ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนมหาโจร

    ลำดับตอนที่ #33 : บทเรียนที่ 28 เคออสไนท์ อัศวินแห่งความสับสน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.02K
      50
      3 เม.ย. 50

                      บทเรียนที่ 28   เคออสไนท์ อัศวินแห่งความสับสน

     

     

                 

             

    “ ท่าทางจะเป็นทีมที่น่ากลัวเลยทีเดียวนะครับเนี่ย ”  

    ดีว่ากล่าวกับวา

    “ ถ้าพวกเราเข้าไปถึงรอบชิงได้  ยังไงก็ต้องสู้กับเจ้าพวกนั้นสักตั้งละเนอะ 

    “ แต่อย่างคุณเด๋อถ้าเจอท่าจับของก็อบ ไม่ก็หมัดของโกจิก็คงจะหมดท่าแต่แรกแล้วแน่ๆเลย แหะๆ ”

    โซเฟียแหย่วา

    “ คอยดูเอาก็แล้วกัน ”

    “ แหม ดูมีไฟจังเลยนะเนี่ย ”

    “ ก็นิดหน่อยน่ะ ”

    โซเฟียเองเมื่อเห็นท่าทีของวาไม่ดูเศร้าเหมือนเมื่อวันก่อนๆแล้วก็รู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ 

    “ แต่ว่าก็ยังไม่แน่เลยนะว่าเราจะไปถึงรอบชิงได้หรือเปล่า ”

    วาถอนหายใจ

    “ อีกแค่ทีมเดียวก็สู้ให้เต็มที่ละกันนะ ”

    “ อืม ได้เลย ”

    วายิ้มให้กับโซเฟีย

    จากนั้นได้ยินเสียงคนกล่าวขึ้นมาว่า

    “ ทีมที่เราจะต้องสู้ต่อไปเจ้าไม่ต้องลงหรอก  ข้าจะเป็นคนลงแข่งเอง ”

    ผู้ที่กล่าวคือ ไซโคร แนชนั่นเอง 

    “ ทำไมหรอครับ ”

    “ เพราะทีมที่เราจะแข่งต่อไปเก่งมากนะสิ  และที่สำคัญเจ้าก็รับคำท้าของเจ้าหมอนั่นไว้แล้วไม่ใช่เรอะ  เก็บแรงเอาไว้สู้กับหมอนั่นให้ดีก็แล้วกัน ” 

    “ ครับ ”

    ไม่ทราบว่าวาตาฟาดหรือวาคิดไปเอง  วาคล้ายเห็นไซโคร แนชยิ้มให้กับเขานิดหนึ่ง   ไซโคร แนชคล้ายไม่ค่อยเย็นชากับเขาสักเท่าไหร่แล้ว 

    วาก็อดที่จะนับถือในตัวไซโคร แนชไม่ได้  แม้ขนาดก็อบมองมาที่เขาตอนนั้นวาเองเพียงยิ้มกลับไปให้ก็อบ  ไซโคร แนช กลับรู้ว่าทั้งสองรับคำท้าซึ่งกันและกันแล้ว

     

     

    และไม่นานนักวาก็ได้ยินเสียงประกาศดังขึ้น

    “ ต่อไปขอเชิญทีมมิราเคิล และทีมเคออสที่เวทีประลองตอนนี้เลยครับ ”

    ซึ่งก็หมายความว่าการต่อสู้รอบต่อไปของพวกเขากำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว   ไซโคร แนชเป็นคนแรกที่ลุกขึ้น ตามด้วยวา ดีว่า และโซเฟีย

    เมื่อมาถึงบริเวณหน้าเวทีทีมของวาก็ทำการรับชุดเครื่องป้องกันไปเปลี่ยนทันที   แต่ไซโคร แนชกล่าวกับวาว่า

    “ รอบนี้เจ้าไม่ต้องแข่งหรอกนะ  เก็บแรงเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน ”

    “ ครับ ”

    จากนั้นหันไปกล่าวกับดีว่า

    “ รอบนี้เจ้าลงแข่งกับข้าสองคนก็พอ ”

    ดีว่าไม่กล่าวอะไรนอกจากพยักหน้า   ซึ่งความหมายของไซโคร แนชก็คือ รอบนี้จะต้องชนะรวดสองครั้งให้ได้นั่นเอง

    และเช่นเดิมวาถูกทำหน้าที่ให้ไปทายหัวเหรียญ  แต่คราวนี้วาทายผิดพลาดทีมของเขาจึงต้องส่งรายชื่อคนที่จะลงแข่งก่อน  ซึ่งคนแรกที่จะต้องแข่งก็คือ ดีว่า ถัดไปคือ ไซโคร แนช  และสุดท้ายหากมีอะไรผิดพลาดก็คือ โซเฟีย

     

    เมื่อทั้งสองทีมพร้อมแล้วเด็กชายนักประกาศก็เรียกคู่แข่งชันคู่ที่หนึ่งขึ้นบนเวที    ดีว่าพันผ้าผืนที่วีวี่ให้กับมือของเขาก่อนที่จะเดินไปยังเวที  

    ได้ยินเสียงไซโคร แนชกล่าวแค่สั้นๆ กับเขาว่า

    “ อย่าประมาทละ  เจ้านั่นเก่งมาก ”

    “ ครับ”   ดีว่าก็กล่าวตอบเพียงสั้นๆ เช่นกัน

    คู่ต่อสู้ของดีว่านั้นที่แท้ก็คือ คนในชมรมนักสู้ศักดิ์เช่นเดียวกับไซโคร แนชเพียงแต่ไม่ได้เป็นถึงชั้นพาลาดิน ก๊อดแฮนด์ หรือครูเซเดอร์   

    แต่ถึงกระนั้นก็คนที่อยูในชมรมนี้ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะประมาทได้เลย  ยิ่งเข้ามาถึงรอบนี้ได้ก็นับว่าร้ายกาจมากเลยทีเดียว

     

     

    เห็นเด็กหนุ่มผิวคล้ำ ตัวสูงคนหนึ่งค่อยๆก้าวขึ้นมาบนเวที  ที่มือขวานั้นถือไว้ด้วยดาบยาวเล่มหนึ่ง  ใบหน้าดูสงบนิ่ง แต่ในแววตาคล้ายซุกซ่อนอะไรบางอย่างอยู่

    ได้ยินเสียงเด็กนักเรียนหญิงที่นั่งใกล้ๆวีวี่ร้องขึ้น

    “ นั่นไงๆ ดูซิ กาลอสชมรมนักสู้ศักดิ์สิทธิ์นี่น่า ”

    จากนั้นเพื่อนของนักเรียนหญิงคนนั้นก็กล่าวว่า

    “ จริงด้วยสิ ได้ข่าวว่าเขาเก่งมากเลยนิ ”

    “ ใช่แล้วละ  แล้วคู่ต่อสู้ของเขานั่นใช่คนที่ชื่อดีว่า หรือเปล่า ”

    “ ใช่ๆ เธอว่าใครจะชนะหรอ ”

    “ ไม่รู้สิ แต่ชั้นว่าดีว่าคงสู้ไม่ได้หรอก  กาลอสเก่งจะตายไป   ตั้งแต่สู้มาเขายังไม่เคยแพ้เลยนะเธอ ”

    พอได้ยินคำว่า ‘ ดีว่าคงสู้ไม่ได้หรอก ’ สายตาของวีวี่ก็หันขวับไปยังต้นเสียงทันที   แต่ดีที่เด็กนักเรียนหญิงทั้งสองคนไม่ได้ทันสังเกตเห็นก็พูดคุยกันต่อ

    “ ชั้นก็ว่าเหมือนกัน  ถึงคนที่ชื่อดีว่าจะเก่ง  แต่ก็ไม่น่าสู้กาลอสได้หรอก ”

    วีวี่เมื่ออดไม่ได้ก็กล่าวขึ้นมาว่า

    “ คนที่ชื่อกาลอสอะไรนั่น เก่งอะไรมากมายขนาดนั้นหรอ ”

    เด็กนักเรียนหญิงทั้งสองคนทำหน้างงนิดหน่อย แต่ก็กล่าวกับไปว่า

    “ แน่นอน เขาเก่งมากเลยละ  ได้ยินข่าวมาว่าเกือบจะได้เลื่อนขั้นเป็นพาลาดินแล้วด้วยละ ”

    “ แต่เราว่าดีว่าไม่มีทางแพ้หรอกนะ ”

    เด็กนักเรียนหญิงเมื่อได้ยินก็ทำหน้ากึ่งงกึ่งไม่พอใจ

    “ นี่เธอเชียร์คนชื่อดีว่าละสิท่า ”

    “ ใช่แล้ว ”

    “ ชั้นว่ายังไงกาลอสก็ชนะ!!! ”

    “ ท่านดีว่าต่างหากละ !!! ”

    มิวเห็นท่าไม่ค่อยจะดี ขณะที่กำลังจะกล่าวอะไรขึ้น วีวี่ก็กล่าวตัดบทขึ้นมาเอง

    “ เอาเถอะ คอยดูก็แล้วกันว่าใครจะชนะ ท่านดีว่าต้องชนะแน่นอน ”

    “ ได้ แล้วเราจะได้เห็นกัน ”

     

     

    ได้ยินเสียงปรบมือดังขึ้นโดยรอบ   ขณะนี้ทั้งดีว่า และกาลอสได้ยืนอยู่บนเวทีเรียบร้อยแล้ว  เด็กชายนักประกาศเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนพร้อมแล้วก็ประกาศเริ่มการแข่งทันที

    ดีว่านั้นทราบว่าตามหลักของการต่อสู้บางครั้งการชิงลงมือก่อนก็เป็นฝ่ายได้เปรียบ  แต่เห็นกาลอสยังคงยืนนิ่งเฉยตัวเองจึงนิ่งเฉยตามเพื่อสังเกตดูทิศทางที่คู่ต่อสู้จะลงมือ 

    ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงกาลอสกล่าวขึ้นมาว่า

    “ ได้ยินชื่อเสียงมานาน ยินดีที่ได้ต่อสู้ด้วยนะครับ ”

    พร้อมกับโค้งตัวลงเล็กน้อย

    “ เช่นกันคะ….. ”

    ดีว่าขณะกำลังกล่าวยังไม่ทันจบก็พบว่าผิดท่าเสียแล้ว   กาลอสวิ่งตรงเข้ามาถึงตัวดีว่าตั้งแต่เมื่อไหร่  แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ทันตั้งตัว

    ‘ ฉับ!! ’

    เสียงดาบฟันเฉียดบริเวณหน้าอกของดีว่าไป     แม้การเคลื่อนไหวของกาลอสครั้งนี้จะเหนือความคาดหมาย  แต่เนื่องจากดีว่าฝึกเทคนิคการสวนกลับเกือบทุกวันจึงทำให้ร่างกายเกิดความเคยชินถอยหลังหลบดาบของกาลอสได้ทันถ่วงที   มิเช่นนั้นอาจเสียงไลฟ์พอต์ยไปไม่มากก็น้อยกว่านี้

    “ รวดเร็วจริงๆ สมแล้ว แต่ครั้งต่อไปคุณเสร็จผมแน่ ”

    ดีว่าแย้มยิ้มขึ้นมา  เขาทราบดีว่าคนประเภทนี้ปากแม้กล่าวด้วยรอยยิ้ม  แต่การลงมืออำมหิตยิ่งนัก  ยังร้ายกาจกว่าพวกที่ว่าคนอื่นตรงๆเสียอีก 

    ดังนั้นดีว่าก็กล่าวกลับไปว่า

    “ ถ้าอย่างนั้นผมก็มีอะไรที่จะบอกเหมือนกัน ”

    “ อะไร……… !!!?? ”

    เพียงแค่กาลอสเริ่มอ้าปากร่างของดีว่าก็พุ่งขวับขึ้นจากพื้นแล้ว   ความรวดเร็วในการลงมือยังเหนือกว่าที่กาลอสลงมือเมื่อสักครู่อีก

      กระบวนท่าปลดอาวุธ!!! ”

                            ‘ ฟวับ ฟวับ ฟวับ !!! ’

    เสียงกระบี่ในมือของดีว่าตวัดออกด้วยความรวดเร็ว  เพียงตวัดวูบเดียวก็ฟันออกสามกระบี่   ฟันใส่ข้อมือที่จับดาบของกาออสด้วยความรวดเร็วจนดาบแทบจะหลุดออกจากมือ

     “ ร้ายกาจนัก ”  กาลอสคำรามด้วยความโกรธ  แต่ก็ข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้  ยิ้มออกด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    วีวี่เห็นดีว่าโต้ตอบไปด้วยความรวดเร็ว หนำซ้ำกระบวนท่าที่ใช้ออกก็สวยงามยิ่งนัก  อดส่งเสียงร้องเชียร์ไม่ได้    ทำเอาเด็กนักเรียนหญิงที่นั่งข้างๆ หันมามองค้อนใส่ทีหนึ่ง

     

     

    ดีว่าพลิ้วตัวลงถอยหลังห่างจากกาลอส

    “ สิ่งที่ผมจะบอกก็คือ สิ่งที่คุณทำกับคนอื่นได้  คนอื่นก็สามารถทำกับคุณได้เช่นกัน ”

    “ หึหึ ดูถ้าผมจะดูถูกคุณมากไปหน่อย ”   จากนั้นกาลอสวาดดาบไปมา  จากนั้นก็ตั้งท่าเตรียมจู่โจม   “ แต่ต่อจากนี้คุณไม่รอดแน่ ผมรับประกันได้เลย ”

    ดีว่าไม่กล่าวอะไรเพียงแต่ลดกระบี่ลง  ยืนสงบนิ่ง

    กาลอสเห็นท่าทีดีว่าสงบนิ่ง  ไม่สนใจตนเองแม้แต่น้อยก็เกิดความโมโห  แต่ตัวเองก็ทำเป็นสงบนิ่ง

    คนบางคนแม้เห็นหน้าตาของเขาดูสงบนิ่ง  ยิ้มแย้มพูดจาทักทายให้  แต่ภายในใจบางครั้งคิดฆ่าเราก็มีอยู่ถมไป  ดังนั้นคนประเภทนี้หากผู้ใดพบเจอต้องระวังให้มากไว้

    กาลอสถือหลักชิงลงมือก่อนได้เปรียบก็เปลี่ยนท่าจู่โจม  มุ่งตรงเข้าหาดีว่าทันที  ได้ยินเสียงดาบลากกับพื้นตรงเข้าหาดีว่า   พริบตานั้นดาบของกาลอสเสียดสีกับพื้นเกิดประกายไฟขึ้นเล็กน้อย  จากนั้นตวัดขึ้นจากพื้นใส่ดีว่าด้วยความรวดเร็ว

    ปฎิกิริยาของกาลอสแม้รวดเร็ว แต่ดาบพอตวัดขึ้น  ร่างของดีว่าก็พลิ้วตีลังกาขึ้นกลางอากาศ   

    ดีว่าอาศัยสภาวะที่ตีลังกาหมุนตัวแทงออกหนึ่งกระบี่

    “ กระบวนท่าปลดอาวุธ !!! ”

    กระบี่ของดีว่าแทงใส่ข้อมือของกาลอสอย่างจัง   กาลอสรู้สึกชาที่ข้อมือวูบหนึ่ง  แต่ดาบยังคงไม่หลุดออกจากมือ  หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นดาบคงจะหลุดออกจากมือไปแล้ว   แต่กาลอสถือว่าเป็นคนเก่งคนหนึ่งในชมรมนักสู้ศักดิ์สิทธิ์   การฝึกฝนจึงไม่ธรรมดา

    กาลอสแม้จะรู้สึกชาวูบที่ข้อมือข้างขวา  แต่ยังคงมีสติแจ่มชัด   ใช้หมัดซ้ายต่อยใส่ดีว่า   แต่ดีว่าก็เอี่ยวตัวหลบได้ทัน   กาลอสหมุนตัวครั้งหนึ่งสะบัดดาบใส่ดีว่าอีกครั้ง

    ‘ เช้ง ’

    ดีว่าใช้กระบี่ของตัวเองรับดาบของกาลอสไว้ได้   ทั้งคู่ตอนนี้อยู่ในสภาพประลองกำลังกันอยู่    เสียงเชียร์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง   นักเรียนที่มาชมต่างลุ้นกันอยู่ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะในการประลองกำลังครั้งนี้

    “ โอ้ สุดยอดจริงๆครับ  การต่อสู้ในรอบนี้   ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังรับดาบ และกระบี่ของฝ่ายตรงข้ามอยู่  ใครจะเป็นผู้ที่ต้องถอนกำลังออกไปก่อนกันแน่  ผมนี่ดาไม่ถูกจริงๆเลยละครับ ”

    เด็กชายนักประกาศกล่าวอย่างตื่นเต้น

    ส่วนด้านวีวี่ก็ลุ้นอย่างสุดใจและเด็กนักเรียนหญิงอีกสองคนก็กำลังเชียร์กาลอสแข่งกับเธออย่างสุดใจเช่นกัน

    ทั้งสองใช้พลังต้านรับกันอยู่อย่างมีสมาธิ  โดยไม่มีวี่แววว่าจะถอนกำลังออกเลยแม้แต่น้อย   กาลอสเองนั้นก็เชื่อในพลังของตัวเองที่ฝึกฝนมามาก    เขาเชื่อแน่ว่าผู้ที่ชนะจะต้องเป็นเขาแน่นอน 

    กาลอสขณะกำลังจะแย้มยิ้มนั้น  เมือคิดว่าตนเองเงยหน้าขึ้นจะต้องพบสีหน้าที่วิตก หวาดกลัวของดีว่า  แต่แล้วเมื่อเงยหน้าขึ้นกับพอว่าดีว่านั้นแย้มยิ้มให้เขาอยู่ก่อนแล้ว  โดยไม่มีวี่แววเหน็ดเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย

    แม้แต่เหงื่อสักเม็ดก็ไม่มีให้เห็น !!!

    ดังนั้นตอนนี้กาลอสกลับเป็นฝ่ายเหงื่อตกแล้ว

    ‘ ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ ในชมรมของเรา  คนที่ฝึกเทคนิคด้านพลังมามากอย่างเรา  ทำไมเจ้าหมอนี่ถึงสามารถต้านรับดาบของเราได้  มิหนำซ้ำด้วยกระบี่ที่เล็กกว่า เบากว่าขนาดนั้นต้องใช้แรงมากกว่าด้วยซ้ำ  ทำไมถึง…………?! ’

    กาลอสเริ่มรู้แล้วว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไปตนเองรังแต่จะเสียพลังไปเปล่าๆ  แต่หากเป็นเช่นนั้นจริงตนเองจะต้องผ่ายแพ้แน่นอน  ดังนั้นจึงตัดสินใจใช้ไม้ตายเพื่อตัดสินผลแพ้ชนะ

    “ ย๊าก!! ”

    กาลอสลากดาบของตนเฉียงครูดกับกระบี่ของดีว่า  สลัดการปะทะกันออก   จากนั้นถอยไปด้านหลังเล็กน้อย   ส่วนดีว่ายังคงยืนสงบนิ่งไม่ไหวติง    เสียงเชียร์ดังขึ้นรอบห้องอีกครั้งหนึ่ง

    การประลองกำลังครั้งนี้แม้ไม่อาจเห็นผลแพ้ชนะแน่ชัดกับตา   แต่หลายคนก็เห็นแล้วว่าท่าทีของดีว่าเหนือกาลอสอยู่ขั้นหนึ่ง

     

     

     

    “ ไม่เห็นจะเก่งอย่างที่พวกเธอว่าเลยนี่ กาลอสคนนี้น่ะ  ดูสิท่านดีว่ายังแทบจะไม่เป็นอะไรเลยด้วยซ้ำ ”

    วีวี่หันไปกล่าวกับเด็กนักเรียนหญิงทั้งสอง   ซึ่งทั้งสองก็ไม่ได้กล่าวอะไร  เพียงหันมามองค้อนใส่วีวี่เท่านั้น   คล้ายเป็นการบอกว่า ‘ คอยดูไปก่อนเถอะ ’

    กาลอสตั้งท่าเตรียมจู่โจมอีกครั้ง   ดีว่านั้นเดิมทีก็ไม่เคยประมาทคู่ต่อสู้อยู่แล้ว  ยิ่งคู่ต่อสู้เช่นกาลอสแล้วยิ่งประมาทไม่ได้   

    ดังนั้นเมื่อเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไป  ก็เตรียมตั้งรับการจู่โจม  พร้อมกับเตรียมตัดสินผลแพ้ชนะ   ในกระบวนท่าต่อจากนี้ทันที

    “ เอาละนะ  ผมะแสดงให้ดู  ท่าไม้ตายของผม  เตรียมตัวแพ้ได้เลยดีว่า !!! ”

    “ น้อมรับคำท้า ”

    จากนั้นเหตุการณ์คล้ายเกิดขึ้นเพียงพริบตาเดียวเท่านั้น  กาลอสวิ่งพุ่งเข้าหาดีว่า   ขณะนี้รอยู่ห่างจากดีว่าไม่มากนัก   แต่ท่าร่างยังคงเหมือนเดิม  ไม่มีการพลิกแพลงใดๆ   

    ดูๆไปไม่ต่างจากการวิ่งเข้าหาธรรมดาๆสักเท่าไหร่    แต่แล้วขณะที่เข้าใกล้ดีว่าจนเกือบจะถึงตัวนั้น   กาลอสก็กระโดดหมุนตัวขึ้น     ความเปลี่ยนแปลงในการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาจริงๆ  

    ดาบของกาลอสตอนนี้หลุดหายออกไปจากมือของเขาเสียแล้ว

    ใช่เป็นฝีมือการปลดอาวุธของดีว่าหรือไม่ ?

    ไม่ใช่ !! นี่ไม่ใช่ฝีมือการปลดอาวุธของดีว่า   แต่จู่ๆดาบของกาลอสก็หายไป  

    กาลอสกระโดดพุ่งหาดีว่ารวดเร็วกว่าเดิม   เมื่อน้ำหนักของดาบหายไปความเร็วก็เพิ่มขึ้นขั้นหนึ่ง   แต่เพียงคำว่าขั้นหนึ่งนั้นก็ทำให้การต่อสู้หลายต่อหลายคู่นั้นสามารถเห็นผลได้

    ดีว่าเองแม้เตรียมตั้งรับอยู่แล้ว   แต่การโจมตีครั้งนี้ของกาลอสรวดเร็วเกินไป  เหนือความคาดหมายเกินไป   กาลอสพุ่งเข้าหาดีว่าจนห่างเพียงไม่กี่เซ็นต์เท่านั้นในตอนนี้

    ดีว่าตวัดกระบี่วูบหมายแทงเข้าที่คอหอย  แต่กระบี่นี้เบี่ยงจุดตายไปเพียงเล็กน้อย  ดังนั้นจึงไม่ถูกคอหอยของกาลอส  แต่แทงถูกบริเวณหัวไหล่แทน

    ไม่ใช่เพราะฝีมือของดีว่าไม่แม่นยำพอ  แต่ในสภาวะการณ์เช่นนี้การโต้กลับไปของดีว่าครั้งนี้ได้นั้นก็นับว่าเก่งมากแล้ว

    ดังนั้นการตัดสินแพ้ชนะคล้ายกำลังจะแสดงผลเต็มทีแล้ว

    ดีว่ารู้สึกที่แขนทั้งสองข้างตึงวูบ    ขณะนี้เขาถูกกาลอสลอกตัวไว้แล้ว !

    “ โอ้ อะไรกันครับเนี่ย  ดีว่าถูกกาลอสล็อคตัวเอาไว้ได้แล้วละครับ   แล้วดาบของกาลอส!!........... ดูสิครับ อยู่นั่นเอง นั่น………..!!! ”

    ภาพที่ปรากฎแก่ทุกสายตาก็คือ ดาบของกาลอสกำลังพุ่งดิ่งลงจากอากาศ   หากดีว่าไม่สามารถหลบรอดจากการล็อคครั้งนี้ไปได้  ดาบของกาลอสจะต้องปักใส่ศีรษะของดีว่าอย่างแน่นอน  ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เขาจะต้องผ่ายแพ้แน่นอน

    “ ท่าไม้ตายของผมก็คือ กิโยติน !!! ”  กาลอสหัวเราะอย่างสะใจ  “ ลาก่อนดีว่า ”

    ในชั่วพริบตานั้นเองดีว่าพยายามจะดิ้นให้หลุดจากการล็อคของกาลอส  แต่พริบตาที่เขาถูกล็อคตัวไว้  สมองของเขาก็บอกแล้วว่าไม่สามารถดิ้นหลุดได้อย่างแน่นอน

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ดาบของกาลอสถูกโยนขึ้นกลางอากาศนับได้ทั้งสิ้นเพียงแปดวินาทีเท่านั้น

    แปดวินาที ที่ดาบของกาลอสจะปักเข้าใส่ดีว่า

    ตั้งแต่ดีว่าถูกล็อคก็ผ่านไปสองวินาทีแล้ว 

    สามวินาที!! เมื่อดีว่าพยายามลองสลัดตัวเองให้หลุด

    ห้าวินาที !!  เมื่อดีว่าเริ่มหยุดการเคลื่อนไหว

    หกวินาที !!

    เจ็ดวินาที !!

    และ

     

    วีวี่แทบไม่อยากจะมองภาพที่อยู่ตรงหน้าเธอ  แม้แต่วาเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าดีว่าจะแพ้แล้วจริงๆ ในวินาทีที่ห้าเด็กนักเรียนหญิงสองคนก็ยิ้มอย่างผู้มีชัยชนะแล้ว  

    ไม่ว่าใครก็ทราบว่า ดีว่าต้องแพ้แน่นอน…………ไม่ว่าใครก็ตาม

    แม้แต่กาลอสเองก็ไม่คิดว่าดีว่าจะชนะได้

    แต่หากจะบอกว่าไม่มีใครคิดว่าดีว่าจะรอดได้   อย่างน้อยยังมีคนผู้หนึ่งคิด

    คนๆนั้นก็คือ ตัวของดีว่าเอง!!! 

     

     

                                  

    วินาทีที่แปด!!!

     

    “ ลมปราณสายที่สี่  กระบวนท่าปลดอาวุธ!!! ”

     

    ร่างของกาลอสคล้ายถูกแรงระเบิดมหาศาลซัดใส่   เหตุการณ์เกิดขึ้นเรียกได้ว่า เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น  กาลอสรู้สึกร่างกายชาด้านไปทั้งตัว บังคับร่างกายไม่ได้  ตัวกระเด็นออกไปอย่างรวดเร็ว 

    แต่จู่ๆก็รู้สึกว่าแขนของตนเองถูกล็อคไว้พร้อมกับการถูกเหวี่ยงตัว

    ‘ ฉึก !!’

    ดีว่าเหวี่ยงตัวของกาลอสเป็นโล่ห์กำบังดาบของกาลอสที่พุ่งปักลงมา  ไลฟ์พอต์ยของกาลอสลดลงเหลือเพียงแค่ 10 หน่วยเท่านั้น

    เหตุการณ์ครั้งนี้จะเรียกได้ว่า ปาฎิหาร์ย ก็ว่าได้   แต่สำหรับตัวดีว่าแล้วยังนับว่าแค่ลุ้นระทึกนิดหน่อยเท่านั้น

     

    ดีว่าเมื่อถูกล็อคไว้ครั้งแรกก็รู้แล้วว่า ตนเองไม่สามารถใช้พลังต้านพลังของกาลอสได้   ดังนั้นเพียงแค่ชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น  ดีว่าก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้  ดังนั้นจึงได้รีบโคจรลมปราณขึ้น

    และผลก็ออกมาเป็นดังที่ได้เห็น

    เสียงปรบมือดังขึ้นลั่นห้อง   เด็กนักเรียนหญิงสองคนก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง   วีวี่นั้นตกใจสุดขีด   เรื่องที่เกิดขึ้นสำหรับเธอแล้ว  เป็นเรื่องที่น่าตกใจที่สุดสำหรับปีนี้เลยก็ว่าได้

    กาลอสล้มลงกับพื้น  พร้อมกับดาบของเขา

    “ เป็น เป็นไปไม่ได้  ทั้งๆที่  ทั้งที่คุณถูกล็อคไว้แท้ๆ ทำไม? ”

    ดีว่าเห็นกาลอสไม่คิดจะสู้อีกดังนั้นจึงกล่าวขึ้นว่า

    “ ดาบของคุณใช่อาวุธหรือไม่ ”

    กาลอสไม่ตอบ แต่ก็เหมือนกับตอบแล้ว

    “ แต่คนเมื่อไม่มีดาบ การใช้ร่างกายโจมตีนั้นก็นับว่าเป็นอาวุธได้เช่นกัน ใช่หรือไม่ ”

    ดีว่ากล่าวถึงตอนนี้กาลอสก็งงเล็กน้อย  แต่ก็ไม่ทันที่จะคิดอะไร  ดีว่าก็กล่าวต่อ

    “ ดังนั้นเมื่อเป็นอาวุธ  กระบวนท่าปลดอาวุธของผม  ก็ย่อมสามารถปลดอาวุธได้เช่นกัน ! ”

    กาลอสเมื่อได้ยินเช่นนี้ก็หัวเราะออกมา

    “ อย่างนี้นี่เอง ร้ายกาจมาก  พลังลมปราณของคุณสมกับที่ได้ยินคำร่ำลือมาจริงๆ   ผมขอยอมแพ้ ”

    ถึงตอนนี้ดีว่าก็ยิ้มออกมาแล้ว

    “ ถ้าอย่างนั้นก็พบกันใหม่โอกาสหน้า ”

    “ แต่ก่อนหน้านั้นผมมีความลับอะไรจะบอก ”  กาลอสที่นอนคว่ำอยู่กับพื้นกล่าวขึ้น  ทำให้ดีว่าต้องหันกลับไปมองอย่างสนใจ

    “ อะไรหรอครับ ”

    “ การหลอกลวงก็เป็นอาวุธได้เช่นกัน !!! ”  พริบตานั้นร่างของกาลอสก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นทันที   กาลอสทั้งไม่ได้หยิบฉวยของเขาขึ้นมา   แต่ในมือกลับเพิ่มมีดสั้นขึ้นเล่มหนึ่ง  การลงมือของกาลอสครั้งนี้นับว่าเหนือความคาดหมายของทุกคนเป็นอย่างมาก

    ยิ่งไม่มีใครคาดคิดมาก่อนได้ว่า  กาลอสจะมีมีดสั้นติดตัวมาอีกเล่มหนึ่ง   เป้าการโจมตีของกาลอสครั้งนี้เล็งที่จุดหัวใจของดีว่า   ซึ่งท่าตั้งรับของดีว่านั้นได้ยกเลิกไปตั้งแต่ที่ดีว่าได้ยินกาลอสกล่าวคำว่า ยอมแพ้ แล้ว

    อย่างที่กาลอสพูดไว้ไม่ผิดจริงๆ  การหลอกลวงก็เป็นอาวุธได้เช่นกัน  ดังนั้นผู้คนมากมายที่หลงเชื่อใจคนที่หลอกลวงนั้น  จึงได้ถูกแทงเข้าใส่ไม่รู้กี่คนต่อกี่คนแล้ว  

    ทั้งๆที่อุส่าห์ให้ความเชื่อใจ  แต่ทำไมถึงยังแทงใส่กันได้ ?

    การโจมตีของกาลอสครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพราะจนตรอก  หากแต่ก็เป็นหนึ่งในไม้ตายก้นหีบของเขา   ที่เขาแอบฝึกฝนอย่างลับๆ  ไม่ว่าใครก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าคนอย่างกาลอสจะฝึกท่าไม้ตายแบบไร้ศักดิ์ศรีเช่นนี้

    แม้แต่เคออสหัวหน้าทีมของเขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนเช่นกัน

    ได้ยินเสียงไซโคร แนชกล่าวอย่างเลื่อนลอยว่า

    “ พลาดเสียแล้ว ”

    ใช่แล้วดีว่า พลาดเสียแล้ว  พลาดที่เชื่อใจความีศักดิ์ศรีของคนอย่างกาลอส

    การลงมือครั้งนี้ของกาลอสต้องประสบผลแน่นอน  เพราะการฝึกฝนอย่างชำนาญไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้ง

    มีดสั้นของกาลอสแทงใส่บริเวณหัวใจของดีว่าแล้ว

    แทงใส่แล้วชัดๆ!!!

    ‘ ฉิ้ง! เช้ง ! ’

    ได้ยินเพียงสองเสียงเท่านั้น  จากนั้นร่างของกาลอสก็กระเด็นล้มลงไปอีก  แต่ครั้งนี้คงไม่สามารถลุกขึ้นมาลอบกัดได้อีกแล้ว  นั่นเพราะไลฟ์พอต์ยของเขาเหลือ 0 หน่วยแล้ว  ซึ่งก็หมายความว่า กาลอสแพ้แล้ว

    “ อะไรกัน เป็นไปไม่ได้ !! ” กาลอสคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด   ส่วนดีว่านั้นเก็บกระบี่คืนฝักจากนั้นกล่าวเพียงสั้นๆว่า

    “ การหลอกลวงเมื่อเป็นอาวุธ  ผมก็จำเป็นจะต้องปลดอาวุธที่ชั่วร้ายนั้นทิ้งเสีย ”

    การหลอกลวงเป็นอาวุธที่ชั่วร้ายถึงเพียงไหน  ทำร้ายจิตใจผู้คนมามากมายสักเท่าไหร่  

    ได้ยินเสียงเค้นหัวเราะของไซโคร แนช

    “ ที่พลาดน่ะ มันแกต่างหากที่คิดจะใช้วิธีสกปรกแบบนี้   ไม่สมกับเป็นนักสู้ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ” จากนั้นก็กล่าวต่อ “ คนอย่างเจ้านั่น  ไม่เคยประมาทคู่ต่อสู้จนกว่าผลจะออกมาจริงๆแล้วหรอกนะ ”

    ที่ดีว่าชนะได้นั้นไม่ใช่เพราะดีว่าไม่เชื่อใจ ไม่เชื่อในความมีศักดิ์ศรีของก่าลอส  ถ้าจะถามว่าดีว่าเชื่อหรือไม่นั้น  ตอบได้เลยว่าเชื่อ

    แต่ที่ทำให้เขาชนะนั่นก็เพราะคำเพียงสั้นๆ นั่นก็คือ ‘ ความไม่ประมาท’ นั่นเอง

     

     

    “ และผู้ชนะของคู่นี้ก็คือ ดีว่า นั่นเองคร๊าบ!!!! ”

    เด็กนักเรียนหญิงสองคนนั้น  แม้ตนเองจะรู้สึกเสียหน้าก็ตาม   แต่เมื่อเห็นการใช้วิธีสกปรกของกาลอสแล้วก็อดที่จะหันมาศรัทธาในตัวดีว่าไม่ได้

    “ เป็นไงละ กาลอสของพวกเธอ  ที่แท้ก็ดีแต่ใช้วิธีสกปรก  ฝีมือก็ไม่เห็นจะสักเท่าไหร่  สู้ท่านดีว่าก็ไม่ได้ ”

    วีวี่กล่าวเสียดสี  เธอคิดว่าจะต้องได้ยินข้อแก้ตัวต่างๆจากนักเรียนหญิงทั้งสองคนแน่นอน  แต่สิ่งที่เธอได้ยินกับหูนั้น  ทำให้เธอแทบจะไม่เชื่อจริงๆ

    “ จริงด้วย สู้ท่านดีว่าของพวกเราก็ไม่ได้เนอะ ”

    วีวี่ทำหน้างง

    “ หา พวกเธอว่าอะไรนะ  ท่านดีว่าของใครนะ ”

    “ ก็ท่านดีว่าของพวกเราไง  เราเปลี่ยนใจแล้วละ  เราจะหันมาเชียร์คนที่ชื่อดีว่าแทน  เพราะเขาทั้งเก่ง ทั้งน่ารักมากเลยละ ”

    ครั้งนี้เล่นเอาวีวี่เป็นฝ่ายหน้าบึ้งแทน  เท่านั้นยังไม่พอ  ได้ยินเสียงมิวพูดขึ้นว่า

    “ ดูท่าคู่แข่งของเธอจะเพิ่มมาอีกสองคนแล้วนะ  ยินดีด้วย ฮ่าๆๆๆๆ ”

    “ หนอย  อย่ามาแหย่เราน้า ”

    วีวี่ทุบใส่แขนของมิว

    “ โอ๊ย นี่เธอ แรงเยอะขนาดนี้ ไม่ไปแข่งประลองอาวุธซะเองเลยละ !! ”

    จากนั้นได้ยินเสียงหัวเราะจากเบต้า พิชากิ ซักก้า แม้แต่เสือใบ้นิคก็อดที่จะแอบขำทั้งสองคนนี้ก็ไม่ได้  ที่เป็นคู่กัดกันมาตลอดจริงๆ

     

     

    ขณะที่ทั้งสองคนกำลังทะเลาะกันอยู่นั้น ก็พบว่าที่บนเวทีไซโคร แนช และคู่ต่อสู้อีกคนได้ก้าวขึ้นไปบนเวทีแล้ว   ซึ่งคู่ต่อสู้ของไซโคร แนชครั้งนี้ชื่อ เคออส เป็นหัวหน้าทีมเคออสนั่นเอง

    เคออสรูปร่างคล้ายคลึงกับโซโคร แนช และอาวุธที่ใช้ก็เป็นดาบคู่เช่นเดียวกับไซโคร แนชด้วย

    “ ไม่ได้เจอกันซะนานนะ เจ้าชาย ”

    ไซโคร แนชไม่ตอบ เขาเพียงได้ยินคำว่าเจ้าชายก็อดเจ็บอยู่ในใจลึกๆขึ้นมาไม่ได้  ความรู้สึกแค้นภายในใจคล้ายปะทุขึ้นมาทันที

    “ ต้องขอโทษจริงๆ ที่ลูกทีมของชั้นแสดงอะไรทุเรศๆออกมาให้เห็น ”  จากนั้นควงดาบคู่ไปมา “ ขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่า  ถึงนายจะได้เป็นพาลาดินแล้วก็ตาม  แต่ก็อย่าลืมซะละว่าชั้นก็เกือบจะได้เป็นเหมือนกัน!!! ”

    ประกายตาของเคออสคล้ายมีเปลวไฟลุกโชติช่วงขึ้นมาแวบหนึ่ง  ( ประวัติของเคออส หาอ่านได้จากบทเรียนพิเศษ )

    “ เจ้ายังคิดถึงเรื่องเมื่อตอนนั้นอยู่อีกหรือ ”

    “ หึหึ ใช่ การสอบเลื่อนขั้นคราวนั้น  ถ้าตำแหน่งพาลาดินมีได้สองตำแหน่งก็คงจะดีสินะ ”

    ไซโคร แนชไม่กล่าวอะไรอีก  ตอนนี้เขาไม่อยากที่จะนึกถึงอดีตอะไรอีกแล้ว 

    “ เจ้าพูดพอหรือยัง ”

    “ หึ วันนี้ชั้นจะแสดงให้ดูว่า  ถึงแม้ชั้นจะไม่ได้เป็นพาลาดิน  แต่ก็จะเอาชนะพาลาดินอย่างนายให้ดู เตรียมตัวให้ดีเจ้าชาย!!! ”

    ได้ยินคำว่า เจ้าชาย ซ้ำครั้งที่สองไซโคร แนชก็หมดความอดทนแล้ว

    ดาบคู่ของเขาปรากฎประกายสายฟ้าขึ้นทันที

    เด็กชายนักประกาศเมื่อรู้สึกถึงไอของการต่อสู้แผ่พุ่งออกมา  ก็ประกาศเริ่มการแข่งขันทันที

    ดาบคู่ของเคออสแม้ไม่มีประกายสายฟ้า  แถมยังสั้นกว่าของไซโคร แนช  แต่ไม่ว่าใครก็ตามหากได้เห็นละก็จะทราบว่า ไม่ได้ด้อยไปกว่าดาบคู่ของไซโคร แนชเลยแม้แต่น้อย

    หากจะบอกว่าไซโคร แนชเป็นคนที่เก่งที่สุดในชมรมนักสู้ศักดิ์สิทธิ์   ถ้าอย่างนั้นหากจะกล่าวว่าคนที่เก่งรองลงมาเป็นเคออสก็นับได้ว่ากล่าวไม่ผิด

    และหากจะบอกได้ว่าคนที่จะสามารถล้มไซโคร แนชได้ในชมรมนั้นคือ เคออส คนเดียวเท่านั้นก็ไม่ผิดอีกเช่นกัน

    เคออส นั้นแม้จะเป็นนักสู้ศักดิ์สิทธิ์  แต่ก็มีฝีมือในการต่อสู้ทางสายอัศวินด้วย  และด้วยฝีมืออันร้ายกาจของเขาก็ไม่แปลกที่จะได้รับสมญานามว่า ‘ เคออสไนท์ อัศวินแห่งความสับสน’

     

     

    เมื่อการประกาศเริ่มการแข่งขันเริ่มขึ้นทั้งสองก็ลงมือพร้อมกันทันที   คล้ายกับเตรียมตัวกันมาก่อนหน้านี้แล้วทั้งคู่

    การลงมือของทั้งคู่แทบจะเรียกได้ว่า พร้อมเพรียงกันเลยก็ว่าได้

    ไซโคร แนช และเคออสพุ่งเข้าหากันด้วยความรวดเร็ว   ดาบคู่ในมือทั้งสองคนปะทะกันอย่างจัง  ได้ยินเสียง ‘ เช้ง ’ หนึ่งจากนั้นทั้งคู่ก็ประกำลังกัน

    “ ไม่เลวนี่ ”

    เคออสแย้มยิ้มขณะกำลังปะทะดาบกับไซโคร แนชอยู่

    ไซโคร แนชไม่ตอบกระแทกดาบคู่ของตนเองออก   ยันเคออสออกจากนั้นตวัดดาบเข้าหาเคออสอีกอย่างไม่หยุดหยั้ง

    แต่ไม่ว่าไซโคร แนชจะลงมืออย่างไรเคออสก็สามารถรับดาบของไซโคร แนชได้หมด   และไซโครแนชเองก็สามารถรับดาบของเคออสได้หมดเช่นกัน

    “ ช่างเป็นคู่ต่อสู้ที่สูสีกันจังเลยว่าไหม คุณเด๋อ ”

    โซเฟียหันไปกล่าวกับวา  ซึ่งวาก็พยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย

    ทั้งคู่ประดาบกันอยู่พักใหญ่โดยไม่มีทีท่าว่าฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายหยุดมือก่อนเลย   กระบวนท่าที่ฟาดฟันใส่กันก็ดุดัน และรวดเร็วอย่างยิ่ง

    จนในที่สุดทั้งสองก็ถอยห่างออกจากกัน  ราวกับนัดกันไว้

    เคออสยิ้มขึ้นอีกครั้ง

    “ ไม่เลวเลยจริงๆ แต่สงสัยจะได้เวลาเอาจริงกันแล้วนะ ”

    “ หึ ” ไซโคร แนชเค้นหัวเราะ

    “ ทำไมไม่ลองใช้ลมปราณสายฟ้ามาล้มชั้นดูละ ”

    ไซโคร แนชเพียงตอบกลับไปสั้นๆ

    “ นั่นไม่จำเป็น ”

    สีหน้าเคออสก็แปรเปลี่ยนไป

    “ ถ้าคิดว่าสามารถเอาชนะชั้นได้โดยไม่ใช่ลมปราณสายฟ้าละก็นายคิดผิดแล้ว ”

    “ นั่นก็ต้องดูกันเอาเอง ”

    ที่ไซโคร แนชไม่ยอมใช้ลมปราณสายฟ้านั่นก็เพราะ เขาอยากจะเอาชนะเคออสในฐานะนักสู้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยกัน  และก็เพื่อเป็นการฝึกตนเองไปในตัวด้วย   อีกทั้งเพื่อเป็นการไม่แสดงฝีมือในคนอื่นเห็นมากนัก   เนื่องจากอาจมีใครกำลังบันทึกข้อมูลของเขาอยู่ก็เป็นได้

    แต่สำหรับเคออสแล้วคล้ายเป็นการดูถูกชนิดหนึ่ง  ดังนั้นเคออสจึงโมโหอย่างมาก

    “ ชั้นจะทำลายความมั่นใจของนายให้หมดสิ้นเลยคอยดู !!! ”

    ว่าแล้วเคออสก็ตวัดดาบคู่ไปมา  ลักษณะการตวัดดาบคล้ายไม่ตั้งใจ  คล้ายตั้งใจ ดูแล้วสับสนวุ่นวาย แต่ในความสับสนคล้ายมีกระบวนท่าแอบแฝงอยู่  ทั้งยังแฝงพลังอันน่าสะพรึงกลัวอยู่มากมาย

    “ รับมือ !!! ”

    ว่าแล้วเคออสก็พุ่งตัวเข้าหาไซโคร แนชทันที

    ไซโคร แนชยังคงยืนสงบนิ่งเหมือนเช่นทุกครั้ง   ท่าตั้งรับก็เพียงเป็นการยืนอยู่เฉยๆกับที่เท่านั้น  

    ดาบของเคออสด้านขวาตวัดใส่ไซโคร แนชด้วยความรวดเร็ว  แต่ไม่ทันที่ดาบข้างขวาจะถึงตัวไซโคร แนชดาบข้างซ้ายก็ตวัดขึ้นมาเร็วกว่าดาบด้านขวาเสียอีก

    นับว่าเป็นกระบวนท่าหลอกล่อที่ร้ายกาจมากเลยทีเดียวใช้ดาบขวาล่อคู่ต่อสู้ให้หลงเตรียมป้องกัน  แต่ที่โจมตีจริงกลับเป็นซ้าย 

    แต่ไซโคร แนชกลับตวัดดาบขึ้นตั้งรับก็ด้านขวาก่อน ?

    ‘ เช้ง เช้ง ’

    ดาบคู่ของไซโคร แนชรับดาบข้างขวาของเคออสไว้ได้  ก่อนที่ดาบข้างซ้ายของเคออสจะฟันออก และถูกไซโคร แนชกันไว้ได้อีกครั้ง

    ที่แท้กระบวนท่าของเคออสยังไม่ได้สิ้นสุดเพียงเท่านั้นการโจมตีของดาบข้างขวาจึงเป็นการโจมตีที่แท้จริง  แต่การโจมตีด้านซ้ายซึ่งทำเหมือนจะดูเร็วกว่านั้นความจริงเป็นเพียงการหลอกล่อเท่านั้น

    กระบวนท่าเช่นนี้หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นคงต้องโดนดาบทั้งสองเล่มฟันใส่หลายดาบไปแล้ว  แต่ไซโคร แนชคล้ายรู้ทันกระบวนท่าของเคออสอย่างชัดแจ้ง

    “ ดี ” เคออสกล่าว จากนั้นตวัดดาบของอย่างวุ่นวาย  กระบวนท่าที่ใช้ก็สับสนวุ่นวายคล้ายกับการโจมตีเมื่อสักครู่   ทั้งหลอกซ้ายขวา  ทั้งโจมตีบนล่าง โจมตีกลับหลังไปมา

    การโจมตีของเคออสความจริงเพียงแค่ความรวดเร็วก็สามารถล้มคู่ต่อส้ได้ในเวลาอันสั้นแล้ว  ยังไม่รวมท่าหลอกล่ออีกมากมาย

    แต่ไซโคร แนชก็ยังคงสามารถรับดาบของเคออสได้อย่างไม่พลาดพลั้งสักครั้งเดียว

    “ ฝีมือพัฒนาขึ้นมากนะ ”

    “ เจ้าก็เช่นกัน ” ไซโคร แนชตอบเคออส

    การต่อสู้ครั้งนี้เริ่มมาเป็นเวลาสองสามนาทีแล้ว  แม้จะเป็นเวลาเพียงแค่สองสามนาที  แต่หากเป็นผู้เข้าแข่งเองจะทราบว่าเป็นเวลาที่ยาวนานพอสมควร   ยิ่งหากเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้เก่งๆ   พลังที่ใช้ก็จะต้องใช้ออกมากตามไปด้วย   

    แต่ที่น่าสนใจที่สุดก็คือ  ทั้งสองฝ่ายยังไม่มีฝ่ายไหนถูกโจมตีใส่เลยแม้แต่น้อย

    “ ท่าทางจะไม่จบง่ายๆเลยนะเนี่ยคู่นี้ ”  วากล่าวพร้อมลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ

    “ ไม่หรอกครับ ” ดีว่ากล่าว

    “ ทำไมหรอ ก็ยังไม่เห็นว่าใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบเลยนี่ ”

    “ การต่อสู้ครั้งนี้ยังไม่มีฝ่ายไหนได้เปรียบ หรือถูกโจมตีก่อนก็จริง  แต่ก็เพราะยังไม่มีฝ่ายไหนพลาดท่าก่อนเลยนะสิครับ………” ดีว่าชี้ไปยังไซโคร แนชและเคออส

    “ ทั้งสองฝ่ายตอนนี้ไม่ใช่แค่ประมือกันเล่นๆนะครับ  แต่เป็นการดูกระบวนท่าของอีกฝ่ายกันอยู่  ถ้าฝ่ายไหนดูกระบวนท่าของอีกฝ่ายหนึ่งออกก่อน  การต่อสู้ครั้งนี้ก็จะถูกตัดสินกันในกระบวนท่าเดียว ”

    “ งั้นก็หมายความว่าใครเป็นฝ่ายถูกโจมตีก่อนก็เป็นฝ่ายแพ้อย่างนั้นหรอ ”

    ดีว่าส่ายหน้า

    “ อันนี้ผมเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน ”

    “ แต่ว่ายังไงรุ่นพี่ไซโคร แนชก็คงจะชนะอยู่ดีละนะ ” วายิ้ม “ เพราะดูจากการโจมตีของเคออสแล้ว เหมือนใช้แต่กำลังเสียมากกว่า โจมตีโน่นโจมตีนี่ มั่วน่าดูเลย ”

    คราวนี้ดีว่าส่ายหน้าอีกครั้ง

    “ ไม่หรอกครับ ที่น่ากลัวก็คือ การโจมตีที่มั่วแบบนั้นแหละครับ ”

    วาทำหน้าสงสัย

    “ เพราะไม่รู้ว่าคู่ต่อสู้จะโจมตีทางไหนเลยไม่สามารถป้องกันได้ถูก ถ้าป้องกันพลาดก็จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที และในอีกทางหนึ่งเมื่อถูกโจมตีใส่อยู่อย่างเดียวก็จะโต้กลับไปได้ยากมาก ”

    “ แต่ยังไงรุ่นพี่ก็ยังป้องกันได้ไม่พลาดสักครั้งเลยนิ ”

    “ นั่นเป็นเพราะการใช้ ‘ปฎิกิริยารีเฟร็ก’ น่ะสิครับ ”

    “ มันคืออะไรหรอ ”

    “ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เวลาเราเห็นหนังสือกำลังจะตก  บางครั้งมือของเราก็จะรีบคว้าออกไปรับก่อนที่สมองเราจะสั่งการ หรือการกระพริบตาเมื่อมีอะไรกำลังจะเข้าตา ทำนองนั้นละครับ  เป็นการที่ปฎิกิริยาในร่างกายตอบสนองก่อนที่สมองจะสั่งการ ซึ่งใช่ว่าเราจะสามารถใช้มันได้เอง  แต่ในกรณีของรุ่นพี่ที่สามารถใช้ได้ก็เพราะเป็นการใช้ลมปราณสายฟ้าควบคุมปฎิกิริยาการตอบสนองของร่างกาย  ทำให้สามารถเคลื่อนไหวตัวเองได้ก่อนที่สมองจะสั่งการ  หากไม่ใช่ผู้ที่ชำนาญจริงๆก็อาจะเป็นอันตรายได้ ”

    จากนั้นดีว่าก็กล่าวต่ออย่างจริงจัง

    “ และที่สำคัญผมคิดว่าการใช้วิธีแบบนั้นไม่สามารถใช้ได้ในระยะเวลานานๆด้วยสิครับ  หากเคออสยังโจมตีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆแล้วละก็……………….”

     

     

    ‘ เช้งงงงงงงงงงงง ’

    ดาบของเคออสเกือบโจมตีใส่แขนขวาของไซโคร แนชได้แล้ว   แต่ไซโคร แนชยังคงสามารถป้องกันได้อย่างฉิวเฉียด   

    ดาบของเคออสกรีดผ่านดาบของไซโคร แนชส่งเสียงดังก้องไปทั่ว

    “ หึหึ ดูเหมือนว่าจะได้เวลาตัดสินกันแล้วสินะ ”

    ไซโคร แนชไม่ตอบคำ แต่เขาเองก็ทราบแล้วเช่นกันว่าถึงเวลาแล้ว

    “ เป็นยังไง เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาแล้วใช่ไหมละ ”

    เคออสกล่าวพร้อมตวัดดาบคู่ทั้งสองข้างเป็นวงใส่ไซโคร แนช  นี่เป็นเพียงกระบวนท่าโจมตีธรรมดาเท่านั้น  ความเร็วก็เรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่ไซโคร แนขสามารถป้องกันได้อย่างง่ายๆ

    แต่ทว่า……………..

    ‘ ฉับ !!! ’

    ดาบทั้งสองกลับสามารถฟันใส่ไซโคร แนชได้อย่างง่ายๆ ไลพ์พอตย์ของไซโคร แนชลดลงไป 1000 หน่วยทันที

    การโจมตีครั้งนี้สร้างความแปลกใจให้กับวาเป็นอย่างมาก  แต่คออสกลับแย้มยิ้มราวกับได้คาดการณ์ไว้ก่อนแล้วว่า การโจมตีครั้งนี้ต้องประสบผลสำเร็จแน่นอน

    “ เอาละในที่สุดก็รู้ผลกันแล้ว  ครั้งต่อไปนายจะต้องแพ้อย่างแน่นอน ”

    “ ไม่เลวนิ นี่สินะกระบวนท่าที่นายคิดค้นขึ้นมา ”

    “ หึหึ ใช่แล้วละ รู้สึกอย่างไรบ้างละเมื่อถูกไม้ตายของชั้น “โลกแห่งความสับสน’ เข้า ”

    การโจมตีของเคออสนั้นแม้จะดูสับสน มั่วซั่วแต่จริงๆแล้ว ทั้งหมดก็คือ กระบวนท่าที่เคออสคิดค้นขึ้นมานั่นเอง   ‘ โลกแห่งความสับสน ’  ไม่ใช่กระบวนท่าที่ใช้เพื่อล้มคู่ต่อสู้ในกระบวนท่าเดียว แต่เป็นการโจมตีไปเรื่อยๆเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดความสับสน  และเปลืองเรี่ยวแรง  ทั้งนี้การโจมตีด้วยความเร็วที่ต่างกันทำให้ความสามารถในการคำนวณการตั้งรับเสียไปด้วยเช่นกัน  

    และในที่สุดกระบวนท่าที่เคออสตั้งใจใช้ออกมาตั้งแต่แรกก็ส่งผลต่อไซโคร แนชแล้ว!!!

    “ ตอนนี้นายคงรู้สึกมึนงง จนเสียสมดุลย์ในตัวเองแล้วสินะ ” เคออสควงดาบ จากนั้นก็ตั้งท่าขึ้น “ และในที่สุดชั้นก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่า  คนที่คู่ควรจะได้รับตำแหน่งพาลาดินนั้นควรจะเป็นใครกัน  ลาก่อนนนนนนนน!!!! ”

    ไซโคร แนชแม้จะตั้งท่าเตรียมรับการโจมตีครั้งนี้แล้ว   แต่เขาเองก็ทราบดีว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร 

    ‘ โลกแห่งความสับสน งั้นรึ ? ถ้าหากว่า……………’

    เคออสตวัดดาบคู่ออกแล้ว  ไซโคร แนชเองก็เช่นกัน…………

     

    ประกายดาบคู่เปร่งออกมาเพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้น 

     

    ‘ เช้ง !! ’

     

    เสียงดาบคู่ตวัดใส่ชุดเกราะป้องกันดังสนั่น   และไลพ์พอตย์ที่เหลือ 0 หน่วย

     

    ไม่ว่าใครก็ไม่อาจเชื่อว่าไซโคร แนชจะแพ้จริงๆ    เคออสเองก็เช่นกัน  เขาเองก็ไม่คิดว่าคนอย่างไซโคร แนชจะแพ้เขาเอาง่ายๆ   แต่จะว่าง่ายก็ไม่ถูกต้อง  เพราะ ‘ โลกแห่งความสับสน ’ เป็นกระบวนท่าที่เคออสใช้เวลานานมากในการคิดค้นขึ้น และฝึกนานมากกว่าจะใช้ออกจนชำนาญ

    ทั้งสองคนยังกับยืนนิ่งอยู่บนเวที  หันหลังให้กัน   และแล้วเคออสก็หัวเราะออกมา

    “ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ฮ่าๆๆๆ ”  เคออสหัวเราะ แต่นั่นไม่ใช่เสียงหัวเราะที่ดีใจว่าตนเองชนะการประลองครั้งนี้

    ถึงแม้เคออสจะไม่คิดว่าไซโคร แนชจะแพ้ง่ายๆ  แต่ก็ไม่คิดว่าตนเองจะแพ้เช่นกัน   ดังนั้นเคออสจึงหัวเราะออกมาอย่างไม่หยุด

    “ เจ้าแพ้แล้ว !!! ”

    ไซโคร แนชไม่ได้แพ้จริง !!! ไลพ์พอตย์ของเขายังคงเหลือ 2000 หน่วย แต่เคออสต่างหากที่เป็นฝ่ายเหลือ 0 หน่วย

    ที่แท้เกิดอะไรขึ้นเมื่อสักครู่นี้กันแน่  แล้ว ‘โลกแห่งความสับสน’ ทำอะไรไซโคร แนชไม่ได้อย่างนั้นหรือ ?

    “ ฮ่าๆๆๆ เยี่ยมมาก ไม่ทำให้ชั้นผิดหวังจริงๆ ”  แทนที่จะเสียใจเคออสกลับยิ้มอย่างเป็นสุข

    “ เจ้าเองก็เหมือนกัน ”

    “ ขนาด ‘โลกแห่งความสับสน’ ยังไม่สามารถทำอะไรนายได้   ก็สมแล้วที่นายควรจะได้ตำแหน่งพาลาดินไป ”

    ไซโคร แนชหันกลับไปมองหน้าเคออสด้วยสีหน้าจริงจัง  จากนั้นกล่าว

    “ ผิดแล้ว ไม้ตายของเจ้าความจริงต่อให้เป็นข้าก็ไม่สามารถเอาชนะได้ ”

    “ แต่ว่า นายก็เอาชนะมาได้แล้วนิ ”

    “ นั่นเป็นเพราะว่า ข้ายังไม่ได้ถูกท่านี้เข้าจริงๆน่ะสิ !! ”

    เคออสทำหน้างงเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มออกมา

    “ ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เองสินะ  ที่ผ่านมานายจงใจทำเหมือนกับว่าตั้งรับมาตลอด และให้ชั้นเชื่อว่านายถูกกระบวนท่านั้นเข้าด้วยการยอมถูกโจมตีหนึ่งครั้งใช่ไหมละ ”

    ไซโคร แนชพยักหน้า

    ในตอนแรกไซโคร แนช ใช้ปฎิกริยารีเฟร็กเพื่อให้ร่างกายเคลื่อนไหวโดยไม่ต้องผ่านการควบคุมจากสมอง  ส่งผลให้ตัวเองไม่ถูกกระบวนหลอกเอา จึงไม่เกิดความสับสน   และการหลอกให้เคออสโจมตีเข้าหนึ่งครั้งเพื่อให้เคออสเตรียมตัวตัดสินกับตนเองภายในกระบวนท่าเดียว  แต่เคออสก็เข้าใจว่าไซโคร แนชถูกกระบวนนี้เข้าแล้ว  จึงเกิดช่องโหว่ 

    และไซโคร แนชก็อาศัยช่องโหว่นี้เองเอาชนะเคออสในกระบวนท่าเดียว

    “ ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนตอนที่ข้ายังไม่ได้เป็นพาลาดิน  หากเจ้าสามารถคิดค้นกระบวนท่านี้มาใช้ได้ในตอนนั้น  คนที่ได้เป็นพาลาดินคงเป็นเจ้าแล้ว  

    ไซโคร แนชกล่าว จากนั้นจ้องมองไปยังเคออส

    “ แต่สิ่งที่ข้าอยากจะบอกก็คือ ความแข็งแกร่งไม่ใช่คุณสมบัติเพียงอย่างเดียวเท่านั้น  แต่การจะเป็นพาลาดินได้นั้นยังต้องอาศัยจิตใจที่เข้มแข็งเพียงพอที่จะแบกรับสิ่งต่างๆ และเผชิญหน้าไปกับมันได้ด้วย !! ”

    “ ฮ่าๆๆๆ ”  เคออสหัวเราะ  “ หลวงพ่อเลือกไม่ผิดจริงๆ ตอนนี้ต่อให้ชั้นย้อนเวลาแล้วสามารถเอาชนะนายได้  ชั้นก็คิดได้แล้วว่า  คนที่คู่ควรก็คือ นายอยู่ดี เพียงแต่ว่า………”

    “ ไม่หรอก  ตอนนี้ข้าไม่มีความเหมาะสมอีกต่อไปแล้ว เจ้าต่างหากที่ยังมีจิตใจที่เข้มแข็งกว่าข้าเสียอีก !! ”  ไซโคร แนชกล่าวเสียงแข็ง  แต่ตามองต่ำลงพื้น คล้ายคิดอะไรออกมามากมาย

    เคออสเดินเข้าไปหาไซโคร แนชพร้อมกับเอามือวางบนบบ่าไซโคร แนช

    “ ไม่ต้องพูดอะไรอีกต่อไปแล้วเพื่อน  ชั้นเข้าใจดี……….. ชั้นจะรอวันที่นายกลับมาเข้มแข็งเหมือนเดิม  และเมื่อวันนั้นมาถึงชั้นจะไม่ยอมแพ้นายแน่ๆ  

    ไซโคร แนชเงยหน้ามามองหน้าเคออส  เพียงคำพูดเท่านี้ก็บรรยายความรู้สึกได้มากกว่าอะไรทั้งสิ้นแล้ว

    และแล้วคำพูดที่ยากจะเปร่งออกจากปากของไซโคร แนชก็ได้ถูกกล่าวออกมา

    “ ขอบใจนะ ”

    “ อืม ไม่เป็นไร อย่าแพ้เขาก็แล้วกัน  ไม่งั้นชั้นไม่ปล่อยนายแน่ !! ”

    “ รับรองได้เลย ”

    ทั้งคู่จับมือกัน  ตอนนี้จิตใจของไซโคร แนชคล้ายหลุดออกจากความเศร้า และความทุกข์ทรมานมาก้าวหนึ่งแล้ว

    “ รีบกลับมาเป็นเจ้าชายคนเดิมเร็วๆละ ”

    ไซโคร แนชไม่ตอบเพียงแต่ผยักหน้า  ครั้งนี้นับว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เขาได้ยินคำว่า เจ้าชาย แล้วไซโคร แนชจะไม่มีท่าทีโมโห หรือทรมานใจ  แต่เขากลับยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

    เสียงปรบมือดังก้องทั่วห้องชมรมอัศวิน  พร้อมกับการประกาศทีมชนะในรอบนี้ของเด็กชายนักประกาศ

     

    แม้เสียงของผู้คนในห้องจะดังสนั่นไปทั่ว  แต่เสียงๆหนึ่ง ซึ่งวารู้สึกว่าดังขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจน  นั่นก็คือ เสียงหัวใจของเขาที่กำลังเต้นขึ้นด้วยความตื่นเต้น  

    เพราะนั่นหมายความว่า รอบต่อไปนี้คือ รอบตัดสินตัวแทนที่จะไปแข่งระหว่างสถาบันแล้ว   และที่สำคัญคำท้าของก็อบที่เขาได้รับไว้นั้น  กำลังจะได้ถูกตัดสินแล้วในอีกไม่กี่นาทีนี้แล้ว………………..

     

                  ___________________________________________

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                    

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×