ตอนที่ 2 : *Flip Love*: Chapter 01 หนังสือเล่มสำคัญ
Chapter 01 : หนังสือเล่มสำคัญ
ฮือ...ฮึก อย่าเอาหนังสือ ฮึก...ของฉันไปเลยนะ..
แบร่ๆ หนังสืออย่างนี้ มีแต่นายเท่านั้นแหละที่อ่าน พวกนายว่ามั้ย เด็กหนุ่มอายุราว สิบ ปียืนถือหนังสือเล่มขนาดพอดีมือแต่ค่อนข้างหนาแกว่งไปมาในสนามเด็กเล่นในโรงเรียนยามตะวันเริ่มคล้อย กระตุกคิ้วถามเพื่อน
ใช่ๆ เสียงเด็กชายอีกสามสี่คนตอบรับ
เอาคืนมา ..ฮึก เถอะนะ เด็กน้อยตัวเล็กที่มีใบหน้างดงามพร้อมคราบน้ำตา ยังคงสะอื้นขอหนังสือที่มีรอยเปื้อนหลายที่และเริ่มขาดเล่มนั้น
ไม่ให้ หระ เฮ้ย !!!
นี่ของฮยอกแจนะ! มือหนาของเด็กชายที่ร่างกายเริ่มเติบโตย่างเข้าวัยหนุ่มอีกคนเข้ามากระชากหนังสือคืนออกจากมือนั้น พลางว่าโดยไม่สนใจจำนวนของอีกฝ่าย แล้วหมุนตัวเดินไปยื่นคืนให้เจ้าของที่น้ำตาเริ่มแห้ง
อ่ะ นี่หนังสือของนาย
ขอบใจนะ ซีวอน ยิ้มหวานพร้อมคราบน้ำตา ไปให้หนึ่งที ทั้งดีใจ ทั้งปลื้มใจ ซีวอนพยักหน้ายิ้มรับเบาๆ
นี่! พวกนายน่ะเลิกแกล้งฮยอกแจซะที ชั้นรู้หรอกที่พวกนายแกล้งเพราะอยากให้ฮยอกแจสนใจใช่มั้ยล่ะ
คะ ใคร บอกนายอย่างนั้น ฉะ ฉันไม่ได้ชอบฮยอกแจซักหน่อย หนุ่มน้อยที่เหมือนหัวหน้ากลุ่มตะโกนเถียงตะกุกตะกัก
ฉันยังไม่ได้พูดซักคำว่านายชอบฮยอกแจน่ะ หรือว่านายชอบ?
ฮะ เฮ้ย มะ ไม่ใช่ซะ หนะ หน่อย...ฮะหะ..หึ้ยยยยย ไป ! กลับ ! เมื่อไม่มีทางไปก็หาทางออกด้วยการเดินจากไปอย่างฟึดฟัด
ไม่เป็นไรนะ ซีวอนหันมาหาร่างน้อยที่ยืนกอดหนังสืออยู่ข้างหลังอย่างอ่อนโยน
อืม ไม่เป็นไรแล้วขอบใจมากเลยนะซีวอน พูดไปแก้มแดงไป
อือ ทีหลังถ้าพวกมันมาแกล้งนายอีก บอกฉันนะ แต่ว่าตอนนี้ชั้นต้องไปรับมิรินแล้วล่ะ ไปก่อนนะ
อืม ฮยอกแจที่ยืนมองซีวอน วิ่งออกไป หัวใจดวงน้อยเต็มไปด้วยความเต็มตื้น
คุณตาฮะ หนังสือทำให้เราเจอเรื่องดีๆจริงๆด้วยฮะ พึมพำกับตัวเองด้วยรอยยิ้มบางๆ
_.~;*¯*;~._.~;*¯*;~._.Flip Love._.~;*¯*;~._.~;*¯*;~._
สิปปีผ่านไป
ณ มหาวิทยาลัย Seoul มหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าของประเทศเกาหลี นักศึกษามากมายต่างมุ่งหมายพยายามเพื่อให้ได้ศึกษา ณ ที่แห่งนี้ มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ร่วมร้อยปี ที่ซึ่งมีชื่อเสียงมากมายในการผลิตบุคลากรคุณภาพออกสู่ตลาดแรงงานนานาชนิดมากมายหลายระดับ
และยังเป็นที่ที่มีเรื่องเล่า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้หนุ่มสาวหลั่งไหลเข้ามา สิ่งนั้นคือ หนังสือเล่มสำคัญในตำนาน ที่มีความเชื่อว่า หากได้ครอบครองแล้ว ผู้นั้นจะได้พบกับความรักแท้
หากแม้เป็นแค่ความเชื่อ แต่ตำนานก็สร้างหลักฐานพิสูจน์มาแล้วหลายต่อหลายรุ่น จนกระทั่งถึงรุ่นปัจจุบัน
ทุกปีหลังจากเริ่มภาคเรียนอย่างเป็นทางการของมหาวิทยาลัยไปแล้วหนึ่งอาทิตย์ ทางสภานักศึกษาจะจัดงาน พิธีเปิดหนังสือประจำปี พีธีสำคัญที่จัดมาตั้งแต่ผู้ครอบครองคนแรก และจัดเรื่อยมา
พีธีสำคัญที่ผู้ครอบครองคนปัจจุบันจะได้เปิดหนังสือเป็นครั้งแรกในปีการศึกษานั้น เพื่อบอกให้ทราบถึงการเริ่มคัดเลือก ผู้ถูกเลือก คนต่อไป
ผู้ครอบครองคือ เจ้าของหนังสือในตำนานรุ่นปัจจุบัน
ผู้ถูกเลือกคือ ผู้ที่จะได้ครอบครองหนังสือหลังจากทำพิธีส่งมอบอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเป็นการทำพิธีสาบานการครอบครองหนังสือว่าจะทำตามกฏอย่างเคร่งครัดก่อนจึงจะได้สัมผัสหรือเปิดหนังสือ
กฏของการครอบครองหนังสือในตำนานคือ
หลังจากได้รับหนังสือมาครอบครอง ผู้ครอบครองจะได้พบกับรักแท้ภายในระยะเวลาหนึ่งปี และหากผู้ที่ได้ครอบครองหนังสือในตำนานรุ่นปัจจุบันค้นพบความรักที่สามารถพิสูจน์ว่าเป็น รักแท้ ได้ตามที่ในหนังสือกล่าวไว้แล้วนั้นต้องส่งมอบต่อให้แก่ผู้ที่ถูกเลือกคนต่อไป แต่ต้องหลังจากที่ครอบครองหนังสือไปแล้วอย่างน้อยเป็นเวลาหนึ่งเดือนและผู้ที่ถูกเลือกจะต้องมีคุณสมบัติตามที่หนังสือในตำนานกำหนดไว้เท่านั้น นั่นคือผู้ที่มีหัวใจบริสุทธิ์และไม่โลภมากในความรัก
_.~;*¯*;~._.~;*¯*;~._.Flip Love._.~;*¯*;~._.~;*¯*;~._
ลีฮยอก แจ นักศึกษาปีหนึ่งคณะ อักษรศาสตร์ ชายหนุ่มร่างบางที่มีใบหน้างดงามอ่อนหวาน ผิวขาวราวหิมะ แต่กลับซ่อนสิ่งเหล่านี้ไว้ภายใต้แว่นตาหนาเทอะทะเนื่องจากการที่อ่านหนังสือที่เจ้าตัวไม่สามารถละได้ และทรงผมที่แสนธรรมดา ยาวประลงมาปิดหน้าตา
และยังเป็นนักศึกษาใหม่ผู้ที่เข้ามาเรียน ณ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วยเหตุผลสำคัญในใจเพียงเหตุผลเดียวนั่นคือ
ชเว ซีวอน
ร่างบางก้าวย่างเข้ามาภายในเขตรั้วสถานศึกษาที่ตนเองกำลังจะได้พบเจอคนสำคัญคนนั้น แม้จะทำได้เพียงแค่มองจากที่ไกลๆอย่างเดิมที่เคยทำมา
ตึกสูงลายอิฐเปลือยสีน้ำตาลเข้มหลายตึกที่สูงต่ำคละกันไป เรียงรายทอดตัวเข้าไปสู่ด้านในที่ดูแล้วเหมือนตึกเหล่านั้นจะผ่านกาลเวลามานานแต่ยังมีการดูแลที่ดีอยู่ หากแต่ระหว่างสิ่งก่อสร้างก็ยังมีต้นไม้ร่มรื่น ทั้งสวนหย่อมเล็กๆประดับตามมุม ทั้งต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกขึ้นมาพร้อมกันกับการสร้างมหาวิทยาลัยบ่งบอกถึงความเก่าแก่ แต่สามารถแบ่งปันร่มเงาให้นักศึกษาทั้งหลายได้พึ่งพากัน
ร่างเล็กของฮยอกแจยืนมองเข้าไปด้านในอยู่ตรงประตูทางเข้าโค้งมน ชวนให้น่าเข้าไปชมภายในที่คาดว่าน่าจะสวยเช่นเดียวกันกับด้านนอกอย่างแน่นอน จมูกเชิดรั้นสูดอากาศสดชื่นเข้าเต็มปอด ซึมซับบรรยากาศใหม่ๆ
เช้านี้ฮยอกแจมาเช้าเป็นพิเศษเพราะเป็นวันแรกของชีวิตเด็กมหาลัยจริงๆ ตื่นเต้นจนนอนต่อไม่ไหวเหมือนปกติที่ชอบทำเวลาคุณแม่คนสวยมาปลุกที่เตียงอยู่เป็นประจำ
ฮย้อกกกกก เสียงเล็กดังขึ้นจากที่ไกลๆ พร้อมกันกับที่ฮยอกแจ หันกลับมามองที่ต้นเสียง และยังดึงดูดสายตาคนมากมายให้มองมายังเจ้าของเสียงหวานนั้นอีกด้วย
ฮยอกกกกก รอ ฮะ..รอด้วย...แฮ่กๆ ชายหนุ่มร่างอวบหน้าตาน่ารัก ดวงตากลมใส วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพร้อมกับสองแขนที่เต็มไปด้วยหนังสือและของกิน
ซองมิน ไม่ต้องรีบก็ได้ ฮยอกแจเอ่ยตอบเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยม
แฮ่กๆ....ฮยอกนายกินข้าวมายัง กินขนมมั้ยเดี๋ยวต้องเข้าปฐมนิเทศนี่ เสียงหวานที่มาถึงก็ถามเรื่องกินก่อนเลย เอ่ยชวนเพื่อนสนิทของตนเอง ส่วนมือกลมๆนั้นก็ค่อยๆยกขนมขึ้นมากัดเข้าเรียวปากสีหวานนั้น
ขอบคุณนะแต่ฉันกินข้าวเช้ากับคุณแม่มาแล้วล่ะ
อ่า~ พูดแล้วก็อยากกินขนมฝีมือคุณแม่เยจินจังเลย ดวงตากลมแป๋วกระพริบขึ้นลงที่บ่งบอกว่ากำลังนึกถึงขนมอบหอมหวานแสนโปรดปราน
ทั้งคู่สนทนาตามประสาเพื่อนสนิทที่ห่างกันไปในช่วงเวลาที่ไม่มีการเรียน ได้ซักพักก็ชักชวนกันเข้าไปในห้องประชุมกว้างที่ใช้รองรับนักศึกษาจำนวนมากที่ต่างหลั่งไหลกันเข้ามาเรียนที่มหาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในโซลแห่งนี้
เอ่อ นี่ซองมินนายเคยได้ยินเรื่องหนังสือในตำนานของมหาลัยที่นี่มั้ย ฮยอกแจเอ่ยถามขณะที่สายตาก็ยังจ้องมองไปยังอธิการบดีที่กำลังกล่าวสุนทรพจน์ในวันเปิดภาคการศึกษา
อ๋อ รู้ซิ หนังสือในตำนานที่ว่าใครได้ไปครองก็จะได้เจอรักแท้ไง ซองมินเอ่ยตอบพร้อมกับทำสีหน้าเพ้อคิดถึงสิ่งที่ตนเองตอบออกมา
อืม ใช่ๆ ฮยอกก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไงน้ะทั้งหนังสือเล่มนั้น และก็คนที่ได้ครอบครองน่ะ
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังท่องอยู่ในความคิดของตนเองก็มีเสียง ฮือฮาดังมาจากอีกฝั่งนึงของห้องประชุมมหาวิทยาลัย ภาพที่ปรากฏคือ ร่างบางที่มีใบหน้างดงามรูปร่างอรชรจนผู้ที่พบเห็นไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเป็นบุรุษเพศ ร่างบางที่เดินแหวกฝูงชนนักศึกษาทั้งเพศชายและหญิงที่ต่างต้องการเห็นใบหน้างดงาม ผู้ได้ชื่อว่า ผู้ครอบครองหนังสือในตำนานรุ่นปัจจุบัน ผู้ที่มีชื่อว่า -- คิม ฮี ชอล
คิมฮีชอล ผู้ที่ครอบครองหนังสือในตำนานรุ่นปัจจุบัน ผู้ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่งดงามราวกับหญิงสาวไม่ปานเดินเข้ามาในห้องกว้างแห่งนี้พร้อมกับหนุ่มหล่อเชื้อสายจีน ทั้งสองมาหยุดนั่งอยู่ข้างเวที
วะ ว้าวว สวยจังเลยอ่ะ ดวงตาหวานที่ตอนนี้เบิกกว้าง และค้างนิ่งในความสวยของร่างที่เพิ่งเดินเข้ามา
เมื่อบรรยากาศในห้องประชุมเปลี่ยนแปลงไป อธิการบดีที่กล่าวสุนทรพจน์อย่างยืดยาวบนแท่นโพเดี่ยมมานานก็รวบรัดตัดความให้จบลงทันที
รายการต่อไปขอเชิญ ประธานนักเรียนคนปัจจุบัน กล่าวเปิดภาคการศึกษาและชี้แจงรายละเอียดกิจกรรมประจำปีค่ะ เสียงพิธีกรของงานปฐมนิเทศน์กล่าวจบ ก็มีเสียงตบมือคลอรับ พร้อมกับเสียงพูดคุยที่เริ่มดังขึ้นของทั้งนักศึกษาหญิงและชายในลักษณะที่ต่างออกไป แต่มาจากเหตุผลเดียวกันนั่นคือ การปรากฏกายของ ประธานนักศึกษา คนปัจจุบัน
สวัสดีท่านอธิการบดี อาจารย์ทุกท่าน และนักศึกษาทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่มหาวิทยาลัย Seoul แห่งนี้ ผม ฮันกยอง ประธานนักศึกษาคนปัจจุบัน....
เสียงเข้มที่สะกดคนทั้งห้องประชุมให้พากันเงียบกริบ ตั้งใจฟังสิ่งที่หนุ่มมาดนิ่ง หน้าคมคนนี้กำลังเปล่งออกมา ฮันกยองชี้แจงกฏทั่วไปของมหาวิทยาลัยให้นักเรียนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ได้ทราบเรื่อยๆจนครบ และมาถึงเรื่องสำคัญที่ทุกคนสนใจ
เรื่องต่อไปเป็นเรื่องสุดท้ายที่จะชี้แจงให้ได้ทราบกันนั้นก็คือ เรื่องพิธีเปิดหนังสือประจำปี
ทันใดก็เกิดเสียงเซ็งแซ่ ขึ้นทั้งห้องประชุมกว้าง เมื่อท่านประธานมาดนิ่ง กล่าวถึงเรื่องที่ต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยกัน
ฮันกยองเว้นช่วงการพูดไปสักครู่ เพื่อรอให้เสียงซาลง แล้วกล่าวต่อ
อย่างที่ทุกคนน่าจะทราบกันดีว่า ทุกปีหลังจากวันปฐมนิเทศน์ของทางมหาวิทยาลัยหนึ่งอาทิตย์ ทางสภานักศึกษาจะจัดงาน พิธีเปิดหนังสือประจำปี ซึ่งเป็นพีธีที่ผู้ครอบครองคนปัจจุบันจะได้เปิดหนังสือเป็นครั้งแรกในปีการศึกษานั้น เพื่อเริ่มการคัดเลือกผู้ถูกเลือกคนต่อไป โดยที่จะมีเพียงผู้ครอบครองคนปัจจุบันเท่านั้นที่จะกำหนดได้....
ซองมินนั่งฟังตาแป๋วไม่ต่างจากฮยอกแจและคนอื่นๆที่มีปฏิกริยาเดียวกัน ยิ่งฮันกยองเว้นวรรคการพูด ก็ยิ่งลุ้น
ตื่นเต้นจังเลยอ่าาาา ~
เนื่องจากทุกปีมักจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้น หลังจากพิธีเปิดหนังสือเพราะทุกคนต่างก็อยากเป็นผู้ที่ถูกเลือกกัน... แต่ ผมอยากจะประกาศไว้ตรงนี้ว่า หาก...มีเรื่องใดใดเกิดกับผู้ครอบครองคนปัจจุบันแล้วล่ะก็ ผมจะจัดการขั้นรุนแรงกับผู้นั้นอย่างเด็ดขาด
เสียงเข้มประกาศอย่างดุดัน แต่สายตาคมกลับส่งความอบอุ่นและห่วงใยไปยังร่างบาง ผู้ที่ตนกำลังปกป้องอยู่ให้ได้แก้มแดงเล่น
สุดท้ายนี้ผมอยากจะขอให้นักศึกษาใหม่ทุกท่านใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยแห่งนี้อย่างมีความสุข และเคารพกฏของมหาวิทยาลัยอย่างเคร่งครัดด้วยครับ เจอกันใหม่อีกครั้งในวัน พิธีเปิดหนังสือประจำปีครับ ขอบคุณครับ
ร่างสูงของฮันกยองโค้งตัวคำนับลา หลังจากกล่าวปิดงานปฐมนิเทศน์ประจำปีจบลง พร้อมกับเสียงปรบมือของคนทั้งห้องประชุมที่ดังก้องขึ้นมาแทนที่
นักศึกษาใหม่ทุกคนต่างเริ่มทยอยออกจากห้องประชุมโดยที่ยังถกประเด็นสนทนาเรื่องเดียวกัน คงไม่พ้นเรื่องที่คนสวยคนหล่อคู่นั้น และ หนังสือเล่มนั้น เช่นเดียวกับเพื่อนสนิทแสนน่ารักทั้งสองคน
ตื่นเต้นจังเลยนะฮยอก
.........
ฮยอก ฮยอกมองหาใครเหรอ เมื่อกระต่ายตัวน้อยเห็นเพื่อนเงียบ จึงถามซ้ำ
เอ่อ... ไม่มีอะไรหรอก ไปกันเถอะซองมิน เอ่ยตอบทั้งๆที่สายตาเรียวหวานของตัวเองยังคงกวาดมองไปทั่วหาคนที่ใจต้องการ ท่ามกลางนักศึกษามากมายที่กำลังมุ่งหน้าไปยังทางสี่เหลี่ยมแคบๆเพื่อออกจากห้องกว้างแห่งนี้
อ่ะแน่ ~ ชั้นรู้หรอกน้ะว่าฮยอกมองหา คุณชายนายชเว คนนั้นใช่ม่ะล่า
เพื่อนสนิทหนึ่งเดียวตั้งแต่ประถม ที่รู้ทันเสมอ
ซองมินอ่ะ อย่าเสียงดังไปสิ ชั้นไปดีกว่า นิ้วชี้เรียวสวยยกขึ้นวางบนริมฝีปากบอกสัญลักษณ์ให้เพื่อนสนิทอย่าเสียงดังไป พร้อมทำหน้างอนๆ แล้วเดินแก้มป่องผละออกไป
อ้าาา ฮยอก รอ ดะ อ้ะ!!
ปึ้ก !!!
โอ้ะ!!
ตุ้บ!!
..
......
.........
อ้ะ เอแคลร์
เอ้ะ รึว่าแยมโรลนะ รึว่า สตรอร์เบอร์ช๊อตเค้ก รึว่า.....แอร้ยยยยย อะไรอ่าาาา
หอม..ม ม จาง.ง เลย....ย > u <
.
..
นาย
นาย
นี่นาย
นี่นาย !! นาย ลุกออกไปเลยนะ
อ้ะ ขอโทษนะ ซองมินที่เพิ่งหลุดออกจากภวังค์ เมื่อเสียงเข้มดังอยู่ข้างหู
โอย ซี้ด เจ็บชะมะ..... คยูฮยอนหนุ่มหล่อร่างสูงหน้าตาบัลลาด(?) ที่เพิ่งถูกซองมินคนน่ารักเดินชนจนล้มทับไปเมื่อกี้นี้ กำลังจะบอกว่าตัวเองน่ะเจ็บ ที่ถูกร่างที่ไม่บางทับเข้าให้ แต่พลันดั่งเสียงกังวาลของตัวเองหายไป เมื่อเห็นใบหน้าหวานชัดๆที่กำลังจ้องมายังตัวเองอย่าง เอ่อ...อย่าง...ราวกับไอ้เจ้ามันดูที่บ้านเวลาเห็นกระดูกเลย
ขอโทษนะ เจ็บตรงไหนรึเปล่าน่ะ เสียงหวานของซองมินเอ่ยขอโทษร่างสูงที่น่าจะเจ็บมากเพราะตัวเองแม้ในใจจะยังคิดถึงที่มาของกลิ่นน่ากินนั้นอยู่ ดวงตาหลายคู่ของนักศึกษาบางส่วนที่ยังเหลืออยู่ในห้องประชุมหันมามองเมื่อเกิดอุติเหตุเล็กๆขึ้นเมื่อกี้นี้ บัดนี้ได้ถอนกลับสู่เป้าหมายด้านหน้าเช่นเดิมเมื่อไม่มีเหตุใดสำคัญพอให้เอาไปเม้าท์ต่อกันได้
อ่ะ เอ่อ ไม่เป็นไรหรอก เสียงเข้มเอ่ยตอบไม่ดังนัก
แต่ว่า..... ริมฝีปากสีหวานขยับเอ่ยอย่างลังเล พร้อมสายตาหวานๆที่ช้อนมองอย่างน่าหลงไหลจนทำเอาคนตรงหน้าใจกระตุกวูบ
คือชั้นคิดว่า นาย.........
นาย..น่ากินจังเลยอ่ะ
TBC
แต่ได้ฤกษ์ลงเพราะบน มักเน่ที่รักเอาไว้น่ะ ต้องแก้บน เดี๋ยวเจอ อาถรรพ์คยู =="
เรื่องแรกอาจจะเพี้ยนตามประสาคนเขียน แนะนำได้น้ะ ^^
ปล. เรื่องนี้ วอนฮยอกกับคยูมินเป็นหลักพอๆกันนะ
อย่าตกใจถ้าช่วงแรกๆหนูมิน(ลูกสะใภ้) จะแย่งซีน คิคิ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พี่มินใจเย็นนนนน
อย่าทำหมาป่าตื่น 5555555555555555
อัยย๊ะ !!!!!!!!!!!!
งานนี้กระต่ายของรุกคร่าาาาา
ป๋าฮันนี่ก็หวานออกสื่อนะคะ หมั่นไส้ๆๆ ออกตัวปกป้องกันขนาดนี้ ที่ไหนใครจะกล้า อิจฉาฮีนิมจริงๆ
มินช่วงแรกๆทำอยากกินคยูไปเถอะ เดี๋ยวหลังๆจะได้รู้กันว่าใครจะกินใคร (=\\\\\\=)
คยูโดนมินพูดแบบนี้ใส่จะคิดอะไรอะไรไหมเนี่ย จะอึ้ง? ตกใจ? ช็อค? หรือหื่นแตก? *ภาวนาให้เป็นอย่างหลัง*
ดังนั้น.. คยูมาให้มินกินซะดีๆ คึคึ \(>\\\\\[]\\\\\<)/=3333
หนูมินจะกินคยูตั้งแต่เริ่มเลยเรอะ =[]=!!!
เป็นสาวเป็นนาง พูดงี้ได้ไง 5555
คยูน่ากินหรอ....
มิน กะ ฮยอก น่ารักกกกก
มินนี่ลูกรัก พูดออกมาไม่อายปากเลยยยยย
กรี๊ดดดดดดดมินมากเลยอ่ะ
แบบว่าพูดตรงได้อีกนะจ๊ะ
จะกินตากี้แล้วนั่น
แน่เลยอ่ะ
มินนี่หิวเหรอกิน(คยู)เลยสิ 555
><
ตอนแรกคิดว่าคยูหอมกลิ่นขนมจากมิน(แล้วอยากกินมิน!)
เวร! มินหอมคยูหรอกเราะ! (อาการเหมือนคนหื่นอ่ะ!)
จริงๆแล้วแค่หิวใช่ป่ะน้องมิน(หิวตลอดเวลาแค่นั้นเอง?)
ทำแบบนี้หมาป่าก็ตื่นหมดสิ 55
เป็นกระต่ายก็ออดอ้อนดีๆสิคะ เ
ดี๋ยวหมาป่าก็หลงเอง~ -..-