คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #80 : บทเรียนที่ 74 Il est flou ความรู้สึกที่เลือนราง
บทเรียนที่ 74 Il est flou ความรู้สึกที่เลือนราง
วาเหยียดแขนไปข้างหน้าสะบัดขาไปมาขณะรอการแข่งรอบสุดท้ายที่กำลังจะเริ่มขึ้น เขารู้สึกเหนื่อยล้าพอสมควรแต่ในด้านของพลังสมาธิของเขาในตอนนี้กลับมีอยู่เต็มเปี่ยม แม้ว่าความมั่นใจในการเอาชนะจะมีอยู่ไม่มากแต่เมื่อมองไปยังสโนว์กับครอสความรู้สึกอันมากมายก็พรั่งพรูเข้ามาทั้งคำพูดของสโนว์และการกระทำของครอสในคืนนั้นทำให้เขาตัดสินใจขึ้นได้ในทันทีว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรเขาจะต้องเอาชนะการแข่งครั้งนี้ให้จงได้
เสียงประกาศเรียกตัวนักกีฬาดังขึ้นทำให้วาต้องก้าวกลับเข้าสู่การแข่งอีกครั้ง คราวนี้ครอสเป็นฝ่ายเริ่มเสิร์ฟก่อน สายตาที่แฝงความมุ่งมั่นของวาจับจ้องไปยังทุกอิริยาบถของครอสประสาทสัมผัสตื่นตัวเพื่อตอบสนองลูกเสิร์ฟแรกของการตัดสินชะตาการแข่ง
เพียงไม่ทันไรลูกปิงปองก็ลอยขึ้นสะกดทุกสายตาผู้ชมก่อนจะกระทบกับไม้ปิงปองของครอสและพุ่งเข้าเข้าหาวา
วาตวัดไม้ปิงปองตบลูกปิงปองกลับโดยไร้ความลังเล ส่วนครอสก็ตบสวนกลับอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่ตบกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใครก่อนที่ความเร็วจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ วาขยับร่างซ้ายทีขวาทีเพื่อเคลื่อนที่ให้ทันลูกตบของครอส บ้างก็ย่อตัวลงเหวี่ยงแขนออกตบในท่าไม้จีนอย่างคล่องแคล่ว
ทุกครั้งที่วาโต้กลับไปแม้จะดูฉิวเฉียดแต่ด้านครอสเองก็เช่นกัน
ในที่สุดวาก็สามารถทำแต้มไปก่อนได้อย่างสวยงามด้วยลูกตบอันแสนรุนแรงที่แม้กระทั่งระบบนักบินอัตโนมัติก็ไม่สามารถต้านทานไว้ได้สร้างความชื่นใจให้แก่กองเชียร์ฝั่งอับดุลอินเตอร์กันถ้วนหน้า
แต่ไม่ทันไรก็ถูกครอสตีตื้นขึ้นมาได้ด้วยลูกบัตรเตอร์ฟลายคิสในลูกต่อไป
ทั้งสองผลัดกันรุกและรับอย่างรวดเร็ว หากฝ่ายใดนำไปก่อนอีกฝ่ายหนึ่งจะตีตื้นมาติดๆในลูกถัดไปไม่ยอมทิ้งห่างกันแม้แต่ลูกเดียว ไม่ว่าใครก็ดูไม่ออกว่าใครจะเป็นผู้ชนะในการแข่งครั้งนี้เพราะฝีมือของทั้งคู่ก่ำกึ่งกันมาก
เหตุการณ์ดำเนินเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนกระทั่งเสียงกรรมการประกาศขานคะแนนขึ้น
‘ 8-7 อับดุลอินเตอร์ ! ’
ฝ่ายที่นำอยู่คือวาอย่างแทบไม่น่าเชื่อ เขาหอบหายใจด้วยความเหนื่อย แต่จิตใจกลับเต็มไปด้วยไฟที่ลุกโชน
‘ ต้องทิ้งห่างให้ได้ ’ วาคิด
สีหน้าของครอสดูไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด แต่รอยยิ้มแฝงความถือดีในฝีมือของตัวเองยังคงอยู่ราวกับไม่ว่ายังไงตนก็ต้องไม่ใช่ฝ่ายผ่ายแพ้
หลังจากเสิร์ฟลูกออกครอสก็งัดลูกไม้ตายออกมาใช้แทบหมดทั้งสิ้นคล้ายกับเทพเจ้าที่บ้าคลั่งผู้หวังจะหักปีกของปีศาจร้ายให้จงได้ไม่ว่าจะเป็นลูกบัตเตอร์ฟลายคิส ลูกรัตติกาลหรือกระทั่งระบบนักบินอัตโนมัติเล่นเอาวาหืดขึ้นคอขึ้นมาทันที
“ สู้ๆ ”
สโนว์ส่งเสียงสนับสนุน
เสียงนั้นคล้ายจุดประกายไฟให้วาลุกโชนขึ้น พริบตานั้นเขาจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของครอสและลูกปิงปองที่พุ่งมา
‘ ฝันไปเถอะว่าเราจะแพ้ ! ’
วาอาศัยจังหวะที่ลูกหมุนในระยะได้สมดุลที่สุดย่อตัวโต้ลูกบัตเตอร์ฟลายที่ควงสว่านกลับไปได้อย่างหวุดหวิด จากนั้นกระโดตบลูกรัตติกาลที่ถูกครอสตบสวนมาก่อนจะตวัดไม้ตัดลูกสวนกลับระบบนักบินอัตโนมัติไปได้ราวกับปีศาจ
การโต้กลับทั้งสามครั้งรวดนี้เกิดขึ้นในเวลาชั่วพริบตาเท่านั้น หากเป็นคนอื่นคงต้องตะลึงที่วาสามารถสวนกลับลูกไม้ตายอันร้ายกาจสามชนิดนี้ได้
ทว่าครอสกยังไม่หยุดแค่นั้นโยกซ้ายทีขวาทีคล้ายกับกลยุทธ์หลอกล่อของสองทูตดำขาวไม่มีวี่แววหวั่นไหวต่อความสามารถในการสวนกลับอันเป็นเลิศของวาแม้แต่น้อย
เสียงรองเท้าผ้าใบเสียงสีกับพื้นห้องดังเอี๊ยดอาด พร้อมร่างของวาที่ขยับอย่างรวดเร็วรับการโจมตีของครอส จากนั้นอาศัยจังหวะที่ครอสใช้ระบบนักบินอัตโนมัติตบอัดซ้ำไปเรื่อยๆ ยิ่งตบซ้ำความเร็วยิ่งเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นภาพที่น่าหวาดเสียวอย่างยิ่ง
การโหมกระหน่ำรุกกันไปมาของทั้งคู่เล่นเอาผู้ชมต่างใจหายไปตามๆกัน เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าท่าไม้ตายระบบตอบโต้อัตโนมัตินั้นสามารถสวนกลับลูกตบทุกชนิดในอัตราความเร็วที่เท่ากัน แต่ถ้าหากยิ่งเพิ่มความเร็วเข้าไปก็เท่ากับว่าเป็นการเร่งให้ตัวเองยิ่งถูกตอบโต้เร็วขึ้น ถ้าจะนึกภาพให้ออกก็คงไม่ต่างอะไรกับการตีลูกอัดเข้ากับกำแพงไปเรื่อยๆนั่นเอง ใครที่เป็นฝ่ายวอกแวกเสียสมาธิก่อนก็จะต้องเสียแต้มนี้ไป
‘ ปัก ! ’
ในที่สุดวาก็ทะลวงขีดจำกัดการป้องกันของระบบนักบินอัตโนมัติได้สำเร็จทำแต้มทิ้งห่างครอสไปได้ อาจเป็นเพราะวาในตอนนี้ไม่ได้คิดถึงผลแพ้ชนะเพียงหวังที่จะตบลูกของครอสให้กระเด็นกลับไปให้ได้ก็พอ
“ เจ้านั้นเอาชนะออโต้ไพลอตได้งั้นเรอะ ” มัลโก้นกอมตะเจ้าของลูกไม้ตายหลุดปากออกมาอย่างใจหาย
ทางด้านลมดำเพียงยิ้มออกมา นี่คงเป็นผลจากการฝึกตีโต้กับกำแพงทุกวันสินะ ภาพวาที่มักจะตีลูกปิงปองอัดกำแพงหลังเลิกเรียนแล้วเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆเพื่อฝึกความสามารถในการสวนกลับยังคงอยู่ในความทรงจำของเขา
‘ ความสามารถของสภาวะที่เรียกว่า ‘ZONE’ มันดีอย่างนี้นี่เอง ’
พรีสไซอมยิ้ม
วาฉีกยิ้มให้ครอสอย่างท้าทาย นึกถึงคำพูดของสโนว์ที่ว่า ‘ครอสไม่มีวันแพ้หรอก’ขึ้นมา แต่ที่ทำให้วาต้องหวั่นขึ้นมาคือ รอยยิ้มตอบกลับของครอสที่แฝงความเหนือกว่าอยู่
ครอสเขี่ยลูกปิงปองที่ตกขึ้นมาอย่างรวดเร็วและแนบเนียน พริบตานั้นโยนลูกปิงปองขึ้นด้วยความโมโหปรับหน้าไม้ให้ได้องศาพร้อมตีลูกออกอย่างแรง
‘ Silver Bullet (กระสุนเงิน) ! ’
ลูกเสิร์ฟความเร็วสูงพุ่งเป็นเส้นตรงคล้ายกระสุนเงินของพระเจ้าที่ยิงใส่ขั้วหัวใจของปีศาจพุ่งออกรวดเร็วจนเห็นเป็นเพียงแค่เส้นสีส้มเท่านั้น
ลูกปิงปองพอสัมผัสกับพื้นโต๊ะก็เปลี่ยนทิศทางเล็กน้อยแต่ยังคงไว้ด้วยวิถีลูกที่ตรงและรวดเร็ว
วาแม้จะตั้งสมาธิอยู่ก่อนแล้วก็ยังไม่สามารถคาดเดาทิศทางของลูกนี้ได้ทัน เขาชะงักเล็กน้อยจากการเปลี่ยนทิศทางอันกะทันหันซึ่งกว่าจะรู้ทิศทางลูกก็กระเด็นออกไปไกลเกินกว่าจะรับได้ทันเสียแล้ว
‘ เร็วชะมัด ’
ปกติเขาเคยมั่นใจในลูกเสิร์ฟของตัวเองมาตลอดว่ามีความเร็วเหนือกว่าคนอื่น แต่ลูกเสิร์ฟของครอสครั้งนี้แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่อาจไม่ยอมรับได้
‘ 8-9 เอสมอนเต้ ! ’
จู่ๆวาก็เหงื่อตกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ความจริงมันออกมาจากสัญชาตญาณลึกๆว่าถ้าหากครอสสามารถเสิร์ฟลูกเช่นนี้ออกมาได้เรื่อยๆเขาคงต้องแพ้แน่
แล้วก็เป็นดังที่คาดไว้ครอสงัดลูกเสิร์ฟไม้ตายที่เหนือกว่าลูกเจตโคสเตอร์ออกมาใส่วาเรื่อยๆลูกแล้วลูกเล่า
แม้จะวาพยายามตั้งใจรับแล้วก็ยังไม่สามารถเดาทิศทางของมันได้ ขนาดพรีสไซที่นั่งดูอยู่ยังขมวดคิ้วพยายามจับเทคนิคของการตีลูกนี้ให้ได้แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
นั่นเพราะลูกกระสุนเงินอาศัยการเสิร์ฟที่รวดเร็วและรุนแรงทำให้ลูกเสิร์ฟกลายเป็นเส้นตรง ทว่าหลังจากสัมผัสกับผิวโต๊ะลูกเสิร์ฟจะเปลี่ยนทิศทางเล็กน้อย การเปลี่ยนทิศทางเพียงเล็กน้อยที่คล้ายกับภาพลวงตานั่นเองเป็นตัวการที่ทำให้เกิดภาวะชะงักชะงันของผู้รับเพราะสมองจะสั่งการให้ร่างกายเปลี่ยนท่าในการรับลูกชั่วครู่และในจังหวะที่เสียความเคลื่อนไหวเพราะการส่งข้อมูลของสมองนั่นเองลูกปิงปองก็จะเด้งออกไปแล้ว
‘ 11-9 เอสมอนเต้ ! ’
คราวนี้ครอสกลับมาเป็นฝ่ายนำด้วยลูกเสิร์ฟไม้ตายที่เพิ่งงัดออกมาใช้ สายตาเย้ยหยันแสดงออกใส่วาอย่างชัดเจนทำให้สมาธิของวาแทบกระเจิง
‘ ลูกเสิร์ฟที่ร้ายกาจแบบนี้ทำไมถึงเพิ่งงัดออกมาใช้นะ ’
พรีสไซสงสัย แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงกว่านั้นคือถ้าหากวาไม่สามารถรักษาเกมเสิร์ฟไว้ได้และในเกมเสิร์ฟของครอสวาไม่สามารถจัดการกับลูกกระสุนเงินไว้ได้ละก็ผลก็คงเป็นที่รู้กัน
หลังจากรับลูกปิงปองจากครอส บนฝ่ามือก็ปรากฏเหงื่อไหลซึมออกมาวาจึงเช็ดมือกับกางเกงโดยไว การแข่งครั้งนี้ช่างเป็นการแข่งที่หืดขึ้นคอจริงๆ
วาเค้นหัวเราะสายตาของครอสแทบทำให้สมาธิของเขากระเจิงก็จริงแต่เมื่อหลับตาลงครู่หนึ่งสติก็ค่อยๆกลับคืนมา
‘ ถ้าฝ่ายนั้นมีลูกที่ร้ายกาจถึงขนาดนั้น เราก็คงต้องโชว์ของเราบ้างแล้ว !
วาเหลือบมองไปยังสโนว์ก่อนที่ความรู้สึกเจ็บแปลแทรกซึมเข้ามาพร้อมโยนลูกปิงปองขึ้นเสิร์ฟออกด้วยลูกความเร็วสูงแต่นั่นไม่ใช่ลูกวาร์ปหรือลูกเทเลพอตแต่มันคือ หนึ่งในลูกไม้ตายที่วาเคยใช้จัดการกับซิลเวอร์มาแล้ว
‘ Forgotten Pain ! ’
ลูกเสิร์ฟที่เร็วกว่าลูกวาร์ปเป็นเพียงลูกเสิร์ฟตรงๆธรรมดา แต่เร่งความเร็วให้ถึงขีดสุดเพื่อหนีจากความเจ็บปวดในจิตใจชั่ววูบหนึ่ง จนกลายเป็นลูกความเร็วสูงโดยไม่รู้ตัว
‘ Autopilot ! ’
ครอสตอบโต้ด้วยระบบนักบินอัตโนมัติทว่าความเร็วของลูกเสิร์ฟพิเศษนี้แม้กระทั่งออโต้ไพลอตก็ยังไม่สามารถตั้งรับไว้ได้ทัน
‘ 10- 11 อับดุลอินเตอร์ ! ’
‘ เอากับเขาสิ ’
พรีสไซฉีกยิ้ม โซลีนก็เช่นกันต่างพากันดีใจที่วาสามารถนำลูกเสิร์ฟลับออกมาใช้ได้
ครอสกัดฟันไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีลูกเสิร์ฟที่รวดเร็วถึงเพียงนี้อยู่ หนำซ้ำเขาในสภาวะนี้ก็ไม่สามารถตีโต้ไปได้อย่างนั้นหรือ
ในลูกต่อไปครอสพยายามตั้งสมาธิให้ได้มากที่สุดแต่ก็พบว่าตนไม่สามารถตั้งรับได้ทัน พอเห็นลูกปิงปองสัมผัสกับไม้มารู้สึกตัวอีกทีลูกปิงปองก็พุ่งมาอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว
หากจะบอกว่าลูกกระสุนเงินเป็นลูกเสิร์ฟที่น่ากลัวในแง่ของความเร็วแล้ว ลูกเสิร์ฟของวายังรวดเร็วยิ่งกว่า แต่หากพูดถึงความพลิกแพลงแล้วลูกกระสุนเงินมีมากกว่าเพราะสามารถเปลี่ยนทิศทางได้ถึงแม้ทิศทางจะเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อยแต่ก็กระทบถึงความสามรถในการโต้กลับของคู่ต่อสู้ แต่ลูกเสิร์ฟของวาอาศัยความเร็วอย่างเดียวในการทำให้คู่ต่อสู้เสียจังหวะ
แม้บางครั้งครอสจะสามารถตั้งรับลูกไว้ได้เพราะวาจงใจตีอัดแบบตรงๆ แต่ลูกปิงปองก็แรงเกินไปทำให้เสียการควบคุมจนถูกวาตบซ้ำทำแต้มไปได้อย่างน่าหงุดหงิด
‘ 14-11 อับดุลอินเตอร์เปลี่ยนเสิร์ฟ ! ’
ในที่สุดวาก็กลับมาเป็นฝ่ายนำด้วยลูกเสิร์ฟปาฏิหาริย์ที่ใช้ออกมาติดต่อกันได้ถึงห้าลูกรวด เล่นเอาครอสเป็นฝ่ายถูกกดดันบ้างแล้ว
ครอสเป่าลมออกปากด้วยความหงุดหงิดจากนั้นใช้ลูกกระสุนเงินรุกกลับใส่วา
วาพยายามจับจ้องไปยังวิถีของลูกปิงปอง เขารีบจดจ่อจังหวะที่ลูกสัมผัสกับพื้นโต๊ะเพื่อจะหาทิศทางของลูกในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีให้ได้แต่ก็ไม่ทันการณ์ลูกปิงปองเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วเนื่องจากเป็นการตีแบบเส้นตรงไม่เหมือนกับลูกเสิร์ฟบูมเมอริสซึมหรือลูกเสิร์ฟของคิงสตันที่จะอาศัยจังหวะหยุดชะงักเล็กน้อยก่อนถึงจะเปลี่ยนทิศทาง
‘ ทำยังไงดี ไม่มีทางที่จะอ่านทิศทางของลูกได้เลยหรือไง ’
วาพยายามตั้งสติครุ่นคิดถึงวิธีการจับทิศทางของลูกไม่ว่าจะเป็นวิถีการตี แรงที่ส่งออกมา แต่นั่นดูเหมือนจะยากเกินความสามารถของเขาแถมในเวลานี้เขาจะเสียแต้มไปมากกว่านี้ไม่ได้เพราะหากคำนวณถึงการผลัดกันทำแต้มด้วยลูกเสิร์ฟครอสต้องเป็นฝ่ายขึ้นไปถึงยี่สิบเอ็ดก่อนแน่
ผ่านไปลูกต่อลูกไม่ว่าจะทำเช่นไรวาก็ไม่สามารถตั้งรับลุกกระสุนเงินได้ มีบ้างบางครั้งที่วาเริ่มจับจังหวะได้แต่ก็ทำได้เพียงแค่ตีถูกลูกจากนั้นก็ถูกครอสตบอัดซ้ำแบบที่ตัวเองเคยทำคล้ายกับภาพซ้อน คราวนี้วารู้สึกกดันขึ้นมาจริงๆ
‘ 14 -16 เอสมอนเต้ เปลี่ยนเสิร์ฟ ! ’
ครอสขึ้นมาเป็นฝ่ายนำด้วยการใช้ลูกกระสุนเงินทำเกมเสิร์ฟนำวาไปได้อย่างราบคาบเสียงเชียร์ฝั่งเอสมอนเต้ดังกระหึ่มขึ้นมาทันที
ในตอนนี้วาต้องรักษาเกมเสิร์ฟของตัวเองเพื่อที่จะตีตื้นขึ้นมาให้ได้ ซึ่งต่อให้เป็นเช่นนั้นจริงในเกมเสิร์ฟครั้งต่อไปของครอสหากเขาไม่สามารถจัดการกับลูกเสิร์ฟอันตรายนั้นได้ก็เท่ากับว่าเขาจะต้องแพ้อย่างแน่นอน
ยิ่งคิดยิ่งกดดันวารู้สึกเริ่มเวียนหัวขึ้นมาเหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มเร็วขึ้นจนร่างกายของเขาเริ่มตามไม่ทันแต่ก็พยายามควบคุมสติและสมาธิไว้โยนลูกปิงปองขึ้นเสิร์ฟออก
‘ ฟึ่บ ! ’
แต่ลูกกลับพุ่งต่ำเกินจนติดตาข่าย
“ เสิร์ฟใหม่ ! ” กรรมการเรียก
วารู้สึกเหงื่อบนฝ่ามือซึมออกมามากขึ้นเรื่อยๆแต่ก็เก็บอาการเอาไว้ ส่วนครอสจับจ้องวาด้วยสายตาเอาจริงแต่บนมุมปากยังคงประดับไว้ด้วยรอยยิ้มซึ่งทำให้วารู้สึกไม่ชอบใจแบบสุดๆ
ครั้งนี้วาพยายามเสิร์ฟลูกไม้ตายลับออกแต่ก็ไม่สามารถทำได้ ถึงอย่างนั้นลูกเสิร์ฟของเขาก็ยังคงรวดเร็วพอสมควร แต่นั่นไม่เพียงพอที่จะทำแต้มจากครอสได้ถูกครอสตบสวนกลับมาได้อย่างง่ายดาย
จังหวะเกมในวาเริ่มเสียทีละน้อยเมื่อครอสยังคงโหมกระน่ำใช้ลูกไม้ตายที่ได้จากการแข่งกับคนอื่นมาใส่วาเรื่อยๆ โดยที่จู่ๆวาก็ไม่สามารถตามความเร็วของครอสได้ทันลงเสียแต้มไปในที่สุด
“ ท่าจะไม่ดีแล้วสิ ” พรีสไซจับคาง
“ พลังของโซนมาหมดอะไรกันตอนนี้นะ ” โซลีนกล่าว
การสื่อสารกันด้วยศัพท์เทคนิคที่น่าประหลาดทำให้ระรินที่นั่งอยู่ใกล้ๆอดถามขึ้นมาด้วยความสงสัยไม่ได้
“ ขอโทษนะคะ โซนที่ว่ามันคืออะไรหรอคะเห็นพวกรุ่นพี่เคยพูดถึงมาหลายทีแล้ว ” ระรินเอียงคอแต่สายตายังคงจับจ้องไปยังการแข่งอันตึงเครียด
“ โซนก็คือความสามารถของมนุษย์ในสภาวะที่พลังสมาธิพุ่งขึ้นถึงขีดสุดยังไงละ ซึ่งทางวิทยาศาสตร์ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ทางเคมีที่เกิดขึ้นในสมองอย่างหนึ่ง ” พรีสไซดันแว่นขึ้นอธิบาย
“ ถ้าจะให้พูดง่ายๆก็เหมือนเวลาที่เกิดเหตุการณ์เฉียดตายอย่างเช่น เวลาไฟไหม้คนเราสามารถยกข้าวของที่หนักเกินกว่าที่เวลาปกติจะยกขึ้นมาได้นั่นเรียกว่า โซนแห่งพลังคือเป็นการที่ร่างกายสามารถดึงพลังแฝงออกมาใช้ได้ แต่ถ้าเป็นโซนแห่งความเร็วก็เช่นเดียวกันกับตอนแข่งรถหรือเวลาที่รถจะชนพลังสมาธิจะพุ่งขึ้นทำให้คนขับสามารถเห็นภาพเหตุการณ์ช้าลงได้ แต่ก็ไม่ทุกคนที่สามารถมีพลังนี้ขึ้นมาได้ในเวลาแข่งเพราะมันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นสภาวะจิตใจขณะนั้น หรือการฝึกซ้อมซึ่งโซนที่เกิดขึ้นจากการฝึกซ้อมจะเห็นได้ในนักกีฬามืออาชีพแต่ถึงอย่างนั้นก็ตามนักกีฬามืออาชีพก็ใช่ว่าจะมีมาใช้กันได้ทุกคน กลับกันในกรณีของวาพี่คิดว่าเป็นการเกิดจากสภาวะจิตใจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงทำให้สมาธิทั้งหมดหันเหไปจนเกิดเป็นโซนขึ้นมาซึ่งอาจเกิดขึ้นเพราะผู้หญิงคนนั้น ”
พรีสไซชี้มือไปยังสโนว์เพื่อเพิ่มความสมจริงในการอธิบายอย่างหน้าตาเฉย จากนั้นชี้นิ้วกล่าวต่อ
“ ดังนั้นพอมีอะไรกระทบเข้ากับจิตใจอีกจึงทำให้โซนหายไปโซนประเภทนี้จึงไม่มั่นคงเท่าไหร่นัก ส่วนระยะเวลาที่สามารถใช้โซนได้ก็ขึ้นอยู่กับพลังสมาธิของแต่ละคน ส่วนทางด้านนั้นคาดว่าก็คงมีความสามารถของโซนเช่นเดียวกันอาจเป็นโซนที่เกิดจากความไม่อยากแพ้ที่จิตใต้สำนึกสั่งขึ้นก็ได้ เพราะลูกเสิร์ฟที่ร้ายกาจขนาดนั้นของทั้งวาและครอสน่าจะต้องใช้ปัจจัยหลายอย่างรวมทั้งโซนด้วย ”
ระรินพยักหน้าทึ่งกับความรู้ใหม่แต่ที่น่าหวั่นก็คือ วาในตอนนี้ที่ดูเหมือนจะออกจากสภาวะโซนถูกครอสทำคะแนนนำไปสองแต้มในเกมเสิร์ฟตัวเองแล้ว
‘ 14-18 เอสมอนเต้ ! ’
ทันใดนั้นวาที่ถูกนำก็หัวเราะออกมาอย่างไร้สาเหตุเล่นเอาทุกคนต่างพากันสงสัยไปตามๆกัน หรือว่าวาจะหมดสิ้นหนทางแล้วจริงๆ
‘ บ้าไปแล้วเรอะ ’ ครอสตั้งท่ารอรับลูกเสิร์ฟ ส่วนสองทูตดำขาวหันมามองหน้ากัน
พอกรรมการบอกให้เสิร์ฟวาก็โยนลูกปิงปองขึ้นก่อนจะสะบัดแขนโดยแรงทำให้ครอสรีบถอยห่างจากโต๊ะเพื่อเตรียมรับแรงปะทะจากลูก
‘ เป๊าะ’
ทว่าลูกที่วาเสิร์ฟออกกลับเป็นเพียงลูกตัดหยอดแบบนิ่มนวลแต่แฝงไว้ด้วยความแนบเนียน ลูกปิงปองหมุนข้ามจนเกือบติดตาข่ายแล้วเลียดไปยังฝั่งซ้ายมือของวา
ครอสเสียจังหวะเพราะถูกหลอกเข้าเต็มเปารีบวิ่งเข้าไปยื่นไม้ปิงปองออกเพื่อรับลูกเสิร์ฟหยอด ก่อนจะพบกับวาที่ดักรอตบสวนกลับอยู่
‘ ป๊อก ! ’
พอวาสะบัดมือไม้ปิงปองก็ตวัดตบลูกเด้งกับพื้นโต๊ะขึ้นถูกหน้าของครอสอย่างจังพอดีจะโดยบังเอิญหรือตั้งใจนั้นไม่มีใครทราบได้
‘ 15-18 อับดุลอินเตอร์ ! ’
บนหน้าผากของครอสปรากฏรอบแดงๆขึ้น แม้เจ้าตัวจะไม่เห็นแต่ก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บ
“ ขอโทษทีๆ ” วายกมือทำท่ากล่าวขอโทษแต่ใบหน้าที่แฝงด้วยรอยยิ้มนั้นคล้ายเป็นตัวจุดฉนวนให้ครอสฉุนกึกขึ้นมา
ลูกต่อไปวาทำท่าเสิร์ฟแบบรุนแรงเหมือนเช่นเคยแถมยังหัวเราะราวกับคนเสียสติเหมือนกำลังเล่นแข่งอยู่กับเพื่อน แต่ลูกเสิร์ฟกลับเป็นลูกหยอดเหมือนเช่นเคย ครั้งนี้ครอสที่โมโหอยู่รีบพุ่งเข้ามาหมายจะตบอัดกลับใส่วาบ้างแต่ด้วยความโมโหทำให้ลืมดูว่าสไตล์การจับไม้เสิร์ฟของวาไม่เปลี่ยนคราวที่แล้ว
‘ ฟึ่บ ! ’
จู่ๆลูกหยอดก็หมุนเปลี่ยนตำแหน่งในพริบตาทำให้ครอสเสียจังหวะในการตบ แต่ก็ยังตีถูกลูกอยู่ทว่าลูกปิงปองกลับเสียการควบคุมอย่างประหลาดทำให้ถูกวาตบกลับทำแต้มไปด้อย่างไม่คาดคิดมาก่อน
‘ 16-18 อับดุลอินเตอร์ ! ’
ที่แท้เมื่อสักครู่ที่วาหัวเราะเสียงดังขึ้นมาเพราะต้องการให้ครอสเสียสมาธิตัวเองจึงแอบเปลี่ยนวิธีการเสิร์ฟเป็นหนึ่งในสี่ลูกเสิร์ฟไม้ตายของตนคือ การเสิร์ฟโดยปัดไม้ปิงปองออกซึ่งจะทำให้ลูกปิงปองคล้ายลูกหยอดแต่จริงๆแล้วแฝงพลังสปินทำให้ลูกเปลี่ยนทิศทางอย่างมากเมื่อกระทบพื้นโต๊ะอีกฝั่งเป็นเหตุให้ครอสเสียจังหวะเปิดโอกาสให้เขาทำแต้มไปได้
“ เล่นสกปรกนี่ ” ครอสพูดเสียงดัง
วาทำเป็นไม่ได้ยินหรี่ตาลงคล้ายถามกลับด้วยภาษากายว่ายังไงหรอทำให้ครอสยิ่งโมโหกว่าเดิมตั้งใจว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นลูกต่อไปเขาจะต้องซัดวาที่กวนอารมณ์ให้หงายไปให้ได้
คราวนี้วาทำเป็นตวัดไม้เลยลูกปิงปองไปขณะเสิร์ฟแต่แอบวกไม้ปิงปองกลับมาตีออกไปในจังหวะที่สองเป็นการเสิร์ฟที่แม้แต่พรีสไซหรือโซลีนก็ไม่เคยเห็นวาทำมาก่อนราวกับเล่นกล
ลูกเสิร์ฟครั้งนี้ของวาเป็นหนึ่งในสี่รูปแบบไม้ตายของเขา ซึ่งเป็นแบบปัดหน้าไม้ออกแต่จะต่างจากการเสิร์ฟเมื่อสักครู่ตรงที่จะเป็นลูกที่เร็วกว่าและมีการเปลี่ยนวิธีเพียงเล็กน้อย ซึ่งหากครอสไม่ได้ฉุนจนขาดสติย่อมสามารถรับได้ไม่ยากเย็น แต่เทคนิคการตวัดไม้สองครั้งของวาทำให้ครอสเสียจังหวะก้าวเท้าไปข้างหน้าก่อนครั้งหนึ่ง ยิ่งพอลูกเสิร์ฟโค้งข้ามตาข่ายมาแล้วยิ่งเสียจังหวะไปใหญ่จากที่จะตบกลับทำให้ทำได้เพียงแค่ตีสวนกลับไปแบบธรรมดา
วาง้างไม้ทำท่าจะตบแต่ก็หยอดกลับดึงจังหวะครอสให้เสียเข้าไปอีก อย่าว่าแต่โซลีนต่อให้เป็นระรินหากตั้งใจจะรับลูกหยอดของวาครั้งนี้จริงๆก็ไม่ถือว่ายากเย็นอะไร แต่ลวดลายในการหลอกล่อของวาแพรวพราวจนหลายคนอดขำออกมาไม่ได้ ทำให้การแข่งที่แสนตึงเครียดมีเสียงฮาออกมาได้อย่างประหลาด
แต่ครอสที่หัวเสียรีบวิ่งไปรับลูกหยอดแบบพะอืมพะอมก่อนที่จะถูกวาใช้ลูกล่อลูกชนหลอกล่อจนหัวปั่นทำแต้มไปได้ลูกตบอันสวยงามหลังจากหลอกโยกซ้ายทีขวาทีจนหัวหมุน
‘ 17-18 อับดุลอินเตอร์เปลี่ยนเสิร์ฟ ! ’
เสียงปรบมือดังจากกองเชียร์และคนที่ชื่นชอบลีลาการเล่นอันแปลกประหลาดของวา จะมีก็เพียงสโนว์ที่ทำสีหน้าไม่พอใจนัก เขาคาดว่าสโนว์คงคิดว่าวาเล่นตุกติกแน่นอนตามสไตล์คนเถรตรงจนเกินเหตุแบบเธอแต่วาไม่สนใจอีกต่อไปแล้วส่งสายตายิ้มเย้ยเพิ่มน้ำโหให้สโนว์ไปด้วยอีกคน
‘ ความขี้เล่นของนายนี่มันร้ายกาจจริงๆ ขนาดสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานยังอุตส่าห์มีสติทำแต้มขึ้นมาได้ด้วยวิธีแบบนี้ ’ ลมดำหัวเราะชอบใจเป็นการใหญ่
ครอสมือสั่นรับลูกปิงปองจากวาพอกรรมการบอกให้เสิร์ฟก็เสิร์ฟออกในทันที แต่ลูกเสิร์ฟกลับไม่ใช่ลูกกระสุนเงินเพียงแต่เป็นลูกเสิร์ฟท๊อปสปินธรรมดา
คราวนี้วาตั้งใจตั้งรับอย่างจริงจังเพราะนี่ไม่ใช่เกมเสิร์ฟของเขา และหากครอสเกิดใช้ลูกกระสุนเงินออกมาได้ในตอนนี้เขาคงจะต้องแพ้อย่างแน่นอน
ลูกปิงปองโต้กลับไปมาอย่างรวดเร็ว อีกไม่กี่อึดใจเท่านั้นการแข่งที่หฤโหดครั้งนี้ก็จะจบลง
วารู้สึกว่าจู่ๆหัวใจตัวเองก็เต้นรัวขึ้นมาโดยที่เขาไม่สามารถควบคุมได้
ครอสโหมรุกอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อที่จะเอาแต้มจากวา ในขณะที่วาพยายามตั้งรับอย่างสุดความสามารถยื้อลูกตบทุกลูกไว้ได้อย่างหวุดหวิดพร้อมพยายามหาทางตบกลับเพื่อทำแต้ม
พริบตาเส้นลมสูบฉีดหัวใจเต้นแรงขึ้น ก่อนที่วาจะมองเห็นจังหวะให้ตบลูกออกเมื่อลูกท๊อปสปินที่พุ่งอย่างรุนแรงตรงมาเข้ามุมขวาของโต๊ะซึ่งพอดีกับหน้าไม้และองศาในการตบวาก็ตวัดไม้ตบออกวัดใจโดยไม่คำนึงให้มากความ
ลูกตบอันสวยงามเฉียดตาข่ายไปเพียงไม่กี่มิลพุ่งเป็นมุมเลียดกัยพื้นโต๊ะรวดเร็วเกินกว่าที่ครอสจะตั้งรับไว้ได้ทัน
‘ 18-18 อับดุลอินเตอร์ !’
“ Brillion (ยอดเยี่ยม) ! ” พาทัมชูนิ้วอวบอิ่ม
“ วู้ววว ! ” มิวตะโกนส่งเสียงรู้สึกอึดอัดทุกลูกของการแข่งครั้งนี้พอเห็นวาได้ทีทำแต้มด้วยลูกสวยๆจึงส่งเสียงเชียร์อย่างออกนอกหน้า
สกอลของทั้งครู่ในที่สุดก็กลับมาเท่ากันเหลืออีกสามลูกเท่านั้นก็จะรู้ผลกันแล้ว
วารู้สึกโลกคล้ายหยุดหมุนไปครู่หนึ่งจากการตัดสินใจตบลูกอันเฉียบคมเมื่อครู่ แต่สีหน้าของเขากลับปราศจากรอยยิ้มเพราะยังกังวลลูกไม้ตายลึกลับของครอสอยู่ แถมยังรู้สึกลุ้นอย่างบอกไม่ถูกที่การแข่งครั้งนี้กำลังจะจบลงแล้ว
สายตาของทั้งคู่ขณะนี้แฝงแววมุ่งมั่นที่คล้ายกันคือ ไม่ว่ายังไงตนก็จะไม่ยอมรับความผ่านแพ้ในครั้งนี้แน่นอน
“ สู้ๆค่ะ ”
สโนว์ตะโกนโบกมือให้ครอสทำเป็นไม่สนใจวา
ครอสเดาะลูกปิงปองในมือรวบรวมสมาธิง้างไม้ไปด้านหลังแล้วตวัดตีออกอย่างรุนแรง
‘ Silver Bullet !’
ลูกกระสุนที่ใช้พิฆาตปีศาจร้ายอย่างวาถูกใช้ออกมานั่นแสดงว่าสภาวะโซนของครอสกลับมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว
เสียงรองเท้าผ้าใบของวาเสียดสีกับพื้นดังเอี๊ยดจากการถอยร่นอย่างรวดเร็ว เขาพยายามถอยห่างจากโต๊ะให้ได้มากที่สุดเพื่อเตรียมตั้งรับลูกไม้ตายนั่นแต่ก็ไม่สามารถทำได้ ลูกปิงปองเปลี่ยนทิศทางรวดเร็วเกินไปแถมระยะถอยร่นของวายังไม่ไกลพอ
ลูกปิงปองกระทบถูกตัวเองของเขาพร้อมแต้มที่เสียไปอย่างน่าเสียดาย
‘ 19-18 เอสมอนเต้ ! ’
ครอสยิ้มมุมปากมองหน้าวาราวกับกำลังจะบอกว่าเกมนี้มันรู้ผลกันแล้ว
‘ ชั้นจะเป็นคนขยี้แกเอง ’
‘ ครอสไม่มีวันแพ้หรอก ’
‘ คนอย่างเธอจะมาเข้าใจอะไร ’
‘ ทำไมชอบถามคำถามที่รู้อยู่แล้วนะ ’
คำพูดมากมายของสโนว์และภาพของครอสที่ยิ้มเย้ยของครอสแว่บเข้ามาในหัว
วาเป่าลมออกปากย่อตัวลงรู้สึกได้ถึงแรงเต้นของหัวใจที่แรงขึ้นๆ เลือดลมที่สูบฉีดไปทั่วร่างจากความตื่นตัว ความกังวล ความกดดันและความรู้สึกที่เจ็บปวดก่อนที่จิตจะสั่งการให้อารมณ์และความรู้สึกทั้งหลายเหล่านั้นหายไปหมดสิ้นหลงเหลือเพียงความรู้สึกที่อยากจะเอาชนะให้ได้เท่านั้น
ทันใดนั้นลูกกระสุนเงินลูกต่อไปก็ถูกเสิร์ฟออก แสงสีส้มพุ่งตรงข้ามตาข่ายก่อนจะเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วราวกับแสงของเลเซอร์ แต่คราวนี้ร่างของวาถลันตามเส้นสีส้มนั้นได้ทันพร้อมตวัดไม้ออก
‘ ป๊อก ป๊อก ป๊อก ’
แต่น่าเสียดายที่ลูกกระสุนเงินรุนแรงเกินไป แม้วาจะสามารถตีถูกเป็นครั้งแรกแต่ก็ไม่สามารถส่งลูกลงโต๊ะฝั่งตรงข้ามได้เป็นเหตุให้ครอสทำคะแนนนำไปจนเกือบจะชนะเกมได้แล้ว
‘ 20-18 เอสมอนเต้ ! ’
เสียงเฮดังกระหึ่มเมื่อเหลืออีกเพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้น ส่วนทางฝั่งวาเริ่มนั่งกันไม่ติดโดยเฉพาะมิวกับวิสด้อมที่ตั้งหน้าตั้งตาเชียร์แบบสุดใจ
แต่สำหรับวาในตอนนี้เขารู้สึกว่าเสียงรอบข้างเงียบลงทีละน้อยๆ แม้หัวใจจะเต้นแรงแต่ลมหายใจของเขากลับเป็นจังหวะอย่างน่าประหลาด มุมปากกลับประดับไปด้วยรอยยิ้มเล็กที่ครอสก็ไม่สามารถเข้าใจและไม่ได้สนใจด้วย
“ ลาขาดนะครับคุณวา ” ครอสหรี่ตามีความสุขโยนลูกปิงปองขึ้น
ลูกปิงปองที่คล้ายประกาศิตตัดสินศึกครั้งนี้หมุนควงกลางอากาศ หากวาไม่ได้หลอกตัวเองเขาในตอนนี้สามารถเห็นทุกจังหวะการหมุนของลูกปิงปองได้เลยทีเดียว
‘ ปึก ! ’
ลูกปิงปองสัมผัสกับหน้าไม้ของครอสด้วยท่าจับแบบโฟว์แฮนด์ก่อนที่ลูกความเร็วสูงที่ชื่อว่า ‘กระสุนเงิน’ จะพุ่งทะลวงเข้าหาวา การแข่งขันกำลังจะจบลงภายในเสี้ยววินาที
เส้นสีส้มพุ่งข้ามตาข่ายมาแล้ว
จากนั้นวาเห็นเส้นสีล้มที่ตอนนี้เป็นเพียงแค่ลูกปิงปองสัมผัสกับพื้นโต๊ะ บัดนี้หูของเขาไม่ได้ยินเสียงรอบข้างใดๆแล้วก่อนที่ร่างกายจะถอยหลังในจังหวะเดียวกันกับที่เขาเห็นลูกปิงปองเปลี่ยนทิศทางเพียงเล็กน้อยโดยไม่มีการกระตุกหรือชะงัก
วาเอนตัวไปข้างหลังตามวิถีของลูกปิงปอง ยกมือไม้ปิงปองขึ้นในระดับอกก่อนที่ลูกปิงปองจะพุ่งเข้าใส่ไม้อย่างพอดิบพอดีพร้อมส่งลูกกลับไปด้วยน้ำหนักและแรงที่พอดีจากการปรับหน้าไม้อย่างสมบรูณ์ที่สุด
‘ ป๊อก ! ’
เสียงธรรมดาที่น่าอัศจรรย์ที่สุดดังขึ้นเมื่อวาสามารถส่งลูกปิงปองกับไปยังโต๊ะฝั่งครอสได้ด้วยท่าที่หวาดเสียวที่สุด
ครอสเบิกตากว้างตะลึงในท่าตั้งรับฉับพลันของวา ขณะกำลังเสียจังหวะร่างกายก็โต้กลับไปด้วยท่าระบบนักบินอัตโนมัติหรือว่า ‘Auto Pilot’
วาหลังจากตั้งรับได้อย่างหวุดหวิดพอถูกโต้สวนมาด้วยระบบนักบินอัตโนมัติก็ตบกลับไปอย่างไม่หวั่นว่าจะตีออกหรือไม่ เลือดลมในกายสูบฉีดขึ้นมากกว่าเดิมจากความเสี่ยงครั้งนี้
‘ ฟึ่บ ! ’
‘ Auto Pilot ! ’
ครอสต้องใช้ท่านี้ในการตั้งรับการโหมตบของวา และเหมือนจะเห็นถึงจุดจบของการโต้กลับด้วยวิธีนี้ แต่เขาก็ไม่รู้จะต้องทำอย่างไรเมื่อถูกวากระน่ำตบมาอย่างไม่คิดชีวิต
ลูกแล้วลูกเล่า ยิ่งโต้กลับความเร็วยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
‘ Unreturned !’
พริบตานั้นระบบนักบินอัตโนมัติก็ถูกทำลายลงด้วยลูกตบอันเฉียบขาดด้วยวิธีตบที่คล้ายคลึงกันจากลูกไม้ตายของวิสด้อมที่ใช้พิชิตไลร่ามาก่อน
ลูกปิงปองพุ่งกระทบโต๊ะอย่างรุนแรงพร้อมเด้งออกในทันใด
‘ 20 – 19 อับดุลอินเตอร์ ! ’
วาเป่าปากอีกครั้งคล้ายเครื่องจักรที่ทำงานจนเกินขีดจำกัด การโหมรุกที่น่ากลัวและหวาดเสียวด้วยสกอลที่เสียไปไม่ได้นับว่าเป็นความบ้าบิ่นที่ไม่ด้อยไปกว่าวิสด้อมเมื่อตอนที่เล่นกับไลร่าเลยทีเดียว
ครอสเค้นหัวเราะนี่ต้องเป็นเรื่องบังเอิญแน่ๆ แต่ด้วยคะแนนที่ยังคงนำอยู่และความมั่นใจในลูกตบของตัวเองทำให้ครอสยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่มาก
ว่าแล้วก็โยนลูกปิงปองขึ้นเสิร์ฟออกด้วยลูกกระสุนเงินอีกครั้ง
‘ ฟึ่บ ! ’
เส้นสีส้มพุ่งหาวาอีกครั้ง แต่คราวนี้วาฉีกยิ้มราวปีศาจ
ไม่มีการถอยหลัง ไม่มีการรอคอยตั้งรับ
วาง้างแขนไปข้างหลัง จากนั้นเมื่อจังหวะที่เส้นสีส้มพุ่งขึ้นวาก็ตวัดไม้ออกในทันที
‘ ฟั่บ ! ’
ลูกตบที่เร็วจนมองไปคล้ายตรงเส้นสีส้มพุ่งกลับไปยังโต๊ะฝั่งครอสก่อนที่ครอสจะเสียแต้มไปโดยที่ยังไม่ทันจะรู้ตัว
‘ 20-20 อับดุลอินเตอร์ ดิว ! ’
กรรมการขานคะแนนอย่างรวดเร็ว พร้อมเสียงปรบมือชมเชยให้กับการสวนกลับอันร้ายกาจของวา
‘ อะไรกัน ! ’
ครอสกลืนน้ำลายลูกไม้ตายที่เขาภูมิใจนักหนาว่าไม่มีทางที่วาจะตั้งรับได้กลับถูกทำลายลงด้วยลูกตบไม่ใช่ลูกตั้งรับแบบตาที่แล้ว
ความจริงเหตุผลที่ครอสเพิ่งงัดลูกไม้ตายนี้ออกมาใช้ตอนหลังเพราะต้องการจะเอาชนะวาให้ได้โดยเด็ดขาด เนื่องจากลูกกระสุนเงินจำเป็นต้องใช้เทคนิคในการสวนกลับขั้นสูงแถมยังใช้ได้เฉพาะเวลาที่เขาอยู่ในสภาวะโซนด้วย หากอ่านทางผิดไปเพียงนิดเดียวก็จะไม่สามารถสวนกลับไปได้และครอสเพิ่งใช้ออกมาในเกมสุดท้ายเท่านั้น
ต่อให้ทูตดำขาวซ้อมกับเขาอยู่เกือบครึ่งวันก็ไม่แน่ว่าจะรับได้สักลูกหนึ่ง
แถมการตบกลับแบบนั้นครอสยังไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต ถึงกับไม่เคยคิดว่าจะมีการสวนกลับแบบนี้เกิดขึ้นมาได้
“ มองทันหรือเปล่า ” พรีสไซถามโซลีน
“ เกือบทัน ” ขนาดโซลีนยังพูดได้ไม่เต็มปากว่ามองตามลูกกระสุนเงินทัน “ ถ้าเดาไม่ผิดวาจงใจตบในจังหวะเดียวกันกับที่ลูกปิงปองกระดอนขึ้นเพราะเป็นสภาวะที่ลูกเปลี่ยนทิศทางน้อยที่สุดใช่ไหม ”
“ คงงั้นละเป็นการตัดสินใจที่บ้าบิ่นจริงๆ ” พรีสไซถอนหายใจ “ เฮ้อลุ้นเหนื่อยเป็นบ้าเลยแฮะ ”
พรีสไซขยับแว่นตัดสินใจยกเลิกการวิเคราะห์ใดๆทั้งสิ้นหันไปส่งแรงเชียร์ให้กับวาในเกมดิวที่เหลืออยู่
ความสนใจของทุกคนจับจ้องไปยังลูกปิงปองกลมๆที่กลับมาอยู่ในมือวา ในเกมเสิร์ฟของวาที่ครอสไม่เคยคาดคิดว่าจะมาถึงได้
วาอ้าปากหาวมองไปยังครอสและสโนว์รวมทั้งสองทูตดำขาวราวกับต้องการจะบอกอะไรบางอย่าง
‘ ลาขาดนะครับอย่างนั้นหรอ อย่ามาตลกน่า ! ’
วาโยนลูกปิงปองขึ้นฟ้ากลั้นหายใจครู่หนึ่งแล้วสะบัดมือออกด้วยท่าจับไม้จีนแบบปัดเข้า
จากนั้นลูกไม้ตายลับของวาในสภาวะที่พลังสมาธิพุ่งขึ้นถึงขีดสุดก็สำแดงเดชออกมา
‘ Forgotten Pain ! ’
ลูกปิงปองพุ่งเห็นเป็นเพียงเส้นตรงสีส้มเข้าหาครอสโดยไม่มีการโยกหรือแฝงเทคนิคใดๆทั้งสิ้น เนื่องจากวาตั้งใจท้าดวลโดยตรงกับครอสนั่นเอง
‘ ฟึ่บ ! ’
ไม้ปิงปองของครอสหวดถูกอากาศธาตุไม่ว่าใครก็ไม่อยากเชื่อว่าจะมีลูกเสิร์ฟที่รวดเร็วถึงเพียงนี้ แม้แต่ครอสที่อยู่ในสภาวะโซนยังไม่สามารถตั้งรับได้ทัน
‘ 1-0 อับดุลอินเตอร์ อีกลูกเดียวเกม ! ’
วายิ้มก้มหน้าเล็กน้อยพร้อมกวักนิ้วชี้เป็นเชิงบอกให้ครอสส่งลูกมาให้เขาซึ่งเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพนักสำหรับผู้เข้าแข่งขัน ทำเอาครอสโกรธถึงขีดสุดปาลูกปิงปองใส่วาอย่างลืมตัว
‘ หมับ ! ’
วาคว้าจับลูกปิงปองที่ปามาได้ราวกับพร้อมกล่าวขอบใจแบบนิ่งๆ
“ เฮ้อ ” วาถอนหายใจหมุนคอแก้เมื่อยแล้วยิ้มมุมปากด้วยท่าทางที่กวนที่สุด “ วันหลังก็อย่ามั่นใจให้มันมากนักนะครับ ”
จากนั้นโยนลูกปิงปองขึ้นไม่สนใจครอสที่มีท่าทางโกรธเกรี้ยวถึงขีดสุด
‘ Forgotten Pain ! ’
ลูกปิงปองความเร็วสูงพุ่งเป็นเส้นสีส้มไปยังโต๊ะฝั่งครอส
“ อย่ายอมแพ้นะครอส ” สโนว์ตะโกนเชียร์ขึ้น
“ ชั้นไม่มีวันแพ้คนอย่างแกหรอก ” ครอสเน้นเสียง พริบตานั้นภาพเบื้องหน้าช้าลงทีละนิดๆแล้วตวัดไม้ในท่าโฟว์แฮนด์ตบลูกเสิร์ฟที่ไม่เคยมีใครรับได้มาก่อนของวากลับไป
“ อุ๊บส์ ! ” วาอุทานราวกับแปลกใจเล็กน้อยเท่านั้น “ ไม่มีวันแพ้ก็เอาสิ ทำให้ดูหน่อย ! ”
วาตบกลับด้วยความฉุนที่มีต่อครอสและสโนว์ และก็ถูกครอสที่อยู่ในสภาพโกรธโต้กลับมาได้ด้วยลูกไม้ตายประจำตัวเรฟหนึ่งในสี่จตุรเทพของคิง
‘ Butterfly Kiss ! ’
ลูกปิงปองหมุนควงไร้ทิศทางราวกับผีเสื้อ
วาหมุนไม้ในมือเบาๆตามจังหวะ ภาพที่เห็นเบื้องค่อยๆช้าลงทีละนิดๆ จากนั้นเมื่อเห็นภาพลูกปิงปองนิ่งที่สุดวาก็ตบกลับไปด้วยลูกตัดความแรงสูง
แต่ก็ถูกครอสสวนกลับมาได้อีกครั้งด้วยลูกรัตติกาล ซึ่งเป็นลูกตบที่มีจุดเด่นตอนที่ลูกสัมผัสกับพื้นโต๊ะก็จะกระเด็นขึ้น
‘ ฟึ่บ ! ’
วากระโดดขึ้นตามลูกพร้อมตบกลับ
‘ Auto Pilot ! ’
ครอสสวนกลับลูกตบของวาในความเร็วที่เท่ากันด้วยระบบนักบินอัตโนมัติ แต่ก็ถูกวาตบกลับได้เรื่อยๆ
ความเร็วในลูกปิงปองที่โต้กันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดระบบนักบินอัตโนมัติเริ่มรวน
“ เอาเลย ! ” มิวชูมือขึ้นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่วาตบสวนลูกตบที่พุ่งมาอย่างรวดเร็ว
แต่จู่ๆครอสก็ถอยร่นไปข้างหลังพร้อมง้างไม้ไปข้างหลัง
‘ Silver Bullet ! ’
ลูกกระสุนเงินที่ไม่ได้เกิดจากการเสิร์ฟถูกใช้ออก เมื่อเกิดจากการตบแล้วความรุนแรงยังเหนือกว่าตอนเสิร์ฟอีกหลายเท่าตัว
แสงสีส้มพุ่งมากระทบลงกับพื้นโต๊ะแล้ว
วาย่อตัวลงภาพเหตุการณ์ทุกอย่างช้าลงทีละนิดๆจนคล้ายโลกหยุดหมุนไปวูบหนึ่ง
‘ ป๊อก ! ’
พริบตานั้นวาตวัดไม้ออกตบลูกกระสุนเงินที่มีสภาวะรุนแรงที่สุดกลับไปในจังหวะที่ลูกกระเด้งขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น
ลูกตบอันรุนแรงพุ่งเฉียดตาข่ายไป ด้วยความแรงของมันทำให้ลูกเสียทิศทางไปเล็กน้อย ก่อนจะพุ่งลงตรงขอบโต๊ะฝั่งซ้ายมือของครอสอย่างพอดิบพอดีเป็นการตีที่เกิดขึ้นได้เพียงหนึ่งในร้อยลูกเท่านั้น
‘ แอ๊ด ! ’
‘ 21-20 แพทริออต โรงเรียนอับดุลอินเตอร์เป็นฝ่ายชนะ ! ’
เสียงเฮแสดงความดีใจดังกระหึ่มขึ้นไปทั่วจากกองเชียร์ฝั่งอับดุลอินเตอร์ พร้อมกับกระดาษหลากสีชิ้นเล็กๆที่โปรยตกลงมาจากช่องกลมๆที่ติดอยู่บนเพดานกระดาษเป็นการแสดงความยินดีแก่ทีมชนะเลิศการแข่งขันปิงปองในครั้งนี้
“ ชนะแล้ว ชนะแล้ว พี่วาสุดยอดไปเลยคะ ” ระรินกระโดดโลดเต้น
“ เยส เย้ ” มิวลุกขึ้นปรบมือท่ามกลางนักเรียนที่ยังคงนั่งอยู่แถมพยายามดึงเบต้าขึ้นมารวมด้วย
“ เฮ้อ ให้มันได้อย่างนี้สิ ” วิสด้อม คิงสตันและลมดำปรบมือให้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนวาได้แต่ยืนนิ่งไม่ทราบจะบรรยายความรู้สึกของเขาตอนนี้ได้อย่างไร น้ำใสๆไหลออกมาจากสองข้างตานิดหนึ่งพร้อมรอยยิ้มแห่งความยินดีที่เขาซ่อนไว้แทบไม่อยู่
‘ ปัก ! ’
เสียงกำปั้นทุบโต๊ะของครอสดังขึ้นพร้อมเสียงสบถที่วาไม่อยากจะได้ยินเท่าไหร่
“ โธ่เว้ย ! ” ครอสหน้าแดงก่ำเก็บอาการไว้ไม่อยู่ สโนว์เลยเข้ามารีบปลอบแล้วหันไปทางวา
ทันใดนั้นสายตาของทั้งคู่ประสาน
วายิ้มให้สโนว์ในทันที แต่เธอกลับปั้นสีหน้าบึ้งตึงอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“ ภูมิใจมากใช่ไหมที่เล่นตุกติกแล้วชนะมาได้ ”
วายักไหล่ เขาไม่ตอนนี้ไม่สนใจคำพูดของสโนว์อีกต่อไปหันหลังเดินกลับไปหาพรีสไซกับโซลีนที่ยืนปรบมือคอยอยู่ ในแววตาของทั้งคู่คล้ายมีน้ำใสๆเจือปนอยู่เช่นกัน
“ ยินดีด้วยครับ พวกคุณทำให้ชมรมของพวกเรามาถึงจุดนี้ได้ ผมภูมิใจในตัวพวกคุณจริงๆ ” พาทัมดึงทั้งสามเข้ามาในอ้อมกอดของร่างอันอวบอิ่ม วารู้สึกตัวลอยนิดๆนี่เป็นครั้งแรกที่เขาโซลีน และพรีสไซอยู่ใกล้ชิดกันถึงขนาดนี้
จู่ๆพาทัมก็สวมแว่นตากันน้ำพร้อมกล่าว
“ แต่ผมคงต้องขออภัยด้วยจริงๆ ที่คงไม่อาจอยู่ร่วมงานรับรางวัลได้เพราะผมต้องรีบกลับไปแข่งในส่วนของผมต่อเหมือนกัน ขอให้พวกคุณโชคดีแล้วเจอกันที่งานเลี้ยงฉลองของโรงเรียนทีหลังก็แล้วกันนะ ”
จากนั้นแผ่นหลังอันหนักแน่นของตำนานฮิปโปก็เดินลับสายตาไป ฝากไว้เพียงตำนานที่รุ่นต่อได้สร้างขึ้น
วาและพรรคพวกถูกเรียกให้ไปจับมือแสดงความยินดี แต่ในขณะนั้นเองเสียงซุบซิบของนักเรียนทั่วทั้งห้องก็ดังขึ้น มิวที่นั่งอยู่ฟังได้ใจความว่าการแข่งประลองอาวุธกำลังดำเนินไปอย่างตื่นเต้นที่สุดและกำลังจะจบลงแล้ว
“ เฮ้ ! เราขอตัวไปดูการแข่งประลองอาวุธก่อนนะ ”
วาพยักหน้ารับคิดขึ้นมาได้ว่าเขายังมีเรื่องที่ต้องห่วงอยู่เหมือนกัน พวกโซเฟีย ดีว่าและไซโคร แนชไม่ทราบจะเป็นเช่นไรบ้าง แถมเขายังอยากรีบไปบอกข่าวดีให้โซเฟียได้รู้เร็วๆด้วย
ทั้งสองทีมยืนตรงข้ามกันโดยที่ฝั่งไกเซอร์ด้อมดูไม่เต็มใจที่จะยื่นมือจับนัก โดยเฉพาะครอสที่วาสัมผัสได้ถึงความร้อนในมือและสายตาอาฆาตแต่เขาก็ทำเป็นไม่เห็นไป
ส่วนสองทูตดำขาวปิดปากเงียบกริบที่สุดตั้งแต่วาเคยเห็นมา
นักเรียนจำนานมากพากันแห่ออกจากห้องเพื่อไปดูการแข่งประลองอาวุธซึ่งถือเป็นการแข่งรายการสุดท้ายของเทศกาลการประลองทั้งหมด
“ รีบไปเถอะ เดี๋ยวพวกเราก็จะตามไปเหมือนกัน ” พรีสไซบอก
ก่อนที่วาจะก้าวออกจากห้องแข่ง เขาเหลียวหลังไปเห็นภาพของสโนว์มองมายังเขา สายตาของหล่อนแฝงความหมายใดอยู่เขาเองก็ไม่ทราบ
แต่วาก็หันหน้ากลับโดยไวพร้อมก้าวไปข้างหน้าหลงเหลือไว้เพียงความรู้สึกที่เลือนราง
ใช่แล้ว ไม่ว่ามันคืออะไร มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้วละ….
___________________________________________
ความคิดเห็น