ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic SJ Yaoi :: Just say me! แผนร้อน ซ่อนรัก...4P

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 04 : ปรากฏตัว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.1K
      3
      20 ก.ย. 54

    4

     




                .เดี๋ยวก่อนสิฮัน!” กระชากเสียงเรียกชื่อของอีกคนพร้อมกับพยายามที่จะบิดข้อมือให้หลุดออกจากการเกาะกุมออกแต่ก็ดูว่าจะเสียแรงเปล่า ฮัน ฉันเจ็บ! ปล่อย!”


                “ขอโทษร่างสูงไม่พูดอะไรต่อแต่กลับรั้งฮีชอลเข้ามาติดกับแผงอกแกร่ง ริมฝีปากหนาก้มลงมอบจูบดูดดื่มที่เต็มไปด้วยความรุนแรงให้กับคนสวยที่ยังคงมึนงงกับอารมณ์ของชายหนุ่มตรงหน้า


                ฮีชอลรู้สึกได้ถึงรสจูบที่ไร้ความหอมหวานไม่มีแม้แต่ความอ่อนโยนเลยสักนิดเดียวมีเพียงแต่ความต้องการเท่านั้นที่บดขยี้ลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน และเพราะผู้ชายที่จูบเขาอยู่คือฮันคยอง คิมฮีชอลถึงได้ยอมเจ็บปวดขนาดนี้ ยอมเป็นเพียงแค่เครื่องระบายอารมณ์ของฮันคยอง


                  สองร่างของคนสองคนเริ่มกอดรัดเกี่ยวกระหวัดกันมากขึ้น มือหนาของฮันคยองค่อยๆ เลิก เสื้อเชิ้ตสีแดงสดของฮีชอลขึ้น ผิวขาวเนียนราวกับน้ำนมที่ยังคงหลงเหลือรอยสัมผัสจากร่างสูงปรากฏแก่สายตาให้ได้เห็น ใบหน้าคมก้มลงซุกไซร้ลำคอขาวขบเม้มให้เกิดรอยไล่ลงมาเรื่อยๆ อย่างย่ามใจ พร้อมกับมีเสียงครางหวานเป็นตัวช่วยเร่งเร้าอารมณ์ให้มากยิ่งขึ้น

     












     

     

                ฮยอคแจยังคงนั่งอยู่ที่หน้าประตูฉุกเฉินอยู่ที่เดิม ถึงแม้ว่าดวงตาใสจะพยายามที่มองหาคุณหมอลีด้วยความเป็นห่วงเพียงใดก็ตาม


                ฮยอคแจรู้ว่าคุณหมอลีคนนั้นน่ะต้องเจ็บปวด แต่ฮยอคแจก็ไม่สามารถที่จะออกหน้าไปช่วยคนอ่อนโยนแบบนั้นได้เลยสักครั้งตั้งแต่จำความได้ เพราะลีทงเฮคือคนที่คอยดูแลฮยอคแจเสมอมา พี่ชายที่แสนใจดีของฮยอคแจกลับต้องทนทุกข์ด้วยน้ำมือแม่คนเดียวของเขาตั้งมากมายไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นลีทงเฮก็ยังคงมีรอยยิ้มอ่อนหวานมอบให้เขาได้ตลอดเวลา


                และทันทีทีเห็นว่าลีเฮยากำลังเดินตรงมา ร่างเล็กก็ลุกขึ้นเพื่อเดินไปหาผู้เป็นแม่อย่างรวดเร็ว


    คุณแม่ครับ คุณหมอลีล่ะ


    เดี๋ยวก็คงตามมาเองล่ะ แล้วนี่มีใครออกมาบอกอาการของคุณพ่อบ้างยังลูก?”


    อ่าา ยังเลยครับอ๊ะ! คุณหมอลีคนน่ารักที่หันไปเจอกับร่างบอบบางของคนเป็นหมอก็รีบเดินตรงเข้าไปหาทันที พร้อมกับออกแรงลากให้คุณหมอหนุ่มเดินตามมาจากบริเวณนั้นอย่างไม่อาจขัดขืนได้


    เจ็บมั้ยครับไม่ถามเปล่า มือขาวก็แตะเบาๆ ที่บริเวณแก้มนิ่มที่มีรอยแดงจางๆ อยู่ และเป็นอีกครั้งที่ทำให้อารมณ์ของฮยอคแจหงุดหงิดเพราะรอยยิ้มอ่อนหวานแบบนั้นของคนที่เขาเป็นห่วง


                ลีทงเฮยังคงยิ้มหวานพร้อมกับส่ายหน้าปฎิเสธว่าไม่เป็นไรแบบนี้ให้เขาตั้งแต่เกิดเลยล่ะ


                น่าโมโหชะมัดเลย!



                “พี่ชาย... ดวงตาคู่กลมของทงเฮเบิกกว้างกับสรรพนามที่อีกคนเรียก ไม่ใช่ว่าไม่เคยได้ยินจากปากของเจ้าตัวเล็กนี่ เพียงแต่มันไม่เคยมีมาตั้งนานแล้วล่ะนะกับไอ้คำว่าพี่ชายน่ะ


                เดี๋ยวก็โดนคุณแม่ดุเอาหรอก เด็กดื้อฮยอคแจ เอ่ยเตือนพลางโยกหัวเด็กดื้อที่ว่าไปมาเบาๆ และนั่นก็ทำให้ฮยอคแจยิ้มออกมา ไม่กลัวหรอกหน่า


                งั้นเรากลับไปรอดูอาการของคุณท่านกันเถอะ


                ครับ









     

     

     

               

                ตอนนี้น่ะโจวคยูฮยอนกำลังหงุดหงิดได้ที่เลยล่ะ และสาเหตุก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนไข้พิเศษลีซองมิน

    ของเขายังไงล่ะ ร่างอวบๆ นั่นยังคงนั่งเอนซบหัวกับอกเขาจนมันแทบจะชาอยู่แล้วกว่า 2 ชั่วโมงเต็ม ก็ไม่มีทีท่าว่าจะอีกคนจะอยากไปนอนแต่อย่างใด


                ซองมินเด็กดีของหมอ ไปนอนได้แล้วนะ”    


                “...


                ซองมินนนน


                ...


                และเมื่อคิดว่าเรียกไปเท่าไหร่ ซองมินก็คงไม่รับรู้ คุณหมอรูปหล่อจึงตัดสินใจอุ้มร่างน่าฟัดนี่เดินไปส่งถึงห้องเหมือนกับทุกๆ ครั้งอีกจนได้


                ตลอดทางก็บ่นเงียบๆ อยู่ในใจคนเดียว แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ทำไมตอนนี้มันถึงได้รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกแบบนี้กันนะ หมออออ~ ง่วงจังเลย


                เฮ้อออออออ! ให้มันได้แบบนี้สิโว้ยยย

     









     

     

                ย้อนกลับมาทางด้านของลีเฮยาที่ยังคงนั่งรอคุณหมออย่างใจจดใจจ่ออยู่ มือเพรียวที่มีรอยย่นตามกาลเวลาแห่งวัยกำแน่นพร้อมกับยืนขึ้นทันทีที่ประตูบานใหญ่เปิดขึ้น


                อาการของสามีดิฉันเป็นยังไงบ้างค่ะ?”


                “ตอนนี้อาการของคุณท่านยังโคม่าอยู่ แล้วก็เพ้อเรียกหาคุณหนูด้วยครับ ทางเราจึงจำเป็นต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดนะครับ คุณหนูงั้นหรอ? ฮยอคแจหรืออีทึกล่ะ ขออย่าให้เป็นอีทึกเลยแล้วกัน


    แต่ดูเหมือนว่าลีเฮยาจะลืมความจริงบางอย่างไปเสียแล้วว่าฮยอคแจเป็นเพียงลูกติดของเธอเพียงคนเดียวไม่ใช่ลูกในไส้ของยองฮวาสักนิด 


    ฉันทราบแล้ว ยังไงก็กรุณาให้คุณหมอลีช่วยดูแลอาการคุณท่านต่อด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะคุณหมอกล่าวจบก็หันไปส่งสัญญาณให้คนรับใช้ที่มาด้วยกันไปตามฮยอคแจมา แต่ไม่ทันขาดคำร่างเล็กๆ ของลูกชายที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจก็กำลังเดินตรงมาหาพร้อมกับลีทงเฮ


    ฮยอคแจลูกคุณพ่อเพ้อหาลูกด้วยนะโผเข้าไปกอดคนน่ารักพลางสะอื้นออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม ซึ่งนั่นก็ทำให้ฮยอคอดที่จะดีใจไม่ได้ ทงเฮได้แต่ยืนมองห่างๆ ด้วยสายตาเรียบเฉย ทั้งๆ ที่ในใจกลับกำลังร้อนรนกับคำพูดนั้นของเจ้าหล่อน


    พ่อที่ไหนจะเพ้อหาคนที่ไม่ใช่ลูกของตัวเองกันบ้างล่ะ?


    หลงตัวเองไม่พอ คงต้องโง่ด้วยสินะครับคุณป้า


    เมื่อคิดได้ดังนั้นนิ้วเรียวจึงรีบกดส่งแมสเซจไปหาคุณหนูของตระกูลอย่างรวดเร็วทันทีด้วยความเป็นห่วง อย่างน้อยก็ทำอะไรเพื่อคุณหนูของเขาบ้าง เงินที่ส่งเขาเล่าเรียนจนมีอนาคตที่ดีได้ขนาดนี้ก็มาจากตระกูลปาร์คถึงแม้จะต้องผ่านมือของลีเฮยาก็ตามที แต่ยังไงเจ้าของเงินที่แท้จริงก็คือคนที่นอนป่วยในห้องไอซียูอยู่ดี



    คุณหนูครับ ตอนนี้คุณท่านอาการหนักอยู่ที่โรงพยาบาล

                                                                            ลีทงเฮ



    นี่ฮยอคแจ แม่ว่าเราโทรบอกพี่ฮันดีมั้ยจ๊ะ? ยังไงต่อไปก็จะมาเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้วฮยอคแจมีสีหน้าอึดอัดเล็กน้อย แต่ก็ต้องพยักหน้าเออออตามน้ำและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาฮันคยองโดยมีสายตาของเฮยามองอยู่อย่างปลาบปลื้ม รอเพียงไม่นานปลายสายก็กดรับ คนตัวเล็กยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงทักทายอ่อนโยนของอีกคนที่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยปกติสักเท่าไหร่นัก ความสงสัยผุดขึ้นพร้อมกับคำถามแต่ก็ไม่กล้าที่เอ่ยออกไป


    คือว่าตอนนี้คุณพ่ออาการไม่ค่อยดี เอ่อ...พี่ฮันช่วยมาที่โรงพยาบาลหน่อยได้มั้ยครับ


    อืออ อ่ะ..ได้สิ เดี๋ยวพี่จะไป เดี๋ย เดี๋ยวนี้นะครับ อ่ะ


    เอ่อออ พี่ฮันเป็นอะไรรึเปล่า


    ป่ะ เปล่า แค่นี้ก่อนนะฮยอคแจ


    ครับ รับๆ มานะครับ ผมรอพี่ฮันอยู่นะ

     

          

               

               





     

                ดวงตาคู่โตที่หยาดเยิ้มของฮีชอลกำลังมองร่างหนาที่กำลังติดกระดุมรูดซิปอย่างรีบร้อนด้วยสายตาแห่งความเสียใจที่ฉายออกมาอย่างชัดเจน คิมฮีชอลรู้ดีว่าคนที่โทรมาคือใคร และก็รู้อีกนั่นล่ะว่าต่อให้ตอนนี้หัวใจของเขากำลังแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ขนาดไหนฮันคยองก็คงไม่รับรู้


    ริมฝีปากหนากดลงหนักๆ อีกครั้งเป็นการเอ่ยลา พร้อมกับเงินสดอีกก้อนหนึ่งที่พอจะเป็นค่ารถให้เขาเดินทางกลับคอนโดได้ จากนั้นก็ขับรถออกไปทันที ไม่มีแม้แต่ที่จะหันหลังกลับมามองบ้างเลย


                เหอะ! ให้ความรู้สึกเหมือนอีตัวชะมัดเลยนะ


                แต่คิมฮีชอลก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้วสำหรับฮันคยองอยู่แล้วนี่


                ร่างอรชรเดินไปยังหน้าผับที่เป็นถนนใหญ่แถมยังมีที่รอรถประจำทางอีกซะด้วย ดูสะดวกสบายไม่เลวดีนี่ แต่ในเวลานี้รอยยิ้มขบขันกลับไม่สามารถเผยออกมาได้เลย


                คิมฮีชอลไม่ใช่พวกที่พยายามจะยิ้มเพื่อกลบเกลื่อนความเศร้าหรอกนะ


                แบบนั้นน่ะ มันทรมานเกินไปจริงๆ






     

     

     

                ระหว่างเส้นทางที่จะไปโรงพยาบาลนั้นใช้เวลาไม่มากจากที่ผับ แต่ทำไมในตอนนี้ความรู้สึกของฮันคยองมันกลับเดินไปอย่างเชื่องช้าเหลือเกิน หัวใจของเขารู้สึกหวั่นๆ อย่างแปลกๆ กับคำพูดของฮยอคแจเรื่องอาการของคุณอา เพราะปกติแล้วตระกูลปาร์คหรือแม้แต่ตัวของคุณอาเองก็เถอะ ถ้าลองไม่โคม่าหรือทรุดหนักจริงๆ ก็ไม่ยอมเข้าโรงพยาบาลกันง่ายๆ หรอก มีคุณหมอมากมายที่พร้อมจะมาดูแลถึงที่ แต่ก็นั่นล่ะนะ เพราะคุณหมอที่ว่าเนี่ยก็เห็นมีแต่คุณหมอลีคนเดียวเท่านั้นล่ะที่ได้รับหน้าที่นี้ และโรงพยาบาลก็เหมือนเป็นสถานที่เดียวที่เขาขอภาวนาให้เจออีทึกด้วยเถอะนะ มือหนาหักเลี้ยวเข้าโรงพยาบาลเซจองทันที ดวงตาคมสอดส่องหน้าที่จอดเพียงครู่เดียวเท่านั้น จากนั้นก็วิ่งตรงเข้าไปยังหน้าห้องไอซียูด้วยความใจร้อน แต่แล้วก็พบเพียงแต่ฮยอคแจคนเดียวเท่านั้น


                พี่ฮันร่างเล็กๆ วิ่งเข้ามาโถมตัวเข้าใส่เสียเต็มแรง


                ครับ ฮยอคแจมือหนายกขึ้นลูบแก้มขาวไปมาอย่างปลอบโยน หัวใจของฮยอคแจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับใบหน้าใสที่แดงระเรื่ออย่างน่ารักน่าชังด้วยความเขินอาย


                หากแต่ภาพเหล่านั้นกลับเป็นภาพบาดตาบาดใจของใครอีกคนที่เข้ามาเจอเหตุการณ์นี้พอดีอย่างไม่ได้ตั้งใจ


                ร่างของฮันคยองโอบกอดปลอบปะโลมฮยอคแจเป็นเวลาชั่วระยะหนึ่งก่อนที่ผละออกมาพากันเข้าไปเยี่ยมดูอาการของยองฮวาอย่างที่ควรทำตั้งแต่แรก


                คุณน้าสวัสดีครับร่างสูงทักทายผู้เป็นแม่ของเด็กน้อยของเขาอย่างสุภาพ ก่อนที่จะก้มหัวเล็กน้อยเป็นเชิงทักทายให้กับคุณหมอหนุ่มที่ยืนตรวจอาการอยู่ ทงเฮฉีกยิ้มอ่อนๆ ให้เล็กน้อยก่อนที่จะเขียนอะไรขยุกขยิกลงบนชาร์ตของปาร์คยองฮวา


                อ้าว คุณฮันคยองมาพอดีเลย เมื่อกี้คุณพี่เพ้อถึงด้วยนะค่ะ น้าเองก็ไม่รู้ว่าจะหมายถึงอะไรรึเปล่าหญิงสาววัยกลางคนส่งยิ้มใจดี พร้อมกับสีหน้าที่บ่งบอกว่าไม่แน่ใจเท่าไหร่ไปให้เจ้าของชื่อที่ยืนรับฟังอยู่ คนฉลาดอย่างฮันคยองทำไมจะไม่รู้ถึงความหมายที่เฮยาส่งมากับคำว่าหมายถึงอะไรรึเปล่า ก็คงไม่พ้นเรื่องเดิมอีกสินะ แต่งงาน?


                คุณหมอลี!” เสียงหวานดังขึ้นจากทางด้านหลัง พร้อมกับร่างบอบบางที่ก้าวเข้ามาหยุดที่ข้างเตียง ใบหน้าสวยเรียบนิ่งจ้องมองไปยังร่างของผู้เป็นบิดาด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา มืออีกข้างยกขึ้นเป็นสัญญาณให้อีกคนที่ยินอยู่ด้านหลังเดินเข้ามา และก็ปรากฏเป็นร่างสูงของรุ่นน้องที่พึ่งเจอกันแค่ครั้งเดียวอย่างเชวซีวอน


                อ้าว ซีวอน!” ใบหน้าน่ารักของฮยอคแจออกอาการเลิกลั่ก แต่ก็พยายามที่จะส่งยิ้มกว้างไปทักทายอีกคน ชายหนุ่มส่งยิ้มน้อยๆ ให้ พร้อมกับค้อมหัวทักทายทุกคนที่ยืนอยู่


                เอ่ออ คุณหนูครับ คือว่าตอนนี้อาการของคุณท่านทรุดหนัก คุณ.. / ก็ถึงได้มานี่ไงหมอ


                จองซูจ๊ะ คือว่าแม่อยากจะให้ลูกย้ายกลับเข้ามาอยู่ที่บ้านเราเหมือนเดิม จะได้ช่วยอยู่เป็นกำลังใจให้คุณพ่อด้วยไงจ๊ะคนฟังฉีกยิ้มอ่อนหวานให้ก่อนที่จะเอ่ยประโยคต่อมา คงไม่ดีกว่าครับ ยังไงก็ฝากคุณน้าดูแลคุณพ่อด้วยแล้วกัน ผมขอตัวกลับก่อนพรุ่งนี้มีงานแต่เช้า ลาล่ะครับหันหลังเตรียมตัวที่จะเดินออก หากแต่ก็มีมือของทงเฮจับไว้อยู่ พร้อมกับสายตาที่ส่งมาเป็นเชิงให้ออกไปคุยกันข้างนอก อีทึกพยักหน้าตอบรับ หันไปส่งยิ้มน้อยๆ ให้ซีวอนกับฮยอคแจที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กัน โดยที่ไม่ชายตาแลอีกคนที่ยืนอยู่เลยแม้แต่น้อย


                เหมือนว่าฮันคยองไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว

      











     

                คุณหนูสบายดีใช่มั้ยครับ?” ทงเฮเอ่ยประโยคคำถามที่โง่เง่าที่สุดในโลกออกไปอย่างไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นบทสนทนาอย่างไรดี


                คนที่ถูกแย่งทุกอย่างไปจากชีวิตน่ะ ยังสามารถมีชีวิตอย่างสุขสบายได้อีกรึไงกันล่ะ อีทึกจ้องมองร่างบอบบางของคุณหมอด้วยสายตาเรียบเฉย


                ผม...ขอโทษนะครับที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย


                ฉันเข้าใจ หมอเองก็ดูแลตัวเองดีๆ ด้วยล่ะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง


                เดี๋ยวครับคุณหนู ผมมีเรื่องที่จะต้องบอกคุณหนูให้รับทราบเอาไว้ ... เกี่ยวกับเรื่องคุณท่าน

     














                สายลมที่พัดพาเอาความเย็นยามค่ำคืนมานั้นไม่ได้ทำให้อีทึกรู้สึกหนาวเลยสักนิด เพราะตอนนี้หัวใจของเขากำลังรู้สึกด้านชาเหลือเกินกับเรื่องที่คุณหมอลีคนนั้นบอกมา บางทีเขาก็ทำใจให้เกลียดพ่อของตัวเองไม่ลงสักที ผิดกับผู้หญิงคนนั้นที่เรียกตัวเองแทนว่าแม่


    มีแม่ที่ไหนกันที่ทำให้ชีวิตของลูกป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดีแบบนี้กัน! ยกเว้นก็เพียงชีวิตของฮยอคแจเท่านั้นล่ะ   

     


     

    เสียงบีบแตรที่ไล่หลังมานั้นทำให้คนตาสวยต้องจำใจหันไปมองเจ้าของรถคนนั้นที่เสียมารยาทส่งเสียงน่าหนวกหูแถวๆ โรงพยาบาล แต่เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็รีบเดินหนีไปให้ไกล เพราะตอนนี้อีทึกไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับฮันคยองหรอกนะ ไม่พร้อมที่จะพูดคำว่าไม่เป็นไรทั้งๆ ที่ในใจตอนนี้มันแหลกสลายแทบไม่มีชิ้นดีตั้งแต่วันนั้น แต่อะไรก็ดูเหมือนจะไม่เป็นใจเลยสักนิด เมื่อฮันคยองเองก็ไม่ยอมแพ้


    ร่างสูงลงจากรถวิ่งตามร่างของอีทึกที่พยายามจะหนีเขาอยู่อย่างไม่ลดละ จนในที่สุดแขนแกร่งก็เอื้อมไปคว้าข้อมือบางแล้วออกแรงกระชากเข้าหาตัวได้อย่างง่ายดาย ร่างบอบบางของคนสวยกระแทกกับอกแกร่งของอีกคนโดยมีอ้อมกอดของฮันคยองคอยประคองไว้ อีทึกขยับตัวหมายที่จะฝืนตัวออกจากวงแขนของร่างสูงแต่ก็ไม่เป็นผล


    อีทึกฮันคยองเรียกชื่อคนแสนดื้อเบาๆ พลางรั้งเอวคอดให้เข้ามาใกล้กันมากยิ่งขึ้น


    หยุดดิ้นเถอะนะคนดีสิ้นเสียงทุ้มแรงที่ดิ้นอยู่กลับหยุดลง หัวใจของอีทึกดูเหมือนจะทำอะไรไม่ถูก ความรู้สึกสับสนเข้ามาแทนที่การต่อต้าน ยืนนิ่งอย่างไม่รู้ที่จะทำอะไรต่อไปถึงยอมปล่อยให้ฮันคยอง กอด


                คิดถึง


                ฮันคยอง...ปล่อยเถอะนะ


                “ปล่อยไม่ได้หรอก ถ้าปล่อยไปอีทึกก็จะหนีไปอีก


                แล้วทำไมฮันคยองไม่ยอมจับฉันไว้ตั้งแต่แรกล่ะ ฮึก ทะ ทำไม ถึงได้ทิ้งฉันไว้คนเดียวแบบนี้และก็เป็นอีกครั้งที่อีทึกพยายามที่จะกัดก้อนสะอื้นให้ลงไปอยู่ลึกที่สุด ฮันคยองที่ยืนฟังถึงกับจุกกับคำพูดจองอีกคนที่พูดออกมา


                พี่อีทึก!”           















    ตอนนี้กำลังเข้าสู่ช่วงสอบปลายภาคกันแล้ว ตั้งใจอ่านหนังสือสอบกันนะค่ะทุกคน >3 แล้วก็อ่านแล้วอย่าลืมเม้นกันนะค่ะ

    -          ฉากเรทมันเริ่มจะคืบคลานเข้ามาทีล่ะนิดๆ 5555555 เพราะฉะนั้นใครไม่เคยเม้นให้กับเรา (ใจร้ายว่ะ) เราก็จะใจร้ายกลับ ไม่ได้ข่มขู่นะ ก็แค่บอกเอาไว้เฉยๆ  ส่วนตอนท้ายของตอนนี้ก็น่าจะพอเดากันได้เนอะว่าใครที่เข้ามาเรียกทึกกัน แล้วเจอกันตอนหน้าเร็วๆ นี้ค่ะ ไม่เม้นไม่อัพนะเออ!

     

    ทวิตอันใหม่ : #chadliia ฟอลโล่วมากันนะค่ะ (เรียกร้องง~ 555555X)
    ใบ้! ทวิตเอ็นซี&ฉากสำคัญบางฉากที่ไม่ลงในนี้  สนใจม่ะ?

    ชอบอ่านเม้น(ยาวๆ)นะค่ะ -))
    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านมากๆ เลยนะค่ะ
    >w<



     

               

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×