ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Because I'm Crazy เพราะฉันมันบ้ารักเธอสุดสุด ❤♪

    ลำดับตอนที่ #5 : File 03 : ไข่แตก !! / จิตตก / เหตุเกิดในคืนหนึ่ง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 579
      1
      8 พ.ย. 54

    File 03 : ไข่แตก !! / จิตตก / เหตุเกิดในคืนหนึ่ง

     

    Sushi  Talk :

                กรี๊ดดดยัยบ้า!  อย่ามากล่าวหาฉันแบบนี้นะ  ผู้หญิงอ้วนหื่นคนหนึ่งเถียงกลับ

                ฉันได้ยินนะคะ  ว่าคุณว่าจงจุนอ่ะ  บอกให้เขาไปตายซะไม่แรงไปหน่อยเหรอ!”  ฉันเริ่มจะมีน้ำโหขึ้นมาแบบเก็บอาการไม่อยู่

                ไม่จริงฉันออกจะรักเขาจะมาพูดแบบนี้ได้ไง  หลอนพูดเองเออเองนิ!ยัยเตี้ย 

                อ๊ายยย  เจ็บปวด  ฉันสูงตั้งร้อยหกสิบกว่าๆนะยะ  ตบเลยเถอะตบเลยยย~

                ฉันได้ยินนะว่าคุณว่าจงจุนฉันอะ!  เต็มสองรูหูเลยด้วย  ฉันตอบกลับอย่างเอาเป็นเอาตายเช่นกัน  ท่ามกลางเสียงดังกระหึ่มนั้น  ทำให้ต้องตะโกนแข่งกันไปมาแต่เชื่อไหมว่าไม่มีใครสนใจพวกเราสักคน...

                ฉันจ้องหน้าแฟนคลับคนหนึ่งอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยความโกรธ  เพราะเมื่อสักครู่ฉันที่มาทำหน้าที่แทนพี่สต๊าฟคนหนึ่งที่ไปห้องน้ำนั้นในมุมมืดๆแคบๆ  ก็เกิดได้ยินหญิงผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังด่าศิลปินอย่างเสียๆหายๆด้วยถ่อยคำที่ฟังแล้วไม่เสนาะหู  ซึ่งจากที่ฟังอยู่นานก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปเตือน  แต่เตือนไปเตือนมาก็เกิดเป็นเรื่องดั่งบทข้างต้น  กลุ่มนี้มีอยู่สี่คนนำทีมโดยคนอ้วนๆหน้าหื่น  ส่วนลูกน้องเธออีกสามคนผอมแห้งแรงน้อย

                รอบนี้ฉันจะฝากไว้ก่อนนะ  ถ้าพวกคุณยังไม่ให้เกียรติศิลปินฉันจะไล่คุณออกจากตรงนี้

                พูดจบฉันก็เดินเข้าไปในช่องแคบเพื่อไปสงบสติอารมณ์  อยู่ๆเงาทะมึนก็เข้าครอบงำฉันทันทีแบบไม่ทันตั้งเนื้อตั้งตัว 

                กรี๊ดดด  ช่วยด้วย

                หยุดนะ!  ปล่อยซูชิเดี๋ยวนี้

    Vanilla  Talk :

                ฉันอุตส่าห์เข้ามาช่วยซูชิด้วยความยากลำบาก  ซะที่ไหนเล่า  ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็โดนใครที่ไหนไม่รู้จับมัดมือมัดเท้า  ถึงแสงสว่างจะน้อยแต่ฉันก็เห็นนะว่ามีกันทั้งหมดสี่คน  คนนึงอ้วนอีกสามคนผอม  โอ๊ยยย  นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก  สี่คนนั้นกำลังจะก่อการร้ายวงรีเทิร์นด้วยไข่ไก่ฟองละห้าบาท!!  ไข่มันไม่ถูกไปหน่อยเหรอฮะ  อย่างน้อยก็น่าจะทำให้สมราคาหน่อยสิ  ฮืออ

                ขณะที่ฉันกำลังส่งสายตาปล่อยกระแสจิตเพ้อกับซูชิอยู่ก็ได้ยินเสียงเล็กๆของใครสักคนที่สะสมความงุนงงไว้เต็มที่ 

                เฮ้ย!!  พวกแกมาทำอะไรตรงนี้  ช็อกโกล่าทำสีหน้าแตกตื่นก่อนจะแกะผ้าปิดปากออกให้ฉันและซูชิ
    ตอนนี้ไม่มีเวลามาอธิบายแล้ว  พวกรีเทิร์นกำลังอยู่ในอันตราย  ฉันบอก

                ช็อกโกล่าทำสีหน้างุนงงแต่ก็รีบแกะเชือกด้านหลังออกให้อย่างรวดเร็ว 

    ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย  งงไปหมดแล้ว  ช็อกโกล่ายังคงเซ้าซี้ 

    มีพวกแอนตี้แฟนคลับคิดจะทำร้ายรีเทิร์นระหว่างที่อยู่บนเวที  ฉันสรุป  ช็อกโก้แกรีบไปบอกทีมงานว่าถ้าพบคนน่าสงสัยให้จับตามองเอาไว้  ไปกันซูชิ  พูดจบฉันก็ดึงแขนซูชิที่ยังคงความมึนวิ่งเต็มกำลัง

    เฮ้ยเดี๋ยวนะ!  ความจริงแล้ว...อ่าวไปซะแล้ว  กำลังจะบอกว่าจบเพลงนี้ก็จะมีของขวัญให้แฟนคลับ...

    ฉันได้ยินเหมือนเสียงช็อกโกล่าพูดอะไรบางอย่าง  แต่เพราะวิ่งมาไกลจึงไม่ได้สนใจอะไร  ไม่สิเวลาแบบนี้ไม่มีเวลามาสนใจอะไรอีกแล้ว  ความปลอดภัยของหนุ่มๆต้องมาก่อน  ฉันเดินเบียดเสียดเหล่าแฟนคลับไปด้วยความยากลำบาก  แม้จะห้อยป้ายทีมงานแต่ก็ไร้ซึ่งการหลีกทาง  กว่าจะผ่านแต่ละคนไปได้เล่นเอาตัวรีบตัวแบนเลยทีเดียว  ไม่ทันได้มองหน้าใครก็โดนผลักไสไปมาจนไม่รู้ทิศ

    อ๊ากก  กรี๊ดดดมีคนเหยียบเล็บขบฉัน  TOT  แม่เจ้าโว๊ยย

    ด้วยความเจ็บทำให้เซถลาไปชนแฟนคลับคนอื่นๆแล้วก็เหยียบเท้าคนอื่นด้วยเช่นกัน  จนเขาหันมามองด้วยตาเขียว  ดีนะที่โดนผลักไสออกมาจากตรงนั้นเสียก่อน

    ทำไมคนเยอะอย่างนี้เนี่ย  แล้วบนอัฒจันทร์อีก

    โอ๊ะ!

    ฉันอุทานขึ้นเพราะดันเดินชนจนอีกฝ่ายล้มลงกับพื้น

    ขอโทษนะคะ  ขอโทษจริงๆค่ะ  ฉันยื่นมือให้เพื่อจะดึงเขาขึ้นมาแล้วกล่าวขอโทษ  แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นก็ต้องชะงักชักมือกลับแทบไม่ทัน

    ยัยไข่เน่า

    เมื่อยัยไข่เน่าเห็นหน้าฉันก็ตกใจตาโตเท่าไข่ที่เธอเอามาเลยทีเดียว  แม้จะมีแสงไฟสลัวทำให้เห็นไม่ชัดเจนแต่ก็แน่ใจมากว่าต้องใช่  เธอช็อคไปสามสิบวินาทีจนฉันจับแขนไว้ไม่ให้ตั้งสติได้ก่อนจะลากตัวออกมาจากตรงนั้น  พอไข่(ชื่อย่อ) ตั้งสติได้ก็เหยียบเท้าฉัน  กรี๊ดดเล็บขบฉันอีกแล้ววว!!

    ฉันมัวแต่สนใจเล็บขบจนลืมเรื่องยัยไข่ไปสนิท  รู้ตัวอีกทีเธอก็หายไปในฝูงชนเสียแล้ว

    หายไปไหนแล้วอ่ะ

    พรึบ 

    อยู่ๆไฟทั่วฮอลล์ก็ดับสนิทมืดจนมองอะไรไม่เห็น  เสียงดังซุบซิบต่างถามด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น  แฟนคลับพากันงุนงงได้ไม่นาน  ทุกอย่างก็ถูกเฉลยขึ้นเมื่อไฟจากตะเกียงรอบฮอลล์สว่างไสวสวยงาม  สุดแสนโรแมนติก  คลอเบาๆกับเสียงกีตาร์ของใครบางคน...  สายตาฉันปรับโฟกัสไปที่ชายคนนั้นซุนวูกับกีตาร์อะคูสติก  ทีมงานแต่ละคนยืนรอบฮอลล์พร้อมถือตะเกียง  ส่วนห้าหนุ่มกระจายเป็นห้าทิศ

    นี่มันอะไรกันเนี่ย...ยังไม่หายตกใจดีก็ต้องเจอเรื่องที่น่าตกใจยิ่งกว่า  เพราะมี...ไข่ที่ไหนไม่รู้ลอยไป

    เพละ!?!

    กรี๊ดดดดดดดดดดดด

    เสียงกรี๊ดจากแฟนคลับสร้างความวุ่นวายอย่างมากเมื่อไข่สามฟองลอยละล่องไปอยู่บนหน้าที่ไม่ใช่เป้าหมายของคนปา  แต่หากเป็น...ผู้จัดการคิม

    ท่ามกลางความวุ่นวายไฟก็เปิดสว่าง  ทำให้ฉันเห็นยัยไข่ที่ยืนยิ้มสะใจอยู่ไม่ห่าง  แล้วก่อนที่ชีจะเดินหนีหายไปฉันก็คว้าแขนของเธอไว้ 

     

    ห้องพักศิลปิน (ห้ามเข้า)

    ถึงป้ายหน้าห้องจะติดไว้อย่างนั้น  แต่ตอนนี้ห้องศิลปินกลายเป็นห้องสืบสวนคดีแอนตี้แฟนคลับเสียแล้ว  ถึงแม้ผู้จัดการจะไม่เอาเรื่องก็ตาม  แต่จุดประสงค์คือทำร้ายร่างกายก่อความวุ่นวายทำให้คอนเสิร์ตล่ม  เฮ้อพูดแล้วเหนื่อยจริงๆตอนนี้เรากำลังนั่งรอผู้ปกครองของยัยไข่อยู่  เพราะไม่ว่ายังไงก็ไม่อยากให้เป็นข่าวมากกว่านี้  ดีที่แฟนคลับไม่รู้ว่าใครเป็นปาไข่ไม่อย่างนั้นยัยนี่ไม่รอดแน่ๆ 

    เฮ้อ...ช้ามาก ผู้ปกครองยัยไข่มีบ้านอยู่นอกโลกเหรอ

    เฮ้อ ขอโทษจริงๆนะ แต่ผู้ปกครองเธอไม่มาช้าไปหน่อยเหรอเฮซองที่นั่งเล่นไอแพดอยู่นาน เงยหน้าขึ้นถามอย่างเซ็งๆ

    ยัยไข่ทำหน้าเอ๋อคล้ายกับเจอมนุษย์ต่างดาวมาโผล่ในห้องนอน เธอทำตัวกระส่ำกระสายจนฉันเห็นและสงสาร จึงแปลให้เธอฟังอีกต่อ

    เฮซองเขาถามว่าผู้ปกครองเธอไม่มาช้าไปหน่อยเหรอ

    อืม...เดี๋ยวก็คงมา

    กรี๊ดดด หมั่นไส้ยัยไข่จริงโว้ย ทำสีหน้าราวกับไม่ผิดอะไร ถ้าตอนจะโดนแฟนคลับตบจะทำหน้าเฉยแบบนี้ป่ะ

    เออ...ฉันว่าเราปล่อยแม่หนูคนนี้ไปเถอะนะ เดี๋ยวเราต้องขึ้นเครื่องห้าทุ่มวันนี้ด้วยผู้จัดการคิมพูดขึ้น

    ไม่ได้…”

    ฝ้าย

    ก่อนที่ซุนวูจะได้พูดอะไรก็มีเสียงเล็กๆใสๆดังแทรก  พร้อมร่างที่บอบบางน่าปกป้องก้าวเข้ามาในห้องพักของพวกเรา

    เจ๊ฟิน...  คนก่อความวุ่นวายวิ่งร่าไปหลบหลังผู้เป็นพี่สาวทันที

    น้องกับพี่จริงๆเหรอ  แตกต่างกันมาก...

    ฟินที่เป็นพี่สาวกล่าวขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างจงใจของน้องสาว  ที่เข้าใจผิดเสมอมาว่าพี่สาวตนคบกับจงจุน  และโดนทิ้งจนต้องร้องห่มร้องไห้ (เมื่อไม่นานมานี้จงจุนเกิดข้อมือบาดเจ็บจนเล่นดนตรีไม่ได้สักระยะ)   ซึ่งเธอเองเป็นห่วงมากจนทำให้เกิดความเข้าใจผิด  พอฝินเล่าจบ (เธอพูดเกาหลีเทพมาก)  จงจุนถึงกับเข้าไปขอโทษฟินกับฝ้ายที่ทำให้เกิดเรื่องน่าเวทนาเช่นนี้  อีกทั้งจงจุนยังถ่ายรูปคู่ให้เป็นที่ระลึกก่อนที่สองพี่น้องจะกลับไป

    ว๊ายยยโกรธๆ

    ฉันหันไปเห็นซูชิหน้าบู้บี้บึ้งตึงและนั่งนิ่งจนต้องเข้าไปเรียกสติกลับคืนมา...

    ซูชิ  แกโอเคนะ  อย่าคิดมากๆเพราะว่าพวกนั้นก็แค่แฟนคลับ

    ฮือ...อื้อๆ 

    เอาล่ะ  ในเมื่อเรื่องจบดีแล้วก็รีบไปกันเถอะ  ผู้จัดการคิมพูดขึ้น  ขณะที่ทุกคนกำลังจะโยกย้ายก้นกัน...

    เดี๋ยวก่อนครับ  ซุนวูที่เงียบอยู่นานก็ทักขึ้น  ทำเอาทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียวกัน  ไม่เว้นแต่เพื่อนร่วมวงก็ยังทำสีหน้าขัดใจ  โดยเฉพาะเฮซองที่ชักสีหน้าก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ผมไม่เห็นด้วยเรื่องพี่เลี้ยง...ทำไมคุณทำอะไรไม่ปรึกษากันเลยล่ะครับ  อีกอย่างพวกเธอขาดคุณสมบัติของการเป็นพี่เลี้ยงอย่างเห็นได้ชัด  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธอไม่ผ่านการพิจารณา

    เยอะอีกแล้วที่รักฉัน...  พูดเยอะ  เจ็บเยอะ  เศร้าเยอะ 

    นี่มันอะไรกัน  คำพูดเหล่านั่นที่ออกมาจากปากซุนวู...  นั่นปากเหรอ!

    ขวับ

    ทุกคนเปลี่ยนจากจ้องหน้าซุนวูเป็นหน้าผู้จัดการแทน

    นายพูดเรื่องอะไร  ใครพี่เลี้ยงแล้วพี่เลี้ยงใคร  พูดชัดๆดิ  เฮซองทักท้วงขึ้น

    ก็อย่างที่บอก  คุณคิมเขาหาพี่เลี้ยงมาดูแลพวกเราทุกคน  พี่ก็รู้ว่าอย่างพวกเราน่ะไม่จำเป็นต้องมีพี่เลี้ยงสักนิด

    ใช่น่ะสิ...จะมีพี่เลี้ยงไปทำไม  ทั้งเกะกะทั้งน่ารำคาญ  มีคุณเป็นผู้จัดการอยู่แล้วไม่ต้องหาใครมาเพิ่มอีกหรอก  จงจุนเสริม

                ใช่ๆ  แต่พี่เลี้ยงนี่ต้องทำอาหารอร่อยๆให้เราทานด้วยรึเปล่า...ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็โอเคนะเพราะจะได้ทานอาหารไทยอร่อยๆ^^”  จองมินพูดเสร็จก็ยิ้ม  หลับตาแล้วเคลิ้ม...เรื่องกิน

                พวกนายใจเย็นๆกันหน่อยได้ไหม  อย่าเพิ่งโวยวายกันสิ...  เทโฮเว้นวรรคการหายใจแล้วหันมาทางพวกฉัน  เพราะยังไงซะพวกเธอก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญาการว่าจ้างใช่ไหมล่ะ  เทโฮส่งสายตาเป็นเชิงถาม...เป็นสายตาที่ดูลึกๆมันช่างเยือกเย็น

                พวกเรา  เออ...คือ  เซ็นไปเรียบร้อยแล้วจ้า T^T”  ฉันตอบด้วยความสั่นแทนคนอื่นๆที่ยื่นแข็งทื่อเป็นหินกันไปหมด  ไม่เว้นแม้แต่ช็อกโกล่าที่ปกติเห็นตอบไวทันใจ  บัดนี้ก็ช็อกน็อกออกนอกสนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

                อยากร้องไห้...  บรรยากาศเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

                กลัวจนฉี่จะราดแล้วแม่เจ้าโว้ย  แงๆ

                งั้นเหรอ...ถ้างั้นฉันให้ฐานะของหัวหน้าวง...  เทโฮทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อย  ก่อนจะปล่อยยิ้มแบบที่อบอุ่นออกมาอย่างที่พวกฉันต้องการจะเห็น...รอยยิ้มของเจ้าชาย  ยินดีต้อนรับสู่ประเทศเกาหลีและยินดีต้อนรับสู่เดอะรีเทิร์น

                ฮือออ  ฉันไม่อยากไปแล้วอ่ะ  รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ปกติมันกำลังแผ่รังสีออกมาจากซุนวู

     

    สถานการณ์ตอนนี้  :

    สนามบินสุวรรณภูมิ

    กรี๊ดดด  โอปป้าทางนี้ค่า

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด  เฮซอง เทโฮ  จงจุน  จองมิน ซุนวู อุปป้าหันมาทางนี้หน่อยค่ะ!!!!”

    กองทัพแฟนคลับวิ่งตามเหล่าศิลปินขณะเดินลงจากรถตู้เพื่อเข้าไปในสนามบินให้คับคั่งจนไม่สามารถจะเบียดสอดแทรกตัวตามซุนวูได้ทันเลยสักนิดเดียว  และดูเหมือนว่าเขาจะเดินเมินไปโดย...ไม่หันมาเหลียวแลฉันเลย

    เหล่าเพื่อนร่วมชะตากรรมก็อันตรธานหายไปกันหมด  ไม่รู้ว่าหายไปหนใด  เพราะดูเหมือนกับว่า...ฉันถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง...จริงๆนะ

    โอ้วววแม่เจ้าทนไม่ไหวแล้วโว้ยยย

    “หลีกทางหน่อยคะ!! ฉันบอกว่าหลีกทางไงเล่า”  ฉันตะโกนแหกปากเป็นบ้าเป็นหลัง

    เบียด เบียด เบียด

    “กรี๊ดดด  รองเท้าฉันกระเด็นหายไปไหนแล้วล่ะ!

    ตุ๊บๆ

    ท่ามกลางความวุ่นวาย  ในที่สุดฉันก็โผล่ออกมาจากช่องแคบเหล่านั้นได้พร้อมกับรองเท้า  กว่าจะหาเจอเล่นเอาสภาพดูไม่ได้เลยอ่ะ

                ในที่สุดเราก็จะได้ไปเกาหลีกันสักที  ฉันและเพื่อนๆได้นั่งประกบคู่กับวงรีเทิร์น  เรียกได้ว่าคู่ใครคู่มันไปเลยจะดีกว่า  เราได้นั่งชั้นเฟิร์สคลาสคือชั้นที่ดีที่สุดของสายการบินนี้โดยที่ทางบริษัทได้เหมาจองทั้งชั้นไว้ให้พวกหนุ่มๆและทีมงานโดยเฉพาะ

                ช็อกโกล่านั่งข้างๆกับเฮซอง  แต่ด้วยอาการเมาเครื่องกำเริบความดีใจของเธอจึงกลายเป็นความทรมานแทน  ต่อมาก็เป็นเชอร์เบทกับจองมิน  คู่นี้ดูเลี้ยงง่ายมากเพราะจองมินกินอย่างเดียวตั้งแต่ขึ้นเครื่อง  คู่ของไอซิ่งกับเทโฮดูมีความสุขสุดๆเพราะเทโฮทำนิสัยเหมือนเจ้าชายมากถึงมากที่สุด  สุดท้ายก็ซูชิถึงไม่ค่อยเด่นแต่ก็มีคุยกันบ้าง  ผิดกับฉันโดยสิ้นเชิง  ที่ดูว่างเปล่าตั้งแต่บนเครื่องจนถึง...เกาหลี

                ฉันทำอะไรผิดไปรึเปล่าตั้งแต่เราเจอกันซุนวูถึงไม่ปริปากคุยกับฉันเลยสักกะติ๊ดดด  เครียดดด

                พอมาถึงผู้จัดการคิมก็พาทัวร์รอบบริษัทที่แสนจะเล็กกว่าที่คิด   ด้านหน้าประตูมีแฟนคลับมานั่งรอศิลปินอยู่มากมายจนฉันรู้สึกขนลุกเล็กน้อย  เพราะแต่ละคนสุดๆเลยจริงๆบ้างก็ถือป้ายไฟ  บ้างก็มีที่คาดผมเป็นชื่อวง  บ้างก็ถือกล้องรอแม้ได้เจอไม่ได้ถ่ายก็ไม่เป็นไร  เห็นแล้วก็นึกถึงตัวเอง  ฮ่าๆๆรู้สึกเหมือนตัวเองโง่จังที่ทำอะไรแบบนั้น

                พวกรีเทิร์นหายตัวไปพร้อมๆกันตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้  เฮ้อคิดแล้วก็ยิ่งกลุ้มใจ  ไม่รุ้ว่าซุนวูโกรธฉันเรื่องอะไร  แม้แต่หน้าฉันก็ไม่คิดจะมองเลยอ่ะ  ทีกับพวกสไตลิสคุยเอาๆเชอะ!  น้อยใจแต่ทำอะไรไม่ได้  หรืออาจต้องใช้เวลาปรับตัวเข้าหากัน

                โอ๊ย  ไม่คิดแล้วปวดหัว

                “เอาล่ะทุกๆคน  ทีนี้...”

                “คุณคิมคะ!!

                ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อ  อยู่ๆก็มีเสียงผู้หญิงเล็กแหลมแทรกขึ้นมาจากทางด้านหลังของพวกฉันห้าคน  ผู้จัดการคิมที่กำลังจะพูดถึงกับชะงักแล้วหน้าเหวอทันที  ฉันหันขวับไปดูต้นเสียงก็พบกับหญิงสาวที่หุ่นดี  ขาเรียวสูง  แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดด้วยชุดแซกสีดำสุดเซ็กซี่  ตาคมปาดเฉียวด้วยมาสคาร่า  ปากสีชมพูอ่อนๆดูกลมกลืนไปกับใบหน้า  ผมบ๊อบสีดำสนิทเงางาม...แม่เจ้าเธอเซ็กซี่สุดยอด!

                เธอก้าวฉับๆอย่างว่องไว้พร้อมใบหน้าที่บึ้งตึงเหมือนโกรธอะไรมาแต่ไกล  ก่อนจะ...

                “เฮอะ คุณยังอยู่ที่นี่อีกเหรอคะ  ฉันคิดว่าคุณลาออกไปแล้วซะอีก”  เธอเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย  ใช้สายตาจิกก่อนจะพูดต่อ  “ที่คุณพ่อไม่ไล่คุณออกด้วยตัวเองก็เพราะท่านสงสาร  แต่คนที่ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องอย่างคุณน่าจะลาออกด้วยตัวเองไม่ดีกว่าเหรอคะ  คุณน่าจะรู้ว่าข้อเสนอแบบนั้นมันยากยิ่งกว่าที่จะหางานใหม่ทำซะอีก”

                เธอร่ายยาวติดกันจนฉันฟังไม่รู้เรื่อง  เพราะมีแต่ศัพท์ที่ฟังไม่ถนัดและเข้าใจยากล้วนๆบวกกับความรู้น้อยก็พากันมึนแล้วจ้า

                “คือผมกำลังจะไปหาท่านประธานพอดีเลย”  ผู้จัดการยิ้มออกมาอย่างมีความสุขก่อนจะจัดเสื้อสูดสมัยพระเจ้าเหาให้เรียบร้อย  “คือที่ท่านประธานสั่ง  ผมได้ไปหามาเรียบร้อยแล้วครับ”

                “อะไรนะ...”  เธอหรี่ตาคมเฉียวลงเล็กน้อยอย่างไม่เชื่อหู  แล้วปาดสายตามาทางพวกฉัน  “อย่าบอกนะว่าเด็กพวกเนี่ย!?!

                “ใช่แล้วครับ  ยังไงก็เชิญคุณยุนอาไปหาท่านประธานพร้อมกันเลยไหมครับ”  ผู้จัดการคิมยิ้มแก้มแทบปริก่อนจะพายมือเป็นการเชิญให้คุณยุนอาเดินนำ

                เธอชักสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด  ก่อนจะพูดกระแทกแดกดัน

                “เด็กพวกนี้...ฮึ  แล้วคุณจะเสียใจเพราะพวกเธออยู่ได้ไม่ถึงเดือนหรอก!  แล้วเธอก็จากไปอย่างเริดๆ

                โอ๊ยคนเกาหลีพูดกระโชกโฮกฮากกันแบบนี้นี่เอง  ตามไม่ทันเลยจริงๆ

                เฮ้ยๆ  เมื่อกี้ได้ยินป่ะที่เขาบอกว่าเราจะอยู่ไม่ถึงเดือนอะ  แล้วก็แบบ  ว๊ายยย

                ช็อกโกล่าที่พูดกระซิบกระซาบยังไม่จบนั้น  อยู่ๆก็ถูกร่างหนึ่งชนเข้าอย่างจังจนล้มไปกองกับพื้นแบบหมดรูป  ก่อนจะชักสีหน้ามองไปที่ต้นเหตุทำให้พวกฉันมองตาม  ก็พบกับผู้หญิงร่างเล็กคนหนึ่ง  หน้าตาน่ารัก  ผิวขาวเนียน  ดวงตากลมโต   ผมสีช็อกโกแลตยาวสลวยกับที่คาดผมผ้าลายหวานแหวว  ที่บอกได้คำเดียวว่าน่ารักมาก

                เป็นอะไรรึเปล่าคะ...  เธอเอ่ยถามแล้วยื่นมือให้ช็อกโกล่า

                ไม่เป็นอะไรค่ะ  แหะๆ  พูดเสร็จก็ยื่นมือไปจับมือผู้หวังดีแล้วชันตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อกลบความอับอายเมื่อสักครู่ 

                ขอโทษจริงๆนะคะ  พอดีว่ามัวแต่รีบเลยไม่ทันระวังตัว

                ไม่ค่ะไม่เป็นอะไรเลยจริงๆ  เอ๊ะ...แต่หน้าตาคุ้นมากเลยค่ะ  เราเคยเจอกันรึเปล่าค่ะ  ช็อกโกล่าถาม

                เอิ่ม...เพื่อนฉันเสียมารยาทจัง  แต่ก็หน้าคุ้นจริงๆอะแหละ

                พี่...  ซูชิเหมือนจะพูดและกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่  แล้วจู่ๆก็ตะโกนออกมาอย่างเสียงดัง  พี่แชยองใช่ไหมคะ!” 

                เขาคือใครหว่า?

                พี่ของจงจุนจริงด้วยๆ  เชอร์เบททักขึ้นก่อนจะเอามือป้องปากไม่ให้ตะโกนออกมาด้วยความดีใจ  ตามด้วยไอซิ่งที่ดีใจเหมือนเจอนางฟ้า

                ฉันใช้เวลานึกสักพักก่อนจะร้องอ๋อออกมา  เพาะพี่แชยองคือพี่สาวแท้ๆของจงจุน  ลีจงจุนมือเบสของวงรีเทิร์น  พี่เขาน่ารักและนิสัยดีมากจากที่เคยอ่านทวิตเตอร์ *  เธอคอยตอบทวิตแฟนคลับบ้างเล็กน้อย  พอมาเจอตัวจริงถึงกับอึ้งเพราะน่ารักที่สุดๆๆ

                ใช่แล้ววว  พวกน้องๆคงเป็นคนที่จงจุนเล่าให้ฟังใช่ไหมเนี่ย  แล้วจะไปไหนกันรึเปล่าจ๊ะ  พี่แชยองถาม

                อ๋อ  ยังไม่รู้เลยค่ะ  อยู่ๆผู้จัดการก็หายไปทางไหนไม่รู้  แล้วพวกหนูก็กำลังมึนๆงงๆ  ฮ่าๆๆ  ช็อกโกล่าตอบอย่างว่องไว  ต่างจากตอนที่อยู่ในห้องแต่งตัวคราวนั้น 

                ยังไม่เริ่มงานเหรอ  อืมมม...ไปหาพวกจงจุนกัน  พี่กำลังจะไปหาอยู่พอดีเลย 

                พูดจบก็เดินนำทางไปยังห้องพักที่พวกรีเทิร์นอยู่  ระหว่างทางเดินฉันก็ไม่เจอศิลปินคนไหนเลยทั้งๆที่คิดว่าจะเจอวงอื่นอยู่กันเต็มไปหมดแท้ๆ   เศร้ามาก...  เอ๊ะแต่เดี๋ยวนะ  นี่ฉันก็กำลังจะไปพบกับซุนวูแล้วน่ะสิ  ว๊ายๆๆมีความสุขในสามโลกเลยค่ะ  แม่เจ้าตัวสั่นไปหมดแล้วฉัน

                เมื่อเดินมาถึงห้องๆหนึ่งที่มีป้ายเขียนติดไว้ว่าห้องซ้อม  เอ่อ...ถ้าอ่านไม่ผิดอะนะมันน่าจะอ่านแบบนั้น

    แอ๊ดดด

                พี่แชยองเป็นคนเปิดประตูเข้าไปก่อนจะทักทายอย่างเป็นกันเองกับพวกรีเทิร์น

                สวัสดีจ้าน้องๆ  ได้ข่าวว่ากลับมาไทยวันนี้เลยมาหา  แล้วก็ไปเจอ...เอ่อเข้ามาสิจ๊ะๆ  พี่แชยองกวักมือเรียกพวกฉันให้เข้าไปข้างใน

                ภายให้ห้องที่เย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศกับอุปกรณ์ดนตรีครบคัน  ที่พวกเขากำลังซ้อมกันอยู่  ฉันเดินตามเข้าไปข้างในพร้อมทำสีหน้าตะลึงกับเหล่าเครื่องดนตรีที่ดูแพงแสนแพง 

    ว๊ายย  ตัวนั้นที่เทโฮเล่นตอนคอนเสิร์ตที่บูโดกัน

    อุ๊ยๆๆ  ไม้กลองจองมินมีตุ๊กตาเขียนไว้ด้วยอ่ะ  น่ารักที่สุด

    พวกเราถือวิสาสะกระดี๊กระด๊ากับของต่างๆ  ฉันมองกีตาร์ของซุนวู  แต่จะให้มองอย่างเดียวมันก็ยังไงๆอยู่ฉันเลยจิ้มจึกๆนิดนึงให้เป็นบุญ

    จึกๆ

    ย๊า  เธอทำอะไรของเธอน่ะ  เสียงซุนวูดังขึ้นจากทางด้านหลัง  ทำเอาฉันสะดุ้งโหยงกระโดดออกมา  แต่ก็ไม่ได้ออกมาตัวเปล่าเพราะ

    โครม!!!

    T^T  เพราะฉันดันไปเกี่ยวสายสะพายกีตาร์ติดมาด้วยจนมันกระแทกกับโต๊ะหล่นลงพื้นแล้วก็ลากครูดตามฉันตอนกระโดดมาด้วย  แม่เจ้า  อยากกลับบ้าน

    ขอโทษษษษษษษ

    เฮ้ย!”  ทุกคนร้องเสียงหลงรวมถึงฉันด้วย  ที่กลืนน้ำลายเฮือกใหญ่

    ฉัน...ขอโทษนะซุนวู  ฉันพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา  ไม่รู้จะพูดอะไรดีที่จะทำบรรยากาศให้มันดีขึ้น  ฉันมองสภาพกีตาร์แล้วเข่าอ่อนขึ้นมากะทันหัน  ก่อนจะนั่งยองๆแล้วยกมือขอโทษขอโพยน้ำตาเหมือนจะไหลออกมาให้ได้แต่กลั้นไว้ไม่ให้ไหลออกมาจนทำให้เจ็บคอ  ฉันเอื้อมมือไปหยิบกีตาร์สีน้ำเงินตัวนั้น...แต่มือใหญ่ไวกว่าคว้ากีตาร์ไปครองแล้วเดินเปิดปะตูห้องออกไป...เขาจากไปทั้งๆที่ไม่พูดว่าอะไรฉันสักคำ  ซุนวูฉันขอโทษ 

    ฉันร้องไห้โฮออกมาทันที  เพื่อนๆและพี่แชยองต่างเข้ามาพยุงให้ฉันลุกขึ้น  ฉันเห็นลางๆว่าจองมินเฮซองวิ่งตามออกไป  เหลือเพียงจงจุนที่มองหน้าฉันแบบแปลกๆ  ส่วนเทโฮยิ้มน้อยๆก่อนจะปลอบใจฉันด้วยคำพูดอ่อนโยน

    ฮึกๆ  ถ้าเลือกได้ฉันอยากรักเทโฮบ้างจัง  ฉันรู้สึกแย่จนไม่อยากทำอะไรต่อแล้ว...

    ฉันนั่งนิ่งและเงียบมาตลอดทางไปที่พักหลังจากหยุดร้องไห้เป็นการใหญ่  ผู้จัดการคิมที่เข้ามาหลังจากเสร็จธุระก็ทำสีหน้างงๆ  พี่แชยองจึงเล่าเรื่องให้ฟัง...  ผู้จัดการถึงกับอุทานไม่เป็นภาษาเลยทีเดียวด้วยความตกใจ  จนในที่สุดเขาก็พาฉันมาที่พัก  พี่แชยองขอตัวกลับ  ส่วนรีเทิร์นได้กลับที่พักไปแล้ว

    ชีวิตต่อจากนี้ฉัน...จะสู้หน้าซุนวูได้ไหมนะ

     

    รถแล่นเข้ามาถึงตัวตึกที่สูงสิบห้าชั้นเมื่อไรไม่รู้  ช็อกโกล่ากับเชอร์เบทได้แต่ร้องวี๊ดว๊ายด้วยความดีใจ   พอลงจากรถฉันก็สังเกตเห็นบรรยากาศรอบข้างที่สดชื่นและอากาศดีมาก  เพราะว่าที่เกาหลีอากาศเย็นกว่าเมืองไทยจึงทำให้บรรยากาศดูดีกว่าแต่ถ้าดูโดยรวมก็งั้นๆแหละเชอะ...

    ฉันไม่มีแรงจะตื่นเต้นหรืออะไรทั้งนั้น  แค่ลากกระเป๋าตามคนอื่นๆไปโดยไร้จิตวิญญาณก็พอแล้ว

    ห้องนี้เลยๆ  ส่วนห้องฉันอยู่ข้างล่างนะ  ผู้จัดการคิมที่เดินนำหยุดอยู่หน้าห้องหนึ่ง  แล้วห้องข้างๆก็ห้องของรีเทิร์น...

    ฮะ!  กรี๊ดดดดห้องของรีเทิร์นเหรอคะ  จริงเหรอลุงๆ  กรี๊ดดด  ช็อกโกล่าร้องลั่นกว่าชาวบ้าน

    ลุง?  อื้ม...เอาเป็นว่าเรื่องราววันนี้ก็ลืมๆมันไปซะนะ  พวกเขาก็นิสัยแบบนี้แหละอย่าไปเอามาใส่ใจเลย

    ผู้จัดการคิมถอนหายใจเฮือกใหญ่  ความจริงเขาก็เหมาะกับลุงอยู่หรอกนะ

    พูดจบก็ส่งกุญแจให้กับไอซิ่งที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุด  แล้วขอตัวกลับห้องไปพักผ่อน  ไอซิ่งรีบไขกุญแจเข้าไปในห้องทันทีแต่จังหวะนั้น...

    แอ๊ดดด

    เสียงประตูห้องข้างๆเปิดออกอย่างช้าๆ  ก่อนจะเอาหน้าโผล่ออกมาส่องสายตาไปมาก่อนจะมาหยุดอยู่ที่พวกฉันห้าคน  เทโฮเจ้าชายผู้หน้าหลงใหลที่สุดก้าวออกมาจากห้องพร้อมร้อยยิ้มเล็กๆเช่นเคย  เทโฮเอื้อมมือไปปิดประตูก่อนจะทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    “ไง  ว่าแล้วเชียวว่าต้องพวกเธอ  ฉันได้ยินเสียงดังเลยออกมาดู”  เทโฮเอ่ยขึ้น

    “เอ่อ...ฉันขอโทษจริงๆนะคะ  ที่ทำเสียงดังรบกวนพวกคุณ”  ไอซิ่งที่เมื่อกี้เข้าไปในห้องได้ครึ่งตัวก็รีบปาดหน้าเข้ามาแทรกอย่างรวดเร็ว

    “ไม่เป็นไร  อย่าเรียกคุณเลยเรียกชื่อก็ไม่ฉันไม่ถือ  จริงสิๆพวกเธอชื่ออะไรกันเหรอ  เจอกันบ่อยแต่ก็ไม่ได้ถามโทษทีนะ” 

    “ฉะ...”

    “เฮ่  เทโฮฉันทนกิ้งก่านายไม่ไหวแล้วนะโว้ยยย”

    ยังไม่ทันที่ไอซิ่งจะเอ่ยปากอะไรประตูห้องรีเทิร์นก็เปิดออกพร้อมเฮซองที่ผมเผ้าและสีหน้ายุ่งเหยิง  เมื่อเห็นพวกเรา  วิหน้าทีนั้นก็ชักสีหน้าใส่  -____-^ แบบนี้

    “รีบๆเข้าห้องซะ  ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฮึย!

    ปัง!

    ดีมากๆเลยที่เจ้าบ้านต้อนรับแบบนี้  แล้วชีวิตสี่เดือนมันจะมีความสุขหรือไงฟะ  ทนไม่ไหวแล้วนะเว้ย

    “อ๊า  แย่จัง  วันนี้ก็ยังไม่รู้จักกันอยู่ดี  พอดีฉันฝากเขาอาบน้ำให้เพื่อนฉันนิดๆหน่อยเอง  เฮ้อไว้ค่อยคุยกันใหม่นะ  อ๋อ ส่วนนี่เทียนหอมให้พวกเธอ  เวลาจุดก่อนนอนมันจะช่วยให้ผ่อนคลายแล้วก็สดชื่นสุดๆเลยล่ะ  ที่ไทยก็มีแบบนี้ใช่ป่ะ”  ไอซิ่งรีบรับเทียนมาถือไว้สั่นๆก่อนจะพยักหน้าตอบ

    “ขอบคุณนะ”  เคลิ้มมากเพื่อนฉันทำหน้าเคลิ้มและหื่นมาก

    “ไว้เจอกันนะ^^/

    กรี๊ดดดดดดดดดดดน่ารักมากค่ะ

    เมื่อพวกเราเข้ามาในห้องก็รู้สึกผ่อนคลายทันที  เพราะในห้องนี้มีทุกอย่างพร้อม  เพียงแค่ลากกระเป๋าเข้ามาก็อยู่ได้เลย  แถมยังกว้างใหญ่มากๆด้วย  แฮปปี้สุดชีวิต  ฉันรู้สึกเพลียมากจึงขอหลับสักพักหนึ่งที่โซฟานุ่มๆ  พวกเพื่อนๆก็พากันจัดข้าวของให้  ฉันรู้สึกว่าชีวิตฉันผ่อนคลายขึ้นเยอะเลยเฮ้อ  ฉันหลับตาลงพร้อมกับสมองโล่ง  เอ๊ะ  กลิ่นอะไรหอมๆเนี่ย ฟืดๆสดชื่นจัง...

     

    หือ?

    ไม่รู้ฝันหรืออะไรฉันนอนไปได้นานเท่าไรไม่รู้  รู้แต่ได้กลิ่นอะไรไหม้ๆแทนหอมๆที่ได้กลิ่นก่อนหลับเอ๊ะ...

    ฉันลืมตาขึ้น  ตอนนั้นเองฉันก็เข้าใจทุกอย่างว่า  ไฟไหม้ TOT!!!  กรี๊ดดดดด

    ________________________________________
       

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×