ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Thump❉Thump [minji♥seungri]

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 11: Choose: I’m already choose you. [100%update]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 108
      0
      9 เม.ย. 55



    Chapter 11

    Choose: I’m already choose you.

     

     

                ‘ในเมื่อเธอไม่เคยยอมแพ้ในตัวผม ผมก็ไม่ควรจะยอมแพ้ในตัวเธอเช่นกัน

                    สิ่งที่ผมทำได้ก็แค่เอื้อมมือออกไปคว้าอากาศเท่านั้น ผมได้แต่ปล่อยให้เธอเดินจากไปอย่างเดียวดาย ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้นะ พอผมหันกลับมามองคนตรงหน้า..

                    ภาพที่เห็นตอนนี้มันทำให้ผมขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้จริงๆ ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาของฮาราทำให้หัวใจผมบีบแน่นจนรู้สึกอึดอัดไปหมด

     

                    เฮ้อ...ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะสูบมันกลับเข้าไปเต็มปอด

                    “ ไปกันเถอะ “ ผมจูงมือเย็นๆของฮาราออกตัวเดิน อุณหภูมิของมือเธอทำให้นึกถึงคนที่เพิ่งเดินจากไป อากาศเย็นแบบนี้เธอจะไม่สบายรึเปล่านะ ไออุ่นที่ผมสัมผัสจากมือของเธอเมื่อครู่เลือนลางเหลือเกิน มันกำลังถูกแทนที่ด้วยความเย็นจากมือของฮารา

                    เราเดินมาจนถึงรถของเธอ ผมเปิดประตูให้ส่งเธอเข้าไปนั่งด้านในก่อนที่ตัวเองจะวิ่งอ้อมไปอีกด้านเพื่อขับรถ

                    “ อุปป้า “ ทันทีที่รถเริ่มออกตัวแล่นไปบนถนน  ฮาราเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ

                    “ ฮืม “ ผมเพียงแต่ตอบรับเธอเบาๆ

                    “ อุปป้า...อัป...อัปป้า ฮึก อัปป้ามีคนอื่น “ เธอพยายามอย่างมากที่จะพูดมันออกมา ผมเข้าใจดี เธออ่อนแอเกินกว่าจะยอมรับความจริงได้ อัปป้า(พ่อ)ที่เปรียบเสมือนฮีโร่ตลอดกาลของเธอกำลังทำให้ความฝันของเด็กหญิงตัวน้อยแตกสลาย

                    “ ฮารา “ ผมเอ่ยเรียกเธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะดึงมือเธอมากุมไว้

                    “ บางทีคนเราก็จำเป็นต้องทิ้งบางคนไว้เบื้องหลังเพื่อก้าวต่อไป “ ฮาราบีบมือผมแน่น จนผมรู้สึกได้ถึงเหงื่อชุ่มในมือ

                    “ แต่ฉันไม่อยากถูกทิ้งหนิ อุปป้า “ แม้จะสะอื้นร้องไห้ แต่เธอก็พยายามจะพูดออกมา

                    “ ไม่มีใครอยากถูกทิ้งหรอก ฮารา แต่บางครั้งการที่เราทำใจปล่อยใครสักคนหนึ่งเพื่อให้เขามีความสุข มันก็จะทำให้เรามีความสุขได้นะ “ ผมลดความเร็วลงก่อนจะเทียบท่าจอดตรงที่จอดรถสวนสาธารณะที่เรามักจะมาประจำ

                    “ แต่ว่า..อุปป้า “ ผมปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มใสๆของเธออย่างเบามือ ถ้าเป็นเมื่อผมอยากจะถนุดถนอมมันอย่างดีที่สุด ทุกสัมผัสทำให้หัวใจเต้นแทบคลั่ง แต่ทำไมตอนนี้ผมถึงไม่รู้สึกว่าใจเต้นแรงเหมือนอย่างที่มันควรเป็น

                    “ ไม่มีแต่...ฮารา.......ไม่มีแต่ “ ร่างบางโผเข้ากอดผมก่อนจะร้องไห้โฮออกมา ผมไม่อยากจะให้เธอร้องไห้แบบนี้เลย แต่บางทีการที่เธอร้องไห้หนักๆหนึ่งครั้ง อาจจะดีกว่าเก็บกดมันเอาไว้ ปลดปล่อยมันออกมาเพื่อลืมมันไป

                   

                    หลังจากเธอหยุดร้องไห้ เราก็เดินเล่นไปรอบๆ พวกเรายังคงเล่นของเล่นในสนามเด็กเล่นเหมือนเด็ก และเมื่อไหร่ที่เธอแพ้เกมส์ง่ายๆพวกนี้ มันก็จะจบลงด้วยไอศกรีมรสสตอเบอรี่หนึ่งแท่งเหมือนทุกครั้ง ในเวลาที่เธอกินมันแล้วเปื้อนไปทั่วแก้ม ผมก็จะคอยเช็ดมันออก เมื่อเธอกลับมายิ้มและหัวเราะได้อีกครั้ง สิ่งที่ผมทำก็คือส่งเธอกลับบ้าน ช่วงเวลาของเธอและผมมีแค่นั้นจริงๆ แต่มันช่างเป็นภาพที่ชัดเจนอยู่ในหัวยิ่งกว่าการดูฟิลม์ฉายย้อนกลับเสียอีก

                    รอยยิ้มที่แสนจะสดใสในฤดูใบไม้ผลิ เส้นผมนุ่มสลวยที่ปลิวปกใบหน้าถูกปัดออกอย่างช้า ดวงตากลมโตสุกใสกำลังจ้องมองเข้ามาในดวงตาผม ริมฝีปากอ่อนนุ่มและหอมหวานในวันนั้น มันช่างมีค่าเกินกว่าผมจะปล่อยมือจากมัน มีเพียงชั่วเวลานั้นที่ผมรู้สึกว่าเธอเองก็รักผมเช่นกัน ความรู้สึกดีๆเอ่อล้นท้วมท้นในใจ จนผมต้องเอ่ยมันออกมา..

                    “ อุปป้า..ขอบคุณมากนะ “ เธอหันมาส่งยิ้มให้ผมในแบบที่ต่างออกไป มันไม่ใช่ยิ้มฝืนๆหรือยิ้มสดใส

                    ผมพยักหน้ารับคำขอบคุณ ก่อนจะลงรถเพื่อวิ่งไปเปิดประตูให้เธอลง

     

                    แม้ว่าผมจะเปิดมันออกแล้ว แต่เธอก็ไม่ยอมขยับเขยื้อนออกจากเบาะแต่อย่างใด ผมเลยเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะคุกเข่าย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกับเธอ

                    “ ฮารา..ทำไมไม่ลงจากรถหล่ะ ถึงบ้านแล้ว..” ผมยังไม่ทันจะพูดจบก็ต้องตกใจกับการกระทำของเธอเสียก่อน

                    “ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกนะ “ เธอทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะแทรกตัวผ่านผมที่นั่งกลั้นระหว่างประตูอยู่ เข้าบ้านไปทิ้งให้ผมที่ยังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ลูบแก้มตัวเองต่อไป

     

     

                    ผมไม่สามารถนอนหลับเต็มตาได้เลยทั้งคืน แม้ว่าสัมผัสเล็กน้อย แถมยังเลือนลางและรวดเร็ว แต่ผมก็ยังคงลูบแก้มของตัวเองตลอดคืน ชั่วแวบนึงในความฝันผมเห็นภาพหลังของคนที่เดินจากไป ผมเอื้อมมือออกไปสุดแขนเพื่อที่จะพยายามรั้งเธอไว้ แต่ก็พบแต่อากาศธาตุภายในมือตอนรุ่งเช้า

     

                    ผมไม่สามารถข่มตาหลับต่อได้ มันคือเหตุผลว่าทำไมตอนนี้ผมถึงมายืนหนาวอยู่หน้าหอของทูเอนี่วัน

                    “ นายมาทำอะไรแถวนี้ “ แชรินทักขึ้นเมื่อพบว่าผมยืนพิงกำแพงด้านหน้าหออยู่ ตอนกำลังจะเดินออกไปข้างนอก

                    ผมได้แต่เงียบแทนคำตอบ เธอเลยไม่ถามอะไรต่อแล้วรีบเดินจากไป หลังจากนั้นไม่นานดาร่านูนาก็ตามออกมา ดูเหมือนว่าพวกเธอกำลังจะไปซ้อมกันสินะ

                    “ ซึงรี  มาหามินจิหรอ ทำไมไม่กดกริ่งเรียกหล่ะจะได้เปิดประตูให้ “ ดาร่านูนาเข้ามาถามไถ่ผมอย่างห่วงใย นูนาเป็นคนที่อบอุ่นและดูแลคนอื่นเสมอ จียงฮยองนี่โชคดีชะมัดเลย

                    “ ไม่เป็นไรฮะ ผมกำลังจะกลับอยู่แล้ว “ ผมได้แต่เกาหัวแกรกๆแก้เก้อ ด้วยท่าทีที่เป็นห่วงของนูนาทำให้ผมรู้สึกผิดจริงๆที่โกหกนูนาออกไป แต่ว่าจะให้ผมพูดความจริงว่าไม่กล้าสู้หน้ามินจิเพราะทำอะไรกับเธอไว้หน่ะ..มันยากเกินไป

                    “ งั้นหรอ แต่นูนาว่าสีหน้าดูไม่ดีเลย เข้าไปพักข้างในก่อนมั้ย “ นูนาเดินเข้ามาหาอย่างเป็นห่วง สองมือยื่นออกมาจะแตะที่หน้าผากของผม แต่ผมก็จับมือเธอไว้เสียก่อน

                    “ ผมไม่เป็นไรจริงฮะ ^^ “ ผมยิ้มให้นูนาสบายใจแต่ดูเหมือนจะสายไปแล้ว

                    “ สบายดีอะไรกัน นายยืนตรงนี้มานานเท่าไหร่แล้วเนี้ย มือถึงได้เย็นเฉียบขนาดนี้ “ สีหน้านูนาจริงจังขึ้นมาทันที เธอกำลังจับมือของผมให้เดินเข้าไปข้างในด้วยกัน

                    แต่ดูเหมือนว่ามันจะผิดที่ผิดเวลาไปหน่อยก็ตรงที่....มินจิที่กำลังเดินออกมาเห็นเข้าพอดี พอผมคิดว่าภาพที่เธอเห็นเป็นยังไงก็อยากจะต่อยหน้าตัวเองแรงๆที่เมื่อกี้ไม่น่าให้นูนาจับมือเลย เพราะว่านูนาพยายามจะลากผมที่ตัวหนักกว่าเข้าไปด้านในทำให้เสียหลักทรงตัว ผมเลยช่วยจับเธอไว้ได้ทัน เพียงแต่ร่างของนูนากับผมกำลังกอดกันอยู่และหน้าของเราอยู่ใกล้กันจนจมูกชนกัน และไม่ว่ามองมุมไหน ก็เหมือนผมกำลังจูบนูนาอยู่แน่ๆ

                    “ มินจิๆๆ มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ คือว่า “ นูนารีบร้อนอธิบายกับมินจิ

                    “ อนนี่ไม่ต้องอธิบายอะไรหรอก มันไม่เกี่ยวกับมินจิอยู่แล้วนี่อนนี่ คนที่อนนี่ต้องอธิบายหน่ะยืนอยู่ทางนู้น “ มินจิพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย เย็นชาจนผมเสียวสันหลังวาบ แต่พอมองไปทางที่มินจิบอกแล้วสบตากับจียงฮยอง ตัวผมก็กลายเป็นหินไปแล้ว

                    ดาร่านูนาทำตาโตเท่าไข่ห่านเมื่อเห็นจียงฮยอง นูนารีบวิ่งเข้าไปหาฮยองทันที ก่อนจะดึงกันไปขึ้นรถ ผมละสายตาจากพวกเขาหันกลับมาที่เธอ แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า  เธอไปไหนแล้ว

                    “ มินจิ ...คง มินจิ “ ผมเรียกชื่อเธอพร้อมกลับเริ่มเดินตามหาเธอ

                    แล้วผมก็พบเธอกำลังเดินอยู่บนถนน ดูเหมือนจะกำลังไปที่ไหนสักแห่ง ผมเลยรีบเดินเข้าไปจับข้อมือเล็กๆนั้นไว้ไม่ให้หนีไปไหนอีก

                    “ มินจิ...คง มินจิ เธอจะเดินหนีฉันไปไหน “ ผมถามขึ้นเมื่อจับเธอไว้ได้ เธอไม่ได้สะบัดหนีผมแต่อย่างใด แต่ก็ไม่ได้ยอมเต็มใจให้จับ

                    เธอไม่ตอบอะไร แต่กำลังจ้องมองผมอย่างค้นหา สายตากลมโตกำลังมองนัยตาแห่งความลังเลของผม

                    “ ฟังฉันอธิบายก่อนสิ “ ผมเอ่ยออกไปทั้งๆที่รู้ว่ามันฟังเหมือนคำแก้ตัวมากกว่า

                    “ นายเป็นคนยังไงกันแน่ อี ซึงรี ? “ เธอมองผมอย่างคาดคั้น

                    ผมเองก็ได้แต่นิ่งเงียบ เพราะไม่สามารถตอบคำถามของเธอได้

                    “ นายบอกว่าชอบฉัน เป็นห่วงฉัน แต่เมื่อไหร่ที่เขามา นายก็เลือกเขาโดยไม่ลังเล และไหนจะอนนี่อีก ถึงจะเป็นผู้หญิงของอุปป้าจียง นายก็ไม่สนใจอย่างนั้นหรอ “ ทุกถ้อยคำตอกย้ำผม เธอมองผมอย่างนี้เองสินะ เหมาะสมแล้วหละก็ผมทำตัวเองนี่

                    “ ฉัน....ขอโทษนะ “ ผมไม่กล้าที่จะเอ่ยคำอธิบายใดๆอีกต่อไป การที่ผมยื้อเธอไว้อย่างนี้มันช่างเห็นแก่ตัวเหลือเกิน

                    “ แค่ขอโทษอย่างนั้นหรอ “ เธอมองผมด้วยสายตาที่ตัดพ้อ ดวงตากลมใสกำลังสั่นไหว

                    “ ฉันขอโทษจริงๆ “ ผมทำให้เธอร้องไห้อีกแล้ว

                    “ นายทำให้คนๆนึงเสียใจ ร้องไห้ก็เพราะนาย นายให้ความหวัง แต่ก็เลือกที่จะไปกับอีกคน และไม่ว่ายังไงน้ำตาของฉันมันก็ไม่มีค่าอะไร เพราะถ้าเขามีน้ำตานายก็ต้องไปกับเขาอยู่แล้ว คำขอโทษของนายมันใช้ลบล้างเรื่องพวกนี้ไม่ได้หรอกนะ “ เธอพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา ผมรู้เพราะว่าตอนนี้ตัวเธอกำลังสั่น ในดวงตาที่ไหวระริกมีน้ำตารื้นขึ้นมา

                    ผมก้าวเข้าไปใกล้เธอพร้อมกับประครองใบหน้านั้นอย่างแผ่วเบา มันช่างเปราะบางเหลือเกิน ผมทำร้ายคนนี้ได้ยังไงกันนะ ผมปาดหยดน้ำตาที่ไหลลงมาที่พวงแก้มอมชมพูของเธอ เธอไม่ได้ปฏิเสธการกระทำของผมแต่อย่างใด

                    “ ฉันขอโทษจริงๆ ที่ทำให้เธอเสียใจ ขอโทษที่ทำให้เธอร้องไห้ ขอโทษที่ฉันต้องไปกับเขา ขอโทษที่ฉันไม่ได้ยืนเคียงข้างเธอ ขอโทษที่เธอต้องมาเจอกับคนเห็นแก่ตัวแบบฉัน “ ผมจ้องมองดวงตาคู่นั้นที่กำลังมองมาที่ผมเช่นกัน ความรู้สึกของผมที่มีต่อเธอมันมากขึ้นทุกที แต่ผมคงต้องปล่อยเธอไป ผมไม่กล้าหวังให้เธอยังรอผม แค่นี้เธอก็เจ็บปวดมากพอแล้ว

                    ผมพยายามจ้องมองเธอ พยายามจดจำทุกรายละเอียด ภาพนี้จะเป็นภาพสุดท้ายที่ผมเห็นเธอ ต่อจากนี้ผมจะต้องออกไปจากชีวิตเธอ ปล่อยให้เธอไปเจอคนที่ดีกว่าผม เพียงแค่คิดภายในใจผมมันก็บีบแน่นจนเหมือนหายใจไม่ออก

     

     

     

     

     

                    “ นายมันคนขี้แพ้ “ เธอเอ่ยขึ้นหลังจากเราเงียบไปนาน

                    ผมยังคงไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูด คนขี้แพ้อะไรกัน ?

    “ นาย.........ยอมแพ้ในตัวฉันง่ายๆอย่างนี้ได้ยังไงกัน ในเมื่อ...” ผมตาโตมองเธออย่างเหลือเชื่อ นั่นสินะผมมันขี้แพ้จริงๆ

    “ ในเมื่อฉันยังไม่เคยยอมแพ้ในตัวนายเลย.... “ ดวงตากลมใสนั้นมองผมอย่างมุ่งมั่น แม้ว่าคราบน้ำตายังคงเหลืออยู่ แต่เธอไม่ได้สนใจมันเลย เธอไม่เคยยอมแพ้เลย แล้วทำไมตัวผมถึงได้ยอมแพ้ในตัวเธอง่ายๆอย่างนี้นะ

                    “ นาย..............จะเลือกฉันไม่ได้หรอ “ เธอเงยหน้าขึ้นสบตาผมชั่วครู่

     

     

     

                    “ ได้สิ “ ผมพยักหน้ารับ รู้สึกว่าตัวเองฉีกยิ้มกว้างจนจะถึงหู ผมรู้สึกมีความสุขมากจริงๆ

                    “ พูดจริงหรอ “ เธอดูไม่เชื่อ กับสิ่งที่ผมพูดออกไป ผมเลยตอกย้ำให้เธอมั่นใจด้วยการหอมแก้มเธอไปหนึ่งที

                    “ จริงสิ “ เธอยกมือขึ้นลูบข้างแก้มที่แดงระเรื่อนั่นอย่างอายๆ

                    “ ทำไมนายถึง....เลือกฉันหล่ะ “ เธอเอ่ยถามอย่างกล้าๆกลัว

                    “ ก็เพราะฉันไม่ใช่คนขี้แพ้นี่นา ฉันไม่ยอมแพ้เธอหรอกนะ ยัยดื้อ “ ผมแกล้งหยิกพวงแก้มอมชมพูนั่นให้มันยิ่งแดงเข้าไปใหญ่

                    เธอก้มหน้าลงหลบสายตา นั่นทำให้ผมยิ่งอยากแกล้งเข้าไปใหญ่ เวลาเธอเขินแบบนี้มันช่างน่ารักจริงๆ ดูใสซื่อและไร้เดียงสา ทำไมผมถึงได้มองข้ามความรู้สึกของเธอไปยังอีกคนกันนะ ในเมื่อเธอคนนี้ก็ไม่ได้เข้มแข็งไปกว่าใครเลยแถมยังเปราะบางขนาดนี้ ทำไมในตอนนั้นผมไม่ปกป้องเธออย่างที่ควรเป็น แต่ต่อจากนี้ผมจะมองไปที่เธอให้มากๆ คอยยืนเคียงข้างเธอในยามที่เธอต้องการ ผมจะปกป้องเธอให้ดีที่สุด

     

     

     

                    “ ฉันเลือกเธอ คง มินจิ “ ผมก้มลงกระซิบที่ข้างหูของเธอ ก่อนจะโอบกอดร่างบางเข้ากับตัว เธอเองก็ได้แต่ซุกหน้าแดงๆนั่นเข้ากับแผงอกของผม นี่สินะความสุขจริงๆ





    

    ดูดุ๊ง...คึคึคึ อัพเดต 100% แล้วค่ะ

    ขอโทษที่หายไปนะค่ะ

    ไรท์เตอร์ยุ่งมากจริงๆ งานเยอะมาก
    ถ้าถามว่างานอะไร?

    ก็งานที่อาจารย์สั่งนั่นแหละค่ะ
    เรียนไม่หนักแต่งานหนักมาก
    ไรท์เตอร์เพิ่งรู้นะเนี้ยว่าคนทำหนังมันเหนื่อยขนาดนี้
    เอาเป็นว่าตอนนี้ปิดเทอมจะอัพบ่อยๆ นะค่ะ
    ถ้าเป็นไปได้จะพยายามให้จบเลยค่ะ

    Author by.Kwon JIsun

    Chapter 11 update [MON]. April 9, 2012(14:20PM)

    


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×