คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : File 18 : ตัวช่วย / แฟนหลอกๆ / เล่นละคร
File 18 : ตัวช่วย / แฟนหลอกๆ / เล่นละคร
Sushi ‘ s Talk :
เฮ้อ ช่วงนี้อะไรก็น่าเบื่อไปหมดเลย จงจุนมักไม่อยู่ที่หอพักเลย เขามักใช้เวลาส่วนใหญ่ไปตามติดแฟนสาวทั้งหลายของเขา ไม่รู้ใครติดใคร ซึ่งฉันเข็ดที่จะสะกดรอยตามเขาแล้วล่ะค่ะ!! เข็ดจริงๆ แถมจงจุนยังชอบยิ้มแล้วยักคิ้วกวนประสาทอีก แต่ไม่รู้ทำไมใจฉันเต้นแรงทุกครั้งเลยที่เจอเขา เหมือนว่าเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของจิตใจไปเสียแล้ว ควบคุมไม่ได้เลย...ทำไมกันนะ เหมือนเรา...เคยรู้จักกันมาก่อน หรือเพราะ...จูบแรกของฉันเสียไปซะแล้ว ฉันใจแตกไปซะแล้วเหรอเนี่ย พ่อกับแม่ฆ่าฉันตายแน่ๆ ฮือออ ซูชิขอโทษนะคะ
“ย๊า ซูชิ” พี่โปรดิวเซอร์ในที่ทำงานเรียกฉันที่นั่งอ่านตารางงานอย่างใจลอย "มือถือเธอสั่นอยู่นะ จะไม่รับรึไง"
ฉันพยักหน้ารับ ก่อนจะปล่อยให้มันสั่นไปอย่างนั้น วันนี้ก็มาใช้เวลาเรื่อยเปื่อยอยู่ที่บริษัทอีกตามเคยสินะเรา ทำไมทุกคนดูเหมือนมีอะไรทำกันวุ่นวายไปหมด ช็อกโกล่า วนิลา เชอร์เบท หรือแม้แต่ไอซิ่งด้วย
“นี่ เธอจะใจลอยไปถึงไหนฮะ” คราวนี้ผู้จัดการคิมเป็นคนพูดขึ้น “ฉันไม่ได้ให้เธอมานั่งเฉยๆนะ จงจุนหายไปไหนเธอรู้บ้างไหมเนี่ย”
“ฉันก็กำลังตรวจตารางงานของรีเทิร์นในเดือนหน้าอยู่นี่ไง”
“ทำไม...” เขาชะงักก่อนจะก้มหน้ามาใกล้ๆฉันแล้วกระซิบ “ทำไมเธอปล่อยให้จงจุนอยู่ตัวคนเดียวล่ะ เธอไม่รู้เหรอว่าถ้าเขามีข่าวแย่ๆเรื่องผู้หญิงอีก เธอน่ะแย่เอง!” ผู้จัดการคิมพูดขึ้นพร้อมเอานิ้วปาดคอให้ดูเป็นตัวอย่าง
“ฉันก็อยากปรึกษาผู้จัดการเรื่องนี้แหละค่ะ”
“ฮะ เธออยากจะปรึกษาฉันเหรอ!” ผู้จัดการคิมพูดขึ้นเสียงดัง ราวกับได้รางวัลใหญ่ เขาแสดงสีหน้าท่าทางดีใจมาก
ดูเหมือนว่าเขาจะ...ไม่ค่อยมีคนมาปรึกษา แต่ก็แน่อยู่หรอกนะ เหอะๆ ฉันควรปรึกษาเขาดีไหมนะ
“ก็คุณเป็นคนที่รู้เรื่องนี้ด้วยใช่ไหมล่ะ ความจริง...เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว... ฉันแอบตามเขาออกไปกลางดึก ตอนที่พวกคุณกำลังหลับกันอยู่นั้นแหละค่ะ” ฉันพยายามพูดด้วยเสียงเบา
“ย๊า เธอกล้าตามผู้ชายออกไปกลางดึกเหรอ” เขาเอามือปิดปากด้วยความตกใจ ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่เลื่อนมาใกล้ๆฉัน
“เบาๆสิลุง เอ๊ย ผู้จัดการ ฉันรู้ว่าเขาผู้หญิงผัวพันเต็มไปหมดเลย แต่ฉันก็ไม่อยากตามเขาไปในสถานที่แบบนั้นแล้วอ่ะ T^T”
หลังจากนั้นฉันก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟัง ยกเว้นเรื่องจูบเท่านั้นที่ฉันจะไม่มีวันเล่าให้ใครฟังเด็ดขาด ฉันจะทำลืมๆไปซะ...ซะที่ไหน ฉันจะจดจำไว้ว่าฉันจูบกับมือเบสวงรีเทิร์น จูบที่ป้าๆแย่งกันฮืออ แต่ดูเหมือนคนที่น่าตกใจมากที่สุดคงจะเป็นผู้จัดการ ที่นั่งทำหน้าซีดอยู่ข้างๆ เห็นอาการแล้วฉันว่าเขาคงจะเป็นที่ปรึกษาให้มากไม่ได้แหง
ครืด ครืด
โทรศัพท์ฉันยังสั่นอย่างต่อเนื่องจนพี่ๆให้คนหันมาส่งสายตาว่าถ้าฉันไม่รับสายตอนนี้เขาจะโยนมือถือฉันทิ้งลงไปจากชั้นสามถึงพื้น ฉันเลยได้แต่จำใจยอมรับ...ก็ที่ไม่อยากรับก็เพราะในนี้มีแต่เบอร์พวกเพื่อนๆที่ซุกซน ชอบโทรมาคุยด้วยเรื่องไร้สาระ ก็นะ...ใช่ว่าฉันจะรำคาญ แต่ว่าอารมณ์เวลานี้มันค่อนข้างไม่มั่นคง ฉันกลัวจะวีนแตกจนหมดภาพผู้นำของกลุ่ม
ฉันมองเบอร์ที่ไม่คุ้น ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นด้วยความฉงน ดูเหมือนผู้จัดการเองก็สงสัยเหมือนกัน เขามองแล้วมองอีก ก่อนจะ
“อ้าว เธอแลกเบอร์กับจงจุนแล้วเหรอ” เขาพูดด้วยสีหน้าตกใจอีกครั้ง
เหวอออ เบอร์มือถือของศิลปินคนแรกตั้งแต่มาเกาหลี กรี๊ดดด ดีใจจริงๆเลย แถมยังเป็นจงจุนด้วยอ่ะ อยากร้องไห้ แต่! นี้ไม่ใช่เวลามาร้องไห้ ทำไมเขารู้เบอร์ของฉันล่ะ จริงๆฉันกะจะขอเบอร์เขานะเนี่ย แต่ดูเหมือนเรายังไม่สนิทกัน
ฉันกดรับสายอย่างไม่รีรอเมื่อรู้ว่าเป็นเบอร์ของใคร (แอบโกรธเขาอยู่แต่ก็ชอบเขามากกว่าโกรธอะ)
“ฮัลโหล นายรู้เบอร์ฉันได้ไงเนี่ย”
‘โอ๊ะ รู้ด้วยเหรอว่าฉันเป็นใคร’
“อีจงจุน ฉันเรียกถูกไหม นายพูดช้าๆหน่อยได้ไหมฉันฟังภาษาเกาหลีผ่านโทรศัพท์ไม่ค่อยชัด”
เหมือนจงจุนอยู่ในที่เสียงดังมากๆแห่งหนึ่ง เพราะเสียงดังและคลื่นรบกวน ทำให้ฉันฟังที่เขาพูดไม่รู้เรื่อง
“ฮัลโหลๆ นายเงียบทำไมเนี่ย นายอยู่ที่ไหน ให้ฉันไปรับไหม” ฉันพูด...ว่าไปนั่น ฉันจะไปรับเขาได้ไงกัน
‘ฉัน...อยากเจอเธอตอนนี้เลย ฉันอยู่ที่ XXX เร็วๆหน่อยนะ เฮ่! พี่ทำแบบนั้นไม่ได้นะ’
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
สายตัดไปแล้ว เหลือแต่เพียงความงุนงงทิ้งไว้ให้ฉัน ช่วงนี้มันเกิดเรื่องบ้าบออะไรกันนักกันหนาเนี่ย แล้วไอ้ที่ที่เขาบอกให้ฉันไปหามันอยู่ที่ไหนของประเทศเกาหลีวะเนี่ย คิดว่าที่นี่เป็นบ้านฉันรึไง ถึงจะเป็นบ้านฉันฉันยังไม่รู้ลึกเลย หงุดหงิดจัง
“ที่ที่เขาบอกอยู่ในโซล นั่งรถเมล์ไปก็ถึง อยู่ใกล้ๆนี่เองป้ายเดียว”
“นี่ลุงแอบฟังคนอื่นเขาคุยกันเหรอ” ฉันท้วงขึ้น ละเมิดความเป็นส่วนตัวอะ
“จะบ้าเหรอ เธอเผลอเปิดลำโพงเองนะ” ผู้จัดการพูดแล้วชี้มาที่มือถือของฉัน
แป่ว ลืมไปเลยว่าเปิดไว้ ก็มันไม่ได้ยินก็เลยเผลอเปิดลำโพง หว่าๆๆ
“งั้นฉันไปก่อนนะคะ” ฉันพูดก่อนจะคว้าเสื้อกันหนาว กระเป๋าสะพาย แล้ววิ่งออกมา งานเงินไม่ได้ใส่ใจ กองมันทิ้งเอาไว้ที่บริษัท
ฉันวิ่งลงมาจากบริษัทแล้ววิ่งไปที่ป้ายรถเมล์ทันที โชคดีที่รถเมล์มาถึงเร็ว ฉันเลยไม่ต้องยืนรอ แม้มันจะอัดแน่นเป็นปลากระป๋องตราสามแม่ครัวที่ไม่ได้กินมานานแล้วก็ตาม ไม่ว่าจะประเทศไหนๆพอเลิกงานก็ต่างพากันเบียดเสียดอยู่บนรถโดยสารสินะ เฮ้อ
ในที่สุดฉันก็มายื่นอยู่ที่ร้าน บาร์แอนด์เรสเตอรองท์ เป็นร้านผับหรูที่มีทางเข้าเป็นประตูยุดบาร็อก เป็นศิลปะที่อลังการมากทีเดียว ดีที่วันนั้นแต่งตัวมาดีทำให้พนักงานต้อนรับผายมือเชื้อเชิญอย่างเต็มใจ
“เชิญด้านในครับ” พนักงานกล่าวขึ้นแล้วทักทายด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณค่ะ” ฉันตอบกลับแล้วก้มหัวเล็กน้อยตามมารยาท
เมื่อเดินเข้ามาฉันก็รู้สึกสับสนมึนงงกับแสงระยิบระยับที่ส่องแสนสลับกันไปมาอยู่บนเนื้อตัวของสาวไฮโซทั้งหลาย ที่เป็นลูกคุณหนู ชอบใส่ของมาอวดแข่งกัน ฉันพยายามปรับสายตาให้เข้าที่และไม่สนใจสิ่งสะท้อนแสงนั้น ฉันมองหาอีจงจุนไปรอบๆแต่ก็ไม่พบผู้ชายที่ชื่ออีจงจุนเลยสักนิด
นี่เขาแกล้งอำฉันเล่นรึเปล่าเนี่ย
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงชื่อซูชิใช่ไหมครับ” ชายเกาหลีร่างสูงโปร่งสง่าคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายฉันด้วยคำพูดที่สุภาพ
“ใช่ค่ะ ฉันเอง” ฉันตอบกลับ พนักงานก้มหัวให้เล็กน้อยก่อนจะให้ฉันเดินตามเข้าไปหาคนๆหนึ่งที่อยากพบตัวฉัน แน่นอนว่าต้องเป็นจงจุนแน่ๆ
เราเดินขึ้นมาบนชั้นสอง ไม่รู้ฉันรู้สึกไปเองรึเปล่าว่ายิ่งขึ้นมาชั้นสองฉันยิ่งรู้สึกถึงความร่ำรวยที่แพร่ออร่าออกมาจนน่าตกใจ ฉันหยุดอยู่หน้าห้องหนึ่งตามพนักงานที่เดินนำ เขาเคาะประตูด้วยท่าทางสุภาพ
"ขออนุญาตครับ ผมพาแขกมาพบครับ"
เมื่อพนักงานชายพูดจบฉันก็โผล่หน้าไปดูบรรยากาศในห้องเล็กน้อย ภาพที่เห็นคือพวกพี่ๆหน้าเดิมหน้าใหม่ วุ่นวายกันไปหมด แถมในห้องยังมีผู้ชายคนเดียวก็คือจงจุน อีจงจุนผู้แสนจ้าชู้ ฮึย!รู้สึกเหมือนโดนหลอกยังไงก็ไม่รู้ หงุดหงิดที่เห็นจงจุนอยู่กับผู้หญิงคนอื่นด้วย โอ๊ยเครียด และจังหวะเดียวกันนั้นเอง ทุกสายตาก็จ้องมองมาทางฉันอย่างไม่ละทิ้ง ดวงตาทุกคู่คบกริบซิบๆเหมือนจะบาดลึกตัวฉันให้ละเอียดเป็นชิ้นๆนั้นแหละ ฉันที่คิดว่าบรรยากาศมันกำลังจะแย่พร้อมเตรียมถอยหนี...แต่แล้วมือๆหนึ่งก็มาฉุดแขนฉันเอาไว้...
"ที่รัก จะกลับเลยใช่ไหมล่ะ" อีจงจุนหนุ่มขี้อ้อนลุกพรวดมาจากไหนไม่รู้ เขาพูดก่อนจะหันหน้ามายิ้มให้ฉันที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่
"ฮะ?" ฉันทำหน้าเอ๋อ
"ป่ะ เรากลับกันเถอะ..." จงจุนเข้ามาโอบเอวของฉันทันที "แฟนผมมาแล้วงั้นขอตัวก่อนนะครับนูน่า ป่ะที่รัก..."
"โหยยย มีตัวจริงแล้วจริงๆเหรอเนี่ย นูน่าเสียใจ แต่ไม่โกรธ"
เอิ่ม...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย นี่มันนิยายบ้าอะไร TOT
เราสองคนเดินออกมาห่างพอสมควร จงจุนปล่อยแขนออกจากเอวของฉัน จากนั้นก็หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ ห้ามยิ้มนะคนบ้า กรี๊ดดดดด ใจฉันจะละลายแล้วด่าไม่ออกเลยตอนนี้ ได้แต่เก็บความรู้สึกโกระเอาไว้แล้วเดินจากออกมาอย่างรวดเร็ว ให้ตายสิเขาเห็นฉันเป็ฯไม้กันหมาหรือไงกัน นึกจะเรียกก็เรียกมา คนบ้า
"เฮ่ เดี๋ยวสิ ยังไม่ขอบใจเลยที่อุตส่าห์มาช่วยฉัน...เฮ่!"
"ไม่ต้องมาพูดอะไรทั้งนั้น ฉันไม่อยากฟัง" ฉันพูดไปเดินไป
"เธอโกรธอะไรของเธอเนี่ย" จงจุนก็เดินตามฉันกึ่งวิ่ง
"ก็ได้ นายอยากรู้ใช่ไหมว่าฉันโกรธอะไร นายมันฉวยโอกาส! ไม่พอนะยังหลอกให้ฉันลำบากลำบนมาเป็ฯไม้กันหมาให้นายอีก ตลกมากรึไงที่ล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่น" ฉันพูดใส่ออกเป็นชุด
"เธอ...ชอบฉันใช่ไหมล่ะ"
กึก!
"จะๆไปไหนก็ไปเลยฉันจะกลับบ้าน คนบ้า!" ฉันเดินเลี่ยงกับการสบตาเขามากที่สุด จะบ้าตาย ปกตฉันเป็นคนใจเย็นนะ แต่นี่ฉันหลุดคำพูแบบนั้นออกไปโดยไม่คิดก่อนได้ยังไงกัน ฮือออ น่าอายชะมัดเลย
"ตอบมาก่อนเซ่! เพราะถ้าเธอชอบฉันจริงๆ... เธอก็ทำผิดกฏแล้วล่ะ เธอก็จะต้องกลับบ้านเธอไปไงล่ะฮะๆ" จงจุนพูดพร้อมรอยยิ้มแบบมีชัย แบบที่ฉันไม่คิดว่าจะได้เห็นมันเลยในชีวิตนี้...จากใบหน้าของเขา
เขาพูดเรื่องบ้าอะไรตั้งแต่เมื่อกี้แล้ววะเนี่ย
"เมื่อกี้ฉันแค่เล่นๆกับเธอ ดังนั้นก็อย่าคิดจริงจังอะไรมาก"
แปล๊บ... เจ็บที่หัวใจจัง...ที่ใครๆบอกว่าเจ็บหัวใจเพราะแบบนี้เองเหรอ เพราะว่าเขาพูดจาไม่เข้าหูฉันหลายอย่าง ฉวยโอกาสแบบน่าทุเรศ แต่มันไม่มีอะไรน่าเจ็บใจไปว่าที่เขาพูดเหมือนว่าฉันเป็นแค่ไม้กันหมา หรือของเล่นตลกสำหรับเขา... ฉันยืนนิ่งพยายามก้มหน้าสะกดความโกรธและน้ำตาที่มันคลอตาไว้ ฉันน่ะไม่ว่าใครจะพูดอะไรฉันก็เชื่อใจและมั่นใจในตัวจงจุนอยู่เสมอ ครั้งแรกที่เราเจอกัน ฉันก็นึกว่ารู้จักเขามากกว่าใคร แต่มัน...เมื่อไรกันที่อะไรๆก็เปลี่ยนไป
"นาย..." ฉันเริ่มต้นพูดด้วยเสียงแหบแห้ง "...คิดว่าตัวเองใหญ่มาจากไหน...เห็นฉันเป็นของเล่นของนายรึไง!!!"
เพี๊ยะ!!
ฉันเดินไปตรงหน้าเขาแล้วยกฝ่ามือขึ้นตบหน้าเขาอย่างแรง ทำให้เขาถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะหันมาจ้องฉันด้วยสายตาโหดเหี้ยมและโกรธเคือง
"เธอ! กล้ามากนะ..."
เพี๊ยะ!!
"ไอ้คนเฮงซวยเอ่ย!" ฉันสบถขึ้นเป็นภาษาไทย
"'ฮึ!" จงจุนระเบิดอารมณ์โมโห ก่อนจะดึงแขนของฉันไว้แน่นแล้ว...ประทับรอยจูบอย่างรวดเร็ว
พรึบ!
ตุบ!
ฉันเบี่ยงหน้าหลบพร้อมกับกระแทกเข้าที่จุดอ่อนของเขา จงจุนช็อคปนจุกเล็กน้อย เขาชี้มาทางฉันด้วยสีหน้าเหยเก ปากพูดอย่างไร้เสียง น้ำตาคลอ
"ฉันไม่ง่ายอย่างที่นายคิดหรอกนะ คนอื่นจะยอมนายยังไงฉันไม่สน รู้แต่ว่าฉันชอบนายด้วยใจบริสุทธิ์ ดังนั้น อย่าทำให้ฉันเกลียดนายเลยจงจุน อีจงจุน" ฉันพูดจบก็สะบัดหน้าเดินหนีเขาทันที
หน๊อยแน่! คิดจะมาเล่นบทตบแล้วจูบเหมือนละครน้ำเน่าอย่างนั้นฝันไปเถอะย่ะ ฉันหญิงไทยสงวนตัวไม่เปลืองเนื้อเปลืองตัวหรอก แล้วฉันก็ไม่ใช่ของเล่นของใคร ดังนั้น! อีจงจุนนายเตรียมตัวเตรียมใจได้เลย นายจะต้องชอบฉันแน่ๆฮี่ๆ
เอ๊ะ นี่ฉันอยู่ใกล้กับช็อกโกล่ามากไปรึเปล่า T^T
ความคิดเห็น