ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Because I'm Crazy เพราะฉันมันบ้ารักเธอสุดสุด ❤♪

    ลำดับตอนที่ #13 : File 09 : สองต่อสอง / สับสน / แขกไม่ได้รับเชิญ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 506
      1
      24 พ.ค. 55


     



    File 09 : สองต่อสอง / สับสน / แขกไม่ได้รับเชิญ

    Chocola ‘ s Talk

                    ฝูงชน!!  คนพันธ์แท้!!  บ้าบอที่สุดดดดด  ฉันไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย  ว่าแฟนคลับเกาหลีจะแรงแล้วก็เยอะขนาดนี้  ฉันว่าที่ไทยก็เยอะแล้วนะพอมาเจอแฟนคลับเกาหลีเนี่ย  แฟนชาวไทยชิดซ้ายไปเลยจ้า  แค่งานแจกลายเซ็นในห้างเล็กๆแห่งหนึ่งในกรุงโซล  จำนวนคนที่ได้ก็มีแค่ร้อยห้าสิบคนแต่ทำให้จำนวนคนมามันเกินขนาด  ห้างจะแตกอยู่แล้วนะ  ที่สำคัญคือ...  ฉันได้รับหน้าที่ให้ทำงานอยู่หลังฉากเนื่องจากมีสตาฟและบอร์ดี้การ์ดข้างนอกเยอะแยะเต็มไปหมด  ผู้จัดการคิมก็สั่งให้ทำนู่นนี่เยอะแยะไปหมด  วิ่งวุ่นจนถึงงานแจกลายเซ็นเลย

                    เฮซองที่เดินขากระเผลกออกไปปะทะสื่อและแฟนคลับที่ทำสีหน้าเป็นห่วง 

                    “โอปป้าขาเป็นอะไรคะ!  แฟนคลับหลายคนทักขึ้นด้วยสีหน้าตื่นตกใจ  นั่นเป็นเครื่องหมายอันดีว่าข่าวเข้าไม่ถึงช่วงเวลานั้น  ไม่อย่างนั้นทุกคนจะรู้ว่าฉันเป็นคนทำ

                    “นั่นสิใครเป็นคนทำกัน  ฉันจะฆ่ามัน”

                    หนูเองค่า  ทางนี้  T^T/

                    “บังอาจมาทำกับเฮซองได้ยังไง  ใครเป็นคนทำ”

                    และอีกหลายเสียงที่ทำให้ฉันรู้ว่าอุบัติเหตุคราวนี้ฉันได้รับผลตอบรับกลับมาดีมาก  แม้เขาจะไม่เอ่ยชื่อของฉันแต่ก็รู้สึกเหมือนถูกกดดันทางคำพูด  ฮือออ

                    โครม! 

                    เสียงดังสนั่นมาจากทางด้านนอก  ฉันรีบวางงานที่ทำอยู่ไปดูทันทีที่เห็นทุกคนวิ่ง  เมื่อออกไปก็พบกับความโกลาหล  เมื่อเอซองล้มระเนระนาดกลางงาน  โต๊ะป้านโฆษณาล้มทับขาที่เข้าเฝือกของเขา  เฮซองฝืนกลั้นนน้ำตาไว้เงียบๆก่อนจะพยายามยันตัวเองให้ลุกขึ้น  เทโฮกับซุนวูรีบช่วยพยุงเฮซองที่ท่าทางเก้ๆกังๆ  จากนั้นพวกเขาก็พากันก้มหัวขอโทษแฟนๆทุกคน  นักข่าวมากมายถามถึงอาการที่ขาเข้าเฝือก  ผู้จัดเลยการจัดการแก้ข่าวไปว่าเกิดอุบัติเหตุระหว่างที่ออกกกำลังกาย

                    “นายโอเคนะ”  สไตลิสต์ที่ฉันเพิ่งทำความรู้จักที่ชื่อ  ซูยอน  เธอถามขึ้น

                    “อื้ม  โอเค  แค่ปวดนิดหน่อย”  เฮซองไม่ตอบอะไรมาก  นั่นแสดงว่าเขาคงเจ็บมาก

                    ฉันทำหน้าสลดลงเล็กน้อยก่อนจะ  เดินตามคนอื่นไปเงียบๆโดยมีเพื่อนปลอบใจอย่างข้างกาย  จากนั้นพวกเราก็พาเฮซองไปหาหมอและกลับบ้าน...  โดยไม่มีใครพูดอะไรเท่าไรนัก

                    เช้าวันต่อมา...

                    ว่าง...  ทำไมวันนี้มันว่างอย่างนี้เนี่ย  แถมห้องที่เคยดูเหมือนคับแคบก็กว้างขึ้นทันตาเห็น  เป็นเช้าอีกวันหลังจากที่เมื่อวานเกิดเรื่องราวเล็กน้อยขึ้น  และเมื่อคืนฉันก็ได้รับข่าวร้ายอีกหนึ่งข่าว

                    ขอโทษทีนะช็อกโก้  เมื่อวานหมอสั่งห้ามเฮซองทำงานที่ต้องเดินบ่อยๆ  เขาเลยถูกพักงาน  แต่หลังจากนี้ก็ไม่มีงานอะไรมากแล้ว  ฉันเลยอยากให้เขาพักผ่อนอยู่บ้าน  เธอก็ดูแลเขาให้ทีนะระหว่างที่พวกเราไปทำงาน  ผู้จัดการพูดจบก็ตักข้าวเข้าปากต่อ

                    จบการพูดถึงคำพูดที่โหดร้าย  ฮืออออเศร้าปนดีใจ

                    ใช่แล้วจ้า  ตอนนี้ฉันมีชีวิตที่แสนจะอึดอัดกับเฮซองอยู่  แต่ว่าในใจฉันตอนนี้กลับดีใจจนพูดอะไรไม่ออก  ไม่รู้ว่าอันนี้เขาเรียกกันว่าอยู่สองต่อสองหรือเปล่า  พูดไปแล้วก็เขิน  ว่าแต่ฉันควรวางโปรแกรมของการอยู่ร่วมกันไว้ก่อนดีไหมนะ  เช่นเล่นเกมด้วยกัน  ดูหนังด้วยกัน  คิคิคิ  แค่คิดก็มีความสุข  วันนี้ฉันอาจจะปรับความเข้าใจกับเขาใหม่ก็ได้

                    “เอ๊ะ  แล้วนี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วฮะ  ทำไมคุณชายยังไม่ตื่นอีก”

                    ฉันหันไปมองนาฬิกาที่ถูกแขวนอยู่ตรงเสาของห้อง

                    แปดโมง!

                    “สายแล้วนี่นา  หมอให้ยามากินหลังอาหารเช้าด้วย  เดี๋ยวจะเลยเวลากินยาหรอก”  ฉันบ่นพึมพำหลังจากหยิบซองยาที่ผู้จัดการฝากให้จัดการ  ก่อนจะรีบตรงไปที่ห้องของเฮซองแล้วเคาะประตู

                    ก๊อกๆ

                    เงียบ...

                    ก๊อกๆ

                    ไร้ปฏิกิริยาการโต้ตอบ...

                    “นี่  เฮซอง  นายตื่นรึยังฮะ  นาบรีบตื่นมากินข้าวเลยนะ”  ฉันตะโกน

                    ปังๆ (เปลี่ยนจากเคาะประตูมาทุบแทน)

                    “ตื่นได้แล้วจ้า  นายต้องรีบทานข้าวกินยานะ”

                    เงียบ...

                    โอ๊ยยย  นี่มันอะไรกัน  เฮซองหมูน้อยของฉันนอนกินบ้านกินเมืองดีจริงๆ  ไอดอลเขาจะหูตึงตอนเช้าเหรอ  ตะโกนจนลูกคอจะเด้งออกมาระบำนอกคอแล้วนะ  คนบ้า 

                    ฉันเดินไปที่ประตูที่สองของห้องเฮซองที่ติดกับประตูห้องน้ำแล้วลองเปิดดู  แต่ก็ปรากฏว่ามันล็อค  หนอยย  แบบนี้ต้องใช้พลังเสียงอีกครั้งฮ่าๆๆ

                    กรี๊ดดด  ไฟไหม้  ไฟไหม้ช่วยด้วย  กรี๊ดดดดดด  ฉันยืนตะโกนอยู่หน้าห้องของเฮซองด้วยเสียงคูณสอง  จากตอนแรกแถมโปรโมชั่นเหมือนจริงสุดขีด  เอาให้แบบไม่ตกใจตื่นให้รู้ไป

                    ผัวะ!

                    ได้ผล...ประตูหน้าห้องนอนถูกเปิดออก  พร้อมผู้ชายร่างสูงหน้าตาเหลอหลากับร่างเปลือยเปล่ามีผ้าเช็ดตัวปิดส่วนล่างแค่ผืนเดียว  แล้วไหนจะผิวราวกับน้ำนมนั้น

                    O[]o  ช็อค ... Every day I shock (shock) Every night I shock (shock) ~

                    กรี๊ดดดดดดดดดด  ฉันกรี๊ดอีกครั้ง  คราวนี้ของจริงไม่แกล้งทำ

                    อะไร  ไฟไหม้ที่ไหน!”  เฮซองที่ยังคงตกใจกับเรื่องราวหลอกๆ  เข้ามาเขย่าแขนฉันที่มัวแต่เอามือปิดตา  โดยลืมตัวไปว่าตัวเองอยู่สภาพไหน  โธ่เว้ย  กรี๊ดอยู่ได้ตั้งสติหน่อยสิยัยบ้า!” 

                    ไฟไหม้อะไรไม่มีโว้ยยย  แล้วที่ร้องก็เพราะนายนั้นแหละ  ฮึยเคืองเบาๆ

                    มะ  ไม่มีไหม้ที่ไหนทั้งนั้นแหละ  แต่ตาฉันจะไหม้แล้ว

                    ฮะ  นี่เธอหลอกฉันเหรอ  ยัยโง่  ทำบ้าอะไรแบบนี้  โอ๊ยเจ็บขาเจ็บใจ  เฮซองยังคงบ่นนู่นนี่  อยากตายรึไง

                    อะไรนะ!  เมื่อกี้นี้เขาพูดว่าฉันอยากเห็นน้องชายเขางั้นเหรอ  อ๊ายยย  บัดสีทุเรศลามกโรคจิตที่สุด

                    กรี๊ดดดดด  คนบ้า  ทุเรศโรคจิตลามก  ใครเขาอยากจะดูกัน  ปล่อยแขนฉันนะ  กรี๊ดด  ฉันเอามือที่ปิดตาออกทันทีแล้วดิ้นๆเพื่อให้หลุดจากคนลามก  เพิ่งรู้ว่าเอซองหมูน้อยที่ฉันรักหลงมาตลอด  จะเป็นคนแบบนี้  นี่สินะที่ว่าลายออกเห็นๆ  ที่แท้เป็นคนบ้าชอบความลามกนี่เอง  ทำไมลุงถึงให้สาวน้อยแสนซื่อมาอยู่กับเสือบ้าพลังแบบนี้  ดูสิ!  ดิ้นจนรักแร้จะหลุดออกมาอยู่แล้วเขายังไม่ยอมปล่อยฉันเลยค่า  ขาเจ็บจริงเปล่าวะเนี่ย  ดูเหมือนคนปกติ

                    อยากดูอะไร  พูดจาบ้าอะไรของเธอเนี่ย  เฮซองทำหน้าสงสัย

                    ไม่  ไม่ฟังๆ  ฉันเอามือปิดตาปิดหู  แล้วพยายามดิ้นๆจนในที่สุด  เฮซองก็ทำหน้าเหยเกใส่ฉันแบบไม่เข้าใจ

                    ฉันเดินหันหลังไปตั้งสติก่อน  รู้สึกปวดหัวตึบๆ  เหลืออีกกี่ชั่วโมงก็ไม่รู้  ฉันต้องอยู่กับสุดหล่ออีกกี่ชั่วโมงเนี่ย

                    พรึบ

                    เธอ  ไม่ต้องหันมานะ  เสียงเฮซองพูดขึ้น

                    ทำไมอะ

                    อุ๊ยสงสัยอะอยู่ๆก็ห้ามหัน  อ๊ายทำไมอะ

                    ผ้าเช็ดตัวหลุด  = =;;”

                    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด

                   

                    เฮ้อ  เสียงถอนหายใจอันยาวเยียดของฉัน  ที่ปล่อยไปหลายเฮือกเพราะอายด้วยความเข้าใจผิด  หลังจากเปิดดิกฯก็รู้ทันทีว่าแปลความหมายผิดๆ  อับอายเป็นที่สุด  แถมฉันยังเผลอไปตบหน้าเฮซองอีกค่า TOT  ฮือออ  ฉันตบหน้าหมูน้อยไปสองทีเต็มๆ  ฉันทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย  ดูเหมือนเฮซองจะโกรธมาก  แต่ฉันก็คิดว่าเขาโรคจิตจริงๆนี่นา  ฮือออ  ที่จริงฉันมักจะฟังภาษาเกาหลีผิดถูกแบบนี้มาตลอด  ตอนนี้ฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว  อยากจะเป็นขอมดำดินทะลุประเทศไทยเลย

                    เฮซองเข้าไปเปลี่ยนเสื้อ  ไม่นานนักเขาก็เดินกระเผลกออกมาด้วยแฟชั่นเสื้อยืดลายหัวกะโหลกกับกางเกงสามส่วนสุดชิล  ฉันที่เห็นเขาเดินไม่สะดวกก็เลยวิ่งเข้าไปหวังจะช่วย  แต่เขาก็กลับสะบัดแขนหนี

                    ไม่เป็นไรเขาไม่โกรธตัวเองหรอกที่รัก

                    ถอยไปเลยนะยัยตัวซวย  อยู่ใกล้ฉันแล้วเจ็บตัวตลอด  เฮซองพุดจบก็ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา  ก่อนจะหยิบรีโมทมาเปิดเพลงและนั่งเล่นไอแพดไปอย่างเงียบๆ 

                    เชอะ  ฉันก็ขอโทษแล้วไงล่ะ  นายเจ็บมากไหมอะ

                    เฮอะ  เจ็บมากไหมงั้นเหรอ  เธออยากลองโดนตบบ้างไหมล่ะฮะ  เขาพูดอย่างฉุนเฉียว

                    เฮ้ย  ฉันหูฝาดหรือแปลผิดอีกรึเปล่า  เขาบอกจะตบฉันด้วยอ่ะ

                    นายเป็นผู้ชายนะ  จะตบผู้หญิงงั้นเหรอ  ป่าเถื่อนที่สุดเลยอะแงงงง TOT”  ฉันโวยวายทันที

                    เฮ้ย  แล้วจะร้องไห้ทำไมเนี่ย  เฮซองชะงักเล็กน้อย  ก่อนจะเปลี่ยนสายตา  เป็นสายตาที่รู้สึกผิดแทน

                    ฮือออ  นายมันโหดร้ายมากเลย  ฉันอุตส่าห์พูดกับนายดีๆ  นายจะมาตบฉัน  ฮือออ  ผู้ชายนิสัยไม่ดี

                    หึหึหึ  ทุกคนคงคิดว่าฉันเป็นหญิงสาวอ่อนแอสินะ  โอ้โนวว  ฉันคนนี้กำลังเล่นละครตามแผนหญิงร้อยเล่มเกวียนโฮะๆ  ผู้ชายแพ้น้ำตาฟันธง!

                    กะ...ก็ฉันไม่ทำจริงๆสักหน่อย  เธอจะมาร้องไห้ทำไมเนี่ย  เฮซองเสียงอ่อนลงทันที  เขาเขยิบตัวเข้ามาใกล้ฉันพร้อมกับลูบหัวเบาๆ

                    ลูบหัว!

                    นายจะมาลูบหัวฉันทำไม  ฮืออออ

                    ก็แม่ฉันสอนว่า  ถ้าเห็นคนไม่ปกติร้องไห้ให้ลูบหัวไง

                    แป่ว  เขาหาว่าฉันบ้ารึเปล่าวะ  เซ็งจิ๊บนิดนึง

                    ไม่ต้องพูดต่อแล้ว  นายกินข้าวแล้วกินยาซะ

                    ฉันเดินไปยกข้าวต้มมาให้เฮซอง  ก่อนจะนั่งมองเขาตาปริบๆ  โดยที่เขาเองก็ไม่ได้สนใจอะไรฉันสักนิด  เฮ้อ  นี่ฉันหวังสูงไปรึเปล่านะ  มองๆไปเฮซองก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากสักหน่อย  ฉันเองที่กลับมีความคิดแย่ๆ  จะทำให้คนดังอย่างเขามารักฉันภายในสี่เดือนมันคงเป็นความคิดที่ตลกมาก...

                    เฮซองนั่งเล่นไอแพดของเขาไปพลาง  ตักข้าวไปพลาง  ว่าง...

                    ติ๊งหน่อง~

                    อยู่ๆเสียงหน้าห้องก็ดังขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว  ฉันทำหน้าฉงนเล็กน้อย  ก่อนสงสายตาไปทางเฮซอง  ซึ่งดูเหมือนเขาเองก็งงเหมือนกันว่าเป็นใคร  หรือว่าพวกนั้นกลับมาแล้วเหรอ...

                    ฉันไปเปิดเอง

                    ฉันเดินไปที่ประตูห้องหวังจะส่องตาแมว  แต่มันก็...อยู่สูงมาก  ฉันพยายามที่จะเขย่งแล้วก็ทำไม่ได้อีก  โอ๊ยไม่ส่งไม่ส่องมันแล้ว  เปิดเลยแล้วกัน

                    แอ๊ดดด

                    อันยะ...

                    เหวออออออออออ  ฉันชะงักทันทีที่เห็นบุคคลตรงหน้า  เขาสีหน้าตกใจมากเมื่อเห็นฉันเป็นคนเดินออกมาเปิดประตู  เช่นเดียวกับเฮซองทีงุนงงสับสนเหลือเกิน  ว่าร้อยวันพันปีเขาไม่เคยมา  แต่ทำไมต้องเป็นวันนี้...

                    มินฮยอก  =[]=;;;”

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ตัวอย่างตอนต่อไป

                    อยากลองจูบกับฉันดูไหมล่ะ  เลื่อนจากตำแหน่งแฟนคลับมาเป็นแฟนครับเลยเป็นไง

                    ไม่ได้นะ!”

                    เหวออออ  ฉันเผลอตะโกนออกไปโดยไม่ทันตั้งตัว  T^T  เขาขอโทษษษษ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×