ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BLACKMA!L★วางแผนร้ายให้กลายเป็นรัก [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #26 : ★BlackMail ฉบับที่ 17 : Plan Step Se7enteen =M= [100%]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.41K
      7
      28 ก.ย. 54





    BlackMail

              Chapter  XVI  :  Plan  Step  Se7enteen  =M=

     

     

     

    ความเดิมตอนที่แล้ว ผมมารอปิงทำการบ้านที่อ่างแก้วและเดินเล่นรอมันอยู่บริเวณถนนบนสันอ่าง แล้วผมที่จู่ๆก็ได้ยินเสียงสุดสยิวและขาที่โผล่ออกมาจากต้นไม้เลยคิดว่าตัวเองเจอต้นไม้กินคนในตำนานเข้าให้แล้ว เลยเข้าไปทำการยืนยันสมมุติฐานของตนเองด้วยการแอบดูมันซะเลย-O- แต่แล้วผมก็ต้องผิดหวังเมื่อต้นไม้บิ๊กมิลล์ที่วาดฝันไว้กลับกลายเป็นเพียงไอ้เด็กปีหนึ่งหน้าหล่อสองคนกำลังแลกเปลี่ยนเอนไซม์ฟีทเจอริ่งกันอย่างดูดดื่ม ในขณะที่ผมซึ่งกำลังผิดหวังกับการไม่เจอหนองโพสุดๆกำลังจะเดินออกมาจากตรงนั้น หากแต่จู่ๆผมกลับถูกริมฝีปากกับมืออุ่นๆของใครบางคนจู่โจมจากด้านหลัง!!                


    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .


    -_-^


     

                    ก็เป็นแบบที่เล่าไปข้างบนนั่นแหละครับ =_= แต่ขอโทษเถอะ!! ถ้ากูจะว่างนั่งเล่าย้อนความหลังขนาดนั้น ทำไมกูไม่เอาเวลาไปดิ้นรนหาทางรอดจากไอ้บ้าที่ล็อกกูอยู่นี่เล่างือ!! =O=!! ผมจำได้ว่าตัวเองพยายามดิ้นสุดฤทธิ์เพื่อให้หลุดออกจากวงแขนอุ่นๆที่โอบรัดมาจากทางด้านหลังซึ่งยิ่งดิ้นมันก็ยิ่งรัดแน่น เท่านั้นยังไม่พอนะครับ นอกจากจะต้องพยายามดิ้นให้หลุดแล้ว กูยังต้องแยกประสาทหลบไอ้ริมฝีปากที่มันซุกๆไซร้ๆแถวๆซอกคอด้วย TOT!! งื๊ออย่ามาจูบกู๊  ไม่อึ๋ม ไม่มีหน่มน้มเท่าน้องจ๊ะก็อย่ามาใกล้!! =[]=!!


     

                    ผมที่กำลังสติเตลิดเพราะความตื่นตระหนกทำได้เพียงดิ้นกุกกักอยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆท่ามกลางพุ่มไม้พุ่มใกล้ๆกับไอ้เด็กปีหนึ่งสองคนที่มันดูจะไม่สนใจโลกภายนอกเลยว่าพุ่มไม้ข้างๆมึงกำลังจะมีคดีฆ่าข่มขืนเกิดขึ้น(?) T^T อิพวกเด็กผี อิเด็กหน้าด้านผิดศีลธรรม บลาบลาบลา มึงสองตัวช่วยเลิกจูบกันก่อนได้ไหม หันมาดูข้างๆมึงนี่เซ่!! กูจะโดนปล้ำอยู่แล้ว มาช่วยกูก่อนแล้วค่อยไปล้วงๆควักๆกันต่อที่หลังได้ไหมโว้ย!! ปิงงงงช่วยกูด้วยยยย!! TOT!!!


     

    “ นี่เรามาทำแบบเด็กพวกนั้นกันมั่งไหม?? ”


     

    =[]=!!!


     

                    ผมถึงกับอ้าปากค้างกับประโยคล่าสุดของไอ้คนที่ล็อกผมอยู่ด้านหลังที่มันใช้ริมฝีปากอุ่นๆของมันกระซิบแถวๆข้างแก้มของผมพร้อมกับจมูกโด่งๆกดลงบนผิวแก้มของผมอย่างจงใจ T[]T!! งื๊ออย่ามาใช้คำว่าเรากับกู กูไม่ใช่พวกเดียวกับมึ๊งงงงง!! TOT!! ปล่อยกูนะ!! ไม่งั้นกูจะไปฟ้องปวีณา ฮือ… T_T


     

    “ ไม่!! ไม่เอา ปล่อยกู อย่ามายุ่งกับกู๊!! TOT!!!


     

                    ผมจำได้ว่าตัวเองแหกปากอู้อี้ด่าไอ้คนข้างหลังผ่านฝ่ามือของมันที่กดปิดอยู่ที่ริมฝีปากของผมแน่นพร้อมกับดิ้นกุกกักอยู่ในวงแขนที่กอดรัดผมอยู่โดยไม่มีท่าทีจะปล่อยง่ายๆ ได้ยินไอ้โรคจิตนั่นหัวเราะถูกใจกลับมานิดหนึ่งก่อนที่ริมฝีปากของไอ้คนข้างหลังนั่นจะเป่าลมอุ่นๆที่ใบหูของผมแผ่วๆราวกับจะกลั่นแกล้งหากแต่นั่นกลับทำให้ผมหยุดดิ้นและเงียบกริบในเวลาต่อมา


     

                    ผมจำได้ว่าตัวเองหยุดดิ้นพร้อมกับหุบริมฝีปากที่เตรียมจะโวยวายในทันทีที่ลมอุ่นๆที่ถูกเป่ามาเชิงกลั่นแกล้งนั่นกระทบเข้ากับฆานประสาทกลิ่นเมนทอลอ่อนๆพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ถ้าตั้งใจฟังดีๆก็จะรู้ว่าเป็นคนคุ้นเคยนั่นดังก้องขึ้นข้างหู ผมก็ไม่ทราบว่าตัวเองตัดสินใจถูกหรือไม่ที่หยุดดิ้นด้วยเหตุผลเพียงเพราะกลิ่นเมนทอลที่คุ้นชินซึ่งอาจจะเป็นของใครก็ได้  หากแต่ในตอนนี้ผมกลับมั่นใจอย่างยิ่งยวดว่าเจ้าของกลิ่นต้องเป็นคนๆนั้นแน่ๆคนๆนั้นที่รู้สึกคุ้นเคย


     

    ว่าเข้านั่น ความจริงผมก็แค่จำกลิ่นบุหรี่อ่อนๆเจือกลิ่นเมนทอลของดิวิด็อฟเมนทอลกล่องละ720บาทได้ก็เท่านั้นเองแหละครับ -O- ทำมาเป็นพูดว่าคุ้นเคย กูก็พูดให้ตัวเองดูดีเท่านั้นเองแหละว้า -3- ที่ไหนได้พึ่งคิดออกว่า ไม่มีไอ้บ้าที่ไหนสูบบุหรี่กล่องละเกือบพันนี่หรอก นอกจากไอ้บ้าบางคนที่บ้านมันรวยโคตรแม่ -3- ชิ รวยไม่พอเสือกหล่อด้วย ป้อคิงเต๊อะ!! พระเจ้าลำเอียงง่าวส์!! =3=!!


     

    “ อะไร? หยุดดิ้นแล้วหรอ? โดนปล้ำไม่รู้ด้วยนะ


     

                    เสียงทุ้มที่แอ๊บทำเป็นเข้มนั่นกระซิบแผ่วๆที่ริมหูก่อนที่ริมฝีปากนิ่มอุ่นนั่นจะลากลงต่ำไปยังต้นคอพร้อมกับออกแรงกดจูบลงไปแผ่วเบา ณ.วินาทีนั้นผมจำได้ว่าตัวเองหลุดยิ้มออกมาน้อยๆเพราะเสียงที่พยายามเก๊กที่ให้ดูโหดนั่นหากแต่ก็ต้องกลั้นขำไว้ก่อนเพราะพึ่งคิดแผนแก้เผ็ดไอ้บ้าขี้แกล้งนี่ได้ หนอยยยยไอ้บ้าปิง เกือบทำกูสติแตก แบบนี้ไม่ยอมเว้ย แบบนี้ต้องแกล้งคืน!!! -O-!!


     

                    ผมยิ้มกริ่มเมื่อคิดแผนชั่วออกและเริ่มแน่ใจว่าไอ้คนข้างหลังที่กอดผมอยู่มันคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้หล่อเจ้าของรอยยิ้มอบอุ่นที่มาพร้อมเหล็กดัดฟันยางสีน้ำเงินของมันเสมอๆ ผมอาศัยจังหวะที่มันดูจะสนุกกับการแกล้งแอ๊บเป็นไอ้โรคจิตชอบเข้าข้างหลัง(?)ดึงมือของมันที่รัดเอวของผมขึ้นมาที่กระดุมเสื้อช็อปสีกลมท่าก่อนจะพยายามใช้เสียงออดอ้อนที่ตัวเองคิดว่าเซ็กซี่ที่สุดพูดว่า


     

    “ ถ้าจะปล้ำก็ปลดกระดุมเสื้อให้หน่อยสิ ”


     

    “ ห๊ะ!? อิทพูดว่าอะไรนะ?? ”


     

                    ผมแทบหลุดก๊ากออกมาแต่ดีที่กลั้นไว้อยู่เมื่อได้ยินเสียงถามออกมาแบบไม่แน่ใจนั่นของไอ้คนที่นั่งกอดซ้อนอยู่ข้างหลัง ตกใจหล่ะสิปิง คงไม่คิดว่ากูจะมาด้วยแผนเหนือเมฆแบบยั่วกลับแบบนี้หล่ะสิ ก๊าก!! ชิชะ รู้จักกูน้อยไปนะมึงอ่ะ ถ้าไอ้ปริ้นท์แม่งเป็นแองโจลิน่า งั้นกูก็เป็นจูเลียโรเบิร์ตละวะงานนี้!! อุวะฮ่าฮ่าฮ่า!! ^O^!!


     

    “ เมาใบไม้หรือไงเราหน่ะ?? ฮ่ะๆๆ ”


     

                    ไอ้มนุษย์ฉวยโอกาสด้านหลังพูดกลั้วเสียงหัวเราะราวกับเสียง(ที่ผมคิดว่า)เซ็กซี่สุดๆเมื่อครู่เป็นมุขตลกที่ผมปล่อยออกไป มันไม่หัวเราะเปล่านะครับ ยังมีการเอามือมาบีบแก้มผมเล่นแบบที่ช่วงนี้มันชอบทำแล้วก็จะพูดตบท้ายเสมอๆว่าแก้มผมมันป่อง เออๆ จะว่ากูอ้วนก็บอกมาเถอะ ไม่ต้องมาทำเป็นอ้อมค้อมว่ากูแก้มป่องหรอก บู่วววว์ -3- แล้วตลกมากไหมไอ้บ้า -*- มึงจะขำเสียงเซ็กซี่เมื่อกี๊ของกูอีกนานไหมวะ!! ชักขึ้นแล้วนะเว้ย!! =3=!!


     

    “ ไม่ต้องมาขำ -3- ปล่อยเลยไอ้บ้าปิง!!


     

                    ผมจำได้ว่าตัวเองกระชากมืออีกฝ่ายออกจากตัวอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะหันไปทำหน้ามุ่ยใส่ไอ้เจ้าของใบหน้าหล่อที่หัวเราะเป็นตายอยู่ข้างหลัง -*- ถ้าจะหัวเราะสะใจขนาดนั้นนะถอดรองเท้าแล้วเอาฟาดหน้ากูเลยดีกว่าไหม กูว่าสะใจกว่าเห็นๆ!! -3- ทำไมวะ เสียงยั่วของกูเมื่อกี๊ไม่เซ็กซี่ตรงไหน? ไอ้บ้าปิงงี่เง่า!! =3=!!


     

    “ โอ๋ๆ อิทงอนหรอครับ เมื่อกี้ว่าไงนะ ให้ปลดกระดุมให้ใช่ไหม?? ฮ่าๆ ได้ๆ ^^


     

                    คนที่ผมพึ่งหันหน้าไปหานั่นเอื้อมมือเรียวอุ่นนั่นมาบีบแก้มผมอีกครั้งก่อนที่ริมฝีปากบางจะเอ่ยกลั้วหัวเราะมาให้ -3- บู่วววว์ ไอ้บ้าปิง งี่เง่า!! เลิกหัวเราะได้แล้วนะเว้ย!! คิดบ้างอะไรบ้างว่ากูอายง่ะ >///< แต่มันก็ไม่ว่าเปล่านะครับ หลังจากบีบแก้มผมเสร็จ นิ้วเรียวนั่นก็จะปลดกระดุมเสื้อผมตามที่มันพูดจริงๆ หากแต่ดีที่ผมคว้าไว้ทัน หนอยย!! เรื่องเนียนนี่ถนัดตลอด -3-


     

    “ หยุดเลย!! มาแกล้งเราแบบนี้แสดงว่าการบ้านเสร็จแล้วใช่ไหม?? งั้นกลับบ้าน!!


     

                    ผมหันไปกระแทกเสียงใส่มันแบบไม่สบอารมณ์ก่อนจะลุกพรวดขึ้นด้วยอาการเหวี่ยงๆ หากแต่ผมกลับต้องทรุดลงไปนั่งตักพร้อมกับพิงอยู่ที่อกอุ่นนั่นเหมือนเดิมเพราะมือเรียวที่ออกแรงฉุดไม่มากนักให้ผมเสียหลักเซล้มลงไปนั่งจุมปุ๊กอยู่บนตักของคนฉวยโอกาสนั่นเฉกเช่นเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา >///<  


     

    “ นี่รอนานแล้วนะครับที่รักเมื่อไหร่จะพร้อมซักทีหล่ะหืม?? ”


     

    >/////<


     

                    ผมที่กำลังอ้าปากพะงาบๆเตรียมจะด่าไอ้คนที่ดึงตัวเองล้มอยู่แล้วนั้นกลับต้องกลืนคำด่าของตัวเองลงคอเป็นครั้งที่สอง เนื่องมาด้วยคำพูดอ่อนหวานที่ก้มลงกระซิบข้างใบหูพร้อมกับริมฝีปากบางราวกับผู้หญิงที่กดลงบนต้นคอแผ่วเบา >////<  ผมจำได้ว่าตัวเองตะกุกตะกักอยู่ครู่ใหญ่หากแต่กลับไม่มีคำพูดอื่นใดหลุดผ่านออกมาจากริมฝีปาก


     

                    งือเมื่อไหร่จะพร้อมบ้าบออะไรเล่า >///< แล้วไหนจะไอ้คำว่าที่รงที่รักนั่นอีก เดี๋ยวนี้ชักพูดคำนี้บ่อยไปแล้วนะ ก็รู้บ้างอะไรบ้างว่ากูเขินจะแย่อยู่แล้วเนี่ยยยยยยย!! แพ้คำว่ารักโว้ย!! ไม่เคยฟังเพลงหรือไงเล่า!! >..<* แล้วนั่นทำอะไรวะ? อย่าบอกนะว่าปลดกระดุมช็อปกู?? O_O!! เฮ้ย!! อย่านะมึง กูบอกแล้วไง กูไม่พร้อม!! TwT!!


     

    “ ปิงทำอะไร? เฮ้ยอย่านะเว้….!! O_o!!


     

                    ผมที่กำลังจะโวยวายเพราะจู่ๆมันก็ทำเนียนจะปลดกระดุมเสื้อช็อปผมสียดื้อๆหลังจากบอกรักผมเสร็จ มึงนี่!! เนียนตลอดอ๊ะ!! =3=!! หากแต่คำพูดของผมก็ถูกขัดจังหวะเป็นครั้งที่สามของวันเพราะมือเรียวที่กดผมนอนราบลงกับพื้นหญ้านั่นก่อนจะตามมาด้วยริมฝีปากนิ่มที่กดทับลงมาแทบจะทันที >///<….


     

                    ผมรู้สึกถึงมือเรียวที่ลูบไล้อยู่แถวแผ่นอกผ่านเสื้อช็อปของคณะตัวไม่หนาเท่าใดนัก ความรู้สึกต่อมาบอกผมว่ากระดุมเสื้อเชิ้ตสีกรมท่านั่นกำลังถูกทำให้คลายออกทีละเม็ดแบบไม่เร่งร้อนหากแต่กลับเร่งเร้ากระตุ้นอารมณ์ ผมจำได้ดีว่าตัวเองมีความคิดอย่างยิ่งยวดที่จะขัดขืนและขัดขวางทุกการกระทำของร่างสูงตรงหน้า หากแต่ริมฝีปากอุ่นกับลิ้นร้อนที่บดเบียดลงมาโดยไม่เว้นวรรคนั่นกลับดังทุกเรี่ยวแรงให้หายไปราวกับธาตุอากาศ


     

    “ อิทเรารักอิทนะ


     

    >///////////////////////< !!


     

                    ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองต้องขึ้นสีเลือดขึ้นมาแบบกะทันหันแน่ๆ เพราะอยู่ไม่อยู่ริมฝีปากบางราวกับผู้หญิงนั่นก็ถอนจูบออกเสียดื้อๆ หากแต่ริมฝีปากที่เคยใช้จูบนั่นกลับเปลี่ยนหน้าที่เป็นกระซิบเสียงนุ่มข้างใบหูซึ่งมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูจริงจังอบอุ่นบนใบหน้าหล่อของคนตรงหน้า… >///< ถ้าจะพูดขนาดนี้นะ!! จะทำอะไรก็ทำเถอะวะ!! กูยอมหมดเลยเหอะ!! จะจูบ จะล้วง จะควักห่าเหวอะไรก็แล้วแต่ศรัทธาเลย!! >3< (อร๊ายยยยย!! เฮียอิทใจง่าย >_<// โดนตบ )      

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

                    แต่ในขณะที่ผมกำลังคิดว่า เอาก็เอาวะ!!(=[]=!!)และกำลังปล่อยตัวปล่อยใจเตรียมตัวเตรียมใจพลาดท่าเสียที(?)ให้ไอ้หล่อคนตรงหน้าอยู่แล้วนั้น จู่ๆเสียงเอฟเฟ็คการฟีทเจอริ่งของพุ่มไม้ข้างๆที่ผมไม่ได้สนใจฟังมานานแล้วก็เงียบไปเสียดื้อๆ หากแต่กลับมีเสียงทุ้มแหบแปล่งแบบเด็กหนุ่มดังขัดจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มขึ้นได้ใจความว่า


     

    “ พุ่มไม้ข้างๆอ่ะ เสียงดังมาตั้งแต่เมื่อกี๊แล้วนะ!! ถ้าจะซั่มกันก็ไปหาพุ่มใหม่ได้ไหม พุ่มนี้ผมจองแล้ว!!


     

    =[]= <<<<  Mr. It

     


    -_-^ <<<< Mr. Ping


    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

                    ผมกระแทกปิดประตูรถแจ๊สสีขาวทะเบียนเชียงใหม่ของตัวเองก่อนจะถอดรองเท้าแล้วโยนไปวางตรงหน้าไอ้อ้วนโซดาที่นอนขึ้นอืดอยู่แถวๆชั้นวางรองเท้าพอดิบพอดี เห็นไอ้หมาอ้วนนั่นเงยหน้าขึ้นมามองนิดหนึ่งแบบไม่สบอารมณ์ก่อนมันจะหน้าด้านนอนหลับต่อตามเดิมแต่เปลี่ยนท่าเป็นนอนหันก้นให้ผม -3- หนอยยยย!! ไอ้หมาเกย์ ทำเป็นงอนแล้วนอนหันหลังให้กูนะมึง เดี๋ยวพ่อพาไปทัวร์โรงงานลูกชิ้นหมาที่กาฬสินธุ์ซะเลยดีไหมไอ้อ้วน!! -_-^ อย่ามากวนประสาทกูตอนนี้นะไอ้อ้วนโซดากูขอเตือน คนยิ่งอารมณ์เสียๆอยู่นะเว้ย -3-            


     

                    ถามว่าทำไมผมอารมณ์เสียหน่ะหรอครับ?? -_-^ คำตอบง่ายๆคือโมโหไอ้หล่อดัดฟันบางคนนั่นแหละครับ!! บู่วววว์ -3- ก็ดูมันสิครับดูมัน!! มีอย่างที่ไหน!! พอไอ้เด็กต้นไม้กินคนนั่นพูดเสร็จ มันก็รีบลากผมออกมาจากพุ่มไม้นั่นเลยแถมยังหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังแซวเรื่องตอนที่ผมทำเสียงเซ็กซี่ยั่วมันอีก!! =O=!!


     

    หนอย!! หนอย!! หนอยยยยยยยยยยยยย!! ไม่ปล้ำกูยังไม่พอ!!(?) ไอ้บ้าปิงต่อไปนี้ขาอ่อนกูมึงก็อย่าหวังจะได้เห็น!! -3- แล้วเสียงเซ็กซี่แบบนั้นกูไม่ได้ทำเพื่อน่ารักเว้ย!! ยังมีหน้ามาแซวกูว่าทำเสียงได้น่ารักอีก!! -0- กูทำเพื่อให้มันน่ากด!! =O=!! ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยเว้ย!!! ผมก็เลยเหวี่ยงจากที่ตอนแรกจะกินข้าวเย็นกับมัน เลยหนีกลับมาตายรังที่บ้านอย่างที่เห็นนี่แหละ บู่ววววว์ พูดไม่เข้าหูเองนี่หน่าช่วยไม่ได้ -3-


     

    “ อิท! กลับมาพอดีเลย


     

                    ผมที่กำลังอารมณ์เสียเพราะไม่โดนปล้ำ!! เอ้ย!! ผมที่อารมณ์เสียเพราะโดนไอ้บ้าปิงแซวเรื่องเสียงโยนของทุกสิ่งอย่างลงบนโซฟาก่อนจะหันไปมองต้นเสียงเรียกอันคุ้นเคยของไอ้พี่ชายนักศึกษาแพทย์ของผมที่ตะโกนลงมาจากชั้นสองของบ้าน ผมเหล่มองใบหน้าหล่อภายใต้กรอบแว่นนั่นนิดหนึ่งก่อนจะเลิกคิ้วเชิงถามกลับไปว่า มีอะไร เห็นไอ้พี่ชายคนรองของบ้านกวักมือเรียกยิ๊กๆก็อดจะอารมณ์เสียขึ้นมาเสียดื้อๆไม่ได้ เข้าใจไหม คนกำลังอารมณ์ค้าง!! ไม่ดิ่ คนกำลังอารมณ์ไม่ดีหรอก บู่วววว? -3-


     

    “ มีอะไรก็พูด หรือว่าเป็นใบ้วะ? ยึกยักอยู่นั่นแหละ -_-^


     

                    ผมเดินเข้าไปหาเฮียอิ๊กก่อนจะเหวี่ยงใส่มันซะเลยโทษฐานไม่ดูสถานการณ์ว่าน้องชายตัวเองกำลังคันหู(?) -3- เห็นไอ้พี่ชายคนรองของบ้านมันกรอกตานิดหนึ่งอย่างเซ็งๆก่อนจะบุ้ยปากไปที่ระเบียงชั้นสองของบ้านซึ่งเป็นโต๊ะกินกาแฟตอนเช้าของป๋ากับแม่ที่ตั้งอยู่กลางดงกล้วยไม้สวยๆที่กำลังชูช่อผมชะเง้อมองนิดหนึ่งก็เห็นแผ่นหลังกว้างๆของไอ้เด็กที่คาดว่าน่าจะเป็นน้องแฟนเฮียอิ๊กที่นั่งหันหลังอยู่ เออแล้วไงวะอิ๊ก? ก็นั่นน้องเมียมึง แล้วเกี่ยวอะไรกับกู? -_-^


     

    “ แล้วไง?? ”


     

                    ผมย้อนถามไอ้เจ้าของใบหน้าหล่อคล้ายคลึงกับผมที่อยู่ตรงหน้า เห็นไอ้นักศึกษาแพทย์นั่นขมุบขมิบปากด่าจับใจความพอได้ว่ามันด่าผมว่าโง่ก่อนที่มันแกล้งฉีกยิ้มหวานชวนสยองมาใช้ -0- อย่ามาทำเป็นยิ้มหวานได้ไหมได้เหี้ยอิ๊ก กูหลอน!! บรื๋อออ!! มือเรียวของไอ้พี่ชายนั่นตบเข้าที่บ่าของผมเน้นๆสองทีก่อนที่ใบหน้าหล่อที่ฉีกยิ้มอยู่นั่นจะก้มลงมากระซิบแผ่วๆว่า


     

    “ นั่นไงลูกศิษย์มึง รีบไปติวได้แล้วไอ้น้องเวน!! อย่าให้น้องเมียกูรอนาน!!  


     

                    พอมันพูดจบก็กระชากคอเสื้อผมเข้าไปในห้องทันที ผมที่กำลังเหวี่ยงๆมึนๆถึงกับเสียหลักเซตามแรงกระชากจากแขนบางๆของพี่ชายคนรองแต่ดีที่ผมเซลงไปนั่งตรงเก้าอี้ตรงข้ามกับน้องเมียไอ้เวนนักเรียนแพทย์ศาสตร์นั่นพอดี  ผมรีบฉีกยิ้มให้กับไอ้เด็กตรงหน้าแต่แล้วกลับรู้สึกถึงรอยยิ้มของตัวเองที่หุบลงดังฉับพร้อมกับรู้สึกถึงหน้าตัวเองที่ซีดเผือดไร้สีเลือด =[]=!!


     

    “ น้องแม็ท นี่พี่อิทนะจะมาเป็นติวเตอร์ให้เรา รู้จักกันไว้หล่ะ เดี๋ยวพี่อิ๊กพาหมาไปเดินเล่นเดี๋ยวกลับมานะครับ ”


     

                    ผมอ้าปากค้างอยู่ครู่ใหญ่ท่ามกลางเสียงไอ้พี่ชายเฮงซวยนั่นที่พูดรัวอย่างกับปืนกลแล้วมันก็ชิ่งหนีไปเสียดื้อๆ =[]=!! ผมมองใบหน้าหล่อของไอ้เด็กที่สวมเสื้อโอโม่กับแน็คไทสีม่วงเข้าคู่กันอันบ่งบอกว่าเป็นน้องปีหนึ่งคณะของผม  ผมเห็นไอ้เด็กนั่นก็ดูตกใจไม่น้อยไปกว่าผมเท่าใดนัก อาจจะเป็นเพราะมันกับผมพึ่งเจอกันไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วนี่เอง


     

                    ผมจำได้ว่าตัวเองอึ้งอยู่กับใบหน้าหล่อกับคิ้วเข้มๆและจมูกโด่งสันของคนตรงหน้าอยู่พักใหญ่ ที่อึ้งนี่ไม่ใช่เพราะมันหล่อนะครับ แต่เพราะว่ามันเป็นคนที่ไม่คาดคิดว่าจะเป็นคนใกล้ตัวขนาดนี้  ก็จะอะไรเสียอีกหล่ะครับ ก็ไอ้เด็กที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้มันเป็นคนเดียวกับ….




     

     

    “ เฮ้ย!! ต้นไม้กินคน!! =[]=!!

     

     








    Talk Talk Talk :
    ตอนใหม่มาเร็วกว่าที่คิด พอดีวันนี้อารมณ์ดี สมองลื่นดี เลยแถบวกไหลไปได้เรื่อยๆ อุวะฮ่าๆ ก็เฉลยกันแล้วเนอะว่าเฮียอิทโดนใครเข้าข้างหลัง(?) เอิ๊กๆ XD แล้วตอนนี้ก็เปิดตัวสามีเด็กของเฮียอิทเป็นที่เรียบร้อย แต่ยังโผล่ไม่เยอะแฮะ เอาเป็นว่าอีกเดี๋ยวน้องแกจะแปลงร่างเป็นจอมมาร(ความรัก)ของจริงลยทีเดียว ฮ่าๆ (โดนขวดบาวแดงปา >_<)


     

    Ps. ตอนหน้าคิดไว้ให้เป็นของคู่หลัก แต่ตอนถัดไปกะให้เป็นแบงค์มิว ไม่ได้ลีลานะคะ แต่เป็นพวกชอบทำอะไรตามใจตัวเอง ^^

    Ps. อย่าคาดหวังว่าจีจะลงช้าลงเร็วเลยเนอะ จีเป็นพวกทำอะไรตามอารมณ์ ใครไม่ชอบก็ขอโทษนะคะ ^_______^

    Ps. พีเอสนี้มิสเตอร์อิทฝากให้มิสเตอร์ปิง ใจความว่า ปล้ำไม่โมโห แต่โมโหที่ไม่ปล้ำ ก๊ากกกกกกกก!! XD





    beyo ng


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×