ตอนที่ 39 : *Flip Love*: Chapter 34 พิสูจน์...หลักฐาน (100%)!
Chapter 34 : พิสูจน์...หลักฐาน
แคร๊ง!...แกร๊ก....ฟึ่บ
“...งื้ออออ ไม่มีอ่าาา”
เจ้าของกลุ่มผมนุ่มที่สะบัดโผล่ขึ้นมาจาก...เอ่อ...ถังขยะขนาดใหญ่ด้านหลังของร้าน Vanilla’s Story โวยวายเสียงแง้วๆ แขนบางทั้งสองข้างยังคงค้ำไว้บนกองขยะภายใน ที่มีทั้งเศษกระสอบน้ำตาลทราย ถุงแป้งขนาดใหญ่ และอะไรมากมาย ที่เป็นขยะแห้ง...
“หรือจะลงไปหาในถังขยะเปียกดีนะ” ซองมินบ่นงึมงำอย่างลังเล พลางชะเง้อสายตามองไปที่ ถังขยะสีเข้มข้างๆ
แล้วกลุ่มผมที่มีเศษกระดาษ หรือแป้งบางอย่างติดอยู่ก็สะบัดไล่ความคิดนั้นออกไปทันทีจนผงสีขาวที่ติดมาฟุ้งกระจาย
“ง่า ไม่ไหวๆ กลับบ้านคงต้องอาบน้ำซักห้ารอบ”
ลีซองมิน คนที่ตอนนี้กำลังนั่งแหมะอยู่ใน ถังขยะขนาดใหญ่ ถังเดียวกับที่วันก่อนเขาได้ยินเสียงลมพัดเอาฝาหล่นกระทบเสียงดังลั่น เพราะมานั่งคิดแล้วคืนนั้นมีแค่ตรงนี้จริงๆที่มีอะไรแปลกๆ ถึงรู้ว่าคงจะไม่มีหลักฐานอะไร เพราะคงถูกรถขยะเก็บไปหมดแล้ว แต่ก็อยากลองเริ่มหาจากตรงนี้ดู
ฮึ่บ ตุบ
ร่างกลมดันตัวเองออกมาจากถังขยะใหญ่จนได้ เท้าเล็กสัมผัสเข้ากับพื้นที่มีเศษขยะเล็กๆหล่นอยู่บ้าง ตากลมมองไปก็เห็น เศษมุมถุงพลาสติกซักอย่าง ก้นบุหรี่ กระดาษทิชชู่....
“หือ? ก้นบุหรี่เหรอ” ดวงตาหวานชักกลับมายังที่มีก้นบุหรี่วางนิ่งอยู่ ปลายนิ้วเล็กลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยื่นไปจับขึ้นมา
“จำได้ว่าวันนั้นได้กลิ่นบุหรี่...จะใช่อันนี้มั้ยเนี่ย...” มือบางเขี่ยไปมาสังเกตุลักษณะพิเศษของก้นบุหรี่สีน้ำตาลที่มีขอบกระดาษไหม้ติดอยู่
ฟิดๆ...
กระต่ายจมูกดีใช้ความสามารถที่มีทันที กลิ่นที่ประสาทสัมผัสรับได้คือ กลิ่นของใบยาสูบทั่วไป แต่ที่แปลกคือดันมีกลิ่นบางอย่างที่เขาเคยดมแต่นึกไม่ออกว่ากลิ่นอะไรและเมื่อไหร่
“อือ...กลิ่นอะไรน้าา....” ดวงตาหวานมองขึ้นด้านบนอย่างใช้ความคิด พยายามนึกย้อนไปว่า เคยได้กลิ่นนี้ที่ไหน
“ซองมิน ทำอะไรอยู่น่ะ”
ในขณะที่ซองมินกำลังตามหาความทรงจำส่วนนั้นอยู่ เสียงเรียกของคยูฮยอนก็ทำให้ต้องหยุดคิดลง
“อ่า...คือ ฉันลองดูๆแถวนี้น่ะ”
“หึ ลองดูแถวๆนี้ หรือ ลงไปดูในถังขยะนี้กันแน่” เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอด้วยความเอ็นดู มือหนายกขึ้นปัดเศษเล็กๆที่กลุ่มผมนิ่มออก
“แล้วนี่อะไรน่ะ ก้นบุหรี่นี่”
“อือ...ฉันเจอมาอยู่ตรงข้างถังเนี่ยแหละ...ฉันว่าต้องเป็นของคนร้ายแน่เลย” ตาหวานเป็นประกายขึ้นมเล็กน้อยด้วยความหวังเริ่มมีมากขึ้น
“อืม...จริงด้วยสิ วันนั้นเราก็ได้กลิ่นบุหรี่แถมยังได้ยินเสียงแปลกตรงนี้ คนร้ายอาจจะเป็นสาเหตุของสองอย่างนี้ก็ได้”
“อื้อ...งั้นคุณปาร์คมยองซูก็เข้าข่ายมากที่สุด....แต่ว่ามันก็ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าเป็นเขานี่เลยนา” ริมฝีปากบางยู่เข้าหากันอย่างคิดไม่ตก แต่แล้วดวงตาหวานก็เป็นประกายขึ้นมาใหม่เมื่อมีความคิดดีเกิดขึ้น
“นี่คยู...ฉัน..”
“ตาคยู กลับบ้านไปช่วยแม่เรื่องบัญชีร้านหน่อยสิ”
ไม่ทันที่ซองมินจะเอ่ยจบ เสียงของโจวยูยองก็ดังขึ้น จากทางประตูหลังร้าน
“....ก็ได้ครับ” คยูฮยอนลอบถอนหายใจเล็กน้อยแล้วหันกลับมาหาซองมิน รู้ถึงสาเหตุที่มารดาตนอยากให้กลับบ้านไปช่วยงานที่ไม่เคยต้องช่วยได้ดี
“ซองมิน ผมต้องกลับบ้านก่อนนะ เดี๋ยวผมไปแวะส่งที่บ้าน”
“ง่า...คือ” ซองมินดูลังเลเล็กน้อย แต่แล้วก็ยอมเอ่ยออกมาด้วยแก้มสีแดงๆ
“คยู...ฉันขอค้างที่นี่ได้มั้ยอ่า...” นัยน์ตาคมดูมีประกายประหลาดใจและแวววาวแปลกๆจนซองมินต้องรีบบอกต่อ
“คือ ฉันอยากหาคนร้ายต่อน่ะ ถ้ากลับบ้านก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากกินข้าวฝีมือแม่แล้วนอนอืดแน่เลย นะนะ”
ดวงตาหวานกระพริบปริบๆอย่างที่ใช้ขอหรืออ้อนทุกที แล้วมีหรือคยูฮยอนจะไม่ให้ ยิ่งด้วยซองมินขอค้างกับเขาก่อนด้วยยิ่งน้อยแสนน้อย
“ได้อยู่แล้ว...แต่ไม่รู้ว่าผมจะกลับจากบ้านใหญ่กี่โมงนะ”
“ไม่เป็นไรๆ ฉันอยู่ได้” ซองมินแย้มยิ้มหวานให้ดวงความดีใจ เลยได้แรงดึงที่แก้มกับรอยยิ้มหล่อๆของแฟนหนุ่มแทน
_.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._.Flip Love._.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._
เช้าวันอาทิตย์ วันหยุดของมหาวิทยาลัย และวันหยุดของร้าน Vanilla’s story ตัวกลมๆของกระต่ายสีขาวที่ดูปุกปุยด้วยเสื้อกันหนาวสีเทาอ่อนรับกับผ้าพันคอนุ่มๆสีขาวล้วน ร่างนิ่มกำลังเดินตระเวรแถวหน้าร้านไปทั่วคนเดียวอย่างที่ไม่สนใจสายตามากมายที่มองไปมา
แล้วทำไมคนที่ติดคนรักอย่างโจวคยูฮยอนไม่อยู่ด้วยน่ะเหรอ ก็จะอะไร ถ้าไม่ใช่ โจวยูยองประมุขของบ้านเรียกให้กลับบ้านใหญ่ไปช่วยงานตั้งแต่เช้า ข้อหาไม่ยอมนอนค้างที่บ้าน แต่ลูกชายคนเดียวของบ้านก็รู้ได้ดีว่า ไม่อยากให้อยู่ช่วยคนรักตามหาขโมย แต่รู้ดีว่าขัดไม่ได้ จึงทำได้แค่บอกให้ซองมินระวังตัว
ตาหวานกวาดมองไปทั่วอย่างไม่รู้จุดหมาย มือเล็กหยิบเอาก้นบุหรี่ในถุงพลาสติกใสขึ้นมาจ้องดูอีกรอบ
“เฮ้อ...โทรตามโคนันดีกว่ามั้ยเนี่ย -3- จ้องไปก็ไม่รู้เจ้าของอยู่ดี”
เหมือนว่าจะรู้สึกจนหนทาง ซองมินเลยเดินไปเรื่อยๆ แถวนี้อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย มีร้านรวงมากมาย คนเดินไปเดินมาก็มาก แต่ไม่มีใครช่วยเขาได้เลย เพื่อนสนิทก็ดูไม่ร่าเริง เขาโทรหาฮยอกแจแต่ไม่ทันจะเล่าเรื่องอะไรให้ฟัง เสียงของเพื่อนรักกลับฟังดูเหมือนว่ามีเรื่องหนักใจมากกว่าเขาอีก แต่ถามไปก็ได้แต่คำว่า ไม่เป็นไร กลับมา
“อ้ะ...กลิ่นขนมปัง”
จมูกเล็กๆทำงานทันที เมื่อกลิ่นหอมๆของสิ่งที่เขาได้กลิ่นจากคนรักทุกวันโชยมา แต่วันนี้ไม่ใช่กลิ่นหอมเฉพาะแบบคยู แต่เป็นกลิ่นที่เจือกลิ่นผงสีน้ำตาลมา
“อ่า เดินมาถึงร้าน Sweet’n Joy แล้วนี่เอง” ร้านที่อยู่ไม่ไกลจากประตูมหา’ลัยเช่นกัน เพียงแค่อยู่คนล่ะฝั่ง และเป็นร้านของ นายโกโก้นี่!
..
..
“นี่ เจ้าแทค!ลุกขึ้นมาเลย ตื่นนนนน”
“อะไรเล่าแม่ ผมขอนอนต่อหน่อย วันนี้วันอาทิตย์นี่” ร่างสูงผิวสีเข้มกำลังนอนขดเอาหมอนปิดหน้าด้วยความรำคาญ เมื่อคืนดูหนังจนเกือบเช้า เพิ่งได้นอนอุตส่าห์ดีใจที่เป็นวันหยุด แต่ไหงแม่เขาถึงมาปลุกได้ล่ะเนี่ย
“เอ่อ วันอาทิตย์ แต่มีคนหาแกโน่น”
“ใครอีกอ่ะ รุ่นน้องที่ไหนมาอีกอ่ะ บอกเลยแม่ว่าผมไม่อยู่ เบื่อสาวๆจอมตื้อ” เสียงทุ้มเครือแหบบอกออกมาจากใต้หมอน
“ไม่ใช่สาว แต่เป็นหนุ่มหน้าตาน่ารัก เรียกเราว่า โกโก้ แม่เห็นน่ารักดีเลยมาตามเรา แต่ถ้าขี้เกียจตื่นนัก เดี๋ยวแม่..”
“ไม่ต้องแม่!!! เดี๋ยวผมลงไป บอกเค้ารอก่อนนะแม่!!”
แม่ของแทคยอนตกใจไม่น้อยที่อยู่ดีๆลูกชายร่างใหญ่ก็ลุกพรวดจากเตียง แถมมาจับเขาเขย่าเบาๆเน้นว่าให้เขารอ ก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำไป
..
..
เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบห้านาที อ๊คแทคยอนก็ลงมาชั้นหนึ่งของบ้าน หรือก็คือร้านเบเกอรี่ที่เขาเลี่ยงจะเข้าไปแทบทุกวัน(กลิ่นติดตัว) แล้วก็เห็นคนน่ารักนั่งอยู่ที่โต๊ะเล็กๆริมกระจกจึงเดินตรงเข้าไปหา
“อ้ะ โกโก้ อรุณสวัสดิ์” ซองมินแย้มยิ้มหวานให้ เพื่อน ที่ไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่วันนั้น จนทำให้คนที่เป็นได้แค่ เพื่อน ยิ้มตอบ
“อรุณสวัสดิ์ ซองมิน”
“อื้อ...ครัวซองแฮมชีสของร้านโกโก้อร่อยเหมือนกันน่ะเนี่ย ปกติกินแต่ที่ร้านของคยู ไม่ได้มากินร้านนี้นานแล้ว” แก้มขาวกลมที่ข้างในมีครัวซองแฮมชีสอยู่เต็มโย้ออกมาพลางบอกด้วยน้ำเสียงน่ารัก ยิ่งทำให้แท็คยอนต้องพยายามไม่มองไปที่ใบหน้าน่ารักนั้น
“ละแล้ว...ซองมินทำไมวันนี้ถึง...”
“อ่า...ไม่มีอะไรหรอก วันนี้ที่ร้านไม่ทำขนมน่ะ หยุดหนึ่งวันเลยออกมาเดินเล่นตอนเช้าดู แล้วก็ได้กลิ่นหอมๆจากบ้านของโกโก้เนี่ยแหละ อิอิ”
“งะงั้นกินนี่นะ นี่ด้วย” นักบาสร่างสูงลุกขึ้นไปคีบขนมปังอีกหลายชิ้นใส่ถาดมาให้ซองมิน ที่โต๊ะ
“อ่า...ถึงฉันจะกินเก่งแต่ว่าฉันก็อิ่มน้าาา ขอบคุณโกโก้นะ...เอาใส่ถุงได้ม่ะอ่า” (ไม่ได้จะปฏิเสธสินะ =_=)
“ได้สิๆ”
ซองมินนั่งทำลายล้างเบเกอรี่ในร้าน Sweet’n Joy อยู่สักพักก็จำต้องไปไปตามหาขโมยต่อ เมื่อคำนวนแล้วว่า พรุ่งนี้วันจันทร์ต้องไปเรียนยาว ไม่รู้ว่าจะว่างตามหาจริงจังได้ตอนไหน ยิ่งใกล้สอบปลายภาคแล้วด้วย เดี๋ยวจะอ่านหนังสือไม่ทันเอา
มือนิ่มหยิบเอาถุงใส่ก้นบุหรี่ขึ้นมาดูอีกรอบ เมื่อกี้ตอนที่เขาเดินมาเรื่อยๆ เขาก็แวะถามร้านค้าแถวนี้ดูว่า มีบุหรี่แบบนี้บ้างมั้ย มีแต่คนบอกว่าไม่มี ไม่เคยเห็นเลยทั้งนั้น
“นั่นอะไรเหรอ ซองมิน”
“อ่า ฉันไม่ได้สูบบุหรี่น้า ฉันกำลังตามหาบุหรี่ยี่ห้อนี้อยู่น่ะ มันมีกลิ่นแปลกๆ ไม่เหมือนกลิ่นบุหรี่ทั่วไป”
“งั้นเหรอ...ให้ผมช่วยมั้ย ผมพาไปร้านของรุ่นพี่เขาเปิดร้านขายบุหรี่ ไฟแช็คต่างประเทศแบบนี้อยู่น่ะ”
“ว้าว จริงเหรอ โกโก้พาฉันไปหน่อยนะ” ซองมินดีใจจนยื่นมือนิ่มไปจับที่ต้นแขนหนาพร้อมรอยยิ้มหวาน จนคนที่ได้รับต้องหันหน้าหนีอีกครั้ง อย่างกลัวว่าจะพลั้งเผลอไปอย่างคราวที่แล้วอีก
..
..
ตอนนี้หัวใจดวงโตของ อ๊คแทคยอนกำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ ด้วยการที่ตอนนี้เขากำลังเดินอยู่ในทงแดมุนกับคนน่ารักของเขา สมองคอยเตือนตัวเองไม่ให้คิดว่านี้คือ เดท มันคือการมาเป็นเพื่อน ตัวเองรู้ดี แต่ก็ห้ามไม่ให้มุมปากมันยกขึ้นไม่ได้เมื่อซองมี้ชวนให้ดู หรือแวะซื้อของเล็กๆน้อยๆระหว่างทาง
“ว้าวววว น่ารักจัง” ซองมินที่แวะเกาะกระจกหน้าร้านขายสัตว์เลี้ยง ด้านในมือน้องหมาขาสั้นๆท่าทางจะเพิ่งเกิดเดินโซเซ น่ารักน่าชัง
“อือ...น่ารัก”
“เน้าะๆ” คนที่กำลังถูกชมว่าน่ารักอย่างไม่รู้ตัวหันกลับมาพยักหน้าเห็นด้วยจนแทคยอนได้แต่ยิ้มตาม ร่างสูงลอบมองหระจกที่สะท้อนเงาของเขาและซองมิน คนหนึ่งร่างสูงตัวหนาเหมือนนักกีฬาทั่วไป ส่วนอีกคนดูน่ารักปุกปุยน่าเอ็นดูและมีรอยยิ้มน่ารักติดใบหน้าเสมอ
ทำไมถึงดูไม่เข้ากันนะ....
หรืออาจจะเป็นเพราะความรู้สึกจากข้างใน...ที่มันไม่ได้ไปด้วยกัน
..
..
“อ้าว ไอ้แทค วันนี้นึกไงแวะมานี่”
เสียงเจ้าของร้านร่างสูงพอๆกับแทคยอนเอ่ยทักเมื่อประตูกระจกหน้าร้านถูกเปิดออก
“หวัดดีเฮีย พอดี เพื่อนผมเขาอยากถามเรื่องบุหรี่หน่อยนะ เฮียช่วยหน่อยนะ”
“หือ?...ได้อยู่แล้ว หึ” ชายเจ้าของร้านมองหน้ารุ่นน้องเล็กน้อยแล้วหัวเราะในลำคอ แทคยอนทำสีหน้าไม่ถูก รู้ว่ารุ่นพี่คงคิดไปแล้ว เลยหันไปหาซองมินให้เอาก้นบุหรี่ที่ว่าขึ้นมา
“อ่า...นี่ฮะ...พอจะรู้มั้ยฮะว่ายี่ห้ออะไร มันมีกลิ่นแปลกๆน่ะฮะ” รุ่นพี่หยิบเอาก้นบุหรี่ในซองพลาสติกนั้นขึ้นมาดูใกลแล้วหมุนดูเล็กน้อย
“รู้ด้วยเหรอว่ากลิ่นแปลก เก่งนะเรา”
เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยจบก็หันไปหยิบอะไรบางอย่างด้านหลังเค้าท์เตอร์แล้วก็หันกลับมาวางกล่องกระดาษสีน้ำตาลล้วนลง
“นี่เลย...เป็นยี่ห้อนอก แต่ชอบเอามาขายแบบหนีภาษีกันมากเพราะราคาสูง จุดขายคือมันมีกลิ่นมิ้นท์”
“!!! อ้า ใช่! กลิ่นมิ้นท์ ทำไมนึกไม่ออกน้า” ซองมินตบมือเสียงดังพร้อมกับเอ่ยน้ำเสียงแสดงความเสียดายที่คิดไม่ออกตั้งแต่แรก
“หึหึ...น่ารักนะเรา แฟนรุ่นน้องพี่มั้ยเนี่ย”
“เปล่าฮะ โกโก้เป็นเพื่อนฮะ โกโก้ใจดีช่วยผมตลอดเลย^v^”
หนุ่มร่างสูงหันมามองหน้ากันอย่างเข้าใจ คนกลางที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขา ใสซื่อจริงๆ จนดคนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกยังดูออกเลยว่า สายตาที่แทคยอนมองคนตัวอวบมันมากกว่าเพื่อน
..
..
“ขอบคุณโกโก้มากเลยน้าาา เนี่ย ได้ทั้งยี่ห้อ ได้ทั้งกลิ่นที่คิดไม่ออก อย่างนี้ค่อยยังชั่วหน่อย”
หลังจากที่ทั้งสองกล่าวขอบคุณเจ้าของร้านแล้วเดินกันออกมาด้านนอกร้าน ทางเดินที่ยังเต็มไปด้วยผู้คนมากมายของทงแดมุนยิ่งช่วงเย็นๆอย่างนี้คนยิ่งเยอะเป็นพิเศษ
“ไม่เป็นไรหรอก...ว่าแต่ซองมินตามหาเรื่องบุหรี่ทำไมเหรอ”
“ง่า...ที่ร้านคยูมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ...นี่ โกโก้ ฉันหิวแล้วล่ะ ไปกินข้าวกันนะฉันเลี้ยงเอง”
ซองมินที่ไม่กล้าบอกว่าที่ร้านมีเรื่องขึ้น กลัวว่าจะเสียชื่อเสียงของร้านได้เลย ชวนเปลี่ยนเรื่องและเรื่องที่คิดออกก็มีแค่เรื่องกินเท่านั้นแหละที่ทำได้ดี
“จะจริงเหรอ ได้ซิได้ไปครับไป”
“อื้อ งั้นไปเดินดูแถวนี้เน้าะ เมื่อกี้เห็นร้านน่ากินหลายร้านเลย” คนร่างอวบเดินนำไปด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ตาหวานมองซ้ายขวาอย่างสนใจเพราะท้องน้อยๆเริ่มหิวอีกแล้ว หาอะไรกินแล้วค่อยกลับไปบอกคยูเรื่องบุหรี่ดีกว่า
“อ้ะ!นั่น...” แต่แล้วนัยน์ตาใสก็เห็นชายร่างท้วมคนหนึ่งที่เขาเคยเดินชนในร้านเมื่อวันก่อน ปาร์คมยองซู เดินสูบบุหรี่อยู่ไปไกล
“มีอะไรงั้นเหรอ ซองมิน”
“อ่า...เหมือนจะเจอคนรู้จักน่ะ” แม้จะตอบแทคยอนไปแบบนั้น แต่เจ้าตัวอวบกลับย่อตัวลงแล้วค่อยๆแอบๆก้าวตามไป แทคยอนที่เห็นซองมินทำอย่างนั้นก็ทำตามอย่างไม่ค่อยเข้าใจ ถึงร่างใหญ่ของแทคยอนทำอย่างนั้นแล้วมันยิ่งเรียกสายตาคนรอบข้างก็เถอะ
“โอ้ะ เข้าไปในร้านนั้นแล้ว” ซองมินหยุดเดินแล้วชันตัวขึ้น เช่นเดียวกับแทคยอน ดวงตาสองคู่มองเข้าไปด้านในร้านที่ผู้ชายคนนั้นก้าวเข้าไปก็เห็นว่าเป็นร้านอาหารเกาหลีทั่วไป ไม่สะดุดตามากนัก และไม่ต้องคิดอะไร มือนิ่มก็จับแขนหนาให้ก้าวตามเข้าไป
ด้านในของร้านเป็นโต๊ะแบบที่แบ่งไว้เป็นสัดส่วนมีฉากกั้นสูงเท่าศีรษะระหว่างโต๊ะ ช่วยกันให้ซองมินและแทคยอนไม่ต้องก้มหลบมากทั้งที่นั่งอยู่โต๊ะติดกับชายร่างท้วมคนนั้น
“ขอโทษนะคะคุณ ทางร้านเรางดสูบบุหรี่ในร้านน่ะค่ะ”เสียงพนักงานสาวเอ่ยบอกที่โต๊ะมยองซู แต่กลับได้เสียงขุ่นไม่พอใจกลับมา
“แล้วจะตั้งที่เขี่ยบุหรี่ไว้ที่โต๊ะทำไมล่ะห่ะ”
“คือ...อันนั้นมันที่รองแก้วนะคะไม่ใช่ที่เขี่ยบุหรี่”
“คิก...คิก” มือเล็กยกขึ้นปิดกลั้นเสียงหัวเราะน่ารักของตัวเองจนตัวสั่น อิอิ โดยมีแทคยอนนั่งมองอาหารตาที่อิ่มกว่าอาหารไหนๆด้วยรอยยิ้มเต็มแก้ม
“นี่ ทำไมถึงนัดมาที่นี่ ฉันไม่ชอบรู้มั้ยร้านโทรมๆแบบนี้น่ะ”
แต่แล้วเสียงเล็กของหญิงสาวคนหนึ่งก็ดังแหวขึ้นมาจากฝั่งโต๊ะของมยองซู ซองมินเอียงคอคิดว่าคุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหน แต่แล้วต้องรีบตั้งใจฟังบทสนทนาที่เกิดขึ้นแทน
“จะให้ผมไปร้านหรูๆรึไง คนยิ่งมองน่ะสิ”
“เออๆเอาเถอะ รีบคุยๆจะรีบกลับ ไม่อยากนั่งที่นี่นานหรอกนะ ไหนจะเดี๋ยวใครมาเห็นเข้าอีก” หญิงสาวพูดออกมาด้วยสีหน้ารำคาญเต็มทน มือเรียวกรีดกรายหยิบเอาซองสีขาวที่ดูหนาๆออกมาจากกระเป๋าแบรนด์เนมของตนแล้วยื่นให้มยองซู
“เอานี่ งวดแรก...ที่เหลือค่อยเอาไปเมื่องานเสร็จ...แต่!”
เสียงของหญิงสาวที่เงียบไปช่วงหนึ่งกลับเอ่ยดังขึ้นเล็กน้อย ในจังหวะที่มยองซูกำลังจับซองเงินหนานั้นพอดี
“...แต่จะได้เงินครบก็ต่อเมื่อคนร้ายเป็นยัยนั่นเท่านั้น”
“! แล้วผมจะไปทำยังไงให้พวกเค้าคิดว่า ยัยเด็กอวบนั่นเป็นคนร้ายล่ะ”
“.......” ฟังมาถึงตรงนี้ คิ้วเรียวของซองมินขมวดมุ่นอย่างสงสัย คิดในใจว่า...สิ่งที่สมองมันพาลให้คิดผูกเรื่องไปเองนี่ จะจริงอย่างนั้นเหรอ ว่าแล้วซองมินจึงค่อยๆยื่นศีรษะกลมออกไปมอง แล้วดวงตาใสก็เบิกกว้างกับสิ่งที่เห็น
!!!...นี่มัน.....
_.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._.Flip Love._.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._
50%
“วันนี้ขอบคุณโกโก้มากเลยน้าาา ถ้าไม่ได้โกโก้วันนี้ ฉันคงแย่แน่เลยอ่ะ”
แทคยอนเดินกลับมาส่งซองมินที่หน้าร้าน Vanilla’s Story เจ้าของใบหน้าหวานก็เอ่ยขอบคุณด้วยรอยยิ้มหวานนนนน จนแทคยอนได้แต่จับท้ายทอยอย่างเขินๆ
“ไม่เป็นไรหรอก ผมเต็มใจ...”
หลังจากที่ซองมินนิ่งอึ้งไปกับหญิงสาวที่เพิ่งเข้ามาใหม่คนนั้น ก็ดูเหมือนจะสบายใจขึ้นมาแต่ก็ยังมีเรื่องกังวลคือ เขาไม่รู้ว่าแม่ของคยูฮยอนรู้เรื่องนี้รึเปล่า ไม่รู้ว่าถ้าพูดความจริงออกไปจะโดนโกรธแค่ไหน แต่เมื่อคิดแล้วยังไงก็ต้องบอกไป
“งั้นไว้เจอกันที่มหา’ลัยนะ” ซองมินบอกจบกำลังจะหมุนตัวเข้าทางด้านหลังร้าน มือหนาของแทคยอนกลับยื่นมากำข้อมือนิ่มไว้หลวมๆ
“ซองมิน...มีเรื่องอะไรที่นี้งั้นเหรอ...ปรึกษาผมได้นะ” เขาดูออก ดูออกว่าซองมินยังมีเรื่องกังวลใจ และอยากเป็นที่พึ่งให้คนน่ารักซักนิด...และยืดเวลาอยู่ด้วยกันออกไป
“อ่า...ฉัน....”
“คงไม่ต้องรบกวนนาย”
เสียงทุ้มอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังซองมินเรียกให้สายตาทั้งสองคู่หันไป คยูฮยอนที่กำลังก้าวเข้ามา มือหนายื่นไปจับแขนซองมินให้หลุดจากแทคยอน
“ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่เห็นทีจะไม่ต้อง...เรื่องในครอบครัว...เราจัดการกันเองได้...ขอบคุณ”
“อ่ะ..อ่าโกโก้โชคดีน้า..ขอบคุณณณ”
คยูฮยอนที่เอ่ยจบก็หมุนตัวก้าวเดินกลับไปทางประตูหลังร้านโดยมือซองมินที่เดินกึ่งวิ่งตามแรงลากตะโกนบอกโกโก้ไปด้วย
..
..
“ง่า...คยู...ก็วันนี้ที่ร้านไม่ทำขนมอ่า...ฉันเดินผ่านร้าน Sweet’n Joy แล้วก็ลอยตามกลิ่นเข้าไปในร้านอ่า...เมื่อก่อนฉันก็กินบ่อยน้า แต่ตั้งแต่เจอคยูก็....(.////.)”
คำอธิบายที่ไม่เคยต้องเอ่ยบอกให้พูดซองมินก็รีบบอกก่อนออกมาทุกครั้ง เพราะกล้วแสนกลัว ซองมินกลัวที่สุดเลยเวลาคยูหรือเพื่อนโกรธเนี่ย...ง้อเอาไว้ก่อนเป็นรอดทุกที
และคำง้อที่น่ารักนี้ก็พอทำให้คนรักร่างสูงยิ้มออกมาได้ มือหนายื่นไปวางแปะบนคนที่นั่งอยู่ข้างเขาบนเตียงนุ่ม
“แล้วเขาช่วยอะไรน่ะ ถึงได้ดูเหมือนไม่ค่อยกังวลเท่าตอนออกจากห้องไปน่ะ” คงจะมีแค่ไม่กี่คนที่ดูออกว่าซองมินกำลังกังวลใจทั้งที่ใบหน้าหวานนั้นมีรอยยิ้มอยู่เสมอสองในนั้นคือ คยูฮยอนและแทคยอน
“คยู...”
“หืม?” มือหนาเกลี่ยผมนุ่มไปมาทอดสายตามองคนที่ช้อนตามองตอบอย่างกังวล
“วันนี้ฉันเจอก้นบุหรี่ที่ข้างถังขยะล่ะ...แล้วฉันก็ไปเจอโกโก้ แล้วโกโก้ก็เลยพาไปหาพี่ที่ขายบุหรี่...เขาบอกว่าเป็นกลิ่นมิ้นต์...”
“กลิ่นมิ้นต์งั้นเหรอ”
“อือ...วันนั้นที่ฉันเดินชนพี่พนักงานในร้านแล้วนึกไม่ออกว่ากลิ่นอะไรน่ะ...สงสัยฉันคงจะคิดไปเองว่าเหมือนกลิ่นยาสีฟัน...แต่ความจริงมันคือบุหรี่กลิ่นมิ้นต์น่ะ”
“งั้น...แสดงว่า พนักงานคนนั้นคือขโมยงั้นเหรอ...ใครล่ะ”
“คุณปาร์คมยองซูน่ะแหละ”
“...จริงๆด้วยสินะ”
“อือ...แต่ว่ามีหลักฐานแค่เรื่องกลิ่นนี้เท่านั้นอ่ะฉันรู้ว่าอาจจะเอาผิดเขาไม่ได้...แต่ว่าวันนี้พอออกจากร้านบุหรี่ว่าจะไปเลี้ยงข้าวโกโก้ตอบแทนที่ช่วย...”
คิ้วหนากระตุกนิดหน่อย...ช่างเป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลยจริงๆกับเรื่องความรักเนี่ย...และไม่รู้ด้วยว่าเขาหวง
“...ก็บังเอิญเห็นคุณมยองซูเดินอยู่พอดี ก็เลยแอบตามไปอ่า...แล้วก็เห็นเค้าสูบบุหรี่ยี่ห้อเดียวกับก้นบุหรี่ที่ถังขยะเลยนะ...แต่ว่า...ที่สำคัญคือ เค้านัดเจอกับคนคนนึงอ่ะ...”
“.....มีอะไรงั้นเหรอ...”
“คนที่เค้านัดมาอ่า...คือคุณกายุน...”
“...งั้นเหรอ” คยูฮยอนนิ่งไปเมื่อคาดว่าเรื่องนี้อาจจะซับซ้อนและยุ่งยากมากกว่าที่คิด
“อือ...เธอเอาเงินให้คุณมยองซูด้วยนะ....แถมบอกว่า...จะให้เงินอีกงวดเมื่อ...ยัยเด็กอวบเป็นขโมย...”
“! งั้นแสดงว่าเค้าจงใจสร้างเรื่องให้ซองมินผิดอย่างนั้นน่ะสิ” ร่างสูงชันตัวขึ้นตรงมองใบหน้าหวานติดจะไม่พอใจเมื่อนึกถึงคนที่มีเจตนาร้าย
“อือ...แต่คุณแม่จะเชื่อฉันมั้ยอ่าคยู...ถ้าคุณแม่โกรธล่ะ...” นัยน์ตาโตมองสบมาเจือแววกังวลอยู่ไม่น้อย คยูฮยอนจึงวาดแขนโอบไหล่นิ่มเข้ากอดพลางเอ่ย
“ก็ต้องลองพูดดู...ปกติคุณแม่เป็นคนมีเหตุผล....”
“อือ...เป็นอย่างนั้นก็ดีสิ...แต่คยู...” ใบหน้าหวานก้มลงเล็กน้อยเหมือนกำลังจะเอ่ยเรื่องที่ไม่สบายใจ
“.....”
“......ทำไมคุณกายุนต้องว่าฉันเป็นเด็กอวบด้วยอ่าาาา (-3-)”
“(;;-_-)”
“อ่า...อย่าบอกนะที่กังวลน่ะ...กังวลเรื่องนี้”
“อื้อ...ก็จริงที่คุณกายุนเขาผอมอ่ะ แต่ฉันก็ไม่ได้อวบมากซักหน่อยเน้...หรือว่าอวบไปแล้ว...”
ว่าจบแล้วซองมินก็ก้มลองหยิบเนื้อนิ่มๆที่ท้องของตัวเองดู เนื้อนิ่มที่ยืดออกมาแล้วยกขึ้นลงเป็นระลอกคลื่น(?)ได้ ทำให้ปากนิ่มสีชมพูยื่นแหลมอย่างงอนๆ
“คึคึ...” คยูฮยอนยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะตัวสั่น...เขาลืมไปได้ยังไง...ว่านี้คือลีซองมิน...คนน่ารักที่ชื่อว่าลีซองมิน...
_.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._.Flip Love._.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._
“อาหารฝีมือคุณแม่เนี่ยอร่อยที่สุดเลยครับ”
ว่าที่ลูกเขยบ้านคิมเอ่ยชมว่าที่แม่ยายตัวเองเสียงดังชัดเจนกลางโต๊ะอาหาร คิมฮยอซอนยิ้มรับหน้าบานจนเรียวอุคอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขัดสองคนที่เข้ากันดีเกิ้น
“พอเลย พูดเอาใจแม่รึเปล่า หวังอะไรป่ะเนี่ย”
“เปล่าซักหน่อยครับที่รัก...” พูดหยอดคำเรียกหวานๆแล้วหันส่งซิกกับแม่แฟนที่ยิ้มรับกับแก้มแดงของลูกตัวเอง
“แม่อ่า อย่าเข้าข้างเยซองซิ นี่ลูกแม่น้า” มือเล็กกำช้อนตั้งขึ้นอย่างงอนๆเรียกแม่ตนเอง
“เอ้า อีกเดี๋ยวเยซองก็เป็นลูกแม่เหมือนกันน้า...หรือไม่ใช่”
“คึคึคึ”
“(-///-)...คอยดูเหอะ...เดี๋ยวไม่ใช่ขึ้นมาอย่าโวยวายละงั้น ชิ” คนตัวเล็กล่ะหมั่นไส้จริงๆเรื่องอะไรมาแย่งเค้าอ้อนแม่ล่ะ
“อ่า....งั้นคุณแม่ครับ ตอนนี้ผมขอเลือกความมั่นคงในอนาคตก่อนดีกว่าครับ” เมื่อเห็นว่าจะเข้าตัว เยซองก็ขอกลับลำก่อนล่ะ
“หึหึ จ้า ว่าลูกเขย”
หลังจากมื้ออาหารที่แสนอบอุ่นผ่านไป เยซองก็ขอตัวกลับ เพราะวันนี้เขาต้องไปงานเลี้ยงที่แสนน่าเบื่อตามคำสั่งของมารดาที่ฝากบอกผ่านคนที่บ้านไว้ว่า...
‘ถ้าไม่อยากให้แม่ต้องไปถึงมหา’ลัยก็มางานคืนนี้ซะ’
“เฮ้อ...ไม่อยากไปเลย”
“ไปแค่แป้ปเดียวเดี๋ยวก็เลิกไม่ใช่เหรอ...ทนแป้ปเดียวนะ” เรียวอุคยื่นมือเล็กมากุมมือหนาไว้อย่างให้กำลังใจ จนคนที่กำลังจะเปิดประตูรถยิ่งไม่อยากไปมากขึ้นไปซะอีก
“...คืนนี้ผมกังวลใจแปลกๆ...เรียวอุคครับ...”
คนตัวเล็กสัมผัสได้ทันทีเมื่อผู้ชายคนนี้เรียกชื่อจริงของเขาแสดงว่า...มันเป็นเรื่องจริงจัง ไม่มีความล้อเล่นในนั้น
“...ไปกับผม...ช่วยอยู่เคียงข้างผมในคืนนี้หน่อยนะ...”
..
..
..
...หรือเขาจะคิดผิด
คิมเรียวอุคกำลังรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ผิดที่สุดๆ
หลังจากคำถามของเยซองในตอนค่ำที่หน้าบ้านของเขา ไม่ถึงชั่วโมงชุดสูทสีเทาฟ้าขนาดขนาดพอดีตัวเขาจนน่ากลัวก็ส่งตรงถึงบ้าน มีคุณแม่ช่วยเซ็ตผมให้แถมก็ยืนโบกมือส่งด้วยรอยยิ้มกว้าง(อย่างไม่คิดหวงลูกชายตัวเองซักนิด) แล้วก็มายืนอยู่ในโรงแรมหรูแห่งนี้แหละ
“จับมือผมไว้นะ...แล้วก็อย่ายิ้มให้หนุ่มในงานนี้ล่ะ ผมหวง” เยซองก้มลงกระซิบที่ริมหูเล็กด้วยเสียงทุ้มแหบๆจนเรียวอุคต้องหดคอหนีให้เยซองหัวเราะเบาๆแล้วจับมือกันเดินเข้างานไปพร้อมกัน
ภายในห้องกว้างที่ด้านเป็นโคมไฟระย้าอันใหญ่เกือบเท่าเพดานห้องเล็กๆของเรียวอุค มีโต๊ะวางอาหารและเครื่องดื่มไว้ด้านข้าง แต่ไม่มีใครไปยืนตรงนั้นเพราะ มีพนักงานคอยเสิร์ฟให้ถึงตัว
เยซองหยุดยืนตรงด้านข้างของห้อง หลีกจากคนจำนวนมากที่ไปรุมล้อมจุดศูนย์กลางของห้องเพื่อความเด่น
“น่าเบื่อใช่มั้ย...ไม่เหมือนนั่งคุยกันบนโซฟาที่บ้านเลยซักนิด...” เรียวอุคมองใบหน้าคมของคนพูดเสียงเรียบๆที่ทอดสายตามองออกไปอย่างเหม่อลอย
...บางอย่างบอกเขาว่า คนรักของเขาไม่มีความสุข
หมับ
แขนเล็กสอดเข้ากอดแขนหนาแน่นพร้อมกับใบหน้าสีชมพูที่เอนซบอย่างอ้อนๆ
“...ฉันไม่เบื่อหรอก...ก็...ฉันอยู่กับเยซองนี่...”
“......”
ใจดวงโตกำลังเต้นแรงและบอกซ้ำอีกครั้งว่า...เขารักคนตัวเล็กคนนี้จริงๆ...
ฟึ่บ
แขนหนาข้างที่ว่างยกขึ้นโอบไหล่เล็กให้เข้าชิด เขาอยากจะกอด...กอดให้แน่นจนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นไปพร้อมกัน
“คิมจงอุน!!!”
“!!!”
เสียงแหลมแหวขึ้นดัง เรียกชื่อจริงของเยซองจนคนทั้งสองตกใจจนผละออกจากกันเพื่อหันหน้าไปหาต้นเสียง และสีหน้าตกใจองเยซองก็มีเพียงครู่เดียว เมื่อเจ้าของเสียงคือมารดาของตน
“แม่...มีอะไร” น้ำเสียงที่ฟังดูเบื่อหน่ายเข้ากับใบหน้าคมที่เบือนหนีได้อย่างดี จนหญิงสาวมีอายุที่มีเค้าความสวยไม่สร่างในชุดราตรีสีดำสนิทมีเครื่องเพชรเม็ดโตเป็นเครื่องประดับยิ่งมีโทสะมากขึ้น
“ยังมีหน้ามาถามอีกเหรอว่าอะไร...เด็กนี่เป็นใคร มายืนกอดกันในงานอย่างนี้ได้ยังไงน่ะ...คุณนายโกเขามาด้วยไม่รู้รึไง” ปลายนิ้วเรียวเคลือบสีเบนชี้ไปที่เรียวอุคคิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นมองหาคนที่ตนกล่าวถึง พร้อมกับพยายามควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้ดังจนเกินไป
“ไม่รู้ เพราะไม่รู้จักและไม่เห็นจะต้องกังวล...เรียวอุคเป็คนรักของผม...ผมจะกอดกันที่ไหนก็ได้ไม่เห็นต้องกลัวว่าใครจะเห็น”
จีอันกำมือแน่นอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ให้เดือดไปกว่านี้ หญิงสาวสูงวัยสูดหายใจเข้าช้าแล้วเอ่ยด้วยเสียงเรียบๆ
“...แม่บอกแล้วไงว่า...แม่จะให้เราแต่งกับลูกสาวคุณนายโก...คนนี้น่ะถ้าแค่ควงเล่นๆก็ควงไป...แต่ไม่ใช่ในงานนี้”
คำพูดของคิมจีอันทำเอาเรียวอุคหน้าชา...รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในละครหลังข่าว และกำลังแสดงเป็นเด็กใจแตกที่พระเอกบ้านรวยแต่มีปัญหากำลังควงออกงานเล่นๆ มือเล็กพยายามดึงออกจากการเกาะกุมแต่มือหนากลับรั้งไว้จนดวงตาเรียวต้องเงยขึ้นมองสบ
นัยน์ตาคมที่มองมากำลังบอกเขาว่า ...เชื่อผม...อยู่กับผม...
การดิ้นดื้อรั้งมือออกของคนตัวเล็กหยุดลงเปลี่ยนเป็นยืนนิ่งแต่กลับก้มหน้าไม่มองสบตาใครแทน
“...ผมไม่สนว่าแม่จะไปคุยกับใครว่ายังไง...” เยซองวาดมือขึ้นโอบไหล่เล็กแล้วผลักให้มายืนด้านหน้าอย่างเท่าเทียมกันแล้วเอ่ยบอกเต็มเสียง
“...แต่คนที่ผมรักมีแค่คนเดียว...คือคนนี้..คิมเรียวอุค”
เสียงทุ้มของเยซองเอ่ยจบ ความเงียบก็เข้ามาครอบครุม ถึงแม้เสียงรอบข้างในงานจะมีจ้อกแจ้กจอแจ ก็ตาม แต่เสียงเหล่านั้นไม่ได้เข้าสู้โสตประสาทของคนทั้งสามเลยซักนิด
“.....แกจะคิดจริงจังกับเด็กที่ไหนก็ไม่รู้นี่น่ะเหรอ...” แล้วก็เป็นคิมจีอันที่เอ่ยขึ้น เหมือนว่าเสียงนั้นจะดูอ่อนลง...แม้เพียงนิดเดียวก็ตาม
“ผมรู้แค่ เรียวอุคเป็นคนดี...และเป็นคนที่ผมรักแค่นี้ก็พอแล้ว”
“.......” เรียวอุคเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของคนรัก นัยน์ตาหวานสั่นไหวไม่ต่างกับหัวใจที่พองโต มือเล็กกำมือหนาแน่น แต่ไม่คิดจะเอ่ยอะไรอย่างที่กลัวว่าจะยิ่งทำให้มารดาคนรักไม่พอใจ
“....แม่ทำงานอะไร...”
“!...คือ...คุณแม่เปิดร้านขายงานแฮนเมดที่ทงแดมุนฮะ...”ร่างเล็กตกใจเล็กน้อยกับคำถามที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยของจีอัน
“พ่อล่ะ”
“คุณพ่อผมเสียไปแล้วฮะ...”
“...เพราะอย่างนี้รึเปล่า แม่เลยไม่มีเวลาดูแลลูก...ลูกเลยต้องหาผู้ชายมาดูแลตัวเองซินะ”
“แม่!”
เยซองเรียกด้วยเสียงที่ดังขึ้นด้วยความไม่พอใจ เขารู้ว่าสิ่งที่แม่ตนเองพูดออกมามีความหมายไปในทางไหน เรียวอุคกระตุกมือเยซองแล้วส่ายหน้าให้ ใบหน้าเรียวหันไปหามารดาคนรัก ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจ แต่เหตุการณ์แบบนี้เขาควรนึกถึงจิตใจของคนรักเป็นอย่างแรกจะดีกว่า
“....ถ้าคุณป้าจะคิดอย่างนั้นก็ไม่ผิดเท่าไหร่หรอกฮะ...”
“!!!” เป็นทั้งเยซองและจีอันที่ตกใจ แต่แววตาของเรียวอุคก็ทำให้คนทั้งสองต้องรอฟังต่อ
“...ผมต้องการจะหาใครสักคนที่มาดูแลผมจริงๆ...และผมก็อยากจะดูแลใครคนนั้นเหมือนกัน...ถ้าเขาเป็นคนสำคัญของผม...ผมจะไม่มีวันปล่อยให้เขาโดดเดี่ยวหรือมีแววตาที่เจ็บปวดแน่นอนฮะ”
“........”
หมั่บ
แขนหนารวบร่างเล็กเข้ากอดแน่น ใบหน้าคมแนบไปกับขมับเล็กอย่างไม่สนใจคนเป็นแม่เลยซักนิด จีอันมองลูกชายตนเองกอดกับหนุ่มร่างเล็กนิ่ง...คำที่เสียงหวานเอ่ยออกมาเหมือนเข็มเล็กๆค่อยกดเข้าไปในใจ
เธอรู้ดีมาตลอดว่า ลูกชายคนเดียวของตัวเอง เริ่มตีตัวออกห่างและไม่สนิทกับตนเองเหมือนเดิม
...ไม่เคยคิดและยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นต้นเหตุมาจากตัวเอง ไม่เคยมีใครบอกออกมาว่าแววตาของลูกชายตนเองนั้นโดดเดี่ยวเพียงไหน
“......”
“...คุณจีอันคะ เชิญทางนี้หน่อยค่ะ คุณนายยูเธออยากคุยด้วยหน่อยนะคะ” เสียงของคุณนายในชุดหรูเอ่ยขึ้นด้านหลังของจีอันที่ยังมองลูกชายกับคนรักนิ่ง
เยซองมองตาของผู้เป็นแม่นิ่ง...หวังให้ความจริงใจของเรียวอุคช่วยให้เขาทั้งสองชนะยศศักดิ์หรือหน้าตาทางสังคมเหล่านั้นไป
“....ไว้ค่อยคุยกันใหม่” คิมจีอันเอ่ยออกมาเบาๆแล้วหมุนตัวเดินกลับไปทางหมู่คุณหญิงคุณนาย
เยซองค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา แม้จะไม่แน่ใจ แต่ใบหน้าคมก็หันมาหาคนรักที่มีรอยยิ้มบางๆประใบหน้าเช่นกัน
...หวังแค่นี้จริงๆ...แค่ให้มีรอยยิ้มให้กันทุกวัน...^^
TBC.
วิหิ้ววววว ไม่น่าเชื่อ ว่าอีไรเตอร์คนนี้จะมาอัพ ติดกันเร็วมากเชฟเตอร์นี้ -.,-
วันนี้ได้ฤกษ์อัพเรื่องนี้แล้ว ดีใจจัง ( -.,- ) ปิดเทอมแล้วววว
แล้วช่วงนี้ก็ปั่นฟลิปได้มันส์มือมากเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่า วันเดียวได้สิบหน้า จุดพลุให้ตัวเอง

วันก่อนพาน้องคอมไปซ่อมมา เร็วขึ้นเย้อะเลย
มีกำลังใจและไม่ท้อเวลาคอมอืดใส่อีกแล้วค่ะ ^^
ตอนหน้า!!! คยูมินอย่างต่อเนื่องค่ะ แล้วก็วอนฮยอกเล็กน้อย
ช่วงนี้จะเคลียร์ไปทีละคู่ค่ะ เตรียมตัวรับช่วงท้ายเรื่องแล้วล่ะ ^^
ขอบคุณหลายๆคนที่ยังเข้ามาอ่านเสมอน้าาาาา
ส่วนใครที่ยังไม่เห็นว่าตัวเองไม่เป็น รีดเดอร์ที่น่ารักก็อย่าเพิ่งงอนะคะ
กิ้บแคปเก็บไว้เรื่องเรื่อยจน กว่าเรื่องนี้จะจบน่ะแหละค่ะ ^^
ขอบคุณที่ทุกคนที่ เข้ามาอ่าน โหวต และคอมเมนต์ให้นะคะ
^__________^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สู้นะน้องอวบ
น้องอุคสู้ๆ อย่าไปยอมค่ะ
อย่าไปกลัวแม่สามี
ไม่ใช่นางเอกที่ต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัว
สู้เพื่อคนรัก ปกป้องศักดิ์ศรีตัว เด็ดมากคร่า
เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์นะค่ะ
มินสู้ๆนะจะได้ตัวคนร้ายแล้ว
*วิ่งหนีร้องเท้ามิน*
เอาเหอะๆ อ้วนแค่ไหนเกียมก็รักน่า อิอิ
หนูอุคเอาใจเค้าไปเลย
ตอบคำถามได้โดนใจมาก
ยี้ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ~
แต่ขำมิน ที่กังวลตกลงเรื่อง กลัวแม่คิยูไม่เชื่อ หรือว่า กังวลเรื่องความอวบกันแน่ 55555
น่ารักๆ จริงๆ เลย อี ซองมิน เนี่ยะ
นี่ยังดีนะที่มินเล่าให้คยูฟังก่อน ขอร้องอย่าเขวนะกี้ ไม่งั้นจะเชียร์โกโก้แระนะ ==
รอตอนต่อไปนะคะ ไรเตอร์กิ๊บสู้ๆๆๆๆ
มินสู้นะ
ลุ้นมากมาย โฮกกกกกกกก
จะป้ายความผิดให้มินๆหรอนั่น
เห็นบอกว่ายัยเด็กอวบ งืมๆ -3-
ขนาดทุ่มสุดตัวลงไปหาในถังขยะเลยอ้ะ
สวดยอดดดดดดดด
ไม่เจอในถัง แต่เจอนอกถังอ่า
ยังงัยก้อไม่เสียแรงเปล่าจริงๆ
ว่าแต่คุณแฟนตัวจริง รู้ขึ้นมาว่ามิน มาสืบข่าวเพิ่มกะโกโก้ ต่อมหึงจะทำงานหนักอีกอ้ะป่าว 5555