเสียงสะอื้นบอกออกมานิ่งๆ โดยที่เจ้าของเสียงก้มหน้าไม่มองสบตาคู่ใด และก้าวออกจากห้องไปพร้อมกับซึงโฮและกระเป๋าในมือ ทิ้งร่างสูงยิ่งนิ่งปล่อยน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่รู้วิธีหยุด....
....พระเจ้ากำลังลงโทษเขาแล้ว
ฮยอกแจเดินไปจากเขาแล้ว...กล้าพอที่จะรั้ง...แต่ไม่กล้าพอที่ยื้อให้อยู่...
...ยิ่งได้ยินคำที่ชายอีกคนบอก...ฮยอกแจเจ็บปวดมานานมากแล้ว...
...และ...ผมได้โอกาสมามากพอแล้ว...
...แค่วินาทีเดียวก็สายไปได้เสมอ...
ซีวอนทรุดลงนั่งกับพื้นที่เย็นเยียบ มือหนาที่สั่นยังกำกระดาษใบเดิมที่ไม่เหลือความเรียบแน่น
แปะ...
“หึ....”
เสียงหัวเราะขึ้นจมูกอย่างสมเพชตัวเองดังขึ้นเมื่อหยดน้ำใสไหลจากตาคู่คมลงแหมะบนกระดาษในมือ
..แค่น้ำตาที่ไหลหยดเดียวตอนนี้ยังเจ็บปวดขนาดนี้...แล้วฮยอกแจล่ะ...เขาต้องเสียน้ำตามากี่หยดแล้ว..
...เขาปล่อยให้ฮยอกแจรอมานานแค่ไหนแล้ว...
ใจโลเลที่กลัวว่าคนที่รักจะเจ็บ...ไม่ใช่มิรินเลย...ไม่ใช่เลย...เขาคิดถึงแต่ฮยอกแจ...จนไม่อยากให้เวลาแบบนี้มันเกิดขึ้น...
คนโง่...ที่คิดถึงแค่ความสุขของตนเอง...ที่อยากจะยืดเวลาเหล่านั้นออกไปเรื่อยๆ...
มือหนายกขึ้นแทรกนิ้วเข้าไปในกลุ่มผมหนาของตัวเองด้วยความรุนแรงพลางทรุดร่างลงบนพื้นเย็นกลางห้องที่เต็ไปด้วยความทรงจำของเขาและฮยอกแจ น้ำตาที่ไหลออกมาได้แต่ปล่อยให้หยดต่อไปโดยไม่สนใจ ริมฝีปากที่กัดแน่น อย่างกลั้นความรู้สึกผิดในใจเอาไว้อย่างที่แทบจะทนไม่ได้
“อึก....”
ฟันคมกัดกันแน่น ในใจคิดถึงแค่ร่างเล็กที่เมื่อวานยังยิ้มให้กัน มีความสุขกันมากมาย...
แต่ตอนนี้...ทำได้แค่ต้องปล่อยเขาไป...ในเมื่อตนเองทำร้ายเขามากเกินพอ...เกินให้อภัย...
_.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._.Flip Love._.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._
35%
ภาพทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ที่เคยถูกปกคลุมด้วยสีเหลืองตอนนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว สีเหลืองๆที่เคยปลิวไสวตามสายลมที่พัดมาปะทะ กลายเป็นลานของต้นหญ้าสีอ่อนเพิ่งผลิใบใหม่ตัดกับสีน้ำตาลเข้มของผืนดิน
กลิ่นของไอดินและใบไม้สดพัดผ่านร่างเล็กที่ยืนหลับตานิ่ง ราวกับซึมซับบรรยากาศเหล่านั้นเอาไว้
ฮยอกแจกับเช้าวันแรกที่ไม่มีความรู้สึกกดดันเหล่านั้น ความรู้สึกที่คอยกดเอาไว้ไม่ให้หัวใจดวงนี้เต้นได้เต็มที่ เพราะมันเจ็บทุกครั้งที่หัวใจเต้นแรง...โดยเฉพาะกับเรื่องนั้นและเมื่อคิดถึงคนๆนั้น...
ร่างบางสูดหายใจเข้าลึกๆ...แล้วค่อยๆลืมตาขึ้น...
“คุณตาฮะ...ฮยอกจะเข้มแข็ง...ฮยอกจะไม่ร้องไห้แล้วนะฮะ...”
บรรยากาศที่โล่งโปร่งสบายทำให้ยิ่งเหมือนกับบอกตัวเขาเองว่า สิ่งเหล่านั้นมันไม่เหลืออยู่แล้ว ถึงแม้ว่าในใจลึกๆยังกังวลกับสิ่งที่ต้องเกิดตามมา สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้...เมื่อเวลาเปิดเทอมมาถึง เขาก็ต้องกลับไปเผชิญมันอีกครั้ง...
ในเวลาที่ฮยอกแจกำลังคิดอะไรเพลินๆก็ได้ยินเสียงแว่วมาไกลๆจากทางไร่ข้างๆ ไร่องุ่นของพี่ชายแสนอบอุ่น แต่กลับไม่ใช่เสียงของพี่ซึงโฮแน่นอน ในเมื่อเจ้าตัวกำลังเดินมาทางเขานี่นา
“ฮยอกแจ...กินข้าวเช้ารึยังครับ?” เสียงทุ้มที่ดูอ่อนโยนเอ่ยถามเมื่อก้าวเข้ามาใกล้พอแล้ว
“ทานแล้วฮะ พ่อโชว์ฝีมือเรียบร้อยแล้วก็หายเข้าสวนไปเลย”
“ดีแล้วล่ะ” ซึงโฮ ยิ้มให้ แต่ไม่ทันจะเอ่ยอะไรต่อ เสียงที่แว่วๆอยู่ไกลก็เข้าใกล้มาจนเห็นต้นเสียง
“ฮยอง~~~~~ง ซึงโฮ ฮา~~ยอ~~ง~~”
เสียงเรียกชื่อของซึงโฮที่แสนสดใส มาพร้อมกับร่างของเด็กหนุ่มที่ใบหน้ามีรอยยิ้มสดใสดูเจิดจ้าและร่าเริงในชุดเสื้อลายสกอตกับกางเกงเอี้ยมขาเท่าเข่าในมือมีหมวกสานพร้อมพลังงานที่พุ่งมาหาเต็มที่
“เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจเบาๆเรียกให้ฮยอกแจหันกลับมามองที่คนข้างกาย แต่ก็พบกับรอยยิ้มจางๆเช่นเดียวกัน
“ฮยอง~!” แล้วเสียงที่เรียกยานๆก็จบลงด้วยคำนี้สั้นๆพร้อมน้ำหนักที่กดลงบนไหล่หนา
“ว่าไง...เฮนรี่...วิ่งตามมาถึงนี่จนได้นะ”
เด็กหนุ่มที่ยังหอบหายใจน้อยๆกับการวิ่งไปเรียกชื่อลูกชายเจ้าของไร่ไปด้วยรอยยิ้มกว้างบอกด้วยน้ำเสียงสดใส
“ก็ผมเห็นฮยองมาที่นี่ ผมก็เลยตามมานี่ฮะ” รอยยิ้มที่กว้างจนดูจริงใจแบบนั้นทำให้ฮยอกแจเผลอยิ้มตามได้ไม่ยากเลย
“เฮ้อ โอเค...ฮยอกครับ นี่เฮนรี่ลูกชายของลุงหลัวหัวหน้าคนงานที่ไร่น่ะ...เฮนรี่นี่ฮยอกแจลูกของลุงแทซอกน่ะ”
“โอ้ๆๆๆ พี่ฮยอกแจคนนี้นี่เองเหรอฮะที่ฮยองโทรหาบ่อยๆมั้ย” เท้าเล็กๆในร้องเท้าผ้าใบมอมแมมย่ำไปมาอย่างตื่นเต้นเมื่อได้รู้ว่าเสียงหวานๆที่ลอดจากสายโทรศัพท์ที่เขาได้ยินบ่อยๆคนพี่คนสวยคนนี้นี่เอง
“หึหึ ใช่แล้วล่ะ” ซึงโฮหัวเราะในลำคอกับแววตาของเฮนรี่ที่ดูเป็นประกายแวววาวยามมองไปที่ฮยอกแจ มือหนายกขึ้นลูบผมสีเข้มของเฮนรี่ให้เข้าที่เมื่อสภาพเหมือนกับน่าจะเพิ่งถอดหมวกสานในมือออก
“งั้นแสดงว่าเฮนรี่ก็ต้องอยู่กับพี่ซึงโฮตลอดเลยสิฮะเนี่ย ถึงได้ยินเสียงตอนคุยโทรศัพท์บ่อยแบบนี้” ฮยอกแจถามออกมาเมื่อย้อนคิดแล้ว เวลาที่เขาโทรคุยกับพี่ชายคนนี้ไม่เป็นเวลา หรือทุกวันซักหน่อยแสดงว่านุ่มน้อยแสนร่าเริงต้องอยู่ติดตลอดแน่นอน
“หึ ใช่แล้วล่ะ..นี่น่ะเหาฉลามของพี่เอง”
ฮยอกแจหลุดหัวเราะออกมาทันทีที่ซึงโฮเอ่ยจบ ไม่ใช่แค่คำเรียกขานอย่างนั้นแต่เพราะสีหน้าของเฮนรี่นี่สิบ่งบอกมากว่า งอนสุดๆ
“งื้อ~~~ฮยองอ่าาา ผมอุตส่าห์ยกให้ฮยองเป็นไอดอลของผม แล้วทำไมฮยองให้ผมเป็นเหาฉลามงี้อ่า กับคนอื่นใจดีแต่กับผมฮยองใจร้ายทุกทีเลย T3T”
ใบหน้าขาวผุดผาวตัดกับคิ้วได้รูปที่กำลังบิดเบี้ยวเพราะไม่พอใจในคำพูดของร่างสูง แถมด้วยการยื่นริมฝีปากสีส้มพลางเอ่ยคำตัดพ้อน่ารักๆเรียกรอยยิ้มให้คนมองไม่น้อย
“หึหึ งอนอย่างงี้ทั้งวันทุกวัน แล้วไม่อยากตามฮยองทั้งวันแล้วรึไงพูดแบบนี้น่ะ หืม?”
“อยากตามฮยอง แต่ไม่อยากเป็นเหาฉลาม...ว่าแต่พี่ฮยอกแจฮะผมขอเป็นน้องพี่ฮยอกแจซักคนนึงนะฮะ พี่ฮยอกแจสวยมากเลย ผมอยากมีพี่อย่างพี่ฮยอกบ้าง” เฮนรี่กระพริบตาปริบๆอย่างมีความหวัง รู้ว่าพี่คนสวยคนนี้ไม่ใจร้ายแน่นอน
ฮยอกแจยิ้มน้อยๆให้เฮนรี่ เมื่อในใจคิดย้อนไปเมื่อตอนที่ยังเป็นแค่เด็กแว่นติดห้องสมุดอยู่...วันที่ได้เจอพี่ฮีชอลวันแรกแล้วก็คิดไม่ต่างกันว่า...คนตรงหน้าสวยมากจริงๆ...
...พี่ฮีชอล...เราคงต้องโทรไปเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้พี่ฮีชอลฟังซักทีแล้ว ในเมื่อเรื่องราวมันมาถึงจุดนี้...
“นะฮะพี่ฮยอกแจ...” เสียงเร่งของเฮนรี่ทำให้ฮยอกแจหลุดออกจากความคิด
“แล้วไม่เรียกฮยอง เหมือนกับที่เรียกพี่ซึงโฮเหรอ?”
“ไม่เอาหรอกฮะ...ฮยองไม่เหมาะกับพี่ฮยอกแจ...ถ้าเรียกว่านูน่าน่าจะเข้ากว่าอีกนะฮะ” ซึงโฮที่ยืนฟังยิ้มๆหลุดหัวเราะกับความคิดของเจ้าตัวแสบประจำไร่
“งั้นเรียก พี่ฮยอกแจดีแล้วล่ะ”
“งั้นพี่ฮยอกแจให้ผมเป็นน้องด้วยแล้วใช่มั้ยฮะ....เย้ๆๆๆ” ฮยอกแจที่พยักหน้ารับเมื่อเฮนรี่เอ่ยคำถามไป ก็ยืนขำเมื่อแค่ความสุขเล็กๆน้อยๆมันมีและเกิดขึ้นง่ายๆอยู่รอบตัวอย่างนี้เอง...
“งั้นไปกันฮะ เดี๋ยวผมพาทัวร์ไร่เอง” เฮนรี่คว้ามือเรียวของพี่ชายสดๆร้อนๆอีกมือนึงตบตัวเองแปะๆอย่างภูมิใจราวกับเป็นเจ้าของไร่ จนเจ้าของไร่ตัวจริงอดหมั่นเขี้ยวไม่ได้ต้องเดินเข้าใกล้แล้วขยี้กลุ่มผมชี้ๆสีดำ
“พี่ฮยอกแจของเราเขาเคยไปไร่เราแล้วเถอะ...คราวก่อนที่เราไม่อยู่ช่วงงานศพคุณตามอนซอกไงล่ะ” ซึงโฮที่ยอมลดมือลงจากหัวยุ่งของเฮนรี่เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวใกล้จะโวยวายเต็มที่แล้ว
“ง่า...ผมกลับมาไม่ทันนี่นา...ไปเข้าค่ายกับที่โรงเรียนสัปดาห์นึง...ลุงแทซอกก็จัดงานศพแค่สามวันเอง ผมเลยไม่ได้กลับมาอ่า...” หนุ่มน้อยแสนร่าเริงเล่าด้วยเสียงเบาลงและรู้สึกผิดเมื่อคุณตาที่เขามักจะมาหามาคุยด้วยบ่อยจากไปอย่างกะทันหันและไม่ทันได้กลับมาส่งท่านไปสรรค์
“ไม่เป็นไรหรอกนะ...คุณตาเข้าใจเราอยู่แล้ว พี่ก็เหมือนกัน”
“งื้อ...พี่ฮยอกแจสวยทั้งภายในภายนอกเลยฮะ” ว่าแล้วคนที่เศร้าอยู่เมื่อกี้ก็เอาหัวไปถูๆไหล่เล็กอย่างออดอ้อนให้อีกสองคนต้องยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้...
...เฮ้อ...อยู่กับเจ้านี่ท่าทางฮยอกแจคงจะหายเศร้าเร็วขึ้นล่ะนะ...
_.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._.Flip Love._.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._
สภาพห้องคอนโดชั้น 18 ที่ยังคงมีระเบียบเช่นเคยแต่ทว่าสิ่งของของอีกคนหนึ่งที่เคยวางปนอยู่กับของเจ้าของห้อง ตอนนี้มีเพียง 2 สิ่งเท่านั้นที่ยังคงอยู่...หนังสือในตำนานเล่มนั้น...และผ้าพันคอผืนเข้ม
RRrrrr
เสียงโทรศัพท์ที่ไม่แน่ใจเลยว่าดังขึ้นเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวัน ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของห้องจะยังนั่งนิ่งไม่ขยับร่างกายเลยซักนิด
ผู้ชายที่ปกติดูสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบและมีรอยยิ้มอ่อนโยนให้ฮยอกแจเสมอ ตอนนี้ใบหน้าคมเต็มไปด้วยหนวดหนา ดวงตาบวมและโหลเหมือนคนไม่ได้นอนมาเป็นสัปดาห์ นั่งพิงหลังไปกับเตียงกว้างบนพื้นห้อง ทอดสายตาออกไปด้านนอกระเบียง
ซีวอนไม่รู้ว่าตอนนี้ผ่านไปกี่วันแล้วตั้งแต่เช้าวันนั้น เขารู้แค่ว่ามันหมดแรง...ไม่อยากตื่น...แต่ก็ต้องตื่นขึ้นมาเมื่อฝันว่าฮยอกแจไปจากเขาแล้ว...และก็ต้องรับรู้อีกครั้งว่าความฝันนั้นเป็นจริง...
เขาเหมือนผู้ชายไร้ค่าที่ทำให้คนรักต้องเจ็บปวดมากมายขนาดนั้น...น้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลออกมาแทบทดแทนหรือเทียบเท่าความรู้สึกนั้นไม่ได้เลยซักนิด
ร่างหนาลูกขึ้นยืนช้าๆเมื่อร่างกายทนไม่ไหวกับอาการขาดน้ำและอาหาร ริมฝีปากที่แห้งผากไม่อยากจะรับอะไรผ่านลงท้องเลยซักนิด แต่เมื่อเข้ามาในครัวก็ไม่มีอะไรเหลือ แม้แต่น้ำเปล่าซักขวด
ซีวอนคว้าเอาแบ้งค์ยับๆกับเหรียญที่กองอยู่ใส่มือ ขยับผ้าพันคอที่เขาไม่เคยห่างมันตั้งแต่วันนั้นให้เข้าทาง เพื่อเดินลงไปร้านขายของด้านล่าง
ซื้อของไม่นานเขาก็กดลิฟต์กลับขึ้นห้องมา ขายาวก้าวออกจากกล่องเหล็กก็เห็นว่าบริเวณหน้าห้องของตนเองมีเพื่อนสนิทของตัวเองยืนอยู่ด้วยสีหน้านิ่งสนิท
“......” คยูฮยอนไม่พูดอะไร แค่เห็นว่าสภาพเพื่อนสนิทเขาเป็นแบบนี้ก็พอเข้าใจสถานการณ์ได้
กริ้ก
ซีวอนไขประตูเข้าห้องโดยมีคยูฮยอนเดินตามเข้ามา ร่างสูงวางของที่ซื้อมาลงบนโต๊ะแล้วคว้าเอาขวดน้ำเปล่าเปิดออกกรอกลงปากอย่างกระหายอย่างที่คนมองก็รู้ได้เลย
“ได้กินอะไรมั่งมั้ยวะ”
“...อือ...” ซีวอนตอบไปส่งๆอย่างไม่ใส่ใจแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา
“สภาพแกผ่านไปแค่สัปดาห์เดียวยังกะคนป่วยเดือนนึง........ซองมินเล่าให้ฉันฟังแล้วนะ...เขาก็เพิ่งรู้จากฮยอกแจไม่นาน....”
“......”
“......” คยูฮยอนมองสภาพของเพื่อนสนิทที่หนวดขึ้นไม่เหลือสภาพคุณชายอย่างปกติ เสื้อผ้าแบบที่ใส่อยู่บ้านยับยุ่งเหมือนเพิ่งดึงออกจากกองกับผ้าพันคอสีเข้มที่ขัดๆกับทุกอย่าง เหลือบมองไปที่โต๊ะหน้าเค้าเตอร์ในครัวก็เห็นขวดเหล้าสองสามขวดที่ว่างเปล่าแล้ว
“กินเหล้าเหรอวะ” แปลกใจไม่น้อยที่เห็นคนที่ปกติไม่แตะแอลกอฮอล์ไม่ว่ากรณีใดๆอย่างเพื่อนคนนี้เพราะมารดาขอไว้
“........นอนไม่หลับ เลยต้องกิน.........ฉันคิดถึงแต่....ฮยอกแจ...ฉัน...”
เสียงแหบแห้งบอกอย่างขาดห้วงและเริ่มเจือเสียงสะอื้นออกมา ใบหน้าคมก้มลงมองพื้นเมื่อยกมือทั้งสองข้างขึ้นขยำผมตัวเองอย่างทนไม่ได้
“...หึ...ร้องไห้...จนไม่เป็น...ผู้ชายแล้วว่ะ...แต่พอคิดถึง....ฮยอกแจ...ฉันแค่คิดว่า...ฮยอกแจกำลัง....เสียใจ...กำลัง...ร้องไห้รึเปล่า...น้ำตา...ก็ยิ่งไหล...”
คยูฮยอนได้แต่ยืนนิ่งให้เพื่อนได้ระบายความรู้สึกออกมา อย่างน้อยมันก็ไม่อัดอั้นอยู่ในจิตใจคนเดียว
คำพูดและน้ำตาของซีวอนที่เขาอยากให้ฮยอกแจได้เห็นมัน เขารู้ว่าเพื่อนเขาทำผิด...แต่ถ้าหากว่ารักกัน...ก็อยากให้เข้าใจกัน
“อยากร้องไห้เหมือนคนถูกทิ้งอย่างเดียวแกก็ทำไป...แต่ว่าทำแบบนี้แล้วแกคิดมั้ยว่าใครจะรู้สึกยังไงบ้าง...หรือทำให้เรื่องนี้มันดีขึ้นยังไง...”
“.....”
“แม่แกโทรหาฉัน...ถามว่าติดต่อแกได้มั้ย...เสียงไม่ดีเลยนะ...”
“.....”
ซีวอนชะงักนิ่ง เขารู้ว่าที่บ้านติดต่อเขาไม่ได้แบบนี้เป็นสัปดาห์คงเป็นห่วงกัน แต่เขาไม่มีกะจิตกะใจจะพูดอะไรกับใคร ความรู้สึกที่มีมันกำลังตีและบีบหัวใจให้แหลกอยู่ตลอด เจ็บทุกครั้งที่หัวใจมันเต้น...
“เค้าเป็นห่วงมาก...ที่ติดต่อแกไม่ได้...แกจะทำให้คนที่แกรักทั้งสองคนเสียใจเพราะแกรึไง...”
ร่างสูงเอนกายทิ้งหลังลงบนพนักโซฟาเหมือนคิดได้ว่า เขาไม่ควรทำตัวแบบนี้ต่อไป..ใช่แล้ว แม่เขาต้องเป็นห่วงมาก...และเขารู้ว่ามารดาของเขาต้องช่วยให้เรื่องนี้คลี่คลายได้อย่างแน่นอน
“ลุกขึ้น อาบน้ำแต่งตัว ไปหาแม่แกซะนะ...อ่อ...มิรินอีกคนโทรหาฉันจนซองมินโวยวาย...มีอะไรให้ช่วยก็บอก...เคลียร์เรื่องนี้แล้วไปรับฮยอกแจกลับมา...”
คยูฮยอนเดินเข้าไปหาพร้อมบอกว่าจะช่วยเหลือเสมอ มือหนาตบไหล่ที่ห่อลงของเพื่อนสองที แล้วจึงหมุนตัวออกจากห้องไป
ซีวอนที่นั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง หลับตาลงแล้วถอนหายใจออกมาเหมือนกับตัดสินใจอะไรบางอย่างที่ลำบากใจได้แล้ว ร่างสูงลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและกลับมาในสภาพที่ไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ ในเมื่อหนวดเคราและผ้าพันคอสีเข้มยังคงเหมือนเดิม ต่างออกไปก็แค่เครื่องแต่งกายที่ดูดีขึ้นเท่านั้นเอง
มือหนากำหนังสือในมือแน่น หนังสือที่เป็นต้นเรื่องของเรื่องนี้ เขาจะทำให้มันจบเสียที...
_.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._.Flip Love._.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._
“คยู!!! มาแล้วเหรอๆ ซีวอนเป็นไงมั่งอ่า เป็นไงมั่ง?”
กระต่ายตัวอวบที่พอได้ยินเสียงรถยนต์ของคยูดับลงที่หน้าบ้านตัวเองวันนี้ก็รีบวิ่งออกมาทันที เท้าเล็กสองข้างกระโดดดึ๋งๆไปมาด้วยความตื่นเต้น
“ฮยอกล่ะ ฮยอกอยู่ด้วยกันมั้ย หรือว่าไม่อยู่ ไปแล้วเหรอ ไปแล้วเหรอ” เสียงหวานยังคงไม่ยุดซัดคำถามใส่คนที่หันไปกดล๊อครถด้วยรอยยิ้มจางๆ อยากจะแกล้งคนรักเล่น ยิ่งเห็นซองมินทำสีหน้าลุ้นก็อยากจะแกล้งให้เจ้าตัวปุยอ้อน
“งือ~ บอกหน่อยซิ เล่าให้ฟังหน่อยน้าาา” ขายาวก้าวนำเข้ามาด้านในของบ้านโพรงกระต่ายที่วันนี้คุณแม่ใจดีออกไปข้างนอกกับเพื่อน ส่วนคุณพ่อแสนหวงลูกสาว(?)ก็ไปทำงานต่างจังหวัดเช่นเคย คุณแม่นาราก็ไว้วางใจให้ลูกเขยมาอยู่เป็นเพื่อน
คยูฮยอนเดินมานั่งลงที่โซฟาหมายจะเริ่มเล่าเรื่องไม่อยากให้คนลุ้นกระพริบตาอ้อนไปมากกว่านี้เดี๋ยวจะไม่ได้เล่ากันซะ
“ก็...อะแห่มๆ....ก็...”
ร่างสูงกระแอมในลำคอจะเอ่ยเสียงเริ่มเรื่อง แต่คนรักตัวกลมกลับลุกขึ้นพรวดเข้าไปในครัว วิ่งต๊อกแต๊กกลับออกมาพร้อมน้ำใสเต็มแก้วและหลอดที่ยื่นมาจ่อให้ที่ปาก กระพริบตาปริบๆแถมรอยยิ้มนำเสนออีกต่างหาก
“หึหึ...เอาล่ะๆ เล่าแล้ว” คยูฮยอนหัวเราะออกมารับแก้วน้ำดื่มนิดนึงแล้ววางลงพร้อมกับขยี้ผมนิ่มของคนรัก
“ซีวอนก็สภาพไม่ค่อยดี...ฮยอกแจไม่อยู่ที่ห้องแล้ว...”
“....”
“....”
“....งื้อ ไรอ่า จบแล้วเหรอ” ริมฝีปากสีชมพูยู่ยื่นอย่างงอนๆ อะไรกันลุ้นแทบตายได้มาสองประโยคเอง
“แล้วอยากรู้อะไรล่ะ...มีแค่นี้นี่นา...” คยูฮยอนถามด้วยเสียงเอาใจ แล้วรั้งเอาเอวนิ่มมาให้นั่งชิด วางใบหน้าคมลงบนไหล่อวบ จมูกโด่งสูดกลิ่มหอมที่เขาชอบ
“ก็...ซีวอนพูดถึงฮยอกว่าอะไรบ้างอ่ะ...ฮยอกบอกฉันว่าฮยอกจะไปบ้านคุณตา แต่ไม่ให้บอกใคร...อ้ะ...แต่ฉันเพิ่งบอกคยูไปนี่...งือออออ...ฮยอกจะโกรธมั้ยอ่า TT”
เสียงหวานที่ถามคำถามแล้วก็เหมือนคิดคำพูดของเพื่อนสนิทไปด้วยจนหลุดบอกออกไปแล้วก็งอแงจะร้องไห้ เสียใจที่ผิดสัญญากับเพื่อน
“ผมไม่บอกใครหรอก ถึงฮยอกแจรู้เขาก็ไม่โกรธหรอก ซองมินไม่ได้ตั้งใจนี่นา...”
“อือ...”
“...ซีวอนมันร้องไห้...นอนไม่หลับเพราะหลับแล้วฝันว่าฮยอกแจทิ้งมันไป...พอตื่นมาก็เป็นเหมือนเดิม..” ดวงตาหวานหรุบลงเพราะเศร้าใจที่ได้ยินว่าคนรักของเพื่อนก็เสียใจที่ฮยอกแจจากไปอยู่เหมือนกัน ตอนแรกซองมินกลัวว่าฮยอกแจไปแล้ว ซีวอนจะไม่รู้สึกอะไร...แต่เป็นอย่างนี้ก็แสดงว่าซีวอนก็รักเพื่อนเขามากนี่นา
“....แล้วซีวอนจะทำยังไงต่อล่ะ...เพื่อนคยูจะตามฮยอกกลับมามั้ย...เขาจะทำให้ฮยอกเสียใจอีกรึเปล่า”
คยูฮยอนถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อยิ่งคิดเท่าไหร่ก็ยิ่งนึกไม่ออกว่าเรื่องนี้ซีวอนจะทำให้จบยังไง
“...เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้หรอกนะ...แต่เราคงช่วยอะไรได้ไม่มากเพราะเป็นเรื่องของเขาสองคน...คงต้องใช้หัวใจของเขาเท่านั้นแหละที่จะแก้ไขมันได้...”
“.....” ซองมินพยักหน้ารับเงียบๆ แต่คิ้วเรียวกลับยังขมวดมุ่น เหมือนกับกำลังคิดเรื่องอะไรเครียดไม่หยุด
ฟอด
“! ไรง่า..ไม่ต้องมาหอมเลยนะ”
“หือ? อยู่ๆงอนอะไรล่ะ” คิ้วเข้มเลิกสูงอย่างประหลาดใจ
“ก็ฉันยังงอนอยู่นะ เรื่องที่คยูรู้เรื่องนี้อยู่แล้วแล้วไม่บอกฉันอ่ะ...เหมือนร่วมมือกับซีวอนเลย -3-”
กระต่ายอวบที่ยังคงงอนอยู่ หลังจากวันนั้นที่สอบเสร็จ คืนวันที่ฮยอกแจเตรียมตัวจะทิ้งหนังสือเอาไว้แล้วไปบ้านคุณตา ซองมินก็ระวนกระวายด้วยความเป็นห่วงจนคยูฮยอนแปลกใจ แล้วสุดท้ายซองมินก็เล่าออกมา แต่ก็กลายเป็นซองมินที่แปลกใจยิ่งกว่า เมื่อคยูฮยอนบอกว่า เขารู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว...กระต่ายตัวอ้วนเลยเคืองแทนเพื่อนอย่างที่คยูฮยอนง้อข้ามวันก็ไม่ยอมหายงอนเป็นครั้งแรก
“ก็ผมบอกแล้วว่าเรื่องนี้ผมทำอะไรไม่ได้...ถึงจะเพื่อนกัน...แต่อย่าเอาเรื่องคนอื่นมาทำให้เราโกรธกันเลยนะ”
เสียงทุ้มกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง...พร้อมกับประทับริมฝีปากลงบนแก้มนิ่มและขมับอย่างเอาใจ
“...( ’ ///// ’)” แก้มที่แดงก่ำบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวเขินแค่ไหน แต่ก็ยังเม้มกลีบปากสีสวยแน่นไม่ยอมยิ้มออกมา กลัวอีกคนจะรู้ว่าหายงอนแล้วซิ
“...หึๆ...อย่างนี้ครีมพัฟก็คงต้องเอากลับร้านซินะ...” ร่างอวบในอ้อมกอดดิ้นน้อยๆทันทีที่ได้ยิน หันขวับกลับมาหาพร้อมบอกปากยู่
“งื้อ~~ เอาครีมพัฟมาง้อเลย”
“แล้วหายงอนรึเปล่า...ไม่หายงอนเสียของแย่...” ใบหน้าคมยกยิ้มมุมปากอย่างรู้ทางคนรักแสนน่าเอ็นดู
“หายๆ สองชิ้นรับรองหายงอนเลย ถ้าสามชิ้นแถมหอมแก้มให้ด้วย นะ นะๆ”
รอยยิ้มหวานบอกอ้อนทันทีแทนที่อาการงอนที่หายไปอย่างเป็นปลิดทิ้ง คยูฮยอนยิ้มขำลุกขึ้นไปหยิบครีมบัฟที่เตรียมไว้ให้ พลางคิดว่าถ้าหากเรื่องของซีวอนและฮยอกแจเข้าใจกันได้ด้วยดีแล้วคงต้องทำให้เรื่องของเขากับซองมินชัดเจนมากยิ่งขึ้นกว่านี้..เขามีความสุขจนปล่อยให้คนๆนี้ไปไหนไม่ได้อีกแล้ว
เฮ้อ...ก็เนี่ยละนะลีซองมิน...แค่มีเธอก็ทำให้ยิ้มได้เสมอแล้วล่ะ...^^
TBC.
_.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._.Flip Love._.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._
ซอวรี่น้าาาา ยังมีใครจำเรื่องนี้ หรือรอเรื่องนี้กันอยู่มั้ยคะ
บอกกิ้บหน่อยนะ จะได้มีแรงฮึดว่าไม่ได้แต่งอ่านเองคนเดียว -3- คริๆ
ชื่อตอน รั้ง...รอ... มาจาก วอนที่รั้งฮยอกเอาไว้ กับฮยอกที่รอเวลานี้นะคะ(ม่ะ) คิดเองงงเอง ฮ่าๆๆๆ -.,-
เฮนรี่เป็นแขกรับเชิญนะคะ อิอิ กิ้บชอบเฮนรี่มากเลย ติดรายการ real man 555 น่ารักใสซื่อมากอ่ะ
เลยจับมาใส่ในเรื่องด้วยเลย เฮนรี่จะช่วยให้ฮยอกมีรอยยิ้มมากขึ้นเร็วขึ้นอีกค่าาาา
มีคำผิดเยอะอยู่เรื่อยๆแต่ไหนแต่ไร ได้โปรดมากข้ามหรือบอกได้นะคะ
ส่วนมากเสร็จแล้วไม่ค่อยได้อ่านทวน แต่จะอัพเลย รอตอนต่อๆไปกันด้วยนะคะ เรื่องนี้ไม่เกิน 50 ตอนค่ะ
ตอนต่อไป!!! ชเวซีวอนที่กลับบ้านไปคุยกับแม่และ มิริน!!!
ขอบคุณทุกคนที่ยังแวะเข้ามา อ่าน โหวต และก็คอมเม้นต์ให้นะคะ ^^ รักที่สุดเลย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

หัวใจอยู่ไหน ไปตามมาซะ
วอนอย่ามัวแต่ร้องไห้สิรีบไปตามฮยอกกลับมา
สงสารซีวอนเนอะ ร้องไห้ตามพี่วอนเลย
แงงงงงงงงง ไปตามฮยอกกลับมาด้วย
เอาให้จบเลยนะคุณชเว ฮยอกเเจจะได้ไม่เสียใจอีก
มาอัพเร็วๆนร้าค่า
เป็นกำลังใจให้นะคะ
วอนนะวอน
ทำยอกแจเสียจายได้งาย
สงสารฮยอกมากเลยอะตอนนี้
แอบสมน้ำหน้าวอนนิดๆๆอยากโลเลเองช่วยไม่ได้
สงสารฮยอกแจมากๆเลยอ่ะ
อิคนใจร้าย เป็นไงหล่ะ
ลองเป็นคนเจ็บดูบ้างละกันนะ แต่อย่างเพิ่งถอดใจ เด่วฟิคจะไม่ใช่วอนฮยอก
ถ้าพี่ซึงโฮไม่ขึ้นไม่รับ...ฮยอกแจจะใจอ่อนมั้ยน้า
ยังไม่สงสารคุณหรอกนะคะคุณชีวอน ความเป็นสุภาพบุรุษของคุณทำร้ายฮยอกมานานเกินละ
เพราะฉะนั้นจงจมกับกองน้ำตาและสำนึกความผิดต่อไป.....สักพัก55
อยากรู้เหมือนกันชีวอนจะจัดการยังไงกะมิริน
เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะไรท์เตอร์ สู้ ๆๆ
ต้องไปตามหัวใจตัวเองกลับมาให้ได้
ยังรอเรื่องนี้เสมอค่ะ
เป็นกำลังใจให้น่ะ
ซีวอนอย่ายอมแพ้นะ ฮือๆๆๆๆ แพ้น้ำตาซีวอน
TT ฮือออออออออออออออ
ไปเคลียกะยัยมิรินให้เรียบร้อยเบยยยยย ค่อยไปง้อฮยอกแจ
T^T
นึกว่าวอนจะไม่รู้ตัวตอนฮยอกไป ก็รู้แต่ไม่กล้ารั้งเหรอ
โอ๊ย รักก็ต้องพยายามหน่อยดิ ฮยอกเสียน้ำตามาเยอะนะ