ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BLACKMA!L★วางแผนร้ายให้กลายเป็นรัก [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #8 : ★BlackMail ฉบับที่ 7 : Plan Step Se7en +_+ ? [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.11K
      35
      5 มิ.ย. 54


    BlackMail

              Chapter VII :  Plan Step Se7en  +_+ ?

     

     

                    ผมจำได้ว่าตัวเองนั่งซึม ก้มหน้าอยู่ที่โต๊ะ ในมือกำแก้วเหล้าแน่น ราวกับว่ามันเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ครอบครัวยกให้เป็นมรดก =..= จำไม่ได้จริงๆว่าเหล้าไม่รู้กี่แก้วต่อกี่แก้วแล้วที่ผ่านริมฝีปากผมเข้าไป รู้สึกแค่ว่าตอนนี้ลิ้นเต็มไปด้วยความขมแปร่งๆสลับกับความหวานเลี่ยนอ่อนๆของแอลกอฮอล์ สติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดที่เอาไว้ใช้จดจำเรื่องราวและพาขาตัวเองก้าวไปอ้วก -0-

     

                    แก้วเหล้าเปล่าที่เหลือแต่น้ำแข็งของคนข้างๆถูกวางลงตรงหน้าผม ผมเอื้อมมือไปคว้ามาเพื่อเตรียมชงอย่างรู้งาน

     

     ……สเตปแรกคีบน้ำแข็งใส่เพิ่ม

     

    …….สเตปที่สองรินเหล้า  - -*

     

    ….....สเตปที่สามเทโซดาบวกน้ำ

     

    …….สเตปที่สี่คนให้เข้ากัน
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

     

                    รินเหล้างั้นหรอ? หึหึ  รินก็รินดิ่วะ! แล้วความคิดชั่วๆอันเป็นนิสัยดั้งเดิมของผมก็เริ่มทำงาน -0-

     

                   ผมเหลือบมองคนในโต๊ะว่ามีใครกำลังมองผมอยู่หรือไม่ ก่อนจะยิ้มออกเล็กๆเมื่อไม่ได้มีใครสนใจจับจ้องผมอยู่ ผมเอื้อมมือไปคีบน้ำแข็งใส่แก้วพลางคว้าขวดเหล้ามาเทรวดเดียวครึ่งแก้ว แล้วตามด้วยโซดากับน้ำเปล่าอีกนิดหน่อยจากนั้นใช้ที่คีบน้ำแข็งคนๆอย่างรวดเร็ว โคตรเข้มถึงใจเลยมึง กูขอเอาคืนหน่อยเห๊อะ!!!

     

    จะมอมไอ้อิทเมเจอร์เอ็นวายหรอครับพี่? จะบอกว่าเร็วไปสิบปี! ^[]^

     

                    ผมยื่นแก้วเหล้าคืนไปให้เจ้าของมันซึ่งนั่นก็คือไอ้พี่ปอปกเจ้ากรรมนายเวรของผม พี่แบงค์พยักหน้ารับนิดๆก่อนทำท่าจะยกแก้วขึ้นจรดริมฝีปาก ผมก็ได้แต่แอบยิ้มสะใจ ในใจก็ท่องคำว่า เมาแน่มึงๆ

     

                    ขณะที่ผมกำลังจะได้หัวเราะอย่างสะใจที่มอมเหล้าพี่ปกครองได้อยู่แล้วนั้น จู่ๆพี่แกก็ชะงักมือที่กำลังจะยกแก้วขึ้นดื่มแล้วหันมามองผม สายตาคมๆคู่นั้นจับจ้องผมอยู่สักพักก่อนพี่แกจะยื่นแก้วเหล้าที่โคตรจะเข้มแก้วนั้นตามมา

     

    =[]= !!!

     

    ผมไม่ดื่มเหล้าเข้ม ซ่อมไป

     

                    ผมได้แต่อ้าปากค้าง ไหนมึงลองบอกกูอีกรอบได้มั้ยครับพี่ ว่ามึงมั่นใจแล้วหรอจะให้กูแดกเหล้าแก้วที่โคตรจะเข้มนี่? T^T ราวกับตอบคำถามในใจของผม พี่แบงค์พยักหน้าลงเล็กน้อย  ผมรับแก้วมาจากพี่แบงค์อย่างเสียไม่ได้ ยกขึ้นจิบนิดๆก็รู้สึกถึงความขมฉิบหายที่อยู่ในแก้ว แม่ง!โคตรจะผิดแผน T^T

     

                    แล้วผมทำท่าจะจิบแล้ววางแก้วลง แต่ก็ต้องยกมันกลับขึ้นมาซดอึกใหญ่อย่างเสียมิได้ ก็ไอ้พี่ปอปกเฮงซวยนั่นหน่ะสิครับ กอดอกจ้องผมเขม็งเลย T..T

     

    รีบๆดื่มครับคุณอิทเมเจอร์เอ็นวาย ผมรอแก้วอยู่

     

                    เสียงทุ้มๆเรียบเฉยนั่นเร่งสำทับมาอีกทีทำให้ผมต้องรีบซดแก้วนั้นเข้าไปอย่างช่วยไม่ได้ T..T แม่ง! อะไรจะซวยขนาดนี้วะวันนี้!!!

     

                    ในที่สุดเหล้าโคตรจะเข้มแก้วนั้นก็หมดลงแทบจะพร้อมๆกับสติของผมที่เหลืออยู่อีกเพียงน้อยนิดเท่านั้น ผมจำได้ลางๆว่าพาดหน้าผากของตัวเองไว้กับขอบโต๊ะตรงหน้า ผมที่มั่นใจสุดๆว่าตัวเองคอแข็งมาก รู้สึกงงกับตัวเองนิดๆว่าทำไมวันนี้เมาเร็วขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะผมที่ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่บ่าย ท้องมันว่างก็เลยเมาเร็ว?

     

    อิท ไหวมั้ย? ”

     

                    ผมรู้สึกถึงมือเย็นๆกับเสียงของใครบางคนที่คุ้นเคยวางอยู่ที่ไหล่ หากแต่ในตอนนี้ผมกลับนึกชื่อไม่ออก เสียงเรียกชื่อผมถี่ๆพร้อมกับมือที่เขย่าไหล่เบาๆทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมอง

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

                    แว่บแรกที่สบดวงตากลมโตคู่นั้น ทำให้หัวใจผมแทบหยุดเต้น ริมฝีปากบางช่างฉอเลาะกับใบหน้าเรียวสวยของคนที่ผมพยายามโทรหาตลอดสองวันที่ผ่านมา เธออยู่ตรงหน้าผมแล้ว ผมนิ่งไปคู่ใหญ่ก่อนจะสะบัดหน้าแรงๆสองสามทีไล่ความมึน หากแต่ภาพตรงนั้นก็ยังคงไม่เปลี่ยนไป เธอคนนั้นอยู่ตรงหน้าผมจริงๆแล้วใช่ไหม?

     

    หยก!!!

     

                    ผมแหกปากตะโกนขึ้นสุดเสียงก่อนจะโผเข้ากอดคนตรงหน้า ใบหน้าสวยนั่นยิ้มให้ผมก่อนที่มือเล็กๆคู่นั้นจะพยายามดันตัวผมออกอย่างเขินอาย ผมคว้ามือคู่นั้นมากุมไว้แน่นก่อนจะยกขึ้นจูบเบาๆ ผมเห็นน้องหยกทำหน้าอึ้งก่อนจะยิ้มหวานให้

     

    หยกรู้มั้ย พี่คิดถึงหยกขนาดไหน โทรหาหยกก็ไม่รับ พี่เป็นห่วงมากเลยรู้มั้ยครับ

     

                    ผมพูดสิ่งที่ตัวเองทำและคิดตลอดสองวันที่ผ่านมาออกไปทั้งหมด น้องหยกยังคงยิ้มหวานให้ผมอยู่เช่นนั้น หากแต่มือเล็กๆคู่นั้นกลับพยายามผลักไสผมให้ห่างจากตัว T____________T

     

    หยกเกลียดพี่แล้วหรอครับ พี่ขอโทษนะแต่พี่จริงจังกับหยกจริงๆนะ

     

                    ปากผมก็ยังคงเพ้อพรรณนาถึงความจริงใจของผมต่างๆนาๆ วินาทีนั้นผมคิดแค่ว่าโลกมีผมกับน้องหยกแค่สองคน ผมลืมไปทุกอย่าง ลืมแม้กระทั่งว่า ตัวเองอยู่ในร้านที่มีคนร้อยกว่าคน ลืมแม้กระทั่งว่าตัวเองกินเหล้าอยู่กับเพื่อนแล้วก็พี่ปกครอง

    .

    .

    .

    .

     

                    อย่างสุดท้ายที่ผมจำได้คือ มือของผมที่เคยกุมมือน้องหยกอยู่นั้นค่อยๆเลื่อนไปประครองใบหน้าสวยหวานของเธอ ผมโน้มกายเข้าไปใกล้ๆคนตรงหน้า
    .
    .
    .
    .
    .
    .

     

     ……..แล้วริมฝีปากของผมก็สัมผัสกับริมฝีปากบางๆนุ่มนิ่มของอีกฝ่าย

     

    ราวกับโลกหยุดหมุน ผมรู้สึกถึงแรงกระชากที่คอเสื้อจากด้านหลังอย่างแรง จนผมที่สติสัมปชัญญะเหลืออยู่เพียงน้อยนิดเซถลาตามแรงดึงนั่น ผมจำได้ว่าตัวเองลงไปนอนกองแผ่หลาอยู่บนพื้น

     


    ไอ้เหี้ยอิท มึงหลอนอะไรวะ!!........

     

                    สิ่งสุดท้ายที่ผมรับรู้ก่อนจะวูบไปคือเสียงเรียกอย่างตกใจของคนที่ผมจำได้ว่าน่าจะเป็นไอ้ปริ้นท์และความรู้สึกของมือเย็นๆที่ตบเบาๆอยู่บริเวณใบหน้าทำให้ผมลืมตามอง ผมเห็นใบหน้าของไอ้พวกตัวผู้ที่ไหนก็ไม่รู้ล้อมผมเต็มไปหมด -0-
     

    อ้าว น้องหยกหล่ะ น้องหยกไปไหน งั้นเมื่อกี๊กูจูบใครวะ
    ? =[]=!!!



    น้องหยก?...

     

    ผมจำได้ว่าตัวเองพึมพำเพียงประโยคนั้นแล้วทุกอย่างก็มืดไป =[]= !!!   



    Now   Loading………65%   ^[]^

     

                    ผมเบิกตาโพลงขึ้นพร้อมกับความรู้สึกอยากอาเจียนอย่างรุนแรง ผมยันตัวลุกขึ้นจากอะไรบางอย่างที่คล้ายขั้นบันไดเหล็กเย็นๆ มือผมคว้าราวเหล็กข้างๆพยุงกายขึ้น ก่อนจะพยายามอย่างมากที่จะอาเจียนออกมา หากแต่ในกระเพราะของผมมันกลับว่างเปล่า ไร้แม้กระทั่งอาหารเพียงน้อยนิดในนั้น จึงมีแต่ความทรมานเท่านั้นที่ได้รับกลับมา

     

    เฮ้ย!....กูอยากอ้วก!!!  T_________T

     

                    ทรุดกายลงนั่งที่เดิมอีกครั้งพร้อมความรู้สึกปวดหนึบๆที่ศีรษะ ต้องใช้เวลาและความพยายามอยู่หลายสิบวินาทีเหมือนกันกว่าผมจะเปิดตาขึ้นสำรวจรอบๆตัวได้

     

                    ผมเงยหน้าขึ้นกล้ำกลืนความรู้สึกอยากอาเจียนไว้ในลำคอ พลางสำรวจสิ่งที่อยู่สูงเหนือหัวของตัวเอง คานเหล็กไม่ต่ำกว่าสิบคานรองรับหลังคาโค้งคล้ายโดมของสนามกีฬาขนาดใหญ่ปรากฏสู่สายตา มาแทบจะพร้อมๆกับคำถามแรงที่พุ่งพรวดเข้ามาในหัว

     

    นี่กูอยู่ที่ไหนวะ?

     

                    ผมนิ่งไปอีกครั้งก่อนจะกวาดตาที่แทบจะลืมไปไม่ขึ้นมองไปรอบๆกาย สิ่งที่เห็นคือ รถยุโรปทั้งเก่าทั้งใหม่หลายสิบคันจอดเรียงรายอยู่ตรงหน้า ทั้งเบนซ์ บีเอ็ม วอลโว่ โฟล์ค ออดี้ เปอร์โยต์ เล่นเอาผมอยากได้จนตาลายจะอ้วกอีกรอบ -0- ขณะที่ผมกำลังรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาอยู่ท่ามกลางของแพงทั้งหลายแหล่ก็มีบางอย่างเข้ามาขัดจังหวะ -0-

     

    ปึง !!

     

                    เสียงที่เหมือนประตูปิดดังมาจากบันไดด้านบนที่ผมนั่งหันหลังให้ ตอนนี้ผมไม่มีความสามารถแม้กระทั่งจะเปิดเปลือกตามองอะไรอีกต่อไปแล้ว ความมืดเข้ามาแทนที่ภาพรถยุโรปหรูที่ผมเห็นเมื่อครู่ มีเพียงประสาทหูกับจมูกอย่างเดียวเท่านั้นที่ยังพอใช้การได้

    .

    .

    .

    .

                    . จุดจุดนี้ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในหนังที่เกี่ยวกับฆาตกรโรคจิต ที่ชอบมีฉากฆาตกรมอมเหล้าเหยื่อแล้วพาเหยื่อกลับมาที่บ้านเพื่อชำแหละทีละชิ้น -0-

     

     ถ้าเป็นแบบนั้นจริง งั้นคนที่ต้องตายในเรื่องก็กูสิวะ!? =[]=

     

                    เมื่อคิดได้ดังนั้นอาการจิตตกก็เริ่มคุกคามผมในทันทีซึ่งมันมาพร้อมๆกับที่เสียงฝีเท้าหนักๆของฆาตกร(?)ที่กำลังเดินลงบันไดลงมาใกล้ผมเข้าไปทุกที กลิ่นอ่อนๆของบุหรี่โชยมาปะทะจมูกยิ่งทำให้ผมว้าวุ่นมากขึ้น

     

    พระพุทธเจ้าครับ ถ้าผมจะตายจริงๆ ก็ให้ผมตายด้วยสภาพศพหล่อๆ แล้วก็ขอให้ตำรวจจับฆาตกรได้ด้วยนะครับ สาธุ ’ T[]T

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

                    ผมรู้สึกถึงเสียงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้จนประชิดตัวก่อนที่เจ้าของร่างนั้นจะหยุดอยู่ไม่น่าจะห่างจากผมมากนัก แล้วผมก็รู้สึกถึงมืออุ่นๆของใครที่ตัวเองก็คิดว่าไม่น่าจะรู้จักจับแผ่วเบาที่ข้อมือก่อนจะออกแรงฉุดตัวผมลุกขึ้น แล้วฆาตกรปริศนาในจินตนาการของผมจะยกแขนผมขึ้นพาดบ่าของมัน

     

    จะพากูไปเชือดแล้วสินะ T[]T !!!

     

    เฮ้ย! ปล่อยกู๊!! กูยังไม่อยากต๊าย ~

     

                    ผมที่มีแรงเหลืออีกน้อยนิดจำได้ว่าตัวเองพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะสะบัดตัวให้หลุดออกจากการจับกุมของอีกฝ่ายได้ยินเสียงหัวเราะเยือกเย็นแผ่วเบาดังไม่ห่างจากใบหูมากนัก กลิ่นบุหรี่จางๆยังคงลอยมาปะทะจมูก ความรู้สึกอุ่นที่เอวทำให้ผมเอื้อมมือไปจับไว้แน่น หากแต่พบเพียงฝ่ามือนุ่มนิ่มกับนิ้วเรียวๆที่ประครองร่างของผมไว้ไม่ให้ล้มเท่านั้น

     

    บันไดนะ

     

                    เสียงทุ้มๆที่รู้สึกได้ถึงลมร้อนๆกระซิบข้างหูมาพร้อมกับกลิ่นบุหรี่จางๆ ผมพยายามกะจังหวะก้าวแต่ละขั้นของบันไดเพื่อเดินตามการชักนำของอีกฝ่าย มีหลายครั้งที่กะจังหวะผิด ทำให้สะดุดเกือบหน้าฟาดเหล็กเย็นๆใต้ฝ่าเท้านั่น หากแต่อีกคนก็ยังเร็วกว่าเสมอที่จะช่วยไม่ให้หน้าหล่อๆของผมสัมผัสมัน

     

    มันคือการปลอบใจเหยื่อครั้งสุดท้ายก่อนเชือดหรือเปล่าวะ =[]= !!!

    .

    .

    .

    .

     

                    ผมก้าวขาขึ้นบันไดที่รู้สึกได้ว่าเป็นขั้นสุดท้าย ก่อนจะถูกลากให้เดินต่อไปอีกสองสามก้าว เสียงปึงปังของประตูดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่อากาศอุ่นๆภายในห้องจะปะทะเข้ากับผิวกาย สัมผัสต่อมาที่ผมรู้สึกคือร่างของตัวเองถูกวางลงบนอะไรบางอย่างที่น่าจะเป็นเตียง

     

                     ผมซุกหน้าลงไปกับอะไรเท่าที่มือจะเอื้อมถึงอันน่าจะเป็นหมอน กลิ่นเหมือนแป้งเด็กที่ติดอยู่ที่หมอนนั่นกลับทำให้รู้สึกสงบอย่างผิดคาด ทั้งที่ในใจผมคิดเรื่องฆาตกรโรคจิตไร้สาระมาตลอด รองเท้าผ้าใบคู่โปรดของผมถูกถอดออกด้วยมืออุ่นๆคู่เดิม แต่ผมก็ไม่ได้สนใจมันเท่ากับการที่ตัวเองมาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ เตียงของใครก็ไม่รู้ ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมไม่กล้าที่ปล่อยให้ตัวเองเคลิ้มไปกับเตียงนิ่มๆนี่แล้วหลับ

     

    ปล่อยผมไปเถอะเนื้อผมไม่อร่อยหรอก

     

                    ผมยังคงพึมพำอะไรบางอย่างที่คิดว่าน่าจะเป็นจิตใต้สำนึกต่อไป ทุกครั้งที่ผมพูดอะไรออกไปเสียงหัวเราะแผ่วเบากวนโมโหก็จะดังตามมาหลอกหลอนทุกที จนเมื่อมือที่เอื้อมมาจับแขนผมแผ่วเบาพร้อมกับปลดนาฬิกาดิเซลผมออกทำให้ผมเริ่มต่อต้าน

     

    ของกูแพงนะมึง ไม่ให้ว้อย!! =..=

     

     ผมจำได้ว่าตัวเองเหวี่ยงประเคนแขนและขาสุดแรงไปยังที่ ที่ตัวเองคิดว่าน่าจะเป็นร่างกายของอีกฝ่าย

    .

    .

    .

    .

     

                    หากแต่ผลลัพธ์ที่กลับมาคือข้อมือของผมที่ถูกมือใหญ่ๆคู่นั่นรวบไว้ พร้อมทั้งต้นขาสองข้างที่ถูกอีกฝ่ายใช้ตัวกดทับไว้ด้วยท่าที่ผมนึกออกตอนหลังว่ามันคือไอ้ที่เรียนไปตอนม.ปลาย ที่เค้าเรียกกันว่า คอมมานโด แทคติก (โรงเรียนไหนมันสอนวะ?? -_- : ไรต์เตอร์)

    .

    .

    .

     

                    กลายเป็นว่าตอนนี้อีกฝ่ายคร่อมอยู่เหนือตัวผมโดยปริยาย โดยที่ผมไม่มีโอกาสจะขยับตัวขัดขืนได้อีกต่อไป ><

     

    อยู่นิ่งๆเดี๋ยวก็เสร็จ…^^

     

    =[]= !!!

     

    เสียงกระซิบที่มาพร้อมกับลมหายใจอุ่นๆข้างหูเล่นเอาผมใจหายวาบ

     

     

    แม่ง! ในหนัง ฆาตกรโรคจิตมันปล้ำเหยื่อก่อนฆ่าด้วยป่ะวะ!? T[]T !!

     

                    แล้วผมก็รู้สึกถึงนาฬิกาข้อมือที่ถูกแกะออก ตามมาด้วยมือที่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วดึงมือถือออกมา แต่ไอ้ที่ทำให้ผมเสียววาบมากที่สุดก็ตอนที่เสื้อยืดพอร์ทแลนด์สีขาวของผมถูกมือใหญ่ๆนั่นกระชากถอดออกจากตัว

     

    เฮ้ย!!

     

                    ผมร้องเสียงหลงก่อนจะพยายามดิ้นสุดแรงเกิด แม่ง!! ไม่เอานะเว้ย เกิดมาทั้งทีโดนผู้ชายปล้ำ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น ถึงมันจะฆ่าให้ตายด้วย ยังไงก็นอนตายตาไม่หลับละวะงานนี้ T_________T

    .

    .

    .

    .   

     

                    แต่คนเมาอย่างผมหรือจะไปสู้แรงควายธนูอย่างไอ้โรคจิตนี่ได้ หลังจากที่ผมพยายามต่อสู้ไปได้สักพักจนเริ่มหมดแรงหยุดดิ้น เสื้ออุ่นๆก็ถูกสวมให้ผมทันที ผมใช้แรงที่เหลืออยู่น้อยนิดนั่นพยายามเปิดเปลือกตาขึ้นมองคนตรงหน้าเป็นครั้งสุดท้าย หากแต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นเพียงเงาสลัวๆสีดำ

    .

    .

    .

    .

    .

     

    เสร็จแล้ว ^^…

     

    น้ำเสียงที่แสดงออกถึงความดีใจอย่างชัดเจนนั่นดังขึ้นพร้อมๆกับข้อมือของผมที่เคยถูกจับไว้แน่นถูกปล่อยให้เป็นอิสระ

     

    ฝันดีนะครับอิท

     

                    เสียงทุ้มที่ฟังตอนนี้กลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาดมาพร้อมกับลมหายใจอุ่นๆที่เข้าปะทะบริเวณริมฝีปาก ผมรู้สึกได้ทันทีว่าตอนนี้ใบหน้าของอีกคนอยู่ใกล้ใบหน้าของผมมาก

     

                     ลมหายใจที่ได้กลิ่นเมนทอลอ่อนๆบริเวณริมฝีปากทำให้สติของผมเริ่มเตลิดอีกครั้ง ผมเบี่ยงใบหน้าหลบริมฝีปากของอีกฝ่ายที่อยู่ใกล้ตัวเองเกินกว่าที่ควรจะเป็นนัก ได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบาดังใกล้ๆหู ก่อนที่ผมจะ….

    .

    .

    .

    .

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    รู้สึกถึงสัมผัสนิ่มๆอุ่นๆของริมฝีปากที่จูบลงที่ปลายจมูกของตัวเอง >///<      









    Talk Talk Talk :  ขอโทษด้วยนะคะ >< ที่บอกจะลงดึกดื่นเมื่อคืนแต่ไม่ได้ลง  เอาเป็นว่าลงแล้วค๊า =..=คือว่าที่แต่งอีก65เปอร์ช้า ขอสารภาพว่าเป็นเพราะนึกภาพที่จะบรรยายในฉากไม่ออกค่ะ -0- วันนี้ตอนแต่งเลยต้องเซิร์ชหารูปกันให้วุ่นเลยทีเดียว แต่งไปก็ต้องสลับหน้าต่างดูภาพไป มึนกันไปเลยค๊า ฮ่าๆ ๆ

     

    PS.  คนที่โดนเฮียอิทจูบเป็นใคร? คนที่หิ้วเฮียอิทกลับมาเป็นใคร เฉลยชัวร์ๆในตอนพิเศษตอนหน้าค๊า  ^_________^

     



    beyo ng

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×