ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    End | Kiss Me Pls! ^}{^ ต้องโดน(จูบ)

    ลำดับตอนที่ #8 : 7. Smile on Crisis :D

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.83K
      109
      25 เม.ย. 54

    7. 

    วันที่ 15 พฤษภาคมคือกำหนดการเปิดจอง The Horizon คอนโดมิเนียมหรูหราในเขตที่ดินราคาเเพงที่สุดของกรุงโซล วันที่ 1 เมษายน จะเป็นกำหนดการเริ่มฉายโฆษณาทางโทรทัศน์วันเเรก นั่นก็คืออีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้า


    คยูยอนตื่นเเต่เช้าเป็นประจำทุกวันอยู่เเล้ว ระหว่างที่ออกกำลังกายกับเครื่องเล่นฟิตเนสในห้องนอนเขามักจะเปิดทีวีเพื่อฟังข่าวตอนเช้าไปด้วย เเล้วโฆษณาตัวหนึ่งก็ทำให้ร่างสูงต้องรีบลงจากลู่วิ่งเเล้วเดินมาจ้องจอชัดๆ เขาเปิดสลับไปช่องอื่นที่เรตติ้งดีในช่วงเช้าปรากฏว่าก็ลงโฆษณาตัวดังกล่าวในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งหมด มันเป็นโฆษณาของคอนโดมิเนี่ยมคู่เเข่งที่เนื้อหาในโฆษณาใช้คอนเซปต์เหมือน The Horizon ทั้งหมด สถานที่สร้างก็ติดกัน เเถมยังเปิดจองวันเดียวกันอีกต่างหาก ร่างสูงรีบคว้ามือถือแล้วโทรหาคนของบริษัทโฆษณาที่ดูเเลสินค้าของเขาอยู่ทันที


    หลังจากอีกฝ่ายรับเเล้วบอกจะรีบตามข้อมูลให้ คยูยอนก็เดินไปเคาะประตูเรียกทงเฮที่ห้อง อีกฝ่ายพึ่งตื่นเดินงัวเงียมาเปิดประตูด้วยหน้าตาพร้อมวีน


    “มีอะไร”


    “อาบน้ำไวหน่อย ฉันต้องรีบเข้าบริษัท” ทงเฮคิ้วขมวด เขาหงุดหงิดที่ได้นอนน้อยลงเเต่ดูจากสีหน้าและน้ำเสียงที่เคร่งเครียดของโจวคยูยอนก็พอจะเดาได้ว่าน่าจะมีเรื่องด่วน เพราะฉะนั้นเเฟนที่ดีควรจะเข้าใจอะไรง่ายๆ แล้วรีบทำตามคำขอเสีย


    ร่างโปร่งนั่งเกร็งกับการขับรถสไตล์ปาดท้านรกของคนข้างๆ เหลือเกิน จะด่าจะว่าก็กลัวเผลอเหยีบเบรกพลาด พาลจะได้ไปนอนมองตากันที่โรงพยาบาลเปล่าๆ เหลือบไปดูเข็มไมล์อีกฝ่ายก็เหยียบจะทะลุ 180 km/hr อยู่แล้วทั้งที่อยู่ในเขตชุมชน ทงเฮนึกด่าบริษัทผลิตรถอยู่ในใจ (เพราะด่าคยูยอนไม่ได้) ทำไมต้องผลิตรถความเร็วสูงออกมาด้วยว่ะ 


    เมื่อมาถึงบริษัท ร่างสูงก็รีบขึ้นไปยังห้องทำงานเพื่อเช็คความเคลื่อนไหวในตลาดอสังหาริมทรัพย์ทันที ทงเฮเดินตามไปดูเห็นอีกฝ่ายเปิดคอมพิวเตอร์พลาง ส่งข้อความผ่านมือถือพลาง คิ้วเข้มๆ ขมวดเข้าหากันจนจะเป็นปมอยู่เเล้ว 


    ทงเฮไม่รู้จะทำอะไรดี เกิดอะไรขึ้นอีกฝ่ายก็ยังไม่บอก จะถามก็กลัวจะผิดเวลา ยืนบิดอยู่พักหนึ่งก็นึกได้ว่าเวลาพ่อเครียดๆ เเม่จะหาของกินมาให้ เพื่อจะได้มีน้ำตาลไปเลี้ยงสมองมากๆ หันซ้ายหันขวาเนื่องจากมาเช้ากว่าเวลาเข้างานตั้งชั่วโมงกว่าทำให้ในออฟฟิศว่างโล่งเเถมแม่บ้านก็ยังไม่เข้ามา สงสัยเขาต้องหาอะไรให้อีกฝ่ายกินเองเสียเเล้วกระมัง 


    “พี่คยูยอน” ทงเฮเห็นอีกฝ่ายหน้าขรึมก็ไม่กล้าจะกวน “เอานมสดหรือกาเเฟมั้ย ยังไม่ได้ทานอะไรไม่ใช่หรอ”


    “ขอกาเเฟสักแก้วก็ได้” 


    ทงเฮสังเกตว่าเวลาอีกฝ่ายเครียดๆ มักจะดื่มน้ำดำมากกว่านม เขาเดินไปที่ห้องครัวของออฟฟิศเเล้วจัดการต้มกาแฟ โชคดีที่ตอนอยู่ที่อังกฤษเคยทำมาบ้างไม่งั้นคงได้เพิ่มภาระให้อีกฝ่ายปวดหัวมากกว่าเดิมเเน่ๆ ระหว่างรอกาเเฟเดือด เขาก็เอาขนมปังปอนด์ที่เเม่บ้านซื้อมาตุนไว้ให้พวกทำงานล่วงเวลาลงเครื่องปิ้ง 


    เมื่อได้กาเเฟดำ ใส่น้ำตาลเพียงช้อนเดียวมาถ้วยหนึ่ง พร้อมกับขนมปังปิ้งทาเนยน้ำตาลหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ ก็เอาใส่ถาดเเล้วยกเข้าไปให้คนที่นั่งหน้าเคร่งอยู่ในห้องทำงาน


    ทงเฮวางของกินไว้ที่โต๊ะข้างๆ โต๊ะทำงาน รออยู่พักใหญ่อีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีจะรู้ตัว เขาเลยตัดสินใจเดินเอาถ้วยกาเเฟไปยื่นให้ใกล้ๆ 


    “กาแฟ”


    “วางไว้ก่อน”


    “มีขนมปังด้วย จะกินเลยมั้ย ฉันจะป้อนให้”


    คยูยอนเงยหน้าขึ้นมามองคนที่พูดด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ ทงเฮเลยต้องรีบเเก้ตัวเพราะกลัวอีกฝ่าย
    จะเข้าใจผิด


    “ก็เห็นงานยุ่ง!”


    เห็นเเก้มขาวๆ ขึ้นรอยเเดง ร่างสูงก็ยกยิ้มมุมปากด้วยความขำแล้วพยักหน้า “ป้อนสิ”


    ทงเฮเเลบลิ้นใส่ความขี้เก๊กของอีกฝ่าย เขาลากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามมานั่งลงข้างๆ จัดการจิ้ม
    ขนมปังด้วยซ่อม ยื่นใส่ปากชายหนุ่มทีละชิ้นด้วยความระวังไม่ให้เผลอเเทงลิ้นแทงจมูกด้วยความ
    หมั่นไส้ซะก่อน


    “ปิ้งเก่งหนิ ไม่ไหม้”


    “ใช้เครื่องปิ้งอัตโนมัติ” ทงเฮรู้ว่าคยูยอนประชด เลยกระเเทกเสียงตอบกลับไป


    คยูยอนหัวเราะในลำคอทั้งที่ตายังดูข่าวของ The Blue Sky คอนโดมิเนี่ยมคู่เเข่ง 


    “กาเเฟมั้ย” ทงเฮถามเมื่อขนมปังพร่องไปบ้าง คยูยอนพยักหน้ารับ อีกฝ่ายก็ยื่นเเก้วกาเเฟให้

    แต่มือที่เปิดพิมพ์อีเมล์อัพเดทสถานการณ์ให้ทีมการตลาดด้วยความเร็วสูงอยู่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะละมา
    รับเเก้ว ทงเฮพยายามไม่คิดว่าอีกฝ่ายเเกล้ง จึงยื่นเเก้วไปรอที่ปากเหมือนเอาใจ ผู้บริหารหนุ่มก้มลง
    ดื่มกาเเฟที่อีกฝ่ายป้อนให้


    “เลอะ เช็ดให้หน่อย” 


    ทงเฮเบ้ปาก จงใจเลอะชัดๆ เขาคว้ากระดาษทิชชู่เเถวๆ นั่นเเล้วยื่นเเขนไปซับมุมปากให้ 


    “เอาน้ำมั้ย” 


    “ได้ก็ดี”


    ทงเฮเดินออกไปรินน้ำในครัว คยูยอนมองตามแล้วก็อมยิ้ม อย่างน้อยในช่วงที่เขาเครียดกับ
    สถานการณ์ที่พลิกผันเกี่ยวเนื่องกับยอดขายคอนโดมิเนียมที่อาจจะโดนคู่เเข่งเเย่งไปทั้งหมด ลีทงเฮ
    ก็ยังเอาใจเขาเเถมตาดื้อๆ หน้ามุ่ยๆ ของอีกฝ่ายกลับช่วยให้เขาไม่เครียดจนเกินไป


    ร่างโปรงถือน้ำเข้ามาวางไว้ให้เหยืือกใหญ่ ก่อนจะยื่นเเก้วที่เทเเบ่งมาเเล้วให้ ชายหนุ่มไม่รับอีก
    เพราะว่ามือยังพิมพ์อีเมล์ไม่เสร็จ 


    เขาได้ยินเสียงคนหน้าหวานถอนหายใจ เเต่ก็ยอมยกเเก้วมารอเขาถึงริมฝีปาก แต่ครั้งนี้เขา
    กลับก้มหน้าพลาด ปากไปกระทบขอบเเก้วเล่นเอาน้ำกระฉอกเปรอะเต็มอก 


    “ดื่มเองเเต่เเรกก็หมดเรื่อง” ทงเฮบ่น เเต่รีบหยิบทิชชูมาซับสูทที่เปียกให้ เเถมยังล็อคหน้าเขาไป
    ดูด้วย 


    “ปากเจ็บมั้ย”


    คยูยอนส่ายหน้า เเต่ทงเฮก็ก้มลงมาดูให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายปากไม่เเตกแน่ๆ รึเปล่า (ทงเฮคิดว่า
    เขาควรกระเเทกให้เเรกกว่านี้ ปากหมาๆ จะได้เพลาๆ การกัดลงบ้าง)


    ท่าที่ทงเฮยืนอยู่ตรงระหว่างขาคยูยอนเเล้วเอามือล็อคหน้าอีกฝ่ายไว้พร้อมทั้งก้มหน้าลงไปดูจนจะชิดหน้าอีกฝ่ายเล่นเอาซองเฮียวริที่รีบมาทำงานเพราะข้อความที่บอสของเธอส่งไปแต่เช้าทำให้เธอได้เห็นช็อตเด็ด 


    ก่อนทำงานเธอขอปล่อยข้อความเด็ดผ่าน Chatbox หน่อยเถอะ ‘ร้อนเเรง! รับอรุณ คุณทงเฮล็อคหน้าจูบบอส’


    คยูยอนตาไวทันเห็นหญิงสาวยืนยกมือปิดปากเเล้วกำมืออีกข้างเหมือนคนกำลังสะกัดกั้นอารมณ์อะไรบางอยู่ เขาจึงใช้มือเตะตรงช่วงเอวทงเฮ ก่อนจะยื่นหน้าไปกระซิบเเบบให้ได้ยินกันเเค่สองคน


    “ท่าล่อเเหลม คุณเลขาฯกรี๊ดใหญ่เเล้ว” 


    ทงเฮผละออกด้วยความตกใจ เขาหันไปหน้าห้องก็เห็นซองเฮียวริยืนหน้าเเดงอยู่จริงๆ ร่างโปร่ง
    ตวัดตาดุใส่คนที่ยังนั่งยิ้มระรื่น


    “ไหนว่างานเข้าไง จะยิ้มทำไม”


    คยูยอนยิ่งขำ เขินเเล้วก็มาพาลใส่เขา ตัวเองชัดๆ ที่เข้ามาทำให้ภาพมันจิตนาการได้ไกล


    ทงเฮทำท่าจะออกไปจากห้องแต่ชายหนุ่มก็รั้งเเขนไว้ “ระหว่างรอคุณคิมกับดาระมา ลองอ่านอีเมล์อัพเดทสถานการณ์ที่ฉันวิเคราะห์กับข้อมูลที่ทาง G Agency ส่งมาให้ดูนะ เดี๋ยวเราจะ Brain storm เธอจะได้เจอคุณดงยองอีกแล้วนะ  อย่าหว่านเสน่ห์มากล่ะ ฉันหึง” 


    ร่างโปร่งยกหมัดเป็นเชิงท้าหาเรื่องใส่อาการยักคิ้วหลิ่วตาของโจวคยูยอน ตอนไปปลุกเขายังน่าสงสารอยู่เลย เเป๊บเดียวปากก็มอมหน้าก็ทะเล้นได้อีกแล้ว 


    ทงเฮเอาของไปเก็บในครัว เเล้วก็มาเปิดคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะตัวเองดู เขารีบเข้าไปเช็คเมล์ มีเมล์จากบริษัทโฆษณาถูก Forward มากับเมล์ของโจวคยูยอน ร่างโปร่งเปิดอ่านอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ตอนนี้กำลังฉุกเฉิน ภาพยนต์โฆษณาที่ออกมาคล้ายกันมาก ถ้ายังจะใช้ตัวเดิมที่เคยถ่ายไว้ กลุ่มเป้าหมายที่ดูอาจจะสับสนเข้าใจว่าเป็นของคู่เเข่ง โฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์อาจจะต้องเปลี่ยนคำอธิบายบางประโยค ส่วนเเผนการณ์ตลาดในอินเตอร์เนตคงต้องทำให้ตื่นเต้นขึ้นเเละเราจะเลื่อนวันเปิดจองให้เร็วขึ้นด้วย


    นั่นหมายความว่า ต้องทำทุกๆ อย่างใหม่ให้เสร็จภายในหนึ่งอาทิตย์เพื่อจะได้โปรโมทโครงการให้ทันที่กำหนดไว้คือวันที่ 1 เมษายน ทงเฮอ่านเนื้อความทั้งหมดเเล้วก็ลิสต์ข้อมูลย่อๆ ลงในสมุดของตัวเอง เพื่อสามารถตามประเด็นได้ตอนประชุมระดมสมอง 


    คุณคิมกับดาระทักทายเขาทันทีที่เข้าบริษัท สองคนดูกระหืดกระหอบ อาจเป็นเพราะต้องรีบมาก่อนเวลาตั้งเกือบชั่วโมง ทั้งคู่เช็คงานผ่านสมาร์ทโฟนมาบ้างเเล้ว พอมาถึงจึงสามารถตามสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ดาระดูจะเป็นเดือดเป็นเเค้นกับ The Blue Sky คอนโดมิเนียมคู่เเข่งมาก ทงเฮสังเกตเห็นเธอสบถตลอดเวลาที่เปิดโฆษณาของอีกฝ่ายดูผ่านอินเตอร์เนต


    เมื่อถึงเวลาเข้าประชุม ทุกคนก็อุ้มโน๊ตบุ๊คเข้าไปคนละเครื่อง คยูยอนเรียกทงเฮมานั่งข้างๆ สั่งน้ำส้มคั้นกับเเม่บ้านให้เรียบร้อย เเผนการณ์ตลาดที่เคยวางไว้ถูกรื้อออกมาดูใหม่ทั้งหมด ครั้งนี้คยูยอนเรียกฝ่ายบัญชีมาร่วมประชุมด้วย เพราะอาจต้องทำงบประมาณใหม่เพื่อรับมือกับคู่เเข่งที่ต้องการชนกับพวกเขาจังๆ 


    ทงเฮฟังคยูยอนวิเคราะห์สถานการณ์เป็นฉากๆ แล้วก็นึกชื่นชมอยู่ในใจ เขายอมรับว่าชายหนุ่มเป็นคนเก่งมาก ต่างจากเวลาอยู่ด้วยกัันสองต่อสองอย่างสิ้นเชิง การประชุมกินเวลาเรื่อยไปจนเลยเที่ยงเเล้ว ทงเฮสังเกตเห็นดาระเริ่มทำหน้าเมื่อยเพราะเธอคงหิว ส่วนคุณคิมที่อายุมากเเล้วยังคงสงบอยู่


    “พี่คยูยอน จะบ่ายเเล้ว พักทานข้าวหน่อยมั้ยฮะ” เขาเเตะเเขนอีกฝ่ายเเล้วพูดเบาๆ “ท่าทางคนอื่นๆ จะหิวเเล้ว”


    “ทงเฮหิวเเล้วหรอ” คยูยอนถาม


    คนหน้าหวานพยักหน้า ที่จริงเขายังทนได้ เเต่เกรงว่าถ้าไม่ตอบเเบบนั้น ทั้งห้องประชุมคงจะไม่
    ได้พัก คนที่น่าห่วงสุดก็คือตัวคยูยอนเองนั่นเเหละ 


    “งั้นเราพักเที่ยงกันก่อนเเล้วกัน เจอกันอีกทีบ่ายโมงครึ่งนะครับ” ร่างสูงประกาศออกมา ทุกคนรับคำแล้วรีบเเยกย้ายไปทำธุระส่วนตัว 


    “อยากทานอะไร” ร่างสูงถามทงเฮที่รวบเอกสารมาวางให้เรียบร้อย 


    “ตามใจพี่คยูยอน”


    “งั้นเราลงไปทานอะไรกันง่ายๆ ที่ร้านข้างล่างเเล้วกันนะ” 


    ทงเฮยิ้มรับ เขาไม่อยากวุ่นวายให้อีกฝ่ายเสียเวลางาน


    มื้อเที่ยงวันนี้ดูคยูยอนจะรีบเร่งผิดปกติ ระหว่างรออาหารเขาก็โทรอัพเดทข้อมูลกับบริษัท
    โฆษณาตลอด เดี๋ยวช่วงบ่ายฝั่งนู่นก็จะเข้ามาร่วมประชุมด้วย 


    หลังเข้าประชุมช่วงบ่ายได้ครู่หนึ่ง คยูยอนก็มีงานอื่นเเทรกเข้ามาในตอนบ่าย ผู้บริหารคนเก่งต้องผละไปเซ็นเอกสารด่วนให้โครงการบ้านจัดสรรริมทะเลเขตอินชอนที่เขาดูอยู่เช่นกัน ทีมการตลาดฝ่ายนั้นเองก็เร่งอยากให้โครงการเสร็จไวไวเพราะบริษัทคู่เเข่งเริ่มเข้ามายุ่มย่าม ที่ดินที่โจวพร็อพเพอร์ตี้เล็งไว้ อาจจะโดนเเย่งไปได้ง่ายๆ ถ้าไม่เร่งเจรจา 


    ส่วนโครงการ The Horizon ยังคงประชุมกันยาวไปจนดึกดื่น ดาระที่สวมกระโปรงมาทำงานถึงกับขออนุญาตเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดกับกางเกงวอร์มที่เตรียมมาจากบ้านเพื่อจะได้ทำงานได้สะดวกขึ้น คุณคิมเองก็โทรไปเเจ้งกับทางบ้านว่าต้องทำงานล่วงเวลาเนื่องจากคยูยอนต้องการจะหาข้อสรุปของเเผนการณ์ตลาดใหม่ให้ได้ในคืนนี้เลย


    ทงเฮเองก็พยายามช่วยอย่างเต็มที่ เพื่อกูสถานการณ์ที่กำลังตกเป็นรองคู่เเข่ง


    ระหว่างที่กำลังหาตัวอย่างหนังโฆษณาของต่างประเทศอยู่ โทรศัพท์มือถือของทงเฮก็สั่นครืด
    เจ้าตัวขออนุญาตออกไปรับที่ด้านนอก


    ‘น้องทงเฮนอนรึยังค่ะ’


    ร่างโปร่งรีบบอกไปว่าทั้งเขาเเละคยูยอนยังทำงานกันอยู่ที่บริษัท



    ‘ตายเเล้ว จะเที่ยงคืนเเล้วนะคะ’


    “พอดีงานมีปัญหานิดหน่อยครับ”


    โจวนาอึนเข้าใจดี สามีเธอเองก็กลับดึกเพราะเรื่องงานบ่อยๆ มาถึงรุ่นลูกเธอก็อดห่วงไม่ได้ 


    ‘เเม่ทำอาหารไปให้ดีมั้ย เเล้วน้องทงเฮก็บอกว่าไปแอบทำมาให้ จะได้ป้อนพี่คยูยอน กระหนุงก
    ระหนิง’


    “คุณเเม่ครับ ผมอยู่กับพี่คยูยอนตลอด พี่เค้าจับได้อยู่เเล้วว่าไม่ได้ทำเอง” ทงเฮออดเสียงหวาน


    ‘คุณเเม่ลืมไป ว่าน้องทงเฮก็ยังอยู่ที่บริษัท แล้วน้องทงเฮหิวมั้ย ได้ทานอะไรกันรึยัง’


    “ตอนสี่ทุ่มผมเพิ่งสั่ง เเมคโดนัลล์มาให้ทีมครับ เเต่พี่คยูยอนดื่มเเต่โค้ก”


    ‘งั้นเดี๋ยวเเม่ทำอะไรอ่อนๆ ฝากคนขับรถไปให้ดีกว่า ท่าทางพี่เค้าคงจะยังไม่เลิกใช่มั้ย’


    “ครับ ขอบคุณมากครับคุณเเม่”


    ‘งั้นเดี๋ยวพอคนขับรถไปถึง คุณเเม่ให้โทรหาน้องทงเฮนะค่ะ’


    “ครับ”


    ทงเฮวางโทรศัพท์แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องประชุม คยูยอนเงยหน้าจากเอกสารตรงหน้าเเล้ว
    หันไปพูดคุยกับทีมครีเอทีฟของบริษัทโฆษณาต่อ 


    ไม่นานทงเฮก็ได้รับโทรศัพท์อีก เขาลงไปรีบอาหารที่คุณเเม่เตรียมมาให้ เมื่อขึ้นมาห้องประชุมก็
    เลิกพอดี ทุกคนเเยกย้ายกันกลับเเต่คยูยอนยังคงนั่งอยู่


    “ทงเฮ จะกลับเลยมั้ย จะได้ให้คุณคิมช่วยเวียนไปส่ง ฉันต้องดูงานต่ออีกหน่อย” 


    ร่างโปร่งรีบส่ายหน้า ทิ้งให้คนบ้างานอยู่ที่บริษัทคนเดียวมีหวัง เน่าคาจอคอมพิวเตอร์พอดี


    “ถ้าง่วงขึ้นมา ฉันไม่มีเวลาไปส่งบ้านนะ”


    “ทงเฮขับรถเป็น” คนตัวเล็กบอก แล้วหิ้วปิ่นโตหายเข้าไปในห้องครัว เขาจัดการตักข้าวต้มหมู
    สับหอมฉุยใส่ถ้วยพร้อมกับน้ำโสมเเก้วใหญ่ เดินไปยังห้องทำงานของโจวคยูยอน


    “คุณเเม่ฝากมาให้” ร่างโปร่งบอก เมื่อเห็นคยูยอนทำหน้าสงสัย 


    ทงเฮลากเก้าอี้ไปนั่งข้างๆ อีกฝ่าย “ทานสักหน่อยนะครับ เมื่อกี๊พี่คยูยอนยังไม่ได้เเตะอะไรเลย
    เดี๋ยวจะปวดท้อง”


    คยูยอนอมยิ้ม เเล้วอ้าปากรับข้าวต้มที่อีกฝ่ายบรรจงเป่าเเล้วป้อนให้ 


    “ทำไมไม่กินเอง” ทงเฮบ่นไปป้อนไป คยูยอนเองก็ขำ คนที่ป้อนบ่นเสียอย่างนั้นเเต่ก็ไม่ยอมวาง
    ช้อนสักที 


    คนหน้าหวานบังคับให้อีกฝ่ายทานจนหมดถ้วย เเล้วดื่มน้ำโสม


    “ถ้าหิวยังมีนมสดนะครับ”


    คยูยอนส่ายหน้า “นี่ รายงานการประชุมถูกส่งเข้าอีเมล์เเล้วนะลองเช็คดู พรุ่งนี้บ่ายๆ อาจต้อง
    เข้าไปดูโฆษณาที่ตัดต่อใหม่”


    ทงเฮนั่งลงที่ชุดโซฟารับเเขกในห้องผู้บริหาร เขารีบอ่านอีกเมล์จากโน๊ตบุ๊คทันที


    “อื้อ แล้วพี่คยูยอนทำอะไรต่อ งานของ The Horizon ก็เสร็จเเล้วไม่ใช่หรอครับ”


    “The Charm ที่หน้าหาดอินชอนเริ่มมีปัญหาเหมือนกัน เจ้าเดียวกับ The Blue Sky นั่นเเหละจะ
    ไปแย่งประมูลที่ที่พี่จะซื้อเพิ่ม”


    ทงเฮพยักหน้ารับ 


    “จะรีบเขียนโครงการให้เสร็จเเล้วจะไปเสนอบอร์ดใหญ่ จะได้ขออนุมัติงบประมูลที่ดินเพิ่มอีก
    หน่อย”

    “เหนื่อยมั้ย นวดให้” ทงเฮเสนอ เขาเห็นเเม่เอาใจพ่อเเบบนี้บ่อยๆ เวลาทำงานดึกๆ เลยทำตาม
    บ้าง


    “ใจดีจัง” คยูยอนทัก ทงเฮจิ๊ปาก แต่ก็เดินมาหยุดด้านหลังของอีกฝ่าย เเล้วค่อยๆ นวดส่วนไหล่
    ที่ล้าจากการทำงานมาทั้งวัน 


    “ทงเฮ ถ้าจะซื้อบ้านริมทะเลสักหลังจะซื้อบ้านเเบบไหนหรอ” ร่างสูงเงยหน้าถาม 


    “อืม...คงเป็นบ้านโปร่งๆ เน้นสีขาวกับฟ้า มีระเบียง เอาไว้นอนดูดาวกลางคืน เเต่เกาหลีมักจะ
    หนาวหลายๆ เดือนในหนึ่งปีใช่มั้ยฮะ งั้นต้องทำห้องที่สามารถดูดาวตอนหนาวได้ด้วย” ร่างบางคิด
    ไป ตอบไปแต่มือก็ไม่ได้ผ่อนเเรงนวดที่ลงบนไหล่อีกฝ่าย


    คยูยอนพยักหน้ารับ “เอาเป็นห้องอุ่นๆ ติดฮีสเตอร์ เเต่หลังเปลี่ยนเป็นเเบบทึบกับเเบบใสได้ดีมั้
    ย”


    “ทำได้ด้วยหรือครับ”


    “ได้สิ” ร่างสูงพยักหน้า เเล้วพิมพ์เเนวคิดบ้านที่โลดเเล่นเพราะคำพูดของลีทงเฮ เขาเปิดโปรเเก
    รมเสก็ตภาพจากหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกเครื่อง ลงมือวาดบ้านคร่าวๆ ด้วยความชำนาญ


    “พี่คยูยอนวาดรูปเป็นด้วยหรือ” ทงเฮถามอย่างอึ้งๆ มือที่เคลื่อนไปมาของคยูยอน สร้างเเบบ
    จำลองบ้านริมทะเลลังเล็กๆ ขึ้นมาหนึ่งหลังอย่างรวดเร็ว


    “ฉันจบสถาปัตย์ฯ น่ะ เเล้วก็ค่อยไปต่อบริหารฯ ที่อังกฤษ” 


    ทงเฮชะโงกมาดูหน้าอีกฝ่ายเเล้วก็ส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่เชื่อ 


    คยูยอนหัวเราะเเต่มือก็ยังคงเสก็ตภาพต่อไป


    “ห้องเราฉันก็ตกเเต่งเองนะ” 


    “โม้” ทงเฮว่า เเต่ถ้าคยูยอนเป็นคนตกเเต่งภายในเองจริงก็ต้องยอมรับว่าฝีมือเเละรสนิยมดี
    มากๆ ทงเฮเองยังประทับใจตั้งเเต่ที่เข้าไปสัมผัสครั้งเเรก แต่ที่ยังไม่ออกปากชมให้เจ้าของห้องรับรู้
    เพราะอีกฝ่ายมัวเเต่จะกัดอยู่นั้นเเหละ 


    คยูยอนถามความคิดเห็นทงเฮเป็นระยะ อีกฝ่ายก็ใช้ประสบการณ์ที่เคยเรียนวิชาวิจัยผู้บริโภค
    วิเคราะห์ถึงความต้องการของผู้ที่ต้องการซื้อบ้านริมทะเลสักหลังหนึ่ง 


    “ควรจะมีบริเวณข้างๆ บ้านด้วยนะฮะ เผื่อทีเขาเอาสุนัขตัวใหญ่ๆ มาเที่ยวด้วย จะได้มีที่ให้มัน
    นอน”


    “คิดถึงขั้นนั้นเลยหรอ”


    “ครอบครับเกาหลีนิยมเลี้ยงสุนัขไม่ใช่หรอฮะ เเล้วก็ชอบพามันไปเที่ยวด้วย” 


    คยูยอนจนข้อสังเกตนี้ไว้ เพื่อให้ฝ่ายวิจัยของบริษัทไปหาข้อมูลเพิ่มเติม เขายังวาดบ้านต้นเเบบ
    ไว้อีกสองสามหลังเพื่อให้ทีมวิศวะกรกับสถาปนิกของบริษัทได้เลือกไปพัฒนาต่อ 


    กว่าที่ชายหนุ่มจะยอมวางมือจากเมาส์ปากกา เวลาก็ล่วงเลยไปถึงตีสามกว่าเเล้ว 


    นัยน์ตาคมหลับลงอย่างอ่อนล้า เขาต้องการพักสายตาครู่หนึ่งระหว่างรอให้หน้าจอคอมพิวเตอร์
    ดับสนิท ก่อนจะลุกขึ้นไปดูคนที่นั่งรออยู่ตรงโซฟาตัวยาว


    เสียงลมหายใจผ่อนเข้าออกสม่ำเสมอ กับเเพขนตาที่พาดทับแก้มใสทำให้รู้ว่าลีทงเฮทิ้งเขาไป
    ฝันหวานคนเดียวเสียเเล้ว กลีบปากบางสีชมพูอ่อนเผยอน้อยๆ แถมยังมีน้ำใสๆ ไหลลงมาเพราะ
    นอนเอียงคออย่างผิดรูปเล่นเอาร่างสูงหลุดขำ 


    อีหนูเขายังเด็กเสียจริง คยูยอนใช้นิ้วโป้งตัวเองปาดเช็ดน้ำลายให้อีกฝ่าย เขาคงเผลอเล่นริม
    ฝีปากนุ่มนิ่มนานไปหน่อย ทงเฮค่อยรู้สึกตัวเเล้วลืมตาขึ้น หน้าคมเข้มของอีกฝ่ายอยู่ใกล้จนปลาย
    ขนตาจะชนกันอยู่เเล้ว ใบหน้าหวานใสคงไม่รู้ว่าเเก้มตัวเองกำลังซับสีเลือด เเต่พอเห็นยิ้มร้ายกาจที่คนเจ้าเล่ห์ส่งมาให้ก็มุ่นคิ้ว เอาสิจะว่าอะไรกันอีก


    “นอนน้ำลายไหล น่าเกลียดชะมัด” เปิดฉากโดนกัดทันที ลีทงเฮอยากจะงับนิ้วโป้งอีกฝ่ายที่ยังวางอยู่ตรงมุมปากเขาเสียจริง เเต่นึกขึ้นได้ว่านิ้วนั้นคงเปรอะน้ำลายเขาไปแล้ว จึงรีบดึงมาถูๆ กับเสื้อตัวเองด้วยความเขิน ท่าทางเหมือนเด็กน้อยกับเเก้มขาวที่ขึ้นสีจัดขึ้นเรื่อยเล่นเอาคยูยอนดูจน
    เพลินตา


    “ทำไมไม่ปลุกกันดีๆ ล่ะครับ” ทงเฮผู้ยึดมั่นในความหล่อเเละเเมนของตัวเองรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมากที่ต้องหลุดสภาพอุบาทว์ของตัวเองให้ศัตรูตัวฉกาจเห็น 


    “ฮ่ะฮ่ะ ถ้าปลุก จะได้ภาพถ่ายน่าเกลียดๆ ของทงเฮเก็บไว้หรอ”


    “พี่คยูยอน! ลบเดี๋ยวนี้เลยนะ” 


    ร่างสูงลอยหน้าลอยตาเดินหนี ทงเฮรีบเก็บข้าวของเเล้ววิ่งตามเข้าไปในลิฟต์


    “พี่คยูยอนลบรึยัง” คนตัวเล็กคว้าเเขนอีกฝ่ายไว้ เเต่มือถือก็ถูกเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงอย่าง
    รวดเร็ว


    “ทงเฮจะฟ้องคุณเเม่ว่าพี่คยูยอนเเกล้ง”


    “เชิญเลย ลองฟ้องดูแล้วพี่จะส่งรูปนี้ไปให้คุณดงยองดู” ร่างสูงกล่าวถึงครีเอทีฟจากบริษัท
    โฆษณาที่ดูจะมาชอบพอทงเฮ 


    ใบหน้าหวานงอง้ำ คยูยอนเห็นเเล้วก็อยากเเกล้งต่อ พอลิฟต์เปิด ทงเฮก้าวออกไปโดยไม่รอเขา
    เดินดุ่มๆ ไปที่รถเบ๊นส์สีดำสนิทที่เหลืออยู่ในลานจอดรถเเค่คันเดียว


    ทงเฮคอยอยู่นาน สัญญาณปล็ดล็อกรถก็ไม่ดังสักที หันกลับไปดูด้านหลังก็โล่งไม่เห็นมีคนที่ควรเดินตามมาด้วยสักนิด เหลียวซ้ายเเลขวาก็เห็นเเต่เงาของเสาต้นใหญ่ ไฟลานจอดรถตอนนี้สลัว
    มากประกอบกับลมเย็นยามดึกที่พัดมาเล่นเอาทงเฮขนลุกซู่


    “พี่คยูยอน!” 


    ‘พี่คยูยอน ยอน นนนน’ พอตะโกนเรียก กลับเป็นเสียงเอคโค่สะท้อนกลับมาเเทน ทงเฮเดินย้อน
    ไปตรงลิฟต์ก็ไม่เห็นใคร เลขบอกชั้นมันก็ดันขึ้นกลับไปอยู่ที่ชั้นที่เพิ่งลงมาเสียเเล้ว เขาเริ่มใจไม่ดี 


    “พี่คยูยอน!! อย่าเเกล้งกันนะ” ทงเฮขู่ เเต่ก็ได้ยินเเค่เสียงของตัวเองสะท้อนกลับไปกลับมา
    เท่านั้น อยู่ๆ ไฟลานจอดรถก็ดับๆ ติดๆ เขายิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ 


    “พี่คยูยอน ออกมาสักทีสิ” ทงเฮตะโกนอีกครั้ง ตอนนี้เขาไม่รู้จะไปยืนอยู่ข้างรถ หรือใกล้ลิฟต์ดี
    ลานโล่งๆ ที่มีเเต่เงาตะคุ่มของเสาต้นใหญ่มันทำให้เขากลัวจับใจ 


    ระหว่างที่ยืนตัดสินใจอยู่นั่นก็มีมือเย็นเฉียบมาจับตรงบ่า 


    “ผีหลอก!!!!” ทงเฮเเหกปากสุดเสียงด้วยความตกใจ หลับหูหลับตาตั้งท่าจะวิ่งหนีเเต่ก็โดนเเรงรั้งกลับเข้าไปหา ภาพตรงหน้าเขามืดสนิท รู้เเค่เพียงตอนนี้ตัวเองเอาเเก้มซุกกับอะไรบางอย่าง ตอนเเรกทงเฮจะผลักหนีเเต่พอเอามือที่เป็นอิสระลองโอบล้อมสิ่งนั้นดู จับๆ แล้วก็รู้ว่าเป็นเเผ่นหลังที่ทั้งกว้างเเละอบอุ่น ครั้นจะมีทั้งเลือดและเนื้อแบบนี้คงไม่ใช่สิ่งน่ากลัวที่เขากลัวเเล้ว


    เสียงสะอื้นฮึกๆ กับความชื้นที่อกทำให้คยูยอนต้องแงะหน้าอีกฝ่ายออกมาดู มอมเเมมเหมือน
    ลูกแมวทีเดียว


    ทงเฮร้องเสียน้ำตาเต็มหน้า เเถมเอามือทุบไหล่เขาอีก


    “ตีพี่ทำไม”


    “เล่นอะไรก็ไม่รู้ ฮึก..ทงเฮกลัวนะ” ว่าไปก็ป้ายน้ำตาไป เเถมยังทุบเขาซ้ำอีก


    “เล่นอะไร พี่ยังไม่ได้เล่นอะไรเลย”


    “พี่คยูยอนเเกล้งทงเฮ เมื่อกี๊ไปซ่อนที่ไหนมาปล่อยให้ทงเฮยืนอยู่มืดๆ คนเดียว”


    “พี่ขึ้นไปเอาโทรศัพท์ข้างบน จะเรียกทงเฮ ลิฟต์ก็ปิดซะก่อน”


    ทงเฮเบะปาก จ้องตาอีกฝ่ายเขม็ง “จริงนะ!”


    “อื้อ จริงสิ”


    ร่างโปร่งผละตัวออกมาจากอ้อมเเขนของอีกฝ่ายเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองหลุดบทเจ้าน้ำตาออกไป
    เเล้วรีบเดินหนีไปขึ้นรถ


    “ทงเฮคนเก่งกลัวผีหรอ”


    “อย่ามาล้อนะ ลองตัวเองมายืนคนเดียวมืดๆ สิ ไม่กลัวบ้างให้มันรู้ไป” ทงเฮขู่กลับกลบความเขิน


    คยูยอนเดินเข้าไปลูบศีรษะอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู “ขวัญเอ้ย ขวัญมา” 


    ทงเฮเบี่ยงตัวเข้าไปนั่งหน้างออยู่ในรถ คยูยอนเลยรีบตามเข้าไปง้ออีก 


    นายเเมนมากลีทงเฮ กลัวผีจนต้องซบอกหนุ่ม!!





    See yah~

    1 เเวบบมาลงอีกตอนเเม้จะดึกเเล้วก็ไม่หวั่น เฮ้ๆ น่ารักป่ะล่ะ
    2. haahah ง่วง และเเสบตาจัง เพราะฉะนั้นติดตอบเม้นไว้ก่อนนะ (อย่างอนกันนะ ><)
    3. ตอนนี้วิชาการไปป่าวอ่ะ เเต่ว่าก็มีช็อตให้ได้สวีทกริ๊บกริ้ว เเถมน้องซบอกพี่คยูไปเต็มๆ หึ  หนูด๊อง เอ็งไม่เเมนมาเเต่เเรกเเล้วเฟร้ย~  อย่าหลอกตัวเอง

    เจอกันพรุ่งนี้มืดๆ หน่อยนะค่ะ ฝันดีค่ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×