ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HEALTH TIPS ▶ เคล็ด(ไม่)ลับกับสุขภาพ

    ลำดับตอนที่ #23 : -----ทำไมแกงกะทิต้องใส่มะเขือพวง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 465
      0
      21 มี.ค. 54

    สรรพคุณมะเขือพวง

    ผลดิบของมะเขือพวงใช้เป็นยาแก้ไอ ขับเสมหะ ขับปัสสาวะและช่วยในการย่อยอาหาร
    มะเขือพวงมีคุณค่าของสารอาหารดังนี้
    โปรตีนร้อยละ 2.8
    สารจำพวกแป้งและน้ำตาลร้อยละ 7. 4
    เส้นใยร้อยละ 6.1
    แคลเซียมร้อยละ 158 และฟอสฟอรัสร้อยละ 110 มิลลิกรัมตามลำดับ
    ซึ่งการที่มะเขือพวงมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงจึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการแคลเซียมเพื่อลดภาวะกระดูกพรุนด้วยค่ะ

    มะเขือพวงมีสรรพคุณตามตำราแพทย์แผนไทยหลายประการ คือ ช่วยเจริญอาหาร และย่อยอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย บำรุงธาตุ ขับเสมหะ แก้ไอ ช่วยให้ โลหิตหมุนเวียนดี แก้ปวด ฟกช้ำ ปวดกระเพาะ ฝีบวมหนอง อาการบวมอักเสบ ขับปัสสาวะ

    มะเขือพวงมีสารจำพวก:
    -ไฟโตนิวเทรียนท์ ที่จะช่วยร่างกายในสภาวะขาดแคลนสารอาหาร ให้สามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติ
    -สารทอร์โวไซด์ ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเทอรอลในกระแสเลือดได้ และกระตุ้นให้ตับนำคอเลสเทอรอลในเลือดไปใช้ได้มากขึ้น รวมทั้งยับยั้งการดูดซึมกลับของคอเลสเทอรอลในลำไส้ด้วย จึงอาจช่วยป้องกันโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้อีกทางหนึ่ง
    -ซาโปนิน ทำให้มะเขือพวงมีฤทธิ์ขับเสมหะ จากการศึกษาพบว่ามะเขือพวงนั้นเป็นพืชที่มีเส้นใยสูงมาก โดยมีเส้นใยมากกว่ามะเขือยาว 3 เท่า และมากกว่ามะเขือเปราะถึง 65 เท่า แม้ว่าจะมีผักหลายชนิดที่มีสารเส้นใยสูง แต่มะเขือพวงก็ยังได้รับสมญานามเป็น ราชาแห่งผักพื้นบ้านในเรื่องของสารเส้นใย เนื่องจากมะเขือพวงมีสารเส้นใยมากที่สุดเมื่อเทียบกับผักพื้นบ้านของไทย เกือบทั้งหมด
    -เพกติน เป็นสารที่ละลายน้ำได้ อยุ่ในเส้นใยในมะเขือพวงสารนี้จะสามารถ เปลี่ยนเป็นวุ้นไปเคลือบที่ผิวของลำไส้ ทำให้ลำไส้ดูดซึมแป้งและน้ำตาลที่ย่อยแล้วได้ช้าลง จึงเป็นการช่วยไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเร็วเกินไป ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้อีกด้วย “เพกติน”ในมะเขือพวงนั้น ยังช่วยในการดูดซับ ไขมันส่วนเกินจากอาหารได้

    นี่เป็นเหตุผลหนึ่งของบรรพบุรุษของไทย มักจะทำแกงกะทิใส่มะเขือพวง ซึ่งน่าจะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจได้ ผลวิจัยในหนูทดลองที่เป็นโรคเบาหวาน พบว่ามะเขือพวงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของหนูเหล่านั้นค่อยๆลดลง นอกจากนี้ปริมาณอนุมูล อิสระซุปเปอร์ออกไซด์และไนตริกออกไซด์ในเลือดก็ลดลงด้วย อนุมูลอิสระเหล่านี้พบมากในภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูง และเป็นสาเหตุของการเสื่อมของอวัยวะต่างๆในภาวะเบาหวาน เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ ไตพิการ จอตาพิการ ประสาทพิการ โรคที่เท้า และการ เกิดผิดปกติที่อวัยวะต่างๆในร่างกาย

    ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า มะเขือพวงช่วยในการลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน และโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกิดจากเบาหวานได้”ผศ.ดร.ไชยวัฒน์กล่าวเตือนด้วยว่า แม้ว่ามะเขือพวงจะมีฤทธิ์ช่วยลดอนุมูลอิสระได้จริง และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูทดลองที่เป็นเบาหวานได้

    แต่จากการวิจัยของเรายังค้นพบสารที่อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย หากได้รับในปริมาณที่มาก นั่นคือ ''สารอัลคาลอยด์''ในมะเขือพวง เป็นสารที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทและมีผลต่ออวัยวะอื่นๆ ดังนั้น จึงไม่แนะนำให้บริโภคในปริมาณที่มากเกินไปค่ะ

    ในปัจจุบันมีการพัฒนามะเขือพวง โดยนำมาอบแห้งและผ่านกรรมวิธี ลดปริมาณสารอัลคาลอยด์ได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว ในรูปแบบของชามะเขือพวง จากการทดสอบกับอาสาสมัครที่เป็นโรคเบาหวาน โดยให้ดื่มชามะเขือพวงในปริมาณที่เหมาะสมต่อวันพบว่า ผู้ป่วยสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี เมื่อร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค นอกจากนี้ยังช่วยลดภาวะโรคแทรกซ้อนได้ผลเป็นที่น่าพอใจทีเดียว


    ที่มา: นสพ.ไทยรัฐ ฉบับที่ 18309 วันเสาร์ ที่ 8 มีนาคม 2551


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×