คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #77 : บทเรียนที่ 71 Reincarnation เจ้าชายคืนชีพ
บทเรียนที่ 71 Reincarnation เจ้าชายคืนชีพ
พริบตานั้นเทพกระบี่ประกายแสงพุ่งทะลวงฝ่ามังกรพิโรธแทงลงยังร่างของรูเกียร์ที่อยู่เบื้องล่างอย่างไม่มีทางหลบเลี่ยงได้
‘ เคร้งๆๆ ! ’
เสียงเทพกระบี่ประกายแสงกระทบกับชุดเกราะป้องกันของรูเกียร์สะท้านสะเทือนดังลั่นไปทั่วห้อง ด้วยที่เกิดจากการปะทะกันครั้งนี้ทำให้ร่างของทั้งคู่กระเด็นล้มลงไปคนละทิศคนละทางเป็นภาพที่น่าใจหายยิ่งนัก
ไม่มีเสียงสัญญาณยุติการแข่งแสดงว่าการลงมือของทั้งคู่ไม่มีฝ่ายใดได้ชัย โซเฟียรีบมองไปยังบอร์ดแสดงพลังชีวิตปรากฏว่าพลังชีวิตของรูเกียร์เหลือเพียงแค่ห้าร้อยหน่วยเท่านั้น ในขณะที่ดีว่ามีพลังชีวิตเหลืออยู่ถึงสองพันห้าร้อย
‘ ดีว่าต้องเอาชนะได้แน่ ’ โซเฟียยิ้มดีใจทว่าร่างของดีว่าที่นอนฟุบอยู่นั้นยังไม่มีท่าทีว่าจะเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย
“ พี่รูเกียร์ลุกขึ้นสิคะ ” ซิลเวียร์ตะโกนเรียก
“ ท่านดีว่าสู้ๆ ” วีวี่ไม่ยอมแพ้ส่งเสียงเชียร์จากนั้นบรรดาแฟนคลับดีว่าก็พากันส่งเสียงเรียก
ร่างของรูเกียร์เริ่มขยับ จากนั้นรูเกียร์คว้ากระบี่มังกรแล้วพยายามยันตัวลุกขึ้น การโจมตีเมื่อครู่ทำให้ร่างกายภายในบอบช้ำพอสมควร
‘ ตั้งแต่เราฝึกกระบี่มา นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกคู่ต่อสู้ทำให้บอบช้ำขนาดนี้ เจ้าเด็กนั่นไม่ธรรมดาจริงๆ ’
รูเกียร์มองดีว่าที่ยังคงนอนฟุบอยู่
‘ แต่โดนมังกรพิโรธเล่นงานเข้าไปขนาดนั้นไม่ว่าใครก็คงไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีกแล้วละ ’
ความรู้สึกของดีว่าในตอนนี้เลือนรางเหลือเกินหูของเขาอื้อเกินกว่าจะได้ยินเสียงจากรอบด้าน นี่เป็นผลจากการโดนมังกรพิโรธเข้าไปสามตัวติดในเวลาเดียวกัน ความเหนื่อยล้าจากการรีดเร้นพลังลมปราณทั้งหมดเพื่อจัดการกับรูเกียร์ทำให้เขาไม่สามารถใช้ไร้ปราณได้อีกแล้ว
‘ ดีว่า ดีว่า ดีว่า ’
เขาได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกำลังเรียกเขา เมื่อค่อยๆตั้งสติก็พบว่าเป็นเสียงของบรรดากองเชียร์ก็กำลังร้องให้เขาลุกขึ้น เขาแทบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ากำลังนอนฟุบอยู่
‘ ไม่ไหวแค่ขยับมือก็เจ็บไปทั้งตัวแล้ว ’ ดีว่ากัดฟันพยายามเอื้อมมือไปหยิบเทพกระบี่ประกายแสงที่ตกอยู่เบื้องหน้าเพียงไม่กี่เซน
รูเกียร์เหงื่อซึมเมื่อเห็นร่างของดีว่าค่อยๆขยับ แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าดีว่าจะยังสามารถขยับตัวได้
‘ โชคยังดีที่เราใช้ไร้ปราณในนาทีสุดท้ายทันไม่อย่างนั้นคงต้องโดนมังกรพิโรธทั้งหมดห้าตัวป่านนี้คงจะไม่มีสติเหลือแล้ว ’
ในที่สุดดีว่าก็คว้าจับเทพกระบี่ประกายแสงมาไว้ในมือได้ จากนั้นรู้สึกถึงพลังลมปราณหอบหนึ่งเป็นพลังที่อ่อนหยุ่น เยือกเย็นที่ไหลเวียนอยู่ในเทพกระบี่ประกายแสงค่อยๆถ่ายทอดไหลเวียนตามมือ ข้อแขนเข้าสู่ร่างของเขาช้าๆ อาการเจ็บปวดเริ่มทุเลาไปบ้าง จากนั้นพยายามยันตัวลุกขึ้น
เสียงโห่ร้องแสดงว่าดีใจดังไปทั่วห้อง กองเชียร์ของดีว่าข่มกองเชียร์ของไกเซอร์ด้อมไปหมดสิ้น
กระบี่มังกรในมือของรูเกียร์เกิดอาการสั่นขึ้นมาโดยที่รูเกียร์เองก็ไม่สามารถควบคุมมันได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกลัวขึ้นมา
‘ เราใช้พลังไปกับวิชาจิตคุมกับกระบี่มังกรพิโรธไปหมดแล้ว ในตอนนี้หากเจ้านั่นใช้เพลงกระบี่เมื่อครู่บุกเข้ามาอีกละก็เราไม่มีทางต้านรับได้แน่นอน นี่เรากำลังจะแพ้อย่างนั้นหรือ ’
ดีว่าตั้งท่ากระบี่แต่พอหายใจเข้าร่ากายก็ปวดแปลบไปทั้งตัว ต้องรีบหยุดลมหายใจฝืนใช้ไร้ปราณอีกครั้งแต่รู้สึกว่าลมปราณในร่างไหลเวียนมั่วไปหมดยากจะควบคุมได้ต้องไอออกมา
‘ อีกนิดเดียวเท่านั้นแค่ห้าร้อยหน่วยเราต้องทำได้สิ ฝ่ายนั้นก็ดูท่าจะหมดลมปราณแล้วเหมือนกัน ’
ทันใดนั้นดีว่าฝืนสืบเท้าเข้าหารูเกียร์ด้วยความเหนื่อยล้า เทพกระบี่ประกายแสงในมือตวัดออกแม้จะไร้ซึ่งพลังแต่เพลงกระบี่ที่ใช้ยังคงยอดเยี่ยม รุเกียร์ที่ขณะนี้เริ่มขวัญหนีแล้วใช้กระบี่มังกรตั้งรับอย่างเต็มที่
กระบวนท่าของดีว่ายิ่งมายิ่งร้ายกาจนี่ไม่ใช่เพลงกระบี่สุริยันจันทราเหินแต่เป็นเพลงกระบี่ชมจันทร์ที่ถูกหล่อหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเพลงกระบี่สุริยันจันทราเหินดังนั้นจึงมีพลานุภาพลึกล้ำแม้รูเกียร์จะใช้เพลงกระบี่ที่ร้ายกาจเพียงใดก็ไม่สามารถตั้งรับได้เกินสามกระบวนท่า
ท่าร่างของดีว่าแม้จะเชื่องช้าแต่นับว่าบรรลุถึงสุดยอดเคล็ดวิชาของเพลงกระบี่ชมจันทร์แล้ว สามารถใช้ความช้าสยบความเร็ว ลงมือหลังบรรลุถึงก่อนได้สำเร็จดังนั้นรูเกียร์ได้แต่ผ่ายแพ้แล้ว
พริบตานั้นรูเกียร์เปิดช่องโหว่หลังจากไม่สามารถต้านทานเพลงกระบี่ของดีว่าได้ เทพกระบี่ประกายแสงก็รุกเข้าใส่จุดตายที่บริเวณคอหอยในทันที
‘ ขวับ ! ’
รูเกียร์รู้สึกถึงไอเย็นบริเวณคอหอยที่แผ่พุ่งออกจากเทพกระบี่ประกายแสง ได้แต่ยอมรับความผ่ายแพ้กระบี่มังกรในมือตกลงกับพื้น
‘ เกร้ง ! ’
ทว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเทพกระบี่ประกายแสงที่จ่อคอหอยของรูเกียร์ห่างเพียงไม่กี่มิลร่วงหล่นลงก่อนที่ร่างของดีว่าจะทรุดลงกับพื้น
‘ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก ’
ดีใจหอบหายใจอย่างหมดแรงไม่สามารถแม้แต่จะประคอบกายได้อีกแล้ว ผลจากการใช้ไร้ปราณเพื่อสกัดความเจ็บปวดและรุกรูเกียร์ในครั้งสุดท้ายทำให้ลมหายใจของเขาขาดการปะติดปะต่อในที่สุดก็ประคองกายไม่อยู่ล้มลงกับพื้น
เสียงพูดคุยดังขึ้นหนาหูหลังจากเห็นดีว่าทรุดลงอย่างไม่คาดฝัน คนที่ตกใจที่สุดเห็นจะเป็นรูเกียร์ เขายืนหอบหายใจอยู่ครู่หนึ่งก็รีบเข้าไปประคองดีว่าที่ล้มลงไปขึ้นมาโดยไม่สนว่าผลแพ้ชนะจะเป็นเช่นไร
‘ ดีว่า ! ’ ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างผู้อาวุโสเสี่ยงทำท่าจะวิ่งเข้าไปช่วยแต่ถูกห้ามไว้
“ ดีว่าไม่เป็นไรหรอก ถึงแม้ครั้งนี้เขาจะแพ้ แต่เขาก็ได้ชนะตนเองแล้ว หลังจากนี้ฝีมือของเขาจะพัฒนาขึ้นไปอีกหลายขั้นจนแม้แต่เจ้าก็ยากที่จะตามทันแล้วละ ฮ่าๆ ”
ผู้อาวุโสเสี่ยงหัวเราะชอบใจ
“ สามารถพลิกแพลงเพลงกระบี่ชมจันทร์ที่ข้าไม่เคยบอกว่าผสานกับเพลงกระบี่อื่นได้นับว่าเป็นอัจฉริยะแห่งกระบี่โดยแม้ วิเศษ วิเศษมาก แต่ครั้งนี้ที่เจ้าผ่ายแพ้เป็นเพราะเจ้ายังลังเลไม่กล้าลงมือแต่แรก ทางเจ้าหนุ่มนั่นก็ไม่เลวแม้จะเป็นแค่วิชาด้ายคุมกระบี่แต่ก็ใช้ได้อย่างคล่องแคล่วนัก ท้ายที่สุดหากเจ้าหนุ่มนั่นรู้ตัวเขาก็ได้เข้าใกล้ขั้นกระบี่แห่งจิตแล้ว เพราะทิ้งกระบี่แต่ในใจมีกระบี่ถึงสามารถใช้พลังลมปราณอันร้ายกาจได้ในนาทีสุดท้าย เด็กสองคนนี้ไม่เลวจริงๆ ”
‘ ร่างกายของเราถึงขีดสุดแล้วจริงๆ ขอโทษด้วยนะครับทุกคน ’ ดีว่าขณะหลับตาอยู่ก็รู้สึกว่ามีพลังลมปราณอันอ่อนโยนแผ่เข้ามาที่ร่างของเขาใครบางคนกำลังโคจรลมปราณเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของเขาอยู่ บนลืมตาขึ้นมาก็พบว่าเป็นรูเกียร์นั่นเอง
ไม่น่าเชื่อว่ามือกระบี่ที่อำมหิตเช่นรูเกียร์ที่เคยดูถูกและไม่ชอบดีว่ามาก่อนจะยื่นมาเข้าช่วยเหลือทั้งที่ดีว่าอาจจะลุกขึ้นมาเอาชนะเขาก็ได้
“ ขอบคุณครับ ” ดีว่ากล่าว
“ ไม่เป็นไร ยังแข่งต่อไหวไหม ถ้าไหวละก็ลุกขึ้นมาปะมือกันอีกรอบสิ ” รูเกียร์ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันว่าทำไมเขาถึงกล่าวเช่นนั้นทั้งๆที่ก็รู้ว่าคงไม่มีทางสู้ดีว่าได้อาจเป็นเพราะธาตุทระนงของมือกระบี่ที่ไม่อยากจะยอมรับชัยชนะในลักษณะแบบนี้
“ ผมแพ้แล้วครับ ร่างกายผมตอนนี้ขยับไม่ไหวแล้ว ปราณกระบี่สายที่สิบสามของคุณกับวิชาด้ายคุมกระบี่ยอดเยี่ยมจริงๆ ” ดีว่ายอมรับความผ่ายแพ้แม้จิตจริงจะอยากชนะเพียงไรก็ตาม
“ โอ้ ช่างเป็นภาพที่น่าจดจำจริงๆครับท่านผู้ชม ผู้เข้าแข่งขันรูเกียร์กำลังช่วยเหลือดีว่าที่ได้รับบาดเจ็บอยู่การแข่งครั้งนี้แม้จะยังไม่รู้ผลแพ้ชนะแต่ทั้งคู่ก็แสดงให้เห็นถึงน้ำใจนักกีฬาสมกับที่เป็นสุดยอดฝีมือทั้งคู่จริงๆครับ ”
“ ถ้าเป็นอย่างนั้นชัยชนะแบบนี้ชั้นจะขอรับไว้ก่อนก็แล้วกัน ” รูเกียร์กล่าว “ ไว้รักษาตัวหายเมื่อไหร่หวังว่าเราคงจะได้ดวลกันจนพลังชีวิตหน่วยสุดท้าย ไว้ถึงตอนนั้นชั้นจะเอาชนะนายให้อย่างสมศักดิ์ศรีเอง ”
“ ครับ ” ดีว่ากล่าวพร้อมยกมือทำท่ายอมแพ้ จากนั้นสัญญาณประกาศผลแพ้ชนะก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงแสดงความเสียงใจจากบรรดาแฟนคลับของดีว่าแต่ทุกคนก็ปรบมือให้กับน้ำใจนักกีฬาของทั้งคู่
“ ท่านดีว่าช่างเท่เสียใจๆเสียดายที่ไม่สามารถเอาชนะได้ ” วีวี่ซับน้ำตาตัวเอง
“ ฮ่าๆๆ ” เสียงหัวเราะชอบใจของชายในชุดคลุมดำปริศนาดังขึ้นไม่ขาดสาย โซ่ตรวนกระทบกันไปมาอย่างบ้าคลั่ง “ แพ้ราบคาบเลยนะเจ้าชาย ไม่จำเป็นที่ชั้นจะต้องลงมือด้วยซ้ำ ”
‘ แย่ละสิ รุ่นพี่ยังไม่มาสักที ถ้าเป็นอย่างนี้พวกเราก็เท่ากับว่าแพ้นะสิ ’ โซเฟียเริ่มรนเหลือเวลาสำหรับพักระหว่างยกแค่สองสามนาทีเท่านั้น
ชายในชุดคลุมดำขณะหัวเราะชอบใจก็กวาดสายตาไปพบไปสายตาของหญิงสาวคนหนึ่ง จากนั้นเสียงหัวเราะก็หายไปในทันที
‘ เธอคงยังไม่ยอมรับสินะ ว่าเจ้านั่นไม่มีทางมาแล้ว ไม่ยอมรับว่ามันไม่มีสามารถปกป้องเธอได้แล้วก็วิ่งหนีไปอีกครั้งแล้วใช่ไหม ’
ทันในนั้นชายในชุดคลุมปริศนาโยนผ้าคลุมออกเผยให้เห็นร่างภายใต้ผ้าคลุมที่สวมใส่ไปด้วยเกราะป้องกันสีดำทมิฬพร้อมโซ่ตรวนที่ล๊อคข้อมือและข้อเท้าเอาไว้ชวนขนหัวลุก ผู้ชมบางส่วนเริ่มหันเหความสนใจไปยังร่างของชายคนนั้นรังสีกดดันอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ไปรอบห้องครั้งนี้ยังเหนือกว่ารังสีกดดันของรูเกียร์เสียอีก
‘ เกร๊ง เกร๊ง เกร๊ง ’
เสียงโซ่ตรวนที่ลากไปกับพื้นดังอย่างน่าสยดสยอง พร้อมกับแท่งเหล็กสีดำสนิทที่ชายคนนั้นถือ
“ โอ้ว ! ดูเหมือนว่าผู้เข้าแข่งขันจากทีมไกเซอร์ด้อมจะเลือดร้อนอยากแข่งขึ้นมาแล้วละครับ ไม่ทราบว่าทางทีมมิราเคิลจะพร้อมหรือยังครับ ”
เด็กชายนักประกาศส่งสายตาหาโซเฟีย แต่ก็โดนค้อนกลับมาจากนั้นก็เริ่มเข้าใจว่าไซโคร แนชหายตัวไปเข้าห้องน้ำ
“ ดูเหมือนว่าผู้เข้าแข่งในรอบชิงของทางโรงเรียนอับดุลอินเตอร์จะเกิดท้องเสียกะทันหันนะครับ ยังไงช่วยอดใจรออีกสักพักหนึ่งก่อนที่การประลองรอบชิงชนะเลิศจะเริ่มขึ้นนะครับท่านผู้ชม ”
จากนั้นหันไปกระซิบกับชายปริศนา
“ ยังไงไปนั่งพักก่อนก็ได้นะครับ ”
แต่เด็กชายนักประกาศก็ต้องหน้าซีดเมื่อชายปริศนาเคาะแท่งเหล็กสีดำลงพื้นเสียงดังสนั่นผู้คนรอบห้องต่างพากันจับจ้องมาพร้อมกันพริบตานั้นแท่งเหล็กสีดำกางออกเปลี่ยนรูปแบบเป็นเคียวสังหารที่น่าสะพรึงกลัว
‘ ขวับ ! ’
ไมค์ถูกแย่งไปได้อย่างง่ายดายโดยที่เด็กชายนักประกาศไม่ทันได้ตั้งตัว
“ รีน่าดูเอาไว้ ไม่ว่าเธอจะรออีกนานแค่ไหนเจ้าชายของเธอก็ไม่มีวันโผล่มาอีกแล้ว ”
เสียงเย็นชากล่าวพร้อมกวาดสายตาไปยังมุมหนึ่งของห้องซึ่งก็คือ บริเวณที่ไลร่ายืนอยู่
‘ ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงมีจิตสังหารที่รุนแรงถึงขนาดนี้นะ ’ แม้แต่ซากุระเองก็อดหวาดหวั่นไม่ได้
‘ รีน่า เจ้าชายหรือว่าเขาจะหมายถึงรุ่นพี่แนชกับรุ่นพี่รีน่าที่เคยเป็นข่าวเมื่อปีที่แล้ว ’ โซเฟียประหลาดใจ ชายคนนี้เป็นใครกันแน่ทำไมถึงรู้เรื่องนี้ด้วย ที่สำคัญรู้ได้ยังไงกันว่าไซโคร แนชจะไม่มีทางกลับมาอีก
“ ฮ่าๆ ” จากนั้นชายปริศนาหัวเราะราวเสียสติ “ ดูท่าคงต้องทำให้เธอยอมรับหน่อยก็แล้วกัน ความจริงหากคู่แข่งขันไม่มาภายในเวลาที่กำหนดก็จะถือว่าสละสิทธิ์และแพ้ไป แต่ชั้นจะใจดีให้โอกาสใครก็ได้ในทีมนั้นขึ้นมาสู้เพื่อฆ่าเวลาจนกว่าเจ้านั่นจะมา หรือถ้าสามารถเอาชนะชั้นได้เลยก็ไม่เป็นไรนะ แต่มีข้อแม้อยู่ที่พวกนายต้องยังสามารถยืนได้อยู่นะ เหล่าพวกพ้องที่ศรัทธาในตัวเจ้าชายเอ๋ย ”
ชายปริศนาฉีกยิ้มเป็นรอยยิ้มที่ดูเคียดแค้นจนน่ากลัว
ไลร่าที่ยืนอยู่กระชับมือหญิงสาวที่นั่งรถเข็นอยู่ด้านข้างไว้แน่น
“ นี่ก็เหลืออีกสามสิบวินาทีเท่านั้น เอาละรีบส่งตัวแทนขึ้นมาเล่นสนุกกับชั้นหน่อยสิ ”
โซเฟียดูอาการของดีว่ายังไม่หายดีไม่มีทางที่จะขึ้นไปสู้ได้ ส่วนวาก็แข่งปิงปองอยู่ดังนั้นคนที่พอจะขึ้นไปแข่งได้ก็มีแต่เธอเท่านั้น รีบเปลี่ยนชุดป้องกันเตรียมขึ้นสู้อีกครั้ง
“ คุณโซเฟียระวังนะครับ ผู้ชายคนนั้นมีจิตฆ่าฟันรุนแรงมาก ” ดีว่าทัก
“ แหะๆ แต่เราไม่มีทางเลือกแล้วนิ ถ้าเป็นไปได้เราจะเอาชนะไปเลยก็แล้วกันนะ ” โซเฟียหันมาชูสองนิ้ว ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ตอนนี้เธอไม่สามรถใช้ไม้ตายดาบสวรรค์ทั้งเจ็ดได้อีกแล้ว แต่ยังดีที่ยังใช้ดาบเพลิงอัคคีได้อยู่
“ ต้องขอโทษจริงๆนะครับ ” ดีว่าพยายามหายใจ
“ ไม่ใช่ความผิดของนายหรอกนะ สู้ได้ถึงขนาดนั้นก็เก่งมากแล้ว ไปก่อนนะจ๊ะ ” โซเฟียโบกมือ
‘ ทำไมชายคนนี้ถึงได้มั่นใจนักนะ แต่เรารู้สึกได้เลยว่าฝีมือของเขาต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ แถวยังมีเรื่องเกี่ยวพันกับรุ่นพี่อย่างลึกซึ้งเสียด้วย ชักอยากรู้เรื่องขึ้นมาแล้วสิ ’ โซเฟียที่ไม่เคยหวาดหวั่นต่อใดผู้ใดมาก่อนเมื่อขึ้นมายืนเผชิญหน้ากับเคียวโค้งยาวแหลมคมต้องอดพรั่นพรึงไม่ได้
‘ นี่โซฟี่จะต้องขึ้นกับไปสู้กับพวกโหดๆอีกแล้วหรอเนี่ย ’วีวี่ทำท่าจะเป็นลม
“ คุณโคทาโร่ครับ ไม่ผิดแน่เจ้านั่นคือ วิญญาณร้ายโนบุนากะ มันยังชีวิตอยู่จริงๆด้วย ! ” มาซาซึมุชี้ไปยังชายปริศนา “ แถมมันกำลังเรียกนินจาเงาอัคคีขึ้นไปล้างแค้นแล้วละครับ ”
“ ในที่สุดแกก็แสดงตัวออกมาจนได้สินะ โนบุนากะชายผู้อยู่เบื้องหลังประวัติศาสตร์อันบิดเบือนและเรื่องราวทั้งหมด ” โคทาโร่เสริม
“ โอ้ ถึงกับต้องส่งผู้หญิงมาสู้แทนเลยหรอเนี่ย ” ชายปริศนาหรี่ตาทักทายโซเฟีย
“ แหะๆ ว่าแต่จะประลองกันยังไงคะ ” โซเฟียจู่ๆก็ถามขึ้นมาสลายรังสีกดดันไปได้ระดับหนึ่ง
‘ ในตอนนี้เราจำเป็นต้องถ่วงเวลาเพื่อให้รุ่นพี่กลับมาให้ได้มากที่สุด ’
“ ก็แข่งกันแบบปกติพลังชีวิตคนละสามพันหน่วยใครหมดก่อนก็แพ้ไป ” ชายชุดดำปริศนากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆผิดกับท่าทีบ้าคลั่งเมื่อครู่
“ แล้วถ้าเกิดดิฉันชนะคุณก็จะยอมแพ้เลยหรอ ” โซเฟียเอียงคอ
“ ใช่แล้ว ถ้าเธอเอาชนะชั้นได้นะ ” ชายปริศนายิ้ม
“ แล้วถ้าเกิดดิฉันแพ้ละ ”
‘ ฟึ่บ ! ’
เคียวในมือชายปริศนาแกว่งผ่านหน้าโซเฟียในความเร็วระดับที่เธอไม่เคยเจอมาก่อนรังสีกดดันเย็นวาบตัดผ่านหน้าเธอไป
“ เธอนี่ถามเยอะจริงนะแม่สาวน้อยอัศวินเพลิง ” ชายปริศนาทำท่าไม่พอใจแต่แล้วก็เก็บอาการกลับมาเป็นปกติ “ ถ้าเกิดเธอแพ้แล้วเจ้าชายของเธอยังไม่มาละก็ถือว่าพวกเธอแพ้ไปก็แล้วกัน แต่ถ้ามีใครที่พอจะสู้แทนเธอได้ขึ้นมาต่อเวลาให้ชั้นก็ไม่เกี่ยงหรอกนะ ฮ่าๆๆๆ ”
‘ ชายคนนี้ล้อเล่นไม่ได้จริงๆ ’ แววตาของโซเฟียเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา ถึงกับจริงจังกว่าตอนประลองกับซิลเวียร์เสียอีก
‘ พี่โซถึงแม้เจ้าหมอนั่นจะเป็นเพื่อนร่วมทีมหนูก็เถอะ แต่ช่วยเอาชนะให้ได้นะคะ หนูไม่อยากเห็นพี่โซต้องแพ้ใคร’ ซิลเวียร์ท่าทางเป็นกังวล
“ เอาละถ้าพร้อมแล้วก็รีบลงมือซะก่อนที่ชั้นจะเปลี่ยนใจนะ ” ชายปริศนากวักนิ้วเรียก
อีกด้านหนึ่งของปราสาทไอแซกห้องแข่งปิงปองกำลังจะร้อนระอุเพราะการแข่งขันประเภทเดี่ยวรอบชิงชนะเลิศที่กำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า
วาหยุดเดาะลูกปิงปองหลังจากสบตากับครอสมันทำให้เขารู้สึกกดดันเล็กน้อยแต่ความจริงเขารู้สึกว่าจิตใจของเขาอ่อนเพลียเสียมากกว่า ขณะนี้ยังเหลือเวลาอีกห้านาทีก่อนแข่งเขาเปลี่ยนท่าเป็นกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง เห็นบรรดานักเรียนที่มารอดูการแข่งนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน บ้างก็กำลังคิดอยู่ว่าจะเชียร์ฝ่ายไหนดีเพราะเป็นทีมม้ามืดทั้งคู่ดูไปแล้วไม่มีความรู้สึกกดดันเหมือนเขาเลยแม้แต่น้อย
บริเวณที่นั่งแถวกลางเห็นพวกมิว พิชากิ เบต้าโบกมือเชียร์เป็นกำลังใจให้ ถัดไปไม่ไกลนักก็เห็นลมดำอดีตคู่หูปิงปองที่นั่งคั่นระหว่างโยและเรย์สองรุ่นน้องชูนิ้วทักทาย ส่วนบริเวณแถวหน้าวิสด้อมกับโทโมะและคิง สตันกำลังนั่งถกเถียงอะไรบางอย่างกันอยู่ดูแล้วอดขำไม่ได้ ส่วนไลร่าที่บอกว่าเชียร์เขาอยู่นั้นกลับไม่มีร่องรอยแม้แต่น้อยวามั่นใจว่าเขากวาดสายตาค่อนข้างทั่วแล้วและคนอย่างไลร่าก็โดดเด่นพอที่จะมองหาเจอได้ง่ายๆสงสัยว่าอาจจะไปเชียร์การแข่งประลองอาวุธก็ได้คิดถึงตรงนี้วาก็แอบถอนใจเล็กน้อย
แต่เมื่อมองกลับไปที่ฝั่งตรงข้ามซึ่งก็คือ สโนว์กับครอสและสองทูตดำขาวที่นั่งคุยกันอยู่วาก็เริ่มรู้สึกจิตใจพลุกพล่านขึ้นมาดังนั้นตัดสินใจหลับตาลงลองทำสมาธิดู
“ ท่าทางจะเอาจริงนะ ” พรีสไซที่นั่งอยู่ห่างๆกระซิบกับโซลีน
“ แบบนั้นมันก็ดีแล้วไม่ใช่เรอะ ”
วารู้สึกว่ามันค่อนข้างจะยากมากที่จะทำสมาธิในสภาวะแบบนี้เสียงพูดคุยรอบห้องคล้ายกับฉนวนจุดความตื่นเต้นของเขาแต่พอนึกถึงภาพของสโนว์ก็ทำให้เขาฝืนใจหลับตาต่อไปได้จนกระทั่งได้ยินเสียงสัญญาณเรียกตัวไปแข่งซึ่งเขารู้สึกว่ามันมาเร็วกกว่าที่เขาคิดไว้หัวใจเต้นแรงขึ้นมาวูบหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นเดินไปยังโต๊ะปิงปองงพร้อมกับเสียงเชียร์และเสียงปรบมือที่ดังกระหึ่มตามมา
“ ขอให้โชคดีเล่นให้เต็มที่ ” โซลีนกล่าวอวยพรจากด้านหลัง
ขณะกำลังเดินอยู่นั้นวาสังเกตเห็นเกก้าดีนพร้อมกับดาบกางเขนที่ไม่ทราบโผล่มาที่นี่ได้อย่างไรทำท่าทางลุกลี้ลุกลนราวกับกำลังตามหาอะไรบางอย่างอยู่ทำให้วาเกิดสงสัยขึ้นมา หรือว่านี่อาจจะเกี่ยวข้องกับรุ่นพี่ไซโคร แนช แล้วถ้าหากเป็นเช่นนั้นการแข่งของพวกดีว่าและโซเฟียจะเป็นยังไงกันบ้าง
แต่วาก็ต้องรีบดึงสติตัวเองกลับมาเพราะคู่ต่อสู้บัดนี้กำลังยืนเผชิญหน้าพร้อมแข่งกับเขาแล้ว การแข่งในรอบชิงชนะเลิศประเภทเดี่ยวในปีนี้จะนับทั้งหมดสามเซท เซทละยี่สิบเอ็ดลูก
กรรมการเข้ามาถามหน้าเหรียญหัวก้อยกับเขาแต่วารู้สึกเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นผู้คนรอบข้างต่างรวดเร็วกว่าปกติ หรืออาจเป็นเพราะเขากดดันและตื่นเต้นเกินไปเอง
เหรียญเงินลอยขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็วหมุนไปมาหลายรอบก่อนจะตกลงยังหลังฝ่ามือของกรรมการเมื่อแบออกมาก็เป็นด้านหัวซึ่งวามักจะเป็นฝ่ายเดาถูกเสมอ
ลูกปิงปองถูกกรรมการส่งมาอยู่ในมือเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ สมาธิของวาในตอนนี้ไม่มั่นคงสักเท่าไหร่ หากตอนนี้โซเฟีย ดีว่าและทุกคนอยู่กันช่วยเชียร์ครบแก๊งก็คงจะดีวาคิดเช่นนั้น
ทว่าพอโยนลุกปิงปองขึ้นฟ้าความรู้สึกอยากเอาชนะอันแรงกล้าก็ปะทุขึ้นมา จากนั้นไม้ปิงปองในท่าจับแบบจีนก็ตวัดออกเสิร์ฟลูกความเร็วสูงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของวาออกไป
“ ทางด้านนี้หาจนทั่วแล้วไม่เจอเลย ” ไซเมตกล่าวกับเกก้าดีนบริเวณหน้าทางเข้าของปราสาท
“ บ้าที่สุดในเวลาแบบนี้มัวไปอยู่ที่ไหนกันนะ ” เกก้าดีนทำท่าไม่พอใจกำดาบที่มีรอยบิ่นไว้แน่นราวกับต้องการให้มันช่วยหาเจ้าของด้วย
เขากับไซเมตแยกย้ายกันหาจนทั่วปราสาทและบริเวณด้านหน้าแล้วก็ยังไม่พอแม้แต่ร่องรอยของไซโคร แนช
เกก้าดีนถอนใจอย่างหมดหวัง ดาบกางเขนอีกเล่มหนึ่งไปอยู่ที่ไหนนะ
‘ กางเขน
. โบสถ์ ระ หรือว่าจะเป็นด้านหลังปราสาท ?! ’
ว่าแล้วเกก้าดีนก็รีบออกตัววิ่งในทันที
“ ตามมาเร็วเข้า ”
‘ ป่านนี้การประลองคงจะถึงตาแล้วเราสินะ ไม่สิน่าจะจบลงแล้วต่างหาก ขอโทษด้วยนะทุกคน ’ อีกด้านหนึ่งในโบสถ์ ไซโคร แนชทรุดลงกับพื้นอย่างหมดสภาพท้องของเขาหิวจนตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว
แสงไฟที่ส่องผ่านกระจกแก้วหลากสีเบื้องบนหน้าของเขาสาดส่องร่างที่ตกอยู่ในเงามืดมาทั้งคืน แสงคริสตัลช่างสวยงามเสียจริงๆ เทวทูตที่ยืนอยู่เบื้องหน้าพอถูกแสงอาทิตย์ก็เริ่มส่องประกายดูสง่างามน่าเคารพมากขึ้น
‘ วิ้ง ’
แสงสะท้อนของอะไรบางอย่างส่องกระทบตาของไซโคร แนช แต่เขาหาได้สนใจไม่ครั้นจะขยับตัวเปลี่ยนที่ก็ขี้เกียจจึงนั่งเหม่อมองเทวทูตต่อ
‘ วิ้ง ’
แสงสะท้อนนั้นยังคงส่องแยงตาเขาอยู่จนเริ่มทนไม่ไหว ต้องค่อยๆลุกขึ้นสืบหาที่มาของแสงสะท้อนประหลาดนั่น แสงนั่นไม่ได้เกิดจากดาบกางเขนคู่ที่เหลืออยู่เล่มหนึ่ง มันเป็นแสงที่ส่องมาจากบริเวณข้างๆรูปปั้นเทวทูต
‘ วิ้ง ’
แสงสะท้อนนั้นส่องมากระทบตาเขาอีก จนในที่สุดเขาก็พบกับที่มาของแสงนั่น ไซโคร แนชยืนหยุดนิ่งยังเบื้องหน้าเจ้าสิ่งนั้นจิตใจเกิดพลุกพล่านขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก จากความรู้สึกที่แสนจะเลือนรางกลับกลายมาเป็นเข้มข้นขึ้นทีละน้อยๆ
เขาค่อยๆยื่นมือไปแตะหาของบางอย่างที่คอของตนแต่ก็ไม่พบ เขาทำมันตกไว้ที่นี่โดยที่ไม่รู้ตัว
‘ กางเขนสีเลือด ’
กางเขนที่แบกรับความทรงจำทั้งความสุขและความทรมานใจของเขามาโดยตลอด หรือว่าบัดนี้ความถวิลหาที่จะได้พบเจ้าของของมันส่งเสียงเรียกร้องไปถึงเทวทูตบนสวรรค์แล้วกันแน่ เขารู้เพียงแต่ว่าเขาคงเผลอทำมันตกลงเพราะความหวาดกลัวเมื่อคืนหรือไม่ก็ตอนที่เขากำลังทุบตีรูปปั้นอย่างลืมตัว
น้ำตาไหลอาบลงที่สองแก้มของเขา สองมือค่อยๆบรรจงหยิบมันกลับเข้ามากอดไว้
‘ เราปล่อยมือไปอีกแล้ว ขอโทษด้วยนะ ขอโทษด้วยจริงๆที่ไม่สามารถรักษาสัญญาได้แล้ว ’
ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างย้อนคืนเข้ามาในหัวของเขา และภาพล่าสุดก็คือ ชายชุดดำปริศนาที่เล่นงานเขา ชายคนนั้นเป็นใครกัน ทำไมจึงรู้เรื่องราวของรีน่าได้ จากความกลัวเริ่มเปลี่ยนเป็นความสงสัย จากความสงสัยเริ่มเปลี่ยนเป็นหวาดหวั่น จากนั้นเปลี่ยนเป็นมั่นคงจนกระทั่งความศรัทธากลับเข้ามาในหัวใจอีกครั้ง
‘ สิ่งที่เราเฝ้าฝันมาตลอดทุกคืนวันอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ ทำไมถึงปล่อยให้มันหลุดมือง่ายๆกัน ’
เขากำกางเขนไว้แน่น
‘ ตัดสินใจแล้ว ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรก็จะไม่ปล่อยมือไปอีกแล้ว จะต้องเอาชนะเจ้าหมอนั่นให้ได้ ! ’
ไซโคร แนชสวมกางเขนสีเลือดอีกครั้ง คราวนี้เขาสัญญาว่าจะไม่ปล่อยมันให้หลุดไปอีกแล้ว จากนั้นก้มเก็บดาบกางเขนคู่ที่เหลือยู่เพียงเล่มเดียวเหน็บเข้าที่ข้างเอว
‘ ถ้าเป็นตอนนี้จะยังทันไหมนะ ’
ขณะกำลังคิดอยู่ประตูโบสถ์ก็ถูกกระแทกเปิดออก
“ มีไหม ” เสียงที่คุ้นเคยเอ่ยถามขึ้น ก่อนที่ร่างปราดเปรียวของไซเมตจะปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้า พร้อมกับเกก้าดีนที่ตามมาติดๆ
“ เจอแล้ว ” ไซเมตทำท่าดีใจ
“ ที่แท้ก็มาอยู่ที่นี่เองนะเจ้าชาย ” เกก้าดีนฉีกยิ้มจากนั้นหุบลงแบบไม่พอใจ “ รีบกลับไปแข่งซะ คู่ต่อสู้ของผมจะต้องไม่แพ้เพราะหนีการแข่งแบบนี้ ”
“ ยังทันอยู่ใช่ไหม ” ไซโคร แนชถามเกก้าดีน
“ เอ๊า ของที่ลืมไว้ ! ”
‘ ฟึ่บ ! ’
อะไรบางอย่างซัดตรงเข้ามาหาเขา ไซโคร แนชคว้าจับมันไว้ตามสัญชาตญาณก็พบว่าดาบกางเขนคู่อีกเล่มหนึ่งกลับเข้ามาในมือแล้ว
‘ ขวับ ’
“ ขอบคุณพวกนายมาก ไม่ต้องเสียเวลาตามหาจริงๆ ”
ไซโคร แนชควงดาบกางเขนที่ได้รับมาจากเกก้าดีนจากนั้นเสียบลงที่ปลอกดาบอย่างคล่องแคล่วพลังแห่งความศรัทธาบัดนี้กลับมาอีกครั้ง
“ รีบไปเถอะเดี๋ยวจะไม่ทันเอา ป่านนี้การแข่งคู่ที่สองคงจะจบแล้วละ ” ไซเมตกวักมือให้ทั้งคู่
ไซโคร แนชก่อนจะออกจากโบสถ์ก็หันหลังไปมองเทวทูตเป็นการบอกลาและแสดงความขอบคุณ แสงแดดที่ส่องผ่านกระจกแก้วบัดนี้เจิดจ้าสาดส่องรูปปั้นเทวทูตจนเต็มตัว เห็นที่ใบหน้าของเทวทูวประดับไปด้วยรอยยิ้มคล้ายจะกล่าวคำอวยชัยให้กับเขาเช่นกัน
“ ขอโทษนะ ” ไซโคร แนชหันไปกล่าวกับไซเมตและเกก้าดีนขณะวิ่งอยู่ “ ว่าแต่มีอะไรพอจะให้กินรองทองไหม ”
‘ เช้ง เช้ง เช้ง ’
เสียงดาบเพลิงอัคคีที่เต็มไปด้วยเพลิงแห่งการทำลายถูกเคียวของชายปริศนาตั้งรับไว้ได้หมดสิ้น ไม่ว่าโซเฟียจะใช้กระบวนท่าแบบไหนก็ไม่สามารถจู่โจมถูกชายปริศนานั้นได้เลย ความรวดเร็วในการเคลื่อนไหวของชายผู้นี้คล้ายกับวิญญาณร้ายแม้แต่ดีว่ายังไม่มั่นใจว่าจะเคลื่อนที่ได้เร็วขนาดนี้
“ ขอโทษด้วยนะ แต่ว่าชั้นเบื่อแล้วละแม่สาวน้อย ” ชายปริศนากล่าวทันใดนั้นเคียวในมือตวัดวูบ ความรวดเร็วและแม่นยำในการลงมือระดับนี้ไม่มีทางที่โซเฟียจะป้องกันหรือหลบรอดได้
‘ ฉึก ! ’
นี่เป็นครั้งแรกที่ชายปริศนาลงมือหลังจากตั้งรับจากโจมตีของโซเฟียอยู่พักหนึ่ง เพียงแค่การฟันครั้งเดียวพลังชีวิตสามพันหน่วยของโซเฟียก็หมดลงในบัดดลราวกับยมทูตที่ลงมือปลิดวิญญาณผู้คน
โซเฟียรู้สุกทั้งร่างชาวูบไม่สามารถขยับได้ ล้มลงนอนกับพื้นราวกับเป็นอัมพาต
“ พี่โซ ” ซิลเวียร์ร้องเรียกอย่างเป็นห่วง “ นายทำอะไรพี่โซน่ะ ”
ชายปริศนาหันขวับไปยังซิลเวียร์ที่กำลังโกรธ ทันใดนั้นซิลเวียร์ปิดปากเงียบอย่างลืมตัวแววตาของชายผู้นี้ดูเหมือนไม่ใช่คนแต่เป็นยมทูตที่เคียดแค้นกระหายความตาย
“ ไม่ต้องห่วงเธอไม่เป็นอะไรหรอกแม่สาวน้อย แต่ว่าตอนนี้เกมจบแล้ว เจ้าชายของพวกเธอยังไม่มาเพราะฉะนั้นพวกเธอแพ้แล้ว ฮ่าๆๆ ”
“ เดี๋ยวก่อน ” เสียงเรียกดังขึ้นจากด้านล่างเวที ซึ่งก็คือดีว่านั่นเอง “ ให้ผมเป็นคู่ต่อสู้ของผมได้ไหมครับ ”
“ ฮ่าๆ สภาพแบบนั้นเนี่ยนะ ” ชายปริศนาหัวเราะ “ ได้สิ ชั้นต่อให้เข้ามาพร้อมกันสองคนเลยก็ได้นะ ”
ดีว่าความจริงยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บแต่เห็นโซเฟียโดนทำร้ายประกอบกับยังคงเชื่อในตัวไซโคร แนชจึงตัดสินใจกล่ำกลืนความเจ็บปวดลุกขึ้นไปสู้กับชายปริศนา
เด็กชายนักประกาศรู้สึกถึงบรรยากาศตึงเครียดด้านบนเวทีถึงกับทำตัวไม่ถูกขึ้นมา
ดีว่าโคจรลมปราณที่เหลืออยู่ทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือโซเฟีย แต่พอสัมผัสร่างของโซเฟียก็พบว่ามีพลังประหลาดอยู่ในร่างของเธอไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่โซเฟียก็ไม่ยอมแพ้ฝืนลุกขึ้นยืน
“ เราเชื่อว่ารุ่นพี่จะต้องมา ” โซเฟียกล่าว
“ ครับ ผมก็เชื่อเช่นนั้น ” ดีว่าเสริม
คำพูดนี้คล้ายสะกิดต่อมของชายปริศนาจากท่าทีใจดีเมื่อครู่ก็เปลี่ยนเป็นอำมหิตขึ้นมา
“ คนแบบนั้นมีอะไรให้เชื่อนักนะ ”
กล่าวจบร่างของชายปริศนาก็หายไป หรือจะเรียกให้ถูกว่าเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมากกว่า เงาร่างก้าวเพียงไม่กี่ครั้งก็เคลื่อนที่มาปรากฏยังเบื้องหน้าของทั้งสองพร้อมเคียวที่ตวัดออกอย่างรวดเร็ว
‘ เช้ง ! ’
ดีว่าอาศัยเคล็ดวิชาของการชมจันทร์ลงมือหลังบรรลุถึงก่อนตวัดเทพกระบี่ประกายตั้งรับไว้ได้ สร้างความไม่พอใจแก่ชายปริศนา เคียวในมือพลันคล้ายปีศาจเรี่ยวแรงมหาศาลแผ่พุ่งออกมาขนาดที่ดีว่ากับโซเฟียช่วยกันตั้งรับก็เอาไม่อยู่กระเด็นล้มลงไปพร้อมกันทั้งคู่
“ จบกันเสียที ”
ชายปริศนาง้างมือพลังบางอย่างไหลเวียนผ่านเคียว
‘ สลายวิญญาณ (Souleater) !’
“ พวกเจ้าจงตกอยู่ในความกลัวและความงมงายในศรัทธาที่ไร้ตัวตนไปชั่วกัปชั่วกัลป์เถอะนะ”
“ โซเฟีย ดีว่า ! ” วีวี่ร้อง
“ พี่โซลุกขึ้นสิคะ ” ซิลเวียร์ตะโกนเรียก
“ เจ้านินจาเงาอัคคี ” มาซาซึมุและโคทาโร่ประสานอินส่งแรงใจช่วย
เคียวคมกริบฟันร่างของทั้งสองที่ล้มอยู่ในคราเดียว เสียงอุทานอย่างหวาดเสียวของเหล่าคนดูดังขึ้นพร้อมๆกัน
‘ เกร๊ง ! ’
ทันใดนั้นอะไรบางอย่างที่รวดเร็วยิ่งกว่าประกายไฟ รวดเร็วยิ่งกว่าประกายสายฟ้าซัดผ่านข้างนักเรียนหลายคนขึ้นมายังบนเวทีปัดเคียวที่แฝงพลังมหาศาลยู่กระเด็นถอยร่นไปบังเกิดเสียงก้องกังวานไปทั่ว
ชายปริศนาถึงกับเสียหลักไปนิดหนึ่งต้องใช้เท้าอีกข้างยันตัวไว้เพราะความรุนแรงจากสิ่งนั้น
ดาบสีเงินที่เต็มไปด้วยประกายสายฟ้าปักลงกับพื้นเวที ส่งเสียงเกรี้ยวกราดน่าเกรงขามราวกับไม่หวั่นไหวต่อเคียวปีศาจที่อยู่เบื้องหน้าคล้ายกับดาวข่มซึ่งกันและกันของความมืดและแสงสว่าง
“ แกเป็นใครกันถึงกล้ามาขัดขวางการประหารของชั้น ! ”
ชายปริศนาเบ้ปากแสดงอาการไม่พอใจอย่างยิ่ง ก่อนจะกวาดสายตาค้นหาเจ้าของดาบเล่มนั้น
‘ เป็นไปไม่ได้ดาบที่มีรอยบิ่นแบบนี้ หรือว่า
?! ’
ทุกคนในห้องต่างพากันหันไปมองหายังต้นตอของเจ้าของอาวุธนั่นเช่นกัน
ที่เบื้องหน้าประตูห้องยืนไว้ด้วยชายสามคน ด้านซ้ายมือเห็นเป็นเด็กหนุ่มผมตั้งที่มีสนับมือรูปกางเขนยืนพิงประตูอยู่คือไซเมต ส่วนขวามือคือเด็กหนุ่มในหมวกแก๊ปที่ยืนกอดอกอย่างองอาจซึ่งก็คือเกก้าดีน
และตรงกลางเด็กหนุ่มที่หน้าตาคมคายที่สุดแต่แฝงแววความอ่อนล้าอยู่บ้าง ทว่าในแววตากลับแข็งกร้าวเต็มเปี่ยมไปด้วยความแน่วแน่และศรัทธาซึ่งจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้เสียนอกจาก ไซโคร แนชนั่นเอง
ไซโคร แนชกลับมาแล้ว !
“ อย่าทำให้ผมผิดหวังละเจ้าชาย ” เกก้าดีนกล่าวขณะจับหมวกให้เข้าท่า
“ เอาละ มาเริ่มการพิพากษาโทษของแกกันเถอะเจ้าลูกแกะที่หลงทางเอ๋ย ! ”
_____________________________________
ความคิดเห็น