ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    End | Kiss Me Pls! ^}{^ ต้องโดน(จูบ)

    ลำดับตอนที่ #28 : 27. Mom words :)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.72K
      74
      14 พ.ค. 54

    27.


    กลิ่นหอมกาเเฟกับเนยที่บรรจงทาลงบนขนมปิ้งทำให้ร่างสูงที่เพิ่งก้าวออกมาจากห้องนอนต้องอมยิ้มกริ่ม เขาเดินเข้าไปสวมกอดคนที่ร่างกายเล็กกว่าอย่างรักใคร่ ปลายจมูกโด่งได้รูปเคลียอยู่ตรงเเก้มใส กลิ่นหอมเเป้งเด็กยิ่งทำให้รู้สึกหลงใหลความนุ่มละมุนนั้นเข้าไปใหญ่


    “ทงเฮทำอะไรให้พี่ทานครับ” เสียงทุ้มถาม เขาคาดเดาไว้ว่าประเดี๋ยวเด็กซนจะต้องตอบยียวนกวนประสาทให้เขาได้หาเรื่องลงโทษเป็นกำไรอีก 


    “กาเเฟกับขนมปังปิ้งทาเนยครับ”


    ร่างสูงมุ่นคิ้ว พอไม่โดนอีกฝ่ายกวนก็เลยต้องคลายมือ เเถมพลิกร่างที่เอาเเต่สนใจการหั่นขนมปังให้เป็นชิ้นเล็กๆ มาดู 


    คยูฮยอนใจหายวาบ ลีทงเฮตาบวมมาก น้องเเพ้อาหาร ป่วย หรือร้องไห้ 


    สองอย่างเเรกเขาก็กลัว เเต่ถ้าเป็นอย่างสุดท้าย อะไรทำให้น้องต้องเสียใจ


    “ทงเฮร้องไห้?” ปลายเสียงหายไปในลำคอเพราะน้องพยักหน้า เเล้วเมื่อคืนที่เเยกห้องกันนอนเเปลว่าเขาก็ไม่ได้ปลอบ 


    “ใครทำอะไรให้เสียใจ บอกพี่ได้มั้ย” 


    ใบหน้าหวานส่ายไปมา ตัดบทด้วยการหันไปยกจานขนมและถ้วยกาเเฟใส่ถาดก่อนจะนำไปวางลงบนโต๊ะอาหารทรงโมเดิร์นที่เข้ากับการตกเเต่งห้อง 


    ลีทงเฮนั่งลง คยูฮยอนเลยจำต้องนั่งลงด้วย เขาพยายามคิดให้เร็วเท่าที่มันสมองที่ใช้ในการทำธุรกิจอย่างชาญฉลาดจะทำได้ เหตุผลเดียวคือเมื่อวานเขาทำน้องเหงาที่ปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียวเสียทั้งวัน 


    แต่น้องก็บอกว่าจะไปคุยกับคุณหมอฮยอกเเจ เเฟนของเพื่อนสนิทเขาที่อยู่คอนโดฯ เดียวกัน


    “ร้องไห้เพราะพี่หรือเพราะใคร” คยูฮยอยย้ำความ เเต่ปกติทงเฮเป็นคนร่าเริง เรื่องที่จะทำให้เสียน้ำตาได้เเปลว่าต้องรุนเเรงไม่น้อย


    “ทานก่อนเถอะครับ ทงเฮหิวเเล้วเดี๋ยวค่อยเล่า” 


    คยูฮยอนไม่ขัดใจทงเฮ เเต่คนที่บอกว่าหิวก็เห็นกัดขนมไปแค่ครึ่งคำแล้วจิบกาเเฟดำไปอีกอึกเดียวเท่านั้น เห็นคนที่รักเป็นเเบบนั้นเเล้วใครจะทานต่อลง 


    “พี่อิ่มเเล้ว เล่าเถอะทงเฮ”


    ตาเรียวที่เล็กลงกว่าทุกวันเนื่องจากการบวมของเปลือกตามองใบหน้าหล่อคมนิ่งก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน


    “ทงเฮจะขออนุญาตกลับบ้าน”


    ร่างสูงพยักหน้า “พี่ไปด้วยสิ ยังไม่เคยเจอพ่อเเม่ทงเฮเลย เอาลูกเขามาอยู่ด้วยตั้งนาน”


    “ทงเฮหมายถึง ทงเฮจะกลับไปบ้านสักพัก... เพื่อทบทวนใจตัวเอง” 


    สัญญาณในน้ำเสียงเเละสีหน้าของคนพูดบ่งบอกว่าเรื่องนี้จริงจัง คยูฮยอนจึงทิ้งช่วงให้ทงเฮได้พูดต่อโดยไม่ขัดขึ้นมา


    “ทงเฮไม่เเน่ใจว่าเรื่องระหว่างเรามันใช่ของจริงหรือเปล่า ทงเฮอาจทำตามสัญญาจนมันเลยเถิดไป”


    “สำหรับพี่เป็นเรื่องจริง พี่รัก..” 


    “อย่าเพิ่งพูดเลยครับ” ทงเฮตัดบท ขืนเขายอมให้คยูฮยอนพูดมากกว่านี้ หัวใจมันจะโอนเอียงได้อีก ใจคนมันอ่อนลงง่ายเหลือเกิน โดยเฉพาะถ้าเป็นการโน้มน้าวจากคนที่เราผูกพัน


    “ทงเฮคิดว่าถ้าเราห่างกันสักพัก ให้เวลาตัวเองทบทวนเรื่องทั้งหมด อาจจะได้คำตอบที่ซ่อนอยู่ก็ได้ครับ” 


    “ทงเฮ...” ร่างสูงเรียก คนตรงหน้าที่เคยสดใสมากบัดนี้นิ่งสนิท ในเเววตาคู่นั้นไม่มีคำว่าล้อเล่นเคลือบเเฝงอยู่


    “แหวนนี่ทงเฮฝากไว้ก่อนนะครับ ถ้าคำตอบในใจเราตรงกัน ทงเฮจะกลับมาให้พี่สวมให้อีกครั้ง เเต่ถ้ามันไม่ใช่ พี่จะได้ไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะมอบให้ใคร” 


    “พี่คิดดีเเล้วก่อนจะให้แหวนทงเฮ” คยูฮยอนย้ำด้วยน้ำเสียงหนักเเน่น “พี่รักและหวังจะใช้ชีวิตร่วมกับทงเฮตลอดไป” 


    ทงเฮยิ้มบาง “ถ้าพี่มั่นใจ พี่ก็รอนะฮะ รอให้ทงเฮมั่นใจว่าจะหนักเเน่นพอและเป็นคู่ชีวิตที่ดีของพี่ได้ ถึงวันนั้นเเล้วทงเฮจะกลับมาหาพี่นะครับ” 


    “พี่รั้ง เราก็จะไปใช่มั้ย”


    “ขอบคุณที่พี่เคารพการตัดสินใจของทงเฮครัย” 


    ร่างโปร่งลุกขึ้นเเล้วเดินหลังตรงนิ่งไปยังห้องพักเพื่อหยิบกระเป๋าที่เก็บเสื้อผ้าไว้เรียบร้อยเเล้ว ทงเฮเดินไปที่ประตูทางออก โจวคยูฮยอนยืนรออยู่เเล้ว กลิ่นอายอันอบอุ่นอ่อนโยนที่ฟุ้งกำจายออกมาจากเนื้อตัวอีกฝ่ายทำให้ทงเฮชะลอเท้าราวกับอยากจะซับมันไว้ในความทรงจำให้นานขึ้นอีกนิด คยูฮยอนถอนใจยาวอย่างยากลำบาก เขาถือวิสาสะดึงร่างนั้นเข้ามากอดเเนบเเน่น 


    เสียงหัวใจที่เต้นเร้าอย่างบ้าคลั่งสั่งให้รั้งลีทงเฮไว้เเละทำทุกอย่างให้น้องมั่นใจในความรักที่เขามีให้ เเต่ความสมองฝ่ายเหตุผลก็บอกให้ปล่อยมือน้องไปแล้วรอให้เด็กน้อยได้ไตร่ตรองให้มั่นใจเพื่อรอวันที่จะกลับมาพบกันอีกครั้ง 


    “กลับมานะ พี่รอทงเฮอยู่ตรงนี้ พี่รอที่ ‘บ้านของเรา’ ” น้ำเสียงนุ่มกระซิบเเผ่วเบาที่ขมับ ก่อนจะกดจูบหน้าผากมนอย่างรักใคร่ 


    รอวันที่เราสองคนมั่นใจในความรัก วันนั้นเราจะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข  


    “น้องทงเฮจะท้อเเท้ งอเเงกับเพื่อนคยูยังไงพี่ไม่ว่า เเต่การมานั่งเจ๊าะเเจ๊ะกับอีฮยอกเเจเเบบนี้พี่ซีวอนก็เเย่นะครับเพราะสุดที่รักไม่สนใจพี่วอนเลย” 


    คุณหมอหนุ่มหันไปทำตาขุ่นใส่ผู้ชายที่โอบเขาอยู่บนโซฟายาวของร้านกาเเฟเเห่งหนึ่งในสนามบินนานาชาติอินชอน เเถมคางมันก็วางเเปะอยู่บ่นไหล่ หยุดพูดได้ก็ไซร้แก้มประหนึ่งตอนเด็กมีปัญหาพัฒาการเรื่องการใช้ปาก 


    ทงเฮไม่ตอบโต้นอกจากถอนหายใจ เขาออกจากห้องของร่างสูงเมื่อตอนเช้า หลังจากนอนร้องไห้มาทั้งคืนอย่างไม่ใช่นิสัยลีทงเฮ คนตัวเล็กก็ให้คำตอบกับตัวเองว่าเขาควรถอยมาคิดทบทวนสักพักว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันถูกต้องเเล้วหรือ


    อย่างเเรกคือเขารักโจวคยูฮยอนจริงหรือเปล่า สองถ้ารักจริงทำไมถึงใจกว้างยอมให้อีกฝ่ายเห็นลีซองมินสำคัญเทียบเท่ากันไม่ได้ 


    ลีทงเฮไม่อยากเป็นคนขี้อิจฉา เขารับไม่ได้ที่ตัวเองใจไม่กว้างพอ เเละเห็นเเก่ตัวถึงขั้นอยากเก็บโจวคยูฮยอนไว้เป็นของตัวเองคนเดียว ทั้งที่พื้นที่ในใจร่างสูงก็มีใครอีกคนมาก่อน 


    “แล้วเเกจะทำยังต่อไป” ฮยอกเเจถามเพื่อนอย่างเป็นห่วง ดูหนังตาที่บวมจนเเทบจะมองหาลูกตาดำไม่เจอเเล้วก็ต้องทอดถอนใจ


    “ฉันขอเวลาพี่คยูฮยอนสักพักในการคิดทบทวนว่าเรื่องราวระหว่างเรามันควรไปต่อหรือหยุดไว้เเค่นี้”


    “อย่านานนักนะครับ สงสารเพื่อนคยูของพี่บ้าง” ซีวอนสอดเข้ามาทันที


    ทงเฮส่ายหน้า “ถ้าเรารักกันจริงๆ คงขวนขวายมาเจอกันจนได้นะครับ”


    คุณชายสุดหล่อมุ่นคิ้ว ครั้งนี้เขาไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของทงเฮเท่าไหร่ อีกใจก็เป็นห่วงเพื่อนรักมาก เเต่ถ้าความรักที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังไม่เคลียร์หัวใจตัวเอง จะฝืนอยู่กันไป วันหนึ่งเมล็ดพันธ์ุเเห่งความเคลือบเเคลงนี้ก็เจริญเติบโตออกมาเป็นปัญหาร้ายเเรงพอกพูน 


    ยิ่งนานอาจจะยิ่งเจ็บกว่านี้ก็ได้ 


    “แล้วถอดเเหวนทิ้งไว้ด้วย คุณคยูฮยอนไม่เสียใจหรอ”


    ทงเฮถอนหายใจ เหม่อมองนิ้วนางข้างซ้ายที่ว่างเปล่า เขายอมรับว่าตอนถอดเเหวนออก ความรู้สึกหนาวเหน็บมันก็พัดโชยมากระทบเนื้อหัวใจทันที เเต่ในเมื่อเขายังไม่มั่นใจในความรักของตัวเอง เเละยังไม่มั่นใจในตัวคนที่ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันเเล้ว สัญลักษณ์ที่เหนี่ยวรั้งความสัมพันธ์ไว้ ก็ยังไม่สมควรเก็บไว้กับตัว


    “ขอเวลาทบทวนตัวเองหน่อยนะฮยอก” ร่างโปร่งพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า ก่อนจะหันไปทางซีวอน “ถ้ามาถาม ไม่ต้องบอกพี่คยูฮยอนนะฮะว่าผมไปไหน”


    ชเวซีวอนพยักหน้ารับ 


    ความรักบทจะหวานก็อุ่นซ่านไปทั้งหัวใจ เเต่พอสลับด้านเเล้วทั้งขื่นขมเเละระทมเศร้า 


    อ้อมเเขนเเกร่งเผลอกระชับเอวฮยอกเเจให้เเน่นขึ้น รู้สึกใจชื้นที่ตอนนี้มีอีกฝ่ายอยู่ในอก 


    แม้นซีวอนจะไม่ได้รับรู้ความเจ็บปวดของทั้งสองคนโดยตรง เเต่จากสายตาคนมองที่รับรู้ปมในใจของทุกคนมาตั้งเเต่ต้นก็เหมือนจะต้องปล่อยให้ปัญหาเหล่านั้นค่อยคลายด้วยตัวมันเอง คุณชายสุดหล่อสัญญากับตัวเองในใจว่าถ้าทนไม่ไหวจริงๆ เขาค่อยไปเร่งปฏิกริยาให้ผลลัพธ์มันปะทุออกมาเร็วขึ้น 


    ปลายทางจะรักชื่นฉ่ำหวานหรือแยกห่างเดินเดียวดาย คงไม่มีใครกำหนดได้นอกจากตัวทั้งคู่เอง 


    ทงเฮบอกลาทั้งคู่ครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินเข้าไปในส่วนของการตรวจคนออกนอกประเทศ 




    ซีวอนได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนรักตั้งเเต่ฟ้ายังสว่าง พนักงานออฟฟิศไม่ละทิ้งตึก ชวนให้ไปดื่มเหล้าเป็นเพื่อนที่คลับเงียบๆ เเห่งหนึ่ง พอเขาเลิกงานก็ขับรถตรงไปทันที คุณชายไม่อยากไปสาย เพราะเดี๋ยวพ่อคนเดียวดายจะเหมาเหล้าทั้งร้านลำบากเถ้าเเก่ไม่มีขายให้ลูกค้ารายอื่นเปล่าๆ 


    ท้องฟ้ายังไม่มืดดี เเต่เเสงไฟตามถนนเเละร้านสำหรับกลางคืนก็เริ่มมีแล้วบ้าง รถคันสวยเลี้ยวเข้าจอดเรียบร้อย ก่อนจะเดินดุ่มเข้าไปหลังบานกระจกสีดำขุ่น 


    เสียงเพลงเเจ๊สเบาๆ ลอยฟุ้งมากับเเสงสลัวเหมาะกับการเมาให้ปลิ้น 


    ที่จริงคลับเเห่งนี้ค่อนข้างหรูหราเเละเป็นส่วนตัวมาก โดยเฉพาะเวลาเเบบนี้โต๊ะเดียวที่เปิดขวดบลูเลเบลวางอยู่จึงเป็นโจวคยูฮยอนอย่างไม่ต้องสงสัย 


    “ทรมานตับประชดรัก ถึงชีวิตจะ suck เราก็ต้องไม่ทำร้ายตัวเองนะครับ” ซีวอนทักทายด้วยรอยยิ้มสบายๆ บริกรนำเเก้วเปล่ามาให้พร้อมชงเหล้าให้ทันที หนุ่มหล่อเเละรวยจึงหันไปสั่งอาหารหนักมาสองจานเพื่อรองท้องตัวเองเเละเพื่อนหนุ่มอาภัพรักเป็นการดูเเลตับมันไปในตัว


    คยูฮยอนเห็นเพื่อนยิ้มยั่วเขาก็ส่ายหน้า “ไม่มีอะไรทำน่ะ ก็เลยชวนมาดื่ม”


    ซีวอนเลิกคิ้วเพราะต้องการคำขยาย


    “ตอนมินยังอยู่ หลังเลิกงานก็เเวะไปหามินหรือไม่ก็ไปกินกับสาวๆ ที่เเม่หามาให้ดูตัว หลังจากมินไม่อยู่ก็กลับไปทะเลาะกับทงเฮที่บ้าน ส่วนตอนนี้ให้รีบกลับไป ที่บ้านก็ไม่มีใครรอ”​


    หนุ่มเจ้าสำราญถอนใจ เขาเข้าใจว่าบ้านที่ไม่มีคนรอยิ้มให้ ก็เท่ากับที่นั่นไม่ใช่บ้านเเล้ว 


    “เเล้วจะทำไงต่อครับ” 


    “จะตามไปง้อ คนเเถวๆ นี้ก็ไม่ยอมให้ที่อยู่”


    “มันเป็นจรรยาบรรณของนายหน้าครับน้องคยู ปัญหาเนื้อคู่พี่ดูเเลได้ตามความเหมาะสม รอให้ชีวิตน้องใกล้ล่มจม เจอรักขมเเล้วพี่จะช่วยเป็นยาดมเเก้อาการวิงเวียน” 


    ท่าทางคยูฮยอนจะเมาสำนวนไอ้เพื่อนตัวเเสบเสียก่อนเหล้าดีกรีเเรง


    ดึกดื่นเกือบล่วงเข้าสู่วันใหม่ ชเวซีวอนก็อันเชิญเพื่อนหน้านิ่งกลับคอนโดฯ หรู เเน่นอนว่ารถสปอร์ตสองคันขับตามกันมาก่อนจะเเยกย้ายขึ้นลิฟต์คนละตัว 


    เสียงลมหายใจที่ปล่อยออกอย่างอ่อนล้าช่วยบ่งบอกสภาพหัวใจของผู้บริหารหนุ่มได้ดี ลีทงเฮอยู่ห่างอกเขาเพียงไม่กี่วันเเต่ความรุนเเรงของพิษเเห่งความคิดถึงก็เล่นงานเขาเสียโหดร้ายจนสมองไม่เป็นอันทำอะไรเลยนอกจากยกมือถือขึ้นมาสไลด์ดูภาพของอีกฝ่าย 


    รอยยิ้มของลีทงเฮยังอยู่กับเขา เเต่ยิ้มที่ผ่านจออิเล็คทรอนิคหรือจะเยียวยาหัวใจได้เท่ารอยยิ้มที่มาพร้อมความหวานนุ่มละมุนให้ชมให้้ชิมได้ 


    กลับถึงห้องคยูฮยอนก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดนอน เเล้วเดินตรงไปยังห้องรับรองเเขกที่เคยมีผู้ชายหน้าหวานคนหนึ่งจับจองเป็นห้องนอนอยู่หลายเดือน บนเตียงกว้างมีตุ๊กตาปลานีโม่สีส้มสดนอนโผล่หน้าออกมาจากผ้านวม คยูฮยอนรู้สึกว่าอีกฝ่ายก็หน้าหมองๆ ลง


    “โดนทิ้งเหมือนกันเลยเนาะเรา” เสียงทุ้มชวนอีกฝ่ายคุย ตั้งเเต่วันที่ทงเฮไปดูเหมือนตุ๊กตาปลาอ้วนสีสันเเสบตาก็จะเป็นเพื่อนคุยที่ดีที่สุด 


    ร่างสูงทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม เขาบอกเเม่บ้านไว้ว่าอย่าเพิ่งเปลี่ยนผ้าปูที่นอนหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆ นอกจากทำความสะอาดไม่ให้มีฝุ่นผงก็พอ กลิ่นกายหอมกรุ่นที่ถูกเนื้อผ้าซับไว้มันทำให้เขาย้อนไปสู่ช่วงวันที่มีความสุข


    ค่ำคืนเเสนหวานบนเกาะของประเทศไทย หรือเเม้กระทั่งก่อนหน้านั้น ทุกการกระทำของลีทงเฮทำไมสมองเขาจะจำไม่ได้ เเต่หัวใจยังสลักไวมั่นคงกว่า 


    วันที่เสียงคำบอกรักแบบเด็กโมโหร้ายดังลอดผ่านประตูมาให้ได้ยินเขาว่าหัวใจก็เต้นรุนเเรงเเล้ว เเต่วันที่อีกฝ่ายเมายังทำให้เขารู้สึกอ่อนละมุนกว่า แม้ตอนน้องมีสติดียังไม่เคยบอกรักเขา เเต่จะสนทำไมเมื่อทุกการกระทำที่ลีทงเฮมอบให้ก็สามารถบอกได้ดีอยู่เเล้วว่าน้องดูเเลหัวใจเขาได้ดีและคงมีความสุขมากถ้าจะได้อยู่ด้วยกันเเบบนั้นตลอดไป


    ริมฝีปากหยักสวยเเย้มยิ้มอ่อนหวานเมื่อนึกถึงเรื่องราวของใครอีกคนที่ตอนนี้กำลังเล่นซ่อนหากับเขาอยู่


    โจวคยูฮยอนพยายามสงบใจให้มาก เขารู้ว่าการอดทนจะทำให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ 


    เขาเชื่อว่าลีทงเฮต้องกลับมา

    แต่ถ้าไม่มีวันนั้น โจวคยูฮยอนนี่เเหละจะไปตามกลับมาเอง!





    ที่ฝั่งอังกฤษในคฤหาศน์หรูของท่านทูตตระกูลลี คุณหญิงลีโยวจาเดินเข้ามาในห้องนอนลูกชายคนสุดท้องด้วยฝีเท้าเเผ่วเบา คนเป็นเเม่เห็นว่าลูกนั่งเหม่อก็ต้องลงเสียงเคาะที่ประตูทีนึง เจ้าเด็กหน้าหวานน่ารักยังคงทอดสายตาออกไปนอกสวนกว้าง เธอจึงต้องเดินเข้าไปนั่งลงบนเตียง เเล้วยกมือขึ้นลูบไหล่เบาๆ


    “คิดถึงก็กลับไปหาพี่เค้าสิ” 


    ทงเฮหันมามองหน้าบุพการี ปากเรียวยิ้มอ่อน เเล้วก็ซุกหน้าอ้อนเอากับเอวเหมือนยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ ไม่ผิดเพี้ยน 


    “ทำไมไม่หวงลูกชายเลยฮะ เอะอะก็ไล่ให้ไปหาผู้ชายอยู่ได้” ทงเฮนอนแยู่บนตักเเม่เเล้วก็ทำปากยื่น


    “ก็ถ้าลูกชายไม่มานั่งหน้าหงอยเป็นปลาป่วยเเม่จะไล่ไปทำไม” 


    ทงเฮย่นจจมูก


    “พี่เค้าไม่ขอเเต่งงาน เราก็ให้พ่อไปขอพี่เค้ามาเเทนสิ” ภริยาท่านทูตลีเอ่ยกลั้วหัวเราะ ลูกชายเธอเล่าเพียงว่าที่กลับมาเพราะอยากทบทวนหัวใจตัวเองให้มากขึ้น เเต่ไม่ได้เล่าถึงขั้นไปถอดเเหวนหมั้นทิ้งไว้ให้อีกฝ่ายดูต่างหน้าด้วย ขืนเเม่รู้ว่าเล่นตัวปานนั้นมีหวังจับลีทงเฮแปลงร่างเป็นรหัสดิจิตอลเเล้วส่งกลับหาโจวคยูฮยอนอย่างรวดเร็วโดยใช้บริการ Attach file ไปกับอีเมล์


    “แม่...รักพ่อมากมั้ยฮะ”


    “เธอกำลังจะทำให้ฉันมีปัญหากับสามีนะลีทงเฮ” 


    ร่างโปร่งหัวเราะขำ บางครั้งที่เขาสนิทกับคุณโจวนาอึนได้รวดเร็วคงเป็นเพราะอีกฝ่ายมีนิสัยขี้เล่นเหมือนเเม่เขาก็ได้


    “แล้วถ้าพ่อยังมีคนอื่นอยู่ในใจ เเม่จะทำยังไงฮะ”


    “แม่ก็หึงน่ะสิ” 


    “แล้วเเม่จะอยู่กับพ่อมั้ย”


    คนสูงวัยอมยิ้ม รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังสอนลูกสาววัยใสในเรื่องความรัก มืออบอุ่นลูบเรือนผมนุ่มเล่นอย่างเอ็นดู


    “พี่เค้าเลือกอยู่กับทงเฮรึเปล่า ถ้าตัวเค้าอยู่กับเรา ทำไมเราจะทำให้ใจเค้ามาอยู่กับเราไม่ได้ค่ะ”


    “แม่...ทงเฮกลัวว่าทงเฮจะทนไม่ได้ ทงเฮไม่อยากทะเลาะ ไม่อยากทำตัวงี่เง่าเเต่ทงเฮก็ทำใจไม่
    ได้ถ้าเค้ายังจะมีใครอยู่ในใจ”


    “ทงเฮ คนเราเกิดมามันก็ต้องเจอคนอื่นมาบ้างสิ ถ้าอยากให้เค้าเป็นของเราคนเดียวตั้งเเต่เกิด ทำไมไม่บอกเเม่กับพ่อไว้ก่อน จะได้ไปผูกด้ายแดงหมั้นไว้ให้ตั้งเเต่ยังเเบเบาะ หืม” เสียงหวานเย้าบุตรชายเล่น “ทุกคนมีอดีต เเต่นั้นมันก่อนที่พี่เค้าจะเจอทงเฮใช่มั้ย เเล้วถ้าเค้าเลือกจะใช้อนาคตร่วม
    กับทงเฮ ลูกเเม่จะกังวลทำไม”


    “เค้ายังมีอีกคนอยู่ในใจ”


    “รู้ได้ไง ใครบอก หรือเค้าบอก”


    “ทงเฮจับได้เอง”


    “แล้วถามเอาจากปากเค้ารึเปล่า”


    อาการสั่นดุ๊กดิ๊กของลูกชายทำให้คนเป็นเเม่ถอนใจ


    “เสียชาติเกิดเป็นลูกฉันจริงๆ ลีทงเฮ นี่หนีปัญหามาหรอ” 


    “แม่!” ร่างโปร่งหน้าง้ำ “ไม่ได้หนีปัญหา เเต่หลบมาคิด”


    “คิดเองเออเอง ฟุ้งซ่าน ให้พี่เค้ามาบอกก่อนเถอะว่ามีชู้เเล้วเราค่อยเสียใจ”


    “แม่ นั่นมันลูกเขยนะไม่ใช่ลูกชาย เเม่ต้องเข้าข้างทงเฮสิฮะ”


    “ก็ลูกชายเเม่ติ๊งต๊อง ไหนบอกว่าเเมนไง ทำไมใจน้อยกว่าเเม่อีก”


    “แล้วเเม่กล้าถามพ่อหรอ ถ้าได้กลิ่นน้ำหอมคนอื่นมาอยู่บนตัวพ่ออ่ะ”


    “กล้าสิ เเล้วก็ถือมีดไปด้วย ขืนบอกว่าไปมีใครก็จะเอาปังตอสับให้”


    “เจ๊ใหญ่ขาโหด!” 


    มือเรียวลูบไหล่ปลอบลูกชายเบาๆ “เเม่จะไปจากพ่อก็ต่อเมื่อพ่อมาบอกว่าหมดรักกันเเล้ว เข้าใจมั้ย ถ้าไม่รักจะอยู่ด้วยกันทำไม เเล้วถ้ารักจะเเยกกันให้เสียใจเพื่ออะไร” 


    “เเม่..เจ๋ง” 


    ลีโยวจากรอกตา ไอ้ภาษาวัยรุ่นเเบบนี้บางทีเธอก็ตามไม่ค่อยทันเหมือนกัน


    “แล้วตกลงจะทิ้งเเม่กลับไปหาผู้ชายวันไหน”


    “แม่อ่ะ” ทงเฮปากยื่น “ทงเฮยังทำใจกว้างไม่ได้เลยนะ”


    “ลีทงเฮ เธอไปถามสามีเธอมาให้เเน่ใจว่ากลิ่นที่ติดเสื้อเขามันมีที่มาที่ไปจากไหน ผู้ชายอาจจะไปลองน้ำหอมที่จะซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้เธอก็ได้” 


    โจวคยูฮยอนอาจจะไปติดกลิ่นกุุหลาบมาจากที่อื่นก็ได้ แต่เขาก็ถามเเล้วนี่นาว่าอีกฝ่ายไปไหนมา 


    “แล้วถ้าผู้ชายโกหก”


    “แปลว่าลีทงเฮยังไม่เชื่อใจพี่เค้า ความไม่เชื่อใจเป็นพื้นฐานที่จะทำให้อยู่ด้วยกันไม่ได้ค่ะ ดังนั้นลีทงเฮก็เลิกกับพี่เค้าเเล้วกลับมาอยู่กับเเม่ที่นี่”


    “เมื่อกี้เเม่ยังไล่ให้ไปหาเค้าอยู่เลยนะฮะ” 


    “เเม่ไล่ให้กลับไปถามพี่เค้าให้เข้าใจ เเต่ถ้าถามเเล้วทงเฮไม่เชื่อใจ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะถามถูกมั้ยค่ะ” 


    “งั้นทงเฮไปถามก่อน ถ้าพี่เค้านอกลู่นอกทางค่อยโกรธ” 


    “ถูกค่ะ อกหักแล้วค่อยกลับมาให้เเม่ปลอบใหม่”


    “แม่! แบบนี้เค้าเรียกว่าเเช่งกันนะฮะ”


    ลีโยวจาหัวเราะคิกคัก ถ้าเจ้าลูกชายขึ้นเสียงได้แบบนี้ก็เเปลว่าค่อยมีชีวิตชีวาขึ้นเเล้ว “ตกลงจะกลับเมื่อไหร่”


    “ทงเฮพึ่งมาได้อาทิตย์เดียวเอง กลับไปตอนนี้เสียฟอร์มเเย่”


    “กลัวเสียฟอร์มเเต่ไม่กลัวเสียเเฟน?”


    “กลับเลยก็ได้” เสียงอ่อยว่า “อยู่บ้านเเม่ก็ไล่ไปหาผู้ชาย อยู่กับผู้ชายก็โดนกดขี่เอารัดเอาเปรียบ ลีทงเฮเเต๋วเเตกเเล้วเเม่จะเสียใจ”


    “จะทำอะไรก็ทำเถอะ ขอเเค่ลีทงเฮของเเม่ร่าเริงเหมือนเดิมก็พอค่ะ เห็นลูกชายหน้าหงอย ผอมเอาๆ เเล้วความดันเเม่ขึ้น” 


    “ขอบคุณนะฮะเเม่” ลีทงเฮอ้อน ร่างโปร่งลุกขึ้นนั่งเเล้วกดจูบซ้ายขวาลงบนเเก้มที่ยังเเต่งตึ่งเหมือนสาวน้อย


    “ขอบคุณคุณพ่อด้วยที่อุตส่าห์ทำใจได้ว่าจะไม่มีลูกสะใภ้คนเล็ก”


    “โชคดีที่ทั้งพ่อเเม่บ้านเราเเละบ้านพี่คยูฮยอนรับเรื่องเเบบนี้ได้นะฮะ ขืนต้องมาปวดหัวเรื่องครอบครัวอีก รักทงเฮคงขมปี๋กว่านี้มาก” 


    “ก็ความสุขของลูกนี่คะ พ่อกับเเม่ก็อยากเห็นเเค่นี้เเหละ เเละก็อยากเห็นหน้าลูกเขยด้วย คนหล่อคุณเเม่ชอบ”



    See yah~

    ขอโทษที่วันนี้ลงช้าค่ะ ไปดูหนังกับคุณเเม่มาเเล้วก็ยาวเลย TT มีเพื่อนๆ มารอกันบ้างยังน้อ เม้นให้ชื่นใจหน่อยนะค่ะวันนี้ ^^ 

    1. สงสารโจวคยูเบาๆ TT น้องใจร้ายมากเลย ทิ้งพี่คยูไปหน้านิ่งมาก โชคดีนะค่ะว่าคุณเเม่ยายเข้าใจเเละมาช่วยปลอบ อิอิ ดราม่าเเบบซอฟต์ใส พอให้เรื่องได้มีลุ้นเนาะ

    2. ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่ะ เม้นอีกนะ ใกล้จบเเล้ว เดี๋ยวเม้นไม่ทัน 55 
    3. Ps 


    ขอบคุณ
    QHyunGirl สำหรับลิ้งค์ค่ะ ขออนุญาตขยายให้ได้ชมโดยทั่วกัน 55 ดูเเล้วอินน์มาก ^^ 

    4. จองรวมเล่มฟิคกันมั้ยค่ะ อยากวาดปกจะเเย่เเล้ว เมื่อไหร่จะครบ 50 เล่มอ่ะ TT 
    - ส่งเมล์มาที่ still_holy_5@hotmail.com หัวข้อ จอง Kiss Me Pls! หรือ ต้องโดน(จูบ)
    - เเจ้งจำนวนเเละชื่อจอง (ชื่อจริงหรือชื่อในบอร์ดก็ได้ค่ะ) 
    - ราคาโดยประมาณ 350 B
    - วันที่ 4 มิย. ออเฟียสอีเมล์เเจ้งรายละเอียดการจัดส่งเเละโอนเงิน (ต่ำกว่า 50 เล่ม ขออนุญาตไม่พิมพ์นะค่ะ)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×