ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    End | Kiss Me Pls! ^}{^ ต้องโดน(จูบ)

    ลำดับตอนที่ #31 : 30. never lies!

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.87K
      64
      23 พ.ค. 54

    30.

    อย่าว่าเเต่ลีทงเฮที่ทำตัวไม่ปกติ โจวคยูฮยอนเองก็เอาเเต่ทำงานจนบางครั้งซองเฮียวริก็อดเป็นห่วงบอสหนุ่มของเธอไม่ได้ เมื่อก่อนงานมีปัญหาคุณทงเฮก็คอยอยู่ให้กำลังใจ ตอนคุณคยูฮยอนทำงานหนักอีกฝ่ายก็มาเฝ้าดูเเล เเล้วตอนนี้คุณลีทงเฮไม่อยู่เเล้ว ใครกันจะมาพูดให้เจ้านายจอมดื้อของเธอยอมกินข้าวกินปลาได้ 

    ดาระเดินมาหาเฮียวริที่โต๊ะเพื่อถามความเป็นมา เนื่องจากเมื่อเช้าฝ่ายไอทีก็มาเก็บคอมพิวเตอร์เครื่องที่โต๊ะของทงเฮไปไว้ที่ห้องอุปกรณ์ เธอรู้จากเจ้าหน้าที่คนนั้นว่า เลขาฯสาวเป็นคนถ่ายทอดคำสั่ง


    “คุณทงเฮไปไหนหรอค่ะ” ดาระเข้าเรื่องทันทีเมื่อมองซ้ายมองขวาเเล้วเห็นว่าประตูหน้าห้องคุณคยูฮยอนปิดสนิทดี 


    ซองเฮียวริถอนหายใจ เธอส่ายหน้าให้เพื่อนรุ่นน้องก่อนจะตอบ “คุณนาอึนโทรมาบอกเเค่ว่าคุณทงเฮจะไม่เข้ามาทำงานอีกแล้ว แต่ดูจากสภาพของบอส น่าจะ เฮ้อ...”


    “เลิกกันหรือค่ะ” ดาระต่อความเเล้วก็ต้องยกมือทาบอก “ไม่น่าเป็นไปได้”


    ซองเฮียวริเองก็กลุ้มใจ ช่วงที่คุณทงเฮอยู่ด้วยบอสดูจะอารมณ์ดี ยิ้มเเย้มง่ายขึ้นเหมาะสมกับวัย ทำงานด้วยกันมาก็นานทำไมเธอจะไม่มีความเป็นห่วงเป็นใยให้เจ้านาย


    “เห็นวันก่อนปึงปังใส่กันเเต่ก็ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันนี่นา คุณนาอึนยังเล่าให้ฟังเลยว่าให้ไปฮันนีมูน เเล้วหลังจากนั้นคุณทงเฮก็หายไปเลย บอสก็เอาเเต่ถอนหายใจ เเต่ก็ยังไม่อาการลูกผีลูกคนเท่าตอนนี้” 


    สองสาวถอนหายใจเเข่งกันเพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่เเท้จริงเป็นยังไงกันเเน่


    หลังประตูไม้บานสวย ภายในเป็นห้องทำงานกว้างที่มีโต๊ะตัวใหญ่วางเเนวโค้งรูปตัวซี มีชั้นวางของที่ถูกจัดเป็นระเยียบเรียบร้อย นอกนั้นก็เป็นของวางประดับอีกนิดหน่อยที่ถูกจัดตกเเต่งด้วยสีเอิร์ทโทนทั้งหมด เนื่องจากช่วยให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นเเละผ่อนคลายตามสไตล์ที่ผู้บริหารเจ้าของห้องชอบ 


    หลังโต๊ะตัวโต มีเก้าอี้พนักสูงตัวหนึ่งวางอยู่ ตามความถูกต้องมันควรจะหันเข้าหาโต๊ะ เพื่อให้เจ้าของได้ทำงานอย่างสะดวก แต่วันนี้กลับต่างออกไป นัยน์ตาคม สีเข้มจัดจนเกือบดำสนิทที่เเฝงเเววสุขุมอยู่เสมอ บัดนี้ได้เหม่อมองผ่านหน้าต่างกระจกที่ทิ้งตัวยาวจากพื้นจรดเพดานจนมองเห็นทิวทัศน์ของกรุงโซลได้อย่างชัดเจน ทั้งตึกสูง บ้านหลังเล็กเเละความเขียวขจีของภูเขานัมซานที่อยู่กลางเมือง เเต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่โจวคยูฮยอนกำลังพิจารณา ใจเขากระหวัดไปถึงใบหน้าหวานใสของใครคนหนึ่งต่างหาก


    ผู้บริหารอายุน้อยข่มตาลงอย่างเจ็บปวด งานการที่เร่งรัดก็ไม่มีกระจิตกระใจจะลงมือทำ


    วันที่ต้องเเยกกัน น้องร้องไห้หนักมากเเต่เขาไม่เเม้เเต่จะสามารถเดินเข้าไปรั้งมากอดปลอบ โจวคยูฮยอนที่พร่ำบอกตัวเองว่ารักอีกฝ่ายนักหนา สุดท้ายก็เป็นผู้ชายไร้น้ำยาคนหนึ่ง


    อกอุ่นที่มีไว้ให้น้องซับน้ำตา บัดนี้มันก็เป็นเพียงกล้ามเนื้อไม่มีประโยชน์เท่านั้น 


    เขานึกไพล่ไปถึงสัญญากระดาษ ช่วงที่ทงเฮขอกลับบ้าน เขาเอามันออกมาดูบ่อยครั้งแล้วคงเลิ่นเล่อเก็บไม่มิดชิดพอจนเเม่บ้านมาเจอเเล้วเอาไปให้เเม่ดู คิดถึงบุพการีขึ้นมาเเล้วก็ต้องถอนใจยาว ตอนนี้อีกฝ่ายคุมความประพฤติเขาเเจ ตอนเช้าก็ให้คนขับรถมาส่ง ตอนเย็นก็มารับกลับ เเถมยังบังคับให้ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น คยูฮยอนเองก็ไม่กล้าขัด เขาตั้งใจจะเอาใจเเม่ให้มาก เพราะถ้าโจวนาอึนคลายความโมโหลงเเล้วเขาอาจจะอธิบายเรื่องทงเฮได้มากขึ้น 


    เสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะความคิด โจวคยูฮยอนคงไม่ต้องหมุนเก้าอี้กลับไปถ้าอีกฝ่ายไม่ผลักประตูเข้ามาโดยไม่รอคำอนุญาตจากเขา ชายหนุ่มเลิกคิ้ว คนที่พึ่งนึกถึงกำลังเดินเข้ามาที่โต๊ะทำงาน เขามองนาฬิกาที่ผนัง มันยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน เเละเขาก็จำได้ว่าวันนี้ช่วงบ่ายไม่มีนัดกับเเม่ว่าจะไปงานเลี้ยงที่ไหน


    “โจวคยูฮยอน” นาอึนเรียกลูกชาย พอดีที่เธอหยุดเท้าลงหน้าโต๊ะทำงาน 


    “มีอะไรครับเเม่” ร่างสูงถามเสียงเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์ใดใด


    “หมั้นและเเต่งงานกับหนูเเทยอนลูกสาวเพื่อนเเม่” 


    คยูฮยอนขมวดคิ้ว ใบหน้าหล่อคมเงยขึ้นเเล้วสบตากับโจวนาอึนอย่างไม่เข้าใจ วันนี้ไม่จัดให้เขาไปดูตัวเเต่ถึงขั้นบังคับเเต่งงานเลยทีเดียวหรือ จากที่ตั้งใจจะคอยเอาใจให้อีกฝ่ายคลายโกรธเเล้วค่อยตะล่อมเรื่องทงเฮ กลายเป็นว่าเขาต้องรีบยืนยันความตั้งใจเดิมก่อนที่เรื่องมันจะบานปลายใหญ่โต


    “แม่ครับ ผมรักทงเฮ ผมต้องการจะอยู่กับทงเฮเท่านั้น” 


    คุณนายตระกูลโจวถอนหายใจยาว เธอเดินช้าๆ ด้วยมาดนางพญาอ้อมโต๊ะมาวางเอกสารชุดหนึ่งลงตรงหน้าคยูฮยอน


    “หาคู่หมั้นจอมปลอมได้ดีนี่นา”


    คิ้วเข้มที่ขมวดอยู่ก่อนเเล้วกลับผูกรัดให้เป็นปมที่เเน่นกว่า ตาคมสบตาบุพการีเพื่อขอคำอธิบาย  


    “เป็นถึงลูกชายคนสุดท้องของท่านทูตลี ประจำอยู่ที่อังกฤษ ยังอุตส่าห์มีเวลามาเล่นหลอกลวงผู้ใหญ่ถึงที่นี่” 


    ชายหนุ่มหยิบเอกสารในเเฟ้มมาเปิดดู ใบหน้าทงเฮที่มีรอยยิ้มประดับน้อยๆ สวมสูทสุภาพ มีประวัติอย่างละเอียด เเละภาพถ่ายอิริยบทต่างๆ ที่ออกสื่อมวลชนในต่างแดน


    หัวใจชายหนุ่มกระตุกวูบ เขาหลอกแม่แต่ลีทงเฮก็หลอกเขาเหมือนกัน!! 


    “ทำหน้าเหมือนไม่รู้เรื่องมาก่อน” เสียงเรียบถาม เธอเองก็ไม่เอะใจเท่าไหร่ เพราะในเอกสารที่เจอในห้องนอนก็ระบุไว้ว่าลีทงเฮเป็นเด็กที่ชเวซีวอนเพื่อนสนิทของลูกชายหามาให้


    หญิงวัยกลางคนสังเกตสีหน้าลูกชายแล้วก็ต้องถอนหายใจยาวอีกรอบ สิ่งที่เธอกังวลไม่ผิดเพี้ยนเลยจริงๆ น้ำเสียงคนเป็นเเม่อ่อนลง เมื่อจับเเววตาสับสนเเละเสียใจที่พรั่งพรูออกมาในดวงตา
    สีดำคมถอดเเบบมาจากสามีเธอราวกับพิมพ์ออกมา


    “แม่ไม่รู้ว่าเค้ามีเจตนาอะไร แต่โกหกเเบบนี้คงไม่ใช่เรื่องดี”


    สิ่งที่ร่างสูงปิดไว้จนมิดคือความโกรธที่ป่นสลายหัวใจเขาอยู่ด้านใน


    เขาเข้าใจเเล้วว่าทำไมเเม่ถึงจับเขากับทงเฮแยกกัน การโกหกไม่เคยทำให้ใครรู้สึกดี เเล้วครั้งนี้คนที่เขารักมากที่สุดก็กำลังลงทัณฑ์เขาอย่างโหดร้าย


    คยูฮยอนไม่ได้ยินด้วยซ้ำว่าโจวนาอึนพูดอะไรต่อบ้าง เขาขอเอกสารเหล่านั้นจากเเม่เเล้วบอกว่าขอทำงาน


    เห็นลูกชายนิ่งไป โจวนาอึนเองก็ไม่อยากเซ้าซี่ให้มากความ เธอพยักหน้าเเล้วเดินออกไปทันที


    หลังบุพการีเดินออกจากห้อง มือถือเครื่องสวยก็ถูกหยิบขึ้นมาโทรหาเบอร์ที่คุ้นเคย 


    ‘พี่คยูฮยอน!!’ น้ำเสียงตื่นเต้นจากอีกฝ่ายไม่ช่วยให้ไฟโมโหในจิตใจเขาลดเเรงลงได้ เเต่ชายหนุ่มก็พยายามบังคับเสียงให้เป็นปกติที่สุด


    “ทงเฮว่างมั้ยบ่ายนี้”


    ‘ทงเฮว่างตลอดอยู่เเล้วฮะ’ 


    คยูฮยอนนัดทงเฮออกมาเจอที่ร้านอาหารเเห่งหนึ่งไม่ไกลจากคอนโดมิเนียมที่พวกเขาเคยอยู่
    ด้วยกัน ร่างสูงหยิบสูทเเล้วผลุนพลันออกจากห้องไป เเต่ไม่ลืมเเวะสั่งความซองเฮียวริไว้ก่อน


    “ผมจะออกไปข้างนอก พอได้เวลาเลิกงานรบกวนช่วยบอกคนขับรถของเเม่ให้ด้วยว่าผมออกไปแล้ว”


    เลขาฯ สาวยังไม่ทันได้ถามอะไรเเผ่นหลังกว้างก็หายลับออกไปจนถึงหน้าลิฟต์เเล้ว 


    คยูฮยอนกดลิฟต์มาชั้นสอง หลังจากนั้นก็ใช้บันไดหนีไฟออกมาทางด้านหลังตึกเพื่อหลบคนขับรถที่โจวนาอึนสั่งให้มารอรับกลับ เขาเดินลิ่วๆ ไปเรียกเเท็กซี่พร้อมทั้งกำเเฟ้มเอกสารในมือเเน่น


    เมื่อเปิดประตูเข้าไปในร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่น ใบหน้าหวานใสพร้อมรอยยิ้มที่เขาคิดถึงจับใจก็
    ส่องสว่างขึ้นมาทันที ทงเฮโบกมือให้เขาอย่างร่าเริงจากโต๊ะติดกระจก 


    ร่างสูงจงใจเดินให้ช้าลง เพราะหากเขาเข้าถึงตัวทงเฮในตอนนี้ ไม่รู้ว่าเเรงโทสะที่มีจะพาลให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง


    เขาไม่เคยคิดดูถูกฐานะของลีทงเฮ เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน อีกฝ่ายก็ไม่เคยเเสดงกริยาไม่ควรให้เขาได้เห็น บางครั้งยังวางตัวราวคุณหนูจากตระกูลดีๆ แถมทงเฮยังเป็นเด็กหัวไวเเละเรียนรู้เร็วด้วย เเต่ก็ไม่เคยคิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นลูกทูต 


    คงไม่มีคุณชายตระกูลสูงศักดิ์คนไหนลงมาหางานพิเศษเเบบนี้ทำหรอก จริงมั้ย?


    แล้วลีทงเฮทำเเบบนี้ไปเพื่ออะไร 


    โจวคยูฮยอนใช้เวลานานกว่าที่ควรจะเป็นกว่าจะทรุดนั่งลงตรงข้ามลีทงเฮได้ เขามองใบหน้าที่ฉาบฉายความตื่นเต้นดีใจไว้เต็มเปี่ยมเเล้วก็ต้องถอนหายใจยาวเพื่อระงับสติ


    รอยยิ้มกว้างจนเเก้มยกเป็นก้อนกลมปิดบังดวงตาจนต้องยิบหยีนี่ไม่ใช่หรือที่เคยทำให้โลกของเขาสดใส เเต่วันนี้เขาไม่เเน่ใจว่าในใจอีกฝ่ายยิ้มได้เหมือนหน้าตาหรือเปล่า


    “มีข่าวดีบ้างมั้ยฮะ” ทงเฮถาม เพราะเข้าใจว่าคยูฮยอนหน้าจะมีความคืบหน้าอะไรมาบอกให้ชื่นใจบ้าง


    มือใหญ่วางเเฟ้มใสลงบนโต๊ะ เเล้วยื่นมันไปตรงหน้าทงเฮเบาๆ 


    ใบหน้าหวานเอียงมองอย่างสงสัย เเล้วดวงตาก็เบิกกว้าง คยูฮยอนเบือนหน้าไปนอกถนนแล้วหลับตาลงอย่างเจ็บปวด ทงเฮปิดสีหน้าตกใจไม่มิดเลย 


    อวัจนะภาษาที่เเสดงออกมามันทำให้คยูฮยอนรู้ว่าเรื่องที่เเม่พูด เป็นความจริง!!


    “พี่..พี่.พี่ไปเอามาจากไหน” ทงเฮละล่ำละลั่กถาม น้ำเสียงสั่นจนประคองให้มันออกมาเป็นประโยคไม่ถูก ยิ่งเห็นดวงตาวาวโรจน์ที่คยูฮยอนส่งมาราวกับจะกดให้เขาจบอยู่ใต้เทือกเขาเเห่งความผิดบาปเเล้วทั้งหัวใจยิ่งหนาวเยือก


    “ทงเฮโกหกพี่ทำไม” คยูฮยอนตอบไม่ตรงคำถาม เเต่กลับสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาให้ทงเฮขบคิดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ราวกับคลื่นในทะเลที่สงบเพื่อเตรียมรับพายุใหญ่


    “ทะ ทงเฮไม่ได้ตั้งใจ” ใบหน้าหวานส่ายรัวอย่างรวดเร็ว ในมือเล็กชื้นเหงื่อ แถมหัวใจก็เต้นระรัวอย่างหวาดกลัว


    “แล้วทงเฮตั้งใจจะทำอะไรกันเเน่ หลอกพี่ ปั่นหัวพี่” 


    “มะ ไม่นะ ทงเฮไม่ได้หลอก” คนตัวเล็กกว่ายังคงปฏิเสธ โจวคยูฮยอนที่นิ่งสงบเเบบนี้น่ากลัวกว่าโจวคยูฮยอนที่เคยปากเสีย เเละร้ายกาจกว่าผู้ชายที่เมามายเพราะเสียคนรัก นัยน์ตาคมที่นิ่งสนิทมันทำให้ทงเฮเดาใจอีกฝ่ายไม่ถูกเเม้เเต่นิดเดียว


    “ไม่ได้หลอก เเต่ก็ไม่เคยบอกว่าตัวเองเป็นลูกทูต ไม่ใช่เด็กที่ซีวอนจ้างมาทำงาน” คยูฮยอนสร้างบรรยากาศกดดันได้เก่งนัก ทงเฮกลัวอีกฝ่ายจนในลำคอตีบตัน เเม้เเต่ปากที่จะกลั่นคำพูดออกมาก็สั่นหมดเเล้ว


    “ไม่..มะ..มีโอกาส ..ทงเฮไม่..รู้ วะ ...ว่า ..จะบอกพี่ได้...ตอนไหน” 


    “คิดว่าพี่โง่ใช่มั้ย ถึงหลอกมาตลอดเเบบนี้” 


    ทงเฮเม้มปากอย่างเสียใจ เขาไม่เคยคิดเเบบนั่นเลย ถึงจะเคยกระเเนะกระเเหนในใจว่าอีกฝ่ายงี่เง่า เเต่ก็ไม่เคยคิดว่าอีกฝ่ายโง่งม ให้เขาปั่นหัวเล่นเป็นตัวตลก ความรู้สึกที่ทงเฮมีให้คยูฮยอน มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวตนที่เป็นอยู่ เเต่ทงเฮมอบทั้งหมดออกมาด้วยใจ 


    ร่างโปร่งรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่ตนมีเพื่ออธิบาย เพื่อบอกในสิ่งที่ตนเองคิด เพื่อบอกสิ่งที่ทำให้หัวใจเขายังเต้นได้อยู่ทุกวันนี้


    หัวใจทงเฮเต้นได้เพราะรักที่มีให้โจวคยูฮยอน ลมหายใจที่ผ่านเข้าออกทุกวันนี้ก็เพราะความรักที่คนตัวสูงตอบกลับมาให้ 


    เเล้วอะไรหรือ ที่เป็นตัวบ่งบอกว่ารักของทงเฮจะมีให้โจวคยูฮยอนน้อยลง ถ้าลีทงเฮไม่ใช่เด็กที่ชเวซีวอนจ้างมา!!


    “พี่คยูฮยอนฮะ...ทงเฮจะเป็นใครก็ช่าง เเค่ทงเฮ ‘รัก’ พี่ เเค่นี้ไม่พอหรือฮะ” 


    เหมือนกระบอกปืนที่ขึ้นกระสุนเเล้วมีนิ้วใครบางคนไปลั่นไกล เหมือนคันธนูที่น้าวออกไปจนสุดเเรงแขนเเล้วมีคนมาบอกให้ปล่อย คำว่า ‘รัก’ ที่หลุดจากริมฝีปากบอบบางของลีทงเฮ ราวกับเป็นน้ำมันที่ราดลงบนกองเพลิงเเห่งความผิดหวังในใจโจวคยูฮยอน


    ร่างสูงระเบิดออกมาอย่างไม่เกรงว่าเป็นสถานที่ใด 


    “คนรักกันเขาหลอกกันเเบบนี่หรือ ลีทงเฮ!!” 


           “คำว่า ‘รัก’ ที่ให้กัน มันเชื่อได้หรือเปล่า!!”

            คำว่ารักที่ให้กัน มันเชื่อได้หรือเปล่า

           นั่นสินะ คำว่า ‘รัก’ ที่โจวคยูฮยอนมอบให้กัน ทงเฮจะเชื่อได้อย่างไร 

    ในเมื่อคนคนหนึ่งไม่เชื่อมั่นในคำว่ารักที่อีกคนมีให้เเล้ว ความรักมันจะยังมั่นคงอยู่ได้อย่างไร!

    ทงเฮหลับตาลงอย่างเจ็บปวด ก้อนเนื้อในช่องอกเต้นช้าลงราวกับหมดกำลัง อาการปวดหนึบรุนเเรงมันทำให้คนตัวเล็กรู้ว่าเขากำลังเสียใจอย่างที่ไม่เคยประสบพบเจอมาก่อนในชีวิต


    โจวคยูฮยอนเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาทำให้ลีทงเฮหลงรัก เเล้วพูดตัดเยื่อใยกันเเบบนี้


    จะดุด่าว่าร้าย ทงเฮยังทนได้ เเต่ถ้าอีกฝ่ายไม่เชื่อในคำว่ารักที่ทงเฮมอบให้ ก็เเปลว่าจบกัน!!


    ตาเรียวสวยลืมขึ้นพร้อมความเกรี้ยวกราดที่ปรากฏ ร่างโปร่งเเค่นหัวเราะทั้งที่หัวใจกำลังประท้วงหนัก ริมฝีปากบอบบางสีชมพูอ่อนหวานยกยิ้ม เเล้วก็เอื้อนเอ่ยวาจาเชือดเฉือนไม่เเพ้กัน


    “ฉันทำทั้งหมดก็เพื่อแก้เเค้นนายไงโจวคยูฮยอน ฉันตั้งใจหลอกให้นายตกหลุมรักฉันจนหัวปักหัวปำ แล้วก็หักอก ฉันอยากให้นายเจ็บปวด”


    “ทำเเบบนี่ทำไม” คยูฮยอนถามด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด


    ทงเฮยังคงหัวเราะกลั้วในลำคอเบาๆ เเละจงใจยกมุมปากเพื่อยิ้มเยาะ “สะใจดี! ฉันเเค่ไม่ประทับใจที่เจอกันครั้งเเรกเเล้วนายพูดว่าฉันใช้กระเป๋าหลุยส์ปลอม ฉันมันคนไม่มีเสน่ห์ เป็นหมวยหน้าจืด” 


    “เธอเล่นละครเก่งมากลีทงเฮ”


    ลูกชายคนเล็กของท่านทูตเกาหลีประจำประเทศอังกฤษผ่อนลมหายใจออกช้าๆ เเต่ก็ยังเคลือบใบหน้านักเเสดงชั้นยอดไว้


    “เสียดายเหมือนกันที่ละครเรื่องนี่จบเร็วไปหน่อย” 


    “เลือดเย็น...” โจวคยูฮยอนพูดได้เเค่นี้จริงๆ 


    เขาต้องการคุยกับน้องให้รู้เรื่อง ถ้าทงเฮยืนยันว่าไม่โกหกเขาก็จะเชื่อ


    ส่วนถ้าน้องรับว่าโกหกเขาก็จะถามเหตุผล 


    แล้วประโยคทั้งหมดที่บอกกล่าว ลีทงเฮเเค่หลอกลวงเขาเป็นตัวตลก!


    “ขอตัวก่อนนะครับ คุณคนโง่ หวังว่าบทเรียนครั้งนี้จะช่วยให้คุณปากเสียน้อยลงกับคนเเปลก
    หน้า แล้วก็เลิกนิสัยชอบคิดเองเออเองด้วย” ทงเฮยักคิ้วให้โจวคยูฮยอนอย่างท้าทาย ก่อนจะเลื่อน
    เก้าอี้ถอยหลังเเล้วเดินออกไป 


    ร่างโปร่งเเข็งใจเดินหลังตรง หน้าเชิดออกไปจากร้านอย่างผู้ชนะในเกมส์ความรักครั้งนี้ 















    เเต่ยังไม่ทันพ้นมุมถนน ลีทงเฮก็ต้องทรุดนั่งลงตรงเก้าอี้รอรถประจำทางเพราะหมดเเล้วซึ่งเเรงจะเดินก้าวต่อ 


    หน้ากากผู้ชนะที่ฉาบไว้พังทลายเหลือเพียงหัวใจคนเเพ้พ่ายที่เเสนเจ็บปวด 


    โจวคยูฮยอนแม้ตัวจะชาเเข็งเพราะประโยคเชือนเฉือนน้ำใจ เเต่สัญชาตญาณส่วนลึกก็บอกให้เขารู้ว่าเรื่องทั้งหมดไม่ควรจบลงเเบบนี้ 


    “ร้องไห้ทำไม!” น้ำเสียงทุ้มติดจะสั่งถามอย่างมีอำนาจเเบบนี้มีคนเดียว ทงเฮลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับผู้ชายตัวสูงกว่าที่สวมชุดสูทเรียบร้อยมายืนผิดที่ผิดทางอยู่ตรงป้ายรถเมล์


    ทงเฮไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองน้ำตาไหลตอนไหน เเต่เขาก็ไม่คิดจะปาดมันให้เสียฟอร์ม ภาพตรงหน้าบัดนี้เบลอหมดเเล้ว ใบหน้าของโจวคยูฮยอนเองก็พร่ามัว


    “ทงเฮดีใจที่เเก้เเค้นสำเร็จ!” คนตัวเล็กยังปากเก่ง


    เเต่เหมือนพลังการโกหกใจตัวเองจะมอดลงหรืออย่างไรก็ไม่อาจรู้ ร่างโปร่งสะอื้นเเรงขึ้น พร้อมหันหลังหนีคู่กรณีอย่างรวดเร็ว


    เเค่เรื่องที่โดนเเยกกันเพราะสัญญาบ้าบอนั่นเขาก็ทุรนทุรายคิดถึงชายหนุ่มจะเป็นจะตายเเล้ว ในช่วงเวลาที่ความรู้สึกเปราะบางเเบบนี้ คนรักที่เคยคิดว่าตัวเองฝากเอาไว้ทั้งใจเเละกายกลับมากระหน่ำความปวดร้าวให้เขาอย่างสาหัส


    บทลงทันณ์ของคนโกหกที่เเสนรุนเเรงมันทำให้ลีทงเฮเหนื่อยอ่อน


    ตระกูลโจวทั้งเเม่เเละลูกจะคั้นเอาให้หัวใจทงเฮเต้นต่อไม่ได้เลยใช่ไหม!! 


    เเม้จะเจ็บที่โดนหลอก แม้หัวใจจะรวดร้าวกับคำพูดที่เเสนเชือดเฉือน เเต่เมื่อเห็นใบหน้าหวานนองไปด้วยน้ำตาเเถมยังมีอาการสะอื้นรุนเเรง โจวคยูฮยอนก็ใจเเข็งไม่พอที่จะไม่เดินไปกอดลีทงเฮ


    เเขนเรียวโดนจับ ทงเฮสะบัด เเต่ร่างโปร่งที่หัวใจกำลังอ่อนเเอ ก็โดนรั้งเข้าไปหาอกกว้าง ร่างโปร่งสะบัดตัวรุนเเรง ขืนต้านการกระทำเเสนอ่อนโยน


    “บอกพี่สิว่าทงเฮโกหก บอกพี่สิว่าทงเฮไม่ได้ตั้งใจให้พี่เจ็บ!!” คยฺูฮยอนเค้นเสียงถามด้วยสรรพนามบ่งบอกความใกล้ชิด ตาคมมองใบหน้าคนเเสนพยศ


    “ทงเฮตั้งใจ!!  ทงเฮอยากให้พี่เจ็บ!!” ร่างโปร่งตะโกนออกมาสุดเสียง พร้อมอาการดิ้นรนอย่างไม่สนใจว่านี่จะเป็นป้ายรถเมล์ที่ยังมีคนอื่นยืนอยู่ด้วย


    “ทงเฮเสียใจมั้ยที่ทำเเบบนี้ ทงเฮเสียใจมั้ย” โจวคยูฮยอนถามย้ำทั้งน้ำตา


    เขาเองก็เจ็บจนจะทนไม่ไหว 


    “ฮึก...” ร่างโปร่งลดเเรงลง ไม่ขืนตัวอีกต่อไป “ฮึก..ทงเฮน้ำตาไหลขนาดนี้เเล้วแปลว่าไม่เสียใจมั้ง...ฮึก”


    โจวคยูฮยอนกดจูบลงบนหน้าผากมนทันที 


    มันเป็นการกระทำที่หยุดน้ำตาทงเฮได้ชะงัด ร่างบางกระพริบตาปริบ มองใบหน้าหล่อคมที่บัดนี้มีน้ำตาคลอเบ้าเช่นกัน


    “พี่ทำแบบนี้ทำไม ไหนพี่บอกว่าไม่เชื่อในคำรักของทงเฮ”


    ร่างสูงส่ายหน้า “เเต่พี่รักทงเฮ พี่รักทงเฮด้วยทั้งหมดหัวใจของพี่ เเค่เห็นน้ำตาของทงเฮพี่ก็ห้ามตัวเองไม่ให้มาปลอบไม่ได้” 


    ความอุ่นเเผ่ซ่านในหัวใจที่อ่อนล้าทันที เหมือนเเสงอาทิตย์ที่สาดผ่านถ้ำน้ำเเข็งอันหนาวเหน็บ 


    ลีทงเฮเอื้อมมือไปปาดหยดน้ำจากหางตาอีกฝ่าย ก่อนจะสบตานิ่งเพื่อตรวจสอบความรู้สึกที่อีกฝ่ายมี ก่อนหัวใจจะเต้นรุนเเรงขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ 


    ใบหน้าหวานน่ารักอมยิ้ม “พูดเเบบนี้ก็สิ้นเรื่อง พี่จะดุทงเฮทำไมฮะ”


    บทจะหวานโจวคยูฮยอนก็ตามไม่ทัน เขาหรี่ตามองคนในอ้อมกอด ก่อนจะรู้สึกว่าตัวเองอยู่ที่ป้ายรถเมล์เเละกำลังกอดกันอยู่ อ้อมเเขนเเกร่งปล่อยร่างโปร่งให้เป็นอิสระ ทั้งคู่หันมองรอบข้างเลิกลั่ก ดีนะว่าเป็นช่วงบ่ายๆ ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งรีบ คนจึงมายืนรอรถเมล์กันไม่มาก เเต่เเค่สายตาอมยิ้มเป็นประกายแปลกๆ ของคุณป้าแก่ๆ ที่นั่งอยู่ ทงเฮคนหน้าบางก็ต้องคว้าข้อมือโจวคยูฮยอนเเล้วจับอีกฝ่ายยัดใส่รถเเท็กซี่คนหนึ่งก่อนที่ตัวเองจะมุดตามเข้าไป”


    “ไปไหนครับ” คนขับรถถาม ลีทงเฮที่ยังหน้าเเดงเเปร๊ดจึงตอบได้อย่างน่าโดนเตะลงจากรถที่สุดว่า “ไปข้างหน้า”


    คนขับหันมามองคยูฮยอนอีกรอบเพื่อความเเน่ใจ ร่างสูงจึงบอกให้ขับวนเเถวๆ นี้ไปก่อน


    “จะไปไหน” เสียงทุ้มถามคนที่ยังก้มหน้างุด 


    ทงเฮเงยขึ้นมาส่ายหน้าดิก ดวงตาเรียวสวยที่ยังฉ่ำน้ำนิดๆ กับอาการย่นหัวคิ้วนั้นช่างน่าเอ็นดูในสายตาคนมองนัก โจวคยูฮยอนดึงตัวอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ เเล้วก้มลงกระซิบข้างหูเเผ่วเบา


    “ไปโรงเเรมกันมั้ย”


    ความร้อนวิ่งเห่อเเข่งกันเข้าเส้นชัยที่เเก้มของทงเฮ สายตาเจ้ากำก็ดันหลุบต่ำไปมองที่ต้นเหตุ โจวคยูฮยอนใส่กางเกงสเล็คหนาเเละไม่ฟิตทำให้เขาไม่รู้ความเคลื่อนไหวของไอ้ตัวปัญหา เเต่เเน่นอนว่าลีทงเฮเป็นคนปากตรงกับใจมีอะไรสงสัยก็ถาม ยิ่งเป็นคนสนิท คนตัวเล็กก็ไม่รู้ว่าจะเกรงใจทำไม


    “คุณน้องเค้าปึ๋งปั๋งหรือฮะ”


    โจวคยูฮยอนหัวเราะเหอะในคอก่อนจะยกยิ้มร้าย “มันเริ่มก็ตอนที่ทงเฮถามนี่เเหละ”


    คนตัวเล็กปากยื่น “อย่ามาโกหก วันนี้กางเกงหน้าหรอก ทงเฮเลยไม่เห็นว่ามันล้ำหน้า”


    “แล้วจะไปมั้ย”


    ไอ้ตัวเล็กยิ้มกริ่ม เเล้วพยักหน้าอย่างน่ารักที่สุดล่ะ

    โจวคยูฮยอนจำได้ว่าพิกัดที่รถวิ่งวนอยู่นั่นไม่ไกลจากโรงเเรมมีระดับมากนัก เลยเรียกเเท็กซี่เเล้วบอกให้วนหา



    หลังจากเปิดห้องสวีทหวานเเหววที่โรงเเรมในเครือล็อตเต้เเล้ว ก็เกี่ยวก้อยลีทงเฮเข้าห้องทันที 


    “ตื่นเต้นอ่ะ เข้าโรงเเรมกับผู้ชายครั้งเเรก” 


    ดูไอตัวซนมันพูดเข้า คยูฮยอนอดไม่ได้ที่จะใช้ปลายนิ้วบีบจมูกโด่งรั้นทำโทษให้กับคำพูดชวนคิดสองเเง่สองง่าม


    ทงเฮเอามือมาปัดๆ มืออีกฝ่ายก่อนจะร้องเเง้ว “เดี๋ยวสั่งอาหารก่อนทำอย่างอื่นนะฮะ ทงเฮขอเติมพลังก่อน ยังไม่ได้ทานมื้อเที่ยงเลย”


    โจวคยูฮยอนพยักหน้า นี่เเหละ ลีทงเฮตัวจริง!



    See yah next sunday (29 May)

    1. ช่วงที่ทั้งสองคนทำร้ายกันด้วยคำพูดรู้สึกอย่างกับนิยายไทยที่ พระเอกกับนางเอกต้องปากไม่ตรงกับใจ TT  แต่งเเล้วหงุดหงิดเหมือนกันอ่ะ เเต่ก็เพื่อความหวานในตอนท้าย 55 ไปโรงเเรมกันซะงั้น

    2. ฮาเลลูย่า ซาลู!!!! ไม่เจอกันตั้งหลายวัน คิดถึงเพื่อนๆ ทุกคนเลย ^^ คิดถึงกันป่ะ 

    3. ตอนหน้าก็ลงช้าอีกแล้ว เเต่ยังไม่จบนะ ยืดเรื่องเหมือนละครหลังข่าว อิอิ 

    4. จองรวมเล่ม still_holy_5@hotmail.com
    - หัวข้อ จอง Kiss Me Pls! 
    - บอกชื่อเเละจำนวนเล่มนะค่ะ
    - วันที่ 4 มิย. ออเฟียสเมล์คอนเฟิร์มการพิมพ์อีกครั้ง ถ้าไม่ถึง 50 ขออนุญาตไม่พิมพ์นะค่ะ 

    Ps ตอนนี้ตัวเลขการจองยังไม่ใกล้ความจริงเลยอ่ะ TT 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×