ตอนที่ 35 : *Flip Love*: Chapter 31 บทลงโทษรสคาราเมล (100%)***
Chapter 31 บทลงโทษรสคาราเมล (-.,-)
ปัง! โครม! เคร้ง!
เสียงสิ่งของมากมายกระทบกันอย่างที่ไม่เบาแรงดังกังวาลอยู่ในห้องทำครัวสะอาดสะอ้าดของร้าน Vanilla’s Story ที่ปิดสนิทหลังจากขายดีเช่นทุกวัน ขนมปังหอมกรุ่นจะถูกผลิตขึ้นใหม่อีกครั้งในวันรุ่งขึ้น มือหนาที่ปล่อยกะบะผสมแป้งลงบนเคาน์เตอร์ที่ปูด้วยแสตนเลสกว้างสะอาดขนาดใหญ่กลางห้องอย่างที่ไม่สนใจว่าแป้งในกะบะจะกระเฉาะออกมาตามขอบหรือเปล่า
“คยูจะทำขนมอะไรเหรอ ทำไมทำตอนนี้ล่ะ” เสียงหวานของคนตัวเล็กกว่าที่คอยยืนเดินตามติดแจตลอดทุกก้าวที่คยูฮยอนเดินในห้องนี้
หลังจากที่ไปกินข้าวกับเรียวอุคและเยซองแล้ว กระต่ายตัวอวบก็เดินตามต้อกแต้กเข้ามาในห้องครัวของร้านที่ไร้พนักงานคนอื่นเมื่อฟ้าย่ำค่ำมาเกินสองชั่วโมงแล้ว คยูฮยอนที่ไม่เอ่ยสิ่งใด กับสีหน้าที่เหมือนเดิมตั้งแต่เดินออกจากหอประชุมไม่ได้ทำให้ซองมินสะกิดใจอะไรเท่าไหร่
ดวงตาหวานกลมโต มองใบหน้าคมที่นิ่งสลับกับถ้วยแสตนเลสทรงครึ่งวงกลมที่เตรียมไว้ สำหรับส่วนประกอบต่างๆที่ตวงไว้อย่างพร้อมผสม
แกร็ก เสียงเตาแกสที่จุดไฟพร้อมกับเสียงโลหะกระทบกัน กะทะเชฟลอนสีดำสนิทวางลงบนเตาที่มีไฟอ่อน มือหนาค่อยๆเติมน้ำตาลทรายเม็ดขาวละเอียดลงไปช้าๆ พลางใช้ไม้พายคนผสมกันจนเริ่มละลายกลายเป็นน้ำเชื่อมสีใส แล้วจึงเติมนมสดและเนยชิ้นเล็กลงไป ขั้นตอนที่ต้องทำอย่างรวดเร็วและคล่องแคล่ว ลูกชายคนเดียวของร้านเบเกอรี่ก็ไม่มีพลาด
ไม่นานซอสสีน้ำตาลทองในกะทะก็โชยกลิ่มหอมของสิ่งที่เรียกว่า คาราเมล ให้จมูกกระต่ายสูดเข้าไปเต็มปอด พร้อมน้ำลายที่เริ่มยืดออกมา
“ว้าว...คาราเมล...หอมจังเลย~” เสียงหวานเอ่ยชมสิ่งที่ได้กลิ่นจากเพื่อนร่างสูงวันนี้โดยไม่รู้เลยว่ามันยิ่งไปสะกิดต่อมความโกรธที่ระอุอยู่จากคนรัก
คยูฮยอนที่อยากจะทำขนมปังคาราเมลล้างกลิ่นที่ซองมินได้กลิ่นมาจากแทคยอนเมื่อบ่ายนี้ นึกแล้วก็ยังหงุดหงิดจนต้องลงมือทำจนได้
ปัง!
มือหนาที่ระวิงตักโน่นตวงนี้สะดุดไปเพราะ เสียงดังที่เกิดขึ้นพร้อมกับทำให้ร่างอวบสะดุ้ง เพราะมันไม่ได้มาจากคนข้างตัวแต่เสียงนั้นกลับมาจากด้านหลังของร้านที่เชื่อมกับโกดังเก็บของและสำนักงานของร้าน
มือเล็กยกขึ้นจับชายเสื้อตัวหนาของคยูฮยอนอย่างอัตโนมัติไม่ต่างกับร่างสูงที่ละมือจากขนมปังที่ผสมแล้วตรงหน้ามาจับมือนิ่มไว้
“เสียงอะไรอะคยู” ร่างเล็กกว่าเบียดเข้าชิดอย่างกลัวๆ ในขณะที่ตาหวานมองผ่านทะลุช่องกระจกใสบนประตูออกไปด้านนอกที่มืดมิด เมื่อตอนนี้ไม่น่าจะมีใครอื่นอยู่ที่ร้านแล้วนี้นา
“ไม่รู้เหมือนกัน ผมออกไปดูก่อนนะ”
“มะไม่เอานะ ฉันไปด้วย” ชายเสื้อที่มือเล็กรั้งไว้กางออกมาเล็กน้อยเมื่อขาเล็กยังไม่ได้ก้าวตามร่างสูงไป
งือ...คนหรือ ผีอ่า...
ตาหวานที่ปิดปี๋สลับกับเปิดแง้มเล็กๆอย่างกลัว เดินเบียดกายชิดกับร่างของคยูฮยอนไม่ได้ห่าง มือหนาเปิดล็อคดันบานประตูออกไปด้านหลังร้านที่มีประตูโกดังปิดนิ่งสนิท ตาคมมองกวาดดูจนทั่วแต่ก็ไม่พบสิ่งที่จะสร้างเสียงดังเมื่อสักครู่นี้ได้เลย
จมูกเล็กๆของซองมินส่ายฟุดฟิดเมื่อได้กลิ่นที่เขาคุ้นเคยแปลกๆโชยเข้าจมูกมา
“หือ?...กลิ่นวนิลานี่...” กลิ่นเมนูชื่อของร้านโชยเข้าจมูกซองมิน แต่ร่างบางกลับยังรู้สึกถึงกลิ่นอะไรบางอย่างที่เจือมาด้วย คยูฮยอนแปลกใจเล็กน้อยที่ไม่คิดว่าจะมีกลิ่นวนิลาในเวลานี้ เท้าหนาก้าวไปหยุดยืนที่หน้าห้องสำนักงาน มือหนาจับดูแม่กุญแจตัวใหญ่แล้วดึงเล็กน้อยอย่างสำรวจว่ามันยังทำงานดีอยู่หรือไม่ ตาคมมองลอดเข้าไปด้านในก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติและไฟทุกดวงปิดสนิท
“อืม...แต่เหมือนมีกลิ่นบุหรี่ด้วยเลยนะ” เสียงหวานก็เอ่ยออกมาเหมือนไม่แน่ใจเท่าไหร่ เงียบไปนิดเพื่อคิดอะไรไปแล้วเอ่ยต่อ
“...แต่กลิ่นมันแปลกๆไม่เหมือนที่เคยได้กลิ่นมาเลย..มันเหมือนมีกลิ่นอะไรน้า...”
แกร๊ง!!
“!!!” ร่างอวบหยุดคิดถลาเข้าชิดกายสูงทันทีที่ทีเสียงคล้ายวัตถุกระทบกันดังขึ้นอีกครั้ง คยูฮยอนโอบไหล่ซองมินเช้าชิดอกแล้วเดินไปดูด้านข้างของร้านที่ต่อกับลานกว้างด้านหลังสำหรับจอดรถพนักงานและลูกค้า
คยูฮยอนกวาดตาคมมองทั่วอย่างละเอียดก็เห็นแค่หิมะกองตามจุดประปราย ถังขยะสังกะสีขนาดกว้างเปิดอ้าอยู่พร้อมกับฝาที่หล่นอยู่ด้านข้าง แต่เมื่อไม่มีเสียงหรือการเคลื่อนไหวใดๆตาคมจึงได้ถอนสายตาไป
“สงสัยจะลมพัดเอาอะไรไปกระแทกฝาถังขยะน่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกนิ่งๆพลางลูบไหล่เล็กอย่างปลอบๆ
ซองมินพยักหน้าหงิกหงักรับคำ แล้วทั้งสองจึงได้เดินกลับเข้าไปด้านในร้านโดยไม่รู้เลยว่า มีชายหนุ่มคนหนึ่งแอบอยู่ในถังขยะใบนั้น... และผู้ชายคนนี้กำลังจะทำให้ของสำคัญของร้านหายไปในวันถัดมา...
เมื่อเห็นว่าสองร่างนั้นเดินกลับเข้าไปด้านใน เขาจึงค่อยๆลุกออกมา สบถคำด้วยความขัดใจแล้วรีบหนีไปอย่างรวดเร็ว
..
..
ขณะที่รอให้คาราเมลเย็นตัวลง เชฟหนุ่มทายาทคนเล็กของร้านก็หันมานวดแป้ง เนื่องด้วยจำนวนไม่ได้มากนัก ไม่นานแป้งพร้อมอบก็เตรียมเสร็จแล้วเหลือเพียงทาคาราเมลด้านบนแล้วบิดเนื้อแป้งนิ่มให้เป็นเกลียว เอาปลายสองด้านมาประกบกัน วางลงบนถาดที่ทาเนยไว้ เอาเข้าเตาอบครึ่งชั่วโมง ขนมปังคาราเมลสูตรร้าน Vanilla Story ก็เรียบร้อยแล้ว
“อิอิ วันนี้ได้กินขนมฝีมือคยูแบบร้อนๆออกจากเตาเลย ดีจัง~” ร่างเล็กที่หน้าบานด้วยรอยยิ้มกว้างขณะที่ช่วยคนรักเก็บของไปด้วยช่างดูน่าเอ็นดู พาลทำเอาคยูฮยอนเบาความหงุดหงิดลงได้ทุกครั้ง
“คืนนี้ค้างที่นี้ ไม่โทรบอกคุณแม่เหรอ”
“อ่ะจริงด้วย เดี๋ยวแม่ดุอีกแน่เลย” ว่าแล้วก็รีบยกโทรศัพท์กดหาคุณแม่ที่รักทันที คุณแม่ที่น่ารักก็ไม่ว่าอะไร แถมมีบอกด้วยว่าระวังคุณพ่อเขาต่างหากที่จะงอน
“งือ...แม่บอกว่าพ่ออาจจะโทรหา แล้วต้องไม่ให้นอนแน่เลย แล้วพรุ่งนี้จะเข้าครัวกับคยูได้ไงอ่า~” คุณพ่อซองโฮที่ขึ้นชื่อว่า ค่อนข้างหวงลูกกระต่ายตัวนี้มาก ไม่ค่อยจะยอมให้ไปค้างที่ไหน แต่เจ้าตัวเองกลับไม่ค่อยจะอยู่บ้านนักเนื่องด้วยงานที่ทำ
“อ้ะ โทรหาฮยอกดีกว่า...ไม่รู้ว่าคุณพ่อกลับบ้านรึเปล่าด้วยวันนี้”
ปลายนิ้วเรียวกดโทรศัพท์แล้วรอเพียงไม่นาน ปลายสายก็เอ่ยรับ
“อ้ะ ฮยอกจ๋าาาา อยู่ไหนอ่า”
// อยู่หอพี่ฮีชอลน่ะ เรียกอย่างนี้มีอะไรอีกใช่มั้ย // ฮยอกแจที่ไปหอฮีชอลเพื่อถักผ้าพันคอ จับทางเพื่อนสนิทของตนเองได้ก็รีบเอ่ยดักทาง
“แหะๆ ถ้าพ่อฉันโทรไป นายช่วยบอกหน่อยนะว่าอยู่บ้านนายอ่ะ >.< “
// หือ? วันนี้พ่ออยู่บ้านเหรอ แล้วทำไมถึงกล้าไปค้างกับคยูได้ล่ะ// ฮยอกแจแปลกใจอยู่ไม่น้อยในเมื่อคุณพ่อซองโฮไม่ไปทำงานที่อื่นก็จะโทรตามซองมินให้กลับบ้านตั้งแต่เย็นและเจ้าตัวก็เป็นลูกสาวที่น่ารักไม่เคยขัดคำสั่ง กลับบ้านเดี๋ยวนั้นทุกครั้งไป
“ก็พรุ่งนี้คยูบอกว่าไปช่วยทำขนมในครัวได้นี่นา จะให้ตื่นตั้งแต่เช้าก็กลัวตื่นไม่ไหวอ่า นะฮยอกนะ” เสียงหวานเอ่ยออดอ้อนอย่างที่ถ้าหากอยู่ตรงหน้าคงได้เห็นตาใสกระพริบปริบๆขอความเห็นใจเป็นแน่
// คิคิ ได้ซิแล้วจะบอกให้นะ //
ฮยอกแจแอบหัวเราะ ขำที่คยูฮยอนใช้วิธีเดียวจัดการกระต่ายอยู่หมัด ไม่ต้องหาเหตุผลหรือข้ออ้างอะไรเลยก็ได้กระต่ายตัวนุ่มเพื่อนเขาไปนอนกอดสบาย
สองสาว(?)เอ่ยนัดเวลาที่เจอกันก่อนไปเรียนในพรุ่งนี้อีกเล็กน้อยแล้วก็วางสายไป พอดีกับที่ซองมินหันมาเห็นถ้วยใบเล็กที่ใส่คาราเมลเหลวกลิ่นหอมส่วนที่เหลือจากการทำขนมปังแล้วตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์กว้างเพียงใบเดียว
“คยู~ อันนี้ไม่ต้องใช้แล้วใช่มั้ย” ซองมินถามคยูฮยอนที่กำลังเก็บภาชนะที่ล้างเรียบร้อยแล้วเข้าชั้น ร่างสูงละสายตาจากชั้นวางของด้านบนลงมามองกระต่ายตาแป๋วที่ยืนถือชามคาราเมลในมือพร้อมตากระพริบปริบๆ...ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วล่ะ
“ไม่ใช้แล้วล่ะ จะกินเหรอ”
“ใช่ กินนะ ระหว่างรอขนมปัง อิอิ” คยูฮยอนพยักหน้ารับเพียงนิด ปลายนิ้วเรียวก็จุ่มลงในของเหลวสีน้ำตาลทอง ปลายนิ้วชี้ที่เคลือบน้ำตาลหวานเหลวถูกส่งเข้าปากเล็กๆที่ทั้งเม้มทั้งดูดเอารสชาติหวานออกมา และจุ่มกลับไปใหม่เพื่อความหวานคำต่อไป
ภาพที่คนอื่นอาจเห็นเป็นเด็กเล็กๆกินขนม แต่หากในสายตาของคยูฮยอนแล้ว มันช่างเป็นภาพที่อันตรายซะเหลือเกิน
ก้อนหนืดในลำคอหนาถูกกลืนลงอย่างยากลำบาก ราวกับกำลังกลืนน้ำตาลเหลวหวานนั้นลงไปพร้อมกับริมฝีปากแดงฉ่ำ ลิ้นเล็กแลบออกมาเลียไปทั่วปลายนิ้วเมื่อคาราเมลหอมหวานนั้นหมดลง พร้อมกับความอดทนของร่างสูงที่หมดลงเช่นกัน
“อ้ะ!!”
ตัดฉับ (-.,-)
- - - Flip Love NC 137 - - -
บทลงโทษแสนหวานรอบสองเริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้คงต้องเรียกเป็น บทรักแสนหวานแล้วล่ะ...
...แต่คนทั้งสองลืมอะไรไปรึเปล่าเนี่ย...นี่มันห้องครัวของร้านใหญ่ที่ยังเปิดไฟจ้านะ >.,<
..
..
..
“ก็บอกแล้วว่ากลับเองได้น่ะ”
นักออแกนไนซ์เซอร์หน้าหวานเอ่ยออกมาอย่างงอนเล็กน้อยในรถคันหรู เมื่อพาทิซิเญ่รูปหล่อคนรักแจ้นไปรับตั้งแต่หนึ่งทุ่ม แต่งานเพิ่งเลิกเอาตอนสี่ทุ่มตอนนี้น่ะซิ แล้วพ่อเจ้าประคุณดันงอนบอกว่าให้รอนาน = =
“ไม่อยากให้ผมไปรับรึไง อุตส่าห์รอตั้งนานนะ ไม่เห็นใจกันบ้างเลย...เรารึอยากเจอหน้าเร็วๆ” สารถีหน้าคมบอก แถมท้ายๆประโยคเอ่ยเบาๆเหมือนเปรยไปงั้นๆ แต่ดงเฮได้ยินเต็มๆ
“...ก็..ไม่ใช่ว่าไม่อยากเจอซักหน่อย...” คนหน้าหวานยื่นปากแหลมบอกออกมาเบาๆแล้วก็เงียบไป...
“...คิดถึงเหมือนกันแหละน่า...จุ้บ” ตาหวานหลับปี๋แล้วยื่นไปกดจมูกหอมที่แก้มสากอย่างเอาใจ ขณะที่คนขับรูปหล่อไม่ได้ตั้งตัว
ปากหนายกยิ้มกว้างหน้าบานอย่างพอใจสุดๆ หมายจะเอาเปรียบคนรักต่ออีกหน่อย แต่ไม่ทันจะหวานกันต่อ รถสีดำที่แล่นอยู่บนถนนที่จำเป็นต้องผ่านร้าน Vanilla Story ตาคมก็มองเห็นแสงไฟส่องออกมา
คิ้วหนาขมวดอย่างแปลกใจเล็กน้อย เท้ากว้างผ่อนแรงลดความเร็วของคันเร่งลง ตบไฟเลี้ยวเข้าจอดบริเวณหน้าร้านทันที
“เดี๋ยวฉันเข้าไปดูในร้านแป๊ปเดียว ไม่รู้ว่าลืมปิดไฟหรือว่ามีใครอยู่ข้างในรึเปล่าน่ะ” ดงเฮพยักหน้ารับ แล้วมองตามคิบอมที่เดินอ้อมไปทางประตูด้านหลังร้านที่เชื่อมกับโกดังเก็บของ
เท้าหนาในรองเท้าหนังแววก้าวอย่างแผ่วเบา ตาคมมองไปรอบๆหาความผิดปกติอื่นๆ แต่ก็ไม่มี แต่แล้วก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่ดังเป็นจังหวะแทรกเสียงรถที่ขับผ่านบนถนน ลมหายใจเป็นไออุ่นแทรกความหนาวออกมาลอยให้เห็นเมื่อคิบอมเดินมาหยุดใกล้ๆช่องกระจกใสช่องเดิมที่สามารถมองลอดเข้าด้านในร้านได้ แล้วค่อยๆโผล่หัวส่งสายตาลอบมองเข้าไป
“!!!”
ภาพที่ปรากฏผ่านกระจกใสนั้นเป็นร่างสูงในชุดครบกับร่างขาวที่ไม่มีอาภรณ์ใดๆกำลังครางเสียงหวานลอดออกมาเบาๆ
“.....”
กายหนารีบหมุนตัวหันหน้ากลับมายืนนิ่งทันที แล้วก้าวเท้าเร็วๆเดินออกจากจุดนั้นในฉับพลัน
ปัง!
ประตูรถที่เปิดออกถูกดึงกระแทกกลับอย่างแรง พร้อมกับมือหนาที่เอื้อมเอาท้ายทอยเล็กของคนรักเข้าประกบริมฝีปากร้อนผ่าวอย่างที่ดงเฮไม่ทันได้ตั้งตัว
“!!! อื้อออ”
ลิ้นร้อนกดแทรกเข้าเปิดริมฝีปากเรียว เกี่ยวกระหวัดแลกความหวานอย่างแนบชิดจนร่างเล็กต้องเอนกายลงแทบฝังไปในเบาะรถ มือหนาเริ่มหนาสอดไล้เข้าด้านในเสื้อโค๊ตเนื้อหนาของคนรักส่วนอีกข้างก็บีบคลำก้นนุ่มแรงๆ
“อื้ออ!!...คิ คิบอม..นี่...อื้อ...อะไร...” ร่างบางสะดุ้งตัวทันทีเมื่อมือหนาสัมผัสโดนผิวอุ่นด้านในเสื้อตนเอง ริมฝีปากบางผละออก มือเล็กดันและปัดมือหนาให้หยุดเลิกเสื้อลง
“อือ...ฉันอยากอ่า..ต่อนะ...”
“!!! อ้ะ...หยุดเลย..อื้อ ไม่เอานะ..อ้ะ...ทำไมอยู่ดีๆถึงจะ...ขึ้นมาล่ะ” มือเล็กกำข้อมือหนาที่รวบไม่หมดไว้ไม่ให้สอดลึกเข้าไปด้านในเสื้อมากกว่านี้ พูดไปก็ยิ่งหน้าแดงก่ำไป เมื่อเหลือบไปเห็น สิ่งที่พองคับขึ้นมาในกางเกงตัวหนาของคิบอม
“จะอะไรล่ะ...ก็คุณคยูกับซองมินน่ะสิ...เล่นเปิดไฟจ้า กลางครัวขนาดนั้น เห็นเต็มตาเลย...เจ้านี่มันก็เรียกหาดงเฮทันที”
มือหนาชี้ไปที่คิบอมน้อยที่อยากจะได้ออกมาหาคนรักเหมือนคุณคยูบ้าง
“...กะกลับบ้านก่อนไม่ได้เหรอ”
พอเข้าใจสถานการณ์เสียงหวานก็บอกอย่างเขินอายไม่น้อย ตาหวานมองออกไปด้านนอกรถเมื่อนึกว่าอาจจะมีใครมาเห็นอย่างที่คิบอมไปแอบเห็นคุณคยูฮยอนก็ได้นี่นา
“ขอรอบนึงในรถก่อน”
“มะไม่เอานะ...” ใบหน้าหวานสะบัดส่ายปฏิเสธทันทีที่คิบอมเอ่ยจบ
“...งั้น...กลับบ้านไปอย่างน้อยต้องห้ารอบ ถ้าไม่ถึงอ้อนบอกว่าเหนื่อยก่อนล่ะก็ พรุ่งนี้ต้องชดเชยให้ผม...ในรถ...จุ้บ” หน้าคมที่ค่อยๆเคลื่อนเข้าใกล้ มองมาอย่างเจ้าเล่ห์ เอ่ยจบก็กดจูบน่ารักส่งท้ายเหมือนได้ชัยชนะเล็กๆมาครอง เมื่อรู้ว่ายังไงดงเฮ ต้องยอมจนครบห้ารอบดีกว่าในรถแน่นอน
“..ฮือ..สะสามรอบได้มั้ย...นะ...พรุ่งนี้ฉันมีงานนะ...” ตาหวานช้อนมองอ้อนๆเมื่อต้องต่อรองลดจำนวนลงมาหน่อย
“อือ...สามรอบก็ได้...”...แต่รอบที่สี่หรือห้าผมแถมให้เฉยๆ ไม่ต้องเกรงใจเลย หึหึ...
ลีดงเฮยิ้มหน้าบานนึกว่าอย่างน้อยคืนนี้คงไม่ต้องนอนตอนใกล้เช้า โดยที่ไม่รู้หน่อยเหรอว่า...คนรักตัวเองน่ะอึดแค่ไหน...มีหรือจะหยุด -.,-
_.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._.Flip Love._.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._
80%
“ได้หนังสือมาแล้วใช่มั้ย ฮยอกแจ”
เสียงหญิงสาวถามขึ้นในห้องคอนโดที่ชายหนุ่มร่างสูงเป็นเจ้าของ
“...อือ..ใช่” ฮยอกแจเอ่ยตอบไปด้วยหัวใจที่เริ่มสั่น มองเห็นอนาคตที่เขากลัวกำลังจะเริ่มขึ้น
“งั้นผมกับมิรินขอหนังสือเล่มนี้นะ”
“.....”
เสียงทุ้มเอ่ยบอกกันตรงๆ น้ำเสียงเย็นชานั้น คงไม่ทำให้ฮยอกแจเจ็บแปลบในดวงใจได้เท่าแรงกระชากที่ดึงเอาหนังสือเล่มหนาในมือออกไปจนร่างบอบบางเซไปตามแรงนั้น
“หนังสือเล่มนี้อยู่กับนายก็ไม่มีประโยชน์หรอก ในเมื่อคนอย่างนายน่ะ ไม่มีใครเขารักจริงหรอก หึ หน้าโง่...ไม่รู้ว่าเขาหลอกใช้..”
“ฉะ ฉันไม่ใช่นะ..ฮึก...ฉัน...” เข่าบางทรุดลงกับพื้น แขนเรียวที่กอดตัวเองสั่นระริกกับคำเอ่ยที่เหยียบขยี้หัวใจเขา
“ฮยอกแจ...คุณควรรู้นะ ว่าผมไม่มีทางรักคุณ..อย่าคิดเข้าข้างตัวเองอีก...มันน่าสมเพช” ดวงตาคู่คมที่ฮยอกแจหลงใหลกดมองลงต่ำมายังร่างบอบบางที่สั่นไหว
“ฮึก...ฉันไม่..ฉันจะ อึก...ฉันจะไม่คิด...ซีวอน...ฮือ...อย่าไปนะ...”
เสียงหวานที่พร่ำบอกว่าจะไม่ทำเบาหวิวเคล้าเสียงสะอื้น
“นายมันไร้ค่าแล้วฮยอกแจ นายมันหมดประโยชน์แล้ว” น้ำตาหยาดใสไหลลงพร้อมกับที่ร่างสูงที่โอบมิรินแล้วเริ่มก้าวเดินห่างออกไป
ร่างเล็กที่ใบหน้าหวานเปื้อนน้ำตารีบลุกขึ้นวิ่งตามสองคนที่ห่างออกไปเรื่อยๆ
“ฮึก...ซีวอน..ฮือ...อย่าไปนะ...”
ขาเล็กที่ไม่ว่าจะพยายามวิ่งตามด้วยแรงที่มีซักกี่ก้าว แผ่นหลังทั้งสองนั้นก็ดูเหมือนจะยิ่งไกลออกไป ยิ่งวิ่งยิ่งเหนื่อย แต่แล้วปลายเท้าเล็กที่ก้าวเร็วๆสะดุดเข้ากับก้อนหินจนล้มลงกระแทกอย่างแรง
เฮือก!!!
ตาหวานเลิกโพรงอย่างตกใจ พร้อมกับความรู้สึกเหนื่อยหอบ เหงื่อพร่าเต็มแผ่นหลังเล็ก มือเล็กทั้งสองข้างกำผ้าห่มในมือแน่น ทั้งที่อากาศหนาวจัด แต่ร่างเล็กที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงยามนี้กลับรู้สึกเหมือนวิ่งหนีอะไรบางอย่างมา ตากลมที่คลอหยาดใสมองไปทั่วความมืดนั้น ผนังห้องนอน ความเงียบสงบและแสงไฟบางส่วนที่ส่องเข้ามา
ฝัน...
เมื่อตั้งสติได้ฮยอกแจก็รู้ตัวว่า ความคิดที่แสดงเป็นภาพเมื่อกี้นี้มันเป็นแค่ ความฝัน...
ลมหายใจเหนื่อยหอบเริ่มกลับมาเป็นจังหวะเดิม มือบางยกแขนหนาของซีวอนที่พาดไว้ที่เอวตนเองออกอย่างเบาๆ เพื่อลุกขึ้นชันตัวนั่ง ปลายนิ้วเล็กเช็ดปาดรอยน้ำตาที่ตามแก้มใส หัวเราะกับตัวเองเบาๆ
...ขนาดในความฝันยังเจ็บปวดขนาดนี้...แล้วถ้าความเป็นจริงล่ะ...
มือเล็กกดเปิดโคมไฟหัวเตียงแล้วค่อยเปิดลิ้นชักโต๊ะหัวเตียงออกมาอย่างเบามือ ภายในมีหนังสือเล่มสำคัญวางนิ่งอยู่ แสงจากโคมไฟสีเหลืองอ่อนด้านบนสะท้อนขอบสีทองให้ดูเป็นประกายแวววาว
“...อีกหนึ่งเดือนสินะ...สี่สัปดาห์เหรอ...ดูน้อยจัง...”...หรืออาจจะมากไป
ระยะเวลาที่กำหนดมา หนังสือเล่มสำคัญต้องอยู่กับผู้ถูกเลือกอย่างน้อยหนึ่งเดือน...
และตอนนี้การนับเวลาถอยหลังกำลังเริ่มต้นขึ้น...สัปดาห์ที่หนึ่ง...
วันนี้หลังจากที่ฮยอกแจวางสายจากซองมินไปไม่นาน ซีวอนก็มารับเขากลับจากคอนโดของพี่ฮีชอลเช่นทุกที ผ้าพันคอผืนนุ่มก้าวหน้าไปอีกหน่อยกับความยาวที่เพิ่มขึ้นทำด้วยความไม่กังวลใจนัก
แต่สิ่งที่ฮยอกแจรู้สึกว่ากังวลใจและไม่อยากจะมีอยู่ใกล้ตัวเลยจริงๆ ก็คือ หนังสือเล่มหนา ที่หนักอึ้งเล่มสำคัญเล่มนั้น
ความหนักอึ้งที่ไม่ได้มาจากปริมาตร แต่มาจากความรู้สึกที่กดดัน เขาไม่กล้าแม้แต่จะเปิดอ่าน หรือเอาออกมานอกลิ้นชักหัวเตียงเลยด้วยซ้ำ ตาหวานจ้องมองนิ่ง และคิดวนไปซ้ำมา ทั้งหลังจากครบเดือนแล้วจะทำยังไงต่อ ทั้งเขาจะเปลี่ยนใจทิ้งไปก่อนมั้ย อะไรมากมาย จนมันเก็บมาความฝัน
ด้วยความอ่อนแอที่มีเจืออยู่ตลอดเวลาก็ทำให้น้ำตาหยาดน้อยกลั่นออกมาไม่รู้ตัว
“ฮึก...ฮือ...ฮืก...”
เสียงสะอื้นน้อยๆของคนที่พยายามเก็บเสียงไว้ใต้ฝ่ามือเล็กๆของตนเองดังขึ้นเบาๆท่ามกลางความเงียบสงัดยามดึก
แต่แล้วไหล่เล็กไหวสั่น ก็รู้สึกถึงแรงโอบจากด้านหลัง
“ฮยอกแจ คุณร้องไห้ทำไม”
เสียงทุ้มแหบอย่างอย่างคนเพิ่งรู้สึกตัวตื่นเอ่ยถามพร้อมกับร่างที่โอบกอด ซีวอนเริ่มรู้สึกตัวเมื่อความอุ่นจากร่างเล็กที่เขาโอบกอดหายไป เมื่อลืมตาขึ้นก็พบกับแผ่นหลังเล็กที่สั่นไหวและเสียงสะอื้นเบาๆ
“!..ฉะ...ฉันฝันร้ายน่ะ...”
แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจคนที่เพิ่งรู้สึกตัวตื่นแกว่งวูบ สิ่งตรงหน้าที่ไม่แน่ใจว่าใช่สาเหตุของน้ำตาหยดใสนั้นด้วยรึเปล่า...หนังสือเล่มนั้น...
“.....” มือเล็กรีบปาดหยดใสออกจากใบหน้า แล้วดันลิ้นชักปิดทันที
“......” ซีวอนนิ่งเงียบ แล้วรวบเอาฮยอกแจเข้ากอดแน่นจนแทบหายเข้าไปในอกหนาของตน
ใจดวงแกร่งที่เจ็บไม่ต่างกันกับเจ้าของร่างเล็กในอ้อมกอด เขาก็เจ็บเช่นกันที่เป็นอยู่อย่างนี้ เขาไม่แน่ใจว่าฮยอกแจร้องไห้ทำไม ความฝันนั้นน่ากลัวแค่ไหน....แต่เขากลัว กลัวว่าซักวันจะทำให้ฮยอกแจต้องเสียน้ำตาเพราะตัวเอง...
“ฮยอกแจ...ผม...ผมมีเรื่องจะบอก...”
“....” ร่างเล็กตกใจไม่น้อยที่ซีวอนบอกขึ้นมาอย่างนี้...ใจดวงเล็กเต้นระรัวกับลุ้นกับสิ่งที่ซีวอนจะบอกเขา...เรื่องสำคัญงั้นเหรอ...
...ไม่ต้องสารภาพรักกับเขาก็ได้...แต่แค่สารภาพความจริง...แค่บอกว่าเรื่องนี้...คุณทำไปเพราะมิริน...บอกให้รู้ตัวกันตั้งแต่ตอนนี้...ดีกว่าปล่อยให้ฉันเป็นคนโง่ที่หลอกตัวเองจนจบเรื่อง...แล้วเขาจะยอมทุกอย่าง...ยอมยกโทษให้...ยอมยกหนังสือเล่มนี้ให้...โดยไม่ร้องขออะไร...แค่บอกให้รู้ว่า...เขายังมีค่าพอ...
ตึกตักๆ
เสียงหัวใจเต้นระรัวเร็วไม่ต่างกันทั้งสองดวง...ซีวอนกอดฮยอกแจนิ่งความอบอุ่นที่มีอยู่ตอนนี้ทำให้คนที่ตั้งใจจะสารภาพความจริงเริ่มลังเล ยิ่งเมื่อฮยอกแจยกมือเล็กขึ้นกอดตอบก็ยิ่งสัมผัสถึงความสุข ความใกล้ชิดที่มีต่อกัน
“......” ใจดวงน้อยเต้นเร็วแรงแต่เจือความเจ็บแปลบนั้นเต้นดังจนกลัวว่าซีวอนจะได้ยิน มือเล็กยกขึ้นกำเสื้อนอนตัวหนาของร่างสูงแน่น...ภาวนาให้คำที่ร่างสูงจะเอ่ยเป็นดังหวัง...
“.....ผม...” กายหนาผละออกหน่อยเพื่อจะได้สบตาใสที่เจือหยาดน้ำ ริมฝีปากแดงฉ่ำที่เขาบดจูบแล้วซ้ำๆจนนับครั้งไม่ถ้วน...กลิ่นกายหอมหวลที่ยิ่งทำให้เขาหลงใหล...และอย่างสุดท้ายเสียงหัวใจที่ดังระรัวเช่นเดียวกับของเขา...หลายสิ่งที่รวมกันเป็นคนที่ชื่อ...ลีฮยอกแจ...คนที่เขารัก...รักเกินกว่าจะทำให้ช่วงเวลานี้หมดลง
“....พรุ่งนี้ไปเดทกับผมนะ”
“.......”
เขายอม...ต่อให้อนาคตฮยอกแจจะเกลียดเขาแค่ไหน...เขาก็จะทำให้ฮยอกแจเข้าใจและให้อภัยเขาให้ได้...แต่ตอนนี้ เขาไม่อาจทำให้ร่างบอบบางตรงหน้ามีหยาดน้ำตา เขาคงใจสลายหากเป็นเช่นนั้น...
“....” สิ้นเสียงที่ซีวอนเอ่ยบอก ใจดวงเล็กที่แกว่งไหวก็หยุดนิ่งไปเพียงครู่ ความรู้สึกผิดหวังไม่น้อยเข้าเล่นงาน...จนทำได้แค่พยักหน้ารับคำชวนนั้นช้าๆ ริมฝีปากหนาของขึ้นฟังยกยิ้มขึ้นรับบางๆ
มือหนายื่นมาเชยคางขึ้นสบดวงตาหวานที่ปิดลงช้าๆเมื่อ ริมฝีปากหนาโน้มลงบดจูบหวานช้าๆราวกับซึมซาบความรู้สึกของใจสองดวงในยามดึกสงัด ไม่มีเสียงอื่นใดนอกจากเสียงหัวใจที่เต้นให้ได้ยินซึ่งกันและกัน
...ฉันยังรออยู่นะซีวอน...รอวันที่คุณจะสารภาพความจริง...ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง...วันที่ฉันจะเดินจากไปเอง...
TBC.
_.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._.Flip Love._.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._
==========================================
มาลงให้ครบก่อนไป แฟนมีตค่าาาา >.< ตื่นเต้นมว้าาาาก
ตามกันไปที่เดิมของเรานะคะ >///< เอ็นซีคราวนี้เป็นยังไงบ้างคะ
ตอนนี้กิ้บกำลังพิม SF แก้บนเจ้าพ่อคยู(?) อยู่ค่ะ บนให้ได้บัตรแฟนมีต สี่พันสอง มีใครกะเค้าบ้าง >.,<
เป็นเรื่องที่รับรองความน่าร้ากกกก ไม่ดราม่าแน่นอนค่ะ เพราะฉะนั้นแหะๆ เรื่องFlip รอกันหน่อยนะคะ
ตอนหน้าเป็น SF แก้บนมาขั้นก่อนนะคะ Flip มาช้าหน่อยแต่คงน่าจะเป็น พี่เย่ แล้วความเจ็บที่เริ่มทำงานของฮยอกแจค่าาาา = = (ดูมันเหมือนร่าเริ่ง555)
อ่า กิ้บอัพทีละนิดอย่าเซ็งกันเลยนะคะ กิ้บไม่มีฟิคเก็บไว้เลยนะเนี่ยเป็นปัจจุบันสุดๆล้วค่ะ ;____;
*ถึงคอมเม้นจะลดลงเรื่อยๆกิ้บก็จะอัพจนจบนะคะ ถึงจะไม่มีใครอ่านกิ้บก็จะลงจนจบให้ได้นั่นแหละ ดื้อ คึคึ*
*ชูกำปั้นขึ้นฟ้า สู้โว้ยยยยยย*
ปล. รีดเดอร์ที่เพิ่งมาใหม่อย่าเพิ่งน้อยใจน้าาาา กิ้บจำได้ทุกคน^^
ทุกคนจะทยอยขึ้นเป็น รีดเดอร์นี้ที่น่ารักไปทีละนิดนะคะ
ปลล. คนที่ได้เป็น รีดเดอร์ที่นี้ที่น่ารัก กิ้บจะมีของขวัญให้ตอนท้ายเรื่องนิดหน่อยด้วยค่ะ ^^
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่าน โหวต และ คอมเม้นต์ให้นะคะ ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

บอมตื่นเร็วอ่ะ 5555555555
ฟาดพี่วอนด้วยสันหนังสือค่ะ
คิบอมน้อยตื่นง่ายจริง
แล้ว
ใจดีจริงเนอะเชฟคิบอม =_______=
สว่างไปไหนนน คิคิ
ยิ่งอ่านยิ่งสงสารฮยอกอะ
น่าเห็นใจฮยอกมากมาย ไรเตอร์แกล้งฮยอกน้อย
ผู้น่ารักของเราหรือป่าวนี่
แต่คู่ฮยอกละ ฮือออออออออ
ฮยอกจะยอมจากไปเหรอ
พรุ่งนี้จะเดท ฮยอกจะเดทอย่างมีความสุขไหมค่ะเนี่ย
สงสารฮยอกง้ะ มิรินร้ายไปแล้ววว
วอนก้ใจร้ายเกิ้นนน เจ็บปวดดด
บอมก็นะ โผล่ไปได้เวลาพอดี๊พอดีเกิ๊นนน ลำบาหมวยเลยยยย
ด๊องเลยเสร็จบอมไปด้วยเลย 55555
โหกี้ไม่เกรงใจกันเลยเหรอไฟก็ไม่ปิด
ดูซิเดือดร้อนเฮเลยอะ
กี้เอาเปรียบมินจริง เชอะะะะะะ คุณเชฟมาเห็นอีกแล้วว ว๊ากกกกกกกก
ดีใจที่คนเขียนอัพแล้ววว >_< ขอเม้นรวดเดียวของสามตอนเลยเนอะ
เขินมากๆเลยน้า คยูกะอะไรไม่รู้ กลางร้านเลย แล้วบอมมาเห็นด้วย เขินแทน =///=
บอมก็จะหื่นไปไหน สงสารหนูเฮ
ว่าแต่อิตานั่นที่มาทำลับๆล่อๆ เสียงดังนั่นคือใครกันนะ มีลางว่าน่าจะมาสร้างความเดือดร้อนรึเปล่า?
ปิดไฟหน่อยก็ดีนะ 555
คิบอมน้อยเลยตื่นด้วยเลย
ทำบอมไฟติดบ้างเลย ด๊องเลยต้องรับภาระหนักซะแล้ว อิอิ
รอคู่วอนฮยอกนะคะ ^^