ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    End | Kiss Me Pls! ^}{^ ต้องโดน(จูบ)

    ลำดับตอนที่ #11 : 10. Hurt Heart // EDIT : ตอบเม้นตอน 8-9 นะค่ะ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.84K
      107
      28 เม.ย. 54

    10. 

    ตอนนี้มีเพลงประกอบ เเต่หาโค้ดมาใส่ไม่เป็น TT (อยากฟังก็คลิ๊กไปโลดค่ะ)
    http://musicstation.kapook.com/เธอยัง.html




    วันเสาร์ที่คยูยอนนัดทงเฮไปดูละคร ช่วงกลางวันชายหนุ่มก็เเวะไปหาซองมินก่อนโดยนัดว่าตอนห้าโมงเย็นจะมารับทงเฮที่คอนโดมิเนียม เเต่ตั้งเเต่ช่วงบ่ายอาการของซองมินไม่ค่อยดีเลย โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ซองมินเป็นนั้นทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ เเค่อากาศเปลี่ยนนิดหน่อยร่างกายก็มีปฏิกริยาเสียเเล้ว ขนาดเเค่มีไข้ ไข้ยังสูงเสียจนน่ากลัว พยาบาลต้องให้ยาลดไข้เเล้วเข้ามาเช็ดตัวบ่อยๆ ไม่งั้นคนป่วยอาจชักได้


    อาจเป็นเพราะอาการป่วยทำให้จิตใจของซองมินอ่อนเเอขึ้นกว่าเดิม วันนี้ร่างบางจึงขี้อ้อนมากกว่าปกติแถมยังเรียกหาเขาตลอดเวลา ขนาดใกล้เวลานัดแล้วคยูยอนก็ปลีกตัวออกไปไม่ได้


    ร่างสูงถือโอกาสช่วงที่พยาบาลเข้ามาเช็ดตัวให้ซองมินเดินออกมาโทรศัพท์ที่ระเบียง


    “ทงเฮ”


    ‘ครับ’


    “นั่งรถไฟไปรอพี่ได้มั้ย พอดีธุระพี่ยังไม่เสร็จเลย กลัวว่าถ้าเวียนไปรับเเล้วอาจจะไปไม่ทันทั้งคู่”


    ‘ได้ครับ พี่คยูยอนรีบมานะ เค้าเปิดให้เข้าไปตอนหกโมงครึ่ง’ ทงเฮที่จำรายละเอียดทุกอย่างบนตั๋วได้อย่างขึ้นใจบอก เเม้คยูยอนจะบอกว่าไปดูที่ดิน เเต่ทำไมทงเฮจะไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วอีกฝ่ายกำลัง
    อยู่กับใคร


    “รอนะ พี่จะรีบไป” คยูยอนบอก


    ‘ผมรอที่ทางเข้านะครับ’


    หลังจากพูดจบเขาก็รอให้พยาบาลออกไปก่อนเเล้วค่อยกลับเข้าไปในห้อง ซองมินกวักมือเรียกเขาทันที 


    “คยูวันนี้รีบไปไหนมั้ย” 


    ชายหนุ่มกำลังจะบอก เเต่ตาใสๆ นั้นก็จ้องเขาเป๋ง


    “นอนกับมินนะคืนนี้”


    “มิน..คือ..”


    “นะ..นะ..มินอยากอยู่กับคยูนานๆ”


    ร่างสูงพยักหน้า เขาตั้งใจว่าอีกไม่นานคนป่วยคงจะหลับเเล้วเขาค่อยย่องออกไปตอนนั้นคงทัน


    “คยู ไปหยิบกีตาร์มาเร็วเดี๋ยวมินร้องเพลงให้ฟัง” 


    ร่างสูงทำตามใจคนไข้ เขาเดินไปหยิบกีตาร์ตัวเก่ามา ก่อนจะปรับหัวเตียงซองมินให้สูงขึ้น เอา
    หมอนมาซ้อนหลังให้อีกฝ่ายนั่งได้อย่างสะดวก แล้วยื่นกีตาร์ให้ 


    คนป่วยตบเเปะๆ ตรงที่ว่างข้างตัว เพื่อเป็นสัญญาณให้ขึ้นมานั่งด้วย คยูยอนบอกว่ากลัว
    พยาบาลดุ 


    “ถ้าลองดุคยูนะ มินจะเเกล้งหายใจไม่ออก”


    “อย่าทำแบบนั้นสิ” ร่างสูงจุมพิตขมับอีกฝ่าย เขามองผิวที่เคยขาวเเล้วก็ปวดใจ ยกมือลูบผมซอ
    งมินตอนนี้มันช่างเเห้งกร้านไม่เหลือเค้าเส้นไหมนุ่มมือเหมือนเเต่ก่อนเลย 


    คยูยอนขึ้นไปนั่งพิงกองหมอนบนเตียงเเล้วดึงตัวซองมินมานั่งพิงอกเขา อีกฝ่ายหันมายิ้มอ่อน
    หวาน นัยน์ตาคมก็ทอดมองอย่างรักใคร่


    “ร้องเพลงเร็ว ผมอยากฟังเเล้ว”


    มือใหญ่เอื้อมไปประคองคอกีตาร์ให้ เพราะเเขนของซองมินไม่ค่อยมีเเรงเเล้ว 


    “จับคอร์ทอะไร ผมจะจับให้” 


    ซองมินไม่ตอบ เเต่ค่อยๆ บรรจงวางนิ้วมือของคนรักไปตามเส้นต่างๆ ของกีตาร์เอง 


    “กดไว้” เสียงหวานสั่ง ก่อนจะใช้มือขวาของตัวเองจับซ้อนมือใหญ่ ให้อีกฝ่ายเป็นคนดีดสาย
    ด้วย



    คยูยอนออกเเรงเองแทบทั้งหมด เขาเเค่ให้ซองมินจับมือไว้เท่านั้น


    เสียงใสเอื้อนเอ่ยเนื้อเพลง โดยสายตาเพ่งไปที่มือใหญ่ที่เขาเกาะกุมไว้ 


    ‘.....เธอยังคิดถึงฉันทุกนาทีรึเปล่า
    .....เธอยังจำเรื่องเราในวันวานได้หรือไม่.


     เธอยังมีใจให้ฉันคนเดียว ยังรอฉันแค่คนเดียว ....
    เธอยังคงเป็นเหมือนเดิมอยู่ใช่ไหม ช่วยบอกให้รู้ที...’

     


    ฟังเนื้อความเเล้ว คยูยอนก็หยุดมือดื้อๆ เสียงดนตรีที่ขาดหาย ทำเอาคนร้องก็หยุดไปเช่นกัน 


    “มิน..” เสียงทุ้มเรียกเบา เขาหยิบกีตาร์ไปวางไว้ที่เก้าอี้ข้างเตียง เเล้วใช้มือประคองเเก้มให้อีกฝ่ายหันมาสบตาด้วย คยูยอนไม่ได้ตาฝาด ที่ลูกแก้วสีดำขลับมีน้ำคลอเคลียอยู่


    “มิน...คิดอะไรอยู่” คยูยอนถาม ซองมินส่ายหน้า เเล้วซุกตัวลงกับอกอีกฝ่าย แขนผอมบางรวบแน่นที่เเผ่นหลังกว้าง ชายหนุ่มทำอะไรไม่ถูกเขาได้เเต่กอดปลอบอยู่อย่างนั้นเอง



    ทงเฮเหลือบตามองนาฬิกาข้อมือตัวเองถี่กว่าเข็มวินาทีขยับเสียอีก เขายืนรออยู่หน้าโรงละครจนคนอื่นๆ เข้าไปด้านในหมดแล้ว โทรศัพท์หาคนที่นัดไว้ก็เงียบสนิทเหมือนเเบตเตอรี่หมดหรือไม่ก็ปิดเครื่อง เเต่เขาก็นึกเอาว่าเป็นอย่างเเรกเพื่อไม่ให้หัวใจมันต้องบอบช้ำมากกว่าเดิม 


    พนักงานเฝ้าประตูเดินมาตามเขาสองถึงสามรอบเพื่อบบอกว่าหากการเเสดงเริ่มเเล้วต้องรออีก 30 นาทีถึงจะเข้าได้อีกครั้ง เพราะต้องรอให้ฉากเเรกเล่นจบก่อนเนื่องจากหากเข้าไประหว่างฉากจะเป็นการรบกวนคนอื่น ทงเฮก็บอกไปว่าจะรอเพื่อนก่อน รอจนสามสิบนาทีนั้นผ่านไป พนักงานเฝ้าประตูก็เดินมาเเนะนำให้เขาเข้าไปดูโดยฝากตั๋วไว้ที่โต๊ะประชาสัมพันธ์แทน


    ทงเฮอธิบายลักษณะของคยูยอนให้อีกฝ่ายทราบ แล้วยอมเข้าไปดูเเต่โดยดี 


    ตลอดทั้งเรื่องที่ดู ทงเฮหันขวาเพื่อมองว่าที่ว่างข้างกายมีคนมาเติมเต็มหรือยัง เเต่ตลอดสองชั่วโมงที่บนเวทีมีเรื่องราวหวานๆ ผ่านไป หัวใจเขากับเเห้งลงเรื่อยๆ 


    เสียงปรบมือดังขึ้นจากผู้ชมทั่วโรง เขานั่งอยู่ด้านหน้าเเละตรงกลางจึงทำให้เห็นบรรยากาศทั้งหมดได้ชัด ทุกที่นั่งมีคนประจำอยู่ยอกเว้นเก้าอี้ข้างเขาเท่านั้นที่ใจร้ายทิ้งให้ว่างไว้ไม่ยอมมา 


    ทงเฮเดินออกจากโรงละคร เขาเเวะไปถามเจ้าหน้าที่ข้างหน้าว่าโจวคยูยอนมามั้ย ฝ่ายนั้นบอกว่าหลังจากเขาเข้าไปก็ไม่มีใครมาอีก ทงเฮขอตั๋วคืน เขาเก็บตั๋วใส่กระเป๋ากางเกงเเล้วทิ้งตัวลงริมม้านั่งเเถวนั่น


    ท้องฟ้าบริเวณโรงละครใสนัก อาจจะเป็นเพราะห่างจากกลุ่มเเสงสีของกรุงโซลก็เป็นได้ คืนนี้ทงเฮเลยได้เห็นดาว 


    หลังจากนั่งทำความเข้าใจกับตัวเองเงียบๆ ทงเฮก็นึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่ได้อยู่ยาวกับซองมินเเล้วลืมเขา เเต่ระหว่างขับรถมาอาจเกิดอุบัติเหตุ ทงเฮรีบเปิดทวีตเตอร์ผ่านมือถือเเล้วเชครายงานสภาพการจราจรบนถนนทันที เขาไล่ดูย้อนหลังไปถึงประมาณหกโมงเย็นที่คยูยอนโทรหา ก็ไม่มีรายงานอุบัติเหตุอะไร


    หมดห่วงเรื่องอุบัติเหตุ ความเป็นไปได้อีกอย่างทำให้เขาปวดหนึบที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก 


    “ฮยอก..” เสียงเบาหวิวเรียกเพื่อนทันทีที่อีกฝ่ายรับโทรศัพท์


    ‘ทงเฮเป็นอะไร!’ เพื่อนสนิทที่คบกันมานานรู้ดีว่าน้ำเสียงเเบบนี้มันไม่ปกติ


    “อยู่ที่โรงพยาบาลรึเปล่า”


    ‘อยู่ๆ คืนนี้ฉันเข้าเวรห้องฉุกเฉินพอดี เเกไม่สบายหรอ ให้ฉันส่งรถพยาบาลไปรับมั้ย’ หมอหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง


    “ฉันสบายดี เเต่เเค่อยากรู้ว่าพี่คยูยอนอยู่ที่นั่นหรือเปล่า”


    ‘หมายความว่าไง เค้าไม่ได้บอกแกหรือว่าจะไปไหน’


    “อืม บอกว่าไปธุระกลับดึกๆ น่ะ ฉันเเค่อยากรู้ให้เเน่ใจว่าเค้าไม่ได้ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน”


    ‘ได้ๆ รอแป๊บนึงนะ’ ฮยอกเเจว่างอยู่ เลยสามารถเดินไปที่ตึกผู้ป่วยที่อยู่ไม่ห่างจากห้องฉุกเฉินที่ตัวเองประจำอยู่ได้ทันที อีกอย่างคุณหมอหนุ่มก็ไม่รู้ว่าวันนี้คือวันที่ทงเฮโทรมาอวดว่าคยูยอนชวนไปดูละคร 


    ระหว่างนั่งรอคำตอบจากปลายสาย ทงเฮก็เฝ้าย้ำตัวเองอยู่ว่า ถ้ารู้เเล้วห้ามเสียใจ 


    ฮยอกเเจเดินไปหยุดหน้าห้อง 101 เขาหยุดคิดนิดหน่อยว่าเข้าไปเเล้วจะโกหกคนป่วยว่าอะไรดีที่หมอไม่ได้ประจำไข้อย่างเขาโผล่มากลางดึก อืม ... บอกว่าเป็นสวัสดิการโรงพยาบาลละกัน 


    คุณหมอหนุ่มเคาะประตูเป็นสัญญาณเเล้วเปิดเข้าไปทีละนิด ไม่ทันจะเข้าไปหมดตัวก็เห็นเเล้วว่าคนที่เพื่อนเขาตามหากำลังเดินสวนมาพอดี 


    ‘สวัสดีครับ พอดีผมเดินผ่านมาเเล้วเห็นไฟห้องคุณซองมินยังเปิดอยู่เลยจะเข้ามาเอ็ดคนไข้สักหน่อยว่าทำไมยังไม่นอน’


    ซองมินฟังคุณหมอพูดแล้วก็อมยิ้ม พยักเพยิดไปยังคนตัวสูงที่ยืนอยู่


    ‘คนเฝ้าไข้กวนครับ เลยยังนอนไม่ได้สักที’


    ฮยอกแจโค้งทักทายคยูยอนเเล้วถอยทัพออกมาอย่างเนียนที่สุด ขนาดเขากำลังมีความรักแต่พอมาเห็นสายตาสองคู่ที่ส่งให้กันอย่างอ่อนหวานเมื่อครู่เเล้ว ก็ยังอดรู้สึกอิจฉาไม่ได้ 


    ‘เจ้าปลา...’ หมอหนุ่มเรียงคนที่ปลายสายด้วยฉายาที่คุ้นกันตั้งเเต่สมัยมัธยม เมื่อสักครู่เขาใส่โทรศัพท์ไว้ในเสื้อกาวน์ เเต่ยังไม่ได้กดตัดสายไปหรอก


    “ได้ยินเเล้ว”


    ‘แกโอเคใช่มั้ย’


    “อื้ม เเค่รู้ว่าเค้าอยู่ที่นั้นก็โอเคเเล้วล่ะ”


    ฮยอกเเจฟังน้ำเสียงที่พยายามจะร่าเริงเเล้วยิ่งนึกเป็นห่วงเข้าไปใหญ่


    ‘ตอนนี้เเกอยู่ไหน’


    “คอนโดฯ เเค่นี้นะ” ร่างโปร่งปด ขืนบอกว่าอยู่ด้านนอก คุณหมอเพื่อนเขาได้หนีงานมาตามตัวกลับเเน่


    ‘รีบนอนนะ ฝันดี’ 


    “แกก็ตั้งใจทำงานนะ อย่ามัวเเต่ใจลอยนึกถึงคุณซีวอน”


    เสียงเขินๆ จากปลายสายทำให้ทงเฮพอจะนึกใบหน้าขาวขึ้นสีเลือดได้เด่นชัด มันช่วยเรียกรอยยิ้มบางได้นิดนึง แค่นิดนึงจริงๆ เพราะเมื่อนึกถึงเสียงใสๆ อีกเสียงที่ดังลอดมาทางโทรศัพท์หัวใจมันก็เต้นผิดจังหวะอีกครั้ง 


    เบี้ยวนัดเขา เพราะอยู่กับอีกคน เเล้วยังจะบอกให้เขารอ

    โจวคยูยอนใจร้ายนัก!


    ทงเฮเดินลากขากลับไปทีสถานีรถไฟใต้ดิน เอาจริงตอนนี้เเรงจะยกเท้ายังไม่มี พิษของความผิดหวังมันช่างเเรงจนเขานึกกลัวตัวเองว่าวันนึงที่ซองมินหายดี สัญญาของเขากับคยูยอนคงจบลง เขาเรียกร้องอะไรไม่ได้หรอก เพราะอีกฝ่ายไม่ได้คิดจะมีใจให้ตั้งเเต่เเรกเเล้ว เเถมในสัญญายังบอกเด่นชัดว่าพวกเขาสองคนจะเลิกกันเพราะรู้สึกว่านิสัยบางอย่างเข้ากันไม่ได้ ทนอยู่ด้วยกันต่อไปแล้วไม่มีความสุข


    มือเรียวยกขึ้นขยี้ผมอย่างหงุดหงิด ทำไมโจวคยูยอนต้องร่างสัญญาเสียละเอียดขนาดนั้นด้วยก็ไม่รู้!


    แล้วถ้าอีกคนไม่อยู่ล่ะ เขายังพอมีหวังหรือเปล่า?


    ทงเฮตบเเก้มตัวเองไม่เบาเลย เขาไล่ความคิดชั่วร้ายออกไปจากหัวแทบทันที ถึงเเม้จะรู้ว่าซองมินอาการหนัก แต่ถ้าปาฏิหาริย์มีจริง เขาก็อยากให้อีกฝ่ายหาย เพราะนั้นคงเป็นสิ่งที่จะทำให้คนที่เขารักมีความสุขที่สุด


    “ลีทงเฮ นายรับรางวัลตัวประกอบยอดเสียสละไปเลย” เสียงเเหบพร่าปลอบใจตัวเอง ถ้าซองมินหายจริงๆ เขาก็คงเเค่เป็นตัวประกอบเล็กๆ ในชีวิตโจวคยูยอนเท่านั้นจริงๆ นานไปจะจำกันได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ว่ามีลีทงเฮเคยผ่านเข้ามาในชีวิต...


    เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงเล่นเอาทงเฮที่กำลังเหม่อสะดุ้งสุดตัว เขารีบคว้าซัมซุงกาเเล็กซี่ขึ้นมาดูชื่อทันที 


    “คุณแม่!!” ร่างโปร่งอุทานเเล้วก็รับสายทันที


    ‘ละครสนุกมั้ยจ๊ะ’ เสียงร่าเริงของโจวนาอึนทักทายมาทันที เท่านี้ทงเฮก็รู้เเล้วว่าคนซื้อตั๋วเป็นใคร 


    “สนุกครับ” เขาปรับเสียงให้ร่าเริงตามอีกฝ่ายไปด้วย


    ‘หายโกรธพี่คยูยอนเเล้วใช่มั้ย’ 


    ทงเฮไม่รู้ว่าโจวนาอึนไปเอาข่าวมาจากไหนว่าเขาสองคนหมางเมินกันพักหนึ่ง เเต่เขาก็มีหน้าที่ทำให้อีกฝ่ายสบายใจเลยตอบไปตามที่มันควรจะเป็น


    ‘ว่าเเต่ทำไมเเม่โทรหาโจวคยูยอนไม่ได้เลย’


    “มือถือพี่คยูยอนเเบตฯหมดฮะ”


    ‘แล้วตอนนี้อยู่ไหนกัน’


    “กำลังกลับบ้านกันครับ พี่คยูยอนขับรถอยู่”


    ‘แล้วทำไมเสียงเหมือนอยู่ริมถนน’ 


    “อ๋อ วันนี้เราเปิดประทุนครับ” ทงเฮอยากจะกัดลิ้นตัวเอง เขาโกหกลื่นไหลจนจมูกยาวเป็นพิ
    น็อคคิโอ้เเล้ว


    ‘วันนี้น่าจะเปลี่ยนบรรยากาศ ไปเปิดโรงเเรมห้องสวีทนอนกัน พอบรรยากาศเป็นใจก็จะได้ปั๊มหลานให้คุณเเม่อุ้ม’


    ทงเฮค่อยๆ ผ่อนลมหายใจกับจินตนาการประหนึ่งคนเขียนบทละครหลังข่าวของคุณเเม่ เขาหัวเราะไปตามที่อีกฝ่ายอารมณ์ดีนักหนา


    ‘อ้อน้องทงเฮ คุณเเม่จะโทรมาบอกว่าอาทิตย์หน้าคุณเเม่จะไปเที่ยวยุโรปกับเพื่อนๆ สักครึ่งเดือนนะค่ะ อยากได้ของฝากอะไรมั้ย’


    ทงเฮปฎิเสธพร้อมอวยพรให้อีกฝ่ายเดินทางโดยสวัสดิภาพก่อนจะวางสายไป


    ระยะทางจากโรงละครถึงสถานีรถไฟใต้ดินไกลพอสมควร เเถมเวลานี้ผู้คนเเถวนี้ก็บางตามากนานๆ ครั้งจะสวนกลับมาสักคน หรือเเม้แต่หันไปมองด้านหลังก็ไม่มีใครตามมาเลย อากาศกลางคืนเวลาต้นฤดูใบไม้ร่วงเเม้จะยังไม่หนาวจัดเเต่ทงเฮก็ไม่ได้สวมเสื้อผ้าที่เตรียมมาเดินริมถนนในเวลาดึกดื่นเช่นนี้ คนตัวเล็กห่อไหล่ ต้องใช้สองมือรวบเสื้อสูทให้เข้าชิดตัวเเล้วกอดอกแน่น


    หนาวกายก็คงไม่เท่าหนาวใจ 

    ตอนนี้เขาควรได้นั่งอยู่ในรถที่มีฮีสเตอร์อุ่นๆ คุยเนื้อเรื่องในละครกับโจวคยูยอน ไม่ต้องหนุงหนิงน่ารักเเค่ให้ได้เถียงกันเหมือนที่เคยเป็นก็พอเเล้ว


      น้ำหยดหนึ่งตกลงบนหลังมือขาว ทงเฮคิดว่าเขายังไม่อ่อนเเอจนร้องไห้ ใบหน้าหวานเลยเเหงนมองขึ้นฟ้า เเล้วฝนหลงฤดูที่ตกลงมาอย่างไม่มีปีมีขลุ่ยก็ดูจะรังเเกเขาจนเกินไป 


    เอาสิ! พอเศร้าฝนก็เทใส่ ที่ Music Video หรือละครชอบมีฉากคนอกหักเดินตากฝนมันไม่ผิดสักนิด


    เข้ามาอยู่ในขบวนรถไฟได้ทงเฮก็ต้องกอดตัวเองให้เเน่นกว่าเดิม รถไฟเกาหลีจะรักษาความเย็นระดับเเช่ศพไปทำไม อากาศหนาวจัดแบบนี้ควรจะเปลี่ยนเป็นเปิดฮีสเตอร์เเล้วสิถึงจะถูก


    ทงเฮโวยวายในใจไปก็เท่านั้น เพราะยังไงเขาก็ต้องใช้บริการรถสาธารณะสายนี้ไปจนคอนโดมิเนียม โชคดีหน่อยว่าที่ๆ เขาอยู่ไกลจากสถานีเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น 


    นอกจากลีซองมินจะป่วยเป็นเเล้ว ลีทงเฮเองก็เป็นคนเหมือนกัน การถูกฝนเเล้วต้องนั่งตากเเอร์อยู่ในรถใต้ดินเป็นเวลานานทำให้สายๆ ที่ร่างโปร่งรู้สึกตัวขึ้นมานั้นหัวช่างหนักเหลือเกิน เเถมพอกลืนน้ำลายเเล้วยังเจ็บคออีกต่างหาก 


    ทงเฮโซเซออกมาจากห้อง เขาต้องการน้ำอุ่นมากกว่าน้ำเย็นเจี๊ยบในตู้เย็นเครื่องเล็กในห้อง 


    พอประตูบานสวยถูกดึงเข้าหาตัว ดอกไม้ช่อเล็กๆ ก็ปรากฏสู่สายตา มันถูกวางอยู่ตรงพื้นหน้าห้อง กุหลาบสีส้มเหมือนครั้งก่อน ครั้งนี้คนให้ไม่ได้รออยู่ด้วย มีเพียงการ์ดใบเล็กเเนบไว้ 


    ‘เมื่อคืนขอโทษ ครั้งหน้าจะเเก้ตัวใหม่..วันนี้กลับเย็นๆ นะไปธุระ / พี่คยูยอน :)’


    ทงเฮปาช่อดอกไม้ไปสุดเเรง กลีบดอกสีสดร่วงกราวเพราะปะทะเข้ากับผนังแข็งเเกร่ง 


    เขาเป็นเด็กเจ้าอารมณ์เพราะโดนตามใจมาตลอด เพียงเเค่เลือกคนจะระบายออกมาให้เห็นเท่านั้น ตอนนี้เขาโกรธโจวคยูยอน อาการตัวรุมๆ ที่มาเยือนยิ่งทำให้ครองสติไม่ค่อยอยู่หรอก กุหลาบช่อน้อยเลยซวยไป 


    ร่างโปร่งเดินตามไปที่จุดเกิดเหตุ เป่าลมออกจากปากเพื่อช่วยให้ระบบหายใจทำงานได้คร่องขึ้น เพราะพอโมโหหัวใจมันก็เต้นเร็วเกินไปเท่านั้น ทงเฮมองซากช่อดอกไม้ที่ไม่ผิดอะไรด้วยอารมณ์ที่ยังกรุ่นจัด เเต่เขาก็ก้มลงประคองมันขึ้นมาแล้วเอากลับไปวางไว้ในห้องก่อนจะลงมือเก็บกลีบที่ช้ำกลับไปวางไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือในห้องเหมือนกัน


    ทงเฮเดินไปที่ครัว กดน้ำจากเครื่องต้มน้ำอุ่นมาบรรเทาอาการเจ็บคอ เขาโทรสั่งอาหารจากด้านล่างเหมือนทุกวัน ระหว่างรอเขานั่งลงที่โต๊ะอาหารเเล้วคุยกับตัวเองว่าลูกชายทูตที่มีชีวิตพรั่งพร้อมทุกอย่างมีคนคอยเอาใจ อยากได้อะไรก็ได้ ไม่เคยจะโดนปฏิเสธแบบเขา ทำไมต้องมานั่งทนเหงาอยู่คนเดียวที่นี้ด้วย


    ตอนนี้เขาควรจะได้เที่ยวเล่นไปตามที่ต่างๆ ในเกาหลีใต้กับฮยอกเเจ หากไม่คิดเเผนเเก้เเค้นบ้าๆ นั่น เพื่อนสนิทวัยมัธยมของเขาคงจะลาพักร้อนสักสองอาทิตย์เเล้วก็ขับรถไปด้วยกัน แล้วนี่อะไร เขาต้องมานั่งรออาหารที่สั่งมาจากบริการเดลิเวอร์รี่ในวันที่ตัวเองป่วยอยู่ในห้องกว้างๆ เพียงคนเดียว 


    ไม่นานร้านอาหารก็นำข้าวต้มมาส่งทงเฮรีบทานเพราะหวังจะทานยาเเก้ไข้ เเต่เขาดันหาไม่เจออีก ในตู้ยาก็ไม่มี จะให้โทรถามเจ้าของห้องเขาก็ยังไม่มีอารมณ์จะสนทนาด้วย ทงเฮตัดสินใจจะไปซื้อที่ร้านยาใกล้ๆ เขาเลยจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วลงไปถามเอากับประชาสัมพันธ์คอนโดมิเนียมว่าในระยะใกล้ๆ มีร้านขายยาหรือไม่ อีกฝ่ายเเนะนำกลับมาว่ามีเพียงคลินิคเล็กๆ เเต่ไม่มีร้านขายยาเลย


    ทงเฮใช้ความคิด เเวะไปหาหมอหน่อยก็คงดีเหมือนกัน เผื่อทีมันจะหายเร็วกว่าซื้อยากินเอง


    ร่างโปร่งเดินทอดน่องไปตามสายเเดดยามสาย เขาเดินประมาณห้านาทีก็ถึงคลินิกที่ว่า หลังจากตรวจหมอวินิจฉัยว่ากำลังจะเป็นหวัดเลยให้ทานยาลดไข้ตามอาการ เเล้วก็กินยาฆ่าเชื้อติดต่อกันห้าวันเพื่อกันหวัดมันจะลามไปเป็นอย่างอื่น 


    ตอนจ่ายเงินมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทักเขา พอมองหน้าชัดๆ ก็รู้ว่าเป็นครีเอทีฟที่ดูเเลงานของ The Horizon


    “สวัสดีครับ คุณดงยอง” ทงเฮทักทาย


    “คุณทงเฮป่วยหรอครับ”


    ใบหน้าหวานยิ้มรับ “เมื่อคืนโดนฝนนิดหน่อย เเล้วก็เจอกับความเย็นของรถไฟกรุงโซล ตื่นมาไข้จับเลย”


    ดงยองหัวเราะตามคนเล่า “แล้วคุณคยูยอนละครับ ไม่มาด้วยเหลือ” ชายหนุ่มถามถึงอีกคนที่เคยประกาศตัวต่อหน้าเขาว่าเป็นเเฟนกัน


    ทงเฮย่นจมูก ได้ยินชื่อเเล้วต่อมพาลจะทำงาน “บ้างาน จมหายไปกับทะเลที่อินชอนเเล้วครับ” เขาตอบไปมั่วๆ เเต่ก้ให้มันเข้ากับเส้นเรื่องที่คนเป็นเเฟนกันพึงจะงอนกันด้วยเรื่องอะไรได้บ้าง


    ดงยองพยักหน้ารับ เขาได้ยินมาเหมือนกันว่าโจวพร๊อพเพอร์ตี้ กำลังจะผุดโครงการบ้านจัดสรรริมทะเล เลยเดาอาการหน้าง้ำๆ งอนๆ ของคนตรงหน้าว่าคนเป็นเเฟนคงมัวเเต่สนใจงานมากกว่าตน


    “แล้วคุณละครับ มาหาหมอเป็นอะไร” ทงเฮถามบ้าง


    “อ๋อ ผมมาทำแผลน่ะครับ สองวันก่อนโดนเเก้วบาด”


    “เจ็บมั้ยครับ” ทงเฮถามด้วยความเป็นห่วง “โดนตรงไหนเนี่ย” 


    ครีเอทีฟโฆษณายื่นหลังมือซ้ายให้ดู


    “แผลใหญ่เหมือนกันนะครับ” 


    “มันยาวครับเเต่ไม่ลึก” 


    ทงเฮพยักหน้ารับ อีกฝ่ายเป็นคนยิ้มง่าย เเล้วก็ให้บรรยากาศเป็นมิตรเขาเลยนึกสนิทใจที่จะคุยด้วย อีกอย่างมีไม่กี่คนในโซลหรอกที่เขาปฏิสัมพันธ์ด้วยในตอนนี้


    “คุณทงเฮทานอะไรรึยังครับ” 


    “ทานข้าวต้มเมื่อสายๆ ครับ” ทงเฮเหลือบมองนาฬิกาข้อมมือที่สวมอยู่แล้วก็ตาโต “เที่ยงเเล้วหรอ ไวจัง”


    “ไปหาอะไรทานกันมั้ยครับ คุณทงเฮจะได้ทานยาด้วย” ดงยองเอ่ยชวน 


    ลีทงเฮรู้สึกกระเพาะตัวเองประท้วงเหมือนกัน เลยตกลงไปกับอีกฝ่ายง่ายๆ ดงยองเดินนำไปที่รถ โดยเขาจะขับพาไปกินที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ เเถวนั้น 


    ร่างโปร่งเดินผ่านร้านบุฟเฟ่ต์ชาบู ชาบูแล้วนึกอยากทาน เลยกระตุกเเขนเสื้ออีกฝ่ายเป็นสัญญาณว่าให้ลอง


    ดงยองตามใจทงเฮ เพราะเขาเองทานอะไรก็ได้อยู่เเล้ว เห็นอีกฝ่ายกำลังเป็นหวัดก็คงอยากทานอะไรร้อนๆ 


    ทั้งคู่ลวกหมูสไลด์กันอย่างสนุกสนาน ทงเฮเจอของอร่อยก็สู้ตายอยู่เเล้ว ดงยองยังเเซวว่าเห็นตัวเล็กๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะกินมากขนาดนี้ 


    ชีวิตลีทงเฮเเม้จะไม่ได้ดังเเบบดารา เเต่หูตาของโจวนาอึนกลับมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าช่างภาพปาปารัสซี่ฮอลลีวูด ซองเฮียวริที่มาเดินเล่นกับเพื่อนจับเรดาร์หน้าขาวๆ ตาใสๆ ปากชมพูจัดๆ แล้วก็
    รอยยิ้มหวานฉ่ำได้ชัดเจน ไม่ต้องเดินไปเกาะขอบกระจกร้านก็รู้ว่านั่นคือคุณลีทงเฮเพราะออร่าความหน้าตาดีมันพุ่งทะลวงออกมาจนใครต่อใครต้องเหลียวมองอยู่เเล้ว หญิงสาวมองเลยไปถึงคนฝั่งตรงข้ามที่กำลังคีบชิ้นเนื้อจากหม้อใส่ถ้วยให้เเล้วก็ต้องตาขวางทันที จากที่คิดว่าจะมีข่าวไปเกทับซานดาระว่ามาเห็นฉากสวีทนอกสถานที่ กลับกลายเป็นคุณทงเฮมากระหนุงกระหนิงกับไอ้หน้าจืดที่ไหนเเทนไม่รู้


    เลขานุการสาวตั้งฉายาให้ตัวละครที่เป็นผู้ร้ายขโมยปลาย่างเสร็จสรรพ ก็เดินโฉบไปดูให้ใกล้ขึ้นทันที คนที่กำลังมีความสุขกับการกินอย่างทงเฮจะสนใจอะไร ยิ่งดงยองที่เพลิดเพลินกับหน้าหวานๆ ก็เเล้วใหญ่ ปาปารัสซี่สาวที่ยกมือถือขึ้นถ่ายระยะประชิดไม่มีทางทำให้รู้ตัวได้อยู่เเล้ว


    ซองเฮียวริกดโทรศัพท์หาโจวนาอึนทันที เธอยังไม่กล้ารายงานเจ้านายโดยตรง ผ่านทางผู้กุมอำนาจสูงสุดจะดีกว่า 


    หลังได้รับรายงานว่าลูกสะใภ้สุดที่รักกำลังทานอาหารอยู่กับผู้ชายคนอื่น ที่มีเเนวโน้มว่าจะเเอบชอบน้องทงเฮของลูกชายสุดที่รักด้วยโจวนาอึนก็ต่อสายตรงถึงคยูยอนทันที


    ‘โจวคยูยอน ทำอะไรอยู่!’


    เสียงหงุดหงิดของเเม่ทำให้ร่างสูงต้องถอยห่างจากเตียงคนป่วยที่เพิ่งหลับไป


    “เอ่อ...” เขากำลังจะตอบว่าอยู่บ้าน เเต่ก็เสี่ยงว่าตอนนี้เเม่เขาอาจจะอยู่ที่นั่นเเล้วไม่เจอเขาเลยโทรมาวีน “ผมออกมาดูที่ที่อินชอนครับ”


    ‘ทำงานจนเเมวตัวอื่นจะมาคาบปลาไปกินเเล้วนะ’


    คยูยอนยังงง โจวนาอึนเลยเล่าให้ฟังว่ามีคนเห็นทงเฮไปทานอาหารกับผู้ชายคนอื่น


    “เพื่อนเค้ารึเปล่าครับ เราไม่ได้ตัวติดกันนะครับเเม่”


    ‘เพื่อนที่เป็นครีเอทีฟที่ชื่อดงยองใช่มั้ย ไม่หวงก็ตามใจคยูยอน น้องเป็นคนน่ารัก คุยเก่ง ใครอยู่ด้วยเเล้วไม่ชอบก็เเปลกมาก เเม่โทรมาบอกเเค่นี้เเหละ’


    ร่างสูงถอนหายใจ พอฟังชื่อนั่นเเล้วเขาก็นึกขุ่นใจอย่างประหลาด หลังวางโทรศัพท์จากแม่ตัวเอง ร่างสูงก็เดินไปบอกลาคนหลับก่อนจะเดินเร็วๆ ไปจัดการกับอีหนูของเขาที่ตอนนี้คงนั่งยิ้มให้คนอื่นที่ไม่ใช่เขามองอยู่เป็นเเน่เเท้



    See Yah~
    1.อีคุณคยู โดนเเม่ยกน้องปลารุมสกรัมเเน่ ออเฟียสขอไว้อาลัยล่วงหน้าเลย

    2.เข้ามาอัพฟิคไม่ได้ทั้งวัน เด็กดีมีปัญหา ออเฟียสจะขาดใจตาย TT 

    3.เดี๋ยวมาตอบเม้นดึกๆ นะค่ะ ^^ ขอบคุณที่ตอบคำถามด้วยจ้า น่ารักทุกคนเลย ^^ 

    00.14 น. Edit ตอบเม้นตอน 8-9 นะค่ะ  ส่วนใครที่เม้นตอน 10 ไปแล้วออเฟียสยกยอดไปตอบครั้งหน้าค่ะ ^^


    Name : Lily of the Valley

    สวัสดีค่ะน้องออม เราอายุเลยหนูมาไกลแล้วล่ะ เหอะๆ จะเป็นทวดรหัสหนูเเล้ว หนูยื่นคณะไร ม.อะไรไปบ้างอ่ะ เดี๋ยวช่วยลุ้น ฮี่ฮี่ เอาเป็นว่าขอให้ได้ดังใจปรารถนาค่ะ ระหว่างเตรียมตัวเป็นเฟรชชี่ก็อ่านฟิคไปก่อน  เเล้วอย่านอนดึกมากเนาะ เด๋วหน้าไม่เด้ง คนเเก่เป็นห่วง 55 ขอบคุณสำหรับเม้นยาวๆ ขอบอกชอบมาก เวลาหนูมารอพี่อัพฟิค  พี่ก็รอหนูมาเม้นเหมือนกัน ^^ ส่วนวันนี้หนูมาไม่ช้าค่ะ พี่ก็รีเฟรชหลายรอบกว่าเด็กดีจะปกติแล้วลงฟิคได้ เอาจริงเเอบจิตตกเหมือนกัน กลัวไม่ได้อัพ 55 เเล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ (รอดูว่าพี่คยูจะไปตามน้องกลับมายังไง)



    Name : sentine.))

    เย้ๆ ขอบคุณที่หลงฟิคเรื่องนี้ค่ะ แล้วก็ขอบคุณที่ตอบคำถามให้ด้วยค่ะ เจอกันตอนหน้านะค่ะ มาลุ้นกันว่าพี่คยูจะทำยังไงกับน้องบ้าง (คึคึ)



    Name : onranpo

    ชอบตอนที่คว้ามือน้องมาดูนาฬิกาเหมือนกัน มีความรู้สึกว่ามันเนียนๆ ดูสนิทสนมกันมาก เเต่คนที่รู้ใจตัวเองกลับเป็นน้องคนเดียวนี่สิ ทำเอาเซ็งไปเลย เเถมตอนนี้พี่คยูยอนยังใจร้ายมากๆ ด้วย เอาเป็นว่ามาลุ้นกันดีกว่าว่าตอนหน้าทงเฮของเราจะเเผลงฤทธิ์อะไรใส่พี่เค้าบ้าง อย่างไรก็ตามขอบคุณสำหรับการติดตามเเละคอมเม้นน่ารักๆ ค่ะ แล้วก็ที่ตอบคำถามเราด้วยค่ะ ดีใจที่ได้เจอกันในนี้ค่ะ ^^



    Name : QHyunGirl


    ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ค่ะ เดี๋ยวออเฟียสไปจ่ายค่านายหน้าเเป๊บนึงนะค่ะ 55 เเล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ คอมเม้นของตอนนี้เราก็ยกไปคุยกันตอนหน้าเนาะ ^^  



    Name : Hudchild

    สวัสดีค่ะ ตอนที่เเล้วหวุดหวิดดราม่า เจอตอนนี้เข้าไปหงายหลังกันทั้งคนเเต่งคนอ่านเลยค่ะ มิสเตอร์โจวคยูทำแสบเอาเรื่อง / เรื่องที่ทงเฮเรียตาฮยอกว่าน้องเจี๊ยบมันมีที่มาค่ะ เพราะจากฉายาไก่นั้นเเหละ เเต่ออเฟียสรู้สึกมันไม่ค่อยน่ารักอ่ะ เนื่องจากตาฮยอกก็เป็นของซีวอนไปเรียบร้อยเเล้ว (เกี่ยวอะไร) เลยอยากเพิ่มความน่ารักให้ เป็นที่มาของชื่อ น้องเจี๊ยบของสามีค่ะ ^^ ps. ขอบคุณที่ตอบคำถามให้ค่ะ 



    Name : darkreaction


    สวัสดีค่ะ เรื่องตาฮยอกกับวอนได้กันยังไง เดี๋ยวมีขยายในตอนพิเศษหลังเรื่องหลักจบนะค่ะ อย่าลืมติดตาม (เขิน~) ตอนนี้เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้นเเล้วค่ะน้องทงเฮรู้ใจตัวเองแต่อีพี่คยูก็ยังเก๊กขรึม เเถมใจร้ายใส่น้องด้วย แต่งเองเเล้วอินน์จัด 55 มาลุ้นดีกว่าว่าพี่ท่านจะเอายังไงกับน้องต่อไป ^^



    Name : FayFai

    สวัสดีค่ะ ออเฟียสชอบหมวยเฮ ตรงน้องเป็นคนมีเหตุผล ไม่วีนเเบบกรี๊ดกร๊าดเนี่ยล่ะค่ะ น้องเเมนค่ะ เเต่โดนจูบเดียวเปรี้ยวไม่ออกเลย ส่วนเฮจะได้เจอกับมินๆ มั้ยต้องมาลุ้นกันค่ะ ^^ 




    Name : Oiiiii

    สวัสดีค่ะ ตอนนี้หมวยซ่าท่าจะเครียดกว่าเดิม พี่คยูยอนใจร้ายกับน้องมากๆ เลยอ่ะ สงสัยต้องรอดูตอนหน้าค่ะว่าควรค่าเเก่การให้อภัยมั้ย ปล. เรื่องที่ถาม ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำตอบ พอดีออเฟียสอยากรู้ว่าคำโปรยมันโอเคมั้ย สรุปว่าโอเคเนาะ หุหุ เเล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ 



    Name : kamoo

    สวัสดีค่ะ ^^ สัญญาว่าจะติดตามเเล้วต้องเเวะมาเม้นกันบ่อยๆ นะค่ะ ไม่งั้นจะงอนๆ ขอบคุณที่ชอบเรื่องนี้ค่ะ เรื่องของน้องหมวยกับคยูจะเป็นยังไงต้องรอลุ้นค่ะ เเต่ท่าทางหมวยเราจะซ่าไม่ค่อยออกเเล้วมั้งเนี่ย ขอบคุณที่ตอบคำถามให้ค่ะ ^^ 


    Name : Ai-inny

    เรื่องจูบเผลอไม่เผลอก็ดูเอาเถอะค่ะว่าตาคยูทำน้องเสียใจไปแค่ไหน โมโหเเทนเจ้าปลาน้อยเนาะ ขอบคุณที่ตอบคำถามให้เเละขอบคุณสำหรับกำลังใจเเละคอมเม้นน่ารักๆ ค่ะ ^^ เรื่องของไก่กับคุณวอน หึหึ เดี๋ยวไรเตอร์เอามาขยายเป็นตอนพิเศษดีกว่า ^^ ส่วนพี่คยูจะหลงน้องบ้างหรือยังเราต้องติดตามกันต่อไปตอนหน้าค่ะ 




    Name : im jeab

    สวัสดีค่ะ สาวกคยูเฮเยอะเหมือนกันนะเนี่ย เมื่อก่อนออเฟียสก็คิเฮนะค่ะ เเต่หลังๆ น้องเเก้มหายไป ต่อมจิ้นก็ฟีบตามหัวเรือมันเลยเปลี่ยนทิศมาเป็นคู่นี้เเทนค่ะ ^^ คยูมินก็ที่หนึ่งในใจเหมือนกันค่ะ เเต่เรื่องนี้ต้องยก Main ให้คยูเฮไป เเต่ก็จะมีตอนพิเศษมินคยูมาให้ในตอนท้ายไ นะค่ะ น้องมินจะได้ไม่โกรธออเฟียสจนเกินไป ส่วนเรื่องหลักก็กำลังเข้มข้นเลยค่ะ ท่าทางหมวยของเราจะโกรธหนัก พี่คยุจะง้อยังไงมาตามกันตอนหน้าค่ะ 



    Name : kissjuaer

    สวัสดีค่ะ เจอกันครั้งเเรกเนาะ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่ะ เเล้วเจอกันอีกนะค่ะ ตอนนี้จอมวางเเผนทั้งหลายกำลังปวดหัวกันใหญ่เลยค่ะ 


    Name : ฮยอนเฮ* ซารัง :}

     สวัสดีค่ะ ^^  กรี๊ดหายเหนื่อยรึยัง ฮ่าฮ่า ท่าทางตอนนี้จะต้งเปลี่ยนจากกรี๊ดเป็นด่าพี่คยูเเทนเเล้วใช่มั้ยค่ะ ^^ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นและกำลังใจให้บรรดานักเเสดงค่ะ เเล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×