คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : ★BlackMail Top Secret : Lollipop !? [Bank*Mu] [100%]
BlackMail ★
S PECAIL CHAPTER : Lollipop !? [ BANK*MUNICH ]
“ ไม่ดี!! ไปคิดมาใหม่ โครงการอะไรของมึงเนี่ย นิตยสารคณะ? มึงคิดว่าตัวเองเรียนแมสคอมหรือไง? ”
ผมจำได้ว่าตัวเองที่หงุดหงิดสุดติ่งตวาดใส่น้องปีสองที่มาเสนอโครงการซึ่งจะต้องนำเข้าที่ประชุมงบประมาณในเย็นวันนี้ -O- ผมก็รู้ว่าไประบายอารมณ์ใส่คนอื่นมันไม่ดี แต่กูหงุดหงิดนี่ครับช่วยไม่ได้ =O= ไอ้เด็กปีสองโชคร้ายคนนั้นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ก่อนจะกวาดแฟ้มรายงานบนโต๊ะที่มันถือมาออกไปยกกอง
(*หมายเหตุ แมสคอม=คณะสื่อสารมวลชน เป็นคณะที่ทำหนังสือพิมพ์ของมหา’ลัย ที่ชื่อว่าหนังสือพิมพ์อ่างแก้ว)
“ เป็นเหี้ยอะไรครับเพื่อนมิว? กูเห็นมึงหงุดหงิดมาตั้งแต่วันจันทร์ยันวันนี้วันพฤหัสแล้วนะเว้ย -O- ”
เสียงกวนประสาทของไอ้ขลุ่ยเพื่อนสนิทของผมดังขึ้นพร้อมใบหน้าหล่อๆของมันที่กำลังเสนอหน้าเข้ามาสวนทางกับน้องโชคร้ายคนที่โดนตวาดไล่ออกไป มันเลิกคิ้วถามผมด้วยน้ำเสียงกวนตีนเป็นปรกติที่มันชอบใช้ ก่อนที่ร่างสูงๆเกือบร้อยเก้าสิบของมันจะนั่งลงบนโต๊ะทำงานตรงหน้าผมแล้วโยนแฟ้มสีดำไม่หนามากนักลงบนโต๊ะ
“ เรื่องของกู! แล้วมึงอ่ะ ไหนแฟ้มงบที่จะให้กูเอาไปประชุมวันนี้?? ”
ผมคว้าแฟ้มที่มันโยนลงมาแต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากหาเรื่องมันทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าแฟ้มที่มันโยนลงมานั่นแหละคือแฟ้มที่ผมต้องการ -_- ช่วยไม่ได้นี่ครับที่ผมจะเหวี่ยงแหลก ก็ผมยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เลยว่าไอ้คำถามงี่เง่าเฮงซวยซังกะบ๊วยห่วยแตกที่ไอ้ปอปกมันถามไว้นั่นมันมีคำตอบว่ายังไง
‘ เกลียดฉันมากเลยหรอมิวนิก? ’
นี่ก็ห้าวันแล้วที่ผมยังไม่เห็นแม้แต่เสี้ยวหน้ากวนอวัยวะเบื้องล่างของมันตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่มันลากผมไปโรบินสันด้วย ขนาดวิชาที่เมเจอร์ผมเรียนตรงกับเมเจอร์ของมัน มันยังไม่โผล่หน้ามาเรียนเลยด้วยซ้ำ นี่มึงหลบหน้ากู?? หรือว่ามึงไม่อยากเห็นหน้ากู? โว้ยยยยยยยยยย!! เหี้ยอะไรวะ ไอ้มิวหงุดหงิดเว้ย!! แล้วทำไมกูต้องมาสนใจคนงี่เง่าแบบมึงด้วยเนี่ยไอ้เหี้ยแบงค์!! >O<!!
“ เป็นเหี้ยไรมากว๊ามิว? กับกูยังกัดไม่เว้น หรือมึงขาดเอนไซม์ ให้กูถ่ายทอดให้ทางปากไหม? >3< ”
“ อยากปากแตกหรือคิ้วแตกวะไอ้เหี้ยขลุ่ย? -_- ”
“ เค้าอยากใจแตกอ่ามิวนี่ >O< ”
น้ำเสียงกวนๆทีเล่นทีจริงของไอ้เพื่อนสนิทดังขึ้นพร้อมใบหน้าหล่อนั่นที่ก้มลงมาหาผมที่นั่งทำหน้ายุ่งอยู่บนเก้าอี้พิงของตัวเอง ผมผลักหน้าหล่อๆที่ยื่นเข้ามาแกล้งของไอ้ขลุ่ยออกห่างจากใบหน้าก่อนจะเพิ่งสังเกตเห็นว่าเพื่อนสนิทของผม มันไปเจาะหูเพิ่มมาอีกสองรู -0- แค่สามรูนั่นยังไม่พออีกหรอวะเพื่อน ทำไมมึงไม่ระเบิดหูทิ้งไปให้รู้แล้วรู้รอดเลยวะแสส =O=
“ พ่องมึงเหอะ!! อย่ามากวนตีนนะเว้ย กูกำลังหงุดหงิด!! ”
ผมว่าพร้อมหยิบแฟ้มเปล่าๆบนโต๊ะฟาดหลังมันไปโครมใหญ่ ไอ้ขลุ่ยหน้านิ่วก่อนจะลุกขึ้นยืน มันเบ้ปากใส่ผมก่อนจะยกมือขึ้นลูบหลังตรงที่มันถูกผมฟาด เจ็บหล่ะสิมึง =_= สมน้ำหน้าแม่ง อยากกวนตีนคนอย่างมิวนักดีนัก ก็รู้บ้างอะไรบ้าง ว่ากูอารมณ์ไม่ดีไม่ควรจะมากระตุกหนวดเสือ =O=
“ เออๆ แหย่นิดแหย่หน่อยต้องลงไม้ลงมือเลยหรอวะ
. ”
“ อ่ะนี่
มีคนเค้าฝากมาให้มึง แดกซะจะได้หายบ้า =O= ”
ขลุ่ยบ่นๆก่อนจะล้วงกระเป๋าแล้วโยนอะไรบางอย่างส่งมาให้ ผมยกมือขึ้นรับตามสัญชาตญาณก่อนจะแบมือออกดู ปรากฏว่าที่ไอ้ขลุ่ยโยนมาให้คืออมยิ้ม ผมขมวดคิ้วนิดหนึ่งเมื่อเห็นจุ๊บปาจุ๊บรสแตงโมสีเขียวๆอมชมพูที่ไอ้ขลุ่ยโยนมาให้ ใครมันฝากมาให้กูวะ? หรือว่าจะเป็นสาวๆคณะศึกษาที่อยู่ข้างๆ หุหุ ป๊อปปูล่ากับเค้าเหมือนกันเนอะกูเนี่ย >O<
“ สาวที่ไหนฝากมาอ่ะ? ”
ผมพูดยิ้มๆพร้อมหมุนก้านอมยิ้มเล่นด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นมานิดๆแบบไม่ทราบสาเหตุ เพราะแบบนี้รึเปล่านะ ไอ้ของหวานที่เต็มไปด้วยน้ำตาลนี่มันถึงเรียกว่าอมยิ้ม เพราะขนาดยังไม่อมยังยิ้มเลย ฮ่าๆ ^O^
“ ขอโทษนะมิว พอดีคนที่ฝากมา มันไม่ใช่ผู้หญิงหว่ะ
ฮัดช่ะ!! สวรรค์ล่มอ่าดิ่มึง ฮ่าๆ
”
“หน้าตุ๊ดแดกแบบมึงนี่ สาวที่ไหนเค้าจะเอาทำสามีวะ มันต้องหน้าแมนๆหล่อๆแบบกูนี่ ลีลาเด็ดนักแล >3< ”
เสียงไอ้ขลุ่ยว่าไปเรื่อยเปื่อยดังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาผมอยู่นานสองนาน ตอนนี้ผมไม่แม้แต่จะฟังเสียงกวนประสาทที่มาพร้อมคำพูดถากถางของไอ้เพื่อนสนิทเลย รู้สึกเหมือนเคยเห็นไอ้อมยิ้มรสแตงโมนี่ที่ไหนสักที่แต่ก็นึกไม่ออก -_- (เคยเห็นในเซเว่นไงเฮียมิว//โดนตบ ><) ผมนั่งมองอมยิ้มในมือที่ตัวเองกำลังหมุนเล่นพลางครุ่นคิดว่าเคยเห็นมันที่ไหนกันแน่ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังนึกไม่ออกเลยต้องเอ่ยปากถามไอ้ขลุ่ยในที่สุด
“ ใครฝากมากันแน่วะขลุ่ย? ”
“ เด็กปีหนึ่งเอามาให้กู น้องมันบอกว่ามีคนฝากมาอีกทีนึง กูถามแล้วนะแต่มันไม่ยอมบอกหว่ะว่าใคร ”
ไอ้เพื่อนของผมมันพูดนิ่งๆพลางผูกเน็กไทสีม่วงสัญลักษณ์ของมหา’ลัยให้เข้าที่เข้าทาง เตรียมพร้อมเข้าประชุมงบประมาณในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ผมมองตามมือเรียวของไอ้ขลุ่ยที่ยกไอโฟนของมันขึ้นมาใช้แทนกระจกแล้วเซ็ตทรงผมตั้งๆแบบนักเลงที่มันภูมิใจนักหนาว่าเข้ากับหน้ามันที่สุด กูก็ว่าเข้ากับหน้ามึงดีนะขลุ่ย
เข้าที่ว่านี่คือ
‘ เข้าไปตายในดงตีนซะเถอะ ’ อ่านะ -_-
“ ไอ้เหี้ยมิว ผูกเน็กไทเลยเร็วๆ เข้าประชุมสายเดี๋ยวพี่รหัสมึงจะเล่นงานเอานะเว้ย!! ”
“ อืมๆ ”
ผมตอบรับคำบ่นของไอ้เลขาเชียร์นั่นเบาๆก่อนจะหยิบเน็กไทที่มันส่งมาให้ขึ้นผูกพร้อมทั้งครุ่นคิดว่าเคยเห็นไอ้อมยิ้มห่อสีเขียวอมชมพูนี่ที่ไหน นั่นสินะ กูเคยเห็นนี่หน่าว่ามันมีรวมกันเยอะแยะเลย ว่าแต่เคยเห็นที่ไหนหล่ะมิวนิก?? ลองนึกดูดีๆสิ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ ครับ เอาเป็นว่าข้อสรุปของงบประมาณคงได้ตัวเลขที่แน่นอนอีกทีประมาณอาทิตย์หน้า งั้นตอนนี้ ปิดประชุมครับ ”
เสียงทุ้มทรงอำนาจของคนที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะติดกับที่นั่งของผมดังขึ้นพร้อมกับเสียงแฟ้มที่ปิดลงทำให้ผมหลุดออกมาจากห้วงความคิดของตัวเอง ผมจำได้ว่าคำพูดเกี่ยวกับเงินๆทองๆที่แต่ละฝ่ายพูดมาไม่ได้เข้าไปในรอยหยักในสมองของผมแม้แต่น้อย
และขณะที่ผมซึ่งมึนๆเบลอๆได้ที่ กำลังจะเดินตามทุกคนออกไปจากห้องประชุมอยู่แล้วนั้นก็อดมองไปที่เก้าอี้ของใครบางคนที่ว่างเปล่ามาตั้งแต่เริ่มประชุมไม่ได้ เก้าอี้ตรงกันข้ามของประธานฝ่ายเชียร์ปีสามคือเก้าอี้ของประธานฝ่ายปกครองในชั้นปีเดียวกัน หากแต่วันนี้มันกลับว่างเปล่าต่างไปจากทุกทีเพราะเจ้าของตำแหน่งนั่นมันขาดประชุมสำคัญเสียดื้อๆ มีเพียงเลขาฝ่ายปกครองเท่านั้นที่มาในวันนี้
“ มิว อย่าพึ่งไป ”
ผมที่กำลังจะเดินออกจากห้องชะงักเพราะเสียงเรียกของผู้ทรงอำนาจที่พึ่งกล่าวปิดประชุมไปเมื่อครู่
ผมหันไปเลิกคิ้วเชิงถามให้เจ้าของใบหน้าหล่อซึ่งเป็นพี่รหัสของตัวเองก่อนจะถูกกวักมือเรียกให้เข้าไปหา
“ ครับพี่บาส? มีอะไรหรอครับพี่? ”
“ เออ
เสาร์อาทิตย์นี้มึงว่างไหม? ”
มือเรียวนั่นปิดแฟ้มเอกสารลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผมแล้วถามออกมาเสียงนิ่ง ผมพยักหน้าลงแบบงงๆก่อนจะยื่นมือไปรับแฟ้มเอกสารที่พี่รหัสของตัวเองยื่นมาให้ช่วยถือ
“ งั้นวานหน่อยเหอะวะมิว คือกูอ่ะต้องไปคุมค่ายอาสาวันเสาร์อาทิตย์นี้เว้ย
”
เสียงทุ้มนั่นเอ่ยเนิบๆก่อนจะเดินนำผมออกจากห้องประชุมมาตามทางเดินของระเบียงชั้นสี่ตึกหน้าของคณะ ผมพยักหน้าลงเชิงรับทราบก่อนจะรอฟังประโยคต่อไปที่ริมฝีปากได้รูปบนใบหน้าหล่อของพี่รหัสที่จะเอ่ยเอื้อนต่อไปอย่างตั้งใจ เพราะว่าผู้ชายคนนี้ เวลาอยู่ในเวลางานช่างจริงจังต่างกับขี้เมาที่ชอบนัดเลี้ยงสายรหัสแล้วพาน้องๆไปมอมเหล้า -0-
“ มึงก็รู้ใช่ไหมว่ากูทำงานวันเสาร์อาทิตย์? กูเลยอยากวานให้มึงช่วยไปคุมแทนกูที ”
ผมพนักหน้าเนิบอีกครั้งรับทราบก่อนจะนิ่งคิดไปนิดหนึ่งก็นึกออกว่าพี่รหัสผมต้องทำงานให้ที่ฝึกงานเก่าเพราะเค้าจะรับพี่บาสแกเข้าทำงานทันทีหลังเรียนจบ แต่ระหว่างที่ยังเรียนปีสี่อยู่ ทางนายจ้างเค้าก็ขอให้ไปทำพาร์ทไทม์ไปก่อน พูดง่ายๆก็คือมีบริษัทมาจองตัวไว้ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบกันเลยทีเดียว จะเก่งไปไหนผู้ชายคนนี้ -0-
“ ว่างัยมิว ไปคุมแทนกูได้รึเปล่า? ให้ขลุ่ยไปเป็นเพื่อนด้วยก็ได้นะ ค่าลงละเบียนค่าย กูจ่ายให้เอง ”
“ ได้พี่บาส แต่ให้มิวคุมคนเดียวเลยหรอ จะไหวไหมเนี่ย -0- ”
แล้วผมก็เผลอตอบรับคำขอร้องแกมบังคับของพี่รหัสตัวเองอย่างว่าง่าย ก็ดีเหมือนกัน หาอะไรทำจะได้เลิกบ้าแบบที่ไอ้ขลุ่ยมันชอบหาว่าช่วงนี้วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าของผมหมด -*- ผมเห็นพี่รหัสผมอ้ำอึ้งอะไรไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เจ้าของใบหน้าหล่อนั่นเหมือนจะตัดสินใจได้ว่าต้องพูดออกมาในที่สุด
“ ความจริงก็มีคนอื่นไปคุมด้วย
. ”
เสียงทุ้มทรงอำนาจที่มักจะเด็ดขาดทุกคำพูดนั่นเอ่ยขึ้นเสียงเบาผิดไปจากทุกที ผมเลิกคิ้วนิดหนึ่งรอประโยคถัดไปจากปฏิกิริยาแปลกๆของพี่บาสก็ยิ่งทำให้อยากรู้เข้าไปใหญ่ ว่าอะไรที่คนนี้จะพูดออกมาด้วยท่าทีผิดปรกติขาดความมั่นใจนั่น
“ มีน้องดิวที่เป็นปอปกปีสองกับไอ้แบงค์อ่ะ
.”
" . . . . . . . . . . . . . "
“ มันเป็นค่ายแรกของเทอม ปอปกทุกชั้นปีเลยต้องไป กูเลยต้องให้มึงไปแทนนี่ไง ”
แล้วผมก็รู้แล้วว่าทำไมผู้ชายที่ดูเด็ดขาดตรงหน้าถึงลังเลที่จะบอกเรื่องนี้กับผม คงเป็นเพราะหนึ่งในรายชื่อของผู้ร่วมงานที่อาจจะทำให้ผมปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ทันที
ผมนิ่งไปนิดหนึ่งก่อนจะเอ่ยทวนชื่อของอีกฝ่ายที่ตัวเองเคยบอกว่าเกลียดนักเกลียดหนาออกไปอย่างเชื่องช้า
“ ไอ้แบงค์ก็ไปด้วยหรอ?? ”
ผมถามออกไปช้าๆพร้อมกับสมองที่ดูจะกำลังหมุนจนเบลอได้ที่ ถ้าเป็นทุกทีผมคงจะแหกปากใส่หน้าพี่รหัสตัวเองไปแล้วว่าผมไม่มีทางไปใช้อากาศหายใจร่วมกับไอ้บ้าปอปกปีสามนั่นแน่ๆ แต่ตอนนี้ในสมองของผมกลับเริ่มค่อยหมุนๆ
หมุนช้าๆและเริ่มคิดแปลกแยกออกไปกว่าทุกทีที่เคยเป็น
“ เฮ้ย มันไปก็ช่างหัวมันดิ่ มึงไม่ต้องไปยุ่งกับมันก็ได้ ต่างคนต่างอยู่ นะไปแทนกูทีน้องรัก ”
พี่รหัสผมหน้าเครียดพร้อมกับหว่านล้อมมาอีกละลอก พี่บาสแกคงจะกลัวผมได้ยินชื่อไอ้แบงค์แล้วจะเหวี่ยงจะหงุดหงุดโวยวายเหมือนที่ชอบเป็นในเวลาปรกติ
แต่ตอนนี้
ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองเริ่มไม่ปรกติ และผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่และคาดหวังอะไรอยู่กันแน่ เพราะคำตอบที่ผมตอบกับพี่รหัสตัวเองไป คือคำว่า
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ ได้ครับพี่บาส
. เดี๋ยวมิวไปค่ายอาสานั่นแทนพี่บาสให้เอง! ”
Talk Talk Talk : แหม่!! ช่วงนี้คู่นี้มาบ่อย ไม่รู้ว่าจะออกหัวออกก้อยยังไงเหมือนกันนะคะคู่นี้ แต่จีอยากจะบอกว่า เวลาแต่งตอนที่พี่ขลุ่ยออก จีสนุกมาก ฮ่าๆๆ ชอบผู้ชายชื่อนี้จริงๆ ตอนนี้กำลังคลั่งการแต่งคู่แบงค์มิว คู่อื่นๆตามมาแน่นอนจ้า รออีกแปปนะ ^O^
Ps. จงเสพดราม่ากับคู่นี้กันต่อไป เอิ๊กๆ >3<
beyo ng
ความคิดเห็น