ตอนที่ 14 : *Flip Love*: Chapter 13 ปลอบโยนและส่วนเกิน (100%)
Chapter 13 : ปลอบโยนและส่วนเกิน
แสงแดดแรงจัดของเวลาเกินเที่ยงส่องผ่านเข้าทางช่องระหว่างผ้าม่านสีเข้มในคอนโดสูงระฟ้า กระทบเปลือกตาบางที่พยายามจะเปิดออก แต่กลับหนักอึ้งเสียจนต้องปิดลงไปอีกครั้ง คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อรู้สึกถึงความเจ็บจากสะโพกแล่นปราบเข้าเล่นงาน ร่างบางเปลือยเปล่านอนคว่ำหน้ากับหมอนสีขาว ตัดกับผ้าปูที่นอนสีเข้มยับยุ่งโดยมีผ้าห่มผืนหนักพาดทับแค่จากตรงช่วงสะโพกบางลงไปเท่านั้น
อ้ะ โอ้ย ดงเฮที่เริ่มรู้สึกตัวและเริ่มนึกถึงเรื่องราวของค่ำคืนที่แสนยาวนานและเจ็บปวดใจได้ ก็พลันสะดุ้งตัวอยากจะลุกออกไปจากที่นอนโดยไวแต่ก็ทำไม่ได้ ในใจกลัวว่าจะเป็นเช่นอย่างเมื่อคืน ร่างหนาที่ไม่ปล่อยให้ดงเฮได้พักเลยแม้ซักนิด จนหากว่าตนเองไม่สลบไปซะก่อนตอนใกล้ฟ้าสางก็คงยังสานต่อ เพราะแม้จะร้องขอด้วยน้ำตาขนาดไหนว่าตนไม่ไหวแล้วจริงๆ แต่คิบอมก็ไม่สนยังกระทำต่อด้วยความรุนแรง แม้จะมีบางครั้งที่เหมือนจะเผลออ่อนโยนให้ แต่ก็กลับมารุนแรงอีกครั้ง กดจูบจนเลือดซิบ ตามหน้าอกคงไม่พ้นมีรอยช้ำจากการขบกัดและสร้างรอยจูบด้วยความหนักหน่วงนั้น
ฮึกๆ..ฮึก..ฮือ.... ยิ่งคิดยิ่งเจ็บปวดหัวใจ ปวดยิ่งกว่าร่างกายที่บอบช้ำนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสนว่าคิบอมกอดตนเองด้วยความรู้สึกอย่างไร หึงหวง รังเกียจหรือแค่อยากจะทำให้คนที่เขาเรียกว่า ร่าน ได้รู้สึกตัวเสียที ดงเฮ กดหน้าที่ประไปด้วยน้ำตาลงบนหมอนนุ่มที่ช่วยกลั้นเสียง แต่ก็ยังดังพอให้ร่างหนาที่เดินกลับเข้ามาภายในห้องนอนพร้อมกะละมังใส่น้ำอุ่นในมือ
คิบอมยืนนิ่งอยู่ตรงประตูที่เปิดทิ้งไว้ตั้งแต่แรกเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นอู้อี้ดังออกมา เขาเพิ่งรู้สึกตัวจริงๆ เมื่อคืนไม่รู้ว่าตนเองเป็นอะไรไป ถึงได้ทำรุนแรงกับดงเฮขนาดนั้น รู้เพียงแค่ว่าต้องการอีก อยากให้บนกายบางขาวนวลนั้นมีแต่ร่องรอยที่สร้างโดยฝีมือตนเองคนเดียว แค่เพียงคิดว่าไอ้หน้าอ่อนที่ไหนจะมายุ่งมาแตะต้องเพียงนิดก็ยิ่งโมโห ยิ่งกระทำรุนแรงทุกครั้งไป
ร่างสูงถอนหายใจเบาๆหนึ่งครั้งแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาร่างบางที่ยังคงสะอื้นอยู่ แรงกดจากน้ำหนักบนที่นอนนุ่มทำให้ร่างบางที่ร้องไห้อยู่สะดุ้งสุดตัว แล้วเงยใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาหันมามองที่ร่างหนา
นัยน์ตาหวาดกลัวถูกส่งผ่านม่านน้ำตามายังร่างสูง ทำให้คิบอมรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจแกร่ง ที่ผ่านมาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย ต่อให้กี่สายตามองเขาด้วยแววตาเหยียดหยาม เสียใจเหมือนที่เขาทำกับคนที่มีความสัมพันธ์ข้ามคืนทั้งหลายที่ถูกไล่เมื่อถึงตอนเช้าและไม่สนใจที่จะติดติอกลับไป
สายตาทั้งคู่สบกันอยู่ไม่นานดงเฮก็ต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาไปและพยายามหยัดกายลุกขึ้น แต่ขยับเพียงนิดร่างกายก็เหมือนไร้เรี่ยวแรง และความร้อนที่แผ่ไปทั่วตัว อาการปวดหัวเข้าตีจนต้องนิ่วหน้าแล้วซุกลงบนหมอนที่เปียกชื้นมือบางกุมขมับสองข้าง คิบอมที่เห็นอาการของดงเฮแล้วก็ตกใจถามด้วยเสียงล่ะล่ำละลัก
ดงเฮ เป็นอะไร ปวดหัวเหรอ ปวดตัวด้วยใช่มั้ย มือหนาคว้าไปจับร่างที่เขาเพิ่งผละห่างออกมาไม่ถึงสองชั่วโมงก็ต้องยิ่งตกใจ เมื่อร่างนั้นร้อนราวกับไฟสุม
นายตัวร้อนมากเลยนะ หันหน้ามาทางนี้ซิ เช็ดตัวหน่อย ร่างบางเบ้หน้าอยากจะพลิกตัวไปเหมือนกัน เพราะรู้สึกเหนียวเหนอะไปทั้งตัวโดยเฉพาะช่วงหว่างขาเรียวที่คงเต็มไปด้วยคราบรักและเลือดที่แห้งกรัง แต่ติดที่ขยับตัวก็เหมือนสะกิดโดนแผลให้เจ็บ
คงเป็นไข้แล้วล่ะ นอนอย่างนี้ก่อนก็ได้เดี๋ยวฉันเช็ดทางหลังให้ก่อน จะได้ไม่ได้ขยับตัวหลายครั้ง คิบอมที่เห็นท่าทางนั้นของดงเฮแล้วก็ยิ่งรู้สึกผิดว่าเมื่อคืนตนเองรุนแรงไปแค่ไหน
มือหนาจุ่มผ้าขนหนูผืนเล็กลงในกะละมังบนโต๊ะหัวเตียงบิดพอหมาดๆแล้วเริ่มไล่เช็ดไปตั้งแต่หัวไหล่มนลงไปยังแผ่นหลังบอบบาง ทุกส่วนที่เช็ดผ่านมีแต่ร่องรอยกดจูบ บางจุดมีรอยฟันคม คนทำเห็นแล้วไม่รู้ทำไมว่าแอบดีใจอยู่ลึกๆที่บนตัวร่างบางมีแต่ร่องรอยที่เขาสร้าง แม้จะแอบสงสารอยู่บ้างก็ตาม มือหนาเช็ดไล่อย่างแผ่วเบาไปเรื่อยๆจนส่วนล่างที่ดูบอบช้ำ มือหนาพยายามเบาแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ การกระทำที่อ่อนโยนทำเอาคนป่วยที่ยังก้มหน้าอยู่กับหมอนนุ่มค่อยๆมีน้ำตาอีกครั้ง
ไหล่บางไหวสะท้าน ปฏิกิริยาของคนร้องไห้ คิบอมเห็นแล้วก็สงสารจับใจ ความรู้สึกผิดเข้าตีหนัก คิบอมหยุดมือแล้ววางผ้าผืนนุ่มชื้นในมือลง มือหนาจับร่างบางให้หันมาหารวดเดียวจนร่างบางครางเจ็บ แต่ก็ต้องหยุดไปเมื่อร่างของตนเองเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดแกร่ง
ขอโทษนะ ดงเฮ อย่าร้องเลยนะ ฉันขอโทษฉันจะไม่ทำอย่างนั้นกับนายอีกแล้ว อย่าร้องเลย คนดี มือหนาลูบกลุ่มผมเบาๆพร้อมกับเอ่ยคำปลอบที่แสนอ่อนโยนยิ่งทำให้น้ำตาไหลลงมาหนัก แต่ร่างบางกลับพยักหน้ารับอยู่ตรงอกแกร่ง แค่เขาขอโทษ ทำดีด้วยก็ยกโทษให้อยู่ร่ำไป กี่ครั้งกี่ครั้งก็เหมือนเดิม เพราะด้วยหัวใจที่รักเขาเหลือเกิน ไม่เคยคิดอยากจะโกรธ หากจะโกรธก็คงต้องโกรธตัวเองที่รักเขามากเกินไป คิบอมคลายอ้อมกอดออกมาเช็ดหยาดน้ำตาที่ยังคงไหลอยู่
คิบอม..ฮึก.. ดวงตาหวานคลอน้ำตาหยดใสช้อนมอง
ไม่ต้องร้องแล้วนะ มาเช็ดตัวต่อดีกว่าจะได้กินข้าว กินยา ดงเฮพยักหน้ารับเบาๆแล้วนอนลงที่เดิม
หากว่ารอยบนด้านหลังเยอะแล้วคงไม่อาจเทียบเท่าได้กับข้างหน้า ซอกคอขาวช้ำเป็นรอยม่วง บนแผ่น อกบาง ยิ่งใกล้ยอดอกสีสดมากเท่าไหร่รอยยิ่งมากและยิ่งชัด คิบอมกลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อยแล้วเริ่มเช็ดจากบนดวงหน้าหวานซับหน้าให้ด้วยรอยยิ้มบางๆอย่างอ่อนโยนลงมายังซอกคอขาวไล่ไปเรื่อยจนทั่ว ร่างบางที่จากหน้าซีดตอนนี้เริ่มมีสีฝาดเพราะความเขินอาย มือหนาเริ่มไล้ไปส่วนล่าง คิบอมเห็นแล้วอยากจะเมินหน้าหนีเพราะกลัวตนเองจะห้ามใจไว้ไม่อยู่ จึงกัดฟันพยายามมองให้น้อยที่สุด จนสุดท้ายก็ฝืนอารมณ์เช็ดจนเสร็จ
ผ้าเช็ดตัวผืนนุ่มชื้นเล็กน้อยเช็ดไปทั่วตัวทำให้ดงเฮรู้สึกสบายตัวขึ้น แม้จะมีอาการตัวรุมๆเหลืออยู่ คิบอมลุกขึ้นไปหยิบเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีฟ้าอ่อนของเขามาใส่ให้ร่างบาง ค่อยๆใส่เบาๆจากแขนทีละข้าง ติดกระดุมไล่ให้จนครบอย่างแผ่วเบา น้ำตาที่แห้งลงไปได้ไม่นานก็กลับเอ่อคลอตาบางอีกครั้ง นัยน์ตาคมสบกับดวงตาบวมเป่งที่ผ่านการร้องไห้มาแทบทั้งคืนนั้นความเจ็บที่หัวใจก็แล่นแปล้บเข้าที่ใจดวงแกร่ง ทั้งสองนั่งสบประสานสายตากัน มือหนาทั้งสองข้างยกขึ้นแนบแก้มที่หยาดน้ำตาประอยู่ หน้าผากแกร่งก็แนบลงที่หน้าผากมนเช่นเดียวกัน
ร้องไห้อีกแล้ว ทำไงดีเนี่ย สงสัยต้องจูบหวานๆจะได้หาย คิบอมพูดด้วยรอยยิ้มประบนหน้าคมคลอเคลียริมฝีปากตนเองไปกับริมฝีปากบางที่บวมช้ำ
ดงเฮได้ยินคำพูดสบายๆก็มีรอยยิ้มขึ้นมาบ้าง น้ำตาก็เหมือนจะหยุดลง แม้จะเป็นรอยยิ้มที่บางมากก็ตามแต่นั้นก็ทำให้คิบอมใจชึ้นได้บ้าง
ไม่เอาอ่ะ เจ็บปากหมดแล้ว เสียงหวานที่แหบแห้งเอ่ยตอบเป็นครั้งแรกของวันทำเอาร่างหนายิ้มกว้าง
จูบเบาๆไงนะ จุ้บ ~ ริมฝีปากหนาประทับลงเบาๆแค่เพียงแป้ปเดียวเท่านั้น การกระทำแสนน่ารักทำเอาใจน้อยไหว เขารัก รักมากจริงๆ ผู้ชายคนนี้ที่ทั้งทำให้เขารัก ยิ้มได้ ใจเต้นแรงเสมอ แม้จะมีน้ำตาแต่ก็เพราะรักทั้งนั้น ทันใดก็รู้สึกอยากจะบอกความคิดที่เก็บไว้มานานนั้นออกไปเผื่อว่า ร่างหนาตรงหน้าจะคิดเหมือนกัน
คิบอม....ฉันบอกนายได้มั้ย บอกได้มั้ยว่า รัก...
....คิบอม... ตาหวานมองสบเข้าที่ตาคมมีอาการวาบไหว ร่างสูงครางรับในลำคอเบา
ฉัน...ฉะ ฉัน... รักนาย
สุดท้ายก็ไม่กล้าบอกออกไปเมื่อความกลัวเข้าแทรกที่หัวใจอีกครั้ง กลัวเหลือเกินว่าจะไม่ได้รับความอบอุ่น อ่อนโยนอย่างนี้อีกแล้ว โลภมากในความรักสุดท้ายอาจจะไม่เหลือทั้งเพื่อนและความรักเลยก็เป็นได้ ร่างบางส่ายหน้าเบาๆเพื่อสลัดความคิดนั้นทิ้งไป
ฉัน...ฉันหิวข้าวแล้วน่ะ
อ่อ หิวแล้วใช่มั้ย เมื่อสายฉันลงไปซื้อข้าวต้มไว้ให้ รอแป็ปเดียว เดี๋ยวอุ่นให้นะ คิบอมลุกขึ้นเอามือหนายีผมนุ่มแล้วออกไปอุ่นข้าวต้มให้คนป่วยนอกห้อง คงไม่ได้เสียงหวานแสนเบาที่เอ่ยคำ
ฉันรักนาย คิบอม
_.~;*¯*;~._.~;*¯*;~._.Flip Love._.~;*¯*;~._.~;*¯*;~._
40%
บรรยากาศแสนเงียบสงัด มีเพียงเสียงกระดาษกระทบกันหรือเสียงเลื่อนเก้าอี้เพียงแค่นั้นจากที่แห่งนี้ หอสมุดประจำมหาวิทยาลัยเปิดฮีตเตอร์ให้ความอบอุ่นแก่นักศึกษาที่มาหาตัวอักษรต่างๆจากในหนังสือเข้าสมองกันได้อบอุ่นขึ้น
ซีวอน มิรินเบื่อจังเลยทำไมอาจารย์ต้องให้หาข้อมูลจากห้องสมุดด้วยน้ะ หาจากในเน็ตก็ไม่ได้ เรียวปากเคลือบสีสดบ่นเบาๆอย่างรำคาญใจอยู่ในระหว่างชั้นหนังสือบนชั้นสองของหอสมุด ส่วนที่แยกประเภทของรายวิชาเฉพาะทางเอาไว้อย่างชัดเจน
อาจารย์คงอยากให้เราฝึกฝนมากๆมั้งครับ ร่างหนากำลังหยิบหนังสือเล่มนู้นเล่มนี้มาเปิด ต่างกับเจ้าของงานที่กำลังยืนกอดอกหน้ายู่
ก็มิรินเบื่อนี่นา ไปก๊อปจากในเน็ตทีเดียวก็เสร็จแล้ว ไม่เห็นต้องมายืนอ่านทีละหน้า เขียนทีละตัวอย่างนี้เลย
อาการเบื่อการอ่านหนังสือของหญิงสาวทำให้ซีวอนนึกไปถึงอีกคน คนที่ชอบอ่านหนังสือมากจริงๆ ชอบอยู่หอสมุด ทำงานพิเศษก็ยังเป็นร้านหนังสือ นึกแล้วก็ยิ้มบางๆ
ยิ้มอะไรน่ะ มิรินเบื่อจะตายอยู่แล้ว ลงไปหาคอมเล่นข้างล่างดีกว่า ทิ้งร่างสูงให้ทำงานแทนอย่างทุกที ซีวอนส่ายหัวเบาๆแล้วหาข้อมูลเกี่ยวการประเภทของอัญมณีให้หญิงสาวต่อ
เมื่อลงมาถึงด้านล่างมิรินสอดส่ายสายตาหาคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่ทางหอสมุดจัดไว้ให้สำหรับค้นหาข้อมูลเป็นจุดๆ แต่ดวงตาประดับอายไลน์เนอร์นั้นกลับพบกับภาพที่น่าสนใจยิ่งกว่า
.
.
เล่มนั้นไปไหนแล้วนะ เสียงหวานพึมพำกับตนเองเบาๆ มือเรียวและสายตากำลังกวาดไปบนชั่นวางหนังสือมากมาย และไล่จนใกล้จะจบสุดชั้นก็ยิ้มกว้างเมื่อเจอเล่มที่ต้องการ ฮยอกแจเปิดหนังสือเล่มในมือดูคร่าวๆ พลางเดินกลับมาที่โต๊ะตัวที่ตนกองหนังสือและการบ้านไว้
อ่อ หน้านี้ซินะ พึมพัมกับตนเองเบาๆเมื่อเปิดจนเจอหน้าที่ต้องการก็วางลงบนกองกระดาษที่เตรียมเขียนโดยไม่ละสายตาจากหน้าหนังสือจึงไม่รู้ว่ามีคนหน้าหวานนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
.
.
ครูขอนั่งด้วยคนนะ เสียงหวานว่าขึ้นเหมือนขอ แม้ว่าตนจะนั่งอยู่แล้วแต่เหมือนเป็นการเรียกให้อีกฝ่ายเห็นตนเองกลายๆ
!! อาจารย์ทึกกี้ ผมตกใจหมดเลยฮะ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะเนี่ย ตาเรียวใต้แว่นแก้วเบิกกว้างเล็กน้อย
มาซักพักแล้ว แต่เธอไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาเลยน่ะซิ
แหะๆ ฮะ มือบางยกขึ้นเกาแก้มอย่างเก้อๆ
นี่ ฮยอกแจ รู้ใช่มั้ยว่า ครูเป็นคนที่รับผิดชอบเรื่อง หนังสือในตำนานทุกเรื่อง เมื่อเห็นว่ารอบข้างไม่มีใครลีทึกก็เริ่มพูดเรื่องสำคัญทันที โดยไม่มีอ้อมค้อม
อ่า ทราบฮะ มือเรียวปิดหนังสือลงโดยใช้นิ้วกั้นไว้หลวมๆเมื่อเห็นท่าทางจริงจังของอาจารย์คนสวย
เธออยากจะรู้อะไรมั้ยล่ะ เกี่ยวกับหนังสือน่ะ ครูเล่าให้เธอฟังได้นะ ฮยอกแจมีท่าทีแปลกใจไม่น้อยที่อาจารย์คนสวยบอกอะไรแบบนี้
มันจะผิดกฏหนังสือรึเปล่าฮะ ผมรู้สึกว่าหนังสือคงอยากจะให้คนที่มันเลือกเป็นคนอ่านมากกว่านะครับ ผมเป็นคนทั่วไปหนังสือคงไม่อยากให้ผมรู้เนื้อหาที่คนถูกเลือกเป็นพิเศษเท่านั้นจะได้อ่านหรอกมั้งฮะ
.......
หนังสือน่ะเป็นคนเลือกคนอ่านนะ ไม่ใช่คนอ่านเป็นคนเลือก....
ประโยคที่เคยได้ยินจากอาจารย์ของลีทึกดังซ้ำขึ้นในใจอีกครั้ง อาจารย์ผู้ที่เป็นหนึ่งในผู้ครอบครองหนังสือคนแรกๆของมหาวิทยาลัย
...ฮยอกแจ เด็กคนนี้ดีจริงๆ ฮีชอลนายเลือกได้ดีนี่นา
แล้วฮยอกแจอยากลองอ่านหนังสือในตำนานมั้ยล่ะ ร่างบางยังคงลองเชิงต่ออยากสัมผัสถึงอะไรในตัวฮยอกแจอีกหน่อย
เอ่อ...ไม่ดีกว่าครับ ขอบคุณนะฮะอาจารย์ แต่ว่าผมไม่อยากเอาเปรียบคนอื่น ทุกคนคงอยากมีรักแท้กันทั้งนั้นแหละฮะ แล้วถ้าหากว่าได้มาโดยง่าย ไม่ว่าอะไรก็ดูไม่มีค่าพอให้เก็บไว้ทั้งนั้นใช่มั้ยฮะ ร่างบางพูดด้วยรอยยิ้มบางๆบนหน้า ใจดวงน้อยแกว่งไปถึงคนที่กำลังช่วยหญิงสาวอีกคนทำงานอยู่บนชั้นสอง ไม่รู้ว่าครามรักของตนและซีวอนจะใช่รักแท้รึเปล่าแต่ขอแค่ตอนนี้ได้รักก็มีความสุขมากมาย
เพียงแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว สำหรับการเก็บข้อมูลว่าที่ ผู้ถูกเลือก ลีทึกยิ้มเต็มหน้าแล้วเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อเห็นแววตาสงสัยที่ใสซื่อตรงหน้า ทั้งสองคนคุยกันโดยไม่ได้รู้เลยว่าหญิงสาวที่ต้องการมากเหลือเกิน ต้องการหนังสือเล่มสำคัญนั้น นั่งฟังเรื่องราวอยู่ตลอด
มิรินลุกขึ้นจากโต๊ะที่วางคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่อย่างค่อยๆแล้วรีบสาวเท้าขึ้นตรงไปหาซีวอนที่ชั้นสองด้วยใบหน้าเบิกบาน
ซีวอน ~ มิรินล่ะดีจ้าย ดีใจ ร่างบางกระโดดเกาะไหล่หน้าอย่างร่าเริง
ดีใจเรื่องอะไรครับ ละสายตาจากตัวสือเล็กน้อยมามองหน้าหญิงสาว
ก็วันนั้นซีวอนถามมิรินใช่มั้ยล่ะว่า แน่ใจได้ยังไงว่าฮยอกแจจะได้เป็น ผู้ถูกเลือกน่ะ ร่างบางหยุดเล่าเล็กน้อย แล้วเอ่ยต่อ
ก็เมื่อกี้มิรินลงไปข้างล่าง เจออาจารย์ทึกกี้อยู่กับฮยอกแจล่ะ มิรินเลยไปแอบฟังเขาคุยกันมา คิ้วหนาขมวดเล็กน้อยเมื่อเห็นมิรินทำตัวไม่น่ารักอีกแล้ว แต่ชเวมิรินมีเหรอจะสน
อาจารย์ทึกกี้นะ ถามฮยอกแจว่าอยากอ่านหนังสือรึเปล่างั้นงี้ ถ้าไม่ใช่ฮยอกแจแล้วจะมีใครอ่ะ ไม่รู้ว่าทำไมพี่ฮีชอลกับอาจารย์ทึกกี้ถึงเลือกฮยอกแจนะ มิรินน่ารักกว่าอีกใช่มั้ย ซีวอน
เสียงหวานเล่าไปเรื่อยทำให้ร่างหนาตกอยู่ในห้วงความคิด ฮยอกแจจะได้เป็น ผู้ถูกเลือก จริงๆซินะ แล้วต่อไปก็ต้องเป็น ผู้ครอบครอง แล้วอย่างนี้จะเกิดรักแท้ขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อเขาซึ่งเป็นแฟนอยู่กับฮยอกแจตอนนี้ไม่ได้มีความรักอยู่เลย หรือเราต้องเลิกกับฮยอกแจงั้นเหรอ เมื่อฮยอกแจต้องเจอรักแท้ขึ้นมาจริงๆ....
ทันใดหัวใจดวงแกร่งก็เจ็บแปล้บ มือหนายกขึ้นทาบที่อกแกร่งด้วยอาการเหม่อลอย หญิงสาวที่เห็นอาการนั้นก็แปลกใจ
ซีวอน ซีวอน เป็นอะไรน่ะ มือบางเขย่าที่ไหล่แกร่งเบาๆ
อ่ะ ผมไม่ได้เป็นอะไรหรอกครับ เอ่อ...หนังสือได้ครบแล้วจะกลับเลยมั้ยครับ
ร่างบางพยักหน้ารับเบาๆแล้วเดินออกมาโดยไม่สนใจกองหนังสืองานของตนเองซักนิดเพราะรู้ว่าร่างสูงต้องเอาตามมาให้อยู่แล้ว
ซีวอน หอบกองหนังสือตามลงมายังชั้นแรก เตรียมตัวยืมหนังสือที่เคาท์เตอร์บรรณารักษ์ แต่ก็เห็นร่างบางของฮยอกแจยืนคุยอยู่กับลุงบรรณารักษ์อย่างสนุกสนาน
อ้าวซีวอนยืมหนังสือเหรอฮะ ร่างบางที่กำลังแก้มแดงจากการคุยกับคุณลุงบรรณารักษ์ทำให้ซีวอนแปลกใจ
หนังสืออัญมณีทั้งนั้นเลย เรียนออกแบบเครื่องประดับรึไงเรา บรรณารักษ์ถามด้วยน้ำเสียงมีเหมือนจะติดดุ
เอ่อ เปล่าครับ ผมช่วยเพื่อนทำรายงานน่ะครับ
ช่วยมิรินเหรอฮะ
ครับ เอ่อ..ฮยอกทำไมหน้าแดงๆล่ะครับ ร่างสูงตัดสินใจถามออกไปเพราะอะไรก็ไม่รู้ได้
คือ.... ร่างบางหลบสายตาลงมองพื้นอย่างเขินอาย
หึหึ เขาที่เขินที่ฉันถามเรื่องแฟนน่ะ พอถามเสร็จแฟนก็เดินมาพอดีเลยยิ่งเขินล่ะมั้ง เสียงมีอายุตอบแทนทำเอาคนฟังยิ้มน้อยๆให้
.
.
ฮยอกแจครับ ผมไปส่งที่บ้านนะ เมื่อเดินออกมาด้านนอกพร้อมกันร่างสูงก็เอ่ยบอก ร่างบางไม่ทันได้ตอบตกลงก็พลันเหลือบสายตาไปเห็นร่างบางที่ยืนรออยู่ที่รถแล้ว
แล้ววันนี้ซีวอนไม่ไหนกับมิรินเหรอ ที่ถามอย่างนี้เพราะหลายวันแล้วที่ซีวอนจะต้องไปกับมิริน ทั้งด้วยทางบ้านและด้วยเพราะหญิงสาวเอง ฮยอกแจเข้าใจดี รู้ว่าซีวอนกับมิรินเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร จะให้มาติดอยู่แต่กับเขาคงเป็นการเห็นแก่ตัวจนเกินไป
เดี๋ยวก็ไปด้วยกันแหละครับ ไปเถอะครับ ซีวอนรู้สึกอยากจะดีต่อฮยอกแจให้มากๆทดแทนที่ไม่ค่อยได้ทำตัวเป็นแฟนที่ดี และวันนี้ยิ่งคิดว่าตนอาจจะต้องเลิกเป็นแฟนกับฮยอกแจก็ยิ่งเหมือนมีแรงส่งให้ต้องดูแลฮยอกแจหนักขึ้นอีก
อืม ก็ได้
.
ทางฝ่ายลีทึกที่ออกมายืนรอคงอินด้านทางเข้าหอสมุดหลังจากคุยกับฮยอกแจเรียบร้อยแล้ว ก็เห็นเหตุกาณ์นั้นคิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างสงสัย หากเขาเองไม่ได้เข้าใจผิดซีวอนคบอยู่กับเด็กที่เรียนออกแบบอัญมณีคนนั้นอยู่นี่นา แล้วทำไมถึงได้มาคอยดูแลฮยอกแจอย่างนั้นล่ะ แต่ก็ต้องหลุดจากห้วงความคิดเมื่อมือหนาจับเข้าที่หลังข้อศอก
มาแล้วครับที่รัก อาจารย์ร่างหมีรีบพูดหวานใส่กลัวว่าคนรักจะงอนที่ต้องรอนานแต่ก็ไม่เป็นอย่างนั้นเมื่อสายตาหวานของตนรักยังคงจับที่ภาพของสามคนนั้นอยู่
มีอะไรเหรอครับ
เปล่าฉันแค่สงสัยอะไรนิดหน่อยน่ะ คังอิน เฮ้อ ช่างเถอะกลับบ้านกันดีกว่า ร่างบางถอนหายใจเล็กน้อยแล้วหันหน้าหลับมาควงแขนคนรัก
เอาเถอะ ไม่รู้ว่าเป็นยังไงกัน สงสัยต้องคุยกับฮีชอลอีกสักหน่อย
อยากกินอะไรวันนี้ เดี๋ยวทำให้กินหมดเลย ไม่รู้อารมณ์ไหนแต่ว่าเรื่องดีดีอย่างนี้อาจารย์หมีไม่ปล่อยให้ลอยไป
กินนางฟ้าตาหวานได้มั้ยครับ ฟอด ริมฝีปากหนาแตะที่พวงแก้มใสสูดกลิ่นหอมให้ชื่นใจ แต่ได้ค้อนวงเล็กๆน่ารักกลับมาแทน
ฮ่าๆๆ ทานอะไรก็ได้ครับ ที่รักของผมทำอร่อยทุกอย่างอยู่แล้ว รอยยิ้มส่งให้กันตลอดทาง ขอแค่มีความรักก็สุขใจเกินพอ
.
.
นั่งรถคันหรูมาได้ซักพัก ฮยอกแจก็รู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกิน หญิงสาวพูดคุยเหมือนปกติ แต่ปกติคือเหมือนอยู่กับซีวอนแค่สองคน ร่างบางทำได้แค่มองออกไปนอกหน้าต่างรถอย่างเหม่อลอย ปล่อยให้โสตประสาทรับรู้เรื่องต่างๆที่หญิงสาวทั้งบ่นทั้งเล่าโน้นนี่อยู่ตลอด สายตาคมของสารถีมองผ่านกระจกไปยังใบหน้าหวานใต้กรอบแว่นอย่างกังวลเล็กน้อย อยากจะหาจังหวะชวนคุยบ้าง แต่เมื่อตั้งท่าจะเอ่ยปากชวนคุย ก็มีเสียงแหลมของมิรินดังกลบจนได้
อร้ายยย ร้านนั้นน่ารักจังเลยซีวอน แวะนั่งร้านนั้นกันนะ นะนะนะ มิรินที่เห็นร้านกาแฟที่ตกแต่งอย่างน่ารักที่ข้างทางก็ออดอ้อนชายหนุ่ม
ได้ครับๆ เอ่อ...ฮยอกแจครับแวะนั่งที่ร้านกาแฟด้วยกันก่อนได้ใช่มั้ยครั้บ ตาคมยังคงมองทางเบาะหลังผ่านกระจกใส
เอ่อ ได้ฮะ
.
.
มิรินขอสตอเบอร์รี่ปั่น เค๊กโยเกิร์ตนะ
เอ่อ ผมเอาเป็นอเมริกาโน่เย็นแก้วเดียวครับ ฮยอกแจทานอะไรดีครับ ร่างสูงหันมาถามคนที่นั่งตัวลีบ ดีหน่อยที่ร้านนี้เป็นที่นั่งแบบเก้าอี้สี่ตัวหันหน้าเข้ากัน หากว่าเป็นแบบสองสองแล้วเขาคงลำบากใจที่จะเลือกฝั่งแน่นอน
ฉันขอช๊อคโกเย็นกับเค๊กส้มแล้วกันฮะ ซีวอนหันไปพยักหน้ากับพนักงานเสิร์ฟที่มารอรับออเดอร์
ไม่นานเค๊กหน้าตาน่าทานละเครื่องดื่มหอมกรุ่นก็มาวางอยู่ตรงหน้า มิรินยังคงชวนคุยโน้นคุยนี้ไม่หยุดปาก มีแค่บางครั้งที่หันไปหาฮยอกแจบ้าง
มือบางเปิดหนังสือแฟชั่นในมือที่ทางร้านมีวางไว้ให้บริการซีวอนเลยมีโอกาสหันไปหาฮยอกแจบ้าง
ฮยอกแจ ครับทานได้นะ
อืม ทานได้อยู่แล้วฉันทานง่ายอยู่ง่ายน่ะ มือบางหยุดการเล่นหลอดที่อยู่ในแก้วช๊อคโกเย็นทรงสูงในมือลงแล้วตอบคำถาม
วันนี้กลับบ้านสายหน่อยไม่เป็นไรใช่มั้ย
ไม่เป็นไรหรอก ปกติ ฉันก็ไปกับซองมินอยู่บ้างแล้วน่ะ ทั้งสองคุยไปยิ้มไป ซีวอนมีความสุขโดยไม่รู้ตัวเลย เสียงเข้มกำลังจะเอ่ยคำถามต่ออีก แต่ก็มีเสียงของหญิงสาวแทรกขึ้นกลบ
ซีวอนๆๆ ดูนี่ซิ นี่ไงที่ปารีสที่เราไปด้วยกันตอนปีที่แล้วน่ะ มือเรียวชี้ไปบนที่หน้านิตยสารเป็นภาพมันวาวรูปเมืองที่น่าจะอยู่ในต่างประเทศ
อ่า อ่อครับ ปารีสเมื่อปีที่แล้วน่ะเอง
นี่ๆด้วย นี่ไงร้านนี้ที่เราไปนั่งกินดินเนอร์ด้วยน่ะ... เสียงของหญิงสาวยังคงดังไม่ขาดสายชี้ภาพในหนังสืออย่างตื่นเต้น ซีวอนทำได้แค่พยักหน้ารับ เป็นจังหวะ แต่สายตาก็ยังมองไปที่ร่างบางอีกร่าง
.
ฮยอกแจรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนเกินเหลือเกิน วันนี้น่าจะกลับบ้านเองคงจะดีกว่า ร่างบางกำลังคิดด้วยความเศร้าอยู่เล็กน้อย เสียงพนักงานในร้านที่กำลังซุบซิบนินทาก็ลอดเข้าโสตประสาท
ดูซิ คนนั้นมากับคู่แฟนกันคงเหงานะ คู่รักเขาสวีทกันอย่างนั้นเป็นเราคงอึดอัดน่าดู
จริงด้วย ดูซิผู้หญิงก็น่ารัก ผู้ชายก็หล่อล่ำน่าปล้ำขนาดนั้นเหมาะกันมากเลยล่ะ
คำพูดของคำที่ไม่ได้ตั้งใจพูดและไม่ได้รู้ความเป็นไปจริงๆกำลังทำให้ใครคนนึงยิ่งรู้สึกถึงคำว่าส่วนเกิน แต่คำนี้อาจดูไร้ค่าไปเลยเมื่อเทียบกับความารู้สึกที่ว่า ไม่คู่ควร นัยน์ตาหวานหันไปมองกระจกใสของร้านที่สะท้อนเงาจางๆของคนทั้งสาม หญิงสาวรูปร่างเพรียวอยู่ในชุดกระโปรงสวย กับชายหนุ่มร่างสูงท่าทางภูมิฐานนั้นช่างเหมาะสมกันจนต้องเหลือบดูเงาตนเอง ภาพสะท้อนเป็นชายร่างเล็กแต่งกายด้วยเสื้อผ้าธรรมดา กับแว่นหนาๆบนใบหน้า เห็นแล้วมันช่างแตกต่างเสียมากจริงๆ
ซีวอนเห็นท่าทางเหม่อลอยของร่างบางก็รู้สึกตัวว่าฮยอกแจเงียบไปนานแล้ว แม้ความจริงจะมีมิรินคนเดียวบนโต๊ะที่กำลังพูดอยู่เท่านั้น ร่างสูงเห็นแววตาที่ปนเศร้าสร้อยนั้นก็เจ็บที่ใจ ถามเสียงเข้มทับเสียงของหญิงสาวที่ยังพูดไม่หยุดออกไป
ฮยอกแจครับ อิ่มแล้วเหรอครับ ทานอีกหน่อยมั้ย ร่างขาวสะดุ้งเล็กๆมองหน้าซีวอนแล้วก้มลงมองเค๊กก้อนแล็กสีส้มที่ยังพร่องไปได้ไม่มาก
ฉันอิ่มแล้วล่ะ
งั้นกลับบ้านกันเลยก็แล้วกันนะครับ โดยไม่สนใจหญิงสาว ร่างสูงเรียกพนักงานมาเช็คบิลล์ทันที
ซีวอนอ่ะ มิรินยังอยากนั่งต่ออีกหน่อยเลยนะ หญิงสาวว่ากระเง้ากระงอด แต่ก็ยอมเดินตามอีกสองคนออกมาที่รถ
วันหลังผมค่อยพามาใหม่นะครับ ได้ยินแค่นี้ก็พอใจ ร่างเพรียวเดินขึ้นไปนั่งบนรถด้วยรอยยิ้มเหมือนเด็กที่พ่อแม่ตามใจ
.
.
รถคันหรูสีดำแล่นมาจอดที่หน้าบ้านหลังเล็ก ซีวอนลงมาส่งฮยอกแจที่หน้ารั้วไม้สีขาวหน้าบ้านโดยให้หญิงสาวรออยู่ในรถ
ฮยอกแจครับ วันนี้ผมขอโทษนะ
ทำไมซีวอนต้องขอโทษฉันด้วยล่ะ ร่างบางดูแปลกใจเล็กน้อย
วันนี้ผมอาจจะทำให้คุณรู้สึกอึดอัดไปซักหน่อย ผมยังไม่เห็นคุณยิ้มเลยนะวันนี้
.....ฉันไม่เป็นไรหรอก ใบหน้าหวานที่ไร้รอยยิ้มตั้งแต่ช่วงเย็นแตะแต้มสีแดงทั่วก้มงุดลงมองพื้น
งั้นยิ้มให้ผมดูหน่อยซิครับ หน้าคมก้มลงมองหน้าหวานพลางเอ่ย
.....อืม ยิ้มก็ได้ ^////^ ปากบางเม้มแน่นแต่ยกโค้งอย่างคนกลั้นยิ้มด้วยความอาย
ครับ ขอบคุณนะ มือหนาวางบนผมกลุ่มนุ่มเบาๆแล้วยิ้มให้เห็นรอยบุ๋มบนแก้มกร้าน
ความอบอุ่นแผ่ซ่านจากวันนี้ที่หัวใจดวงน้อยถูกความหนาวเย็นเข้าปกคลุมจนหนา ในใจคิดว่า ความสัมพันธ์และเรื่องราวมากมายที่เกิดระหว่างคนสองคนมาตั้งแต่เด็กคงไม่สามารถให้คนที่เพิ่งมาใหม่อย่างตนเข้าแทรกได้ ขอแค่มีซีวอนอยู่ข้างๆ ให้ความอบอุ่นอ่อนโยนอย่างนี้บ้างก็พอแล้ว
ฮะ ฮยอกเข้าบ้านก่อนน้ะ ร่างบางที่ติดอ่างเล็กน้อยเพราะลังเล สรรพนามเรียกแทนตัวเองที่น่ารักขึ้นกว่าเดิม ทำเอาคนฟังยิ้มค้างนิ่ง มองแผ่นหลังบางที่วิ่งหนีเข้าบ้านด้วยใบหน้าสีแดงก่ำ
หึหึ น่ารักจริงๆเลย
TBC.
เอ้า ใครที่ว่า คิมคิ เอาไว้ ตอนนี้พอจะกู้ความดีคืนมาได้ซักนิดนึงม่ะคะ คึคึ
มิรินจะกลับมาอีกครั้งกับการทำให้ฮยอกแจกลายเป็น "ส่วนเกิน"
โดยไม่รู้ว่า she ตั้งใจรึเปล่านี่ซิ = ="
ครบร้อยค่ะ ขอโทษ ก่อนเลยที่หายไปหลายวันเนื่องด้วยบอกตรงๆว่า ป่วยไปหาหมอที่ รพ.มา จนนอยด์ และเขียนไม่ออก
มาจนวันนี้แหละ เขียนซัดทีเดียว สิบสามหน้า ==" เลขสวยเลย
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ...รักทุกคนเลย T^T ซึ้งจายยย
(ใครรักคู่ไหน อยากอ่านเป็นพิเศษเดี๋ยวอาจจะมีแถมให้นะ คึคึ *หัวเราะโรคจิต*)
>>>>ตอนหน้า !!!! ใครรีเควส คยูมินไว้ เตรียมดีใจได้เลย
หวานยิ่งกว่าชื่อร้านคยูอีก แอร้ยยยยย >/////<
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แต่มันเจ็บบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
รำคาญมิรินอ่ะ เอานางออกไปปปปปปปปปปป
พี่วอนอยู่กับฮยอกแจบ่อยๆ พี่รักฮยอกแจแล้วแหละ
ใจร้ายกับฮยอกแบบนี้ได้ไง
แล้วบอมรู้สึกดีที่มีรอยของตัวเองบนตัวหมวยขนาดนี้ไม่คิดจะเข้าใจไรบ้างเลยเหรอ
ส่วนวอนปวดตับอ่ะ สงสารฮยอกตลอดอ่ะ แล้วก็มิรินอ่ะร้ายลึกนะเรียกร้องความสนใจตลอด
พอวอนจะพูดกะฮยอกก็ขัดตลอดอ่ะ
ชีวอนก้อไม่ได้เรื่อง
สงสารฮยอกจำใจ
แอบซื่นใจตอนท้ายนิดๆ ฮยอกน่ารัก ^^
มิรินมาเป็นก้างชัดๆ
ด๊อง บอกรักคิมคิไปเล้ย! ถ้ามันไม่เอา ก็ไปหาคนอื่น สวยเลือกได้อยู่เเล้ว :P
บอมรุนแรงงะ
วอนเริ่มรู้สึกกับฮยอกแล้วใช่ไหมล่ะ
เจ็บให้มากๆเลยนะ เจ็บให้ตายไปเลยยิ่งดี!!!!!
วอนอ่ะ =^=
หน้าด้านอิพระเอก ชเว ซีวอนหน้าด้านมาก
บังอาจมาชมว่าน่ารัก ทั้งๆที่แกไม่ได้รักเลย
ทำไมแค่เพียงหนังสือเล่มเดียวแกต้องลงทุนถึงขนาดนี้เลยเหรอ
ถ้าคิดแบบนั้นก็ไปตายซะเถอะ(มันอินเกิน)
กล้าทำกับฮยอกแบบนี้เหรอ?!?! 
ชเวซีวอนคะ! ถ้าไม่ได้รักกันจริง อย่ามาทำให้ฮยอกเสียใจดีกว่า
ถ้าทำเพื่อหนังสือ ไม่ได้จะทำเพื่อฮยอก แกกลับไปเลี้ยงยัยมิรินเด็กง่อยไป๊! =___=
สงสารด๊องเหมือนเดิม น่าจะโกรธนานๆหน่อย
หมั่นไส้คิบอมจริงๆ
เซ็งวอนมากกกก ฮยอกเป็นคนดีจัง
ด๊องจ้ะ บอกมันไปเลย บอกมันไป แค่นี้หนูก็เจ็บจนไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
วอน... (เสียงเย็น) ชั้นจะรอดูวันที่ฮยอกรู้ว่าแกเข้ามาจีบเค้าเพื่ออะไร หึหึหึ