สรรพคุณมะเขือพวง
ผลดิบของมะเขือพวงใช้เป็นยาแก้ไอ ขับเสมหะ ขับปัสสาวะและช่วยในการย่อยอาหาร
มะเขือพวงมีคุณค่าของสารอาหารดังนี้
โปรตีนร้อยละ 2.8
สารจำพวกแป้งและน้ำตาลร้อยละ 7. 4
เส้นใยร้อยละ 6.1
แคลเซียมร้อยละ 158 และฟอสฟอรัสร้อยละ 110 มิลลิกรัมตามลำดับ
ซึ่งการที่มะเขือพวงมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงจึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการแคลเซียมเพื่อลดภาวะกระดูกพรุนด้วยค่ะ
มะเขือพวงมีสรรพคุณตามตำราแพทย์แผนไทยหลายประการ คือ ช่วยเจริญอาหาร และย่อยอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย บำรุงธาตุ ขับเสมหะ แก้ไอ ช่วยให้ โลหิตหมุนเวียนดี แก้ปวด ฟกช้ำ ปวดกระเพาะ ฝีบวมหนอง อาการบวมอักเสบ ขับปัสสาวะ
มะเขือพวงมีสารจำพวก:
-ไฟโตนิวเทรียนท์ ที่จะช่วยร่างกายในสภาวะขาดแคลนสารอาหาร ให้สามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติ
-สารทอร์โวไซด์ ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเทอรอลในกระแสเลือดได้ และกระตุ้นให้ตับนำคอเลสเทอรอลในเลือดไปใช้ได้มากขึ้น รวมทั้งยับยั้งการดูดซึมกลับของคอเลสเทอรอลในลำไส้ด้วย จึงอาจช่วยป้องกันโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้อีกทางหนึ่ง
-ซาโปนิน ทำให้มะเขือพวงมีฤทธิ์ขับเสมหะ จากการศึกษาพบว่ามะเขือพวงนั้นเป็นพืชที่มีเส้นใยสูงมาก โดยมีเส้นใยมากกว่ามะเขือยาว 3 เท่า และมากกว่ามะเขือเปราะถึง 65 เท่า แม้ว่าจะมีผักหลายชนิดที่มีสารเส้นใยสูง แต่มะเขือพวงก็ยังได้รับสมญานามเป็น ราชาแห่งผักพื้นบ้านในเรื่องของสารเส้นใย เนื่องจากมะเขือพวงมีสารเส้นใยมากที่สุดเมื่อเทียบกับผักพื้นบ้านของไทย เกือบทั้งหมด
-เพกติน เป็นสารที่ละลายน้ำได้ อยุ่ในเส้นใยในมะเขือพวงสารนี้จะสามารถ เปลี่ยนเป็นวุ้นไปเคลือบที่ผิวของลำไส้ ทำให้ลำไส้ดูดซึมแป้งและน้ำตาลที่ย่อยแล้วได้ช้าลง จึงเป็นการช่วยไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเร็วเกินไป ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้อีกด้วย “เพกติน”ในมะเขือพวงนั้น ยังช่วยในการดูดซับ ไขมันส่วนเกินจากอาหารได้
นี่เป็นเหตุผลหนึ่งของบรรพบุรุษของไทย มักจะทำแกงกะทิใส่มะเขือพวง ซึ่งน่าจะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจได้ ผลวิจัยในหนูทดลองที่เป็นโรคเบาหวาน พบว่ามะเขือพวงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของหนูเหล่านั้นค่อยๆลดลง นอกจากนี้ปริมาณอนุมูล อิสระซุปเปอร์ออกไซด์และไนตริกออกไซด์ในเลือดก็ลดลงด้วย อนุมูลอิสระเหล่านี้พบมากในภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูง และเป็นสาเหตุของการเสื่อมของอวัยวะต่างๆในภาวะเบาหวาน เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ ไตพิการ จอตาพิการ ประสาทพิการ โรคที่เท้า และการ เกิดผิดปกติที่อวัยวะต่างๆในร่างกาย
ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า มะเขือพวงช่วยในการลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน และโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกิดจากเบาหวานได้”ผศ.ดร.ไชยวัฒน์กล่าวเตือนด้วยว่า แม้ว่ามะเขือพวงจะมีฤทธิ์ช่วยลดอนุมูลอิสระได้จริง และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูทดลองที่เป็นเบาหวานได้
แต่จากการวิจัยของเรายังค้นพบสารที่อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย หากได้รับในปริมาณที่มาก นั่นคือ ''สารอัลคาลอยด์''ในมะเขือพวง เป็นสารที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทและมีผลต่ออวัยวะอื่นๆ ดังนั้น จึงไม่แนะนำให้บริโภคในปริมาณที่มากเกินไปค่ะ
ในปัจจุบันมีการพัฒนามะเขือพวง โดยนำมาอบแห้งและผ่านกรรมวิธี ลดปริมาณสารอัลคาลอยด์ได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว ในรูปแบบของชามะเขือพวง จากการทดสอบกับอาสาสมัครที่เป็นโรคเบาหวาน โดยให้ดื่มชามะเขือพวงในปริมาณที่เหมาะสมต่อวันพบว่า ผู้ป่วยสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี เมื่อร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค นอกจากนี้ยังช่วยลดภาวะโรคแทรกซ้อนได้ผลเป็นที่น่าพอใจทีเดียว
ลำดับตอนที่ #23
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : -----ทำไมแกงกะทิต้องใส่มะเขือพวง
ที่มา: นสพ.ไทยรัฐ ฉบับที่ 18309 วันเสาร์ ที่ 8 มีนาคม 2551
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น